ไอเดียชุมชน
ฝึกอ่านกราฟหาจุดเข้าให้คมที่สุดวัฏจักรชีวิต
เทรด time frame ใหญ่
คนทุนมากก็ไม่เครียดยอมรับขาดทุนได้มากกว่า
ต่างจากคนทุนน้อยมีความเครียดสูงยอมรับขาดทุนได้น้อยหรือไม่ได้เลย
ฉะนั้นการเทรดไม่ใช่จะทำตามคนอื่นเขาควรต้องทำตามงบประมาณในตัวเราและเข้าเทรดในทางเฟรมที่เหมาะสมกับเราไม่ใช่เหมาะสมกับคนอื่นเอาเราเข้าไปสวมอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะประคองให้พอร์ตตัวเองอยู่รอดได้ตลอดไปอย่างไรก็ต้องโดนล้างพอร์ตอยู่ดี
ฝึกอ่านกราฟหาจุดเข้าให้คมที่สุดสรุปผลวิเคราะห์จากการใช้งานอินดีเคเตอร์ กราฟทะลุสัญญาณที่เครื่องมือบอกหมด โดนSLไปแล้วครับ ยังเหลือHเดิมอีกสองจุด ต้องรอดูPA SELLอีกครั้งหนึ่งการเทรดSELLสวนแนวโน้มขึ้นแต่ถ้าเข้าได้จุดติดก็ลงยาวลงไกลให้SLหน้าไม้ไป แต่อย่างที่เห็นแนวโน้มใหญ่ยังมองขึ้นการลงอาจเป็นเพียงการย่อเพื่อขึ้นต่อเท่านั้นก็เป็นได้
เดี๋ยวค่อยมาวิเคราะห์ใหม่สัปดาห์หน้า ตอนนี้ปล่อยให้กราฟมันพุ่งๆไปก่อนเอาให้สุดก่อน
ฝึกอ่านกราฟมีพี่ท่านหนึงทักมาถามว่ามันจะขึ้นไปได้อีกเท่าไหร่ ก็ลองทำไปดูซึ่งถ้าจะให้พูดแน่นอน 100% เลยมันก็ต้องเอาที่ไฮเดิมที่เคยสูงที่สุดนั่นแหละครับคือจุดที่กราฟจะขึ้นไปต่อ
ส่วนถ้ามันจะขึ้นต่อหรือมันจะลงต่อตรงนั้นคือการคาดเดาด้วยหลักการที่มีเครื่องมือให้ใช้เอามาลองคาดการณ์หรือเรียกอีกอย่างก็คือมั่วนั่นแหละครับก็ลองตีทั้งฝั่งขึ้นและฝั่งลงเอาไว้ก็ตามภาพเลยครับถ้ามันจะขึ้นต่อเวลามันลงมันก็จะลงได้ไม่เกิน 50% ตามหลักการทั่วไปแต่มันก็มีโอกาสลงไปสุดถึง4.236ได้เช่นกันที่มีสอนข้อมูลต่างๆมีอยู่ใน YouTube และ google ลองหาดูครับมันมีรายละเอียดบอกเยอะแยะไปหมดเลยวัดฟิโบว์อย่างไรก็ไปหาใน google youtube เอาครับ
ฝึกอ่านกราฟทดลองใช้เครื่องมือตัวนี้มาลองดูแล้วก็มองดูหน้าครับตอนนี้มันก็มีรูปแบบมากมายให้เราเลือกมองจะเป็น order block ก็ได้ FVGก็ได้หรือจะเป็น demand supply ก็ได้หรือจะเป็น price action อะไรก็ได้ในภาพนี้ภาพเดียวมีให้เลือกตั้ง 4-5 อย่างเราจะเอาทั้งหมดมาใส่เลยก็ได้แต่เราถนัดหรือเปล่า
หรือถ้าบอกว่าเฮ้ย....มันยุ่งมันเยอะเกินไปเอาแค่อย่างสองอย่างก็พอ
ก็นั่นแหละครับคือสิ่งที่ต้องเลือกใส่ moving average เข้าไปไหมใส่ไปแล้วมันรู้เรื่องไหมว่ามันต้องทำงานยังไง
นั่นแหละครับคือสิ่งที่อยากจะบอกคือว่าจริงๆเลยหลายๆอย่างที่บอกตรงนี้มันเป็นสิ่งที่คล้ายคลึงกันทั้งหมดเลยเพียงแค่เหลือแต่ว่าเราจะเลือกเอาอะไรมาใส่แค่นั้นเอง
