ฝึกวิเคราะห์เพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดและแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปแนวโน้มกราฟมันเป็น side way ก็ต้องเทรดแบบ side wayกราฟเลือกทางลงจริงแต่อย่าไปsellเพราะเธอโดนลากแน่นอนถ้าจากเซลล์ก็ต้องเซลล์ข้างบนมาใบข้างล่างแต่ถ้ามันหลุดก็เทรดตามแนวโน้มไปหลุดข้างบนแนวต้านก็บายตามแนวโน้มขาขึ้นหลุดทะลุลงมาแนวรับก็เทรดเซลล์ตามแนวโน้มขาลงแค่นั้นแหละครับ
การวิเคราะห์แนวโน้ม
“Fan Principle” เป็นเทคนิคที่ทรงพลังในการซื้อขาย โดยใช้เส้นแนวโน“Fan Principle” เป็นเทคนิคที่ทรงพลังในการซื้อขาย โดยใช้เส้นแนวโน้มเพื่อทำนายการเคลื่อนไหวของราคา
ไฮไลท์
📈 เทคนิคอันทรงพลัง: หลักการของพัดลมนั้นน่าเกรงขามในการวิเคราะห์ทางเทคนิค
📉 การระบุจุด: การวาดเส้นแนวโน้มจากจุดสำคัญสามจุด
🔴 สัญญาณการซื้อขาย: สามารถระบุสัญญาณซื้อหรือขายได้ขึ้นอยู่กับการกำหนดค่า
📊 ตัวอย่างเชิงปฏิบัติ: การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาบนกราฟเพื่อแสดงเทคนิค
💰 โอกาสในการสร้างรายได้: กลยุทธ์สามารถส่งผลให้ได้รับผลกำไรอย่างมาก มากถึง 22%
🛑 การจัดการความเสี่ยง: ความสำคัญของการวางจุดหยุดขาดทุนเพื่อปกป้องการลงทุน
🔍 แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม: ข้อมูลโดยละเอียดและกราฟิกจะถูกแชร์เพื่อทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญ
📈 ประสิทธิผลของเทคนิค: Fan Principle ช่วยระบุแนวโน้มที่ชัดเจนโดยใช้จุดอ้างอิง ทำให้กลยุทธ์ทั้งง่ายและมีประสิทธิภาพ
📉 ความสำคัญของการยืนยัน: การตรวจสอบเส้นแนวโน้มด้วยจุดที่สามจะสร้างความมั่นใจในสัญญาณการซื้อขาย เพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ
🔴 สัญญาณเตือน: สัญญาณการขายหรือซื้อดังที่แสดงในวิดีโอสามารถนำไปสู่การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ตามการวิเคราะห์ในอดีต
📊 การวิเคราะห์ด้วยภาพ: การแสดงข้อมูลบนกราฟช่วยในการทำความเข้าใจการเคลื่อนไหวของตลาด ซึ่งจำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค
💰 ศักยภาพในการสร้างรายได้: การซื้อขายตามหลักการของ Fan สามารถให้โอกาสในการได้รับผลกำไรที่สำคัญ โดยเน้นย้ำถึงประสิทธิภาพของมัน
🛑 กลยุทธ์การป้องกัน: การวางจุดหยุดการขาดทุนเหนือจุดแนวต้านเป็นสิ่งสำคัญในการจำกัดการขาดทุนในกรณีที่มีการเคลื่อนไหวของตลาดในเชิงลบ
🔍 การเข้าถึงแหล่งข้อมูล: ข้อมูลที่แชร์ในคำอธิบายและบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ เป็นวิธีในการทำความเข้าใจทางเทคนิคให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและพัฒนาทักษะการซื้อขาย
-
หลักการทั่วไปในการซื้อขายคือกลยุทธ์ซึ่งประกอบด้วยการเปิดหลายตำแหน่งในสินทรัพย์เดียวกันในระดับราคาที่แตกต่างกัน ประเด็นหลักของแนวทางนี้มีดังนี้:
การทำงาน
แนวคิดคือการเปิดหลายตำแหน่ง (หรือ "ล็อต") ในสินทรัพย์ทางการเงินเดียวกันในระดับราคาที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้เกิด "ช่วง" ของตำแหน่ง
ตำแหน่งเหล่านี้เปิดในจุดที่พิจารณาถึงการกลับตัวของตลาดที่อาจเกิดขึ้น
วัตถุประสงค์คือเพื่อให้ตำแหน่งเหล่านี้เปิดเผยเหมือนอย่างพัดหรือค่อยๆ ปิดขึ้นอยู่กับการพัฒนาของตลาด
ประโยชน์
การกระจายความเสี่ยง: ด้วยการเข้าสู่ตลาดในระดับที่แตกต่างกัน เทรดเดอร์จะลดผลกระทบของการเข้าที่ไม่ดีเพียงครั้งเดียว
การจับความเคลื่อนไหว: วิธีการนี้ช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะต่างๆ
ความยืดหยุ่น: เทรดเดอร์สามารถปรับกลยุทธ์ของเขาได้โดยการปิดบางสถานะในขณะที่ยังคงเปิดสถานะอื่นไว้
เครื่องมือเพิ่มเติม
หลักการพัดสามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพได้:
Fibonacci Fan: เครื่องมือนี้จะวาดเส้นแนวโน้มที่ระดับสำคัญโดยอัตโนมัติ (38.2%, 50%, 61.8%) ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับตำแหน่งแฟน ๆ
Gann Angles: เส้นเหล่านี้วาดในมุมที่แตกต่างกัน (82.5°, 75°, 71.25° ฯลฯ) ยังสามารถช่วยระบุระดับที่เป็นไปได้ในการเปิดตำแหน่ง
RSI (Relative Strength Index): เทรดเดอร์บางรายรวมหลักการพัดเข้ากับ RSI เพื่อยืนยันจุดเริ่มต้น
ข้อควรพิจารณาที่สำคัญ
