ฝึกอ่านกราฟเช้าวันใหม่วันแรกของสัปดาห์จะวางแผนเทรดกันยังไงดีน้อส่วนตัวจะมองภาพรวมใหญ่ก่อนตามภาพที่ขีดเขียนลงไปนี่ล่ะครับ
แนวโน้มภาพรวมมันก็คือขาขึ้นอยู่ฉะนั้นมันก็ต้องบายชนะเซลล์อยู่แล้วแหละแต่เชื่อไหมว่าต่อให้เราบายชนะเซลล์อย่างไรเซลก็อาจจะชนะBUYได้ก็เช่นกันจากภาพที่เห็นภาพรวมใหญ่ครับบอกว่าต้องย่อลงมาในโซนที่ทั่วโลกต้องรู้อยู่แล้วว่าอยู่ตรงไหนถ้ามาวัดระยะกันดูก็คือกลมๆคือ 50,000 จุดซึ่งมันไกลมากคำถามต่อมาว่าเซลล์จะไม่ชนะเลยหรอถ้าเรากดบายตอนนี้เราอาจจะโดนลากจน SL เลยก็ได้ฉะนั้นในกรอบที่แคบลงมาอีกมันมีระยะให้เทรดอีกตามระยะที่ขีดเขียนลงไปแล้วเราจะต้องหาจุดเข้าในการซื้อขายในแต่ละวันซึ่งวันหนึ่งเราเฉลี่ยอยู่แล้วประมาณ 500-1,000 จุดแค่นั้นเองคำถามต่อมาว่าแค่จุดแรกที่เห็น12,000 จุด 14,000 จุดและ 16,000 จุดเราจะเก็บแค่ไหนเราก็เก็บแค่หมื่นสองพันจุดก่อนฉะนั้นในกรอบบายก็จะเป็นเซลล์ได้เช่นกันตรรกะนี้เราจะต้องไปแกะออกมาให้ได้ว่าเราจะเทรดรูปแบบไหนด้วยอินทิเกเตอร์อะไรด้วยรูปแบบเทคนิคของอีเรียดเวฟคลื่นเวฟที่เท่าไหร่ซึ่งก็สุดแท้แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคนของแต่ละวิชาที่คุณร่ำเรียนมาเลยครับไม่เกี่ยวกับเรื่องใดถูกเรื่องใดผิดมันไม่มีผิดไม่มีถูกสิ่งที่พวกคุณเรียนมาอาจจะเหมาะกับอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับรูปแบบหนึ่งก็ได้อาจจะไปตรงกับเทคนิคใดเทคนิคหนึ่งซึ่งมันเป็นรูปแบบที่เข้าแล้วกำไรแต่บางทีคุณไปเข้าอีกรูปแบบนั้นก็ผิดขาดทุนแต่พอเจอรูปแบบที่ใช่คนอื่นก็ได้กำไรก็ได้มันขึ้นอยู่กับรูปแบบและเทคนิคเท่านั้นเลยครับซึ่งส่วนตัวก็ไไม่มีอินดิเคเตอร์ใช้อะไรใช้ไม่เป็นสักอย่าง moving average พอเข้าใจแม็กดี bb fibo rsi divergen collection flash พอเข้าใจ
แต่ขอบอกอีเรทไม่รู้เรื่องเลยไม่คิดจะเอามาใช้เลยเคยลองใช้แล้วแต่ไม่เหมาะกับจริตตัวเองจินตนาการไม่สูงถึงขนาดนั้นขอยอมแพ้เลยครับ
ขอสารภาพตามตรงเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีสำหรับการเรียนรู้เรื่องของอีเรียดเวฟมาและรู้สึกตลกกับคำถามที่เคยถามไปเมื่อสมัยก่อนและเป็นเหตุที่ทำให้ต้องมาศึกษาอย่างหนักและก็ได้เข้าใจอะไรมากขึ้นแล้วก็นึกย้อนคำถามที่ตัวเองเคยถามคืออิเลียตเวฟสามารถใช้ได้ทุกทามเฟรมหรือไม่ซึ่งถามไปใน YouTube เจ้าของช่องเขาไม่ตอบผมเลย 555
