ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปตัวนี้มันดูแล้วไม่ต้องพิมพ์ d1 มันก็มีวอลลุ่มสามารถซื้อขายได้ในทำเฟรมเล็กอยู่แหละแต่ถ้าดูด้วยตาจริงๆเนี่ยมันใกล้จะระเบิดแล้วรอระเบิดแล้วก็เลือกทางแล้วค่อยเข้าจะได้ซื้อขายตามเทรนก็จะเก็บได้ไวกว่าถ้าซื้อตอนนี้มันก็จะยึกๆยักๆน่าเบื่อเป็นไปได้ก็อยู่บ้านทำอย่างอื่นฝึกทักษะอย่างอื่นไปดีกว่าหรือจะอ่านหนังสืออะไรเพิ่มทักษะอะไรยังจะดีกว่ายังไม่นั่งเฝ้าเลยรอให้มันระเบิดก่อนหาจังหวะเข้าในทางเฟรมที่เล็กลงนิดนึงหาpaใน h1
เอาเวลาไปอยู่กับลูกปลูกต้นไม้ออกกำลังกายก็ได้ไม่ต้องไปนั่งเฝ้า
การวิเคราะห์แนวโน้ม
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปแนวโน้มของ ทำเฟรมใหญ่วิกก็ยังมองเป็นขาลงแต่มันอยู่ในกรอบของ side way ใหญ่ week ด้วยเพราะฉะนั้นมันยังไม่ได้ลงตอนนี้หรอกมันก็จะวิ่งแบบ side way ก่อนเพราะฉะนั้นใน h4 เขากำลังยืนยันขาขึ้นหาจุดเข้า time frame h1 หา price action ฉากขึ้นแล้วรอให้กราฟมันย่อกลับลงมาในกรอบเดิมก็บายขึ้นไป sltp ตามแนวรับแนวต้านสำคัญ
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปในTF m 15 ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรเลยจากการวิเคราะห์ของก่อนหน้านี้แค่มาย่อยดูว่ามันจะมีจุดเข้าอะไรที่ละเอียดขึ้นไหมไอ้นี่ล่ะครับคือ price action หรือพวกโซนที่ดีที่สุดนั่นแหละแต่อย่างที่ว่าล่ะครับเห็นไหมว่าถ้าเวลามันลงอ่ะเราก็สามารถเซลล์ได้เหมือนกันนะแต่ว่ามันต้องเก็บเร็วเพราะพี่ใหญ่บอกขึ้นอยู่ระวังสวนโดนลากด้วย เก็บบนเก็บล่าง100จุดเข้าออกบ่อย
เพราะฉะนั้นยิ่งย่อยเล็กยิ่งเห็นจุดเข้าได้เยอะขึ้นเก็บได้ไวขึ้นออกจากตลาดได้เร็วขึ้น
เลือกเอาล่ะครับว่าจะเอาแบบไหนมันขึ้นอยู่กับตัวเรามันนี่ไม่ได้เน้นของเราเงินทุนของเราทุกอย่างมันนี่ไม่เห็นก่อนเสมอทำตามแผนด้วยอย่าทำนอกแผนโดนมาแล้วเมื่อวานนี้น้อยกว่าเหรียญเสียดายมาก
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไป ใช้ชุดวิเคราะห์เดิมของ time frame week ย่อลงมาtime frame d1จะเห็นภาพรวมเลยว่าใน 9,300 จุดนั้นน่ะช่วงราคาปัจจุบันมันก็คือกรอบ side wayเพราะฉะนั้นถ้าจะเทรดสำหรับสัปดาห์หน้าก็ต้องเทรดในรูปแบบของ side way ก่อนแต่อย่างที่ว่าแหละ 5 วัน 5 แท่งใน 1 วันมีการวิ่งลงวิ่งขึ้นของแท่งเล็กๆมากมายแล้วเราจะมาอยู่รอเทรดอีก 5 วันไม่รู้จะทำ action อะไรให้เราได้เห็นคงเป็นไปไม่ได้เช่นเดียวกันใน time frame day บอกเราได้แค่นี้ไม่มีอะไรมากกว่านี้แล้วถ้าจะเทรดตามรูปแบบต่างๆนี้ก็คงต้องย่อลงไปดูในทางเฟรมที่เล็กลงดีกว่าเดี๋ยวลงไปดู h4 กันครับ
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปทำเฟรม week แนวโน้มครับดูด้วยตามันก็ขึ้นนั่นแหละครับแต่กว่าเราจะได้เก็บคงรอนานมากอย่าไปคิดว่ามันจะได้ซื้อขายกันเร็วๆนี้หรอกดูแค่นี้พอสัปดาห์หน้าวางแผนเทรดในกรอบนี้ 9,300 จุดทะลุขึ้นก็วางแผนเทรดใบต่อทะลุลงก็วางแผนเขตเซลล์ต่อแต่ถ้าไม่ทะลุก็วางแผนเทรดในกรอบ 9,300 จุดทำ family บอกให้เราเห็นได้แค่นี้เราไปวิเคราะห์อะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้วจะหา price action อะไรในทำเฟรมวิกมันไม่ได้มีประโยชน์สำหรับคนเทรดเก็บรายวันแต่มันเป็น price action ที่มีประโยชน์สำหรับคนเก็บรายเดือนฉะนั้นดูๆเอาไว้ครับมี price action ไหมถ้ามีก็ดูๆไว้แค่นั้นแหละ
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการเทรดอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk Reward Ratio) เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการบริหารจัดการความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการเทรด Forex โดยอัตราส่วนนี้จะเปรียบเทียบระหว่างจำนวนเงินที่คุณอาจจะเสียไป (ความเสี่ยง) กับจำนวนเงินที่คุณคาดหวังว่าจะได้รับ (ผลตอบแทน) จากการเทรดแต่ละครั้ง