กลยุทธ์นี้จำเป็นต้องมีการบริหารความเสี่ยงที่ดี เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการเปิดหลายตำแหน่ง
สิ่งสำคัญคือต้องตั้งค่าระดับ Stop-Loss และ Take-Profit สำหรับแต่ละตำแหน่งในช่วง
การใช้แนวทางนี้จำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับตลาดและประสบการณ์การซื้อขายที่สำคัญ
การบริหารความเสี่ยงในตลาด Forex: กุญแจสู่ความสำเร็จในการเทรดการเทรดในตลาด Forex เป็นการลงทุนที่ให้โอกาสในการทำกำไรสูง แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน ดังนั้นการบริหารความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เทรดเดอร์ทุกคนควรให้ความสำคัญ เพื่อรักษาทุนและลดโอกาสในการขาดทุนให้เหลือน้อยที่สุด
1. การใช้ Stop Loss และ Take Profit
หนึ่งในเครื่องมือพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการบริหารความเสี่ยงคือการตั้ง Stop Loss (จุดตัดขาดทุน) และ Take Profit (จุดทำกำไร)
Stop Loss เป็นการกำหนดล่วงหน้าว่าเรายอมขาดทุนได้มากที่สุดเท่าไหร่ในแต่ละการเทรด หากราคาของคู่เงินเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ไม่เป็นไปตามคาด การตั้งจุด Stop Loss จะช่วยหยุดความเสี่ยงไม่ให้บานปลาย
Take Profit คือการกำหนดจุดที่เราพอใจกับกำไร และระบบจะปิดออเดอร์โดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงจุดนี้ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีในการล็อกกำไรและป้องกันไม่ให้ราคาย้อนกลับจนสูญเสียกำไรที่ทำไว้
2. การกำหนดขนาดของ Lot Size
การเลือกขนาดการเทรด (Lot Size) ที่เหมาะสมกับขนาดพอร์ตเป็นอีกวิธีหนึ่งในการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ควรเทรดด้วยขนาด Lot ที่ใหญ่เกินไปเมื่อเทียบกับขนาดของพอร์ต เพราะอาจทำให้เกิดการขาดทุนครั้งใหญ่ การใช้ Lot Size ที่เหมาะสมจะช่วยลดแรงกดดันจากการขาดทุนและให้ความมั่นใจในการเทรดมากขึ้น
3. การใช้ Leverage อย่างระมัดระวัง
Leverage คือการยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อเพิ่มขนาดการลงทุน ซึ่งสามารถเพิ่มกำไรได้อย่างมหาศาลในกรณีที่ทิศทางการเทรดถูกต้อง แต่ในขณะเดียวกันก็นำมาซึ่งความเสี่ยงที่สูงมากหากทิศทางไม่เป็นไปตามคาด การเลือกใช้ Leverage จึงต้องระมัดระวัง ควรใช้ในระดับที่เรายอมรับความเสี่ยงได้โดยไม่กระทบกับทุนหลัก
4. การบริหารเงิน (Money Management)
การบริหารเงินเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารความเสี่ยง ควรกำหนดอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk-to-Reward Ratio) ให้เหมาะสม เช่น กำหนดให้ความเสี่ยงในการขาดทุนต่อการเทรดแต่ละครั้งไม่เกิน 2-3% ของพอร์ต เพื่อให้สามารถรับมือกับการขาดทุนได้โดยไม่ทำให้พอร์ตเสียหายหนัก
5. การกระจายความเสี่ยง
การกระจายความเสี่ยงเป็นอีกวิธีที่สามารถลดความเสี่ยงในการเทรด Forex ได้ ไม่ควรวางเงินทั้งหมดในคู่เงินคู่เดียวหรือใช้กลยุทธ์เดียวในการเทรด ควรศึกษาและเลือกเทรดในหลายคู่เงินที่ไม่สัมพันธ์กัน เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนในตลาด
6. การควบคุมอารมณ์
ความเสี่ยงอีกประเภทที่มักถูกมองข้ามคือ ความเสี่ยงทางอารมณ์ การเทรดที่ถูกขับเคลื่อนด้วยความกลัวหรือความโลภมักนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด การตั้งกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนและยึดมั่นในการปฏิบัติตามแผนที่วางไว้จะช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากการเทรดด้วยอารมณ์
บทสรุป
การบริหารความเสี่ยงในตลาด Forex เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เทรดเดอร์สามารถอยู่รอดและเติบโตในระยะยาว การใช้ Stop Loss และ Take Profit อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกขนาด Lot Size ที่เหมาะสม และการควบคุมอารมณ์ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการขาดทุน การบริหารความเสี่ยงที่ดีไม่เพียงแต่จะช่วยปกป้องทุน แต่ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในตลาด Forex
SMA crossing and confirmation by multi time frame -By Mr.SomkiatThis strategy is to entry the order and close the order by...