อันนี้คือความจริงมันเป็นอย่างนี้จริงๆแล้วแต่ละหลักสูตรการสอนของแต่ละสำนักมันก็คือไอ้ตัวนี้แหละเพียงแต่เขาถนัดแบบไหนแล้วเขาเอามาสอนแค่นั้นเองให้เราจดจำแบบที่เขาสอนแค่นั้นเองซึ่งเราก็สามารถจดจำในแบบของเราก็ได้รูปแบบของเราก็ได้ประมาณนั้นแค่นี้ล่ะครับไม่มีอะไรต้องพูดแล้วหมดแล้วแค่นี้แหละ
มองดูจากภาพมันก็คือSW นั้นแหละเราก็ตีปิงปองเอา ทีนี้มัก็ขึ้นกับว่าเรากำเล็งฝั่งไหนอยู่แค่นั้นเอง
ฝึกอ่านกราฟยิ่งยกยิ่งSELแต่ต้องมีPA SELL ZONEเสมอไม่อย่างนั้นก็โดนลากฉะนั้นมีIndicatorให้ใช้แต่ก็ไม่ควรเข้าตามที่ระบบกำหนดควรเข้าเพราะรูปแบบของเราเงื่อนไขของเราindyเป็นเพียงเครื่องมือกลั่นกรองให้เราเหนื่อยน้อยลงเท่านั้น
มองใกล้ๆแนวโน้มSIDEWAY
แต่ถ้าย่อให้เล็กมันก็คือโน้มขึ้น
มันขึ้นกับมุมมองการมองเห็น
ของแต่ล่ะคน
บางคนมอง ขึ้น
บางคนมองลง
บางคนมองSW
มันมีรูปแบบการเข้าไม่เหมือนกัน
แต่มันสัมพันธ์กัน
อ้าวมีอีกคำถามเกิดมาในใจอีกและ ความสัมพันธ์กันของทามเฟรมก็ต้องหาข้อมูลเพิ่มอีกและ
ภาพเดียวมีกี่คำถามที่ต้องหาล่ะทีนี้ ยังไงต้องหาคำตอบให้ได้ห้ามดินพอกหางหมู
คำถามอีกแล้วถ้าเราย่อลงไปที่TFเล็กๆลงจุดเข้ามันจะสัมพันธ์กันไหมก็ต้องทดสอบทดลองวาดภาพสร้างสัญลักษณ์ในภาพใหญ่ไว้แล้วค่อยๆย่อเข้าดูที่ล่ะTFและสร้างระบบเงื่อนไขตัวเองขึ้นมาทีล่ะเฟรมๆประกอบเป็นภาพรูปแบบของตัวเราเอง
ถ้าทำได้ประมาณนี้เอาแค่นี้ก่อนคิดว่าคนที่ได้อ่านและจับหลักทิศทางการเรียนรู้ไม่ได้ ยังไม่มั่นใจตนเองยังคงต้องมองหาแหล่งเสียตังค์ค่าเล่าเรียนได้ลองกลับมามองตัวเองบ้างว่าแท้จริงแล้วความรู้มันอยู่ที่ตัวเราอย่ากลัวในสิ่งที่ควรเรียนรู้อย่าสนใจกระแสหลักว่าคิดจะเทรดต้องลงคอร์สเรียนเสียตังก่อนความรู้มีมากมายกว่ายุคก่อนมันไม่มีอะไรดีเท่ากับตัวเราเลือกที่จะศึกษาหาความรู้เอง เอาให้รู้อยากเรียนเสริมเพิ่มค่อยไปลงเรียนมันจะได้ประสิทธิ์ภาพมากกว่าไม่เสียตังค์โดยเปล่าประโยชน์
ส่วนใหญ่คนไม่เข้าใจไปลงเรียนก็ไม่ต่างอะไรกับการไปถูกบังคับให้ปรับพื้นฐานความรู้บังคับให้ทำโน้นนี่นั้นเพราะอะไรรู้ไหมเพราะจุดอ่อนของคนเราคือการชอบถูกบังคับสั่งการคิดนอกกรอบไม่เป็นกลัวความไม่ปลอดภัย
ซึ่งถ้าเราลองคิดดีๆสิ่งที่เราทำอยู่มันไม่อันตรายแล้วทำไมเราไม่คิดที่จะลองทำมันดูก่อนล่ะ อย่าคิดหวังพึ่งคนอื่นควรคิดช่วยเหลือตัวเองก่อนดีที่สุดครับ
