แนวคิดการลงทุนที่ดีที่สุดของคุณคืออะไร?ขั้นตอนที่ 1 - แบ่งปันแนวคิดการลงทุนที่ดีที่สุดของคุณในส่วนความคิดเห็นด้านล่าง
ขั้นตอนที่ 2 - อธิบายแนวคิดของคุณโดยละเอียดด้วยข้อเท็จจริงหรือแผนภูมิ คุณยังสามารถเชื่อมโยงไปยังแนวคิดที่คุณได้เผยแพร่จากบัญชี TradingView ของคุณ
ขั้นตอนที่ 3 - เราจะมอบเหรียญ TradingView จำนวน 100 เหรียญให้กับการนำเสนอที่ดีที่สุด และ 200 เหรียญ TradingView ให้กับผู้ที่มียอดไลค์มากที่สุด
เราหวังว่าทุกคนจะสนุกกับกิจกรรมนี้และเราสามารถทำได้มากขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อย่าลืมใช้ความคิดเห็นด้านล่างเพื่อพบปะกับผู้อื่น สนทนาเกี่ยวกับตลาด และค้นหาแนวคิดใหม่ๆ
ป.ล.
สิ่งสำคัญคือเราทุกคนสนับสนุนแนวคิดที่น่าสนใจที่สุด ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปิดเผยแผนการลงทุนอย่างเปิดเผย เนื่องจากบางครั้งอาจไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ แต่นั่นเป็นเหตุผลที่เราต้องสนับสนุนผู้ที่ทำ การแบ่งปันแนวคิดช่วยให้ผู้อื่นเรียนรู้ ค้นหาโอกาสใหม่ๆ และให้ข้อเสนอแนะ นอกจากนี้ผู้ที่กล้าแบ่งปันก็มีสกินในเกม
เรารอคอยที่จะอ่านทุกการนำเสนอ! 📈
ไอเดียชุมชน
Basic QM101 (Quasimodo Pattern) #อีสานเทรดเดอร์Quasimodo คือ
รูปแบบ Quasimodo เรียกอีกอย่างว่า OVER & UNDER Pattern เป็นรูปแบบการกลับตัวที่เกิดขึ้นหลังจากที่ราคามีแนวโน้มที่ชัดเจน เมื่อราคาทำจุดสูงสูุดใหม่และจุดต่ำสุดใหม่ที่ยกสูงขึ้นในแนวโน้มขาขึ้น หรือราคาทำจุดต่ำสูุดใหม่และจุดสูงสุดใหม่ที่ลดระดับลงในแนวโน้มขาลง มองเผินๆคลายๆกับรูปแบบ Head and Shoulder แต่ได้รวมเอาเทคนิของทั้งหมดของ Price Action เข้าไว้ด้วยกันใน QM ขั้นสูง ต่อไปนี้เป็นรูปแบบพิ้นฐานของ QM
ดังในภาพ สังเกตการเคลื่อนไหวของราคา
1. ราคาเพิ่มขึ้นจาก 1 และลดลงทำให้เกิดแนวต้านที่ 2 (ไหล่ซ้าย)
2. จากนั้นที่หมายเลข 3 ราคาจะลดลงเพื่อให้เกิด Low และเพิ่มขึ้นอีกครั้งเหนือแนวต้านที่หมายเลข 2 ทำให้เกิด Higher High ขึ้นที่อันดับ 4
3. จากนั้นราคาจะลดลงสู่ Break 3 และทำให้ Lower Low ที่ 5
4. จากนั้นราคาก็ขึ้นอีกครั้งโดยมองหาหมายเลข 6
5. ที่นี่เราจะเราจะว่างจุด Sell ที่หมายเลข 6…
6. หมายเลข 6 มักจะเป็นระดับเดียวกับหมายเลข 2..