1. **Buy Condition**: The 8-period SMA crosses above the 15 and 25-period SMAs, indicating upward momentum. Confirmation is required from the 1-hour time frame with a green candle.
2. **Sell Condition**: The 8-period SMA is below both the 15 and 25-period SMAs, with two red candles closing below the 8-period SMA. Confirmation is required with a red candle on the 1-hour chart.
3. **Exits**:
- A buy position closes if two red candles close below the 8-period SMA.
- A sell position closes if two green candles close above the 8-period SMA.
เลือก Leverage Forex เท่าไหร่ดี? คำแนะนำสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่1. ความเข้าใจพื้นฐานของ Leverage
Leverage หมายถึงการใช้เงินกู้จากโบรกเกอร์ในการเปิดตำแหน่งที่มีมูลค่าสูงกว่าทุนที่คุณมี Leverage แสดงในรูปแบบของสัดส่วน เช่น 1:100 หมายความว่าคุณสามารถควบคุมตำแหน่งที่มีมูลค่าสูงกว่าทุนจริง 100 เท่า ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเพิ่มศักยภาพในการทำกำไรได้จากการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย
2. ความเสี่ยงของการใช้ Leverage สูง
การใช้ Leverage สูงมากเกินไปสามารถนำไปสู่การขาดทุนที่สูงมากได้ แม้เพียงการเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่มากพอ เพราะ Leverage ขยายทั้งกำไรและขาดทุน หากราคาตลาดเคลื่อนที่สวนทางกับการคาดการณ์ของคุณเพียงเล็กน้อย คุณอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดภายในระยะเวลาอันสั้น
3. การเลือก Leverage ที่เหมาะสม
สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ การเลือก Leverage ในระดับที่ต่ำ เช่น 1:10 หรือ 1:20 เป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงในการขาดทุนมากเกินไปในช่วงที่คุณยังไม่มีประสบการณ์มากพอ เมื่อคุณมีความชำนาญและความมั่นใจมากขึ้น คุณสามารถเพิ่ม Leverage ตามความเหมาะสม
4. การจัดการความเสี่ยง
นอกจากการเลือก Leverage ที่เหมาะสมแล้ว การจัดการความเสี่ยงก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน คุณควรใช้ Stop Loss และ Take Profit ในการเทรดทุกครั้ง เพื่อป้องกันการสูญเสียเงินทุนในระดับที่เกินกว่าที่คุณสามารถรับได้
สรุป
การเลือก Leverage ที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างเส้นทางการเทรดที่ยั่งยืนในตลาด Forex โดยเฉพาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ เลือก Leverage ที่ต่ำเพื่อจำกัดความเสี่ยงและค่อยๆ เพิ่มขึ้นเมื่อคุณมีประสบการณ์และความมั่นใจมากขึ้น การจัดการความเสี่ยงและการใช้เครื่องมือการเทรดอย่างมีวินัยจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในระยะยาว
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปเรื่องของสถาบันการเงินตรงนี้ก็ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรบ้างในการจะพัฒนาธุรกิจต่อแต่อย่างน้อยคำว่าสถาบันการเงินก็ยังมีคนดีอยู่แต่ในคนดีก็จะมีคนไม่ดีอยู่เพราะอย่าเชื่อมั่นในความเป็นมนุษย์คนเราไม่มีใครดีหรอกมองไว้ก่อนว่ามันมี 2 ส่วนคือดีและไม่ดีแต่ใครจะเอาความดีมาใช้มากกว่าความเลวแค่นั้นเองถ้าดีมากกว่าเลวมันก็หักล้างกับความเลวได้อยู่แต่ถ้าเลวมากกว่านี้มันก็ห้ามให้อภัยเลยจับมันติดคุกประหารชีวิตอย่างเดียวอย่าให้เกิดเป็นเยี่ยงอย่าง
ดูแค่นี้แหละคนมันมีแค่ 2 ด้าน
ตัวนี้ทำไว้ 3 แผนแผนที่ 1 คือเทรดแบบ side way
แผนที่ 2 คือทะลุลงมาต้องรอให้ปิดแท่งขาวและสร้างตัวให้ได้ก่อนถึงค่อยซื้อถ้าไม่มีการฟอร์มตัวอะไรแล้วเป็นข่าวเรื่อยๆก็รอย่อลงไปให้มันลงไปให้สุดรอดู
