ฝึกอ่านกราฟคาดการณ์สถานการณ์จะเกิดอะไรได้บ้าง
1 SIDEWAYกรอบปัจจุบัน
2ย่อหาจุดรอยทางเดิม
3SIDEWAYในกรอบรอยทางเดิม
4break outขึ้นตามแนวโน้มหลักหรือลงไปเก็บคนBUYต่ออีกชั้นหนึ่ง
5ขึ้นไปตามข่าวแล้วย่อกลับหารอยทางเดิมแล้วขึ้นต่อ
6SIDEWAYในกรอบราคาปัจจุบันสักระยะสะสมคนเทรด BUY SELL แล้วค่อยทะลุกินฝั่งใดฝั่งหนึ่งก่อนแล้วรอแรงข่าวพลักดันราคากลับไปกินอีกฝั่งจนไม่มีใครได้ออเดอร์แล้วก็จะสร้างclean trafic และจะมีคนได้ออเดอร์ตามอินดิเกเตอร์และเงื่อนไขของตนที่เคยได้เงิน
สรุปว่าทุกกราฟนั้นมันก็มีสถานการณ์ที่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้สิ่งที่คาดการณ์ได้นั้นคือรูปแบบครับรูปแบบที่เราเคยทำได้และก็เก็บจุดได้เท่าไหร่ก็ตามนั้นแหละอย่าไปมองหาเทคนิคอะไรมากมายเลยเอารูปแบบเดิมๆแล้วก็มองจากที่กราฟมันมีให้นี่แหละว่าเราควรต้องทำอะไรกับมันคือถ้าจะไม่เรียนอะไรมาเลยก็ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองทั้งหมดทำความเข้าใจด้วยตัวเองถามตัวเองตั้งคำถามตัวเองเหตุและผลที่มันเกิดเกิดเพราะอะไรเจาะหาให้มันเจอให้ได้
ไอเดียชุมชน
ฝึกอ่านกราฟแนวโน้มกราฟก็ยังเป็นขาขึ้นอยู่ทีนี้เราจะเทรดอย่างไรดีส่วนตัวก็จะมองภาพประมาณนี้เลยหาจุดเช่าให้มันเล็กลงแล้วก็เทรดสั้นๆไปก่อนอย่าไปคาดหวังว่ามันจะขึ้นต่อยาวๆไปได้อีกไกลเพราะณขณะนี้มันก็ไม่มีอะไรที่อยู่ด้านซ้ายให้คอยยึดเหนี่ยวได้เลยว่าจะต้องไป TP บริเวณไหนแต่ในทางกลับกันมันก็มีโอกาสทุบได้เลยก็จะเป็นขาลงได้เลยในทันทีฉะนั้นสิ่งที่ทำได้ณขณะนี้ก็คือการเกรดสั้นๆ 100จุด200 จุดก็ปิดแล้วไม่ต้องไปคิดเอาไกลรันเทรน
ฝึกอ่านกราฟผมย่อลงมาให้มันเล็กอีกให้เห็นอะไรมากขึ้นอย่างที่พวกคุณเห็นนั่นแหละ
คนที่เทรดมาเก่าๆก็รู้อยู่แล้วแหละว่าต้องเข้าออเดอร์ที่รับต้านใช่ไหมครับ
แต่ถ้าคนใหม่ๆอาจจะยังไม่เข้าใจที่กำลังเขียนอยู่ว่ามันคืออะไรก็ลองไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อน
กลับมาดูใหม่มันถึงจะเข้าใจส่วนตัวเองก็ไม่ได้เก่งอะไรไม่ได้รู้เรื่องอะไรมากมายอยู่แล้ว
ก็เห็นตามรูปนั่นแหละสิ่งที่เห็น ณ ขณะนี้มันก็คือการสร้างแนวรับแนวต้านที่แคบลงเรื่อยๆ
จากกว้างๆค่อยๆบีบ แคบ แคบ แคบ ลงมาเป็นปากแหลมให้เราได้ราคาออเดอร์ที่ไม่ดีทั้งขาขึ้นและขาลง
แล้วสุดท้ายเขาก็จะกินฝั่งใดฝั่งนึงให้เราขาดทุนซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมันอยู่ในการควบคุม control ของเขาอยู่แล้ว
แต่เราต้องเข้าใจว่าสิ่งที่เราเห็นนั่นแหละเราจะเข้าออเดอร์เก็บกำไรได้ในช่วงแบบไหน
แล้วเขาจะเริ่มเก็บรวบกินร่วมเมื่อไหร่ไอ้นี่แหละคือสิ่งที่เราต้องศึกษาหาข้อมูลเพิ่ม
เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างเขาอ่ะเห็นหมดแล้วแม้แต่กระทั่ง indicator ที่ทำขึ้นมาเขาก็เห็นหมดแล้ว
เขาเป็นคนสร้างขึ้นมาเองด้วยเพื่อให้เราเข้าตามเงื่อนไขอะไรบางอย่าง
ซึ่งการลองผิดลองถูกจากเกจิอาจารย์ทั้งหลายแหล่ทั้งหมดก็คือเรียนรู้ว่าสิ่งที่เขาเคยทำด้วยอินดิเคเตอร์ต่างๆนั้นมันคืออะไรมันควรต้องเข้าแบบไหนเก็บกำไรอย่างไร
เพราะว่าถ้าไม่เก็บตรงนั้นจะโดนกวาดแบบไหนเมื่อไหร่เป็นสิ่งที่เขาทดลองทางวิทยาศาสตร์ทางคณิตศาสตร์มาหมดแล้ว