มันก็ประมาณว่าเราโง่เนาะเลยเก็บตัวและเรียนรู้ด้วยตัวเองจนถึงทุกวันนี้แล้วก็อยากจะให้ทุกคนได้รับรู้ประสบการณ์นี้ด้วยเช่นกันว่าการจะถามอะไรขอให้มีความรู้ด้วยถามแบบไม่มีความรู้นี่น่าอายมากเพราะฉะนั้นก่อนที่จะถามเราก็ต้องมีความรู้อันนี้คือสิ่งที่อยากจะเล่าจากประสบการณ์ของตัวเองถามเรื่องอะไรควรมีความรู้ที่ตัวเองมีไม่มากก็น้อยอย่างน้อยมันก็ยังเป็นคำถามที่น่าตอบไม่ใช่คำถามที่แบบถามไปงั้นๆถามส่งๆแบบนั้น
ยังไงคงโดนแบบผมแน่นอนประมาณว่า "มึงไปหาคำตอบเองซะ" คือไม่มีใครอยากจะตอบเราเลยวันนั้นผมจำได้ดีจำขึ้นใจผมอายมากๆเลย
เขาคงจะคิดว่าจะนอนรอเป็นลูกนกอ้าปากรอให้แม่เอาอาหารมาป้อนใส่ปากอย่างนั้นหรอนั่นแหละมั้งคงเป็นสิ่งที่เขาคิดในตอนนั้น
การวิเคราะห์แนวโน้ม
ฝึกอ่านกราฟอันนี้ก็ไม่มีอะไรมากครับจุดเท่าของผมเองแหละพอดีว่าลองเข้าแล้วก็ลองเอามาเทียบกับอินดิเคเตอร์ดูเออเว้ยเพิ่งจะเห็นครั้งแรกเหมือนกันมันไปได้แค่ขา 5 แล้วตรงนั้นมันก็จบได้ที่เหลือมันไม่นับต่อเลยนะแล้วมันไม่ไปขาไหนต่ออีกเลยอ่ะเอาแล้วอย่างนี้ถ้าคนเล่นตาม indicator จะไปยังไงล่ะทีนี้ฉะนั้นเราต้องหารูปแบบของตัวเองให้ได้จริงๆเลยนะครับเนี่ยผมว่าสุดท้ายเราเชื่ออินดิเคเตอร์ทั้งหมดอย่างเดียวไม่น่าจะได้นะลองดูแล้วกันครับส่วนตัวผิดถูกอย่างไรก็อย่าว่ากันแล้วกันเพราะคือการทดสอบคือการเรียนรู้แล้วก็การฝึกอ่านกราฟอยู่ยังไม่สามารถเทรดได้แล้วก็ยังไม่มีกำไรวันนี้ก็ยังฝึกอยู่ก็เรียนรู้ไปด้วยกันสวัสดีครับ
ฝึกอ่านกราฟคู่นี้ก็ไม่มีอะไรมากก็เอาelliott waveมาให้ดูอีกเหมือนเดิมนะครับก็ลองสังเกตดูแล้วกันเนาะว่าจะวิเคราะห์แบบไหนส่วนตัวก็ตามที่ตัวเองถนัดมากกว่าเห็นแบบไหนก็เขียนแบบนั้นแหละอย่างที่เห็นในภาพทางขวาก็คือสิ่งที่เราวิเคราะห์ส่วนทางซ้ายคือฝั่งที่เขาวิเคราะห์ได้แค่นั้นเขายังไปต่อไม่ได้ส่วนฝั่งขวาที่ผมวิเคราะห์มันก็ไม่มีอะไรมากก็ตีแบบที่เห็นตามรูปเลยไม่ต้องไปคิดเลยว่ามันจะต้องตรงกับปลายไส้ตรงนู้นตรงนี้ข้างบนข้างล่างไม่ต้องเลยแค่เห็นรูปก็บีบภาพไปเลยจากภาพมันก็คือการบีบราคาให้ได้ราคาที่บายที่สูงขึ้นเซลล์ที่ต่ำลงให้ทุกคนได้ราคาที่แย่ลงสุดท้ายกราฟก็จะวิ่งไปทิศทางใดทิศทางนึงซึ่งจะมีคนนึงได้กำไรและคนหนึ่งก็ขาดทุนยกตัวอย่างเช่นถ้ามันวิ่งลงไปคนที่กดเซลล์ก็จะได้กำไรคนที่กดบายก็จะขาดทุนแต่พอสักพักนึงคนที่กดเซลล์ไม่ให้ปิดออเดอร์คนที่เกิด