แผนที่ 3 คือการกลับมาที่เดิมและฟองตัวและยกกลับขึ้นไปใหม่เพื่อที่จะฟอร์มตัวกับตัวค่อยซื้อ
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปหุ้นของไทยเรานี่แปลกมากทำไมชอบมีข่าวมาโปรโมทอยู่เรื่อยเลยพอไปลองเช็คดูเอ้ามันไม่ดีนี่หว่ามันยังต่อแท่งลงอยู่เลยแล้วยังจะบอกให้เขาซื้อกันอีกหรอ
หรือจะให้ประชาชนพิจารณาซื้อกันเองใช่ไหมทำไมไม่แนะนำเขาว่ามันดีหรือไม่ดีแบบไหน
นี่ขนาดวิเคราะห์ไว้ตอนแรกว่าให้ซื้อบริเวณนี้ดีแล้วนะยังลงอีกเลยอ่ะแบบนี้ยังจะให้เขาซื้ออีกหรอถ้าเป็นผมแนะนำนะผมคิดว่ารอราคาเริ่มต้นน่ะมันเกิดมาจากตรงไหนก็ซื้อตรงนั้นนั่นแหละไม่ต้องไปคิดมากเลย
ตัวนี้อย่าไปดูเลยถ้ามันไม่ดีก็รอก่อนไปหาดูตัวอื่นให้มันเกิดไพแอคชั่นก่อนถ้ายังไม่มีpaก็จะไปซื้อเวลามันลงมันก็ลงก่อนเวลามันขึ้นมันก็ต้องฟอร์มตัวก่อน ก่อนจะขึ้นมันก็ต้องทำ pa ก่อนเพราะฉะนั้นรอเลยหาดูตัวอื่นไปก่อนครับ
ไม่รู้นะว่าตัวนี้เขาทำมาหากินอะไรไม่ได้ไปดูรายละเอียดแต่ดูแค่กราฟก็คิดว่าถ้าเจ้าของธุรกิจไม่คิดทำอะไรที่มันเปลี่ยนแปลงโลกได้ก็คิดว่าอย่าโตเลยมันก็อยู่อย่างนี้แหละ
จริงๆผมอยากให้ประเทศไทยเราอ่ะเจริญรุ่งเรืองแล้วก็มีต่างชาติสนใจซื้อหุ้นประเทศไทยแต่ผมไม่เข้าใจว่าในแนวคิดของคนที่ทำมาหากินในประเทศไทยที่ขายหุ้นอยู่เนี่ยเขาตั้งใจจะขายเฉพาะคนในประเทศไทยหรือว่าประชาชนในประเทศไทยอย่างเดียวหรือเปล่า
อันนี้ก็เลยไม่เข้าใจวิธีการคิดเขาชอบให้หุ้นมันขึ้นๆลงๆขึ้นๆลงๆแบบนี้หรอหรือว่าเขาชอบปั่นหุ้นหรือเปล่าเราก็ไม่รู้เพราะว่าครั้งที่ผ่านมาก็เจอไอ้หุ้นแบบราคาถูกๆปั่นหุ้น
อย่างที่เราเคยเห็นอยู่ตย.เช่นหุ้นม้ออะไรเนี่ยเขามีอยู่ปัญหาก็ยังไม่จบ
เพราะฉะนั้นเวลาซื้อหุ้นของไทยเราเนี่ยดูที่ผู้บริหารเป็นหลักก่อนครับอย่าไปอะไรมาก
ธุรกิจจะเจริญรุ่งเรืองผู้บิรหารและบริวาลก็ต้องมีศีลธรรมมีศีล5เป็นหลัก
ถ้าตรวจสองแล้วว่าขาดศีลในข้อใดข้อหนึ่งมันก็เจ้งตั้งแต่ยังไม่ก่อตั้งบริษัทเลย
ศีลมี5ข้อถ้าหนักสุดข้อไหนก็ผิดมากน้อยต่างกันพิจารณาร่วมกับผลประกอบการบริษัทด้วยนะครับ
แล้วก็มาดูทรัพย์สินรู้ว่าเขาทำอะไรก่อนหน้านั้นที่เขาทำแล้วมันเจริญรุ่งเรืองไหมแค่นั้นแหละวิธีมองหุ้นน่ะแล้วก็ค่อยมาดูในรายละเอียดครับจริงๆดูแค่กราฟมันก็เห็นแล้วแหละไม่ต้องไปดูอะไรเลยส่วนในการกลั่นกรองหุ้นที่มันเข้ามาในตลาดหลักทรัพย์ได้นั้นมันเข้ามาได้มันก็มีส่วนหนึ่งในการให้เราซื้อขายได้แล้วไปดูเทคนิคกราฟเอามันแล้วแต่พระองค์ประกอบในการมองเนอะลองดูเอาแล้วกันครับ
All Time High คืออะไร? และแนวทางการเทรดอย่างไร?All Time High (ATH) หรือจุดสูงสุดตลอดกาล หมายถึงราคาของสินทรัพย์หนึ่งๆ ที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ของสินทรัพย์นั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น คริปโตเคอร์เรนซี หรือสินทรัพย์อื่นๆ การที่สินทรัพย์หนึ่งทำ All Time
แนวทางการเทรด All Time High
การเทรด All Time High นั้นมีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีโอกาสทำกำไรได้สูงเช่นกัน ดังนั้นควรศึกษาและวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจลงทุน
แนวทางการเทรดที่เป็นไปได้:
ซื้อตาม: เมื่อสินทรัพย์ทำ All Time High แล้ว นักลงทุนบางส่วนอาจตัดสินใจเข้าซื้อตามทันที โดยหวังว่าราคาจะขึ้นไปต่อ แต่ควรระวังความเสี่ยงที่จะติดดอย หรือซื้อไปแล้วราคาปรับตัวลดลง
รอทดสอบแนวต้าน: รอให้ราคาปรับตัวลงมาเล็กน้อย แล้วค่อยเข้าซื้อ โดยมองหาจุดที่ราคาได้รับการสนับสนุน และมีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นไปใหม่
