การวิเคราะห์แนวโน้ม
ช็อตคัต! วิเคราะห์, สร้าง, และศึกษาแผนภูมิได้รวดเร็วขึ้นช็อตคัต ช่วยให้คุณประหยัดเวลาและสร้างแผนภูมิได้รวดเร็วขึ้น, ง่ายขึ้น, และคล่องแคล่วมากขึ้น แทนที่จะใช้การคลิกลงบนแต่ละเครื่องมือในแต่ละครั้ง คุณสามารถใช้ช็อตคัตเพื่อเร่งกระบวนการทำงานได้ ในชาร์ตเราได้ยกเอารายการยอดนิยมหลายรายการ ได้แก่:
Alt + T = เส้นแนวโน้ม
Alt + F = Fib Retracement
Alt + H = เส้นแนวนอน
Alt + V = เส้นแนวตั้ง
Alt + C = เส้นตัด
Alt + A = เพิ่มการแจ้งเตือน
Alt + S = แคปหน้าจอชาร์ต
Alt + I = กลับด้านชาร์ต
Alt + P = ชาร์ตเปอร์เซ็นต์
Alt + L = ชาร์ตแบบล็อก
ถ้าคุณใช้เครื่องแมค, กดปุ่ม option ⌥ แทนปุ่ม Alt:
⌥ + T = เส้นแนวโน้ม
⌥ + F = Fib retracement
⌥ + H = เส้นแนวนอน
⌥ + V = เส้นแนวตั้ง
⌥ + C = เส้นตัด
⌥ + A = เพิ่มการแจ้งเตือน
⌥ + S = แคปหน้าจอชาร์ต
⌥ + I = กลับด้านชาร์ต
⌥ + P = ชาร์ตแบบเปอร์เซ็นต์
⌥ + L = ชาร์ตแบบล็อก
สำหรับคำแนะนำที่สมบูรณ์เกี่ยวกับช็อตคัตที่มีให้สำหรับคุณโปรดไปที่ คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ของเราที่นี่ ตัวอย่างเช่น กด Space bar เพื่อดูแต่ละแผนภูมิในรายการเฝ้าดูของคุณ หรือลบวัตถุด้วยล้อเลื่อนของเมาส์โดยวางเคอร์เซอร์ไว้เหนือรูปวาดหรืออินดิเคเตอร์จากนั้นคลิกที่ล้อเลื่อนของเมาส์ เปิดเมนูอินดิเคเตอร์เพียงแค่กด "/" บนแป้นพิมพ์ของคุณ และเปลี่ยนกรอบเวลาของชาร์ตเพียงแค่พิมพ์ตัวเลขใด ๆ ลงในแป้นพิมพ์โดยตรง
เราหวังว่าคุณจะสนุกกับช็อตคัตเหล่านี้ และหากคุณคิดว่าเราควรสร้างช็อตคัตที่จะช่วยในการเทรดหรือการลงทุนของคุณ โปรดเขียนมันไว้ในส่วนความคิดเห็นด้านล่างนี้ เราอาจสร้างมันให้คุณ! ขอขอบคุณที่เป็นสมาชิกของ TradingView
[THANI] ความสวยงามของหุ้นที่กำไรโตแบบตามธรรมชาติ (Organic)
วันนี้ผมมีไอเดียการผนวกนำเอาเรื่องผลประกอบการ ผลกำไรสุทธิมาทำ Valuation เพื่อให้แสดงค่าราคาในการเข้าซื้อขายหุ้นให้ดูกันครับ
จากรูปนี้เส้นสีเขียว สีเหลือง และสีแดง แสดงค่าการนำตัวเลขผลประกอบการหรือ EPS มาคูณด้วย ค่าอัตราการจ่ายปันผล แล้วหารด้วยอัตราการจ่ายปันผลอีกที (Price = EPS * Dividend_Payout/Dividend_Yield)
ซึ่งราคาหุ้นที่จะได้นี้ จะกำหนดได้จากเปอร์เซ็นเงินปันผลที่ท่านต้องการเลย ซึ่งในที่นี้ผมตั้งค่าเงินปันผลไว้ที่ 5% ส่วน Payout ผมตั้งคงที่ไว้ท่ 40% ครับ
จากนั้นก็ปล่อยให้โค้ดของเราแสดงค่ากันไป
สิ่งที่น่าวิเศษใจ คือการที่เส้นเขียวของเราขึ้นไปเป็นขั้นบันไดแบบคงที่เรื่อยๆ นั่นเอง เสมือนว่าราคาเขาขึ้นไปตามพื้นฐานด้วยตัวของเขาเอง
ผมเชื่อว่าภาพนี้คงเป็นตัวบอกได้ดีเลย ว่าเหตุใดราคาหุ้นจึงมีขึ้นมีลง เหตุผลที่แจ่มแจ้งแน่ชัดก็เพราะว่า หุ้นตัวนั้นมีการเติบโตด้วยตัวของเขาเอง เขาสร้างคุณค่าตัวของเขาด้วยตัวเองนั่นเองครับ