7.ในทางกลับกันในรูปแบบขาลงก็จะทำแบบเดี่ยวกัน
การใช้ Linear Regression แชนแนลLinear Regression แชนแนล เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการระบุระดับราคาที่เป็นไปได้ของการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตโดยการสร้างกราฟการแจกแจงแบบปกติของแนวโน้ม
เมื่อใช้เครื่องมือ Regression Trend (อยู่ในแผงรูปวาดภายใต้กลุ่ม "Trend Line Tools") จะมีการเลือกจุดสองจุดบนแนวโน้มโดยทั่วไปจะอยู่ที่จุดเริ่มต้นของแนวโน้มและจุดสิ้นสุดของแนวโน้ม
เมื่อเลือกจุดสองจุดบนแผนภูมิการแจกแจงปกติของชุดข้อมูลจะคำนวณระหว่างจุดที่เลือกสองจุดและแสดงในรูปแบบของ linear regression แชนแนล
เส้นกึ่งกลางในแชนแนลนี้คือเส้น Linear Regression หรือค่าเฉลี่ย และเส้นบนและล่างคือค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานบนและล่างจากค่าเฉลี่ยตามที่กำหนดไว้ในการตั้งค่าของเครื่องมือ (ค่าเริ่มต้นคือ +2 และ -2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานจากค่าเฉลี่ย)
ความสัมพันธ์ของความสัมพันธ์เชิงเส้นนี้จะแสดงเป็นค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน หรือค่า Pearson’s R ซึ่งสามารถแสดงหรือซ่อนบนแผนภูมิได้โดยเลือกจากเมนูรูปแบบเครื่องมือ
Pearson’s R แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของความสัมพันธ์และทิศทางของมันโดยค่าที่เคลื่อนที่ระหว่าง -1 ถึง 1 เมื่อ Pearson’s R เคลื่อนที่ห่างจากศูนย์มากขึ้น ความแข็งแกร่งของความสัมพันธ์เชิงเส้นระหว่างราคาและเวลาจะเพิ่มขึ้น เมื่อใช้เครื่องมือ Regression Trend Pearson’s R จะถูกกำหนดเป็นค่าสัมบูรณ์ (บวก) เสมอ แต่สามารถระบุทิศทางของแนวโน้มได้ด้วยสายตา
การกลับตัวเข้าหาค่าเฉลี่ย (Mean)
เมื่อ Regression trend มีความสัมพันธ์กันสูงนี่เป็นผลมาจากความสอดคล้องของการเคลื่อนไหวของราคาที่วางตามค่าเฉลี่ย (เส้นกึ่งกลาง) โดยมีจุดน้อยกว่าที่เคลื่อนที่สูงกว่าและต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยไปยังระดับค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานบนและล่าง
วิธีหนึ่งในการเทรดโดยใช้ Linear regression แชนแนลคือการเทรดการเคลื่อนไหวของราคาเมื่อมันเคลื่อนตัวออกจาก และกลับไปที่ค่าเฉลี่ย
เมื่อใช้เครื่องมือนี้ สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตคือ แชนแนลที่มีแท่งกราฟจำนวนแท่งมากกว่าและมีความสัมพันธ์กันสูง มีแนวโน้มที่ราคาจะดำเนินต่อไปในแนวโน้มนั้นมากกว่ากราฟที่มีแท่งเทียนเพียงไม่กี่แท่งและมีความสัมพันธ์กันสูง
ควรพิจารณาความยาวนานของแนวโน้มเมื่อทำการเทรดแชนแนลเหล่านี้
ด้วยเครื่องมือ Regression Trend คุณสามารถเริ่มใช้การวิเคราะห์ทางสถิติในกลยุทธ์การเทรดของคุณได้ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ปุ่ม!
#Elliottwave Combination รูปแบบชุดค่าผสม by @ฮีสานเทรดเดอร์ Double and Triple Three
Elliott เรียกว่า “การแก้ไขแบบผสมออกด้านข้าง” ในขณะที่การแก้ไข ชุดแรกเป็น Zigzag หรือ Flat ประเภทใดๆ
