วิธีค้นหานักวิเคราะห์ที่ใช่บน TradingViewเฮ้ทุกคน! 👋
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราได้โพสต์เกี่ยวกับผู้เขียนบางคนที่กำลังได้รับโมเมนตัมบนแพลตฟอร์มของเรา ซึ่งนำไปสู่การตอบรับที่ดีอย่างมากมายจากชุมชน และในขณะที่เราวางแผนที่จะเผยแพร่รายการ "การเรียบเรียง" เหล่านั้นเป็นรายเดือนนับจากนี้ไป เราคิดว่าน่าจะดีที่จะเน้นย้ำถึงวิธีอื่นๆ ที่คุณสามารถหานักเขียนที่ชาญฉลาดและมีทักษะที่ซื้อขายสิ่งเดียวกันกับที่คุณกำลังซื้อขายได้
มาเริ่มกันเลย
ขั้นตอนที่ 1 : เปิดชาร์ตของสิ่งที่คุณต้องการซื้อขาย
นี่อาจเป็นทรัพย์สินใดๆ ในไทม์เฟรมที่สูงกว่า 15 นาที เราไม่อนุญาตให้ผู้คนโพสต์ในไทม์เฟรมที่ต่ำกว่า 15 นาที
ขั้นตอนที่ 2 : เปิดใช้งานไอเดียชุมชนที่มองเห็นได้
ไปที่แถบเครื่องมือทางด้านขวา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือกแท็บ "Idea Stream" แล้ว นี่คือไอคอนหลอดไฟที่กำลังสั่นไหว จากเมนูนี้ ให้เลือกหลอดไฟที่ด้านบน ตอนนี้คุณสามารถเห็นสัญลักษณ์ที่แสดงในชาร์ตและความคิดทั้งหมดที่โพสต์ในช่วงเวลานั้น! หากคุณไม่เห็นอะไรเลย ให้ลองดูสัญลักษณ์และไทม์เฟรม "ทั่วไป" เพิ่มเติม ตรวจสอบชาร์ต AAPL และ BTCUSD รายวัน
ขั้นตอนที่ 3 : ใครเป็นคนตอกท่อนบนและท่อนล่าง
ด้วยการตีความภาพสำหรับข้อความเสริมของแนวคิดที่มีความยาวและสั้น น่าจะเป็นเรื่องง่ายที่จะระบุได้ว่าใครทำงานได้ดีในการค้นหาว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ใครเป็นคนแรกที่เข้าสู่งานใหญ่? ใครมีสิทธิ์ที่จะทำกำไรบ้าง?
เมื่อคุณพบคนที่ดูเหมือนจะทำงานได้ดีในเรื่องนี้แล้ว สิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะได้เห็นแนวคิดอื่นๆ ของพวกเขาเป็นอย่างไร! อย่าลืมไปที่โปรไฟล์ของพวกเขาและตรวจดูว่าแนวคิดส่วนใหญ่ของพวกเขาถูกต้องหรือไม่ หรือนั่นอาจจะเป็นโชคดีกับผู้ชนะที่แท้จริงเพียงคนเดียว
ขั้นตอนที่ 4 : ติดตามพวกเขา!
นี่เป็นวิธีที่ง่ายมากในการสร้างกระแสข้อมูลคุณภาพสูง และสนับสนุนกระบวนการสร้างแนวคิดของคุณ แม้ว่าผู้โพสต์จะแลกเปลี่ยนความคิดของตนเองได้ไม่ดี แต่ก็ยังมีข้อได้เปรียบสำหรับผู้ที่มีแนวทางการซื้อขายที่ดี สตรีมที่มีการดูแลจัดการอย่างดีอาจเป็นแหล่งที่มาของอัลฟ่าที่สำคัญได้!
ขั้นตอนโบนัส 5 : ล้างสตรีมไอเดียของคุณ
สิ่งหนึ่งที่คุณสามารถทำได้คือจำกัดแนวคิดที่มองเห็นได้บนชาร์ตของคุณไว้เฉพาะกับคนที่คุณติดตาม สิ่งนี้ควรทำให้ชัดเจนโดยสมบูรณ์หากคนที่คุณติดตามทำผิดอย่างต่อเนื่อง ถ้าใช่ คุณสามารถลบออกจากฟีดการสร้างไอเดียของคุณได้อย่างง่ายดายโดยเลิกติดตาม ทำให้ฟีดแนวคิดทำงานให้กับคุณ ไม่ทำให้คุณท่วมท้น!
