รูปแบบชาร์ต
How to mark POIการเรียงลำดับความสำคัญโซนจะเรียงตามนี้
1. order flow
2. imbalance
3. order block
Note
- ให้ความสำคัญที่ order flow ก่อน แต่กรณีไม่มี unmitigated order flow เลยถึงจะใช้ order block สำหรับ entry
- ถ้าไม่มีข้อ 1-3 เลย รอเกิด BOS swing low หรือ swing High ก่อนค่อยหาจุด entry
- กรณีจาก Low ถึง High มี order flow มากกว่า 2 จุด
ถ้า Buy เริ่มจาก High ให้ความสำคัญกับโซนแรกสุดใต้ IDM และ โซนสุดท้ายด้านล่างสุด
ถ้า sell เรื่มจาก Low ให้ความสำคัญโซนแรกสุดเหนือ IDM และ โซนสุดท้ายด้านบนสุด
MARKET STRUCTURE + MULTIPLE TIMEFRAMEMARKET STRUCTURE + MULTIPLE TIMEFRAME
เมื่อเราเข้าใจหลักการการเชื่อม Timeframe แต่ละ Timeframe ว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร การเทรดของเราก็จะดีขึ้น
เข้าใจไว้เสมอว่า เมื่อเราหาจุดเข้าใน lower timeframe ให้เราเทรดตามเทรนด์หลัก อย่าคิดสวนเทรนด์ใหญ่ Primary trend (High timeframe)
การใช้งาน multiple timeframe, เข้าใจ higher timeframe, middle timeframe, small timeframe ต้องสอดคล้องซึ่งกันและกัน
การฟอร์มตัวของราคา การเสียหรือเบรกโครงสร้างของราคาใน lower timeframe จะส่งผลให้ Higher timeframe เกิด reaction ไปยังทิศทางเดียวกันเสมอ
Multiples timeframe กับ ความสัมพันธ์กันของ Market structure
1. ดู timeframe ใหญ่ให้ออกก่อนเสมอ เพื่อคลุมขอบเขตรอบการขึ้น-ลง
2. เช็ค sub-wave เพื่อหาจุดเชื่อมต่อของ HTF, MTF, STF
3. สรุป timeframe ที่ link ทำ sub-wave ซึ่งกันและกัน และทำการตั้งโจทย์เพื่อหารอบการเล่น
4. ย่อยไปใน timeframe ที่เล็กลงเพื่อหาจุดเข้า
Fair Value Gap (FVG): ช่องว่างราคาที่ดึงดูดเม็ดเงินในตลาดFair Value Gap (FVG) หรือ ช่องว่างราคาที่สมเหตุสมผล เป็นเทคนิคการวิเคราะห์กราฟราคาแบบ Price Action ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่เทรดเดอร์ forex และตลาดอื่นๆ โดยใช้หลักการที่ว่า ราคา มักจะ “ดึงดูดตัวเองกลับไปยังพื้นที่ที่มีราคาสมเหตุสมผล” ซึ่งช่องว่างราคาที่เกิดขึ้นระหว่างช่วงที่มีการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็ว มักถูกมองว่าเป็นพื้นที่ที่ราคา “ไม่สมดุล” และมีโอกาสสูงที่ราคาจะ “กลับมาทดสอบ” หรือ “เติมเต็ม” ช่องว่างราคานั้นในภายหลัง
ลักษณะของ Fair Value Gap
เกิดจาก “การเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรง” ท่ีทิ้งช่องว่างราคาไว้
มักเกิดขึ้นในช่วง “ตลาดปิด” เช่น ช่วงสุดสัปดาห์ หรือช่วงกราฟก่อนหน้า
แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ
Overvalued FVG: ช่องว่างราคาท่ีเกิดขึ้น “เหนือ” ราคาปัจจุบัน