Triangle จะเป็นส่วนประกอบสุดท้ายที่ อนุญาติของชุดค่าผสมดังกล่าว ในบริบทนี้เรียกว่า “Ttiple” หรือ “Double” คือการ
รวมตัวกันของ Corrective Zigzag,Flat หรือ Triangle ประเภทต่างๆ การเกิดขึ้นของ Combinations มักจะเป็นการขยาย
ออกไปด้านข้าง และใช้ป้ายกำกับเป็น W,Y,Z และคลื่นปฎิกิริยา X หรือตัวเชื่อมรูปแบบ Combinations สามารถเป็น
รูปแบบการแก้ไขใดๆก็ได้แต่โดยทั่วไป มักจะเป็น Zigzag
-ส่วนใหญ่รูปแบบ Double และ Triple three มักจะเป็นการเคลื่อนที่ไปในแนวนอน แต่แอลเลียต ระบุว่าการก่อตัว
ทั้งหมดอาจเอียงไปตามแนวโน้มที่ใหญ่กว่าก็ได้ ถึงแม้ว่าเราจะไม่เคยพบว่าเป็นเช่นก็ตาม เหตุผลหนึ่งคือไม่เคยมี Zigzag
มากกว่าหนึ่งชุด ไม่มี Triangle มากกว่าหนึ่งรูปจำไว้เพียงอย่างเดียวว่ารูปแบบ Triangle นั้นนำหน้าการเคลื่อนไหวสุดท้าย
ของแนวโน้มที่ใหญ่ขึ้น และจะเป็นชุดเคลื่อนที่สุดท้ายใน double หรือ Triple three
-ชุดค่าผสม Combinations Double และ Triple Zigzag เป็นชุดค่าผสมที่ไม่ใช่แนวนอน ใน Double และ Triple
Zigzag Zigzag ชุดแรกแทบจะไม่ใหญ่พอที่จะถือเป็นการแก้ไขของราคาที่เหมาะสมก่อนหน้า โดยทั่วไปแล้วการเพิ่มขึ้น
เป็น Double หรือ Triple ของรูปแบบจำเป็นต่อการสร้างการย้อนกลับของราคา ที่มีขนาดเพียงพอ เกิดขึ้นเพื่อขยาย
ระยะเวลา ของกระบวนการแก้ไขหลังจากราคาบรรลุเป้าหมายอย่างมีในยะสำคัญ
-หากทำให้มันชัดเจนขึ้น รูปแบบ Combinations และ คลื่นขยายของ Impulse มีความแตกต่างกันเชิงปริมาณ
จำนวนของอนุกรม จำนวน 3+4+4 ฯลฯ ของชุดค่าผสม combinations และ 5+4+4+4 ฯลฯ ของคลื่นขยาย ใน Impulse
Impulsive มีจำนวน 5 และมีการขยายที่นำไปสู่คลื่น 9,13 หรือ 17 คลื่น และ คลื่น Corrective มีจำนวน 3 โดยผสมกัน
ก็จะนำไปสู่ 7 หรือ 11 คลื่น. แต่รูปแบบ Triangle ดูเหมือนจะเป็นข้อยกเว้น แม้ว่าจะสามารถเป็นหนึ่งในสามรูปแบบของ Combination ได้รวม
11 คลื่น ดังนั้น หากการนับภายในไม่ชัดเจนนักวิเคราะห์ บางครั้งอาจได้ข้อสรุปที่สมเหตุสมผล เพียงแค่การนับคลื่น
ตัวอย่างช่น การนับ 9,13 หรือ 17 ที่มีการทับซ้อนกันเล็กน้อยนั้น น่าจะเป็น Motive wave ในขณะที่การนับ 7,11,15 ที่มีการทับซ้อนกันจำนวนมาก น่าจะเป็นรูปแบบ Corrective wave ยกเว้น motive wave ประเภท Diagonal ทั้งสอง
รูปแบบ
#Elliottwave #Triangle(3-3-3-3-3) #อีสานเทรดเดอร์การแก้ไขรูปแบบสามเหลี่ยม(Triangle) จะสะท้อนถึงความสมดุลของแรงทำให้เกิดการเคลื่อนที่ไปด้านข้าง โดยปกติ
จะเกี่ยวข้องกับการลดลงของปริมาณซื้อขายและความผันผวน รูปแบบสามเหลี่ยมประกอบด้วยคลื่นที่ทับซ้อนกัน 5 คลื่น
แบ่งย่อยเป็น 3-3-3-3-3 และติดป้ายกำกับด้วยตัวอักษร A-B-C-D-E สามเหลี่ยมถูกกำหนดโดยการลากเส้นเชื่อมต่อระหว่่าง
A และ C , B และ D โดยที่คลื่น E สามารถเกินเส้น A - C ได้ คลื่น C ไม่เกินจุดเริ่มต้นของ คลื่น A และ คลื่น E ไม่เกินจดเริ่มต้นของคลื่น B