ใช้เครื่องมือทางเทคนิค: ใช้เครื่องมือทางเทคนิค เช่น การวิเคราะห์กราฟ หรือตัวชี้วัดทางเทคนิค เพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อขาย
ตั้ง Stop-Loss: กำหนดจุดตัดขาดทุน (Stop-Loss) เพื่อจำกัดความเสียหายหากราคาเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คาดการณ์ไว้
กระจายความเสี่ยง: ไม่ควรลงทุนในสินทรัพย์เพียงตัวเดียว ควรกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์อื่นๆ หรือลงทุนในกองทุนรวม
ข้อควรระวัง:
ความเสี่ยงสูง: การเทรด All Time High มีความเสี่ยงสูงมาก เพราะราคาอาจปรับตัวลดลงได้อย่างรวดเร็ว
ข่าวสาร: ควรติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์นั้นๆ อย่างใกล้ชิด เพราะข่าวสารอาจส่งผลกระทบต่อราคาได้
อารมณ์: อย่าปล่อยให้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจลงทุน ควรใช้เหตุผลในการตัดสินใจ
สรุป
All Time High เป็นสัญญาณที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน แต่การเทรด All Time High นั้นมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นนักลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับสินทรัพย์นั้นๆ อย่างละเอียด รวมถึงวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจลงทุน
ฝึกวิเคราะห์หาจุดเข้าซื้อให้ละเอียด แม่นยำยิ่งๆขึ้นรูปแบบกราฟก็ยังเป็นแนวโน้มขาขึ้นอยู่ในทางพิมพ์ใหญ่แต่ถ้ามาดูช่วงราคาปัจจุบันมันมีการพักตัวแล้วก็ค่อยๆบีบตัวให้เล็กลงลักษณะนี้อย่าเพิ่งเข้าเทรดเลยดีกว่าถ้าจะเทรดก็เก็บสั้นๆเอาตามรูปเลยใน m15 แต่ถ้ามันหลุดไปทางใดทางหนึ่งก็คือการ break out ก็หาจังหวะเข้าเทรดด้วย price action อะไรบางอย่างก่อนจึงค่อยเข้าออเดอร์ตามรูปเลยครับ
การเทรดแบบ Manual vs EA: ความแตกต่าง ข้อดี ข้อเสีย และเหมาะกับใคการเทรดในตลาดการเงินมีหลากหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือการเลือกใช้เครื่องมือในการเทรด ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลักๆ คือ การเทรดแบบ Manual (เทรดเอง) และการใช้ Expert Advisor (EA)
การใช้ Expert Advisor (EA)
ความหมาย: EA คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ถูกตั้งโปรแกรมให้ทำการซื้อขายอัตโนมัติตามกลยุทธ์ที่กำหนดไว้
ข้อดี:
ประหยัดเวลา: EA สามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ลดความผิดพลาดจากอารมณ์: EA ทำงานตามโปรแกรมที่ตั้งไว้
สามารถทดสอบกลยุทธ์ย้อนหลังได้: ช่วยให้นักเทรดประเมินผลการทำงานของกลยุทธ์ก่อนนำไปใช้งานจริง
ข้อเสีย:
ขาดความยืดหยุ่น: การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ต้องอาศัยการแก้ไขโปรแกรม
อาจเกิดความผิดพลาดจากโปรแกรม: หากโปรแกรมมีข้อผิดพลาด อาจส่งผลต่อการเทรด
ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม: หากต้องการสร้าง EA เอง
การเทรดแบบ Manual (เทรดเอง)
ความหมาย: การเทรดแบบ Manual คือการที่นักเทรดตัดสินใจซื้อขายเองทั้งหมด โดยอาศัยการวิเคราะห์กราฟ การใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค หรือปัจจัยพื้นฐานต่างๆ
ข้อดี:
ความยืดหยุ่น: นักเทรดสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ตลอดเวลาตามสถานการณ์ตลาด
ความเข้าใจตลาดลึกซึ้ง: การเทรดเองจะทำให้นักเทรดเข้าใจกลไกของตลาดได้ดีขึ้น
ควบคุมความเสี่ยงได้ดี: นักเทรดสามารถตั้ง Stop-loss และ Take-profit ได้เอง
ข้อเสีย:
ต้องใช้เวลาและความพยายาม: ต้องติดตามตลาดอย่างต่อเนื่อง และใช้เวลาในการวิเคราะห์
มีความผิดพลาดได้: การตัดสินใจของมนุษย์อาจได้รับอิทธิพลจากอารมณ์
จำกัดเวลา: ไม่สามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เหมาะกับใคร?