Undervalued FVG: ช่องว่างราคาท่ีเกิดขึ้น “ต่ำกว่า” ราคาปัจจุบัน
การนำ Fair Value Gap ไปใช้งาน
ระบุ Fair Value Gap: หาจุดท่ีราคาเกิดช่องว่างขึ้นบนกราฟ
วิเคราะห์รูปแบบราคา: ดูว่าราคาเคยมี “ปฏิกิริยา” กับช่องว่างราคานั้นอย่างไรในอดีต
กำหนดจุดเข้า: รอจังหวะท่ีราคา “กลับมาทดสอบ” หรือ “เติมเต็ม” ช่องว่างราคา
วางแผนการเทรด: กำหนดจุดตัดขาดกำไร (Stop Loss) และจุดทำกำไร (Take Profit)
ข้อควรระวัง
FVG ไม่ใช่สัญญาณท่ีสมบูรณ์แบบ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ท่ีต้องพิจารณาประกอบการตัดสินใจ
ควรใช้ FVG ควบคู่กับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ
การเทรดโดยใช้ FVG มีความเสี่ยง ควรศึกษาและฝึกฝนก่อนใช้งานจริง
indicator สำหรับคนที่ไม่อยากตีกรอบเอง
ในยุคปัจจุบันก็มี indicator FVG เยอะมาก ที่จะมาช่วยในการเทรด หรือมองกรอบ ช่วยลดเวลา และ เพิ่มความถูกต้องการเทรดได้ มีทั้ง ฟรี และเสียเงิน
model learning XAUPlan setup model
Major trend uptrend TF4H Main 15Min entry
เนื่องจากราคาเป็นเทรนหลักขาขึ้นได้มีการ Choch โครงสร้างย่อยเกิดการเสียทรงเป็นอาการพักตัวในรูป เเบบ correction เลยต้องมองภาพ sell เป็นหลัก
เเต่ในภาพนี้ราคามี orderblock ของ 4H ราคาเลยมีโอกาศกลับขึ้นไปทดสอบจุดที่หลุดลงมาที่ราคาได้ทำ DBD ของภาพ 4H
เเต่เนื่องจากราคา ณ จุดนี้ราคาฝั่ง supply ได้เข้ามาคุมเเล้วทำให้ราคาเเอบหลุดลงไปเเล้วดึงกลับเข้าโซน ณ ตอนนั้นผมก็ได้ L ไว้เเถวๆ 2157 SL 2148 ซึ่งกว้างมาก
เเล้วซักพักราคาก็ได้ทำเพิทเทิลกลับตัว qml ทำให้ได้ไม้ 2156 มาอีกไม้ จากนั้นราคาได้ไปทดสอบ เเถว 2179 ทำให้ setup นี้ได้ไป 1:2 RR เลยที่เดียว
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากนั้นราคาได้มาทดสอบ 2179 ที่ได้วางแผนไว้เนื่องจากโครงสร้างได้เกิดการพักตัว เลยเล่นเเผน Sell ราคาได้ขึ้นไปทดสอบพร้อมกับมี bear div เเล้วมีเกิดการ rejection อย่างชัดเจนเเล้วราคาได้มีเเท่งเทียนBearish Engulfing เเล้วกลับขึ้นไปทดสอบอีกรอบจากนั้นราคาเกิดการทุบลงอย่างรุนเเรงมาเเนวรับเดิมอีกครั้ง
ประเภทของกราฟใน TradingView และวิธีการอ่านสำหรับมือใหม่กราฟแสดงผลราคาในแต่ละรูปแบบมีการแสดงผลที่แตกต่างกัน และมีผลต่อการวิเคราะห์รูปแบบที่หลากหลาย สำหรับกราฟชนิดต่างๆ ในแพลตฟอร์ม TradingView ประกอบไปด้วย
กราฟแสดงผลทั่วไป
• Bars
กราฟแท่ง หรือที่นิยมเรียกว่า OHLC (Open, High, Low, Close) มีการแสดงข้อมูลมากกว่ากราฟเส้น แต่ละแท่งแทนราคาเปิด สูงสุด ต่ำสุด และปิดในระยะเวลาที่ระบุ
• Candles