สามเหลี่ยมมี 2 ประเภท คือ Contracting และ Expending แต่โดยส่วนใหญ่หากคลื่น B ยาวกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น A และการย้อนกลับของคลื่น E จะอยู่ที่ปลายคลื่นคลื่นก่อนหน้าเราจะเรียกว่า Running Triangle
แม้ว่าบางครั้งคลื่นลูกที่ 2 ใน Impulse จะเป็น สามเหลี่ยม แต่ สามเหลี่ยมมักจะเกิดกับคลื่นลูกที่ 4 มากกว่า หรือ คลื่น B
ใน ABC หรือ คลื่่นสุดท้าย Y,Z ใน Combined หากคลื่นที่เกิดตามหลัง Triangle ยาวเกินกว่าเป้าหมายปกติให้ระวังการยืดเยื้อแะลยาวนานของคลื่นชุดนั้น
#Elliottwave #FLAT(3-3-5) #อีสานเทรดเดอร์ การแก้ไขแบบ Flat ต่างจาก Zigzag ตรงที่ลำดับคลื่นย่อยคือ 3-3-5 เนื่องจากคลื่น Action คลื่น A ไม่มีแรงพอที่จะ
ขยายออก 5 คลื่นได้เหมือน Zigzag และคลื่น B ขาดแรงกดดันทำให้มีจุดสิ้นสุดใกล้กับจุดเริ่มต้นของคลื่น A และโดยทั่วไป
คลื่น C จะสิ้นสุดเล็กน้อยหลังจากจุดสิ้นสุดของคลื่น A
การแก้ไขแบบ Flat มักจะย้อนกลับคลื่น Impulse ก่อนหน้าได้น้อยกว่า Zigzag และมักจะเกิดขึ้นก่อนหน้าส่วนขยาย
ภายใน Impulse คลื่นลูกที่4 มักจะเป็น Flat ขณะที่คลื่นลูกที่2 เกิดขึ้นได้น้อยกว่า
Elliott ได้จัดหมวดหมู่ของ Flat ใช้เป็นชื่อการแก้ไข A-B-C ใดๆที่แบ่งย่อยออกเป็น 3-3-5 และในการแก้ไขแบบ 3-3-5
ก็แบ่งออกเป็น สามประเภท ด้วยความแตกต่างในรูปร่างโดยรวม
Common Flat หรือแบบปกติคลื่น B จะสิ้นสุดที่ระดับจุดเริ่มต้นของคลื่น A และคลื่น C จะสิ้นสุดลงหลังจากจุดสิ้นสุดของคลื่น A เพียงเล็กน้อย
Expended Flatจะมีโครงสร้างราคาสูงกว่าจุดสิ้นสุดของ Impulse ก่อนหน้า หรือ คลื่น B จะมีจุดสิ้นสุดเกินจุดเริ่มต้นของคลื่น A และ คลื่น C จะสิ้นสุดมากกว่าระดับที่เป็นจุดสิ้นสุดของคลื่น A
Running Flat เป็นรูปแบบที่หายาก คลื่น B จะสิ้นสุด เกินจุดเริ่มต้นของคลื่น A หรือเทียบเท่า แต่ คลื่น C ไม่สามารถเดิน
ทางได้เต็มระยะ ระดับสิ้นสุด น้อยกว่า ระดับสิ้นสุดของคลื่น A จากกรณีนี้เห็นได้ชัดว่ากำลังของแนวโน้มที่ใหญ่กว่าก่อนหน้านั้นทรงพลังอย่างมาก
***อย่าติดป้ายกำกับคลื่นแก้ไข(Label Corrective wave ) ก่อนเวลาอันควร มิฉะนั้นคุณจะพบว่าตัวเองผิดถึงเก้าครั้งจากสิบครั้ง
Elliott wave ว่าด้วยเรื่องของ Zigzag #อีสานเทรดเดอร์ Zigzag แบบชุดเดียวเป็นรูปแบบการลดลง 3 คลื่น A-B-C มีลำดับคลื่นย่อยคือ 5-3-5 และด้านบนสุดของคลื่น B ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น A อย่างเห็นได้ชัด และในตลาดหมีการแก้ไข Zigzag เกิดขึ้นในทิศทางตรงกันข้าม ซึ้งบางครั้ง Zigzag จะเกิดขึ้น สองครั้ง หรือมากสุดสามครั้งติดต่อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Zigzagตัวแรกยาวเกินกว่าเป้าหมายปกติ ในกรณีเหล่านี้ Zigzag แต่ละอันจะถูกคันด้วย “สาม” ที่่เข้ามาแทรกทำให้เกิด Double Zigzag หรือ Triple Zigzag การก่อ
ตัวเหล่านี้คลายกับ การขยายใน Impulse แต่พบได้น้อยกว่า ภายใน Impulse คลื่นลูกที่ 2 มักจะเป็น Zigzag มากกว่า
คลื่นลูกที่ 4