ซึ่งทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับการสังเกตจริงๆอยากให้ฝึกอย่างเดียวเท่านั้นรูปแบบเดิมๆซ้ำๆถามตัวเองย้ำไปย้ำมาย้ำคิดย้ำทำอยู่เรื่อยๆนั่นแหละ
มันไม่ใช่คนโรคจิตหรอกมันคือการฝึกฝึกความอดทนฝึกความชำนาญในด้านใดด้านหนึ่งของเรา
ซึ่งผมต้องบอกก่อนว่าผมไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้นแล้วก็ยังขาดทุนอยู่เหมือนกันแล้วก็ยังไม่เคยชนะตลาดเลย
แต่ไม่ได้มาอวดเก่งแต่พูดจากที่ตัวเองเห็นเอามาเล่าให้ฟังเผื่อใครได้เห็นข้อความบางอย่างในภาพภาพนี้เอาไปต่อยอดอะไรได้ก็เป็นเรื่องที่ดีอนุโมทนาของบุญกุศลให้กลับเข้ามาสู่ตัวเองให้ได้บุญกุศลนั้นทำให้ตัวเองเจริญเติบโตด้วยอาชีพเทรดเดอร์ได้รวดเร็วก่อนที่จะหมดอายุขัยนี้
ฝึกอ่านกราฟผมใช้ชุดวิเคราะห์เดิมจากทำเฟรม week ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรเลยอยากให้ลองดูภาพอย่าไปดูแท่งเทียนมันเล็กๆอย่าไปสนใจอยากให้มองดูสิ่งที่ผมทำตรงนี้จากมุมมองที่ผมเห็นตามภาพนี้เลย
คำว่าออเดอร์ปลายไส้มันก็ดูเท่ดีแหละแต่อย่างว่าแหละว่าถ้ามันไม่เป็นตามแผนล่ะถ้าเราไปเข้าตรงนั้นแล้วมันจะเป็นยังไงมันจะทะลุไหมนั่นก็คือไม่มีอะไรตอบได้เลยฉะนั้นถึงแม้ว่าเราจะใส่ indicator หรือรูปแบบของแท่งเทียนอะไรก็ตามที่เราร่ำเรียนมาหรือเราทำความเข้าใจด้วยตัวเองแล้วว่ารูปแบบไหนที่มันใช่ให้ยึดรูปแบบนั้นแหละเป็นรูปแบบของเราในการเข้าออเดอร์เพราะว่าทุกๆสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมามันเป็นสิ่งที่เขาหลอกให้เราเข้าอยู่แล้วแต่เพียงแค่ว่าเราจะเอาวิธีที่เขาหลอกมาใช้งานอย่างไรแค่นั้นเอง
ผมได้ลองทดลองตีfiboขึ้นมา 2 ทางมันก็เป็นรูปแบบให้เราสามารถเทรดได้ทั้ง 2 ทางนั่นแหละครับทั้งขาขึ้นและขาลงนั่นแหละมันจึงเป็นเหตุที่บอกว่ามันไม่มีอะไรที่ตายตัวเลยทำไมสังเกตไหมว่าผมถึงสร้างรูปแบบทั้งขาขึ้นและขาลงทั้งเซลล์ทั้งบายมันก็เพราะเหตุนี้แหละตามภาพนี้เลยเพราะฉะนั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับรูปภาพที่พวกคุณจำนั่นแหละครับว่าคุณจำแบบไหนได้แบบไหนได้เงินแบบไหนแค่นั้นแหละ
ฝึกอ่านกราฟเริ่มต้นเดือนใหม่ก็ยอดดูภาพรวมใหญ่ก่อนโดยการขีดเขียนเหมือนเดิมเลยครับขีดเขียนไปเลยอยากเห็นอะไรพูดออกมาจากที่ตัวเองเห็นแล้วค่อยวิเคราะห์ต่อไปว่าเราจะวางแผนเทรดอย่างไร
ส่วนตัวก็มองว่าภาพรวมก็ยังเป็นขาขึ้นขึ้นแข็งแรงกว่าลงย่อก็ต้องบายตอนย่อเราจะหาจุดเข้าsellได้อย่างไรแล้วเราจะรอเข้า order by ตอนไหน
นั่นก็คือการทำความเข้าใจในแบบที่ตนเองต้องเข้าใจแล้วครับว่าควรต้องใส่อินทิเกเตอร์อะไรที่ตัวเองถนัดหรือรูปแบบแท่งเทียนแบบไหนที่เป็นรูปแบบเดิมที่เราสามารถเข้าออเดอร์แล้วได้เงินได้กี่จุดควรจบแค่ไหนจะสวนเทรนแบบไหนหรือจะรอสร้างสัญญาณ price action ขาขึ้นแล้วค่อยกดด้านเดียวนั่นก็สุดแท้แล้วแต่เทคนิคที่ได้ร่ำเรียนกันมา
การแบ่งปิดกำไร (Partial Profit): ข้อดีและข้อเสียการแบ่งปิดกำไร หรือที่เรียกกันว่า Partial Profit เป็นกลยุทธ์การเทรดที่นักเทรดปิดบางส่วนของออเดอร์เพื่อรับกำไร ณ จุดที่กำหนดไว้ล่วงหน้า และปล่อยส่วนที่เหลือให้ทำงานต่อไปจนถึงเป้าหมายที่ใหญ่กว่า วิธีนี้เป็นที่นิยมในหมู่นักเทรดที่ต้องการลดความเสี่ยงและจัดการอารมณ์ในตลาดที่มีความผันผวนสูง แต่เช่นเดียวกับทุกกลยุทธ์ การแบ่งปิดกำไรก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ
ข้อดีของการแบ่งปิดกำไร
1.ลดความเสี่ยงและล็อกกำไรบางส่วน
การแบ่งปิดกำไรช่วยให้นักเทรดสามารถรับผลกำไรบางส่วนได้เมื่อราคามาถึงจุดที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งช่วยลดความกังวลหากราคาย้อนกลับ
2.สร้างความมั่นคงทางจิตวิทยา
การได้รับกำไรบางส่วนช่วยเสริมความมั่นใจและลดความเครียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ตลาดผันผวน
3.เหมาะสำหรับตลาดที่ไม่แน่นอน
ในสถานการณ์ที่ราคามีโอกาสกลับตัว การแบ่งปิดกำไรช่วยให้นักเทรดสามารถทำกำไรได้แม้ในสภาพตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย
4.เพิ่มความยืดหยุ่นในการเทรด
นักเทรดสามารถเลื่อน Stop Loss ไปยังจุดคุ้มทุน (Breakeven) หลังการแบ่งปิดกำไร ทำให้ความเสี่ยงลดลงเหลือศูนย์สำหรับออเดอร์ที่เหลือ
ข้อเสียของการแบ่งปิดกำไร
1.ลดอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (RR)
การแบ่งปิดกำไรทำให้กำไรโดยรวมลดลงเมื่อเทียบกับการถือออเดอร์เต็มจำนวนจนถึงเป้าหมายใหญ่ เช่น RR อาจลดจาก 3.0 เหลือ 1.8 หรือ 2.0 ขึ้นอยู่กับจุดแบ่งปิด
2.พลาดโอกาสทำกำไรสูงสุด
หากตลาดวิ่งต่อในทิศทางที่คาดไว้ การแบ่งปิดกำไรอาจทำให้นักเทรดพลาดโอกาสทำกำไรสูงสุดจากการถือออเดอร์เต็มจำนวน
3.ซับซ้อนและต้องวางแผนมากขึ้น
การแบ่งปิดกำไรต้องการการวางแผนที่ดี รวมถึงการตั้งค่าระดับราคาหรือเป้าหมายสำหรับการแบ่งปิด ซึ่งอาจทำให้ยุ่งยากสำหรับนักเทรดมือใหม่
4.อาจสร้างนิสัยการปิดกำไรก่อนเวลา
หากนักเทรดแบ่งปิดกำไรบ่อยเกินไป อาจเกิดนิสัยในการปิดออเดอร์ก่อนเวลา ทำให้ไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ควรจะเป็น
การใช้งานการแบ่งปิดกำไรในสถานการณ์ต่างๆ
ตลาดผันผวนสูง
1.ในตลาดที่ราคามักวิ่งขึ้น-ลง การแบ่งปิดกำไรที่ระดับ Fibonacci เช่น 1.272 หรือ 1.618 ช่วยให้นักเทรดรับกำไรบางส่วนก่อนที่ราคาจะย้อนกลับ
2.เทรนด์ใหญ่
เมื่อตลาดอยู่ในเทรนด์ที่ชัดเจน การแบ่งปิดกำไรบางส่วนที่ระดับแนวต้านหรือแนวรับสำคัญ และปล่อยส่วนที่เหลือให้วิ่งตามเทรนด์อาจเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ
3.การเทรดตามข่าว
ในกรณีที่มีการประกาศข่าวสำคัญและตลาดเคลื่อนไหวเร็ว การแบ่งปิดกำไรช่วยให้นักเทรดลดความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดอาจเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน
ตัวอย่างการแบ่งปิดกำไร
สมมติฐาน:
ออเดอร์: Buy XAUUSD
ขนาดล็อต: 0.10 lot
Stop Loss: 1,000 จุด (10 USD)
เป้าหมายกำไรที่ 1: ระดับ 1.272 (RR = 1.5)
เป้าหมายกำไรที่ 2: ระดับ 1.618 (RR = 2.5)
กลยุทธ์การแบ่งปิด:
เมื่อราคามาถึงระดับ 1.272:
ปิดออเดอร์ 50% (0.05 lot)
กำไรจากส่วนนี้ = 7.5 USD
เลื่อน Stop Loss ของออเดอร์ที่เหลือ (0.05 lot) ไปที่จุดคุ้มทุน
เมื่อราคามาถึงระดับ 1.618:
ปิดออเดอร์ที่เหลือ (0.05 lot)
กำไรจากส่วนนี้ = 12.5 USD
เปรียบเทียบกำไร:
หากไม่แบ่งปิดกำไรและถือจนถึงระดับ 1.618:
กำไรรวม = 25 USD
หากแบ่งปิดกำไร:
กำไรรวม = 7.5 + 12.5 = 20 USD
ข้อสรุป:
การแบ่งปิดกำไรทำให้กำไรลดลง 20% แต่ช่วยลดความเสี่ยงและล็อกกำไรบางส่วนในตลาดที่อาจย้อนกลับ