กราฟแท่งเทียนแสดงผลคล้ายกับกราฟแท่ง แต่ใช้ "แท่งเทียน" เพื่อแสดงราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุด สีและรูปร่างของแท่งเทียน (เขียวและแดง) จะช่วยให้เรามองเห็นอารมณ์ของตลาดได้ง่ายมากขึ้น
• Hollow Candles
แสดงผลคล้ายกับกราฟแท่งเทียน แต่มีความแตกต่างในส่วนของสีภายในแท่งเทียน คือ มีทั้งสีทึบและสีโปร่ง ช่วยให้สามารถแสดงข้อมูล 2 มิติทั้งในกระทิง และหมีได้ โดยสีโปร่งบ่งบอกถึง ราคาปิดของแท่งเทียนปัจจุบันสูงกว่าราคาเปิดของแท่งเทียนปัจจุบัน และสีทึบบ่งบอกถึง ราคาปิดของแท่งเทียนปัจจุบันต่ำกว่าราคาเปิดของแท่งเทียนปัจจุบัน ขณะสีเขียวและแดงถูกกำหนดโดยการเปรียบเทียบของราคาปิดของแท่งเทียนปัจจุบันกับราคาปิดของแท่งเทียนก่อนหน้า
• Line
กราฟเส้นแสดงผลโดยการเชื่อมต่อราคาปิดในระยะเวลาที่ระบุ เป็นกราฟที่เรียบง่ายและดูสะอาดตา เหมาะสำหรับการระบุแนวโน้มราคาทั่วไป
• Line with markers
กราฟเส้นพร้อมแสดงเครื่องหมายแสดงผลเช่นเดียวกับกราฟเส้น แต่มีการเพิ่มจุดข้อมูลสำคัญเข้ามา โดยกราฟประเภทนี้มักถูกใช้เพื่อแสดงผลข้อมูลทางเศรษฐกิจ
• Step line
กราฟแสดงการเคลื่อนไหวของราคาด้วยรูปแบบขั้น โดยปกติแล้วจะแสดงขั้นด้วยราคาปิด แต่สามารถแก้ไขได้ผ่านการตั้งค่า กราฟนี้ถูกนำมาใช้เพื่อหลีกหลี่ยมกราฟแสดงผลมุมมแหลม เพื่อให้เห็นระดับราคาได้ชัดเจนขึ้น มักนิยมใช้กับเครื่องมือวาดเส้นตรง เช่น Vertical Ray หรือ Fib Retracement
• Area
กราฟพื้นที่แสดงผลคล้ายกับกราฟเส้น แต่พื้นที่ที่อยู่ข้างใต้เส้นจะถูกเติมสี และเน้นการเคลื่อนไหวของราคา
• HLC Area
กราฟที่สามารถแสดงผล 3 ค่า ได้แก่ ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด และราคาปิด เพื่อทำให้เกิดการมุ่งเน้นไปที่ข้อมูลสำคัญที่สุด โดยไม่สนใจราคาเปิดที่มีนัยสำคัญน้อยกว่าในเชิงการวิเคราะห์ ขณะที่ความกว้างของพื้นที่ระหว่างเส้นสีเขียวและแดงก็บ่งบอกถึงช่วงการแกว่งตัวของราคา
• Baseline
กราฟเส้นที่แสดงอัตราการเปลี่ยนของราคาอ้างอิงจากฐานราคาที่กำหนด มีประโยชน์อย่างมากในการวิเคราะห์ความผันผวนของราคา
• Columns
แสดงผลเป็นกราฟแท่ง โดยใช้ราคาปิดเป็นค่าเริ่มต้น (default) แต่สามารถตั้งค่าเป็นค่าอื่นๆ ได้ รวมถึงการปรับสีแท่ง โดยค่าเริ่มต้นเดิม สีเขียวแสดงราคาเปิดน้อยกว่าราคาปิด และสีแดงแสดงราคาปิดน้อยกว่าราคาเปิด
• High-low
กราฟแสดงราคาสูงสุดและต่ำสุดบนรูปแบบกราฟแท่งในระยะเวลาที่กำหนด
กราฟแสดงผลที่อ้างอิงเพียงราคาเท่านั้น
• Heiken-Ashi
เป็นรูปแบบของกราฟแท่งเทียน แต่มีการใช้สูตรคำนวณเพื่อสร้างแท่งเทียนแต่ละแท่งออกมา กราฟรูปแบบนี้มีประโยชน์ในการระบุแนวโน้มของตลาดและลดความผันผวนของราคา
• Renko
กราฟนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ แสดงผลเป็นแท่งเทียนในลักษณะอิฐบล็อกที่ต่อกัน แต่ละแท่งอิฐเน้นการเปลี่ยนแปลงของราคาและมีการกรองการเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่สำคัญออกไป โดยแท่งอิฐนั้นจะมีทั้งสีแดงและสีเขียวซึ่งเคลื่อนที่ไปในทิศทางต่างๆ ตามค่าของแท่งอิฐก่อนหน้า ซึ่งการเคลื่อนที่ในแต่ละทิศทางจะเป็นสัญญาณเตือนที่ช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจว่าแนวโน้มหรือเทรนด์กำลังจะเปลี่ยนแปลงนั่นเอง ซึ่งเป็นตัวช่วยที่ดีในการระบุจังหวะในการเข้าเทรด
• Line break
กราฟแสดงข้อมูลแบบแท่งอิฐ สิ่งสำคัญของกราฟประเภทนี้ คือ การตั้งค่าแท่งอิฐ (ราคาปิดปัจจุบันเทียบราคาปิดวันที่ตั้งค่า) เช่น โดยทั่วไปนิยมตั้งค่าไว้ที่ 3 วัน หมายถึง ราคาปิดปัจจุบันเทียบกับราคาปิดในช่วง 2 แท่งอิฐก่อนหน้า โดยแท่งสีเขียวหมายถึงราคาปรับตัวขึ้น แท่งสีแดงหมายถึงราคาปรับตัวลง และจะไม่เกิดแท่งอิฐใหม่หากราคาปิดปัจจุบันเท่ากับราคาปิดของงวดเวลาก่อนหน้าที่ตั้งค่าไว้
• Kagi
กราฟที่แสดงผลด้วยแท่งตัว L ที่พิจารณาจากการเคลื่อนไหวของราคาเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงปัจจัยด้านเวลา หลักการของ Kagi ค่อนข้างเรียบง่าย สีเขียวแสดงทิศทางหุ้นขึ้น และสีแดงแสดงทิศทางหุ้นลง หากมีแรงซื้อมากพอจนราคาปิดสูงกว่าราคาปิดสูงสุดในช่วงก่อนหน้า กราฟจะเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีเขียว ในทางกลับกันหากมีแรงขายมากพอจราคาปิดต่ำกว่าราคาปิดต่ำสุดในช่วงก่อนหน้า กราฟจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดง
• Point & Figure
เรียกย่อๆ ว่ากราฟ PnF กราฟรูปแบบนี้ไม่สนใจเวลาและเน้นเฉพาะการเคลื่อนไหวของราคา โดยใช้คอลัมน์ของ X (แสดงราคาปรับตัวขึ้น) และ O (แสดงราคาปรับตัวลง) เพื่อแทนการเคลื่อนไหวราคาที่ถูกกรองแล้ว
• Range
กราฟช่วงเป็นกราฟที่แสดงผลในรูปแบบแท่ง โดยบาร์ราคาเปิดบันทึกไว้ในแท่ง ในระหว่างนั้นขนาดของแท่งกราฟจะเคลื่อนที่ออกไปจากราคาเปิดเป็นไปได้ทั้งขึ้นและลง ความแตกต่างระหว่างค่าของจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของแท่งจะถูกพิจารณาเป็นการเคลื่อนไหวของราคา และเมื่อใดก็ตามราคาเคลื่อนที่เกินไปจากที่ระยะ สูง-ต่ำ ถึงที่กำหนด (Interval) ไว้ ก็จะเกิดแท่งกราฟใหม่ขึ้นมา
คำเตือน : ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
GBPUSD Day เรียนรู้ แท่งเทียนตัวN netflixGBPUSD Day เรียนรู้ แท่งเทียนตัวN netflix
แท่งเทียน สไตล์น้า ใหญ่ยาว เล็กสั้น เล็กสั้น เล็กสั้น ต่อไปมักจะใหญ่ยาว
เพื่อนำไปเทรดในระบบsmc
ไม่ว่าตลาดจะเลือกทางไหน
ขอให้ทำตามแผนที่วางไว้ และมีวินัย สามารถได้กำไรทุกคนครับ.
