รูปแบบชาร์ต
SET index ThailandSET หลังหลุดเทรนไลน์ระดับสัปดาห์ และยังเกาะเส้นอยู่แต่จุดดีคือ ยังไม่หลุดลงไป new low
ดังนั้นแนวโน้มขึ้น กลับไปเทรนขาขึ้นต่อก็เป็นไปได้
ซึ่ง Risk - reward ratio ก็ถือว่าน่าเสี่ยงที่จะเข้าซื้อและใช้ Stoploss ตรงจุด low เดิม
ส่วนแนวโน้มก็ลงได้ ทั้งจากสถานการณ์โลกและจากทรงชาร์ตก็มีแนวโน้มลงได้
ซึ่งหากหลุดและเกิด New low เส้นแดงลงมาก็สามารถ ยืนยันการลงได้ทันที โดยแนวโน้มเส่้นดำด้านล่าง
ดังนั้นการเทรด คือ
1. ซื้่อต่อย่อ หากราคายังคงยืนเหนือ 1542.46 (ด้วยเหตุผล risk-reward ratio ว่าคุ้ม)
2. หากราคาหลุด เส้นแดงลงมาได้ต่อเนื่อง ก็ Short หรือ Put อย่างเดียวไม่ต้องคิดอะไรมาก
วีธีปลอดภัยสุด คือ หากลงหลุดเส้นแดง ขาย
ส่วนขา ซื้อ ควรรอความชัดเจนเช่น เบรคหลุด 1600+ ให้หลุด trendline ดำขึ้นไปและยืนอยู่ได้
เพราะโซนนี้ไม่ชัดเจนยกเว้นต้องเสี่ยงไป หรือ เทรดระยะสั้นๆไปแทน
บทวิเคราะห์ทองคำประจำวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2562ทิศทางทองคำเมื่อวันศุกที่ผ่านมาได้ทำการขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 0.5 FIBO ที่ราคา 1472 แต่ไม่สามารถยืนเหนือและจบปิดแท่งราคาช่วงนี้ได้ แต่ภาพรวมสำคัญที่สุดในตอนนี้ยังส่งผลให้ทองคำมีโอกาสปรับตัวร่วงลงไปถึงแนวรับระดับ S2 1436 ได้ เพราะหลังจากมีข่าวช่วงดึกเกี่ยวกับข้อตกลงของจีนที่เหมือนจะออกมาในเชิงบวกส่งผลให้ทองคำทะลุแนวรับ S21456 ลงไปได้รอบนึงแล้วแต่ยังยืนปิดจบไม่ได้ และ ที่สำคัญในช่วงราคา 1472 ได้เกิด Pattern Falling Three ซึ่งมีโอกาสทำให้แท่งวันแท่งที่ 3 ปิดต่ำกว่าราคาเดิมในวันศุกร์ที่ผ่านมา
สรุปง่ายๆ ผมมองว่าทองคำยังมีโอกาสลงต่อไปมากกว่า 60% และ มีโอกาสขึ้นกลับไปเทสแนวต้านระดับ 1472 อีกครั้ง โอกาส 40% ในเมื่อสงครามการค้าในช่วงนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเราก็คงต้องเทรดตามเทรนระยะสั้นกันไปก่อนน้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวางเลยครับ
จุดเข้าซื้อรอจังหวะกลับตัวขึ้น และ ขายทำกำไรในจังหวะไหลกลับมาทดสอบที่แนวรับ
ช่องคู่ขนานช่วยชีวิต นรกกับสวรรค์ห่างกันนิดเดียว : BHเล่าประสบการณ์ตรง หุ้น BH มีสัญญาณซื้อแบบเทรดดิ้ง
คือทำทรงยก Low ยก High ในใจก็แอบเสียวว่าเป็น Corrective เท่านั้น
แต่ก็ลอง Bet ดูซื้อที่ 173.00 บาท
จากนั้นลองดีเส้นคู่ขนานเอาไว้ ถ้าเบรคขึ้นแสดงว่าเราน่าจะถูกทาง
หุ้น BH จะเป็นการกลับตัวที่สวย อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
คือการเบรคลง ซึ่งนั่นคือ สัญญาณเตือนชั้นดีให้เราทำการขายออกมาครับ
