Elliott wave by Eaw จริงหรือเปล่าที่เราควรซื้อหุ้นในคลื่นสอง 2บทความนี้เผยแพร่เพื่อแนวทางให้เพื่อนๆ นักลงทุนที่ศึกษา NEO-Wave ให้เอาไปใช้ประโยชน์ในการทำกำไรในตลาดหุ้นแบบจริงจัง การนำทฤษฎีไปใช้วิเคราะห์สำคัญมาก เพราะเวลาที่เรานับคลื่นเราต้องนำความรู้จากหนังสือมาใช้ให้มากที่สุด ไม่ใช่นับตะบี้ตะบันไปตามอารมณ์หลอกตัวเอง
ตัวอย่าง บิทคอยน์ต่อยูเอสดอลล่าร์ที่แอดมินได้นับไว้เมื่อ 19 พฤจิกายน 2561
หลักการพิจารณา ดูว่าบิทคอยน์ลักษณะคลื่นที่สมมุติว่าเป็น คลื่นหนึ่ง แม้จะสูงมากแต่ว่าไม่ได้มีการแบ่งตัว Subdivide ซึ่งในกราฟมีการแบ่งตัวเพียงสาม Segment ดังนั้นจึงเข้าหลักเกณฑ์ของการเป็น Polywave คลื่นสองปรับตัวเกิน 38.2% ดังนั้นจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ Wave-1 Extended แล้วตอนนี้เป็นการลงในคลื่นสองหรือไม่นั้น หลักการพิจารณามาจากหนังสือบทที่ 11มาดูว่าเงื่อนไขและ ลักษณะคลื่นสองในกรณีที่ Wave-1 Non-extended มีอะไรบ้าง
Textbook : Wave-1 Non-extended
Wave-2 can retrace as much as 99% of wave-1. If it does, and wave-1 is a polywave or higher, the 2-wave will subdivide into an a-b-c affair in which the c-wave will fail (the 2-wave may subdivide whether the 1st wave does or not). If you are witnessing the first wave-1 develop after a prolonged advance or decline, there are no specific price level requirements for the termination of wave-1. Ifit is wave-1 of a larger 3rd or 5th wave, then wave-1 should approach (and preferably exceed) the termination point of the last Impulse wave of one larger degree. The 3rd wave must be longer than wave-1. If the pattern is above Complexity level 1, the third or fifth wave will be the subdivided segment, not wave-1. This is not to imply wave-1 will not subdivide, it just means it will not be the subdivided wave of the group. In other words, wave-3 or 5 will be more subdivided.
คลื่นสองสามารถย้อนกลับได้มากถึง 99% ของคลื่นหนึ่ง ถ้าเป็นเช่นนั้น และ คลื่นหนึ่งเป็นโพลีเวฟ หรือสูงกว่า คลื่นสองจะแบ่งย่อยเป็น a-b-c ที่คลื่นซีจะล้มเหลว (คลื่นสองอาจแบ่งย่อยว่าคลื่นที่หนึ่ง มีหรือไม่) หากว่าเห็นคลื่นหนึ่งซึ่งเป็นคลื่นแรกที่เกิดขึ้น หลังจากราคาเพิ่มขึ้นหรือการลดลงเป็นเวลานาน สำหรับการสิ้นสุดการจบของคลื่นหนึ่ง มันไม่มีข้อกำหนดระดับราคาเฉพาะหากเป็นคลื่นหนึ่งของคลื่นลูกที่สาม หรือห้าที่ใหญ่กว่า คลื่นหนึ่งควรเข้าใกล้ (และควรเกินกว่านั้น) จุดสิ้นสุดของคลื่นแรงกระตุ้นสุดท้ายที่มีระดับที่ใหญ่กว่าหนึ่งระดับ คลื่นลูกที่สามต้องยาวกว่าคลื่นหนึ่ง หากรูปแบบอยู่เหนือ Complexity level 1 (Polywaves ขึ้นไป) คลื่นลูกที่สามหรือห้าจะเป็นคลื่นที่แบ่งย่อย ไม่ใช่คลื่น-1 นี่ไม่ได้หมายความถึงคลื่นหนึ่งว่าจะไม่แบ่งย่อย แต่หมายความว่าจะไม่เป็นคลื่นที่แบ่งย่อยของกลุ่ม กล่าวอีกนัยหนึ่ง คลื่นสามหรือคลื่นห้าจะถูกแบ่งย่อยมากขึ้น แต่โดยทั่วไปหากไม่ใช่ Wave-1Extended ไม่ควรเกิด Subdivided ในคลื่นหนึ่ง การเกิด Subdivide นั้นให้คิดว่าโอกาสจะเกิดในคลื่นหนึ่งนั้นน้อยกว่าในคลื่นสามและห้ามากเพราะคลื่นหนึ่งนั้นไม่ใช่คลื่นยืดตัวนั้นเอง
Textbook : Wave-2
If wave-1 turns out to be (or is believed to be) the longest wave in the sequence, the second wave cannot retrace much more than 38.2% of the first wave. If the first wave is not the longest wave, the lowest point of wave-2 can retrace as much as 99% of wave-1. If wave-1 is a polywave or higher, the 2-wave must subdivide into a polywave or higher pattern. If the 2-wave subdivides and wave-a (in wave-2) retraces more than 61.8% of wave-1, the entire correction will inevitably turn out to be a Double Failure or a C-Failure, with the C-failure occurring at a point 61.8% or less of wave-1.