ฝึกอ่านกราฟลักษณะกราฟสร้างตัวในรูปแบบ side way ออกด้านข้างเราก็ต้องเทรดแบบ side way เขายังไม่ลงไปให้เราก็ไม่ต้องสนใจก็เทรดในกรอบที่เขากำหนดส่วนเขาจะลงไปจริงไหมก็เป็นแผนที่ paining order เอาไว้จะมาระบายช่วงไหนก็ต้องดูจังหวะดูอินทิเกเตอร์ต่างๆที่ตัวเองถนัดหรือไม่ก็ดูรูปแบบของแท่งเทียนที่ตัวเองถนัดว่าถ้าลงมาจะดันตัวขึ้นไปอีกจังหวะที่จะดันตัวนั้นจะเข้าออเดอร์บายอย่างไรส่วนณขณะนี้มีวอลลุ่มให้เทรดสั้นๆเล็กๆก็ต้องเทรดตามรูปแบบที่เขากำหนด sltp 100 -150จุดก็พอ mm ทำทีล่ะไม้
*******ข้อสังเกตของกราฟทุกครั้งเลยที่เริ่ม side way ออกด้านข้างและยังไม่เลือกทางจะชอบบีบแนวรับแนวต้านให้แคบลงเพื่อให้ผู้ที่เห็นจุดเข้าซื้อขาขึ้นขาลงที่ราคาไม่ดีเสมอและสุดท้ายก็จะแตกตัวออกไปทิศทางใดทางหนึ่งเสมอทำให้ผู้ที่เทรดในรูปแบบของ side way จะขาดทุนเสมอเช่นกันต้องจับทางดูๆลักษณะของ indicator ที่ตัวเองใช้ด้วยว่ามันเหมาะสมในวิธีการเทรด side way อย่างไรอ้างอิงผสมกับรูปแบบของแท่งเทียนผสมผสานกันไปทุกอย่างมีรูปแบบที่ไม่ตายตัวซึ่งมันขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ของแต่ละบุคคล******
ฝึกวิเคราะห์เพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดและแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปย่อมาจากทำเป็นที่ใหญ่ขึ้นลงมาหาทำเป็นพี่เล็กลงภาพที่เห็นมันก็จะเห็นประมาณแบบนี้แหละแต่อย่างที่บอกคือเห็นยังไงมันก็ยังสู้เจ้าตลอดไม่ได้อยู่ดียังไงเขาก็เอาเราให้ขาดทุนอยู่ดีแหละสิ่งที่มันจะบอกได้แล้วนะขณะนี้ก็คือการmoney managementแค่นั้นเองครับวัดกันไปเลยครับ 1 ต่อ 1 sample space indicator อะไรถ้ามีก็เอามาใส่ให้หมดตามที่ตัวเองเข้าใจนั่นแหละครับลองไปปรับใช้กันดูแล้วกันส่วนตัวก็ยังไม่ได้ชนะตลาดหรอกครับก็ยังแพ้อยู่อย่าบอกว่าเอ้ยรู้แล้วทำไมถึงไม่รวยเพราะมันไม่รู้ครับมันก็เลยไม่ได้เงินจากตลาดก็ยังขาดทุนอยู่ก็ยังต้องเรียนรู้อยู่ข้อบกพร่องมันมีอยู่ตลอดมันก็ต้องขัดเกลาเรื่อยๆจนกว่ามันจะละเอียดจนเราจะแน่ใจว่าสิ่งที่เราทำมันใช่ลองปรับใช้ดูแล้วกันครับจากภาพที่ให้ดูนี้ไม่มีอะไรมากกว่านี้นะครับเห็นอะไรก็พูดตามนั้นแหละ
ฝึกอ่านกราฟผมตื่นเช้ามาจะสะกดจิตตัวเองเสมอด้วยถามเสียงที่ใหญ่กว่าและใหญ่ที่สุดภาพกราฟเก่าในอดีตนั้นมันคืออดีตที่ผ่านมาลืมไปให้หมดสิ่งที่จะเหลือได้และใช้งานได้ก็คือร่องรอยในอดีตเก่าๆเท่านั้นร่องรอยในอดีตเก่าๆคืออะไรนั่นก็คือแนวรับแนวต้านสำคัญแนวรับแนวต้านคืออะไรหาข้อมูลเองใน googleภาพรวมใหญ่ตามที่มองเห็นที่ขีดเขียนในรูปเลยไม่ได้มองอะไรมากกว่านี้แล้วและจะใช้ภาพนี้ย่อลงไปในทางเฟรมที่เล็กลงและหาจุดเช่าที่เล็กลงเท่านั้นเองวัดกันที่ 1 ต่อ 1 ทีละไม้มันนี่ management เท่านั้น indicator ดูได้อ้างอิงได้แต่ไม่ได้เอามาใส่ใจมากให้แค่พอรู้แต่แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคนแล้วแต่ความถนัดที่ตนเองได้ร่ำเรียนมาก็ลองเอามาปรับใช้ดู