ทำความเข้าใจอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk Reward Ratio) เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการบริหารจัดการความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการเทรด Forex โดยอัตราส่วนนี้จะเปรียบเทียบระหว่างจำนวนเงินที่คุณอาจจะเสียไป (ความเสี่ยง) กับจำนวนเงินที่คุณคาดหวังว่าจะได้รับ (ผลตอบแทน) จากการเทรดแต่ละครั้ง
ทำไมอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนถึงสำคัญ?
การควบคุมความเสี่ยง: ช่วยให้นักเทรดกำหนดวงเงินขาดทุนสูงสุดที่ยอมรับได้ และป้องกันไม่ให้ขาดทุนสะสมมากเกินไป
เพิ่มโอกาสในการทำกำไร: เมื่ออัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนอยู่ในระดับที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณทำกำไรได้มากกว่าขาดทุนในระยะยาว
สร้างวินัยในการเทรด: การตั้งเป้าหมายอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนจะช่วยให้นักเทรดมีวินัยในการปฏิบัติตามแผนการเทรด
วิธีคำนวณอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนคำนวณได้โดยการหารระยะทางจากจุดเข้าซื้อไปยังจุด Stop Loss ด้วยระยะทางจากจุดเข้าซื้อไปยังจุด Take Profit
ตัวอย่าง: สมมติว่าคุณซื้อสกุลเงินคู่ EUR/USD ที่ราคา 1.1000
Stop Loss: คุณตั้ง Stop Loss ไว้ที่ 1.0900 (ความเสี่ยง = 100 pips)
Take Profit: คุณตั้ง Take Profit ไว้ที่ 1.1100 (ผลตอบแทน = 100 pips)
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 100 pips / 100 pips = 1:1
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ดีคือเท่าไหร่?
โดยทั่วไปแล้ว อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่มากกว่า 1:1 ถือว่าดี เนื่องจากหมายความว่าคุณมีโอกาสที่จะทำกำไรได้มากกว่าที่คุณจะเสียไป อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนที่เหมาะสมจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลและขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การเทรดของแต่ละคน
ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการตั้งค่าอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน
ความผันผวนของตลาด: ในตลาดที่ผันผวนสูง อาจเหมาะที่จะตั้งอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่สูงขึ้น
จำนวนครั้งในการเทรด: หากคุณเทรดบ่อยครั้ง อาจเหมาะที่จะตั้งอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ต่ำลงเพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดทุนหลายครั้งติดต่อกัน
เป้าหมายในการเทรด: หากเป้าหมายของคุณคือการทำกำไรระยะยาว อาจเหมาะที่จะตั้งอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่สูงขึ้นเล็กน้อย
สรุป
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการบริหารจัดการความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการเทรด Forex การทำความเข้าใจและนำไปใช้กับการเทรดของคุณอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จได้มากยิ่งขึ้น
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปเมื่อเช้าพอสอบกองทุนขาดทุนไป 100 เหรียญอุตส่าห์ปั้นมาเกือบจะผ่านอยู่แล้ววิเคราะห์สาเหตุมาจากความมั่นใจตัวเองจนเกินไปวิเคราะห์ภาพรวมอยู่แล้วว่าแท่งคู่ h4 จะทุบลงแต่เชื่อมั่นว่าเทรดตามแนวโน้มยังไงก็ขึ้นสุดท้ายโดนย่อกับลงมาอย่างแรงไม่สามารถที่จะประคองไว้ได้ยอม SL ดีกว่าหาจังหวะเข้าใหม่เดี๋ยวคงจะหาจังหวะเข้าตามภาพที่วิเคราะห์ล่าสุดนี้ก่อนจุดเข้าเล็กๆที่จะเก็บสั้นๆค่อยหาระหว่างทางอีกทีนึง
Cup and Handle Pattern ถ้วยกาแฟ คืออะไร?Cup and Handle Pattern
ถ้วยกาแฟ คืออะไร?