การเทรดแบบ Manual: เหมาะสำหรับนักเทรดที่ชอบวิเคราะห์ตลาด ชื่นชอบความท้าทาย และต้องการควบคุมการเทรดทุกขั้นตอน
การใช้ EA: เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการประหยัดเวลา มีวินัยในการเทรด และต้องการลดความเสี่ยงจากอารมณ์
สรุป
การเลือกใช้การเทรดแบบใดขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความถนัดของแต่ละบุคคล นักเทรดบางคนอาจเลือกใช้ทั้งสองรูปแบบควบคู่กันไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรด อย่างไรก็ตาม การเทรดทุกประเภทมีความเสี่ยง ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน
ฝึกวิเคราะห์เพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดและแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปตัวนี้ก็ย่อมาจาก h1 เลยก็อย่างที่เห็นแหละวิเคราะห์แบบเดิมเลยไม่มีอะไรเปลี่ยนเลยเพียงแค่ว่ามันเล็กลงสั้นลงการมองการจะเข้าเทรดก็ไวขึ้นแต่เก็บก็ไม่ได้เยอะเพราะแท่งเทียนในทางเฟรมเล็กลงมันก็วิ่งสั้นๆแต่มันต่อกันมันก็สร้างฟอร์มตัวไปในทางเฟรมที่ใหญ่ขึ้นมันก็แค่นั้นแหละเพราะฉะนั้นการเทรดเป็นเรื่องของความถนัดของตนเองเลยว่าจะเอา time frame ไหนในการเทรดใจร้อนหน่อยก็ย่อลงมาเล็กเก็บสั้นๆหน่อย sltp ก็จะสั้นลงแค่นั้นเอง mm ก็ไม่มากจบไวถ้าไม่มีเวลาก็ถือในทำเฟรมที่ใหญ่รูปแบบของแท่งเทียนก็ฟอร์มตัวจากแท่งที่ใหญ่ไปหาแท่งที่ใหญ่กว่าก็แค่นั้นแหละลองสังเกตดู
ฝึกวิเคราะห์เพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดและแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปใช้ชุดวิเคราะห์เดิมจากไทม์เฟรม h4 เอามาย่อดู h1 หาจุดเข้าอย่างที่เห็นนะครับตามรูปเลยนะลองไปมองก่อนแล้วก็สร้างคำถามขึ้นมาเลยว่าแล้วทำไมมันต่อแท่งลงมีสัญญาณลงแล้วทำไมมันไม่ลงแล้วทำไมมันต่อแท่งเขียวขึ้นไปกับตัวจะเป็นการกลับตัวเพื่อจะขึ้นต่อเพราะอะไรมันมีเหตุผลก็อย่างที่เห็นก็คือมันไปชนแนวรับ h4 จับแนวรับ h1 มันก็เลยจับตัวแค่นั้นเองทำไมมันเป็นสัญญาณลงแล้วทำไมไม่ลงนั่นแหละครับเหตุผลมีแค่นี้เพราะฉะนั้นในภาพนี้มันก็คือ side way แค่นั้นเองลองฟังตามอ่านและทำความเข้าใจดูสังเกตดู