ฝึกอ่านกราฟเขียนแผนภาพขึ้นมาให้เข้าใจก่อนแล้วค่อยใส่ค่าต่างๆลงไปตามความถนัดหรือตัวเองถนัดกราฟเปล่าก็ใส่แบบกระเป๋าลงไปจดบันทึกช็อตโน๊ตเอาไว้เตือนใจตัวเองเสมอว่ารูปแบบครับแบบนี้ควรจะต้องไปในทิศทางใดณขณะนี้แนวโน้มกราฟภาพรวมใหญ่ก็คือขาขึ้นแต่อย่างว่าคือถ้าเราจะ trade by ตอนนี้ก็อาจจะโดนลากลงไปให้ขาดทุนก่อนครับอาจจะกดลงไปก่อนก็ได้ใครจะรู้ไม่มีใครตอบได้ฉะนั้นสิ่งที่จะบอกได้คือช่วงราคาที่อยู่ใกล้ราคาปัจจุบันที่สุดเป็นช่วงราคาที่เราควรจะเทรดมากที่สุดซึ่งจะเทรดได้ทั้งใบแล้วก็เซลล์ทั้ง 2 ทางซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับอินดิเคเตอร์ต่างๆที่เราใส่ลงไปแล้วมันเกิดรูปแบบอะไรที่มันเป็นรูปแบบที่คุ้นเคยที่เราเคยทำได้ก็เทรดตามรูปแบบนั้นไปเลย sltp ก็ตามแผนเลยอย่าไปรันเท็นเพราะเราไม่รู้ว่ามันจะขึ้นหรือมันจะลงเก็บไปทีละจุดทีละจุดไปตามแนวรับแนวต้านต่างๆลองสังเกตดูครับ
ฝึกอ่านกราฟแนวโน้มกราฟใหญ่มันก็คือขึ้นทุกครั้งที่ย่อเราก็จะสบายเสมอฉะนั้นถ้าเราจะเซลล์สามารถเซลล์ได้แต่ต้องหา pa หรือไม่ก็รอดูการเทรดแบบ break out ให้กราฟทะลุลงไปก่อนแล้วก็ยกกลับไปใหม่แล้วค่อยเซลล์เสมอแต่ก็ต้องอย่าลืมว่าขาขึ้นยังแข็งแรงอยู่ถ้ารูปแบบขาขึ้นมาแล้ว price action ขาขึ้นมาแล้วก็ต้องเทรดbuyก่อน
ฝึกอ่านกราฟผมเขียนภาพออกมาโดยภาพที่เห็นมันเล็กมากอย่าไปมองแท่งเทียนให้มองภาพรวมตอนนี้ที่เขียนตามรูปเลยมองแบบนี้แล้วเราจะเทรดแบบไหนแล้วมันลงแบบนี้แสดงว่าน่าเซลล์จะแข็งแรงกว่าหน้าบายแล้วเราจะรอจังหวะเข้าแบบไหนจะเข้าไปหรือจะเข้าเซลล์เพื่อให้เงื่อนไขอะไรได้ยินดิเคเตอร์อะไรนั่นก็แล้วแต่ที่ร่ำเรียนมาจากเราเกจิอาจารย์ทั้งหลายตามรูปแบบเงื่อนไขที่เขากำหนดขึ้นมา
Moon Phases Strategy กลยุทธิ์การเทรดทองคำด้วยพระจันทร์ Moon Phases Strategy
กลยุทธิ์การเทรดทองคำด้วยพระจันทร์
👾 กลับมาพบกันอีกเช่นเคยกับการเทรดวิเคราะห์กราฟและการแชร์เทคนิคคอลแจ่มๆที่ใช้ดีและบอกต่อ วันนี้แอดไปเจอของแปลกเอามาเล่าสู่กันฟัง แถมใช้ได้จริงๆนะ คนต้นคิดและนำมาใช้กันก็เป็นพวกฝรั่งสะด้วยนี่สิ อู้วหูว พลาดบทความนี้ไม่ได้เชียวนะ เดี๋ยวจะหาว่าตกเทรนด์ ไหนมันเป็นยังไง มาครับตามมาอ่านกันได้เล๊ย
Moon Phases Strategy กลยุทธิ์การใช้ดวงจันทร์ในการซื้อขาย
เจ้าเซื่อในพระจันทร์บ่อ ???? ครับ แอดพูดไม่ผิด พระจันทร์ฮะ ฝรั่งใช้พระจันทร์ หรือดวงจันทร์นี่แหละ เป็นอินดิเคเตอร์ในการซื้อขายเพื่อทำกำไร
Moon Phases Trading Strategy คือกลยุทธ์ที่ใช้การเปลี่ยนแปลงวัฏจักรของดวงจันทร์มาใช้ในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของตลาด โดยเชื่อว่าผลกระทบทางจิตวิทยาที่เกิดจากดวงจันทร์สามารถส่งผลต่อพฤติกรรมการลงทุน โดยเฉพาะในสินทรัพย์ที่มีความผันผวน เช่น ทองคำ
วิธีการ ก็คือ การนับวันข้างขึ้น- ข้างแรม นั่นเอง ด้วยการกำหนดระยะเวลาการเทรด ใน 14 -16วัน ตามหลักการน้ำขึ้น - น้ำลงของพระจันทร์นั่นเอง
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ แต่มันเป็นแนวทางใหม่ในการซื้อขายที่ประสบความสำเร็จโดยใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและโหราศาสตร์การเงิน โดย Robert Lee, Peter Tryde ด้วยการเทรดแบบสวิงเทรน ฮันแน่ ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ครับ
Moon Phases
หลักการและวิธีการในการเทรดด้วยพระจันทร์ ก็คือ การนับวันข้างขึ้น- ข้างแรม นั่นเอง ด้วยการกำหนดระยะเวลาการเทรดภายใน 14 -16วัน ตามหลักการน้ำขึ้น - น้ำลงของพระจันทร์
โดยจะเข้าซื้อ ในวันพระจันทร์ดับ
และขายในวันพระจันทร์เต็มดวงถัดไป