👯👯👯กลับมาพบเจอกันอีกเช่นเคยกับบทความที่เกรี่ยวกับเทคนิคการเทรดดีๆ แพทเทรินแจ่มๆที่มักมาให้เราได้พบได้เจอบ่อยๆ และ Cup and Handle Pattern หรือที่เรามักเรียกกันว่าถ้วยกาแฟก็ยังไม่จกเทนด์นะ เพราะมันออกมาห้เราได้เห็นกันอีกแล้ว
วันนี้เแอดพาทุกท่านไปรำลึกและหวนคืนการรื้อฟื้นรูปแบบถ้วยกาแฟมาให้ได้อ่านกัน สำหรับสายเทรดทอง ที่กำลังติดดอยกันอยู่ในตอนนี้ เพราะ เขามาอีกแล้วฮะ ไหน มาแล้วหรอ มาตอนไหน แล้วตอนนี้ถึงตรงไหนแล้ว บทความนี้มาช่วยวิเคราะห์ให้ได้อ่านกันครับ
Cup and Handle Pattern ถ้วยกาแฟ คืออะไร?
รูปแบบกราฟถ้วยกาแฟเป็นสัญญาณในตลาดกระทิง หรือแนวโน้มขาขึ้นระยะยาวฮะ
องค์ประกอบของรูปแบบนี้ก็มี2 อย่างเเท่านั้น คือ ถ้วย และหูถ้วย
1. ขนาดของถ้วยกาแฟ มักมีหลายขนาดและหลายรูปทรง และทีเรามักจะเห็นกันบ่อยๆ ก็มักจะเป็นรูปตัวยู U นั่นก็คือ
- ราคามีแรงซื้อเข้ามา แล้วเกิดแรงเทขายอย่างหนัก จนเกิดการพักตัวที่ฐานล่างเป็นเวลานาน จนเกิดเป็นสวิงเทรนไซด์เวย์
- หลังจากนั้น ราคาก็จะมีแรงซื้อเข้ามาอีกรอบ เป็นอันเสร็จ การทำถ้วยรูปตัว U
2. แต่มันจะไม่จบเพียงเท่านี้ หลังจากที่หลอกล่อเม่ามาได้ระดับนึงแล้ว กราฟจะยังหลอกเม่าต่อไปอีก ด้วยการทำหูถ้วยกาแฟ ซึ่งมีรูปแบบการวิ่งคล้ายถ้วยกาแฟเลย ต่างกันตรงที่ เล็กกว่า น้อยกว่า แคบกว่า
-ซึ่งมาถึงหูตรงนี้แล้ว รูปทรงของหูกาแฟ ก็สามารถเป็นได้ทั้งตัว U และตัว V
เราควรเริ่มเทรดที่ไหนดี
1. หากคุณเป็นสายเทรดเทรนด์ระยะยาว ถือว่าคุณโชคดีมาก ตรงที่เราจะได้จุดเข้าสวยๆ และเก็บกำไรได้เพิ่มอีก หากราคาลงมาใหม่ และขึ้นไปใหม่
2. แต่หากคุณเป็นนักเทรดระยะสั้น ๆ แนะนำให้มองหาหูกาแฟเป็นหลัก เพราะเป็นไปได้สูงมากที่ราคาจะเบรคเอ๊าท์ทะลุแนวต้านเก่าขึ้นไป ทำไฮใหม่ ซึ่งจัดว่าสูงและไกลมาก เผลอๆระยะการทำ take profit อาจจะมีระยะที่ยาวและสูงพอๆกะรูปทรงของถ้วยกาแฟเลย ( วัดระยะได้จากก้นถ้วยกาแฟจนถึงปากถ้วยกาแฟ)
จุดทำกำไรก็ง่ายๆเลยด้วยการวัดระยะของถ้วยกาแฟตั้งแต่ก้อถ้วย จนถึงปากถ้วยกาแฟว่ามีระยะวิ่งประมาณเท่าไหร่ สดส่วนตรงนี้แหละจะเป็นระยะทำกำไรในอนาคตของเรา ที่มีความน่าจะเป็นค่อนข้างสูง แต่อาจต้องใช้เวลานานนิดนึงนะฮะ
ต้องฝึกการรอหน่อย แต่ถ้าไม่ชอบรอ ก็ฝึกการทำกำไรระยะสั้น โดยยึดหลัก ย่อแล้วเข้า Buy เป็นหลัก เพื่อหวังผลกำไรในการไต่ขึ้นไปนั่นเอง
👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ง่ายๆเบสิค แต่หลายๆคนมักมองจะมาเห็นสัญญาณในช่วงท้ายๆหรือตรงหูไปแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะทำกำไรไม่ได้นี่นา หลักสำคัญที่เราต้องทำเลยก็คือการรอ และหาจังหวะสวยๆครับ ฝึกฝนบ่อยๆเราจะอ่านกราฟออกเอง และบางทีการฝึกใจเย็นก็ทำให้เราได้กำไรเพิ่มมากขึ้นด้วยนะ แอดคอนเฟริม