ฝึกอ่านกราฟตัวนี้ไม่เคยใช้นะครับ เพียงแต่อยากบอกว่าอยากรู้อะไรให้ถามgoogle AI ฯลฯ อยากให้ลองฝึกตั้งคำถามหาคำตอบ ทำให้ดูเป็นตัวอย่างเฉยๆนะครับ
การใช้ Bollinger Band ช่วยวิเคราะห์ แนวโน้มตลาด, ความผันผวน, และภาวะ Overbought/Oversold โดยสังเกตการเคลื่อนไหวของราคาเทียบกับแถบบน (เส้นต้าน/ซื้อมากเกินไป), แถบล่าง (เส้นรับ/ขายมากเกินไป), และเส้นกลาง (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่) นอกจากนี้ยังใช้ดู สัญญาณบีบตัว (Squeeze) ที่อาจบ่งชี้การ Breakout ครั้งใหญ่ หรือใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นเพื่อยืนยันสัญญาณ.
องค์ประกอบของ Bollinger Band
Middle Band:
เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (SMA) 20 วัน เป็นแกนกลางของกรอบ.
Upper Band:
เส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน บวกด้วยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) 2 เท่า.
Lower Band:
เส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน ลบด้วยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) 2 เท่า.
หลักการใช้งาน
1. ดูทิศทางแนวโน้ม:
ขาขึ้น (Uptrend): ราคาเคลื่อนไหวระหว่าง Middle Band และ Upper Band.
ขาลง (Downtrend): ราคาเคลื่อนไหวระหว่าง Middle Band และ Lower Band.
Sideway: ราคาเคลื่อนไหวอยู่รอบ Middle Band และไม่ค่อยขยับเข้าใกล้ Upper หรือ Lower Band.
2. วัดความผันผวน:
แถบแคบ (Narrow Bands): บ่งชี้ความผันผวนต่ำ (Low Volatility) ซึ่งอาจนำไปสู่การเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็วในอนาคต.
แถบกว้าง (Wide Bands): บ่งชี้ความผันผวนสูง (High Volatility).
3. ระบุภาวะ Overbought/Oversold:
Overbought: เมื่อราคาสัมผัสหรือทะลุ Upper Band แสดงว่าอาจมีการซื้อมากเกินไป และราคาอาจกลับตัวลงสู่ Middle Band.
Oversold: เมื่อราคาสัมผัสหรือทะลุ Lower Band แสดงว่าอาจมีการขายมากเกินไป และราคาอาจดีดตัวขึ้นสู่ Middle Band.
4. การบีบตัว (Squeeze):
สังเกตแถบ Bollinger Band ที่บีบตัวแคบลงอย่างมีนัยสำคัญ อาจเป็นการบ่งชี้ถึงความผันผวนที่กำลังจะเพิ่มขึ้น และอาจเกิดการทะลุ (Breakout) ที่รุนแรงตามมา.
5. การทะลุ (Breakout):
การทะลุแถบบนหรือล่างออกไปอย่างเด็ดขาด มักบ่งชี้ว่าโมเมนตัมได้เปลี่ยนแปลง และราคาอาจเคลื่อนไหวต่อไปในทิศทางนั้น.