สำหรับจุดเข้าซื้อ ผมแนะนำให้ผนวกเอาศาสตร์ด้าน Technical ในส่วนของ Price Pattern เข้ามาเสริมด้วยจะดีมากครับ หากราคามาแตะแนวรับทางพื้นฐานปุ๊ปจุดนั้นนับว่าเป็นจุดที่ไม่เลวเลยในการซื้อ แถมเราจะได้ราคา ณ ตำแหน่งเงินปันผลที่เราต้องการด้วย เป็นการรับรู้ความเสี่ยงและผลรางวัลที่เราจะได้รับในแต่ละครั้งเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ท่านอาจใช้แนวรับทางพื้นฐานนี้เป็นจุดเข้าซื้อในจุดที่คนอื่นกลัวได้ ดั่งคำของบัฟเฟตต์ที่ว่า "จงกลัวเมื่อคนอื่นกล้า จงกล้าเมื่อคนอื่นกลัว"
บทความประกอบนี้อาจจะยาวเสียหน่อย เพราะผมเพิ่งได้สมัครสมาชิก Trading View รายไป พอเห็นความงดงามของโค้ดที่เราเขียนแล้วอดนำมาเล่ามาแชร์สู่กันฟังไม่ได้เลยครับ
ยาวหน่อย แต่ถ้าคุณชอบ ผมก็ดีใจนะ ขอบคุณครับ
เมื่อ Bitcoin ย่อในช่วงขาขึ้น... มันจะย่อประมาณกี่เปอร์เซ็น?เมื่อ Bitcoin ย่อในช่วงขาขึ้น... มันจะย่อประมาณกี่เปอร์เซ็น?
ไม่มีกราฟไหนขึ้นไปได้อย่างเดียว ยังไงก็ต้องมีการย่อ พักฐาน หรือภาษาอังกฤษ เรียกว่าการ "Correction"
ทีนี้ Bitcoin เอง ผมว่า ก็น่าจะใกล้เกิดการพักฐานอยู่รอมร่อแล้วล่ะ แต่ปัญหาคือ มันจะไปพักเมื่อไหร่ ที่ราคาไหน ก็ไม่มีใครรู้หรอก
รู้แต่เพียงว่า แถวๆ นี้ เราต้องระวังตัวกัน และอย่าประมาทไปตามกระแส FOMO เด็ดขาด เพราะ ถ้าเราประมาท + overtrade + ไล่ราคา
เวลามันพักฐานลึกๆ ที คุณก็หมดตัว ได้ง่ายๆ แบบไม่ทันตั้งตัวได้เลย
อ่ะ ทีนี้ เราลองมาดูกันว่า ในอดีต ที่ผ่านมา ในช่วง "ขาขึ้น" Bitcoin เคยย่อลงไปแรงสุดเท่าไหร่
โดยผมจะค่อยๆ ไล่ไปทีละจุด ที่ผมเห็นเป็นการย่อแบบ เห็นในกราฟชัดๆ ล่ะกันนะครับ
เริ่มจากล่าสุด ไปไกลที่สุด
ส.ค. - ก.ย. 2020 Correction
-----------------
High : 12476
Low : 9800
ย่อประมาณ -21%
มิ.ย. - ก.ค. 2020 Correction
-----------------
High : 10433
Low : 8800
ย่อประมาณ -15%
Covid Dump : มี.ค. 2020 Correction
-----------------
High : 10481
Low : 3866
ย่อประมาณ -64%
มิ.ย.-ธ.ค. 2019 Correction ยาว 6 เดือน หลังจากขึ้นรอบใหญ่ + Max Fomo
-----------------
High : 13893
Low : 6429
ย่อประมาณ -53%
พ.ค.-มิ.ย. 2019 Flash Correction มีสองรอบ
-----------------
High : 8391
Low : 6179
ย่อประมาณ -26%
-----------------
High : 9079
Low : 7446
ย่อประมาณ -18%
ปี 2018 ผมไม่นับ เพราะมันเป็น downtrend
--------------
2016-2017 Bull run
--------------
ธ.ค. 2017 -- 20k Flash Crash
-----------------
High : 19667
Low : 11132
ย่อประมาณ -43%
พ.ย. 2017 : พักฐานขำๆ
-----------------