-ทีม TradingView
ไอเดียชุมชน
การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) คือการศึกษาพฤติกรรมของราคาในอดีตและปัจจุบัน เพื่อคาดการณ์ความน่าจะเป็นที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เก่าแก่ที่สุดคาดว่าน่าจะเป็นกราฟแท่งเทียน
#การเทรดด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) คือ การซื้อขายจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่เห็นปัจจุบันอยู่ตรงหน้า ไม่ใช่การวิเคราะห์ในสิ่งที่ไม่มีอยู่หรือยังไม่เกิดขึ้น “Trader ที่เทรดด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิคส่วนใหญ่ จะไม่ดูข่าว จะไม่สนใจข่าว เพราะเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตลาดนั้นได้แสดงให้เห็นในกราฟราคาแล้ว”
-----------------------------
*** ไม่ใช่ หมอดู “ราคาจะขึ้นตอนไหน จะลงตอนไหนเราไม่รู้ …แต่เรารู้ว่าถ้าขึ้นเราจะทำยังไง ถ้าลงเราจะทำยังไง”
เป็นการหาความน่าจะเป็นเท่านั้น เราไม่สามารถสั่งกราฟหรือหาความแม่นได้ เช่นเดียวกับการที่เราสั่งฝนไม่ให้ตกหรือสั่งพระอาทิตย์ไม่ให้ส่องแสงไม่ได้ ...เราไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ 100% ถ้าเราควบคุมทุกอย่างได้ 100% …โลกนี้คงไม่มีคำว่า อุบัติเหตุ ***แต่สิ่งที่เราทำได้คือ ลดความเสี่ยง ลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุ
#จุดประสงค์ของการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)
…ทราบถึงระดับความเสี่ยง เพื่อลดความเสี่ยง
…เพื่อให้การเทรดของเราไม่ใช่การพนัน
เมื่อเราทราบถึงระดับความเสี่ยงแล้วเนี่ย การวางแผนเทรดของเราก็จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
// พูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่ได้มั่ว ไม่ได้เดา
☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆
นักเทรดทั้งหลาย อย่าไปเข้าใจว่าเราสามารถหาความแม่นในตลาดได้
ถ้าหาความแม่นในตลาดได้จริง คงไม่มีคำว่า “Black Swan”
นอกจากบุญกับบาป ก็หาไม่มีแล้วที่เที่ยงแท้แน่นอน
// OhManLan // // OhManLan // // OhManLan //
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ OhManLan ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
เทคนิคการได้ราคาที่ดีกว่า 🎯เฮ้ทุกคน! 👋
เราได้โพสต์ แนวคิด เกี่ยวกับคำสั่งซื้อหลักสามประเภทที่ผู้เข้าร่วมตลาดใช้งาน: มาร์เก็ตออร์เดอร์, ลิมิตออร์เดอร์, และสตอ๊อปออร์เดอร์
ในสัปดาห์นี้ เราคิดว่าเราจะก้าวไปอีกขั้น และหารือเกี่ยวกับเทคนิคขั้นสูงบางอย่างที่เทรดเดอร์มืออาชีพใช้เพื่อให้ได้ราคาที่ดีกว่า โดยใช้คำสั่งสามประเภทดังกล่าว🎯
เทคนิคที่ 1: ใช้คำสั่ง ลิมิต-ทรู แทนคำสั่งซื้อลิมิตออร์เดอร์ 📈
นี่เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเทรดในเกือบทุกสถานการณ์ หากคุณต้องการ "รับ" สภาพคล่อง (คุณคือผู้รุกรานในการซื้อขาย) การใช้คำสั่ง ลิมิต-ทรู มักจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการใช้คำสั่งลิมิตออร์เดอร์ คำสั่ง ลิมิต-ทรู มีชื่อเรียกเช่นนั้นเนื่องจากเป็นคำสั่งซื้อแบบจำกัด - "ฉันต้องการซื้อหุ้นในราคานี้และไม่แย่ไปกว่านี้" - แต่ราคาดังกล่าวอยู่เหนือข้อเสนอที่ดีที่สุด
ลองดูตัวอย่างเช่น AAPL อีกครั้ง สมมติว่าหุ้นเสนอราคาที่ 175.01 ดอลลาร์และเสนอขายที่ 175.03 ดอลลาร์ คำสั่งซื้อแบบ ลิมิต-ทรู อาจมีราคาที่ $175.05 คำสั่งจำกัดเช่นนี้คือ "ผ่าน" ราคาของข้อเสนอที่ดีที่สุด และทำให้ "สามารถซื้อขายในตลาดได้"
เหตุผลที่คำสั่ง ลิมิต-ทรู มักจะดีกว่าคำสั่ง ลิมิตออร์เดอร์ เนื่องจากโครงสร้างจุลภาคของตลาด
หากคุณวางคำสั่งซื้อแบบ ลิมิต-ทรู ตามที่อธิบายไว้ข้างต้น คุณอาจไม่ได้รับสิ่งที่คุณต้องการซื้อเต็มจำนวน แต่คุณจะไม่จ่ายมากเกินกว่าที่คาดไว้ ด้วยคำสั่งลิมิตออร์เดอร์ ผู้ดูแลสภาพคล่องอาจเติมคุณในหุ้น 100 ชุดแรกของคุณ จากนั้นจึงเพิ่มข้อเสนอในการแลกเปลี่ยนอื่น ๆ ที่คุณจะได้เติมส่วนที่เหลือ
ตลาดหลักทรัพย์ BATS นั้นใกล้กับแมนฮัตตันมากกว่าศูนย์ข้อมูล NY4 ซึ่งเป็นที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์ตลาดหลักทรพย์ที่ใหญ่กว่า ซึ่งหมายความว่าคำสั่งซื้อของคุณอาจถึง BATS ก่อนตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ หากผู้ดูแลสภาพคล่องรู้ว่ามีความสนใจในการซื้อบางอย่าง พวกเขาจะเติมเต็ม 100 หุ้นแรกของหุ้นบางตัว จากนั้นให้ดำเนินการตามคำสั่งของคุณไปยังตลาดหลักทรัพย์อื่น ๆ ที่มีสภาพคล่องมากกว่าและอาจเพิ่มข้อเสนอของพวกเขา ทำให้คุณได้ราคาที่แย่ลง
สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเสมอไป แต่วิธีการตั้งค่าตลาดมักทำให้มีเรื่องตลกตลกเช่นนี้ ผู้เชี่ยวชาญจึงมักจะใช้คำสั่งซื้อแบบ ลิมิต-ทรู (เช่น ราคาคำสั่งคือ เสนอ+0.02c เป็นต้น) เพื่อเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ เช่นเดียวกับเมื่อกลับรายการเพื่อขายสินทรัพย์
เทคนิค 2: ทำตามคำสั่งของคุณ 💪
เรื่องน่ารู้: คำสั่งซื้อที่คุณเห็นอาจไม่ใช่คำสั่งซื้อจริง และนั่นเป็นความจริง!
เมื่อพูดถึงตลาดสำหรับการรักษาความปลอดภัย คำสั่งจำกัดมีสองประเภท: คำสั่ง "Lit" และคำสั่ง "Dark" เมื่อดูความลึกของตลาด คุณจะเห็นภาพแค่บางส่วนเท่านั้น!
