SET index - วิเคราะห์ด้วย relative strength และ Elliott waveจาก wave count คราวก่อน
ตอนนี้ ไม่รู้ว่ตรงลูกศร มือ ชี้ จะนับเป็น ((1)) หรือ ((A))
ถ้าเป็น ((1)) แสดงว่าเราจะเป็นขาขึ้น
แต่ถ้าเป็น ((A)) แสดงว่าเมื่อชน แถว 1300-1350 เราจะลงไปทำ new low? ส่วนตัวผม bias ว่าไม่น่าจะมีนิวโล
เพราะว่าอิงจาก ทฤษฎี Elliott wave wave 4 จะไม่ overlap wave 1 (ยกเว้นกรณี leading/ending diagonal)
จากภาพ wave 4 ได้ลงไปเกือบจะชนเวฟ 1 แถว 900 ต้นๆแล้ว และกราฟเดือนได้ปิดเหนือ 50 fib (ถ้าเปิด MA200 จะเห็นว่าเราปิดเหนือเส้น MA200 ซึ่งสนับสนุนว่ายังเป็นขาขึ้น)
ส่วนตัวผมที่ซื้อมาแถว SET 1000 คาดว่าต่อให้มี new low แต่ก้แค่ลงเล็กน้อยเท่านั้น คงจะไม่มีการคัทหุ้นทิ้งที่ก้นเหวครับ
"ซื้อถูก ขายแพง" คือสิ่งที่ยังมีผลต่อการลงทุนในตลาดช่วงนี้
ในระยะสั้น
คิดว่าจบเวฟ e ของ 3 เหลี่ยมเวฟ 4 ความสูง 75 จุด ได้เป้าที่ 1353 ซึ่งเป็น 0.5 fib วัดจาก low ล่าสุด ถึง swing high ปี 2019 พอดี
แต่ทั้งนี้ ไอเดียนี้จะผิด ถ้า set ลงมาต่ำกว่าเวฟ C
แต่บริเวณ psychological number 1300 เป็นแนว .382 วัดจาก all time high คงมีแรงขายกดลงมาบ้าง ต้องดูกันต่อครับ
มาดู Emerging market index
มีลักษณะทำ pattern triangle ที่ควรจะ break ขึ้น
เมื่อเปรียบเทียบ performance ของ EEM กับ SP500
พบว่าตอนนี้ด้าน relative performance EEM เริ่มกลับมาทำท่าจะ outperform SP500 หมายความว่าควรลงทุนใน emerging market มากกว่า SP500
ด้าน relative strength ของ SET index ของไทย เทียบกับ EEM
ตอนนี้ SET ก็ outperform กลุ่ม emerging market แล้ว
ทุกครั้งที่ set outperform ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ก้จะมีการ rally เกิดขึ้น สังเกตจากกราฟข้างล่าง
เมื่อเทียบ SET vs SP500
พบว่าตอนนี้ relative performance ได้ทะลุแนวต้านตั้งแต่ 30 ปีก่อน และเมื่อ 2 ปีก่อนแล้ว
และเป็นไปได้ว่าหลังจากนี้เรากำลังเข้าสู่การทำฐาน ก่อนที่จะขึ้นไป all time high
Fibonacci ratio แสดงให้เห็นว่า performance chart เจอแนวต้านที่ .148 และ .236 มานานหลายปี และเป็นไปได้ว่าภายใน10 ปีเราจะ outperform ขึ้นไปข้างบน
Thailand
ราคาน้ำมันดิบ และหุ้น PTT, PTTEP, PTTGC
