ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปอันนี้ก็ไม่มีอะไรย่อมาจากทางเฟรม h1 ลงมาหาจุดเข้าที่ละเอียดขึ้นแค่นั้นเองเข้ามาดู m30 ดูซิว่าเขาสร้างแพทเทิร์นแบบไหนรูปแบบแพทเทิร์นก็มีเยอะแยะอยู่ใน google ไปหาเอาจำรูปแบบพวกนี้ไว้จำพวก price action ต่างๆเอาไว้แค่นั้นแหละมันไม่มีอะไรที่จะต้องมาลงในรายละเอียดอะไรมากกว่านี้แล้วมันก็หมดแค่นี้แหละมองกราฟก็มองแค่นี้ไม่ได้มองอะไรมากกว่านี้เลยที่เหลือมันก็คือฝึกสกิลบ่อยๆแค่นั้นเองฝึกเรื่องของอารมณ์เรื่องการmoney management แค่นั้นแหละ
ไอเดียชุมชน
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปh4 เราย่อลงมาจากที่วิเคราะห์ชุดเดิมจะได้ปะติดปะต่อภาพได้ก็จะเห็นว่ามันบีบเล็กลงเพื่อให้เราเทรดในกรอบที่เล็กลงแค่นั้นแหละหาจุดเข้าในกรอบ h4 แค่นั้นแหละ state new ในกรอบจะหา PA trade ใน side way ก็ดู m 30 m15 พวกนี้แล้วก็เก็บ tp sl ตามแนวรับแนวต้านแค่นั้นแหละไม่ต้องไปมองไกลมากหรอกเก็บทีละ 500 จุดนี้ก็หรูแล้ว
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปเพราะยอดดู D 1 ก็จะทำให้เห็นอะไรมากขึ้นช่วงราคาที่เราจะวิเคราะห์มันจะแคบลงพยายามบีบมุมมองให้มันแคบลงเพื่อใช้ในการวิเคราะห์หาจุดเช่าทุกอย่างไม่มีอะไรยุ่งยากก็คืออย่างที่เห็นนั่นแหละครับสังเกตแท่งต่อแท่งคู่การยกตัวกลับเงื่อนไขเดิมๆ break out แบบไหนก็วางแผนเทรดไปทางนั้นแค่นั้นแหละ
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปแนวโน้มกราฟมันก็เป็นแบบขาลงแต่ก่อนที่จะเป็นภาพนี้มันมีการยกตัวขึ้นมาก่อนแล้วก็เป็นไปได้ที่เป็นการยกย่อเพิ่มขึ้นต่อแต่อย่างที่เห็นนั่นแหละครับนั่นคือ time frame week มันขึ้นลงแต่ละทีเนี่ยมันใช้เวลานานถ้าจะเทรดเราก็เอาแค่ในกรอบที่ทำเส้นนำสายตาไว้ให้แค่นั้นแหละเอามาใช้ในการวางแผนว่าเราจะเทรดในทิศทางไหนวิกบอกเราได้แค่นี้แหละไม่ได้บอกอะไรมากกว่านี้แล้วก็เดี๋ยวไปหาจุดเข้ากันในทางเฟรมที่เล็กลงกันอีก
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปพนักงานข่าวมาเกี่ยวกับเรื่อง iPhone 16 จะมาแล้วหุ้นมันจะขึ้นขนาดนั้นเลยหรอทำไมถึงกล้าสร้างกระแสขนาดนั้นไม่เข้าใจเลยว่าทำไมชอบออกข่าวให้คนตื่นตลกเข้าไปซื้อของไปช้อปปิ้งกันขนาดนั้นเลยต้องการอะไรกับเม่าขนาดนั้นต้องการหลอกเงินมากขนาดนั้นเลยหรอจริงๆถ้าพูดถึงเรื่องคุณธรรมจริยธรรมหุ้นตัวนี้ผมคิดว่ายังไม่เหมาะสมที่จะเข้าซื้อเลยแต่มันก็จะออกว่าแหละพอพูดไปแล้วก็โดนว่าอีกว่ามันเป็นความพอใจของเขานั่นก็คือความพอใจของเขาคือเงินของเขาแต่ผมแค่อึดอัดเฉยๆว่ามันจังหวะไม่ได้ยังไม่สวยจะเข้าไปทำไมทำไมไม่รอให้มันพร้อมแล้วค่อยซื้อเหตุผลแค่นั้นแหละอยากจะซื้ออะไรก็ซื้อไปไม่ได้ว่าอะไรแล้วแต่เม่าเม่าแต่ละตัวก็ไม่เหมือนกัน
MARKET STRUCTURE เทรดเดอร์ต้องรู้ก่อนเทรดจริงMARKET STRUCTURE
เทรดเดอร์ต้องรู้ก่อนเทรดจริง
👯👯👯กลับมาพบเจอกันอีกเช่นเคยกับบทความที่เกี่ยวข้องกับเทคนิคการเทรดโดยตรงเลยฮะ ยิ่งโดยเฉพาะสำหรับมือใหม่หัดเทรดนี่ จัดว่าสำคัญมากๆเลย เพราะมันคือสิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้ และทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ มาครับ มาทำความรู้จักกับ MARKET STRUCTURE กันดีกว่า ว่ามันสำคัญอย่างไร