บางครั้งจะมีคำสั่งซื้อที่ซ่อนอยู่ระหว่างราคาที่คุณต้องการและราคาที่แสดง การวางคำสั่งซื้อของคุณภายในสเปรด เป็นไปได้ที่จะได้ราคาที่ดีกว่าที่คุณมีจาก dark orders / pegs / ฯลฯ
นอกจากนี้ หากคุณวางคำสั่งซื้อของคุณระหว่างสเปรด คุณจะกลายเป็นราคาที่ดีที่สุดใหม่จากฝั่งของคุณ สิ่งนี้อาจกระตุ้นให้คนที่กำลังมองหาฝั่งตรงข้ามของการซื้อขายมาพบคุณในที่ที่คุณอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดออปชั่นที่สเปรดมักจะกว้างและเคลื่อนไหวช้า การทำงานตามคำสั่งของคุณ (การโพสต์และการย้าย) จะทำให้คุณได้รับสินทรัพย์ที่ดีกว่าการกดราคาโพสต์ที่ดีที่สุดในด้านอื่น ๆ ของการซื้อขาย
เพียงให้แน่ใจว่าคุณไม่พลาดการเคลื่อนไหวในขณะที่รอการเติมเต็ม!
เทคนิค 3: ใช้สมุดบันทึกคำสั่งซื้อขายให้เป็นประโยชน์ 🧾
นี่เป็นสิ่งที่หายาก แต่บางครั้งเทรดเดอร์ที่ไม่มีประสบการณ์ในตลาดก็เพียงแค่ "เปิดเผยไพ่ของพวกเขา" ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับ Lit Limit Order ที่มองเห็นได้ชัดเจนในสมุดคำสั่งซื้อ หากบุคคลนั้นเริ่มส่งสัญญาณการรุกราน คุณอาจได้รับราคาที่เหลือเชื่อสำหรับทรัพย์สินที่คุณกำลังมองหา
ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณต้องการซื้อหุ้น AAPL และคุณดึงคำสั่งซื้อ (ความลึกของตลาด) จากที่นี่ คุณจะเห็นว่ามีคำสั่งจำกัดการขายจำนวนมากที่ค่อยๆ ขยับราคาให้ต่ำลงเพื่อพยายามเติมเต็ม แรงกดดันในการขายที่เห็นได้ชัดแบบนี้สามารถนำไปสู่การเคลื่อนไหวของราคาที่มีนัยสำคัญ เนื่องจากส่วนหน้าของตลาดใช้สภาพคล่องทั้งหมดที่วาฬกำลังมองหา การดำเนินการนี้อาจดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่งจนกว่าวาฬจะเริ่มรับเงิน เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น หุ้นมีแนวโน้มที่จะพบพื้นที่ความต้องการในท้องถิ่นซึ่งอาจเป็นราคาที่ดีกว่าที่คุณคาดหวังมากเมื่อคุณดึงตั๋วคำสั่งซื้อ สิ่งสำคัญที่สุดคือ การใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เหล่านี้อาจเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล หากคุณพบเห็นก่อนที่จะส่งออกคำสั่งซื้อ
เพียงแค่นี้! เคล็ดลับและลูกเล่นบางประการเพื่อให้ได้ราคาที่ดีขึ้นโดยใช้คำสั่งซื้อและหนังสือสั่งซื้อ
-ทีม TradingView 💘
หากคุณพลาด นี่คือแนวคิดสำหรับมือใหม่:
ตลาดหุ้นอเมริกา และทั่วโลกเข้าสู่ช่วงการปรับฐานใหญ่ ???ตลาดหุ้นอเมริกาเข้าสู่ช่วงการปรับฐานใหญ่ ตลาดหุ้นทั่วโลกอาจจะกำลังเข้าสู่ช่วงการปรับฐาน ?? วิธีใช้กฏตรวจสอบคลื่น 3 ยืดตัว ตัวอย่างดัชนี Nasdaq ที่เคยดูไว้เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2561 (4 ปีที่แล้ว )
ตอนนี้คลื่นที่คาดว่าจะเป็นคลื่นสามเกินเป้าหมายที่ 261.8 % แล้วซึ่งก็อาจจะเป็นอิมพาวเวฟได้ในการตรวจสอบคลื่นสี่ ในการปรับฐานลงหากว่าเป็นคลื่นสี่ของคลื่นสามที่ยืดตัวก็จะต้องห้ามลงเกิน 61.8% ของคลื่นสาม หากไม่ต่ำกว่านั้นค่อยมาดูคุณสมบัติ Impulsive ที่จะเป็น Multiwaves จะต้องมีดังนี้
1.1 ในคลื่นที่ 1,3,5 ต้องมีคลื่นใดคลื่นหนึ่ง แบ่ง subdivide
1.2 ในคลื่น 2 หรือ 4 ในโครงสร้าง impulsive นั้น จะต้องสามารถแบ่งย่อยเป็น a-b-c ได้ในคลื่นใดคลื่นหนึ่ง หรือ อาจทั้งสองคลื่น ก็ได้
1.3 คลื่น 2 หรือ 4 ที่ใช้ระยะเวลานานที่สุด ควรจะเป็นคลื่นที่เกิดก่อน หรือ คลื่นยืดตัวทันที เช่น หากคลื่น 1 เป็นคลื่นยืดตัวแล้ว คลื่น 2 ควรเป็นคลื่นที่ใช้เวลามากที่สุด แต่หากคลื่น 5 เป็นคลื่นยืด ตัวแล้วคลื่น 4 ควรใช้เวลานานกว่าคลื่น 2 และหากเป็นคลื่น 3 ยืดตัว คลื่น 2 และ 4 มักใช้เวลาพอๆกัน แต่รูปแบบต้องแตกต่างกันตามกฎ Rule of Alternation และยังมี Rule of Equality กับ Overlap Rule อีก 2 กฏ ถึงจะผ่านกฏทั้งหมด ส่วน Multiwaves ใน Corrective จะมีลักษณะดังนี้
1. จะต้องมีอย่างน้อย ใน wave-a ,wave-c จะต้องแบ่งได้ 5 subdivided
2. wave-b ควรแบ่ง subdivided a-b-c ได้ ( Wave-b เป็น polywave )
Order Book คือ แผงตลาดขออธิบายแบบบ้าน ๆ ก่อน Order Book เปรียบเสมือนแผงตลาดที่เอาไว้วาง (สินค้า / สิ่งแลกเปลี่ยน) เพื่อให้ พ่อค้าแม่ค้า กับ ลูกค้า ได้เปลี่ยนเปลี่ยนกัน