หากคลื่นหนึ่งกลายเป็นคลื่นที่ยาวที่สุด (หรือเชื่อว่าเป็นคลื่นที่ยาวที่สุด) ในลำดับ คลื่นที่สองจะไม่สามารถย้อนกลับได้มากกว่า 38.2% ของคลื่นแรก หากคลื่นลูกแรกไม่ใช่คลื่นที่ยาวที่สุด จุดต่ำสุดของคลื่นสองสามารถย้อนกลับได้มากถึง 99% ของคลื่นหนึ่ง ถ้าคลื่นหนึ่งเป็นโพลีเวฟ หรือ Complexity level ที่สูงกว่าในคลื่นสองจะต้องแยกย่อยออกเป็นโพลีเวฟ หรือรูปแบบที่สูงกว่า หากแบ่งย่อยคลื่นสองและคลื่นเอ (ในคลื่นสอง) ปรับฐานมากกว่า 61.8% ของคลื่นหนึ่งการ correction ทั้งหมดจะกลายเป็น Double Failure หรือ C-Failure โดย C-failure เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จุด 61.8% หรือน้อยกว่าของคลื่นหนึ่ง
การวิเคราะห์คลื่น
Elliott wave by Eaw จริงหรือเปล่าที่เราควรซื้อหุ้นในคลื่น 2 ? จริงหรือเปล่าที่เราควรซื้อหุ้นในคลื่นสอง เพื่อจะได้ทำกำไรในคลื่น x3 กำไร 3เด้ง 5เด้ง ?
บทความนี้เผยแพร่เพื่อแนวทางให้เพื่อนๆ นักลงทุนที่ศึกษา NEO-Wave ให้เอาไปใช้ประโยชน์ในการทำกำไรในตลาดหุ้นแบบจริงจัง (PART1)
ก็ต้องถามกลับว่า "รู้ได้อย่างไรว่าเป็นคลื่นหนึ่ง หรือ กำลังอยู่ในคลื่นสอง แล้วกำลังจะขึ้นในคลื่นสาม ????
ต้องบอกว่าการที่เราจะนับคลื่นมันมีหลักเกณฑ์การแบ่งแยกว่า ใช่ หรือ ไม่ใช่ อยู่ครับไม่ใช่ตะบี้ตะบัน 1 2 3 4 5 ไปซะหมด การที่เรานับคลื่นิดหลักเกณฑ์จะส่งผลถึงแนวคิดการตรวจสอบการจบชุดของคลื่นราคา (Phase) completely retrace เมื่อราคา completely retrace การตรวจสอบการจบคลื่น การหา Fibonacci Relationship ของสัดส่วนราคาเป็นเรื่องสำคัญที่เวลาแอดมินสอนจะเน้นเป็นพิเศษ เพราะถ้านักเรียนไม่เข้าใจเรื่องนี้จะไม่สามารถเข้าทำกำไรในแต่ละคลื่นราคาได้เลย แอดมินยังไม่เอาหลักการเกณฑ์ของกฏ impulsion Rule of alternation Overlap Rule Rule of Equality Extension Ruls มาเกี่ยวข้องเลย
เพียงแค่นำเอาเรื่อง โครงสร้าง impulsion และ Correction มาเป็นหลักเกณฑ์เท่านั้น เรื่อง impulsion จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก ผู้ศึกษาจะต้องทำความเข้าใจในทุกตัวอักษร และต้องลงลายละเอียดกับมันพอสมควรครับ เรามาดูรูปแบบ Wave-1 Extended และ Non-extended มีหลักเกณฑ์อะไร แล้วคลื่นสองมีหลักการพิจารณาย่างไรหลักการพิจารณามาจากหนังสือ Mastering elliott wave by glenn neely อยู่ในบทที่ 11มาดูว่าเงื่อนไข และ ลักษณะ คลื่นสองมีอะไรบ้าง
Wave-1 Extended
The move that follows Extended wave-1 (wave-2) cannot retrace much more than 38.2% of wave1. Wave-2 will not likely be a Zigzag pattern. If you do see a Zigzag form after the 1st wave Extension, most likely it will be the completion of only wave-a of a larger Flat correction for wave-2. Wave-2 cannot be a Running correction. Wave-5 must be the shortest of the three thrust waves (1,3,5). Probabilities greatly favor that wave-2 will be more complex and time-consuming than wave-4 and it is likely that it will be the most complex and time consuming pattern in the entire series (1-5). If the pattern is above polywave development, the probabilities greatly favor that wave-1 will be the subdivided wave (the most complex of the three thrust segments). If wave-1 is not the subdivided pattern, then it must be wave-3.