จากภาพหลังจากที่ราคาน้ำมัน TVC:USOIL ตกลงเรื่อยมา ล่าสุดได้เจอ support บริเวณ 19.3 usd ที่เป็นแนวรับหนาแน่น (ดูจากแท่ง volume profile ยืนยัน)
หากมองกันตามพื้นฐาน สัญญาความร่วมมือของ OPEC ได้กำหนดไว้ว่าจะลดการผลิตลงถึงแค่เดือนมีนาคม 2563 เท่านั้น และรัสเซียกับซาอุตั้งใจจะเพิ่มการผลิตในเดือนเมษา
จนกระทั่งเกิด covid apocalypse ขึ้นก่อน การ lockdown ของหลายประเทศได้ทำให้เกิด demand ของน้ำมันที่ลดลง และเกิดภาวะ oversupply
ล่าสุดทางซาอุได้เรียกร้องให้มี OPEC emergency meeting ที่กำลังเกิดสุดสัปดาห์นี้ คาดว่าจะมีการลดกำลังการผลิตลง ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันไม่ลงต่ำไปกว่านี้ในระยะสั้น
ทางเทคนิค
มีสิทธิ์ว่านี่อาจเป็นเวฟ 2 ก็ได้
หากดูเพียงแท่งเขียว-แดงในกราฟสัปดาห์ เราจะเห็นว่าจาก X มา Y เป็น แดง-เขียว-แดง -x- และ แดง-เขียว-แดง ซึ่งเป็นไปได้ว่ามันจบขาลงแล้ว (อย่างน้อยระยะสั้น)
มาดูหุ้นไทยครับ
SET:PTTEP
ดีดขึ้นมาตั้งแต่การประกาศทำ QE ครับ ซึ่งก็เป็นไปตามคาดจากบทวิเคราะห์ก่อนหน้า ()
ตอนนี้หากมองว่า PTTEP อยู่ใน correction แบบ bull channel และเวฟ E จบที่ .618 ของความยาว CD
แสดงว่ามันจบแล้วครับ พร้อมบิน
มาดูกันต่อกับ SET:PTTGC
ตัวนี้เป็นพระเอกที่ทางกลุ่มได้วิเคราะห์และทำการเข้าซื้อตั้งแต่วันที่ลงมาชน fib extension 1.00 บริเวณ 24.5 และได้ทำกำไรกันมาอย่างต่อเนื่องทุกวันครับ
หากราคาน้ำมันจะกลับตัว เชื่อว่า PTTGC ก้คงสามารถทำ all time high ได้ หรืออย่างน้อยก็ต้องดีดไปในบริเวณกรอบเหลือง
SET:PTT PTT
หลังจากชนเส้น Trend line กราฟเดือน ซึ่งเป็น 61.8% fib วัดจากราคา all time low (ต้องไปวัดใน streaming ครับ ข้อมูลใน tradingview ไม่ครบ)
ราคาก็ดีดขึ้นเรื่อยมา และกำลังจะไปปิด gap แล้ว
หากนี่คือการกลับตัวของหุ้นน้ำมัน ราคาสามารถไปทำ all time high ที่ 80 บาท หรือหากนี่เป็นเพียงการดีดตัว ไม่ใช่กลับตัว
กรณีที่เป็นเพียงการดีด หากซื้อขึ้นมาจากข้างล่าง ให้ดูสัญญาณขายบริเวณกรอบสีเหลือง
แต่ส่วนตัวผม bias long
คอยติดตามกันต่อไปครับ จะคอยอัพเดทในนี้เป็นระยะ
PTTGC - แค่ "ดีด" หรือ "กลับตัว"
ลงมาครบ 5 wave แล้ว
ถ้าแค่ "ดีด" เราอาจจะเห็นการขึ้น 3 wave ในกราฟ สัปดาห์หรือกราฟเดือน
ถ้าแค่ดีด คงเห็นการกลับตัวในกรอบสีเหลือง
แต่ถ้าเป็นการกลับตัว เราจะเห็น new all time high
ปัจจุบัน
คิดว่ากำลังอยู่ในเวฟ 3 ของเวฟ 1 กราฟสัปดาห์