ฝึกวิเคราะห์เพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดและแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปh4 นี้ก็ย่อออกมาจากชุดวิเคราะห์เดิมของ d1 ให้มันต่อภาพกันเดี๋ยวจะงงก็ประมาณนี้ล่ะครับมองภาพหน้าตาแบบนี้เลยดูภาพเอาแล้วกันไม่รู้จะอธิบายแบบไหนแล้วเวลาจะเทรดก็เทรดในกรอบเล็กๆแค่นั้นเองเขามีให้สำเร็จแบบไหนก็เทรดแบบนั้นแหละภาพมันไม่มีอะไรมากก็คือมันทะลุขึ้นก็รอยัลบายทะลุลงก็รอยกเซลล์ไม่ทะลุก็ side way จะเป็น time frame ไหนก็มองแบบนี้แหละมันขึ้นอยู่กับเราเกษตรแค่นั้นเองว่าจะเอาเวลาไหนในการเทรดในการยืนยันในการเทรดแค่นั้นเองลองสังเกตดูแล้วกันครับมันก็ทำแบบนี้แหละซ้ำๆไปซ้ำมาวิเคราะห์ไปก็แบบเดิมๆนั่นแหละ
ฝึกวิเคราะห์เพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดและแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปมุมมองภาพดี 1 ก็จะมองประมาณนี้ไว้ก่อนแต่อย่างที่เห็นกราฟวิ่งมา 4 วันแล้วก็ยังวิ่งอยู่บนกรอบเล็กๆไม่จำเป็นต้องไปคิดมากหรอกว่ามันจะลงหรือมันจะขึ้นแบบไหนวางแผนเทรดในกรอบหาจุดยืนไม่ได้ก็ตีไปใส่เอาเป็นจุดวางสายตาว่ากราฟจะวิ่งอยู่ในระดับประมาณนี้ไว้ก่อนหาจุดเช่าหรือทำเฟรมที่เล็กลงการเทรดก็คือความเสี่ยงความเสี่ยงที่เราวางแผนไว้ก็คือการ money management แค่นั้นเองไม่ต้องไปคิดอะไรมากแล้วเพราะว่ามันอยู่บนยอดจนไม่รู้มันจะยอดตรงไหนแล้วมันอาจจะขึ้นต่อก็ได้หรือมันอาจจะลงเลยก็ได้ไม่ต้องไปคิดมากเหตุในกรอบระหว่างวันที่มีให้เรามีจุดนำสายตาไว้แค่นั้นพอ
การ Breakout และ Retest: คู่มือสำหรับนักลงทุนเชื่อได้ว่าหลายคนที่เทรด ไม่ว่าจะตลาดใหนก็น่ารู้จักรูปแบบการเทรด Breakout หรือการเทรดเมื่อราคาทะลุกรอบราคา แต่มีหลายครั้ง ที่เกิดการเบรคหลอก หรือ False Breakout และทำให้เราติดดอย วันนี้เราเลยแนะนำ สิ่งที่เพิ่มนัยยะการเบรคให้แม่นสูงขึ้น นั้นคือ Retest
เชื่อได้ว่าหลายคนที่เทรด ไม่ว่าจะตลาดใหนก็น่ารู้จักรูปแบบการเทรด Breakout หรือการเทรดเมื่อราคาทะลุกรอบราคา แต่มีหลายครั้ง ที่เกิดการเบรคหลอก หรือ False Breakout และทำให้เราติดดอย วันนี้เราเลยแนะนำ สิ่งที่เพิ่มนัยยะการเบรคให้แม่นสูงขึ้น นั้นคือ Retest
รูปแบบราคาที่เกิดหลังจากที่มีการ Breakout ราคาได้กลับขึ้นมาทดสอบแนวเดิมที่เบรค และไม่สามารถที่กลับทะลุแนวที่ Breakout หรือทดสอบไม่ผ่าน เป็นการบอกว่า แรงซื้อขายที่สวนขึ้นมาน้อยกว่า แรงส่งราคา Breakout เป็นนัยยะที่คัญที่ Breakout จะไปต่อ
เหตุใดการ Breakout และ Retest จึงสำคัญ?