แม่ค้าขายเนื้อหมู (สินค้า/สิ่งแลกเปลี่ยน คือ เนื้อหมู)
ลูกค้าซื้อเนื้อหมู (สินค้า/สิ่งแลกเปลี่ยน คือ เงิน)
Order Book ก็คือแผงตลาดเลย เป็นสถานที่พบเจอเพื่อแลกเปลี่ยนซื้อขายกัน ต่อรองราคากัน และเมื่อตกลงกันได้ก็จะทำการซื้อขายกัน
######## -------- ########
Order Book เป็นที่แสดง คำสั่งซื้อ และ คำสั่งขาย ของนักเทรด
ผู้ขาย (สินค้า/สิ่งแลกเปลี่ยน คือ Bitcoin)
ผู้ซื้อ (สินค้า/สิ่งแลกเปลี่ยน คือ USD)
หากนักเทรดส่งคำสั่งขาย คำสั่งนั้นก็จะไปปรากฏใน Order Book ของฝั่งผู้ขาย เพื่อรอรับคำสั่งซื้อ (รอให้คนมาซื้อ)
หากนักเทรดส่งคำสั่งซื้อ คำสั่งนั้นก็จะไปปรากฏใน Order Book ของฝั่งผู้ซื้อ เพื่อรอรับคำสั่งขาย (รอให้คนมาขาย)
// OhManLan // // OhManLan // // OhManLan //
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ OhManLan ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
แนวโน้ม (Trend)แนวโน้ม (Trend) คือ ทิศทางการเคลื่อนที่ของราคา ซึ่งจะมีอยู่ 3 แนวโน้ม
1.)แนวโน้มขาขึ้น (Up Trend)
คือ ทิศทางของราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นและสร้างฐานราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ
หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือการที่ราคาทำจุดสูงสุดที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับทำจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน
- Low ใหม่จะสูงกว่า Low ก่อนหน้า
- High ใหม่จะสูงกว่า High ก่อนหน้า
## -- ## -- ## -- ## -- ## -- ##
2.)แนวโน้มขาลง (Down Trend)
คือ ทิศทางของราคาที่ปรับตัวต่ำลงเรื่อย ๆ
หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือการที่ราคาทำจุดต่ำสุดที่ต่ำลงเรื่อย ๆ พร้อมกับทำจุดสูงสุดที่ต่ำลงเรื่อย ๆ เช่นกัน
- Low ใหม่จะต่ำกว่า Low ก่อนหน้า
- High ใหม่จะต่ำกว่า High ก่อนหน้า
## -- ## -- ## -- ## -- ## -- ##
3.)แนวโน้มด้านข้าง (Sideway Trend)
คือ ทิศทางของราคาไม่มีทิศทางที่แน่นอน จะลงก็ไม่ลง จะขึ้นก็ไม่ขึ้น
หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือเคลื่อนที่ออกด้านข้าง
- Low ใหม่จะต่ำกว่าและสูงกว่า Low ก่อนหน้าก็ได้ สลับกันไปมาโดยเคลื่อนที่ออกด้านข้าง
- High ใหม่จะต่ำกว่าและสูงกว่า High ก่อนหน้าก็ได้ สลับกันไปมาโดยเคลื่อนที่ออกด้านข้าง
// OhManLan // // OhManLan // // OhManLan //
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ OhManLan ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
STOP LOSS สิ่งธรรมดา ง่าย ๆ ที่สำคัญมาก แต่ทำกันได้ยากSTOP LOSS (หยุดสูญเสีย) คือ การรักษาเงินในพอร์ตการลงทุนของเราไว้ เพื่อไม่ให้มูลค่าของพอร์ตการลงทุนลดลงไปมากกว่านี้
2 จุดประสงค์หลักของ Stop loss
- ใช้เพื่อหยุดการขาดทุน (บางคนจะเรียกว่า Cut loss)
- ใช้เพื่อปกป้องกำไร หยุดสูญเสียกำไร (บางคนจะเรียกว่า Stop profit)
// OhManLan // // OhManLan // // OhManLan //
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ OhManLan ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
คำสั่งตลาด (Market Order)คำสั่งตลาด (Market Order), คำสั่งนี้จะ Buy หรือ Sell ทุกราคาที่มีใน Order book ทันที
***หากใช้คำสั่งนี้บน Exchanges ที่มีสภามคล่องที่ต่ำ
จะมีความเสี่ยงที่สูงมาก เพราะคุณอาจจะได้ Buy หรือ Sell ในราคาที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าราคาปัจจุบัน
## --- ## --- ## --- ##
ตัวอย่างการ Buy ด้วย Market Order
#Buy(1)
หากส่งคำสั่งตลาด (Market Order) ด้วยจำนวนเงิน 10,000 USD
ระบบจะทำการ Buy ทุกราคาที่มีใน Order book ฝั่ง Sell ทันที
ตามภาพ ระบบจะทำการ Buy ให้คุณทันทีที่ราคา 38,480 USD
#Buy(2)
หากส่งคำสั่งตลาด (Market Order) ด้วยจำนวนเงิน 176,265 USD
ระบบจะทำการ Buy ทุกราคาที่มีใน Order book ฝั่ง Sell ทันที
ตามภาพ ระบบจะทำการ Buy ให้คุณทันทีทั้งหมด 7 ราคา ได้แก่
38,480 USD ด้วยจำนวนเงิน 164,538 USD
38,482 USD ด้วยจำนวนเงิน 394 USD
38,483 USD ด้วยจำนวนเงิน 41 USD
38,484 USD ด้วยจำนวนเงิน 430 USD
38,485 USD ด้วยจำนวนเงิน 426 USD