ที่น่าสังเกตก็คือกลยุทธ์นี้สามารถสร้างผลกำไรได้ดีกับ DAX และ HSI และ GOLD ทองก็จัดว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งทำกำไรได้มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ แถมกลยุทธ์การเทรดด้วยพระจันทร์นี้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ปี 1928 แล้วนะ ไม่ธรรมดาจริมๆ
How to Trading หลักการใช้งาน
หากเรามองทางด้านจิตวิทยา นักลงทุนส่วนใหญ่ก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน แล้วมันดันสัมพันธ์กันกับพฤติกรรมของนักลงทุนด้วยนี่สิ
โดยปกติแล้ว จันทร์ดับ จะสื่อถึงพลังงานต่ำหรือการสะสมพลังงาน ในขณะที่เวลาของ จันทร์เต็มดวง จะเป็นช่วงที่มีผลผลิต พลังงานสูง และการใช้จ่าย
หลักการใช้งานมีดังนี้
1. ข้างขึ้น (Waxing Moon):
มักสัมพันธ์กับบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวก ราคาสินทรัพย์อาจปรับตัวขึ้น
กลยุทธ์ที่แนะนำ: เปิดสถานะซื้อ (long position)
2. เต็มดวง (Full Moon):
ช่วงที่ตลาดอาจมีการปรับตัวครั้งใหญ่
กลยุทธ์ที่แนะนำ: ปิดสถานะที่มีกำไร หรือเปิดสถานะใหม่ตามทิศทางตลาด
3. ข้างแรม (Waning Moon):
ช่วงของความผันผวน ราคาสินทรัพย์อาจลดลง
กลยุทธ์ที่แนะนำ: เปิดสถานะขาย (short position)
4. ดวงจันทร์ดับ (New Moon):
ตลาดมีความไม่แน่นอน นักลงทุนอาจระมัดระวังมากขึ้น
กลยุทธ์ที่แนะนำ: หลีกเลี่ยงการซื้อขายครั้งใหญ่
อินดิเคเตอร์ที่ควรใช้คู่กับ Moon Phases
การตีเส้นเทรนไลน์เพื่อหาแนวโน้มในระยะยาวตั้งแต่รายวันขึ้นไปจนถึงรายวีคและรายเดือน หรืออินดิเคเตอร์ตัวอื่นตามที่เราถนัด
👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กลยุทธิ์การเทรดแบบแปลกๆแต่สามารถทำกำไรได้จริง แถมยังได้รับความนิยมด้วยนะดทางก็ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ฮะ ลองเอาไปใช้กันดูฮะ ไม่แน่เราอาจจะชอบก็ได้ เทรดได้เทรดดี ต้องไม่ลืมทำตามแผนการเทรดด้วยนะครับ วันพระไม่ได้มีหนเดียว จังหวะเทรดของดวงจันทร์ก็ไม่ได้มีแค่รอบเดียว และกราฟก็ไม่ได้มีแค่รอบเดียวเช่นกัน
และที่สำคัญ ฝึกฝนการเทรดให้ได้ทุกวัน รับรองว่ากำไรไม่ไกลเกินฝันแน่นอนฮะ แอดเอาใจช่วย แล้วอย่าลืม MM กันด้วยนะ ชีวิตการเทรดของเราจะยืนยาวและมั่นคง แอดฟันธงให้เลย
ฝึกอ่านกราฟกำหนดแผนแล้วใช้หลักการร่ำเรียนจากเหล่าเกจิ อ.สอนดูครับว่ามันได้ผลไหม
ในวิชานั้นเก็บกำไรได้กี่จุด โดนSLเฉลี่ยกี่จุด ทำ10ครั้งแล้วแพ้ชนะกี่ครั้ง
จดบันทึก การเทรด หาแบบฟอร์มในกูเกิ้ลเลยมีหมดแหละไม่มีก็เอาสมุดมาเขียนเอาเองไม่ต้องไปหาซื้ออะไรหลอกรู้จักประหยัดเงินบ้าง
อย่าทำตัวเป็นคนมีออฟชั่นเยอะ จะทำอันนั้นต้องมีอันนี้ก่อนแบบนั้นไม่เอา
จะเรียนอะไรอย่าทำเป็นคนน้ำเต็มแก้ว ก่อนฟังก็ปล่อยวางปล่อยสมองให้ว่าง
ถ้าใช่เหมาะกับเราก็เจาะลึก ถ้าไม่ใช่ให้ปิดการรับรู้ทันทีอย่าเสียเวลา
พูดจากที่ตนเองทำอยู่ลองดูครับ
Over-Analyzing ในการเทรด Forex: อุปสรรคที่เทรดเดอร์ต้องเอาชนะการเทรด Forex เป็นกิจกรรมที่ต้องการความรู้ การวางแผน และการตัดสินใจที่รวดเร็ว แต่หลายครั้งเทรดเดอร์กลับพบว่าตนเองติดอยู่ในวงจรของการ "คิดมากเกินไป" หรือที่เรียกว่า Over-Analyzing ซึ่งอาจกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ในเส้นทางการเทรดของพวกเขา
Over-Analyzing คืออะไร?