หมั่นฝึกฝนให้ได้ทุกวัน และเทรดบ่อยๆเราจะเก่งขึ้นเองครับ และที่สำคัญอย่าลืม MM และสร้างแผนการเทรดที่ดีด้วยนะครับ จะช่วยทำให้เราแกร่งมากยิ่่งขึ้น และเจ็บน้อยลง แอดเอาใจช่วยนะครับ
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปตอนนี้กำลังจะลองหาจุดเข้าให้มันเล็กลงอีกโดยบีบไทม์เฟรมหลักใช้แท่งแนวรับต้านของ h4 h1 เป็นหัวใจแล้วหาจุดเข้าซื้อใน m15 พบว่ามี price action มากมายที่สามารถเข้าซื้อได้แต่อย่างที่บอกคือพื้นฐานสำคัญจะต้องทำแนวโน้มไม่ทำเฟรมเล็กให้เห็นก่อนชัดเจนจากนั้นก็รอการสร้าง price action จะต้องสอดคล้องกับแนวโน้มด้วยมิเช่นนั้นมันจะเป็นการย้อนกราฟหรือไม่เรียกง่ายๆก็คือซื้อแล้วอาจจะถูกลากก็ได้อย่างในขณะนี้แนวโน้มกราฟภาพรวมใหญ่ของ H4 กับ h1 มันก็คือside way 2,200 จุดแต่ใน m15 มันยกตัวขึ้นเราก็ต้องหา price action ขาขึ้นแบบไหนก็ตามที่มันสอดคล้องกับแนวโน้มของขาขึ้น m15 แล้วก็เก็บสั้นๆไปทดลองดูแล้วก็ชัดเจนใช้ได้อยู่กำลังฝึกอยู่เหมือนกันลองฝึกกันดูครับ
ฝึกวิเคราะห์หาจุดเข้าซื้อให้ละเอียด แม่นยำยิ่งๆขึ้นออกแผนการเทรดในเอ็ม 15 ก็เป็น side way แต่มีวอลลุ่มอยู่ถึง 2,000 จุดเลยนะจะไปจะเซลล์ในกรอบก็ได้เก็บสั้นๆเอาระวังมันสวนกันไปสวนกันมาด้วยต้องหา price action ให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยเข้าออเดอร์ในแต่ละส่วนจะไปก็ price action by จะเซลล์ก็ price action เซลล์จะระเบิดไปข้างบนก็หา PA บายจะระเบิดไปข้างล่างก็หา p a saleแค่นั้นแหละครับ
ครับไม่ได้วิ่งตามฝันมันให้เราวิ่งแค่ในกรอบเราก็เก็บในกรอบแค่นั้นแหละอย่าไปคาดหวังว่ามันจะไปถึงดาวอังคารหรือลงไปยังรากลึกถึงใจคนอย่างนั้นก็ไม่ใช่
ฝึกวิเคราะห์หาจุดเข้าซื้อให้ละเอียด แม่นยำยิ่งๆขึ้นสรุปแผนการเทรดก็เป็นไปตามเป้าอยู่แต่ก็ลงมาช้าอยู่เหมือนกันเพิ่งจะลงมาแล้วตอนนี้ก็ปิดขึ้นไปเป็นสีเขียวกลับเข้าไปในกรอบถ้าจะให้บอกว่าเทรดไปทางไหนตอบไม่ได้รอระเบิดอย่างเดียวเลยตอนนี้ต้องรอให้เขาเลือกทางใหม่อีกครั้งหนึ่งถึงค่อยเข้าจังหวะเทรดได้ตอนนี้ไม่สามารถเทรดอะไรได้เลยถ้าจะเทรดก็ย่อใน time frame ที่เล็กลงแล้วเทรดแบบ side way เอาใช้แนวรับต้านของ m30 เป็นตัวตั้งใช้เอ็ม 15 m5 m1 ในการเข้าออเดอร์เทรดเก็บสั้นๆหา price action ใน time frame เล็กๆแต่มันอาจจะไม่แข็งแรงเก็บได้น้อยภาพรวมตอนนี้ก็วิ่งมาได้ 2,000 จุดแล้วแต่เป็น 2,000 จุดที่จับเข้ามาในกรอบแบบนี้มันก็ไม่สามารถเทรดอะไรได้นะครับต้องรอจังหวะรอระเบิดก่อนถ้าใครเห็นช่วงนี้น่าจะทันอยู่ m15 มันมี price action ให้เทรด order by ได้ก็สามารถบายสั้นๆได้ไป TP ตรงเส้นแนวต้านด้านบนที่ตีเอาไว้แค่นั้นแหละไม่ต้องไปไกล