11-2 Advanced Progress Label Application
คลื่นสามจะต้องมีความยาวไม่เกิน 61.8% ของคลื่นหนึ่งและคลื่นห้าจะต้องมีความยาวไม่เกิน 38.2% ของคลื่นสาม และจะต้องมีห้าคลื่นย่อยและหลังจบรูปแบบแล้วการเกิด Retracement ราคาควรลงไปสิ้นสุดบริเวณคลื่น 4 ย่อย ของคลื่น 1Extention แต่หากเป็นการจบ Impulsion ของคลื่น 1 หรือ 5 ของ Impulse wave ที่ใหญ่กว่าราคาควรลงไปบริเวณคลื่น 2 ย่อยของ Impulsion ใหญ่ก่อนหน้า โดยทั่วไปคลื่น 2 จะซับซ้อนและใช้เวลานานมากกว่าคลื่น 4 หรือ อาจจะเป็นคลื่นที่ใช้เวลามากที่สุดในห้าคลื่นทั้งหมดด้วย คลื่นสองที่จะเกิดตามหลังคลื่นหนึ่งยืดตัวจะต้องปรับฐานไม่เกิน 38.2% และ ห้ามเป็นรูปแบบ Zigzag ถ้าเป็น Zigzag ให้คาดว่าเป็นเพียงคลื่นย่อยของ a ของ Flat คลื่นสองเท่านั้น และ คลื่นสองของคลื่นหนึ่งยืดตัวนั้นจะเป็น Running Correction ไม่ได้ หากรูปแบบที่ระดับสูงกว่า Poly wave จะพบว่าคลื่นหนึ่งยืดตัวนั้นแบ่งคลื่นย่อยและซับซ้อนที่สุดเมื่อเทียบทั้งชุด แต่หากคลื่นหนึ่งยืดขยายไม่มี Subdivided จะต้องเป็นคลื่นสามที่จะต้องเกิด Subdivided
Wave-1 Non-extended If the pattern is above Complexity level 1, the third or fifth wave will be the subdivided segment, not wave-1. This is not to imply wave-1 will not subdivide, it just means it will not be the subdivided wave of the group. In other words, wave-3 or 5 will be more subdivided.
หากรูปแบบอยู่เหนือ Complexity level 1 (Polywaves ขึ้นไป) คลื่นลูกที่สามหรือห้าจะเป็นคลื่นที่แบ่งย่อย ไม่ใช่คลื่น-1 นี่ไม่ได้หมายความถึงคลื่นหนึ่งว่าจะไม่แบ่งย่อย แต่หมายความว่าจะไม่เป็นคลื่นที่แบ่งย่อยของกลุ่ม กล่าวอีกนัยหนึ่ง คลื่นสามหรือคลื่นห้าจะถูกแบ่งย่อยมากขึ้น แต่โดยทั่วไปหากไม่ใช่ Wave-1Extended ไม่ควรเกิด Subdivided ในคลื่นหนึ่ง การเกิด Subdivide นั้นให้คิดว่าโอกาสจะเกิดในคลื่นหนึ่งนั้นน้อยกว่าในคลื่นสามและห้ามากเพราะคลื่นหนึ่งนั้นไม่ใช่คลื่นยืดตัวนั้นเอง
Textbook : Wave-2
If wave-1 turns out to be (or is believed to be) the longest wave in the sequence, the second wave cannot retrace much more than 38.2% of the first wave. If the first wave is not the longest wave, the lowest point of wave-2 can retrace as much as 99% of wave-1.