Market Structure โครงสร้างตลาด
โครงสร้างตลาดในการเทรด คือการทำความเข้าใจในเรื่อง หลักการการเชื่อมโยงกราฟใน Timeframe แต่ละ Timeframe ว่ามีความสัมพันธ์ุกันอย่างไร ไอ่เจ้าตัวนี้แหละที่ทำให้เราสามารถอ่านกราฟออก และทำให้การเทรดนั้นดูง่ายขึ้นเยอะเเลย
อันดับแรกต้องเข้าใจก่อนว่า กราฟแท่งเทียนนั้นมีคลื่นเวฟ และมีเทรนด์ในตัวของมันเอง อ้างอิงตามทฤษฎีดาว ( Dow Theory ) ซึ่งเป็นทฤษฎีอมตะ ทฤษฎีต้นแบบในการอ่านคลื่นกราฟ โดยสามารถจำแนกแบ่ง เทรนด์ในการเทรดคร่าวๆดังนี้
1. Primary Trend คือแนวโน้มเทรนด์หลัก เทรนด์ใหญ่ ซึ่งทำให้เราแยกกราฟออกได้ว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง
2. Secondary Trend แนวโน้มรอง ส่วนใหญ่เทรนด์แนวโน้มรองมักจะเป็นเทรนด์ในกรอบระยะสั้น รวมไปถึงการพักตัวหรือสวิงเทรนด์ไซด์เวย์ และมีโอกาสที่ราคาจะไปต่อหรือกลับตัวได้เช่นกัน
3. Minor Trend แนวโน้มย่อย ส่วนใหญ่กรอบเทรนด์แนวโน้มย่อยมักจะอยู่ในกรอบ TF เล็กๆ วิ่งในระยะสั้นๆ และเป็นการย่อลงเพื่อไปต่อตามเทรนด์ในแนวโน้มใหญ่
แท่งเทียนของราคา ใน TF ต่างๆจึงมีความสัมพันธ์กันกับ Market structure
เปรียบเทียบการแบ่งแยก Timeframe เล็ก และใหญ่ ในกราฟคู่เงินเดียวกัน
การอ่านเทรนด์ออกจาก Timeframe (TF) หลายTimeframe จากใหญ่ ไป เล็ก จะทำให้เราอ่านกราฟออกและแบ่งแยกการเทรดได้ ว่าจะ Buy หรือ Sell และทำให้เราเห็นจุด โลว์ และ จุด ไฮ ( HH , HL, LL ) ที่ใกล้ที่สุด และโอกาสในการชนะก็ค่อนข้างได้เปรียบมากขึ้นอีกด้วย
👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ง่ายๆเบสิค และทำให้หลายๆคนมองเห็นจุดเข้าที่ได้เปรียบได้มากขึ้น จากสัญญาณที่แตกต่างกันในหลาย TF แบบนี้เราก็จะเทรดได้ง่ายแถมกำไรดีขึ้นด้วยนี่สิ ว่าแล้วก็อย่าลืมเอาคู่การเทรดและ การอ่านสัญญาณจากแท่งเทียนมาฝึกกันดูนะครับ แอดบอกเลยว่า กำไรเพิ่มขึ้นแน่นอน แล้วอย่าลืม หมั่นฝึกฝนการเทรดให้ได้ทุกวัน ยิ่งเราเทรดบ่อยๆเราจะเก่งขึ้นเองครับ และที่สำคัญอย่าลืม MM และสร้างแผนการเทรดที่ดีด้วยนะครับ จะช่วยทำให้เราแกร่งมากยิ่่งขึ้น และเจ็บน้อยลง แอดเอาใจช่วยนะครับ
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปตัวนี้มันดูแล้วไม่ต้องพิมพ์ d1 มันก็มีวอลลุ่มสามารถซื้อขายได้ในทำเฟรมเล็กอยู่แหละแต่ถ้าดูด้วยตาจริงๆเนี่ยมันใกล้จะระเบิดแล้วรอระเบิดแล้วก็เลือกทางแล้วค่อยเข้าจะได้ซื้อขายตามเทรนก็จะเก็บได้ไวกว่าถ้าซื้อตอนนี้มันก็จะยึกๆยักๆน่าเบื่อเป็นไปได้ก็อยู่บ้านทำอย่างอื่นฝึกทักษะอย่างอื่นไปดีกว่าหรือจะอ่านหนังสืออะไรเพิ่มทักษะอะไรยังจะดีกว่ายังไม่นั่งเฝ้าเลยรอให้มันระเบิดก่อนหาจังหวะเข้าในทางเฟรมที่เล็กลงนิดนึงหาpaใน h1
เอาเวลาไปอยู่กับลูกปลูกต้นไม้ออกกำลังกายก็ได้ไม่ต้องไปนั่งเฝ้า
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปแนวโน้มของ ทำเฟรมใหญ่วิกก็ยังมองเป็นขาลงแต่มันอยู่ในกรอบของ side way ใหญ่ week ด้วยเพราะฉะนั้นมันยังไม่ได้ลงตอนนี้หรอกมันก็จะวิ่งแบบ side way ก่อนเพราะฉะนั้นใน h4 เขากำลังยืนยันขาขึ้นหาจุดเข้า time frame h1 หา price action ฉากขึ้นแล้วรอให้กราฟมันย่อกลับลงมาในกรอบเดิมก็บายขึ้นไป sltp ตามแนวรับแนวต้านสำคัญ