38,486 USD ด้วยจำนวนเงิน 6,007 USD
38,487 USD ด้วยจำนวนเงิน 4,829 USD
## ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ OhManLan ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ##
ตัวอย่างการ Sell ด้วย Market Order
#Sell(1)
หากส่งคำสั่งตลาด (Market Order) ด้วยจำนวนเงิน 10,000 USD
ระบบจะทำการ Sell ทุกราคาที่มีใน Order book ฝั่ง Buy ทันที
ตามภาพ ระบบจะทำการ Sell ให้คุณทันทีที่ราคา 38,479 USD
#Buy(2)
หากส่งคำสั่งตลาด (Market Order) ด้วยจำนวนเงิน 2,150,140 USD
ระบบจะทำการ Sell ทุกราคาที่มีใน Order book ฝั่ง Buy ทันที
ตามภาพ ระบบจะทำการ Sell ให้คุณทันทีทั้งหมด 4 ราคา ได้แก่
38,479 USD ด้วยจำนวนเงิน 2,093,286 USD
38,478 USD ด้วยจำนวนเงิน 1,203 USD
38,477 USD ด้วยจำนวนเงิน 5,013 USD
38,476 USD ด้วยจำนวนเงิน 50,638 USD
// OhManLan // // OhManLan // // OhManLan //
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ OhManLan ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
WAVES: RSI Overbought ใช่ว่าจะต้องกลับตัวRSI Overbought ใช่ว่าจะต้องกลับตัว
โดยมากเรามักจะพบว่า
เมื่อ RSI Overbought แรกหลังจาก Oversold
การลงนั้นมักจะเป็นการลง (ย่อ) เพื่อขึ้นต่อ
***พยายามหลีกเลี่ยงการ Short ไว้ก่อน จนกว่าจะมีสัญญาณที่ยืนยันแล้วว่าจะกลับเทรนเป็นเทรนขาลง
คำสั่งจำกัด (Limit Order)คำสั่งจำกัด (Limit Order) คำสั่งนี้จะ Buy หรือ Sell ทุกราคาใน Order book ที่ไม่เกินราคาที่เรากำหนด
ตัวอย่างการตั้ง Buy ด้วย Limit Order
#Buy(1)
หากตั้ง Limit Order ที่ราคา 39,117 USD
ระบบจะทำการ Buy ทุกราคาที่มีใน Order book
แต่จะไม่ Buy สูงกว่าราคา 39,117 USD
ตามภาพ หากเราส่งคำสั่งซื้อด้วยจำนวนเงิน 2,258,733 USD
ระบบจะทำการ Buy ทันทีให้กับเรา 3 ราคาใน Order book ฝั่ง Sell ได้แก่
39,111 USD ด้วยจำนวนเงิน 2,258,730 USD
39,112 USD ด้วยจำนวนเงิน 1 USD
39,115 USD ด้วยจำนวนเงิน 2 USD
#Buy(2)
หากตั้ง Limit Order ที่ราคา 39,112 USD
ระบบจะทำการ Buy ทุกราคาที่มีใน Order book ฝั่ง
แต่จะไม่ Buy สูงกว่าราคา 39,112 USD
ตามภาพ หากเราส่งคำสั่งซื้อด้วยจำนวนเงิน 3,258,731 USD
ระบบจะทำการ Buy ทันทีให้กับเรา 2 ราคาใน Order book ฝั่ง Sell ได้แก่
39,111 USD ด้วยจำนวนเงิน 2,258,730 USD
39,112 USD ด้วยจำนวนเงิน 1 USD
สำหรับส่วนที่เหลืออีก 1,000,000 USD
จะถูกวางใน Order book ฝั่ง Buy
เพื่อรอรับ Order ฝั่ง Sell
#Buy(3)
หากตั้ง Limit Order ที่ราคา 39,106 USD
ระบบจะทำการ Buy ทุกราคาที่มีใน Order book ฝั่ง
แต่จะไม่ Buy สูงกว่าราคา 39,106 USD
*โดยราคาที่มีการทำธุรกรรมล่าสุด คือ 39,110.50 USD
ตามภาพ หากเราส่งคำสั่งซื้อด้วยจำนวนเงิน 10,218 USD
ระบบจะวางคำสั่งรอใน Order book ฝั่ง Buy
เพื่อรอรับ Order ฝั่ง Sell (ธุรกรรมจะยังไม่เกิดขึ้นในทันที)
// OhManLan // // OhManLan // // OhManLan //
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ OhManLan ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
ตัวอย่างการตั้ง Sell ด้วย Limit Order
#Sell(1)
หากตั้ง Limit Order ที่ราคา 39,108 USD
ระบบจะทำการ Sell ทุกราคาที่มีใน Order book
แต่จะไม่ Sell ต่ำกว่าราคา 39,108 USD
ตามภาพ หากเราส่งคำสั่งขายด้วยจำนวนเงิน 222,933 USD
ระบบจะทำการ Sell ทันทีให้กับเรา 3 ราคาใน Order book ฝั่ง Buy ได้แก่
39,110 USD ด้วยจำนวนเงิน 222,815 USD
39,109 USD ด้วยจำนวนเงิน 117 USD
39,108 USD ด้วยจำนวนเงิน 1 USD
#Sell(2)
หากตั้ง Limit Order ที่ราคา 39,108 USD
ระบบจะทำการ Sell ทุกราคาที่มีใน Order book
แต่จะไม่ Sell ต่ำกว่าราคา 39,108 USD
ตามภาพ หากเราส่งคำสั่งขายด้วยจำนวนเงิน 322,932 USD
ระบบจะทำการ Sell ทันทีให้กับเรา 2 ราคาใน Order book ฝั่ง Buy ได้แก่
39,110 USD ด้วยจำนวนเงิน 222,815 USD
39,109 USD ด้วยจำนวนเงิน 117 USD
สำหรับส่วนที่เหลืออีก 100,000 USD
จะถูกวางใน Order book ฝั่ง Sell
เพื่อรอรับ Order ฝั่ง Buy
#Sell(3)
หากตั้ง Limit Order ที่ราคา 39,111 USD
ระบบจะทำการ Sell ทุกราคาที่มีใน Order book