ดูจาก volume profile ตอนนี้เราอยู่เหนือแนวรับข้างล่างหมดแล้ว แนวต้านต่อไปที่แน่นหนาคือบริเวณ 48 บาท
ยังคงเน้น buy เมื่อย่อครับ
BDMS - เตรียมรับ correction ใหญ่
จากภาพ จะเห็นว่าหลังจาก great bull run กว่า 18 ปี ตอนนี้ได้มาครบ 5 wave แล้ว
ปรับภาพเป็น กราฟ % จะเห็นภาพชัดกว่า
เนื่องจากหุ้นเริ่มต้นที่ 0.1 บาท ที่เวฟ 1 ได้โตมา 4 บาทกว่าๆ คิดเป็น 400 เท่า เวฟ 1 จึงเป็นเวฟที่ยืด
เมืื่อใช้ Fibo extension วัดหาความสัมพันธ์ BDMS ได้จบเวฟ 5 ที่ .382% ของความยาว wave 1-3 และเวฟ 4 ยังได้แบ่ง wave ทั้งหมดเป็น golden ratio
61.8 : 38.2 ตามทฤษฎ๊ เป๊ะๆ
จะขอเทียบความแตกต่างของ % scale กับ log scale นะครับ
หากใช้ log scale จะพบว่าแนวรับสำคัญๆอยู่ ต่ำกว่า 10 บาท เช่นแถว 3 บาท ซึ่งเป็นราคานี้โหดร้ายมาก
แต่ใน % scale จะพบว่าราคาแนวรับอยู่สูงกว่านั้น
และการวาด fibo retracement ใน % scale ตอนนี้จะเห็นว่า BDMS ดีดตอนชน 23.6 % ซึ่งเราไม่เห็นใน log scale
จากการใช้ Fibo extension หา retracement ที่จะเป็นแนวรับสำคัญโดยใช้ confluence zone พบว่า อยู่ที่ 300 กับ 180% ใน % scale
คิดเป็นราคาแถว 14 บาท กับ 10 บาทครับ
จะคอยสังเกตแท่งเทียนกลับตัวบริเวณนั้นครับ
SET จะลงลึกแค่ไหนหลังจากหลุด low แนวรับสำคัญมา กับสถานการณ์ต่างๆรอบโลก
เป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ทำให้เกิดความไม่ชัดเจนในตลาดทั่วโลก
คำถามว่า จะลงอีกมั้ย แค่ไหน
สองแนวสำคัญคือ 1200 กว่า กับ ลงลึกต่ำกว่า 1000 ไปเลย
ดังนั้น ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเข้า หรือ เล่นรอเด้งขึ้นมา ก็ Short or Put ไป
ส่วนเทรดระยะยาว ก็ต้องแบ่งไม้เข้า (ไม่แนะนำ จนกว่าสถารการณ์ โรค covid19 ชัดเจนขึ้น)
BDMS - หลุดจาก consolidation 6 เดือนแล้ว ใกล้เข้าสู่เวฟสุดท้าย
หลุดและทดสอบสำเร็จ (วงกลมแดง)
คัทเมื่อหลุดเส้นดำ
เป้า 32 บาท
Risk 6.8%
Reward 23% ที่ 32 บาท
เวฟนี้น่าจะเป็นการขึ้นครั้งสุดท้ายก่อนย่อหนัก
ไม่รู้จะจบแค่ 32 หรือจะไปถึง 36
เนื่องจากแนวโน้มน่าจะเป็นเวฟสุดท้าย ถึงเป้าแล้วควรออกเลยไม่ควรอยู่ต่อ
BAY - อยู่บนแนวรับสำคัญ มีโอกาสกลับตัวเป็นขาขึ้น
จากภาพ คิดว่าเราวางบนแนวรับที่สำคัญ ถ้าลองนับเวฟ
ตอน 97 ชนเป้าของเวฟ 3 ย่อยไปแล้ว และมีขนาดเป็น 1.618 เท่าของ เวฟ 1-2 ใหญ่