by ไว้ยังไม่คัดออเดอร์เกิด price action ขาขึ้นมันก็จะดันตัวขึ้นทำให้คนฝั่งบายชนะคนฝั่งเซลล์ก็จะขาดทุนมันก็แค่นั้นแหละนั่นคือเหตุผลลองไปคิดเอาเองแล้วกันครับว่าจะทำยังไงต่อส่วนตัวก็วิเคราะห์ประมาณนี้แล้วก็ไปย่อหาจุดเช่าที่เล็กลงในทำเฟรมที่เล็กลงแค่นั้นเองเทรดตามหน้ากราฟแค่นั้นพอ
ฝึกอ่านกราฟส่วนทำเฟรม h1 ก็ไม่มีอะไรมากครับย่อมาจากทำเฟรม h4 นั่นแหละก็อย่างที่เห็นนะครับในคลื่นใหญ่มันก็จะทำคลื่นย่อยของมันอีกเสมอคำถามต่อมาว่าเราจะไปไล่ตามรอยทางแบบนั้นเลยไหมก็แล้วแต่ความขยันนะครับส่วนตัวผมเองก็คงจะต้องไปในทิศทางที่ตัวเองถนัดนะครับเพราะว่าผมไม่สามารถที่จะขยันได้ทุกอย่างได้ทั้งหมดคงจะเอาเฉพาะที่ตัวเองทำได้เท่านั้นก็เพียงพอแล้วส่วนตัวอย่างที่ทำมาให้ดูก็ไม่มีอะไรเข้าไปลองใส่ดูแล้วกันถ้าชอบก็ไปเลือกเอาก็ไปหารอยทางของมันเอาก็ตามภาพเลยครับเนี่ยรอยทางมันมีมาเรื่อยๆแหละยิ่งย่อเล็กไม่ค่อยเห็นรอยทางก็อย่างที่บอกว่าไอ้กรอบที่สร้างคลื่นElliott Wave ย่อยมันก็มีอีกแล้วพอเรารู้มากๆเข้าก็ถามต่อว่าแล้วเราจะเข้ายังไงแล้วเราจะไปเข้าด้วยเงื่อนไขอะไรนั่นแหละครับสิ่งที่มันเกิดกับตัวเราคลำทางให้ถูกต้องแล้วกันครับเอาที่ตัวเองถนัดแล้วกันก็ประมาณนี้เดี๋ยวจะย่อ m15 แล้วก็จะหาจุดเข้าแล้ว
ฝึกอ่านกราฟอันนี้ก็ไม่มีอะไรย่อมาจากทาม fame week นั่นแหละครับก็มาดูใน h4 ก็จะเห็นไส้ในของมันอันนี้ผมไม่ได้ทำเองนะมันเป็น indicator ที่ผมบอกให้ใส่ลงไปนั่นแหละเขาทำให้เราเรียบร้อยเลยที่เหลือก็ไปศึกษาเอาเองแล้วกันตามภาพที่เห็นนี่ล่ะครับส่วนตัวผมก็ไม่ได้มองแบบนี้เลยคนละทางเลยก็มองตามที่เห็นในรูปที่เขียนนั่นแหละครับถ้ามันลงไปข้างล่างจากกรอบที่ผมตีเอาไว้ข้างบนสุดด้านขวาผมก็มองหน้าเซลล์แค่นั้นเองด้านซ้ายมันเป็นclean trafficผมก็รอ follow sale ไปเรื่อยๆจุดพักตัวด้านซ้ายมันก็คือจุดที่มันเคยเป็น sideway นั่นแหละมันจะขึ้นต่อมันก็ทำให้ pa ขาขึ้นมันจะลงมันก็ต้องทำเป็น PA ขาลงก็แค่นั้นแหละมันก็จะต้องทะลุ side wayก่อนจะ ลงไปก็แค่นั้นเอง
ฝึกอ่านกราฟสรุปผลการวิเคราะห์สำหรับวีคนี่เพิ่งจะวันอังคารต้นสัปดาห์เองก็ขึ้นทะลุ mother bar ไปแล้วไม่เป็นไรครับเราก็มองตามหน้างานนี่แหละทะลุไปเราก็อะไรครับ follow by ครับในการหาจุดเข้าในทำเฟรมที่เล็กแค่นั้นเองแต่อย่าลืมนะครับว่าเรากำลัง follow by อยู่ยังมีโอกาสที่จะโดนดึงกลับได้เช่นกันฉะนั้นการจะเก็บกำไรก็อย่าถือยาวแค่นั้นเองอยากเข้าก็MMไปแพ้ก็หาจุดเข้าใหม่MMทีล่ะไม้ไป