ไม่ดื้อ ไม่โลภ ไม่กลัว
เสี่ยงเท่าที่คุณจะสูญเสียมันได้
นิ่งให้พอ รอให้เป็น เย็นให้ได้
เล็กน้อยxสม่ำเสมอ = มหาศาล
ท่านใดเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากกดติดตาม และShare ให้ด้วยนะ
น้าอ่านทุกคอมเม้นท์และเปิดรับทุกความคิดเห็น
XAUUSD ทั้งสัปดาห์นี้ตามแผนทุกวันเลย ถ้าใครไม่หลงไปตามลูกศรที่ผมชี้ไว้ให้แล้วดูแค่หมุดที่ปักไว้ว่า BUY SEll โซนไหน ผมเชื่อว่าบวกกันเยอะแน่นอน วันนี้เอาโซนข้างบนมาให้ดูรอตลาดเปิด สังเกตุไหมว่าที่ผ่านมาในขาขึ้นรอบนี้โซน Supply ที่มองว่าเอาอยู่แน่ๆมักจะถูกทำลายเบรกขึ้นไปนิดหน่อยแล้วกลับตัว มันคือการที่เจ้าตลาดไม่อยากให้เราได้ออเดอร์นั้นแหละพยายามมองหาการหลอก Stop Hunting เมื่อเกิดการกวาดผู้เล่นแล้วเราค่อยเข้าเทรด ช่วงนี้กราฟวิ่ง 2000 จุด+ แปลว่าเราไม่จำเป็นต้องรีบเทรดเลย รอจุดสวยๆเข้าแผนไม้สองไม้ก็อิ่มทั้งอาทิตย์ อีกอย่างการเทรดที่ไม่อยู่ในโซนอันตรายมากนะครับช่วงนี้ ลากได้เป็น 1000 จุดเลยทีเดียว
การมองแผนที่ทำไว้ให้
บางทีผมก็แอบห่วงนะว่าพี่ๆจะเทรดตามลูกศรกันรึป่าว บอกไว้ตรงนี้เลยว่าลูกศรนั้นผมแค่ไกด์ให้ว่าวิ่งได้แบบไหนบ้าง
แต่ผม แนะนำให้กดออเดอร์ในกรอบ Demand,Supply ที่ปักหมุด Buy,Sell ไว้ให้นะครับ
แผนเป็น H1 รอนานหน่อยไม่ต้องรีบ สุดท้ายนี้เจตนาของผมจริงๆแค่อยากมาแบ่งปัน Zone ที่ผมมองเห็นว่าตรงไหนสำคัญบ้างแล้วให้พี่ๆไปใช้ระบบตัวเองทำกำไรกันนะครับ
การกำหนด CHoCH ใน LTF- กรณีที่ราคาปรับตัวขึ้นไปแตะ OB ใน HTF ได้ เราถึงจะปรับตำแหน่ง CHoCH ใหม่ เพื่อให้สามารถเข้าเทรดได้ไวขึ้น
- กรณีที่ราคาไม่ได้มีการแตะ OB ใน HTF แล้วปรับตัวลงเลย เราจะใช้สวิง Low ล่างสุดที่ส่งราคาขึ้นไปทำ HH ได้สำเร็จ ในการกำหนดเป็นตำแหน่ง CHoCH เพื่อลดการเกิด Noise ของราคา
หมายเหตุ : สำหรับการเปลี่ยนจาก Bearish ไปเป็น Bullish ก็แค่กลับด้านกัน
การหาจุด Entry Buyหลังจากราคาเข้า POI Zone การหาจุด entry โดยใช้ TF ที่เล็กลงมา
จุดที่ 1 ไม่ใช่จุด entry เพราะไม่มี LQ ( Liquidity )
จุดที่ 2 ไม่ใช่ เพราะ หลังจากเบรกทำ H แล้วลงมากิน LQ แต่ไม่เบรก H ขึ้นไป แต่เบรก Low ลงมาแทน
จุดที่ 3 ราคามีโอกาสขึ้นมากที่สุด เพราะ หลังจากเบรกทำ H แล้วลงมากิน LQ และเบรก H ขึ้นไป
BTC 1D 15/01/2023ทดสอบความเข้าใจ การใช้ SMC (กราฟ DAY วันที่ 15/1/2023 14.12 )
มองจากภาพใหญ่กราฟ Day จุดราคา 21,480 US มีโอกาสเป็น inducement
ดังนั้นราคาต้องไปเกิน 21,480 US ก่อนจึงจะลงมาโดยเป้าหมายจะอยู่ที่ LL เดิม
แต่ถ้าราคาสามารถขึ้นไปเหนือ 25,211 US หรือ HH เดิม จะถือเป็น CHoch เทรนเปลี่ยนเป็น UP trend