โชคดีของผมที่การหลุดนั้นเป็นการทะลุแบบเบา ๆ ค่อย ๆ ลงอยู่เกือบ 1 สัปดาห์
ผมตัดขาดทุนไปที่ 167.00 บาท หรือ ราว 3.4%
"
หากผมไม่เชื่อสัญญาณช่องคู่ขนานนี้ ปัจจุบันราคาร่วงลงมาแล้วกว่า 25%
ช่องคู่ขนานได้ช่วยเอาไว้ได้ นรกกับสวรรค์ห่างกันนิดเดียว
ยอมรับว่าโชคช่วยด้วย แต่ความรู้ก็สำคัญครับผม
Gold trading diary - September
Open long position ที่ 1463 เพราะว่ามี PA buy เหนือ 1461 ที่ C นับจาก 1535-1459 = A นับจาก 1557-1485
หากไม่ถูก SL ที่ 1459 แสดงว่า correction ของเวฟ 4 จบแล้ว และกำลังจะขึ้นไป new high
จะออกเมื่อ
1. ถูก SL
2. มี PA ขายบริเวณ 1500-1508
Risk 4 reward 37-45
ถือต่อถ้าทะลุ 1530 ไป TP แรกที่ 1590
Risk 4 reward 127
XAU/USD - บันทึกการเทรด20-9-2019
Open long position บริเวณ 1500 เนื่องจากวิเคราะห์ว่าทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นในลักษณะ 5 เวฟ
โดยเปิด buy เพราะว่าจาก 1483 ขึ้นมา 1506 นับได้ 5 wave จึงรอให้ย่อมา 3 เวฟที่ 1H TF
แผนคือ หากราคาปิดเหนือ 1500 จะ go long
เป้าแรก 1532 ( R:R 1:29)
เป้าสอง 1547 (R:R 1:11)
ตอนนี้บวกขึ้นมาตามแผน
หลักการบริหารเงินลงทุน (Money Management) สำหรับผู้เริ่มต้นสวัสดีครับ วันนี้ผมอยากจะมาแนะนำการบริหารเงินลงทุนด้วยระบบ T-L-S Trend-Level-Signal
จากประสบการณ์ของผม ได้พบว่ามี Trader หลายๆคนที่มีปัญหาการลากพอร์ทให้ติดลบ ตรงข้ามกับคำพูดที่ว่า
"Let's the profit run, cut the losers lose"
กลายเป็น
"Let's the losers run, cut the profit lose"
หลักการลงทุนในตลาดทั่วๆไป เรามักจะได้ยินคำว่า "ในการเทรดแต่ละครั้ง ไม่ควรเสี่ยงเกิน 1-2% ของเงินทั้งหมด"
แต่ในความเป็นจริง เรากลับได้ยินคำว่า "จงคำนวณว่าเงินในพอร์ทของเรา ใช้ maximum lot size ได้เท่าไร"
Standard lot จริงๆคือ 100,000 USD ต่อ 1.00 Lot
หากคุณลงทุนตามหลักการ นั่นหมายความว่าในการเข้าออเดอร์เทรดแต่ละครั้ง จุด stop loss ของคุณต้องห่างไม่เกิน 200 จุดสำหรับการลงทุน 1 standard lot
เมื่อคุณมีเงินไม่ถึง 100K USD คุณต้องถามตัวเองว่า
ในการเทรดครั้งนี้ "ฉันอยากเสี่ยงจำนวนเงินเท่าไร คิดเป็นกี่%ของพอร์ท"
"จุด Target point ของฉัน ให้ Risk:Reward ratio เท่าไร"
*โดยทั่วไป Risk:Reward ratio ขั้นต่ำ ควรจะเป็น 1:3 เป็นอย่างน้อย หมายความว่า หากคุณมี SL 200 จุด TP คุณต้องอย่างน้อย 600 จุด
เห็นมั้ยครับ การใช้หลัก common sense ที่ถามตัวเองว่า การลงทุนครั้งนี้ อยากเสียเงินเท่าไร จะนำไปสู่การ manage เงินที่สำคัญคือ
"จะใช้ Lot เท่าไรดี?