แต่ถ้ารอได้ก็คือต้องรอทั้งสัปดาห์ไม่มีอะไรให้เทรดเลยไปหาผู้อื่นตอนนี้ก็ลองเอาใจหาElliott Wave มาใช้ดูครับหาชื่อนี้มาให้
Elliott Wave
มันเหมาะสำหรับคนที่จินตนาการตีขาอีเรียตเว็บไม่ออกอย่างผมนี่แหละตีผิดตลอดแต่มีไอ้นี่มันก็ตีถูกอยู่แล้วแหละมันคิดมาให้แล้วแต่อย่างที่ว่าล่ะครับเห็นไหมว่าตอนนี้มันอยู่ที่ขาที่ 5 แล้วเป็นขาที่สูงสุดถ้าตามหลักการของอีเรทเวฟนั้นก็คือจะต้องย่อตัวลงมาเป็นขา a b c ในขาย่อยของ a b c ทำรูปแบบแบบใดใน collection flash จะเป็นรูปแบบของ strong bแถมยังแยกย่อยออกไปอีกว่าเป็นประเภทไหนอีก
Irregular Failure Flat
Irregular Flat
Running Flat
Ziggzags
weak b
ส่วนตัวก็ไม่เข้าใจอะไรเลยนะครับก็อธิบายไม่ได้นะแต่ก็หา indicator มาใส่ไว้ให้ลองดูแล้วกันเผื่อใครชอบด้านนี้ก็ลองไปศึกษาเอาแล้วกันแต่ส่วนตัวขอบอกเลยว่าเคยลองศึกษาแล้วแล้วตอนนี้ก็ลืมหมดแล้วแล้วก็ไม่คิดจะกลับไปอีกแล้วเอาแค่เท่าที่เห็นนี่แหละพอแล้วก็เยอะมากพอแล้วก็ตามรูปที่เห็นเลยนะครับสำหรับต่อไปก็จะย่อลงไปในทามเฟรมที่เล็กลงไปอีกหาวิธีเข้าดูเดี๋ยวลองไปดูว่าใน Elliott Wave ทำเฟรมที่เล็กลงน่ะมันเห็นอะไรบ้าง
ฝึกอ่านกราฟรูปแบบกราฟก็อย่างที่เห็นนี่แหละครับตามรูปที่เขียนเลยไอ้ปากนกที่เป็นสามเหลี่ยมน่ะไม่ต้องไปคิดอะไรมากเห็นตามรูปก็ขีดๆเขียนๆไปเลยไม่ต้องไปคิดหรอกว่าจะต้องไปใช่เนื้อเทียนตรงไหนตีแค่ที่เห็นนี่แหละให้แค่รู้ว่ามันขึ้นมันลงแบบไหนมันเป็นลักษณะไหนมันกำลังดีดตัวแบบไหนนี่ก็คือรูปแบบของ side way ที่กำลังบีบตัวอยู่สังเกตไหมว่ากราฟพยายามบีบตัวให้เราบายและเซลล์ในราคาที่แย่ลงเรื่อยๆนั่นแหละครับมันก็คือรูปแบบเดิมๆรูปแบบที่ถ้าเราไปกดบายตอนนี้ก็โดนลากกดเซลล์ตอนนี้ก็โดนลากเราโดนหมดทุกอย่างทางที่ดีที่สุดก็คือไปที่ต่ำลงกับเซลล์ที่สูงขึ้นก็แค่นั้นแหละก็ต้องลองสังเกตดู
ฝึกอ่านกราฟกำหนดแผนรอกราฟวิ่งเข้ามาตามแผนวิ่งมาในแผนไหนกำหนดเงื่อนไขจุดเข้าซื้อตามแผน