แต่จะไม่ Sell ต่ำกว่าราคา 39,111 USD
*โดยราคาที่มีการทำธุรกรรมล่าสุด คือ 39,110.50 USD
ตามภาพ หากเราส่งคำสั่งขายด้วยจำนวนเงิน 222,815 USD
ระบบจะวางคำสั่งรอใน Order book ฝั่ง Sell
เพื่อรอรับ Order ฝั่ง Buy (ธุรกรรมจะยังไม่เกิดขึ้นในทันที)
// OhManLan // // OhManLan // // OhManLan //
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ OhManLan ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
Elliott wave by Eaw อัพเดท BTC/USDT ลงมาตามที่คาดการณ์ 25 กุมภาพันธ์ 2565
1 มีนาคม 2565
เมื่อคืนราคาลงมาทำ wave-e ของ Double Combination ตามที่คาดการณ์ ลงมาเกือบ 38,398.05 ดูจากทรงแล้วมีโอกาสเป็นรูปแบบสามเหลี่ยม Contracting Triangle Non-Limiting ตอนนี้เป็นแค่คลื่นย่อยของ C ถ้าจบรูปแบบแล้วจะทำ (คลื่นดี) ใหญ่แถวๆหกหมื่นกว่าๆ คลื่นสี่ยังไม่จบอีกนานจบคลื่นดี กว่าจะขึ้นคลื่นห้า ก็ยังต้องลง wave-e อีกรอบเพื่อจบคลื่น 4 ใหญ่
นับคลื่น BTC/USD ที่เคยนับไว้
7 กุมภาพันธ์ 2561
19 พฤศจิกายน 2561
23 มิถุนายน 2562
15 ธันวาคม 2562
3 พฤษภาคม 2563
9 กรกฏาคม 2563
1 ธันวาคม 2563
27 ธันวาคม 2563
20 ตุลาคม 2564
4 ธันวาคม 2564
Elliott wave by Eaw อัพเดท XAU/USD ที่นับคลื่นไว้ 7 ส.ค. 2562
ในภาพใหญ่จะต้องเบรคคลื่น x3 เพราะถ้าไม่เบรค x3 คลื่น5 จะล้มเหลว ตอนนี้ติดแนวต้านแรก 1968.99 ถ้าผ่านได้จะไป 2102.54 และ 2210.48 เป้าหมายคลื่น 5 คือ 2318.43 เพราะว่า Wave-5 Non-Extended ต้องใช้กฏ Rule of Equality จะต้องเอาไป applies to waves 1&5 ในรูปแบบโดยทั่วไปของคลื่นสามยืดตัว คลื่นหนึ่ง และ คลื่นห้ามักจะเท่าๆกัน แต่ถ้ายาวไม่เท่ากันคลื่นหนึ่ง คลื่นห้าก็จะต้อง 61.8% ของคลื่นสามยืดตัว
และก็มีคำถามมาหลังไมค์ว่าแอดมินครับ สอบถามหน่อยว่า คลื่นสามยืดตัวจะต้องมคลื่นย่อยเป็น 1 2 3 4 5 เท่านั้นหรือไม่ ผมเห็นแอดมินนับทองคำ คลื่นสามยืดตัว แต่คลื่นย่อยเป็น a b c x a b c ผมเลยสงสัย ผมอ่านหนังสือ Neo-wave มาสองปีแล้วยากมากท้อมากเลยครับแอดมิน
เรื่อง Wave-3 Extended ในบทที่ 11 หน้า 3 เขียนว่า "If the 3rd wave is a polywave, consecutively smaller 2nd-waves แปลว่า ถ้าคลื่น 3 rd (wave-3 ที่สูงถึงหรือเกิน 261.8% of wave-1) เป็นโพลีเวฟ คลื่น 2 ก็ควจะเล็กลงตามลำดับ ชุดที่เป็น a b c x a b c เป็น Non standard small x wave คือ โพลีเวฟสองชุด มาเชื่อมด้วย x-wave ดังนั้นคลื่นย่อยคลื่นสามจะเป็น a b c x a b c จึงไม่แปลกเพราะมีข้อมูลจากหนังสือรองรับ การนำมาใช้อยู่ความเข้าใจ ถ้าพูดในแง่เทรดเดอร์ ในตลาดมันคือ Zero-sum game การใช้ Neo-wave ใครใช้ได้เชี่ยวชาญกว่าก็กำไร ใครที่มีทักษะที่อ่อนด้อยกว่าก็ขาดทุน ขาดทุนคุณก็คือกำไรของผม ถ้าอยากเก่งก็ต้องอ่าน แล้วก็ฝึกๆๆๆๆๆๆๆครับ เพราะมันเป็นทักษะยิ่งฝึกก็ยิ่งชำนาญ ไม่มีทางลัด แม้การถาม ผู้ที่ศึกษามาก่อนก็เป็นทางลัดอย่างนึง แต่ตัวเราเองก็ต้องตรวจสอบว่าคนที่ตอบรู้จริงหรือเปล่าไม่เช่นนั้นก็จะพาเข้ารกเข้าพงเสียเวลาศึกษาไปอีก สุดท้ายเราก็ต้องไปอ่านใหม่อยู่ดีว่าคนที่เราถามนั้นรู้จริงหรือเปล่า แม้แต่กับการถามจากแอดมินก็ตามแอดเองก็จะบอกว่าเอามาจากบทไหน ย่อหน้าไหนให้ไปอ่านเองเพิ่มด้วย อย่าเชื่อใคร 100% จงพิสูจน์ แอดมินเองก็ไม่ได้ตั้งตัวเป็นอาจารย์ใครหรอกครับ แอดเองเหมือนกับรุ่นพี่รับติวหนังสือมากกว่า และ ตัวแอดมินเองก็ไม่ได้เชื่อเจ้าของทฤษฎีทั้งหมด ทุกอย่างเกิดจากการ RECHECK และ Backtest มาหลายปีแล้วทั้งนั้น จึงกล้านำไปสอนคนอื่น ไม่งั้นสอนคนอื่นผิดๆเขินตายเลย ตัวแอดมินเองก็ไม่ได้เก่งทั้งหมดก็ยังต้องศึกษาทุกวันๆเพราะตลาดมันก็เปลี่ยนไปตลอดยิ่งนับวันก็ยิ่งซับซ้อนขึ้นผันผวนขึ้น แต่ Logic และ แก่นของ Neo-wave มันก็เหมือนเดิมถ้าเข้าใจมันก็ไม่ยากเกินไป
📢📢วางแผนเทรดทองด้วย Advance QM Demand Supply 2 มีนาคม 2565ถึงเวลาคนส่วนทำงาน
แผนต่างๆ อธิบายอย่างละเอียดใน Facebook Live ตอนเช้าครับ
------------------------------------------------------------------------------
ข้อควรระวัง ในการเทรด Pattern SNCR1ต้องสัญญาณมี RSI Divergence Confirm ก่อนเข้าเทรด
MM ด้วยนะครับเป็นห่วง 😊😊