หากคลื่นหนึ่งกลายเป็นคลื่นที่ยาวที่สุด (หรือเชื่อว่าเป็นคลื่นที่ยาวที่สุด) ในลำดับ คลื่นที่สองจะไม่สามารถย้อนกลับได้มากกว่า 38.2% ของคลื่นแรก
หากคลื่นลูกแรกไม่ใช่คลื่นที่ยาวที่สุด จุดต่ำสุดของคลื่นสองสามารถย้อนกลับได้มากถึง 99% ของคลื่นหนึ่ง
#Elliottwave Forecasting Corrective Wave Depth of corrective wave การคาดการณ์ ความลึกของการปรับตัว คลื่น 4 คลื่นลูกที่ 4 มีแนวโน้มที่จะย้อนกลับมาก
สุดไปหา คลื่น 4 ก่อนหน้า(wave 4 ย่อยของ wave (3)) ในระดับที่น้อยกว่าหนึ่งระดับ ซึ่งส่วนใหญ่ใกล้กับจุดสิ้นสุด แต่ใน
กรณีที่ หากคลื่นลูกแรกขยาย การแก้ไขของ Wave 4 ก่อนหน้า wave 5 จะมีขีดจำกัด โดยทั่วไปแล้วจะจบลงที่ Wave 2 ของคลื่นก่อนหน้า (“Wave 2 ย่อยของ Wave (3))
Behavior Follwing Fifth wave Extensions เมื่อคลื่น 5 ขยายสิ่งที่เกิดตามมาจะเป็นการแก้ไข แบบ เฉียบคม
(sharp) รุนแรงและมักลงมาสิ้นสุดที่คลื่น 2 ย่อยของตัวเอง
#Elliottwave Combination รูปแบบชุดค่าผสม by @ฮีสานเทรดเดอร์ Double and Triple Three
Elliott เรียกว่า “การแก้ไขแบบผสมออกด้านข้าง” ในขณะที่การแก้ไข ชุดแรกเป็น Zigzag หรือ Flat ประเภทใดๆ
Triangle จะเป็นส่วนประกอบสุดท้ายที่ อนุญาติของชุดค่าผสมดังกล่าว ในบริบทนี้เรียกว่า “Ttiple” หรือ “Double” คือการ
รวมตัวกันของ Corrective Zigzag,Flat หรือ Triangle ประเภทต่างๆ การเกิดขึ้นของ Combinations มักจะเป็นการขยาย
ออกไปด้านข้าง และใช้ป้ายกำกับเป็น W,Y,Z และคลื่นปฎิกิริยา X หรือตัวเชื่อมรูปแบบ Combinations สามารถเป็น
รูปแบบการแก้ไขใดๆก็ได้แต่โดยทั่วไป มักจะเป็น Zigzag
-ส่วนใหญ่รูปแบบ Double และ Triple three มักจะเป็นการเคลื่อนที่ไปในแนวนอน แต่แอลเลียต ระบุว่าการก่อตัว
ทั้งหมดอาจเอียงไปตามแนวโน้มที่ใหญ่กว่าก็ได้ ถึงแม้ว่าเราจะไม่เคยพบว่าเป็นเช่นก็ตาม เหตุผลหนึ่งคือไม่เคยมี Zigzag
มากกว่าหนึ่งชุด ไม่มี Triangle มากกว่าหนึ่งรูปจำไว้เพียงอย่างเดียวว่ารูปแบบ Triangle นั้นนำหน้าการเคลื่อนไหวสุดท้าย
ของแนวโน้มที่ใหญ่ขึ้น และจะเป็นชุดเคลื่อนที่สุดท้ายใน double หรือ Triple three
-ชุดค่าผสม Combinations Double และ Triple Zigzag เป็นชุดค่าผสมที่ไม่ใช่แนวนอน ใน Double และ Triple
Zigzag Zigzag ชุดแรกแทบจะไม่ใหญ่พอที่จะถือเป็นการแก้ไขของราคาที่เหมาะสมก่อนหน้า โดยทั่วไปแล้วการเพิ่มขึ้น
เป็น Double หรือ Triple ของรูปแบบจำเป็นต่อการสร้างการย้อนกลับของราคา ที่มีขนาดเพียงพอ เกิดขึ้นเพื่อขยาย
ระยะเวลา ของกระบวนการแก้ไขหลังจากราคาบรรลุเป้าหมายอย่างมีในยะสำคัญ
-หากทำให้มันชัดเจนขึ้น รูปแบบ Combinations และ คลื่นขยายของ Impulse มีความแตกต่างกันเชิงปริมาณ
จำนวนของอนุกรม จำนวน 3+4+4 ฯลฯ ของชุดค่าผสม combinations และ 5+4+4+4 ฯลฯ ของคลื่นขยาย ใน Impulse
Impulsive มีจำนวน 5 และมีการขยายที่นำไปสู่คลื่น 9,13 หรือ 17 คลื่น และ คลื่น Corrective มีจำนวน 3 โดยผสมกัน
ก็จะนำไปสู่ 7 หรือ 11 คลื่น. แต่รูปแบบ Triangle ดูเหมือนจะเป็นข้อยกเว้น แม้ว่าจะสามารถเป็นหนึ่งในสามรูปแบบของ Combination ได้รวม
11 คลื่น ดังนั้น หากการนับภายในไม่ชัดเจนนักวิเคราะห์ บางครั้งอาจได้ข้อสรุปที่สมเหตุสมผล เพียงแค่การนับคลื่น