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปในTF m 15 ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรเลยจากการวิเคราะห์ของก่อนหน้านี้แค่มาย่อยดูว่ามันจะมีจุดเข้าอะไรที่ละเอียดขึ้นไหมไอ้นี่ล่ะครับคือ price action หรือพวกโซนที่ดีที่สุดนั่นแหละแต่อย่างที่ว่าล่ะครับเห็นไหมว่าถ้าเวลามันลงอ่ะเราก็สามารถเซลล์ได้เหมือนกันนะแต่ว่ามันต้องเก็บเร็วเพราะพี่ใหญ่บอกขึ้นอยู่ระวังสวนโดนลากด้วย เก็บบนเก็บล่าง100จุดเข้าออกบ่อย
เพราะฉะนั้นยิ่งย่อยเล็กยิ่งเห็นจุดเข้าได้เยอะขึ้นเก็บได้ไวขึ้นออกจากตลาดได้เร็วขึ้น
เลือกเอาล่ะครับว่าจะเอาแบบไหนมันขึ้นอยู่กับตัวเรามันนี่ไม่ได้เน้นของเราเงินทุนของเราทุกอย่างมันนี่ไม่เห็นก่อนเสมอทำตามแผนด้วยอย่าทำนอกแผนโดนมาแล้วเมื่อวานนี้น้อยกว่าเหรียญเสียดายมาก
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไป ใช้ชุดวิเคราะห์เดิมของ time frame week ย่อลงมาtime frame d1จะเห็นภาพรวมเลยว่าใน 9,300 จุดนั้นน่ะช่วงราคาปัจจุบันมันก็คือกรอบ side wayเพราะฉะนั้นถ้าจะเทรดสำหรับสัปดาห์หน้าก็ต้องเทรดในรูปแบบของ side way ก่อนแต่อย่างที่ว่าแหละ 5 วัน 5 แท่งใน 1 วันมีการวิ่งลงวิ่งขึ้นของแท่งเล็กๆมากมายแล้วเราจะมาอยู่รอเทรดอีก 5 วันไม่รู้จะทำ action อะไรให้เราได้เห็นคงเป็นไปไม่ได้เช่นเดียวกันใน time frame day บอกเราได้แค่นี้ไม่มีอะไรมากกว่านี้แล้วถ้าจะเทรดตามรูปแบบต่างๆนี้ก็คงต้องย่อลงไปดูในทางเฟรมที่เล็กลงดีกว่าเดี๋ยวลงไปดู h4 กันครับ
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปทำเฟรม week แนวโน้มครับดูด้วยตามันก็ขึ้นนั่นแหละครับแต่กว่าเราจะได้เก็บคงรอนานมากอย่าไปคิดว่ามันจะได้ซื้อขายกันเร็วๆนี้หรอกดูแค่นี้พอสัปดาห์หน้าวางแผนเทรดในกรอบนี้ 9,300 จุดทะลุขึ้นก็วางแผนเทรดใบต่อทะลุลงก็วางแผนเขตเซลล์ต่อแต่ถ้าไม่ทะลุก็วางแผนเทรดในกรอบ 9,300 จุดทำ family บอกให้เราเห็นได้แค่นี้เราไปวิเคราะห์อะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้วจะหา price action อะไรในทำเฟรมวิกมันไม่ได้มีประโยชน์สำหรับคนเทรดเก็บรายวันแต่มันเป็น price action ที่มีประโยชน์สำหรับคนเก็บรายเดือนฉะนั้นดูๆเอาไว้ครับมี price action ไหมถ้ามีก็ดูๆไว้แค่นั้นแหละ
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการเทรดอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk Reward Ratio) เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการบริหารจัดการความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการเทรด Forex โดยอัตราส่วนนี้จะเปรียบเทียบระหว่างจำนวนเงินที่คุณอาจจะเสียไป (ความเสี่ยง) กับจำนวนเงินที่คุณคาดหวังว่าจะได้รับ (ผลตอบแทน) จากการเทรดแต่ละครั้ง
ทำความเข้าใจอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk Reward Ratio) เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการบริหารจัดการความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการเทรด Forex โดยอัตราส่วนนี้จะเปรียบเทียบระหว่างจำนวนเงินที่คุณอาจจะเสียไป (ความเสี่ยง) กับจำนวนเงินที่คุณคาดหวังว่าจะได้รับ (ผลตอบแทน) จากการเทรดแต่ละครั้ง
ทำไมอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนถึงสำคัญ?
การควบคุมความเสี่ยง: ช่วยให้นักเทรดกำหนดวงเงินขาดทุนสูงสุดที่ยอมรับได้ และป้องกันไม่ให้ขาดทุนสะสมมากเกินไป
เพิ่มโอกาสในการทำกำไร: เมื่ออัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนอยู่ในระดับที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณทำกำไรได้มากกว่าขาดทุนในระยะยาว
สร้างวินัยในการเทรด: การตั้งเป้าหมายอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนจะช่วยให้นักเทรดมีวินัยในการปฏิบัติตามแผนการเทรด
วิธีคำนวณอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนคำนวณได้โดยการหารระยะทางจากจุดเข้าซื้อไปยังจุด Stop Loss ด้วยระยะทางจากจุดเข้าซื้อไปยังจุด Take Profit
ตัวอย่าง: สมมติว่าคุณซื้อสกุลเงินคู่ EUR/USD ที่ราคา 1.1000
Stop Loss: คุณตั้ง Stop Loss ไว้ที่ 1.0900 (ความเสี่ยง = 100 pips)
Take Profit: คุณตั้ง Take Profit ไว้ที่ 1.1100 (ผลตอบแทน = 100 pips)
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 100 pips / 100 pips = 1:1
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ดีคือเท่าไหร่?
โดยทั่วไปแล้ว อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่มากกว่า 1:1 ถือว่าดี เนื่องจากหมายความว่าคุณมีโอกาสที่จะทำกำไรได้มากกว่าที่คุณจะเสียไป อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนที่เหมาะสมจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลและขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การเทรดของแต่ละคน
ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการตั้งค่าอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน
ความผันผวนของตลาด: ในตลาดที่ผันผวนสูง อาจเหมาะที่จะตั้งอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่สูงขึ้น
จำนวนครั้งในการเทรด: หากคุณเทรดบ่อยครั้ง อาจเหมาะที่จะตั้งอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ต่ำลงเพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดทุนหลายครั้งติดต่อกัน
เป้าหมายในการเทรด: หากเป้าหมายของคุณคือการทำกำไรระยะยาว อาจเหมาะที่จะตั้งอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่สูงขึ้นเล็กน้อย
สรุป
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการบริหารจัดการความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการเทรด Forex การทำความเข้าใจและนำไปใช้กับการเทรดของคุณอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จได้มากยิ่งขึ้น
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปเมื่อเช้าพอสอบกองทุนขาดทุนไป 100 เหรียญอุตส่าห์ปั้นมาเกือบจะผ่านอยู่แล้ววิเคราะห์สาเหตุมาจากความมั่นใจตัวเองจนเกินไปวิเคราะห์ภาพรวมอยู่แล้วว่าแท่งคู่ h4 จะทุบลงแต่เชื่อมั่นว่าเทรดตามแนวโน้มยังไงก็ขึ้นสุดท้ายโดนย่อกับลงมาอย่างแรงไม่สามารถที่จะประคองไว้ได้ยอม SL ดีกว่าหาจังหวะเข้าใหม่เดี๋ยวคงจะหาจังหวะเข้าตามภาพที่วิเคราะห์ล่าสุดนี้ก่อนจุดเข้าเล็กๆที่จะเก็บสั้นๆค่อยหาระหว่างทางอีกทีนึง
Cup and Handle Pattern ถ้วยกาแฟ คืออะไร?Cup and Handle Pattern
ถ้วยกาแฟ คืออะไร?