High : 7888
Low : 5538
ย่อประมาณ -30%
ก.ย. 2017 : ลงเพราะข่าวจีน
-----------------
High : 4982
Low : 2972
ย่อประมาณ -40%
มิ.ย. 2017 : พักฐานยาว
----------------
High : 2989
Low : 1828
ย่อประมาณ -40%
มี.ค. 2017 : พักอีกละ
----------------
High : 1300
Low : 891
ย่อประมาณ -30%
ม.ค. 2017
----------------
High : 1140
Low : 751
ย่อประมาณ -34%
ก.ค.-ส.ค. 2016
----------------
รอบนี้มีย่อสองรอบ รอบละประมาณ -30%
พ.ย. 15- ม.ค. 16
------------------
มีย่อสองรอบ รอบละ -40% กับ -25%
---------------
สรุป
---------------
* สรุปได้ว่า ทุกการขึ้นที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นตลาดกระทิงแบบไหน BTC ก็มักจะมีการย่อประมาณ -20% ถึง -40% แล้วก็ไปต่อ ( ยกเว้นจะจบรอบขาขึ้นและเปลี่ยนเป็นขาลง )
* ดังนั้น คนที่เล่นแบบ Leverage ก็ไม่ควรเล่นเกิน 2x เพราะว่า การย่อที่แรงที่สุด คือประมาณ -40% แต่.. เราก็อาจจะเจอเหตุการณ์ black swan ย่อลึกก็อาจจะเป็นได้ ( เล่น 2x เจอ -40% ก็ -80% ไปแล้ว นั่งไม่ติดหรอก ) สรุปได้ว่า ก็ไม่ควรเล่นแบบ leverage ด้วยเงินก้อนใหญ่อยู่ดี 555 ควรเล่นแบบ Spot เท่านั้น เพราะจะทนการแกว่งได้
* คนที่ Take Profit ออกมานั่งข้างสนามถือเงินสดแล้ว ให้วางแผน ช้อนซื้อ แถวๆ โซน -20% ถึง -40% เป็นต้นไป โอกาสที่จะได้ของราคาถูกก็มีสูง ( อาจจะแบ่งไม้ไว้ช้อน กี่% ของพอร์ตก็ว่าไป )
* รอบนี้ ตอนเขียน ราคาอยู่ประมาณ 16700 ดังนั้น จุดที่น่าสนใจจะมีดังนี้
-20% = 13,360 * โอกาสเป็นไปได้สูง คือการ Retest แนวต้านแกร่งๆ ที่ทะลุขึ้นมา
-25% = 12,525 * โอกาสเป็นไปได้สูง คือการ Retest แนวต้านแกร่งๆ ที่ทะลุขึ้นมา
-30% = 11,690
-35% = 10,855
-40% = 10,200 * แนวรับสุดท้าย ที่คิดว่า ยังไงก็คงไม่หลุดลงไปจากนี้อีกแล้วล่ะ
-45% = 9,185
ถ้าราคาวิ่งไปต่อ ก็ค่อยไปคำนวณใหม่
* ก็ลองวางแผนกันดูนะครับ สิ่งที่สำคัญ ในการเทรดก็คือ อย่าประมาท และอย่าไปไล่ราคา รวมถึงการตั้งสติ ควบคุมความโลภ และกำหนดแผนขึ้นมาให้ได้ ระหว่างที่ทุกคนกำลัง FOMO กันอยู่
* รอบนี้ ผมเฉยๆ เพราะผมก็ไม่ได้มือว่างหมด ผมก็ยังมีของติดไม้ติดมือไว้อยู่ด้วย ราคาขึ้นต่อ ผมก็สบายๆ ยังไงพอร์ตก็โตขึ้น แต่ถ้ามันลง ผมก็มีเงินสด ไว้รอเข้าเพิ่มได้ ในจุดที่ได้เปรียบ ครับ
การเพิ่ม indicator (Exponential Moving Average: EMA) ลงบนชาร์ตการเพิ่ม indicator (Exponential Moving Average: EMA) ลงบนชาร์ต
1. เมนู เลือก fx Indicators
2.ไปที่ Favorites หรือ Built-ins
3.เลือก Moving Average Exponential
4. ตรวจสอบรายชือ Indicators ก่อนเพิ่ม
5. ตรวจสอบรายชื่อ indicators หลังเพิ่ม( EMA9)
6.ปรับลดจำนวนข้อมูลตามต้องการ(เช่น ระยะเฉลี่ย เปลี่ยนจาก 9 เป็น 18)