ตัวอย่างช่น การนับ 9,13 หรือ 17 ที่มีการทับซ้อนกันเล็กน้อยนั้น น่าจะเป็น Motive wave ในขณะที่การนับ 7,11,15 ที่มีการทับซ้อนกันจำนวนมาก น่าจะเป็นรูปแบบ Corrective wave ยกเว้น motive wave ประเภท Diagonal ทั้งสอง
รูปแบบ
#Elliottwave #Triangle(3-3-3-3-3) #อีสานเทรดเดอร์การแก้ไขรูปแบบสามเหลี่ยม(Triangle) จะสะท้อนถึงความสมดุลของแรงทำให้เกิดการเคลื่อนที่ไปด้านข้าง โดยปกติ
จะเกี่ยวข้องกับการลดลงของปริมาณซื้อขายและความผันผวน รูปแบบสามเหลี่ยมประกอบด้วยคลื่นที่ทับซ้อนกัน 5 คลื่น
แบ่งย่อยเป็น 3-3-3-3-3 และติดป้ายกำกับด้วยตัวอักษร A-B-C-D-E สามเหลี่ยมถูกกำหนดโดยการลากเส้นเชื่อมต่อระหว่่าง
A และ C , B และ D โดยที่คลื่น E สามารถเกินเส้น A - C ได้ คลื่น C ไม่เกินจุดเริ่มต้นของ คลื่น A และ คลื่น E ไม่เกินจดเริ่มต้นของคลื่น B
สามเหลี่ยมมี 2 ประเภท คือ Contracting และ Expending แต่โดยส่วนใหญ่หากคลื่น B ยาวกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น A และการย้อนกลับของคลื่น E จะอยู่ที่ปลายคลื่นคลื่นก่อนหน้าเราจะเรียกว่า Running Triangle
แม้ว่าบางครั้งคลื่นลูกที่ 2 ใน Impulse จะเป็น สามเหลี่ยม แต่ สามเหลี่ยมมักจะเกิดกับคลื่นลูกที่ 4 มากกว่า หรือ คลื่น B
ใน ABC หรือ คลื่่นสุดท้าย Y,Z ใน Combined หากคลื่นที่เกิดตามหลัง Triangle ยาวเกินกว่าเป้าหมายปกติให้ระวังการยืดเยื้อแะลยาวนานของคลื่นชุดนั้น
#Elliottwave #FLAT(3-3-5) #อีสานเทรดเดอร์ การแก้ไขแบบ Flat ต่างจาก Zigzag ตรงที่ลำดับคลื่นย่อยคือ 3-3-5 เนื่องจากคลื่น Action คลื่น A ไม่มีแรงพอที่จะ
ขยายออก 5 คลื่นได้เหมือน Zigzag และคลื่น B ขาดแรงกดดันทำให้มีจุดสิ้นสุดใกล้กับจุดเริ่มต้นของคลื่น A และโดยทั่วไป
คลื่น C จะสิ้นสุดเล็กน้อยหลังจากจุดสิ้นสุดของคลื่น A
การแก้ไขแบบ Flat มักจะย้อนกลับคลื่น Impulse ก่อนหน้าได้น้อยกว่า Zigzag และมักจะเกิดขึ้นก่อนหน้าส่วนขยาย
ภายใน Impulse คลื่นลูกที่4 มักจะเป็น Flat ขณะที่คลื่นลูกที่2 เกิดขึ้นได้น้อยกว่า
Elliott ได้จัดหมวดหมู่ของ Flat ใช้เป็นชื่อการแก้ไข A-B-C ใดๆที่แบ่งย่อยออกเป็น 3-3-5 และในการแก้ไขแบบ 3-3-5
ก็แบ่งออกเป็น สามประเภท ด้วยความแตกต่างในรูปร่างโดยรวม
Common Flat หรือแบบปกติคลื่น B จะสิ้นสุดที่ระดับจุดเริ่มต้นของคลื่น A และคลื่น C จะสิ้นสุดลงหลังจากจุดสิ้นสุดของคลื่น A เพียงเล็กน้อย
Expended Flatจะมีโครงสร้างราคาสูงกว่าจุดสิ้นสุดของ Impulse ก่อนหน้า หรือ คลื่น B จะมีจุดสิ้นสุดเกินจุดเริ่มต้นของคลื่น A และ คลื่น C จะสิ้นสุดมากกว่าระดับที่เป็นจุดสิ้นสุดของคลื่น A
Running Flat เป็นรูปแบบที่หายาก คลื่น B จะสิ้นสุด เกินจุดเริ่มต้นของคลื่น A หรือเทียบเท่า แต่ คลื่น C ไม่สามารถเดิน
ทางได้เต็มระยะ ระดับสิ้นสุด น้อยกว่า ระดับสิ้นสุดของคลื่น A จากกรณีนี้เห็นได้ชัดว่ากำลังของแนวโน้มที่ใหญ่กว่าก่อนหน้านั้นทรงพลังอย่างมาก