ช่วย Like Comment และกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
รายการตัวย่อ
RBR = Rally Base Rally
DBD = Drop Base Drop
SBR = Support Become Resistance
RBS = Resistance Become Support
R= Resistance
S= Support
TF= Time Frame
QM = Quasimodo Pattern
QMR = Quasimodo Reversal
QML = Quasimodo Level
QMC = Quasimodo Continuous
QMM = Quasimodo Manipulation
MPL = Maximum Pain Level
FRT = Fast Return
📢📢วางแผนเทรดทองด้วย Advance QM Demand Supply 2 มีนาคม 2565
**บทความนี้เป็นเพียงการวางแผนเทรดส่วนบุคคล ไม่ได้มีเจตนาชักชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
📢📢วางแผนเทรดทองด้วย Advance QM Demand Supply 1 มีนาคม 2565วันนี้ยังไม่มีแผนเทรดที่ชัดเจนขอราคาทำโครงสร้างก่อน
แผนต่างๆ อธิบายอย่างละเอียดใน Facebook Live ตอนเช้าครับ
------------------------------------------------------------------------------
ข้อควรระวัง ในการเทรด Pattern SNCR1ต้องสัญญาณมี RSI Divergence Confirm ก่อนเข้าเทรด
MM ด้วยนะครับเป็นห่วง 😊😊
ช่วย Like Comment และกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
รายการตัวย่อ
RBR = Rally Base Rally
DBD = Drop Base Drop
SBR = Support Become Resistance
RBS = Resistance Become Support
R= Resistance
S= Support
TF= Time Frame
QM = Quasimodo Pattern
QMR = Quasimodo Reversal
QML = Quasimodo Level
QMC = Quasimodo Continuous
QMM = Quasimodo Manipulation
MPL = Maximum Pain Level
FRT = Fast Return
📢📢วางแผนเทรดทองด้วย Advance QM Demand Supply 1 มีนาคม 2565
**บทความนี้เป็นเพียงการวางแผนเทรดส่วนบุคคล ไม่ได้มีเจตนาชักชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
📢📢วางแผนเทรดทองด้วย Advance QM Demand Supply 28 ก.พ. 2565📢📢วางแผนเทรดทองด้วย Advance QM Demand Supply 28 ก.พ. 2565
แผนต่างๆ อธิบายอย่างละเอียดใน Facebook Live ตอนเช้าครับ
------------------------------------------------------------------------------
ข้อควรระวัง ในการเทรด Pattern SNCR1ต้องสัญญาณมี RSI Divergence Confirm ก่อนเข้าเทรด
MM ด้วยนะครับเป็นห่วง 😊😊
ช่วย Like Comment และกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
รายการตัวย่อ
RBR = Rally Base Rally
DBD = Drop Base Drop
SBR = Support Become Resistance
RBS = Resistance Become Support
R= Resistance
S= Support
TF= Time Frame
QM = Quasimodo Pattern
QMR = Quasimodo Reversal
QML = Quasimodo Level
QMC = Quasimodo Continuous
QMM = Quasimodo Manipulation
MPL = Maximum Pain Level
FRT = Fast Return
**บทความนี้เป็นเพียงการวางแผนเทรดส่วนบุคคล ไม่ได้มีเจตนาชักชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
ประเภทคำสั่งต่างๆ ทำงานอย่างไรเฮ้ทุกคน! 👋
วันนี้เราจะมาดูประเภทคำสั่งหลักที่มีอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน ที่มักพบเห็นในตลาด และอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับหน้าที่ของพวกมันเล็กน้อย ว่าพวกมันมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
ฟังดูเข้าท่านะ? ไปลุยกันเถอะ! 🚀
ก่อนที่เราจะพูดถึงประเภทคำสั่งต่างๆ ที่คุณอาจเห็นเมื่อคุณทำการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มของ TradingView สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าตลาดเกือบทั้งหมดทำงานอย่างไรในตอนแรก
เมื่อพูดถึงตลาดไม่ว่าที่ใด เวลาไหน ก็มี “BEST BID” และ “BEST ASK” เมื่อใดก็ได้ 🔢
BEST BID คือราคาสูงสุดที่ใครบางคนยินดีจ่ายสำหรับสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง และ BEST ASK คือราคาต่ำสุดที่ใครบางคนยินดีที่จะขายสำหรับสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง
ลองคิดดูว่าเมื่อพูดถึงหุ้น โบรกเกอร์ของคุณจะนำเสนอตลาดรวมของคำสั่งซื้อ (คำสั่งซื้อ) สำหรับหุ้นใดหุ้นหนึ่ง สมมติว่าคุณอยู่ในตลาดหุ้น Apple คุณจะเห็นได้ว่าหุ้นนั้น “ซื้อขายที่” 175.50 ดอลลาร์ นั่นหมายความว่าอย่างไร?