ระบุจุดเข้าซื้อและขาย: การ Breakout และ Retest ช่วยให้นักลงทุนระบุจุดเข้าซื้อและขายที่เป็นไปได้
ยืนยันแนวโน้ม: การ Retest ที่สำเร็จ (ราคาไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านหรือแนวรับเดิมอีก) สามารถยืนยันแนวโน้มใหม่ได้
ลดความเสี่ยง: การเข้าซื้อหลังจากการ Retest สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเข้าซื้อที่จุดสูงสุดของการเคลื่อนไหวของราคา
วิธีการใช้การ Breakout และ Retest ในการลงทุน
ระบุแนวต้านและแนวรับ: ใช้เครื่องมือทางเทคนิค เช่น เส้นแนวโน้ม หรือตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อระบุแนวต้านและแนวรับที่สำคัญ
สังเกตการ Breakout: เมื่อราคา Breakout ผ่านแนวต้านหรือแนวรับ ให้เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิด
รอการ Retest: รอให้ราคา Retest กลับมาที่ระดับแนวต้านหรือแนวรับเดิม
ตัดสินใจเข้าซื้อหรือขาย: หากราคาไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านหรือแนวรับเดิมอีกครั้ง ให้พิจารณาเข้าซื้อหรือขายตามแนวโน้มใหม่
สิ่งที่ควรระวัง
สัญญาณปลอม: ไม่ใช่ทุกการ Breakout จะนำไปสู่การเคลื่อนไหวของราคาในระยะยาวเสมอไป
การวิเคราะห์เพิ่มเติม: ควรใช้เครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ ร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ
การบริหารความเสี่ยง: กำหนดจุด Stop-loss เพื่อจำกัดความเสียหายหากการคาดการณ์ผิดพลาด
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปอันนี้ก็ไม่มีอะไรย่อมาจากทางเฟรม h1 ลงมาหาจุดเข้าที่ละเอียดขึ้นแค่นั้นเองเข้ามาดู m30 ดูซิว่าเขาสร้างแพทเทิร์นแบบไหนรูปแบบแพทเทิร์นก็มีเยอะแยะอยู่ใน google ไปหาเอาจำรูปแบบพวกนี้ไว้จำพวก price action ต่างๆเอาไว้แค่นั้นแหละมันไม่มีอะไรที่จะต้องมาลงในรายละเอียดอะไรมากกว่านี้แล้วมันก็หมดแค่นี้แหละมองกราฟก็มองแค่นี้ไม่ได้มองอะไรมากกว่านี้เลยที่เหลือมันก็คือฝึกสกิลบ่อยๆแค่นั้นเองฝึกเรื่องของอารมณ์เรื่องการmoney management แค่นั้นแหละ
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปh4 เราย่อลงมาจากที่วิเคราะห์ชุดเดิมจะได้ปะติดปะต่อภาพได้ก็จะเห็นว่ามันบีบเล็กลงเพื่อให้เราเทรดในกรอบที่เล็กลงแค่นั้นแหละหาจุดเข้าในกรอบ h4 แค่นั้นแหละ state new ในกรอบจะหา PA trade ใน side way ก็ดู m 30 m15 พวกนี้แล้วก็เก็บ tp sl ตามแนวรับแนวต้านแค่นั้นแหละไม่ต้องไปมองไกลมากหรอกเก็บทีละ 500 จุดนี้ก็หรูแล้ว
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปเพราะยอดดู D 1 ก็จะทำให้เห็นอะไรมากขึ้นช่วงราคาที่เราจะวิเคราะห์มันจะแคบลงพยายามบีบมุมมองให้มันแคบลงเพื่อใช้ในการวิเคราะห์หาจุดเช่าทุกอย่างไม่มีอะไรยุ่งยากก็คืออย่างที่เห็นนั่นแหละครับสังเกตแท่งต่อแท่งคู่การยกตัวกลับเงื่อนไขเดิมๆ break out แบบไหนก็วางแผนเทรดไปทางนั้นแค่นั้นแหละ
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปแนวโน้มกราฟมันก็เป็นแบบขาลงแต่ก่อนที่จะเป็นภาพนี้มันมีการยกตัวขึ้นมาก่อนแล้วก็เป็นไปได้ที่เป็นการยกย่อเพิ่มขึ้นต่อแต่อย่างที่เห็นนั่นแหละครับนั่นคือ time frame week มันขึ้นลงแต่ละทีเนี่ยมันใช้เวลานานถ้าจะเทรดเราก็เอาแค่ในกรอบที่ทำเส้นนำสายตาไว้ให้แค่นั้นแหละเอามาใช้ในการวางแผนว่าเราจะเทรดในทิศทางไหนวิกบอกเราได้แค่นี้แหละไม่ได้บอกอะไรมากกว่านี้แล้วก็เดี๋ยวไปหาจุดเข้ากันในทางเฟรมที่เล็กลงกันอีก
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปพนักงานข่าวมาเกี่ยวกับเรื่อง iPhone 16 จะมาแล้วหุ้นมันจะขึ้นขนาดนั้นเลยหรอทำไมถึงกล้าสร้างกระแสขนาดนั้นไม่เข้าใจเลยว่าทำไมชอบออกข่าวให้คนตื่นตลกเข้าไปซื้อของไปช้อปปิ้งกันขนาดนั้นเลยต้องการอะไรกับเม่าขนาดนั้นต้องการหลอกเงินมากขนาดนั้นเลยหรอจริงๆถ้าพูดถึงเรื่องคุณธรรมจริยธรรมหุ้นตัวนี้ผมคิดว่ายังไม่เหมาะสมที่จะเข้าซื้อเลยแต่มันก็จะออกว่าแหละพอพูดไปแล้วก็โดนว่าอีกว่ามันเป็นความพอใจของเขานั่นก็คือความพอใจของเขาคือเงินของเขาแต่ผมแค่อึดอัดเฉยๆว่ามันจังหวะไม่ได้ยังไม่สวยจะเข้าไปทำไมทำไมไม่รอให้มันพร้อมแล้วค่อยซื้อเหตุผลแค่นั้นแหละอยากจะซื้ออะไรก็ซื้อไปไม่ได้ว่าอะไรแล้วแต่เม่าเม่าแต่ละตัวก็ไม่เหมือนกัน