👯👯👯กลับมาพบเจอกันอีกเช่นเคยกับบทความที่เกรี่ยวกับเทคนิคการเทรดดีๆ แพทเทรินแจ่มๆที่มักมาให้เราได้พบได้เจอบ่อยๆ และ Cup and Handle Pattern หรือที่เรามักเรียกกันว่าถ้วยกาแฟก็ยังไม่จกเทนด์นะ เพราะมันออกมาห้เราได้เห็นกันอีกแล้ว
วันนี้เแอดพาทุกท่านไปรำลึกและหวนคืนการรื้อฟื้นรูปแบบถ้วยกาแฟมาให้ได้อ่านกัน สำหรับสายเทรดทอง ที่กำลังติดดอยกันอยู่ในตอนนี้ เพราะ เขามาอีกแล้วฮะ ไหน มาแล้วหรอ มาตอนไหน แล้วตอนนี้ถึงตรงไหนแล้ว บทความนี้มาช่วยวิเคราะห์ให้ได้อ่านกันครับ
Cup and Handle Pattern ถ้วยกาแฟ คืออะไร?
รูปแบบกราฟถ้วยกาแฟเป็นสัญญาณในตลาดกระทิง หรือแนวโน้มขาขึ้นระยะยาวฮะ
องค์ประกอบของรูปแบบนี้ก็มี2 อย่างเเท่านั้น คือ ถ้วย และหูถ้วย
1. ขนาดของถ้วยกาแฟ มักมีหลายขนาดและหลายรูปทรง และทีเรามักจะเห็นกันบ่อยๆ ก็มักจะเป็นรูปตัวยู U นั่นก็คือ
- ราคามีแรงซื้อเข้ามา แล้วเกิดแรงเทขายอย่างหนัก จนเกิดการพักตัวที่ฐานล่างเป็นเวลานาน จนเกิดเป็นสวิงเทรนไซด์เวย์
- หลังจากนั้น ราคาก็จะมีแรงซื้อเข้ามาอีกรอบ เป็นอันเสร็จ การทำถ้วยรูปตัว U
2. แต่มันจะไม่จบเพียงเท่านี้ หลังจากที่หลอกล่อเม่ามาได้ระดับนึงแล้ว กราฟจะยังหลอกเม่าต่อไปอีก ด้วยการทำหูถ้วยกาแฟ ซึ่งมีรูปแบบการวิ่งคล้ายถ้วยกาแฟเลย ต่างกันตรงที่ เล็กกว่า น้อยกว่า แคบกว่า
-ซึ่งมาถึงหูตรงนี้แล้ว รูปทรงของหูกาแฟ ก็สามารถเป็นได้ทั้งตัว U และตัว V
เราควรเริ่มเทรดที่ไหนดี
1. หากคุณเป็นสายเทรดเทรนด์ระยะยาว ถือว่าคุณโชคดีมาก ตรงที่เราจะได้จุดเข้าสวยๆ และเก็บกำไรได้เพิ่มอีก หากราคาลงมาใหม่ และขึ้นไปใหม่
2. แต่หากคุณเป็นนักเทรดระยะสั้น ๆ แนะนำให้มองหาหูกาแฟเป็นหลัก เพราะเป็นไปได้สูงมากที่ราคาจะเบรคเอ๊าท์ทะลุแนวต้านเก่าขึ้นไป ทำไฮใหม่ ซึ่งจัดว่าสูงและไกลมาก เผลอๆระยะการทำ take profit อาจจะมีระยะที่ยาวและสูงพอๆกะรูปทรงของถ้วยกาแฟเลย ( วัดระยะได้จากก้นถ้วยกาแฟจนถึงปากถ้วยกาแฟ)
จุดทำกำไรก็ง่ายๆเลยด้วยการวัดระยะของถ้วยกาแฟตั้งแต่ก้อถ้วย จนถึงปากถ้วยกาแฟว่ามีระยะวิ่งประมาณเท่าไหร่ สดส่วนตรงนี้แหละจะเป็นระยะทำกำไรในอนาคตของเรา ที่มีความน่าจะเป็นค่อนข้างสูง แต่อาจต้องใช้เวลานานนิดนึงนะฮะ