Over-Analyzing หมายถึง การพยายามวิเคราะห์ข้อมูลหรือสถานการณ์ต่าง ๆ มากเกินความจำเป็นจนทำให้ไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด หรือเกิดความลังเลที่จะดำเนินการใด ๆ ตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์กราฟราคา การดูข่าวสารเศรษฐกิจ หรือการใช้เครื่องมือเทคนิคที่ซับซ้อนจนทำให้เทรดเดอร์ไม่สามารถเข้าใจภาพรวมได้อย่างชัดเจน
สัญญาณของการ Over-Analyzing
1ใช้เวลามากเกินไปในการวิเคราะห์กราฟ: การตรวจสอบหลาย Timeframe หรือใช้ Indicator มากจนเกินไป อาจทำให้เกิดความขัดแย้งของสัญญาณ
2ลังเลในการตัดสินใจ: แม้เห็นโอกาสที่ชัดเจน แต่กลับไม่กล้าเปิดคำสั่งซื้อหรือขาย
3เปลี่ยนกลยุทธ์บ่อยครั้ง: การไม่เชื่อมั่นในแผนการเทรดเดิมและพยายามหากลยุทธ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
4หาข้อมูลมากเกินไป: การติดตามข่าวสารหรือบทวิเคราะห์จากหลายแหล่งจนทำให้ข้อมูลที่ได้รับขัดแย้งกันเอง
ผลกระทบของ Over-Analyzing
1พลาดโอกาส: การลังเลที่จะตัดสินใจอาจทำให้พลาดจังหวะสำคัญในการเทรด
2ความเครียดและความเหนื่อยล้า: การวิเคราะห์มากเกินไปส่งผลต่อสภาพจิตใจและร่างกาย
3ความมั่นใจลดลง: เทรดเดอร์ที่ Over-Analyzing มักจะสูญเสียความมั่นใจในตนเอง เนื่องจากไม่สามารถตัดสินใจได้
4ผลลัพธ์ไม่แน่นอน: การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์หรือมุมมองบ่อยครั้งอาจทำให้ขาดความสม่ำเสมอในการเทรด
วิธีเอาชนะ Over-Analyzing
-ยึดมั่นในแผนการเทรด: กำหนดกลยุทธ์การเทรดที่ชัดเจนและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
-ลดการใช้ Indicator ที่ซับซ้อน: ใช้เครื่องมือที่จำเป็นเท่านั้นและหลีกเลี่ยงการใช้ Indicator หลายตัวที่อาจให้สัญญาณขัดแย้ง
-กำหนดขอบเขตการวิเคราะห์: จำกัดเวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจให้ทันเวลา
-สร้างวินัยในการเทรด: ฝึกฝนการเทรดด้วยบัญชีเดโม่เพื่อสร้างความมั่นใจ
-พักสมอง: หากรู้สึกเครียดหรือวิเคราะห์มากเกินไป ควรหยุดพักและกลับมาใหม่เมื่อจิตใจสงบ
ฝึกอ่านกราฟมุมมองการเทรดและรูปแบบเงื่อนไขของอินดี้มันจะไม่เหมือนกันขึ้นกับการเลือกใช้งานว่าจะใช้งานตัวไหนการทำกำไรจะไม่เหมือนกันแต่สอดคล้องกัน ฉะนั้นการซื้อขายแต่ล่ะครั้งสามารถกดได้ทั้งสองฝั่งBUY และ SELLมันจะเริ่มสะสมไปเรื่อยๆวิ่งออกด้านข้างจนมากพอที่เจ้าตลาดพอใจตกลงส่วนแบ่งกันได้แล้วจะเริ่มเคลียราคาสะสมฝั่งที่มากก่อนเสมอแล้วค่อยรวบกินฝั่งที่สะสมราคาน้อยจนไม่มีใครเหลือในตลาดแล้วก็กลับมาSIDEWAYต่อ
และมันเป็นบบนี้ทุกตลาดบนโลกที่เป็นกราฟแล้วเราจะเป็นเห่าฉลามได้อย่างไรนั้นก็คือเราต้องเข้าใจพฤติกรรมของเจ้าตลาดว่าเขาจะทำอะไรพูดดูเหมือนตัวเองจะเข้าใจบอกตรงนี้เลยว่าไม่เข้าใจครับ
แต่สิ่งที่จะบอกได้ตอนนี้คือรูปแบบเดิมๆที่เราทำเงินได้กับเงื่อนไขแบบใดควรตั้งSL TPที่เท่าไหร่จึงเหมาะสมกับรูปแบบที่ตนเองสังเกตุ และช่วงเวลาที่ตนเองเทรดได้กำไรบ่อยสุดคือช่วงเวลาใด