หมายความว่าราคาต่ำสุดที่ใครบางคนยินดีขายหุ้น Apple ของพวกเขาอาจอยู่ที่ประมาณ 175.52 ดอลลาร์ และราคาสูงสุดที่ใครบางคนยินดีจ่ายสำหรับหุ้น Apple อาจอยู่ที่ประมาณ 175.49 ดอลลาร์
ผู้เข้าร่วมตลาดเหล่านี้แสดงเจตจำนงของตนอย่างไร? โดยการวางลิมิตออร์เดอร์ ⌛
1.) ลิมิตออร์เดอร์ เป็นคำสั่งประเภทหนึ่งที่คุณส่งไปยังสถานที่ซื้อขายเมื่อคุณต้องการซื้อหรือขายบางอย่างในราคาที่แน่นอน
ในตัวอย่าง Apple ด้านบน สมมติว่าคุณต้องการซื้อ Apple แต่คุณไม่ต้องการจ่ายเงินมากกว่า $175.25 เมื่อคุณป้อนคำสั่งซื้อนี้และคลิก "ส่ง" คำสั่งซื้อของคุณจะไปถึงสถานที่ซื้อขายและเข้าร่วมคำสั่งซื้อในราคา 175.25 ดอลลาร์ และตอนนี้คุณจะอยู่ในสถานะ "Live" และอยู่ในตลาด โบรกเกอร์ของคุณจะหักเงินสดที่จำเป็นในการดำเนินการตามคำสั่งซื้อนั้นจากกำลังการซื้อของคุณในขณะที่คำสั่งซื้อของคุณเผยแพร่อยู่
คำถามต่อไป: หากทุกคนมีลิมิตออร์เดอร์ในรายการออร์เดอร์ แล้วราคาจะลดลงมาที่คุณไหม? 🔽
มีอยู่สองสามวิธี แต่วิธีหนึ่งที่พบบ่อยที่สุดคือ: มาร์เก็ตออเดอร์ ⌚
2.) มาร์เก็ตออเดอร์ คือคำสั่งที่ส่งไปยังตลาดและดำเนินการซื้อหรือขายสินทรัพย์ทันทีไม่ว่าราคาจะเป็นเท่าไร
ผู้คนจำนวนมากใช้มาร์เก็ตออเดอร์เพราะพวกเขารับประกันได้ว่าคุณจะได้โพสิชั่นที่คุณต้องการในทันที ข้อเสียคือเมื่อคุณส่งมาร์เก็ตออเดอร์ คุณจะไม่สามารถควบคุมราคาที่คุณได้รับ ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ในทันที และคุณอาจได้โพสิชั่นในราคาที่คุณไม่ต้องการ
กลับไปที่ตัวอย่างของเรา: หากคุณกำลังรอคำสั่งซื้อของคุณใน AAPL ซื้อหุ้นที่ 175.25 ดอลลาร์ ดังนั้นใครก็ตามที่จ่ายเงินให้กับคุณจะข้ามสเปรด ซึ่งนั่นอาจเป็นคำสั่งมาร์เก็ตออเดอร์ 💵
สมมติว่าคุณได้รับการซื้อหุ้นใน AAPL ที่ 175.25 ดอลลาร์ และคุณต้องการออกจากสถานะการซื้อของคุณหากหุ้นมีราคาต่ำกว่า 175 ดอลลาร์ ในกรณีนี้ คุณจะต้องใช้สต๊อปออเดอร์ 🛑
3.) สต๊อปออเดอร์ คือคำสั่งที่คุณส่งไปยังตลาดที่อยู่บนเซิร์ฟเวอร์ Nasdaq/NYSE ซึ่งพวกมันมีราคาทริกเกอร์ และเมื่อราคาถูกทริกเกอร์ พวกมันจะดำเนินการ ลิมิตออเดอร์ หรือ มาร์เก็ตออเดอร์ ตามข้อมูลที่คุณได้ป้อนไป สิ่งเหล่านี้คือ สต๊อปลิมิตออเดรอ์ และ สต๊อปมาร์เก็ตออเดอร์
อาจฟังดูซับซ้อน แต่ก็ง่ายกว่าที่คิด
อีกครั้ง; กลับไปที่ตัวอย่างของเรา สมมติว่าคุณได้รับการซื้อใน AAPL ที่ 175.25 แต่แล้วคำสั่งสต๊อปออเดอร์ของคุณจะทำงานที่ 174.99 (คุณต้องการออกจากสถานะการซื้อ หากราคาหุ้นต่ำกว่า 175)
หากใช้มาร์ตเก็ตออเดอร์ในการสต๊อปออเดอร์ คุณจะถูกปิดออกจากโพสิชั่นในทันที ไม่ว่าราคาจะอยู่ที่เท่าไร ก็ง่ายๆ เท่านั้นล่ะ! ✅
สัปดาห์หน้า เราจะพูดถึงเทคนิคการสั่งซื้อที่เทรดเดอร์มืออาชีพใช้เพื่อให้ได้ราคาที่ดีขึ้น 🦾
ขอให้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย!
-ทีม TradingView 👀