***ข้อสังเกตุ คลื่นแก้ไข(Corrcetive)มักจะเคลื่อนไหวอยู่ภายใน Channelling
The history of "HAMMER" on "BTS" shares"Hammer" แท่งเทียนที่มี Body เล็กๆ เป็นลักษณะหัวค้อน และไส้ยาวๆ เหมือนลักษณะของด้ามค้อน แสดงถึงบทสรุปของทิศทางลงที่เกิดแรงต้านกลับอย่างรุนแรงและรวดเร็ว บงบอกเป็นนัยยะกลายๆ ว่าทิศทางที่เคยลงมานั้นได้กำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว
ด้วยเหตุผลข้างต้น Hammer จึงถูกใช้เป็นหนึ่งในสัญญาณของการกลับตัวของเทรน (Signal of Reversal Candlesticks)
Humangraphy
#Elliottwave #อีสานเทรดเดอร์Impulse Wave ส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วย สิ่งที่เอลเลียตเรียกว่า “ส่วนขยาย(Extension)” เป็น Impulse Wave ที่ยืดออกโดยมีการแบ่งส่วนแบ่งส่วนย่อยที่เกินจริง คลื่น Impulse ส่วนใหญ่จะมีส่วนขยาย หนึ่งในสามคลื่นย่อยของ
คลื่น Action ในบางครั้ง การแบ่งส่วนย่อยของคลื่นขยาย มีความกว้างและระยะเวลาเกือบเท่ากันกับ อีก สี่คลื่น
ของ Impulse ที่ใหญ่กว่าโดยให้จำนวน คลื่นทั้งหมดเก้าคลื่นที่มีขนาดใกล้เคียงกันแทนที่จะนับ “ห้า” แบบปกติ
สำหรับลำดับ ในลำดับเก้าคลื่นบ้างครั้งก็ยากที่จะบอกได้ว่าคลื่นใดขยายออกไป อย่างไรก็ตามโดยปกติจะไม่เกี่ยว
ข้องกันเลย เนื่องจากภายใต้ระบบ Elliott wave การนับเก้าหรือนับห้า มีความสำคัญทางเทคนิคเหมือนกัน
แผนภูมิ Heikin Ashi vs แผนภูมิแท่งเทียนการติดตามการเคลื่อนไหวของราคาถือเป็นหัวใจสำคัญของตลาด การมองดูแผนภูมิเพียงครั้งเดียวสามารถแสดงแนวโน้ม, แนวคิดทางการเทรด หรือเป็นวิธีที่รวดเร็วในการตรวจสอบการถือครองในพอร์ตการลงทุนของคุณ
แผนภูมิแท่งเทียนเป็นวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการดูการเคลื่อนไหวของราคา แท่งเทียนแท่งเดียวจะแสดงราคาสูงสุด, ต่ำสุด, ราคาเปิดและราคาปิดในช่วงเวลาหนึ่งๆ ซึ่งหมายความว่าข้อมูลราคาจำนวนมากจะถูกเก็บไว้ในแท่งเทียนแท่งเดียว อย่างไรก็ตามบางครั้งข้อมูลราคานั้นเต็มไปด้วยความผันผวนหรือการซื้อขายที่วุ่นวาย
นั่นคือสิ่งที่แผนภูมิ Heikin Ashi มีประโยชน์มากที่สุด - มันทำให้ราคาราบรื่นโดยแสดงช่วงราคาเฉลี่ย มากกว่าการวัดที่แน่นอน อันที่จริงแผนภูมิ Heikin Ashi ได้รับการพัฒนาในญี่ปุ่นและคำว่า Heikin หมายถึง "ค่าเฉลี่ย" ในภาษาญี่ปุ่น ผู้ที่ลงทุนในระยะยาวหรือมองหาแนวโน้มที่ยั่งยืน แผนภูมิ Heikin Ashi อาจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการทำให้ราคาราบรื่นและแสดงแนวโน้มที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
กุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจแผนภูมิ Heikin-Ashi คืออย่าลืมว่าแต่ละแท่งไม่ว่าจะเป็นสีแดงหรือสีเขียวจะแสดงช่วงราคาเฉลี่ยสำหรับช่วงเวลาหนึ่ง ในขณะที่แผนภูมิแท่งเทียนจะแสดงระดับราคาที่แน่นอนสำหรับช่วงเวลานั้น
สูตรสำหรับ Heikin Ashi มีลักษณะดังนี้:
ราคาเปิด = (ราคาเปิดของแท่งก่อนหน้า+ ราคาปิดของแท่งก่อนหน้า) / 2
ราคาปิด = (ราคาเปิด + ราคาสูงสุด + ราคาต่ำสุด + ราคาปิด) / 4