Log Return คืออะไร?Log Return เป็นการวัดการเปลี่ยนแปลงเปอร์เซ็นต์ของราคาสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง โดยใช้อัตราการเปลี่ยนแปลงแบบต่อเนื่อง (continuous rate of change) ซึ่งคำนวณโดยใช้ฟังก์ชันลอการิทึมธรรมชาติ (natural logarithm)
ทำไมต้องใช้ Log Return?
สมบัติที่ดีในการวิเคราะห์อนุกรมเวลา: Log Return มีคุณสมบัติที่ดีในการวิเคราะห์อนุกรมเวลาทางการเงิน เนื่องจากมีการกระจายตัวแบบปกติ (normal distribution) มากกว่าผลตอบแทนแบบง่าย (simple return) ทำให้สามารถนำไปใช้ในการสร้างแบบจำลองทางสถิติได้ง่ายขึ้น
สะดวกในการคำนวณผลตอบแทนสะสม: เมื่อต้องการคำนวณผลตอบแทนสะสม (cumulative return) ของหลายช่วงเวลา การใช้ Log Return จะสะดวกกว่า เพราะสามารถบวกผลตอบแทนในแต่ละช่วงเวลาเข้าด้วยกันได้โดยตรง
เหมาะสมกับการวิเคราะห์ความผันผวน: Log Return สามารถใช้ในการวัดความผันผวนของราคาสินทรัพย์ได้อย่างแม่นยำ โดยใช้ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviation) ของ Log Return
การคำนวณ Log Return
สูตรในการคำนวณ Log Return คือ:
Log Return = ln(Pt / Pt-1)
โดยที่:
Pt = ราคาปิดของสินทรัพย์ในช่วงเวลา t
Pt-1 = ราคาปิดของสินทรัพย์ในช่วงเวลา t-1
ln = ธรรมชาติลอการิทึม (natural logarithm)
ตัวอย่างการคำนวณ
สมมติว่าราคาของคู่สกุลเงิน EUR/USD ในวันจันทร์ปิดที่ 1.10 และในวันอังคารปิดที่ 1.12 Log Return ในช่วงเวลานี้จะคำนวณได้ดังนี้:
Log Return = ln(1.12 / 1.10) ≈ 0.0182
ข้อดีของ Log Return เมื่อเทียบกับ Simple Return
ไม่ขึ้นกับจุดเริ่มต้น: Log Return ไม่ขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้นของราคา ทำให้สามารถเปรียบเทียบผลตอบแทนของสินทรัพย์ต่างๆ ได้อย่างเป็นธรรม
สามารถนำไปใช้กับอัตราดอกเบี้ย: Log Return สามารถนำไปใช้กับอัตราดอกเบี้ยได้โดยตรง
เหมาะสมสำหรับการสร้างพอร์ตโฟลิโอ: Log Return สามารถใช้ในการสร้างพอร์ตโฟลิโอและวัดผลตอบแทนของพอร์ตโฟลิโอได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป
Log Return เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการวัดผลตอบแทนในตลาด Forex โดยมีข้อดีหลายประการเมื่อเทียบกับ Simple Return การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Log Return จะช่วยให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์ผลการลงทุนของตนเองได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และสามารถตัดสินใจในการลงทุนได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปใน m 30 มันจะออกมาได้ตามรูปนี้เลยแผนมันจะเป็นประมาณนี้ล่ะครับก็คือมองแบบ side way แท่งต่อปัจจุบันอย่างนี้ถ้าเกิดว่ามันมี pa เป็นแท่งรับอะไรก็ช่าง มันจะสามารถบายขึ้นไปก่อนได้แต่ถ้ามันลงต่อก็มีสาเหตุของแท็กต่อด้านซ้ายจะสามารถลงไปต่อได้อีกฉะนั้นหาเซลล์ก็ยังลงได้อยู่แต่ขาบายก็ต้องรอจังหวะไปเพราะฉะนั้นวันนี้แผนมันจะมีให้เราวางไว้อยู่ประมาณนี้ล่ะครับเทรดในกรอบเทรดนอกกรอบเข้ามาในกรอบ by ตัวที่ break out เก่าก็หา PA ที่มันบายขึ้นไปใหม่แต่ถ้ามันลงไปอีกก็ต้องหา PA sale ต่อมันก็แบบนี้ล่ะครับ
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปรูปแบบเต็ม 15 จะเห็นได้ว่ารูปแบบการวิเคราะห์ก็เหมือนกันเลยไม่ได้แตกต่างอะไรแต่เราก็ต้องเพิ่มระยะในการวิเคราะห์ด้วยว่าเหลือและเก็บเทรดได้เท่าไหร่แล้ว price action อะไรเราก็เทรดไปตามแผนนี้จนกว่าจะถึงเวลาเปิดตลาดของยุโรปตลาดยุโรปเปิดอย่าเพิ่งเทรดต้องพักดูก่อนอย่าเพิ่งไปสวนหรือว่าไปเทรดตามเพราะว่าตลาดเอเชียกำลังจะปิดตลาดยุโรปกำลังจะเปิดพวกนี้สำคัญหมดต้องสังเกตณขณะนี้กราฟก็น่าจะขึ้นไปตามแผนแล้วอาจจะขึ้นไปชนเส้นข้างบนก็เป็นได้แล้วก็อาจจะทุ้มลงมาก็เป็นได้ทุกอย่างมันเป็นไปได้หมดแต่ทุกอย่างก็ต้องยืนอยู่ในแผนที่กำหนดเอาไว้จะสังเกตว่าแผนไม่ได้ต่างกันกับแผนใหญ่เลยแผ่นเล็กก็เหมือนกันแต่เก็บสั้นออกหลอดใหญ่เบิ้ลไม้เก็บสั้นๆไม่ไหวจบเร็วก็แล้วแต่เลือกใครชอบแบบไหนก็เลือกเอาแบบนั้นแค่นั้นเองไม่มีอะไรที่มันจะต้องว่าไอ้คนนู้นวิเคราะห์ผิดวิเคราะห์ถูกมันไม่มีอะไรผิดแล้วอะไรถูกทั้งนั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับการวางแผนSAWATDEE
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปย่อดูทางเฟรม h1 เห็นไหมว่ารูปแบบการออกแบบแผนก็เป็นรูปแบบเดียวกับ h4 เลยความหมายมันก็คือการเก็บทางเฟรมที่สั้นลงเวลาที่ลดลงเก็บได้น้อยลงแต่จบได้ไวขึ้นเลือกแผนเทรด H4 ก็เลือก H4 เทรด h1 เข้าไปย่อหาจุดเข้า m15
การออกแผนมันเป็นเหมือนกับลักษณะของการทำงานทั่วไปก็ก่อนทำงานก็ต้องเขียนแผนงานก่อนเสมอเขียนแผนงานจำลองสถานการณ์คำนวณต้นทุนนั่นคือ money management แล้วก็กำหนดความเสี่ยงนั่นคือแผน 2 ของการทำงานทำงานอะไรก็ต้องมีแผนเป็นนักเทรดก็ต้องมีแผนไม่ใช่ว่าเป็นนักเทรดเทรดแล้วสบายไม่มีบนโลกใบนี้สิ่งที่สบายนั้นคือการวางแผนไว้ให้ล่วงหน้านั่นแหละคือความสบายส่วนคนที่ไม่สบายนั่นคือคนไม่รู้จักวางแผนสวัสดี