ถ้านับเวฟถูก ราคา 27.5 คือต่ำสุดของรอบนี้แล้ว และตอนนี้ควรจะเริ่มกลับไปทดสอบ 118 all time high เดิม
กราฟสัปดาห์
ก่อนหน้านี้ลงมาทดสอบ 27.5 มีสัญญาณซื้อ และได้พุ่งขึ้นไป 5 wave ก่อนจะลงมา a-b-c เจอแนวรับที่ 29 บาท และดูท่าจะยืนได้
กราฟวัน ยังอยู่ใต้แนวต้านอยู่
แต่สัญญาณกลับตัวเริ่มมีมา
คิดว่าถ้า 29 ยืนได้ น่าจะพุ่งขึ้นไปไกล
จุดเข้าแบบ conservative คือ ถ้าเบรกทะลุ 31 บาทและยืนได้
หลุด 27.5 บาทจะต้องcut loss เป้า all time high
Risk 7.5% reward 400+%
SET index ThailandSET หลังหลุดเทรนไลน์ระดับสัปดาห์ และยังเกาะเส้นอยู่แต่จุดดีคือ ยังไม่หลุดลงไป new low
ดังนั้นแนวโน้มขึ้น กลับไปเทรนขาขึ้นต่อก็เป็นไปได้
ซึ่ง Risk - reward ratio ก็ถือว่าน่าเสี่ยงที่จะเข้าซื้อและใช้ Stoploss ตรงจุด low เดิม
ส่วนแนวโน้มก็ลงได้ ทั้งจากสถานการณ์โลกและจากทรงชาร์ตก็มีแนวโน้มลงได้
ซึ่งหากหลุดและเกิด New low เส้นแดงลงมาก็สามารถ ยืนยันการลงได้ทันที โดยแนวโน้มเส่้นดำด้านล่าง
ดังนั้นการเทรด คือ
1. ซื้่อต่อย่อ หากราคายังคงยืนเหนือ 1542.46 (ด้วยเหตุผล risk-reward ratio ว่าคุ้ม)
2. หากราคาหลุด เส้นแดงลงมาได้ต่อเนื่อง ก็ Short หรือ Put อย่างเดียวไม่ต้องคิดอะไรมาก
วีธีปลอดภัยสุด คือ หากลงหลุดเส้นแดง ขาย
ส่วนขา ซื้อ ควรรอความชัดเจนเช่น เบรคหลุด 1600+ ให้หลุด trendline ดำขึ้นไปและยืนอยู่ได้
เพราะโซนนี้ไม่ชัดเจนยกเว้นต้องเสี่ยงไป หรือ เทรดระยะสั้นๆไปแทน
PTTGC - Inverted head and shoulder เสร็จสิ้นจากโพสที่แล้ว
คาดว่า PTTGC ได้จบ correction wave และกำลังจะมุ่งสู่เวฟ 3 all time high
ตอนนี้ราคาได้ทำ Inverted head and shoulder ทะลุ neck line และทดสอบแล้ว
เป้าแรกจาก inverted head and shoulder อยู่ที่ประมาณ65 บาท ซึ่งเป็น 50% fibo retracement พอดี
ในภาพรวมคิดว่ากำลังขึ้นเวฟ 3 เป้าที่ 170 บาท
SET50 ลงจัง เอาไงดี (ว่ะ)จากแผนเดิมคือการลงย่อ ก็ยังอยู่ในแผน
จากไอเดียเก่า
คาดว่าจะไป 1118 แต่ไปไม่สุด และลงมาก่อน ถึงโซนที่ควรจะหยุด และเป็นโซนที่น่าเข้าซื้อ
** เส้นแดงคือจุดที่ควรจะลงมา
และ Low เก่า 1057.74 ไม่ควรจะลงมาถึง แต่ถ้าลงมาก็เป็นไปได้ หากจังกลับตัวค่อยซื่้อ
แต่หากหลุด Low 1047 ก็ เผ่น ยอมคัทลอสอย่างเดียวครับ
แสดงว่า pattern เสีย
กราฟน่าจะเฉลยภายในเร็ววัน