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
ควรใช้ Bollinger Bands ร่วมกับเครื่องมือชี้วัดอื่น ๆ เช่น RSI เพื่อยืนยันสัญญาณ.
การเคลื่อนไหวของราคาที่อยู่นอกกรอบ Bollinger Bands เป็นเรื่องผิดปกติ และราคามักจะกลับเข้ามาเคลื่อนไหวในกรอบอีกครั้ง
ฝึกอ่านกราฟDivergence for many indicators v4
ตัว indicator อันนี้ก็ไม่เคยใช้งานหรอกครับก็ลองใส่ๆดูวิเคราะห์ดูอ่านค่าตามที่เขาบอกดูฝึกทำไปเรื่อยๆแบบนั้นแหละตัวไหนที่เราถนัดเช่าตัวนั้นนั่นแหละชอบอันไหนก็เอาตัวนั้นอันนี้ก็ลองทำมาดูก็มีความสัมพันธ์กับแนวความคิดของเราไม่ใช่น้อยนะก็พอได้แต่เราถนัดไหมถ้าถนัดก็เอาถ้าไม่มั่นใจคิดว่าแบบเดิมดีอยู่แล้วก็กลับไปแบบเดิมแค่นั้นเอง
ฝึกอ่านกราฟลองตีตามที่เครื่องมือเขาบอกไปก่อน
ย่อดูW D1 H4 H1 M30 M15 M5 M1
ดูว่าเขาจะบอกอะไรเรา
นี่แหละคือครูของเรา
ย่อH1จุดเข้าใกล้เคียงH4เลยแล้วทำไมเป็นเช่นนั้นมันคืออะไร
ถ้ามองผมคิดว่ามันก็คือหลักการ Demand & Supply แล้วมันคืออะไรอันนี้ผมไม่รู้ก็ไปหาคำตอบเอาเองในGooGle youtube มีสอนเพียบ เพียงแต่เราจะเลือกเรียนรู้อะไร
แต่อย่าลืมจุดประสงค์หลักเราคือการหาจุดเข้าที่แม่นยำที่สุด และการ MMในแบบฉบับของเราเท่านั้น
จบ....ที่H1 สำหรับการจับหลักเพื่อการเรียนรู้เพื่อไม่ให้สะเปะสะปะ อันนี้คือบอกกับตัวเองนะครับส่วนใครจะทำตามก็ทดลองเอาแล้วกันครับ
ฝึกอ่านกราฟลองตีตามที่เครื่องมือเขาบอกไปก่อน
ย่อดูW D1 H4 H1 M30 M15 M5 M1
ดูว่าเขาจะบอกอะไรเรา
นี่แหละคือครูของเรา
ทั้งหมดที่ทดลองทำมามันคือตัวอย่างการคิดเพื่อหาแนวทางของตัวเองซึ้งเราทุกคนทำได้หมดแต่จริตเราชอบแบบไหนอยากรู้อะไรนั้นคือตัวเราต้องรู้ว่าตัวเองอยากรู้ อยากเป็นอะไร แล้วไปหาคำตอบให้กับตัวเอง และทุ่มเทกับมันอย่าคิดว่ามีอาชีพหลักแล้ว ไอ้กราฟจะเป็นอย่างไรก็ช่างเราจะเสียเวลากับกราฟนานมากจนไม่ต่อเนื่องและเสียเวลาจากที่คิดว่าเดือนเดียวก็ทำได้กลายเป็น1ปี10ปีก็ไม่สำเร็จเหตุที่กล้าพูดเช่นนี้ก็เพราะพูดจากที่ตัวเองเป็นอยู่จากวันนั้นจนวันนี้ก็ปาเข้าไป10กว่าปีแล้วยังเทรดไม่ได้เลยจนถึงทุกวันนี้ ยังล้างพอตอยู่เหมือนเดิม