การจะตอบคำถามนี้ได้นั้น
1. เราจะ "ซื้อ" หรือ "ขาย"
เรากำลังเล่น "go with the trend" หรือเล่น "counter trend" เรากำลังตามเทร็นด์ใน Time frame ใหญ่ หรือสวนเทร็นด์
2. เราต้องรู้ก่อนว่าจุด stop loss เราอยู่ตรงไหน จุด target point เราอยู่ตรงไหน
การที่จะรู้ได้นั้น เราต้องรู้ว่า key level ที่ราคาของ asset ที่เราลงทุนจะกลับตัวที่จุดไหน โดยการหาจุดเหล่านี้มีหลายวิธี ไม่ว่าจะลาก Trend line, ใช้ Fibonacci, หรือนับ Elliot wave
3. เราต้องรอ "สัญญาณ" ตรงนี้สำคัญมากๆ ครับ ท่องไว้เลย "ไม่มีสัญญาณฉันจะไม่เข้า"
Level ทั้งหลายที่เราหาได้จากเครื่องมือต่างๆ ไม่มีใครบอกได้ว่าถูกหรือผิด สิ่งที่่จะบอกได้ว่าถูกหรือผิด คือ สัญญาณการกลับตัว
สัญญาณการกลับตัวสามารถหาได้จากเครื่องมือหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น indicator เช่น RSI divergence หรือ candlestick เช่น Pin bar หรือ reversal pattern เช่น Head and shoulder, diamond top and bottom etc.
แต่สัญญาณทั้งหมดนี้จะเชื่อไม่ได้เลย หากไม่ได้เกิดบน "key level" ข้อนี้สำคัญมาก หากไม่ถึง key level ไม่ต้องมองหา divergence ครับ ไม่มีประโยชน์
สัญญาณที่จะให้จุด stop loss ของเรามีตั้งแต่ candle 1 แท่ง เช่น Pin bar หรือสัญญาณแบบกลุ่ม เช่น reversal pattern
ตัวอย่าง
1. เมื่อเกิด Pin bar บนแนวรับหรือแนวต้านสำคัญ โดยมีขนาดของแท่ง candle 200 จุด นั่นหมายความว่า หากคุณโชคดีพบสัญญาณการกลับตัวตอนกำลังเกิดพอดี คุณจะได้ตำแหน่ง stop loss ที่ 200
2. Pattern เช่น Head and shoulder จะมีจุด stop loss ตามทฤษฎี ซึ่งอยู่นอกเหนือscope ของโพสนี้ ต้องไปศึกษาเพิ่มเติมครับ
เมื่อคุณได้
1. Trend จะซื้อหรือขาย
2. Level ราคามาถึงเลเวลที่คุณวิเคราะห์แล้ว
3. เกิดสัญญาณกลับตัวแล้ว
ถึงจุดนี้ ถามตัวเองตามนี้ครับ
"คุณอยากเสียเงินเท่าไรหากคุณวิเคราะห์ผิด"
"จุด Target ของคุณคือเท่าไร คุ้มเสี่ยงมั้ย R:R เป็นเท่าไร"
คำนวณ Lot size จากจุด SL ครับ ถามตัวเองบ่อยๆ "อยากเสียเงินเท่าไรหากวิเคราะห์ผิด"
เรามาดูตัวอย่างกันครับ
GBP/USD major forex pair ผมคำนวณหา key level ด้วยวิธี Fibonacci แล้วพบว่าแนวต้าน/รับที่แข็งแกร่งคือ 1.302
เมื่อราคาได้ทะลุลงมาใต้ 1.302 มันจะกลับไปเทส เพราะฉะนั้น Trend คือ ขาย
จากภาพจะเห็นได้ว่า เมื่อราคาเข้าใกล้ 1.302 ได้มีการส่ง "signal" ในรูปแบบของ Pin bar อันเล็กๆ ที่มีความยาวประมาณ 170 จุด
นี่คือ SL ครับ 170 จุด
แนว target ที่ผมคำนวณได้มี 2 จุดคือแนว Fibonacci ขนาดกลางบริเวณ 1.292-1.290 และแนว Fibonacci ขนาดใหญ่ ที่ 1.286-7
หมายความว่า Pin bar signal ที่เกิดขึ้นบน Key level 1.302 มี SL 170 จุด โดยมี
Target แรกที่ 1.292 (1000 จุด) และ
Target ที่ 2 ที่ 1.287 (1500 จุด)
SL ผม 170 จุด นั่นหมายความว่าการเทรดนี้ R:R อยู่ที่ 1:5 หรือ 1:7
สำหรับผม คุ้มเสี่ยงครับ
ถ้าคุณมีเงิน 100k usd คุณเล่น 1 lot เสี่ยงเงิน 170 usd (0.17% ของพอร์ท) แรกกับโอกาสกำไร 1000 usd (1%)
"คุณยอมเสี่ยงมั้ย?"