ชุดวิเคราะห์นี้ก็ย่อมาจาก time frame ใหญ่ที่วิเคราะห์ก่อนหน้าแล้วก็มาหาจุดเข้าที่เล็กลงแค่นั้นเองไม่มีอะไรมากครับก็คือยิ่งทำเฟรมเล็กเราก็จะมีจังหวะเข้าได้เยอะขึ้นแล้วเราก็จะเก็บจุดได้เยอะขึ้นได้ไวขึ้นไม่ต้องรอนานแค่นั้นเองความหมายมันก็คือแบบเดียวกันนั่นแหละไม่ว่าจะทำเฟรมเล็กทำเฟรมใหญ่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการเลือกเทรดการ SL ก็จะกว้างขึ้นสำหรับทำเฟรมที่ใหญ่ขึ้นTFที่เล็กลง SL ก็เล็กลงตามไปด้วยแต่ก็ระวังโดนการสะบัดของกราฟด้วยเช่นกันเพราะฉะนั้นความเสี่ยงมันไม่เหมือนกันแต่เราเก็บกำไรเพียงเท่าไหร่ต่อ 1 รอบนั่นแหละคือสิ่งที่เรากำหนดบางที SL มากกว่า TP ก็เป็นได้แต่ TP มันไปถึงก่อน SL เราก็จบรอบๆไป
ICT Kill zone in Forex คืออะไร?ICT Kill zone in Forex คืออะไร?
👰 กลับมาพบกันอีกเช่นเคยกับบทความๆดีๆที่มีให้อ่านกันไม่รู้จักเบื่อ หลังจากเราทำความรู้จัก KZM Killer Zone กันไปแล้ว วันนี้แอดพามาทำความรู้จักตลาด ICT Killzone กันบ้าง มาครับตามมาดูมาอ่านกันดีกว่า ว่ามันใช้ยังไง และดีกว่าอย่างไร บทความนี้มีคำตอบครับ
หากเราชื่นชอบการเทรดตามกรอบเวลาในแต่ละประเทศตามตลาดต่างๆ ในแต่ละประเทศ เราอาจชอบรูปแบบการเทรดนี้ และแอดเชื่อว่าเทรดเดอร์ส่วนใหญ่และหลายๆคนอาจจะเกิน 70% ชื่นชอบการเทรดตามตลาดต่างๆในแต่ละสกุลเงินที่แตกต่างกันไป
ICT Kill Zone หรือชื่อเต็มๆก็คือ Inner Circle Trader Kill Zone เป็นช่วงเวลาเปิดตลาดที่สำคัญของแต่ละตลาด และมีระยะคาบห่างการเปิดตลาดที่ใกล้เคียงและต่อเนื่องกัน นั่นเป็นเหตุผลที่ตลาด FOREX มันเปิดตลอด 24 ชั่วโมงนั่นเอง
ICT Killzones Times สำหรับการเทรดรายวันแบบ Intraday Trading
เวลาในตลาดหลักๆที่เราควรจะเทรดจะมีด้วยกัน 3 ช่วง 3 ตลาด
1. ICT London Killzone time ในตลาดลอนดอน
- 19:00 pm – 22.00 pm ตามเวลาบ้านเรา
- คู่เงินที่ควรเทรดและยอดนิยม EUR/USD และ GBP/USD
2. ICT New York Killzone time ในตลาดนิวยอร์ก
- 19:30 pm – 22.30 pm ตามเวลาบ้านเรา
- ดีที่สุดสำหรับการเทรด Nasdaq100 and S&P500
- ช่วงเวลาที่สำคัญและดีที่สุดคือช่วง 8:30 pm ตามเวลาบ้านเรา
- คู่เงินที่ควรเทรดและยอดนิยม EUR/USD และ GBP/USD
3. ICT Asian Killzone time ในตลาดเอเชีย
- ส่วนใหญ่เทรดเดอร์มักเทรดช่วงเวลาเดียวกับ New York timezone.คือ 7.00 pm -9.00 pm ตามเวลาบ้านเรา
- และคู่เงินที่นิยมเทรดคือ JPY, NZD, และ AUD