ราคาสูงสุด = จุดสูงสุดไม่ว่าจะเป็น ราคาเปิด, สูง, ต่ำหรือราคาปิด
ราคาต่ำสุด = จุดสูงสุดไม่ว่าจะเป็น ราคาเปิด, สูง, ต่ำหรือราคาปิด
อย่าลืมทดสอบแผนภูมิทั้งสองประเภทที่แตกต่างกันและสนุกไปกับมัน ไม่มีวิธีใดที่จะเรียนรู้ได้ดีไปกว่าการเปรียบเทียบและดูความแตกต่างของแผนภูมิทั้งสองประเภทดังที่เรากำลังทำในตัวอย่างนี้ จำไว้ว่ามันขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของคุณด้วย คุณต้องการดูรายละเอียดทั้งหมดในการเคลื่อนไหวของราคาหรือไม่? หรือคุณต้องการดูราคาเฉลี่ยของการดำเนินการซื้อขายนั้น? ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับคุณและมีเครื่องมือให้คุณได้ลองใช้
ข้อควรจำ
แม้ว่า Heikin Ashi และแผนภูมิประเภทอื่นๆ จะมีประโยชน์ในการวิเคราะห์ตลาด แต่ก็ไม่ควรใช้ในการทดสอบกลยุทธ์ย้อนหลังหรือออกคำสั่งซื้อขายเนื่องจากราคาของพวกเขาเป็นราคาสังเคราะห์และไม่สะท้อนถึงระดับของ bid/ask ในตลาดหลักทรัพย์หรือโบรคเกอร์ หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นโปรดดูสิ่งพิมพ์เหล่านี้:
• ในศูนย์ช่วยเหลือ: กลยุทธ์สร้างผลลัพธ์ที่ไม่สมจริงในประเภทแผนภูมิที่ไม่ใช่แผนภูมิมาตรฐาน (Heikin Ashi, Renko และอื่น ๆ)
• จาก PineCoders: การทำ Backtest ในประเภทแผนภูมิที่ไม่ใช่แผนภูมิมาตรฐาน: คำเตือน!
ขอบคุณที่อ่านและโปรดแสดงความคิดเห็นหรือคำถามหากคุณ ถ้ามี!
#Elliottwave #อีสานเทรดเดอร์Wave Function
ทุกคลื่นจะทำหน้าที่หนึ่งในสอง ของการทำงานคือ Action(กระทำ) หรือ Reaction(ปฎิกิริยาโต้ตอบ) Function ของ
คลื่นถูกกำหนดโดยทิศทางสัมพันธ์ คลื่น Action ใดๆ คือคลื่นที่มีทิศทางเดียวกันกับคลื่นที่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง
ของแนวโน้มน้ัน ส่วนคลื่น Reaction คือ คลื่นใดๆที่มีทิศทางตรงข้ามกับคลื่นที่มีระดับใหญ่กว่า ทุกคลื่น Reaction จะถูก
พัฒนาใน Mode Corrective และทุกคลื่่นของ Action จะถูกพัฒนาใน Mode Motive
การสร้างเส้นด้วยคีย์ลัดการสร้างเส้นบนแผนภูมิเป็นวิธีพื้นฐานที่สุดวิธีหนึ่งในการสร้างแผนภูมิเมื่อทำ การวิเคราะห์ทางเทคนิค การสร้างสิ่งเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วเป็นทักษะที่มีประโยชน์มาก
เส้นแนวนอน, แนวตั้ง และเส้นตัด ทั้งหมดสามารถพบได้ในแผงภาพวาดทางด้านซ้ายของแผนภูมิในกลุ่มย่อย “เครื่องมือเส้นแนวโน้ม” สามารถเพิ่มเครื่องมือเหล่านี้ได้โดยเลือกจากกลุ่มย่อยแล้ววางลงบนแผนภูมิ
อย่างไรก็ตามวิธีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการสร้างบรรทัดเหล่านี้คือการใช้ฟังก์ชันคีย์ลัด:
ชอร์ทคัทเส้นแนวนอน:
- Alt+H (PC) หรือ Option+H (MAC)
ปุ่มลัดเส้นแนวตั้ง:
- Alt+V (PC) หรือ Option+V (MAC)
ปุ่มลัดเส้นตัด:
- Alt+C (PC) หรือ Option+C (MAC)
การที่เรามีความเชี่ยวชาญในการวาดเส้นบนแผนภูมิของคุณจะช่วยให้สามารถระบุพื้นที่แนวรับ/แนวต้านและเวลาบนแผนภูมิของคุณได้เร็วขึ้น
อย่าลืมไปที่ศูนย์ช่วยเหลือของเราเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือเหล่านี้!