มาดูกันต่อครับ
ราคาได้มาทำการหยุดพักที่แนว Fibo เล็กๆที่ 1.292 ก่อนที่จะลงไปต่อที่แนวใหญ่ที่ผมคิดไว้ คือ 1.286-7
หากคุณเข้าเทรดครั้งนี้ คุณจะกำไรไปแล้ว 1-1.5% ด้วยการเสี่ยงเงิน 0.17%
หลังจากนั้นราคาได้ทำการส่ง "สัญญาณ" กลับตัว ในรูปของ Bullish diver อันเล็กๆ (ผมเทรด MT4, บนมือถือผม มีสัญญาณ Bullish Pinbar อันใหญ่เกิดขึ้นที่ 4 hr ครับ)
พร้อมทั้งทำ Bullish engulfing pattern
เมื่อพิจาณาจากสัญญาณแล้ว ผมมีจุด SL ตรงนี้ 1-200 จุด หากผมคำนวณ target ด้วยวิธีต่างๆ แล้ว R:R มากกว่า 1:3 ผมก็จะเข้าเทรดครับ
จะเห็นว่า หากเราทำการบ้าน หา key level มาดี
เราเฝ้า "รอ" สัญญาณบน key level
เราทำการบ้านวิเคราะห์ trend มาอย่างดี
เราจะได้ตำแหน่งเข้าที่ดี มี R:R เหมาะสม
"ไม่มี" คำว่าลาก แล้วเราจะไม่เครียด ไม่ต้องเพิ่มไม้โดยไม่จำเป็น
เพราะการที่ปล่อยให้เกิดการ "ลาก" แสดงว่าคุณไม่ได้ทำการบ้าน ไม่มี level ในใจ ไม่มีจุดเข้าจุดออกก่อนซื้อขาย
อยากดอย แนะนำไปดอยหุ้นครับ อย่ามาดอย Forex
Trend-Level-Signal และ Target คือสิ่งที่จำเป็นสำหรับ Money management ครับ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หากคุณใช้หลักการ Money management นี้ การออก order ของคุณจะลดลง และกำไรจะเพิ่มขึ้น
แต่คนที่จะไม่แฮปปี้คือ Broker หรือ Introducing broker ของคุณครับ
เพราะว่าหลักการหาเงินของคนพวกนี้คือ
ทุกๆ order ที่คุณทำการวาง คนเหล่านี้จะได้ commission ครับ
เช่น คุณวาง order 1.0 lot introducing broker คุณจะได้เงินไปทันที 1 usd ครับ
หากคุณใช้หลักการบริหารเงินแบบที่ผมพูดมา คุณคิดว่าเดือนนึง คุณจะเหลือ order กี่ครั้ง
คนพวกนี้จะได้เงินจากคุณมากน้อยแค่ไหน ทำไม copy trade หรือการ clone หรือ bot ทั้งหลายจึงออก order ให้ถี่ๆ
คุณกำลัง "ถูกสูบเงิน" ครับ
การจะอยู่รอดได้ต้องหาความรู้ และเท่าทันผู้ไม่หวังดีทั้งหลายในตลาดครับ
ผมโดนมาหมดแล้ว อย่าทำพลาดแบบผมครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ของแถมก่อนจบโพสท์นี้ครับ
ทำไมคุณถึงไม่ควรติด "ดอย"
เรามักจะได้ยินคำว่า "คนรวยจะไม่ขายหุ้น เค้าจะซื้อหุ้นเพราะเค้าวิเคราะห์พื้นฐานของหุ้นนั้นมาดี ไม่มีวันล้ม เค้าจะเป็นเจ้าของบริษัท กินเงินปันผล เมื่อหุ้นลง เค้าก็จะซื้อเพิ่ม"
สำหรับผม ผมจะถามกลับว่า "ตกลงรวยแล้วเลยมาลงทุน" หรือว่า "มาลงทุนเพราะอยากรวย"
เอาดีๆครับ มันคนละเรื่องกัน
คนรวยที่ฉลาดเค้าก็จะไม่ Buy and Hold หรอกครับ มีงานวิจัยตีพิมพ์ออกมาเยอะนะครับ ว่าการวิเคราะห์ตลาด ซื้อขายด้วยการวิเคราะห์ Sector rotation สามารถเอาชนะวิธี Buy and hold ได้ 3-5 เท่า