การจะใช้เครื่องมืออะไรเราก็ต้องเอามาทดลองมาใช้งานอย่าคิดว่ามีเครื่องมือแล้วจะเทรดพอตจริงได้เลยแป็บเดียวเดี๋ยวก็รวยแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ทุกวันนี้ดีมากเลยที่มีTradingview มีอินดี้ให้ทดลองใช้เพียบไม่เหมือนสมัยก่อนจะฝากเงินจะเปิดบัญชีแต่ล่ะทียังต้องเปิดพอต ต่างประเทศ ต้องใช้นส.รับรองจากทนายระหว่างประเทศเซ็นรับรองการเปิดบัญชี อีกวุ่นวายไปหมด
จะเรียนรู้กราฟก็มีแต่ MT4ไม่เหมือนทุกวันนี้มีหลากหลายแพล็ตฟอร์มให้เลือกใช้งานประมาณป้อนใส่ปากให้แล้วเหลือแต่เคี้ยวแล้วกลืนเองถ้าเคี้ยวแล้วกลืนเองไม่เป็นแนะนำให้เลิกเทรดไปทำมาหากินอย่างอื่นครับ
สมัยก่อนจะเทรดรูปแบบอะไรเราไม่มีเครื่องมือวาดรูปแบบTradingviewอย่างทุกวันนี้นะครับ สิ่งที่ดีที่สุดคือสมุดปากกาต้องจดเดี๋ยวนั้น จะแค็ปรูปแล้วมาพิมพ์สวยๆในคอมไม่ได้นะครับเพราะตอนนั้นสมองเราสั่งการเราแล้วต้องรีบจดไม่อย่างนั้นเราก็จะพลาดโอกาสดีๆที่สมองสั่งการเราในตอนนั้น
ครับที่พูดไม่ได้บอกว่าทุกคนจะต้องกลับไปอย่างในอดีต เพียงแต่จะบอกให้รู้ว่าทุกวันนี้มันมีอะไรหลากหลายสนับสนุนเราให้เป็นนักเทรดมืออาชีพได้อย่างรวดเร็ว สิ่งที่เหลือเพียงเล็กน้อยคือตัวเราจะเลือกเป็นนักเทรด แบบใดเท่านั้น เพียวเราดีดนิ้วมือเหมือนทานอสเราก็ได้เป็นสิ่งนั้นแล้วครับ
ฝึกอ่านกราฟindicator ชื่อ big snapper alerth R2.0 by justunclel
สีเขียวเทรดBUY ตอนย่อก็รอ PA BUY ก่อนเพราะมีโอกาสทะลุได้
แต่ล่ะTFจะมีจุดเข้าแคบลงเรื่อยๆ
เดี๋ยวย่อดูทุกๆTFตอนนี้ก็ตีเส้นตามไว้ก่อนแล้วค่อยย่อเข้าดูTFเล็กๆ
จะเจอจุดเข้าแคบลงแต่อย่างที่บอกใช้ไปบ่อยๆระวังติดกับดักเครื่องมือ
ด้วยต้องมีแผนสองของตัวเองนั้นคือรูปแบบการเข้าของเราเอง
ตอนนี้ก็ก็อปปีตามอินดิเคเตอร์ไปก่อน
ฝึกอ่านกราฟหาจุดเข้าให้คมที่สุดกำหนดแผนสร้างรูปแบบการเทรดของตัวเองแล้วเริ่มเดินตามแผนที่วางไว้
ตัวนี้ไม่รู้จักนะครับฝึกอ่านกราฟเฉยๆถ้าจะซื้อก็ซื้อได้ขึ้นได้แต่ก็ต้องเก็บสั้นๆเพราะภาพใหญ่ขาลงไม่มีสัญญาณขึ้นเลย
มีแต่SIDEWAY DOWNอย่างเดียว ถ้าเราBUYคือเราสวนจากสัญญาณที่เราต้องเข้าและต้องออกตามระบบ
เราเข้าเพราะขาใดในคลื่นเวฟ คือเปอร์เซ็นเท่าไหร่ในฟิโบ คือรูปแบบใดใน collection flat หรือ จุดใดในZigzag ฯลฯขึ้นกับเรา