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือเส้นแนวนอน:
th.tradingview.com
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือเส้นแนวตั้ง:
th.tradingview.com
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือเส้นตัด:
th.tradingview.com
สร้างการแจ้งเตือน (และรออย่างอดทน)มีสองขั้นตอนสำคัญในการสร้างการแจ้งเตือน:
1. ค้นหาระดับราคาที่สำคัญ
ทำวิจัยของคุณ ค้นหาระดับราคาที่มีนัยสำคัญและรอ ความอดทนนั้นคือทุกสิ่ง คุณมีเครื่องมือที่พร้อมให้คุณค้นคว้าและติดตามตลาด ไม่ว่าจะเป็นเส้นแนวโน้มธรรมดา, เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่หรือ Pine Script ที่สร้างขึ้นเอง ใช้เครื่องมือเพื่อตัดสินใจได้ดีขึ้น ค้นหาจุดเข้าหรือจุดออกในอุดมคติตามที่คุณต้องการ
2. สร้างการแจ้งเตือน
เมื่อคุณพบระดับที่คุณสนใจแล้ว ให้สร้างการแจ้งเตือนและเดินจากไป คลิกขวาที่ระดับราคาใดๆ จากนั้นเลือก "สร้างการแจ้งเตือน" จากเมนู คุณยังสามารถใช้แป้นพิมพ์ลัด Alt + A หรือปุ่ม Option + A บนเครื่อง Mac และขั้นตอนท้ายสุดที่ด้านบนของทุกแผนภูมิจะมีไอคอนนาฬิกาปลุก⏰ คลิกเพื่อเปิดเมนูการแจ้งเตือนและเริ่มต้นการทำงานทันที
แผนภูมิในตัวอย่างนี้แสดงระดับที่เรากำลังดูอยู่ นี่เป็นเพียงตัวอย่างและมีไว้เพื่อการศึกษาเท่านั้น มันยังแสดงการแจ้งเตือนที่เราสร้างขึ้นโดยทำเครื่องหมายด้วยเส้นสีส้ม การแจ้งเตือนของคุณจะมีลักษณะเช่นนี้เช่นกัน และคุณสามารถสร้างมันขึ้นสำหรับสัญลักษณ์หรือคู่เงินที่กำหนดเอง เช่น ETHBTC, AAPL และ TSLA / BTCUSD ในตัวอย่างนี้เราได้กำหนดความเป็นไปได้ที่จะเกิด double bottom ซึ่งเราจะรออย่างอดทน รอให้เกิดการแจ้งเตือนก่อนที่จะดำเนินการอะไร
เราจะได้รับการแจ้งเตือนบนแอพ TradingView บนมือถือ, ทางอีเมล์ และบนเดสก์ท็อปของเรา จากนั้นเราจึงดำเนินการตอบสนองต่อการแจ้งเตือนนั้น สิ่งนี้ทำให้การเทรดของเราสามารถจัดการได้มากกว่าการทำตามทุกความเคลื่อนไหวแบบนาทีต่อนาที 😁
การแจ้งเตือนสามารถช่วยให้คุณวางแผนล่วงหน้าและรอได้ เราทุกคนรู้ว่าความอดทนเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นให้ใช้การแจ้งเตือนเพื่อแสดงความอดทนของคุณ
ขอขอบคุณที่อ่านและเราหวังว่าจะได้รับฟีดแบคของคุณในช่องความคิดเห็นด้านล่างนี้!