การที่คุณยังไม่รวย แล้วมาลงทุน แปลว่า คุณอยากรวย
หากคุณไม่มี stop loss ไม่ทำการบ้าน ไม่หาเลเวล สิ่งที่จะเกิดคือ
"เงินจม"
สิ่งเหล่านี้คือ "Opportunity cost" มันคือค่าเสียโอกาส แทนที่จะเอาเงินไปวางไว้ในจุดที่มันงอกเงย กลับต้องมาลุ้นว่าเมื่อไรราคาสินทรัพย์จะกลับมาจุดเท่าทุน
ทำไมที่ปรึกษาทางการเงินของคุณถึงบอกว่า ให้ซื้อหุ้นทุกเดือน ถัวๆเฉลี่ยๆ เป็นการออม
ไม่ใช่เลยครับ
เค้าได้ค่า commission จากการซื้อขายทุกๆเดือนของคุณครับ
ถ้าเจอ Financial advisor ไหนแนะนำแบบนี้ แนะนำให้เปลี่ยนครับ เค้าแคร์แค่เม็ดเงินที่เข้ากระเป็นเค้าเท่านั้นแหละครับ
ถ้าอยากรู้ว่า Financial advisor ที่แนะนำให้ซื้อหุ้นทุกเดือนมีความสามารถแค่ไหน ให้ถามว่า
"มีวุฒิ CMT มั้ยครับ" ถ้าไม่มี แนะนำให้ฟังหูไว้หูครับ
Happy Trading/Investing ครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมได้ทำวิดีโอแนะนำการใช้ Fibonacci คร่าวๆไว้ตามนี้ครับ ในอนาคตอาจมีการอัพเดทได้ หากไม่อยากพลาดรบกวนกดติดตามครับ
Fibonacci part 1
Fibonacci part 2
ตัวอย่างการวิเคราะห์ Trend ด้วย Elliot และ Fibonacci
GL เตรียมพร้อม breakout ออกจาก phase สะสมจากกราฟ 60 นาทีจะเห็นว่า GL ได้ลงมาทำ selling climax ทางด้านล่างแล้วแกว่งออกข้างมาสักพัก วันล่าสุดได้ให้ sign of strength ยกไปจ่อจะ breakout ออกจากกรอบสะสม
BROOK ทำกรอบพักตัวBrook ยิงขึ้นมา ตอนนี้ติด supply zone ทางด้านขวามือ เห็นราคาพักตัวแคบๆ ไม่ลึก ตอนนี้ถอยมาถึง trendline แล้วคาดว่าเร็วๆนี้น่าจะมีกระตุกบ้าง
CPALL แรงเริ่มตกCPALL breakout ออกจาก invertd head and shoulder pattern ขึ้นมาเป็น trend ขาขึ้นโดยการ breakout ขึ้นมาครั้งแรกได้ระยะพอสมควรก่อนพักตัว พอพักตัวเสร็จการ breakout ครั้งหลังนี้ไม่ได้ระยะเลย break ไปได้นิดเดียวก็ overlab กลับลงมาเสียแล้ว ทางทีดีควรที่จะ breakout กรอบนี้ขึ้นไปเพื่อไป clear false break ที่ทำไว้ก่อนหน้า
DTAC ใกล้จะต้องเลือกทางDTAC breakout ออกจากแนวต้านสำคัญขนาดยักษ์มาได้ ตอนนี้พักตัวเป็นกรอบตื้นๆ จะสังเกตุได้ว่าตอนนี้อยู่บริเวณ trendline แล้วน่าจะต้องเกิดอาการขึ้นในเร็วๆนี้
ติดตามพฤติกรรมของ JCKJCK ตอนแรก Breakout ขึ้นไปได้แล้วโดนตบลงมาราคาก็ยังดูไม่เสียทรงเท่าไหร่ เลย zoom เข้าไปดูใน time frame 30 นาที พบว่าในตอนที่ false break นั้นไม่มี volume ทิ้งแรงๆมาจากด้านบน แต่กลับเห็น volume มา peak บริเวณก้นกรอบแทน เลยตีความว่าอาจจะยังไม่ใช่การกระจายของของรายใหญ่ อาจเป็นการเขย่าให้รายย่อยหนีไป ราคาก็ยังสามารถยืนอยู่ได้ จึงอยากติดตามต่อไป