วิธีสร้างชาร์ตด้วยสีพื้นหลังแบบไล่ระดับสีเมื่อเร็ว ๆ นี้เราได้พัฒนาชาร์ตของเราให้สามารถมีสีพื้นหลังที่ไล่ระดับสีได้ นั่นหมายความว่าคุณสามารถใช้สองสีพร้อมกันเพื่อสร้างแผนภูมิที่ดูดีและไม่เหมือนใครของคุณเองได้ ในตัวอย่างนี้เราได้สีน้ำเงินอ่อนกับสีขาวเพื่อสร้างพื้นหลังที่ดูสบายตา
ในการเริ่มต้น ให้ทำตามขั้นตอนง่ายๆเหล่านี้:
ขั้นตอนที่ 1 - เปิดการตั้งค่าชาร์ตของคุณ
ขั้นตอนที่ 2 - ในหน้าต่างการตั้งค่า คลิกแถบการแสดงผล
ขั้นตอนที่ 3 - เปลี่ยนการตั้งค่าสีพื้นหลังเป็น การไล่ระดับสี
ขั้นตอนที่ 4 - เลือก 2 สีที่ต้องการ
ชาร์ตในตัวอย่างนี้แสดงราคาของ Apple ตั้งแต่ IPO โดยใช้แท่งเทียนรายเดือน แท่งเทียนแต่ละแท่งจะแสดงการซื้อขายหนึ่งเดือนเต็ม เราตัดสินใจใช้ Apple เพราะ 9 ปีที่แล้ววันนี้ สตีฟ จ็อบส์ จากไป Apple ทำหลายอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีและโดยเฉพาะอย่างยิ่งศิลปะของการลงทุนในระยะยาว เมื่อดูที่ชาร์ตนี้คุณสามารถเรียนรู้ประวัติราคาทั้งหมดของ Apple ย้อนกลับไปในการเสนอขายหุ้นในปี 1980 รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และกิจกรรมทางการเงิน นอกจากนี้ยังแสดงบนพื้นหลังชาร์ตแบบไล่ระดับสีใหม่ของเรา
ขอขอบคุณที่อ่าน และเราหวังว่าท่านจะสนุกกับฟีเจอร์ใหม่ของการไล่ระดับสีของชาร์ตนี้! กรุณาฝากคำถามหรือความคิดเห็นไว้ด้านล่าง ทีมงานของเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อติดตามและช่วยเหลือท่าน
แชร์ไอเดีย การวางแผนเทรดการวางแผนการเทรดเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญ
นักลงทุนควรวางแผนการเทรดโดย
การใช้อินดิเคเตอร์ที่ตนเองมีความเชี่ยวชาญในการการมากำหนดจุดซื้อและจุดขาย
ไม่ว่าจะเป็น MACD RSI Fibo เส้น Trend Line และอื่นๆ โดยที่
1. กำหนดจุดเข้าซื้อ
อาจจะแบ่งไม้ซื้อ 2-4 ไม้ก็ได้ เช่น
Buy 1: บาท
Buy 2: บาท
2. กำหนด "จุดขาย" ทำกำไร (แบ่งไม้ขายได้เช่นกัน)
Sell 1: บาท
Sell 2: บาท
3. กำหนดจุด "Stop Loss" (แบ่งไม้ได้เช่นกัน) เช่น
Cut 1: บาท
Cut 2: บาท
สิ่งที่สำคัญไม่น้อยกว่าการวางแผนการเทรด คื อ "การทำตามแผนการเทรด"
คุณไม่สามารถเอาชนะตลาดได้ "ทุกครั้ง" ในบางครั้ง "ผิดทาง" ต้องรู้จัก "ยอมแพ้" บ้าง
การยอมแพ้หรือการ Stop Loss เป็นการรักษา "เงินต้น" เพื่อให้คุณนำมาเป็นทุนกับการลงทุนครั้งใหม่
อย่าปล่อยให้การขาดทุน "5-10%" ผิดทางจนกลายเป็น "20-50%" จนคุณต้องสูญเสียเงินต้นไปมากกว่าที่ควรจะเป็น
ฟองสบู่ DeFi น่าจะแตกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว = ลุกช้าจ่ายรอบวงช่วงนี้ที่ไม่ค่อยได้อัพเดทอะไรลงเพจ หรือไม่ได้ live ส่วนนึงก็ไม่รู้จะอัพอะไร แล้วก็ไปติด Genshin Impact อยู่ตลอดอาทิตย์ที่แล้ว 555 ยังดีมี Venti มาให้ชื่นใจ ส่วนที่เหลือก็เกลือเรียบ