👌และแน่นอนว่า ตลาดลอนดอน London Session ย่อมเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมสูงสุดไม่แพ้สกุลเงินอื่นๆเลย แม้แต่ทองด้วย ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุดในรอบวัน ส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนสูงและมีโอกาสเยอะมากในการเข้าเทรดเพื่อทำกำไร แอดจึงยกตัวอย่างและวธีการสรุปสั้นๆในการเทรดตลาดลอนดอนมาให้ดูกัน
จุดสังเกตุในการเทรดตามตลาด London Session
1. เมื่อเข้าสู่ London Session ราคาเริ่มปรับตัวขึ้นไปทดสอบ High หลังจากนั้นราคาก็มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง (Market Structure Shift) กลับลงมาทางด้านล่าง
2. ราคาเริ่มย้อนกลับขึ้นมายัง Optimal Trade Entry (OTE) ที่ระดับ Fibonacci 0.5 ซึ่งเป็นจุดที่น่าสนใจในการเปิดออเดอร์ Sell
3. เมื่อราคาสามารถทะลุ Low ของเซสชั่นลงมาได้ แสดงว่ามีโอกาสที่ราคาจะร่วงลงต่อไป
4. เป้าหมายของออเดอร์ Sell คือ Low ของเซสชั่นก่อนหน้า
👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับระบบเทรด ICT Kill zone แม้ว่าจะต้องนับเวาและคำนวนเวลานิดหน่อย แต่มันคุ้มค่ากับคำว่ารอมากเลยนะฮะ ใครว่าเราไม่สามารถชนะตลาดได้ ไม่จริงฮะ แค่เทรดให้เป็นระบบ มีวินัย ไม่โลภ เราสามารถชนะได้แน่นอน ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะฮะ
ที่สำคัญคือบริหารเงินในหน้าตักเราให้เป็นและรัดกุมมากที่สุดครับคือสิ่งสำคัญ ฝึกไว้เยอะๆแล้วเราจะเก่งเอง แอดเอาใจช่วยทุกท่านให้เทรดได้เงินสะสมเยอะๆครับ
ฝึกอ่านกราฟตัวนี้ก็ลองทดลองนั่งไล่วิเคราะห์เป็นแท่งต่อแท่งดูก็หาเหตุหาผลเพื่อที่จะเข้าออเดอร์ซึ่งในรูปแบบของแท่งเทียนที่เห็นณขณะนี้มันก็จะเป็นตามที่เขียนในรูปเลยซึ่งมันก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวเราแล้วว่าจะหาจุดเช่าอย่างไรโดยเทคนิควิธีการใด indicator อย่างไรก็ต้องหาตามที่ตนเองถนัดจะเป็นรูปแบบของการนับคลื่นอีเลียดเว็บอะไรต่างๆที่ตัวเองถนัดก็จัดไปตามที่ตัวเองร่ำเรียนมาจากอาจารย์คนไหนท่านใดที่ให้ความรู้กระชับความรู้จากประสบการณ์ที่แต่ละเกจิอาจารย์สอนก็เอามาฝึกใช้ดูแล้วก็มาปรับใช้ให้เป็นวิธีการของตัวเอง
ฝึกอ่านกราฟตามหารอยทางกราฟ สร้างเงื่อนไข ตรรกะ เพื่อหาเหตุและผลของคำตอบ ใน24ช.ม.มี M1 1,377 แท่ง ถ้าวิ่งอัตราเฉลี่ย 70 จุดต่อแท่ง 1,377x70=96,390 จุด ฉะนั้นใน1วันก็วิ่งเฉลี่ยเกือบแสนจุดเลย แล้วถ้าเราไล่เก็บในM1ได้เฉลี่ยสัก1%ก็จะเก็บได้ 963 จุด ถึง 1000 จุด ต่อวัน ฉะนั้นเราจะทำการเทรดด้วยวิธีการใดได้บ้าง