ตลาด เช้า สาย หรือเย็น ต้องสังเกตุเองต้องรู้ตัวเองอย่าเทรดไปเรื่อยๆเปื่อยๆแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของตนเองที่ไม่มีแก่นสารไม่รับผิดชอบไม่รักตนเองแนะนำให้เลิกเทรดแล้วกลับไปทำงานประจำรอวันหยุดของบริษัท และสังสรรกับเพื่อนๆในวงเหล้า วงนั้นที วงนี้ทีจะดีกว่า
แต่ถ้าใครได้อ่านข้อความนี้แล้วมันสะกิดอะไรภายในใจตนก็เริ่มกลับไปหยิบสมุดปากกามาแล้วเริ่มจดบันทึกการเทรด และระบายความในใจของตนออกมาให้หมดว่าตนเองตอนนี้มีความรู้การเทรดแค่ไหนแล้ว แล้วต่อไปตนเองจะต้องศึกษาอะไรเพิ่มเติมแล้วสิ่งที่ศึกษามันสอดคล้องกับเงื่อนไขการเทรดของเราไหมถ้าใช้อันหนึ่งอันใดก็นำมาในกราฟถ้าอันไหนไม่ใช่ก็ตัดออกไปให้หมด สร้างคำถามกัยตนเองเสมอและต้องหาคำตอบให้ตนเองด้วยเสมออย่าสร้างแต่คำถามแล้วไม่หาคำตอบก็กลับไปที่ข้อความข้างตน
How to Find the Entry Points for Beginner วิธีหาจุดเข้าของเทรดเด
How to Find the Entry Points for Beginner
วิธีหาจุดเข้าของเทรดเดอร์มือใหม่
👾 กลับมากันอีกเช่นเคยกับการเทรดวิเคราะห์กราฟและการแชร์เทคนิคคอลแจ่มๆที่ใช้ดีและบอกต่อ วันนี้แอดเอาใจคนชอบ Sell กับรูปแบบการเทรดสวนเทรนด์และการซอยไม้สั้นๆมาฝากฮะ มาครับตามมาอ่านกันได้เลย
หาจุดเข้าเทรดใครว่าง่าย?
ไม่ง่าย และก็ไม่ยากครับ ถ้าเราเริ่มสังเกตุและจดจำแพทเทรินง่ายๆสัก 2-3 ตัว มาครับมีแบบไหนบ้างมาดูกัน
1. ตีเทรนไลน์ก่อน
เทรนไลน์นั้นสำคัญจริงๆนะ เพราะมันช่วยให้เราอ่านเทรนด์ออกครับ ง่ายๆเลยแค่หาจุด ไฮ- โลว์ (High - Low) ให้เจอ ก็พอแล้ว เน้นเก็บสั้นScalping ในรอบสวิงเทรน เทรดได้ใน TF 1H ขึ้นไป
2. เข็มปลายไส้
หากลองสังเกตดีๆ เราจะเริ่มเข้าใจว่าสัญญาณหมี bear ที่เจ้ามือชอบตบลงนั้น คือการทำเข็มยาวๆหรือไส้แท่งเทียนยาวๆ ไว้ทำกำไรในการเทรด เทรดได้ใน เน้นเล่นสั้นฮะ หรือเน้นจบรายวัน
TF M5 , M15 ขึ้นไป
3. หลุดกรอบเส้นเทรนไลน์
เมื่อราคาอยู่ในกรอบเส้นเทรนไลน์ แล้วเกิดการกลับตัว จากการชนเส้นแนวต้านที่ High สูงสุดนั่นแหละฮะ สังเกตุกรอบเส้นเทรนไลน์เราให้ดี ถ้าหลุดลง โอกาสลงย่อมมีสูงครับ เทรดได้ใน TF 1H 4H ขึ้นไป
4. price pattern คือไวที่สุด
แน่นอนว่าแท่งเทียนเป็นสัญญาณการเทรดที่เร็วที่สุดครับ เครื่องมืออินดิเคเตอร์ ส่วนใหญ่ ไม่ไวเท่าแท่งเทียน ทำให้เราเข้าออเดอร์ได้ไวกว่า กำไรก่อนแน่นอน เทรดได้ใน TF M5 , M15 ขึ้นไป
👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ทริคง่ายๆในการหาจุดเข้าเทรด ที่ดี๊ดี เทรดแล้วได้กำไรแน่นอน แต่หากผิดทางก็อย่าลืมที่จะตัดใจปิดออเดอร์นะครับ วันพระไม่ได้มีหนเดียว จังหวะกราฟก็ไม่ได้มีแค่รอบเดียวเช่นกัน
จริงๆยังมีทริคอีกเยอะเลยนะฮะ แต่นี่เป็นรูปแบบที่คนส่วนใหญ่ใช้เทรดกัน ลองเอาไปปรับใช้ให้เหมาะกับเราได้นะฮะ ไม่แน่ว่าการถือออเดอร์แป๊บเดียว หรือจบในวัน อาจทำให้เรามีความสุขมากกว่าการถือออเดอร์นานๆหลายวันก็เป็นได้และที่สำคัญ ฝึกฝนการเทรดให้ได้ทุกวัน รับรองว่ากำไรไม่ไกลเกินฝันแน่นอนฮะ แอดเอาใจช่วย แล้วอย่าลืม MM กันด้วยนะ ชีวิตการเทรดของเราจะยืนยาวและมั่นคง แอดฟันธงให้เลย