BTC - การหา Cluster เพื่อยืนยันแนวโน้มในการกลับตัวเช้านี้มีสภาพที่น่าสนใจ สำหรับการหาแนวโน้มการกลับตัว ด้วย Cluster ที่ประกอบด้วย Tool, Pattern และ Indicator นะครับ
Tool ตัวไหน, Pattern รูปแบบใด พร้อมทั้งสภาพ indicator ลักษณะใดสามารถดูได้จากคลิปเลยนะครับ
โดยผมยกตัวอย่างจาก play ที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันในการ trade BTC
Cluster ประกอบด้วย:
1. Fibo. Retracement
2. Fibo Extension
3. Andrew - Pitchfork
4. Hidden Bullish
วิธีเพิ่มอิโมจิ (emoji) ในแผนภูมิของคุณหากคุณเผยแพร่งานวิจัยจำนวนมากจากบัญชี TradingView ของคุณ อิโมจิจะช่วยให้ผู้อ่านมีส่วนร่วมกับงานของคุณอีกทางหนึ่ง อิโมจิได้รับการยอมรับทั่วโลกและสามารถช่วยให้ผู้อื่นเข้าใจความคิดหรือความรู้สึกของคุณได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังใช้เป็นการแจ้งเตือนหรือบันทึกย่อได้อีกด้วย
วิธีเพิ่มอิโมจิลงในแผนภูมิของคุณมีดังนี้:
1. คัดลอกและวางอีโมจิลงในเครื่องมือกล่องข้อความโดยตรงเช่นนี้ 👋 หากคุณต้องการความช่วยเหลือในการค้นหาอีโมจิเพื่อคัดลอกและวางมีเว็บไซต์หลายแห่งที่ช่วยให้ทำสิ่งนี้ได้อย่างง่ายดาย คุณสามารถเพิ่มอิโมจิลงในกล่องข้อความหรือเครื่องมือวาดภาพที่รองรับข้อความได้
2. วิธีที่สองคือการใช้เครื่องมือป้ายบอกทาง เครื่องมือป้ายบอกทางจะอยู่ในเมนูเครื่องมือคำอธิบายประกอบทางด้านซ้ายของแผนภูมิ เลือกป้ายบอกทางวางบนแผนภูมิจากนั้นเปิดการตั้งค่าเพื่อเพิ่มอิโมจิ สามารถใช้เครื่องมือป้ายบอกทางเพื่อฝากบันทึกโดยละเอียดในระดับราคาที่เฉพาะเจาะจง ใช้งานง่ายปรับแต่งได้เต็มรูปแบบและสามารถลากไปยังจุดใดก็ได้บนแผนภูมิของคุณ เราได้รวมตัวอย่างบางส่วนไว้ในแผนภูมิด้านบนซึ่งเราได้ปรับแต่งสีพื้นหลังของป้ายบอกทางแต่ละป้ายด้วย 😎🐻🥶🐂
ขอบคุณที่อ่าน แจ้งให้เราทราบหากคุณมีคำถามหรือความคิดเห็น ทีมงานของเราพร้อมรับฟังและรอให้ความช่วยเหลือเสมอ
BTC - การหาแนวโน้มการกลับตัวจาก TD Sequential ต่อเนื่องจาก Idea ที่แล้วนะครับ พี่ผมเคยเกริ่นเอาไว้ในเรื่องการใช้งาน indicator ที่เป็นการบ่งบอกถึง "แนวโน้ม" ในการกลับตัวอย่าง TD Sequential
ซึ่งเป็น Free Indicator ที่ดีและมีประโยชน์มากๆ ตัวนึงในกระดานนี้
ดูเนื้อหาจาก Clip แล้วผมขออนุญาตสรุปเอาไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ
- TD Sequential คือการเคลื่อนที่ต่อเนื่องกัน "9" แท่งในทิศทางเดียวกัน
- การเคลื่อนที่ขึ้นต่อเนื่อง เมื่อครบ 9 แท่ง จะบ่งบอกถึงสภาพการอ่อนแรงลงในขาขึ้น ในทางกลับกัน 9 แท่งลงติดกันก็จะบ่งบอกถึงการอ่อนแรงในการลง
- การนับ 9 แท่งต่อเนื่องนี้เราเรียกว่าเป็น phase "Setup" (ซึ่งการ Countdown จะยังไม่อธิบายเพราะ ตลาด react กับการ Setup ดีมากพออยู่แล้ว)
- คำว่าเคลื่อนที่ขึ้น 9 แท่งต่อเนื่อง ให้พิจารณา "ราคาปิด" ที่ต้องเหนือกว่า "ราคาปิด" ของ 4 แท่งก่อนหน้า
- การเกิด Perfect Sell Signal คือการที่ "High Price" ของแท่งที่ 8\9 เหนือกว่า "High Price" ของแท่งที่ 6\7
- การเกิด Sell or Buy signal จาก TD Seq. ไม่ใช่เป็นการบอกจุดกลับตัว แต่เป็นการบอก แนวโน้ม ที่อาจจะเกิดการกลับตัว
- การเข้าซื้อต้องรอให้เกิดการ swing ที่ประกอบไปด้วยแท่งเทียน 2-3 แท่งก่อนเท่านั้น ไม่ใช่ซื้อ ณ แท่งที่ 9
- การเข้าซื้อสามารถพิจารณาสภาพ Bull\Bear จาก TF ย่อยเป็นการประกอบได้
ทั้งนี้ขอบคุณ พี่ม้าเฉียวดูหุ้น ที่เคยแชร์ความรู้ indicator TD Seq. นี้มาในการเทรดหุ้นนะครับ