นั้นคือสิ่งที่เราต้องติดตามผลหารอยทาง
ซึ่งในรูปแบบการวิ่งของกราฟมันก็เป็นเรื่องปกติ3รูปแบบ ขึ้น ลง ออกด้านข้าง นั้นคือโจทย์ที่จะต้องตามรอยทางต่อไป
ตลาดปิดแล้วแต่เราก็ต้องฝึกหาเหตุและผลของมันเสมอส่วนตัวก็จะตั้งคำถามทุกๆแท่งเทียนในแต่ละวันก่อนจะถึงวันปัจจุบันก่อนหน้านั้นคืออะไรแล้วในแต่ละแท่งมันวิ่งกี่จุดวิ่งเพราะอะไรแล้วข้างในของแท่งนั้นๆในทามเฟรมที่เล็กลงมันมีพฤติกรรมอะไรที่ให้เราเข้าไปเก็บออเดอร์ได้สามารถปิดกำไรได้ประมาณเท่าไหร่ในแต่ละแท่งเทียนทุกอย่างมันต้องมีเหตุมีผลการจะใส่ indicator หรืออะไรต่างๆมันใส่ได้หมดแต่การที่จะอ่านค่าในอินดิเคเตอร์ต่างๆนั้นหรือจะเป็นค่าของอีเรทเวฟทั้งทั้งหมดนั้นมันจะอยู่ในแท่งเทียน 1 แท่งนั่นแหละในความหมายที่ผมคิดวิเคราะห์ดูก็คือ 1 แท่งมันจะมีค่าของมันอยู่ในไทม์เฟรมที่เล็กลงซึ่งเราต้องไปแกะค่าเท่านั้นให้เจอแล้วเราจะหาจุดเข้าของมันให้ได้ซึ่งเราก็ต้องหาคำตอบมันให้เจอส่วนการที่เราจะตั้งค่าตั้งแผนอะไรต่างๆเอาไว้เป็นสิ่งที่ทำได้ทั้งหมดแต่แผนทั้งหมดที่ทำไว้ก็มีการผิดพลาดได้เสมอเพราะทุกอย่างมันสามารถดึงขึ้นดึงลงหรือจะทำ side way ออกด้านข้างก็ได้เสมอเราไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าใจอะไรได้เลยสิ่งที่เราทำได้นั่นคือการเก็บจุดของเราในรูปแบบที่เราเข้าใจฉะนั้นวันนี้ที่มาลองหาเงื่อนไขก็เป็นการสร้างคำถามเพื่อหาคำตอบหาตรรกะในความเป็นไปได้สาเหตุและผลในความเป็นไปได้ว่ามันควรต้องเป็นอย่างไรมันจะชนแค่ทั้งคู่ทั้งต่อปลายไส้หรือรูปแบบนี้ price action รูปแบบของ indicator ในเงื่อนไขสัญญาอะไรบางอย่างแต่ละ indicator ใส่เข้ามาให้ซึ่งมันไม่สามารถเอามาใช้ร่วมกันได้แต่ทุกอย่างต้องมีเหตุมีผลที่สอดคล้องกันให้กับตัวเราเข้าใจในรูปแบบของเราเองเท่านั้น
เน้น Winrate ไม่เน้น Risk-Reward Ratio: ข้อดีและข้อเสียในโลกของการเทรด หนึ่งในประเด็นที่นักเทรดมักจะถกเถียงกันคือ การเลือกเน้น Winrate (อัตราการชนะ) หรือ Risk-Reward Ratio (RR: อัตราส่วนกำไรต่อความเสี่ยง) อะไรสำคัญกว่ากัน? บทความนี้จะอธิบายข้อดีและข้อเสียของการเน้น Winrate มากกว่า RR เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าแบบไหนเหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณ
✅ ข้อดีของการเน้น Winrate มากกว่า RR
-กำไรสม่ำเสมอ (Consistent Profits)
การชนะบ่อยช่วยให้พอร์ตโตขึ้นเรื่อย ๆ และช่วยเสริมความมั่นใจในการเทรด
-ลด Drawdown (Less Drawdown)
เนื่องจากมีเปอร์เซ็นต์ชนะสูง โอกาสขาดทุนต่อเนื่อง (Losing Streak) จะน้อยกว่าระบบที่มี RR สูงแต่ Winrate ต่ำ
-ลดความเครียดในการเทรด (Less Psychological Pressure)
เมื่อออเดอร์ส่วนใหญ่เป็นกำไร ทำให้จิตใจไม่ต้องเผชิญกับการขาดทุนบ่อยครั้ง
-เหมาะกับตลาดที่มีความผันผวนต่ำ
ในตลาดที่เคลื่อนที่ไม่มาก หรือช่วงไซด์เวย์ การใช้กลยุทธ์ที่ Winrate สูงมักจะทำงานได้ดีกว่า
❌ ข้อเสียของการเน้น Winrate มากกว่า RR
-กำไรต่อออเดอร์ต่ำ (Low Reward per Trade)
ระบบมักใช้ RR ต่ำ เช่น 1:0.5 หรือ 1:1 ทำให้ต้องชนะบ่อย ๆ เพื่อรักษากำไรสุทธิ
-อ่อนไหวต่อ Spread และ Commission
เนื่องจากกำไรต่อออเดอร์ไม่มาก ค่าธรรมเนียมการเทรดอาจมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ
-Losing Streak อาจทำให้คืนกำไรเร็ว
แม้จะมี Winrate สูง แต่หากแพ้ติดกันไม่กี่ครั้ง อาจทำให้กำไรที่สะสมมาสูญเสียไปเร็ว
-อาจต้องเข้าออกบ่อยขึ้น (More Trades Needed)
จำเป็นต้องเทรดหลายครั้งเพื่อให้มีกำไรตามเป้า ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสของ Overtrading
🎯 สรุป
✅ เหมาะกับ:
คนที่ต้องการความสม่ำเสมอและลดความเครียดในการเทรด
ระบบที่เล่นสั้น เช่น Scalping หรือ Grid Trading
ตลาดที่ไม่มีแนวโน้มชัดเจน (Sideway)
❌ ไม่เหมาะกับ:
เทรดเดอร์ที่ต้องการกำไรต่อออเดอร์สูง ๆ
ระบบที่ต้องทนรับการขาดทุนหลายครั้งก่อนชนะครั้งใหญ่ เช่น Trend Following
หากจะใช้กลยุทธ์ที่เน้น Winrate ควรคำนึงถึง ต้นทุนการเทรด (Spread & Commission) และมี การควบคุมความเสี่ยง เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
-80% ในวันเดียว ความโหดของหุ้นอเมริกาหุ้นอเมริกาไม่มี floor ครับ
ตัวนี้ผมโดนไป -80% ในวันเดียว
มันลงตอนปิดตลาด ตีสาม ผมยังหลับฝันอยู่เลย
โชคดีที่ผม position size น้อยมาก ซื้อ 2 หุ้น ประมาณ 15 เหรียญ ความเสียหายจึงแค่ 10 เหรียญเท่านั้น
นี่เป็นข้อเสียของการไม่มี Stop loss ล่วงหน้า
อยากให้ Dime! คิดถึงเรื่องนี้ และช่วยเพิ่มคำสั่งนี้ให้ลูกค้าหน่อยครับ มันช่วยเซฟเงินลูกค้าได้นะ