***อย่าติดป้ายกำกับคลื่นแก้ไข(Label Corrective wave ) ก่อนเวลาอันควร มิฉะนั้นคุณจะพบว่าตัวเองผิดถึงเก้าครั้งจากสิบครั้ง
Elliott wave ว่าด้วยเรื่องของ Zigzag #อีสานเทรดเดอร์ Zigzag แบบชุดเดียวเป็นรูปแบบการลดลง 3 คลื่น A-B-C มีลำดับคลื่นย่อยคือ 5-3-5 และด้านบนสุดของคลื่น B ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น A อย่างเห็นได้ชัด และในตลาดหมีการแก้ไข Zigzag เกิดขึ้นในทิศทางตรงกันข้าม ซึ้งบางครั้ง Zigzag จะเกิดขึ้น สองครั้ง หรือมากสุดสามครั้งติดต่อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Zigzagตัวแรกยาวเกินกว่าเป้าหมายปกติ ในกรณีเหล่านี้ Zigzag แต่ละอันจะถูกคันด้วย “สาม” ที่่เข้ามาแทรกทำให้เกิด Double Zigzag หรือ Triple Zigzag การก่อ
ตัวเหล่านี้คลายกับ การขยายใน Impulse แต่พบได้น้อยกว่า ภายใน Impulse คลื่นลูกที่ 2 มักจะเป็น Zigzag มากกว่า
คลื่นลูกที่ 4
***ข้อสังเกตุ คลื่นแก้ไข(Corrcetive)มักจะเคลื่อนไหวอยู่ภายใน Channelling
#Elliottwave #อีสานเทรดเดอร์Impulse Wave ส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วย สิ่งที่เอลเลียตเรียกว่า “ส่วนขยาย(Extension)” เป็น Impulse Wave ที่ยืดออกโดยมีการแบ่งส่วนแบ่งส่วนย่อยที่เกินจริง คลื่น Impulse ส่วนใหญ่จะมีส่วนขยาย หนึ่งในสามคลื่นย่อยของ
คลื่น Action ในบางครั้ง การแบ่งส่วนย่อยของคลื่นขยาย มีความกว้างและระยะเวลาเกือบเท่ากันกับ อีก สี่คลื่น
ของ Impulse ที่ใหญ่กว่าโดยให้จำนวน คลื่นทั้งหมดเก้าคลื่นที่มีขนาดใกล้เคียงกันแทนที่จะนับ “ห้า” แบบปกติ
สำหรับลำดับ ในลำดับเก้าคลื่นบ้างครั้งก็ยากที่จะบอกได้ว่าคลื่นใดขยายออกไป อย่างไรก็ตามโดยปกติจะไม่เกี่ยว
ข้องกันเลย เนื่องจากภายใต้ระบบ Elliott wave การนับเก้าหรือนับห้า มีความสำคัญทางเทคนิคเหมือนกัน
#Elliottwave #อีสานเทรดเดอร์Wave Function
ทุกคลื่นจะทำหน้าที่หนึ่งในสอง ของการทำงานคือ Action(กระทำ) หรือ Reaction(ปฎิกิริยาโต้ตอบ) Function ของ
คลื่นถูกกำหนดโดยทิศทางสัมพันธ์ คลื่น Action ใดๆ คือคลื่นที่มีทิศทางเดียวกันกับคลื่นที่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง
ของแนวโน้มน้ัน ส่วนคลื่น Reaction คือ คลื่นใดๆที่มีทิศทางตรงข้ามกับคลื่นที่มีระดับใหญ่กว่า ทุกคลื่น Reaction จะถูก
พัฒนาใน Mode Corrective และทุกคลื่่นของ Action จะถูกพัฒนาใน Mode Motive
Elliott wave by Eaw อัพเดท ดาวโจนส์ที่นับคลื่นไว้ 22/12/2018
Dowjones index รูปแบบมองค่อนข้างยาก แต่เช้านี้ลองเปิดๆหนังสือเจอรูปแบบนี้ ตอนนี้ Dowjones ถึงเป้าแรกแล้ว ถ้าผ่านเป้าสุดท้ายจะยู่ที่ 38144 แต่ถ้าผ่านไม่ได้ก็ลง
Text book: Notice the thrust is larger than any sement of the triangle.the thrust is approximately 161.8% of the widest wave of the B-wave Triangle.This should be considered normal for a Running Triangle.
Elliott wave by Eaw ETH/USD กราฟสวยกว่า BTCตอนนี้ไปถึง 138.2 ของคลื่น a แล้วเกิดการย่อตัวลงมา ต้องรอดูว่าอีเธอเรียมผ่านกฏ Extension Rule ไหมจึงจะมีโอกาสเป็น Impulse wave จะเปลี่ยน labal เป็น คลื่น1 คลื่น2 คลื่น3
ทรงตัวนี้เหมือนตอน BTC/USD ที่ผมนับไว้วันที่ 27 ธันวาคม 2563