อีกส่วนนึงก็กำลังชั่งใจว่า จะออกมาโพสทับถม DeFi ดีหรือไม่ เพราะก็อย่างที่เราเห็นๆ กันนะครับว่า ช่วงนี้ เหรียญ DeFi ทั้งหลาย ก็เริ่มออกลาย อย่างที่ผมเคยเตือนๆ กันมาในเพจตลอด ... ว่าระวังมันจะเป็นแค่ Just another ICO
ตัวอย่างที่เห็นตอนนี้ก็คือ Sushi(t) the exit scam ของเรา ที่เจ้าของแม่งขายเหรียญเปิดตูดไปหมดนานแล้ว แต่ไอ้เจ้าของ FTX มารับขี้ไปแทน ... ซึ่งตอนนี้ราคาเหรียญก็ต่ำตม ชนิดที่เรียกว่า เอาขี้มาเทียบก็ยังไม่น่าจะใช้ได้
โดยที่ผ่านมา Sushi(t) ได้ร่วงจาก ATH ลงมาราคาปัจจุบัน ไปแล้วกว่า -95% และ ร่วงลงมาถึง -35% ในเวลาแค่ 4 วันเท่านั้น
โดยถ้าเราไปหลงเชื่อค่า APY ที่บอกว่า ได้วันละ 0.29% ปีละ 104% ซึ่งถ้าคิดแล้ว 4 วันที่ผ่านมาก็จะได้ไปถึง..+1.16% ... แต่มูลค่าเหรียญมึงร่วงลงมา 4 วัน -35%.... แค่นี้ก็ได้แต่เอาตรีนก่ายหน้าผากแล้วครับ...
แล้วขอโทษนะครับ ถ้าคุณยังไปฝากเงินซื่อบื้ออยู่ใน sushi swap หวังกินดอกจนครบ 1 ปี ซึ่งได้มาแค่ 100% ( ตามที่เว็บบอก ) แต่ถ้าราคาเหรียญลงไปจาก ราคาปัจจุบันอีก -99% นี่คือจบนะครับ...
เพราะถ้าเหรียญลงไป -99% แล้ว คุณต้องทำกำไรกลับมาถึง 10,000% เลยนะ มันถึงจะกลับมาแค่ เท่าทุน!! ( 1 x 100 x 100 = 10,000% )
===========
จากที่ผมดูทรงแล้ว ผมคิดว่า ฟองสบู่ DeFi น่าจะแตกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้ก็รอแค่ว่า ใครลุกช้า ก็จ่ายรอบวง ตามสไตล์แชร์ลูกโซ่
แล้วเคส DeFi คือ คุณไปตามฟ้องร้องกะใครไม่ได้เลยนะครับ เพราะทุกโครงการอยู่บน Smart Contract ( ยกเว้นคุณจะไปให้คนที่ตามตัวได้ บริหารเงินให้ แบบนั้นก็อาจจะพอตามตัวกันได้มั้ง 5555 )
เวลาคุณมาร้องห่มร้องไห้ ว่าเงินหายหมด... ขาดทุนหนักมาก ทำไงดี .. คนที่ชวนๆ คุณไปลง เขาก็จะใช้ประโยคคลาสสิค บอกคุณว่า "เอ๋า ก็ผมบอกแล้วไงครับว่า ให้เอาเงินเท่าที่จะเสียได้ มาลงเท่านั้น แล้วพี่ไป all-in ทำไมล่ะครับ!?!" ..... ซึ่งก็จริงของเขาอ่ะนะ 5555
หรือไม่ก็อาจจะบอกว่า "ถือทนรอไปก่อนนะครับ เดี๋ยวมันก็กลับมา" ... ซึ่ง มันอาจจะกลับมา หรือมันอาจจะไม่กลับไปเลย เหมือนโปรเจค ICO หลายๆ ตัวที่ -100% กันไปแล้วก็ได้นะครับ
==============
ดังนั้น... หลังจากนี้ ... ใครรู้ตัวว่าลงไปเยอะ และดูทรงแล้ว ไม่น่าไหว ก็ลองตัดสินใจดูแล้วกันครับว่าจะ take action ยังไง ... ส่วนตัวผมคงไม่บอกไร เพราะเดี๋ยวบอกให้หนี แล้ววันรุ่งขึ้นมันดีดใส่หน้า ก็จะมาด่าผมอีก 555
นี่คือสิ่งที่ผมย้ำ และเตือน อยู่ในเพจมาตลอดว่า ตลาด มันไม่ง่ายนะ อย่าประมาท ....
และมันก็ยังคงเป็นจริงเสมอครับ