ต้องฝึกการรอหน่อย แต่ถ้าไม่ชอบรอ ก็ฝึกการทำกำไรระยะสั้น โดยยึดหลัก ย่อแล้วเข้า Buy เป็นหลัก เพื่อหวังผลกำไรในการไต่ขึ้นไปนั่นเอง
👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ง่ายๆเบสิค แต่หลายๆคนมักมองจะมาเห็นสัญญาณในช่วงท้ายๆหรือตรงหูไปแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะทำกำไรไม่ได้นี่นา หลักสำคัญที่เราต้องทำเลยก็คือการรอ และหาจังหวะสวยๆครับ ฝึกฝนบ่อยๆเราจะอ่านกราฟออกเอง และบางทีการฝึกใจเย็นก็ทำให้เราได้กำไรเพิ่มมากขึ้นด้วยนะ แอดคอนเฟริม
หมั่นฝึกฝนให้ได้ทุกวัน และเทรดบ่อยๆเราจะเก่งขึ้นเองครับ และที่สำคัญอย่าลืม MM และสร้างแผนการเทรดที่ดีด้วยนะครับ จะช่วยทำให้เราแกร่งมากยิ่่งขึ้น และเจ็บน้อยลง แอดเอาใจช่วยนะครับ
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปตอนนี้กำลังจะลองหาจุดเข้าให้มันเล็กลงอีกโดยบีบไทม์เฟรมหลักใช้แท่งแนวรับต้านของ h4 h1 เป็นหัวใจแล้วหาจุดเข้าซื้อใน m15 พบว่ามี price action มากมายที่สามารถเข้าซื้อได้แต่อย่างที่บอกคือพื้นฐานสำคัญจะต้องทำแนวโน้มไม่ทำเฟรมเล็กให้เห็นก่อนชัดเจนจากนั้นก็รอการสร้าง price action จะต้องสอดคล้องกับแนวโน้มด้วยมิเช่นนั้นมันจะเป็นการย้อนกราฟหรือไม่เรียกง่ายๆก็คือซื้อแล้วอาจจะถูกลากก็ได้อย่างในขณะนี้แนวโน้มกราฟภาพรวมใหญ่ของ H4 กับ h1 มันก็คือside way 2,200 จุดแต่ใน m15 มันยกตัวขึ้นเราก็ต้องหา price action ขาขึ้นแบบไหนก็ตามที่มันสอดคล้องกับแนวโน้มของขาขึ้น m15 แล้วก็เก็บสั้นๆไปทดลองดูแล้วก็ชัดเจนใช้ได้อยู่กำลังฝึกอยู่เหมือนกันลองฝึกกันดูครับ
ฝึกวิเคราะห์หาจุดเข้าซื้อให้ละเอียด แม่นยำยิ่งๆขึ้นออกแผนการเทรดในเอ็ม 15 ก็เป็น side way แต่มีวอลลุ่มอยู่ถึง 2,000 จุดเลยนะจะไปจะเซลล์ในกรอบก็ได้เก็บสั้นๆเอาระวังมันสวนกันไปสวนกันมาด้วยต้องหา price action ให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยเข้าออเดอร์ในแต่ละส่วนจะไปก็ price action by จะเซลล์ก็ price action เซลล์จะระเบิดไปข้างบนก็หา PA บายจะระเบิดไปข้างล่างก็หา p a saleแค่นั้นแหละครับ
ครับไม่ได้วิ่งตามฝันมันให้เราวิ่งแค่ในกรอบเราก็เก็บในกรอบแค่นั้นแหละอย่าไปคาดหวังว่ามันจะไปถึงดาวอังคารหรือลงไปยังรากลึกถึงใจคนอย่างนั้นก็ไม่ใช่