หากผ่านกฏ Extension Rule แล้วค่อยมาดูช่วง Correction ว่าใช่คลื่น 4 ไหม ก็ต้องเอากฏเรื่อง Overlap Rule กฏการทับซ้อนใช้แยกแยะ Trending (Impulse wave) กับ Terminal Impulse wave ซึ่งใน Impulse wave และที่สำคัญคือ Rule of alternation คือ กฏของการสลับในรูปแบบ Correction ใน Impulse wave ใช้กับคลื่น 2 และ 4 มาตรวจเช็คว่าใช่คลื่น 4 ตามกฏ Impulse wave หรือไม่ ตอนนี้คลื่นที่เราตั้งข้อสงสัยว่าเป็นคลื่น 2? เป็น Flat ไปแล้ว คลื่น 4 ก็จะเป็น Flat ซ้ำอีกไม่ได้ตามกฏเรื่อง Rule of alternation และ เมื่อเป็นคลื่นที่เราตั้งข้อสงสัยว่าเป็น คลื่น 3? มันยืดตัว ดังนั้นคลื่นที่ 4 ก็ไม่ควร Overlap
Impulse wave จะต้องผ่านกฏเหล็ก 4 กฏ ไม่ใช่อะไรก็นับ 1 2 3 4 5 มั่วไปหมด
1.Extension Rule กฏการยืดตัวรูปแบบ Impulse wave จะต้องมีคลื่นใดคลื่นหนึ่งในคลื่น 1/3/5 เป็นคลื่นที่ยาวที่สุด
2.Rule of alternation คือ กฏของการสลับในรูปแบบ Correction ใน Impulse wave ใช้กับคลื่น 2 และ 4
3.Overlap Rule กฏการทับซ้อนใช้แยกแยะ Trending (Impulse wave) กับ Terminal Impulse wave ซึ่งใน Impulse wave
4.Rule of Equality กฏแห่งความเท่าเทียมในรูปแบบ Impulse จะต้องอยู่ภายใต้กฏ Extention rule คลื่น 1/3/5 จะต้องเกิดการยืดตัวยาวกว่าคลื่นอื่นอย่างมีนัยยะสำคัญ และเมื่อระบุได้ว่าคลื่นใดยาวที่สุด กฏ Rule of Equality จะถูกนำมาพิจารณา กฏนี้ใช้เทียบระหว่างคลื่น 1/3/5
คลื่นที่ยืดตัวจะเรียกว่าคลื่น Extension โดยทั่วไปมักจะยาวตั้งแต่ 161.8% ขึ้นไปของคลื่นที่มีความยาวน้อยกว่าแต่อาจจะมีบ้าง กรณีซึ่งพบได้น้อย คือ หากคลื่นที่ 1 เป็นคลื่นยาวที่สุด แต่ความยาวไม่ถึง 161.8% ของคลื่น 3 แต่ความยาวคลื่น 3 จะต้องยาวไม่เกิน 61.8%ของคลื่น 1 ซึ่งเป็นคลื่นยาวที่สุดหากคลื่นที่ 3 เป็นคลื่นยาวที่สุด แต่ว่าความยาวไม่ถึง 161.8% ของคลื่น 1 และ คลื่น 5 สั้นกว่าคลื่น 3 ในกรณีนี้อาจทำให้เกิดรูปแบบที่เรียกว่า Terminal Impulse Pattern ***หากว่าไม่เข้ากฏ Extension Rules จะไม่ถือว่าเป็น Impulsion
สรุปตอนนี้ คลื่น c ยังไม่ถึง 161.8% ต้องถือว่าเป็นคลื่น c ไปก่อน ถ้าถึง 161.8% แล้วค่อยเปลี่ยนเป็น label ใหม่ แล้วค่อยมาดูว่า คลื่น 4 จะผ่านกฏ Rule of alternation
และ Overlap Rule หรือเปล่า แล้วต้องดูคลื่น 5 อีกว่าจะผ่านกฏ Rule of Equality ไหม เมื่อผ่านทั้ง 4 กฏก็จะเป็น Impulse wave
Elliott wave by Eaw BTC/USD กรณีถ้าเบรคขึ้นอาจจะเป็น Impulse ?
อัพเดทกราฟเมื่อวาน ในกรณีที่เลือกเบรคขึ้นมีความเป็นไปได้จะเป็น Impulse เพราะ ถูกกฏ Impulse wave 3 ข้อแล้ว เหลืออีกข้อเดียว ^^
จะต้องจับตาดูที่ waves 2&4 เวลาและราคาต้องเป็นสัดส่วนกันในเรื่องของดีกรี การนับ impulse wave ไม่ใช่จะนับ 1 2 3 4 5 ได้หมดครับ เพราะมีเรื่องกฏเหล็กที่เคร็งคัดอยู่ ถ้าผิดข้อใดข้อนึงก็ไม่ใช่ Impulse wave ดังนั้นถ้าใครนับ 1 2 3 4 5 ให้สันนิฐานไว้ก่อนเลยว่านับผิดครับ เพราะว่าหากราฟที่ถูกกฏทุกข้อยากมาก
ถ้าเราเอากฏเรื่อง Rule of Alternaltion หนึ่งในกฏเหล็ก 4 ข้อมาวิเคราะห์การนับกราฟนี้ กฏนี้มีข้อย่อยอยู่ 5 ข้อ
A. Price (the distance covered in vertical units)
B. Time (the distance covered in horizontal units)
C.Severity (the percentage retracement of the preceding wave)
(applicable only waves 2&4 of an impulse pattern (all Impulse variations])
D. Intricacy (the number of subdivisions present in a pattern)
E. Construction (one pattern may be a Flat, the other a Zigzag, etc.)
กฏ A และ B คือระยะห่างของราคาในแนวตั้ง และเวลาที่ครอบคลุมในแนวนอน พูดง่ายๆก็คือ ดีกรี A กับ B ในคลื่น 2 และ คลื่น 4 จะต้องได้สัดส่วนทั้ง เวลา และ ราคา ดูในกราฟ คลื่น 2 และ คลื่น 4 ใช้เวลาต่างกันเยอะมาก ดูขัดตาไม่ได้สัดส่วนแต่อย่างใด แค่เอากฏนี้เพียงข้อเดียวก็ไม่ผ่านแล้วครับ ถามว่าถ้าไม่ผ่านกฏ impulse wave แล้วจะเป็นรูปแบบอะไร รูปแบบทั้งหมดอาจจะเป็น non standard ได้ครับ ถ้าเป็นเรื่อง non standard ก็จะ
มีกฏเรื่องการแยกดีกรี Rule of similarity & Balance อยู่ในบทที่ 4 ของหนังสือซึ่งบทนี้เป็น Text ค่อยข้างเยอะทำให้ผู้ที่อ่านอาจจะไม่เข้าใจ
หลักการตามหนังสือคือมันคือการแบ่ง 1/3 มันคือหลักการแยกดีกรีของคลื่น และการ Correction คลื่นสอง และ คลื่น 4 ของ Impulse wave x3 คลื่น 2 กับ 4 มักจะทำสัดส่วนกันในแง่ราคา หรือ เวลา อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างเช่นเดียวกับ ในคลื่นยืดขยาย หลักการนี้อยู่ในบทที่ 12 หน้าที่ 25 ของหนังสือ
***แต่ถ้าเบรคลงก็นับแบบเดิม อันนี้เป็นการคาดเดาล่วงหน้าอาจผิดได้
Elliott wave by Eaw Nasdaq ที่นับเอาไว้ 28 ก.ย.2561 ถึงเป้าแล้ว!
ที่เคยนับเอาไว้ว่าอาจจะเป็นคลื่น 3 ได้ ตอนนี้ก็ได้ถึงเป้าหมายแล้ว คาดว่าจะลงทำคลื่น 4 เป็น impulse wave แบบ 3 extension ไหม? ต้องจับตาดูที่ waves 2&4 เวลาและราคาต้องเป็นสัดส่วนกันในเรื่องของดีกรี การนับ impulse wave ไม่ใช่จะนับ 1 2 3 4 5 ได้หมดครับ เพราะมีเรื่องกฏเหล็กที่เคร็งคัดอยู่ ถ้าผิดข้อใดข้อนึงก็ไม่ใช่ Impulse wave ดังนั้นถ้าใครนับ 1 2 3 4 5 ให้สันนิฐานไว้ก่อนเลยว่านับผิดครับ เพราะว่าหากราฟที่ถูกกฏทุกข้อยากมาก
ถ้าขี้เกียจอ่าน ในเรื่องกฏ Impulse wave เข้าไปดูใน Youtube ผมได้เลยครับ อยู่ใน Ep1-Ep6 อธิบายเรื่องกฏ Impulse wave และสรุปเรื่อง Impulse wave อย่างเดียวเลยครับค่อนข้างละเอียดพอจะนำไปใช้งานได้
เข้าเรื่อง ถ้าเราเอากฏเรื่อง Rule of Alternaltion หนึ่งในกฏเหล็ก 4 ข้อมาวิเคราะห์การนับกราฟนี้ กฏนี้มีข้อย่อยอยู่ 5 ข้อ
A. Price (the distance covered in vertical units)
B. Time (the distance covered in horizontal units)
C.Severity (the percentage retracement of the preceding wave)
(applicable only waves 2&4 of an impulse pattern (all Impulse variations])
D. Intricacy (the number of subdivisions present in a pattern)
E. Construction (one pattern may be a Flat, the other a Zigzag, etc.)
กฏ A และ B คือระยะห่างของราคาในแนวตั้ง และเวลาที่ครอบคลุมในแนวนอน พูดง่ายๆก็คือ ดีกรี A กับ B ในคลื่น 2 และ คลื่น 4 จะต้องได้สัดส่วนทั้ง เวลา และ ราคา ดูในกราฟ คลื่น 2 และ คลื่น 4 ใช้เวลาต่างกันเยอะมาก ดูขัดตาไม่ได้สัดส่วนแต่อย่างใด แค่เอากฏนี้เพียงข้อเดียวก็ไม่ผ่านแล้วครับ ถามว่าถ้าไม่ผ่านกฏ impulse wave แล้วจะเป็นรูปแบบอะไร รูปแบบทั้งหมดอาจจะเป็น non standard ได้ครับ ถ้าเป็นเรื่อง non standard ก็จะมีกฏเรื่องการแยกดีกรี Rule of similarity & Balance อยู่ในบทที่ 4 ของหนังสือซึ่งบทนี้เป็น Text ค่อยข้างเยอะทำให้ผู้ที่อ่านอาจจะไม่เข้าใจ หลักการตามหนังสือคือมันคือการแบ่ง 1/3 มันคือหลักการแยกดีกรีของคลื่น และการ Correction คลื่นสอง และ คลื่น 4 ของ Impulse wave x3 คลื่น 2 กับ 4 มักจะทำสัดส่วนกันในแง่ราคา หรือ เวลา อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างเช่นเดียวกับ ในคลื่นยืดขยาย หลักการนี้อยู่ในบทที่ 12 หน้าที่ 25 ของหนังสือ