setset ยังขึ้นต่อ แนวด้าน 1670 ถ้าผ่านได้ก็จะเป็นการปรับตัวขึ้นอย่างแท้จริง เป้าระยะสั้นหากผ่านแนวต้านได้ 1700-1750 โดยประมาณโดย tanum1
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,630 จุด แรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด กดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,619.48 จุด ลดลง 4.76 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9.7 หมื่นล้านบาท นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,630 จุด ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประจำวันพุธที่ 6 ตุลาคม ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดในแดนบวก หลังการเจรจาขยายเพดานหนี้ไปในทางบวก รวมไปถึงตัวเลขการจ้างงานเดือนกันยายนที่เพิ่มขึ้น นักลงทุนยังกังวลว่าเฟดจะปรับลดวงเงินเข้าซื้อพันธบัตร และตัวเลขเงินเฟ้อจะเป็นตัวเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงหลังดัชนีปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 1,630 จุด สัญญาณ DMI และสัญญาณทางเทคนิคัลขาดความชัดเจน ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้างภายในกรอบสามเหลี่ยมแบบ Descending Triangle โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,612 – 1,601 จุด และแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนียืนปิดเหนือ 1,630 จุด ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ (สัญญาณ RSI เคยปรับลดลงแตะ 46.3 เปอร์เซ็นต์) จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ก่อนที่จะแกว่งตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) ซึ่งจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,673 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวกลับมาเป็นบวก ดัชนีตลาดจะยืนยันทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 1,628 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,628 – 1,637 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,610 – 1,600 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 60 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากกำหนดจุดเข้าซื้อเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด ดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,593 จุด #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv1
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ลุ้นยืนเหนือ 1,630 จุด แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคารรวมไปถึงหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,624.24 จุด เพิ่มขึ้น 9.76 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.86 หมื่นล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 600 ล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลกลับมาเป็นบวก ดัชนีตลาดจะยืนยันทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือ 1,630 จุด ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันอังคารที่ 5 ตุลาคม ดัชนีหลัก 3 ดัชนีปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก จากแรงซื้อเก็งกำไรที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และหุ้นที่รับประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กยังมีความเสี่ยงจากการปรับลดวงเงินที่จะเข้าซื้อพันธบัตร และเงินเฟ้อที่ปรับสูงขึ้นจะกดดันให้อัตราดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้น ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดต่ำปิดสูง แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ และมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,612 – 1,600 จุด สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลกลับมาเป็นบวก ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลง ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนียืนปิดเหนือ 1,630 จุด ดัชนีตลาดมีจุดสูงเก่าเป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,639 จุด ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ (สัญญาณ RSI อยู่ที่ 50.8 เปอร์เซ็นต์) จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ก่อนที่จะแกว่งตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) ซึ่งจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,673 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวกลับมาเป็นบวก ดัชนีตลาดจะยืนยันทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 1,630 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,632 – 1,640 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,617 – 1,609 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 60 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากกำหนดจุดเข้าซื้อเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด ดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,593 จุด #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv1
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ตลาดปิดบวกจากแรงซื้อเก็งกำไร แรงซื้อเก็งกำไรที่กลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวกที่ 1,614.48 จุด เพิ่มขึ้น 9.31 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.8 หมื่นล้านบาท ต่างชาติกลับมาขายสุทธิ 1,035 ล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้างภายในสามเหลี่ยมแบบ Descending Triangle ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปรับตัวลดลง จากแรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวเพิ่มขึ้น และนักลงทุนวิตกว่ารัฐบาลสหรัฐฯอาจผิดนัดชำระหนี้ ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นปิดเหนือแนวรับของเส้น MMA2 ซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,611 – 1,600 จุด ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้น สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้างตามรูปแบบของ “Common Gap” ภายในกรอบสามเหลี่ยมรูป Descending Triangle มีจุดต่ำเก่าที่ 1,591 จุดเป็นแนวรับ และมีเส้นแนวโน้มขาลงเป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,630 จุด ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีสามารถยืนปิดเหนือแนวต้านนี้ได้ ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ (สัญญาณ RSI อยู่ที่ 50.8 เปอร์เซ็นต์) จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ก่อนที่จะแกว่งตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) ซึ่งจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,673 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็น ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐานหรือแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways) ตามรูปแบบของ Common Gap ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,625 – 1,635 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,605 – 1,595 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv0
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ทดสอบแนวรับ 1,591 จุด ดัชนีตลาดหุ้นไทยประจำวันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม ดัชนีตลาดปรับลดลงในช่วงเปิดตลาด แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทนและธนาคารพาณิชย์ หนุนดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,605.17 จุด ลดลง 0.51 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.56 หมื่นล้านบาท ต่างชาติและสถาบันภายในประเทศเป็นฝ่ายซื้อสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก จากตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใส และการร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวออกด้านข้างภายในกรอบสามเหลี่ยมแบบ Descending Triangle ที่มีจุดต่ำเก่าทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,591 จุด และมีแนวรับ 50.0% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,585 จุด โดยมีเส้นแนวโน้มขาลงทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,630 จุด ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้างตามรูปแบบของ “Common Gap” สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวลงหากดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,591 จุด และดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือ 1,630 จุด ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ (สัญญาณ RSI อยู่ที่ 46.3 เปอร์เซ็นต์) จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ก่อนที่จะแกว่งตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) ซึ่งจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,673 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็น ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐานหรือแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways) ตามรูปแบบของ Common Gap ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,614 – 1,623 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,595 – 1,586 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv1
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ลุ้นยืนเหนือ 1,591 จุด แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ธนาคารและพลังงาน ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,605.58 จุด ลดลง 11.30 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9 หมื่นล้านบาท ต่างชาติและสถาบันในประเทศเป็นฝ่ายขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,591 จุด ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน ตลาดปรับตัวลดลงทั้ง 3 ดัชนีหลัก นักลงทุนนำหุ้นออกเทขาย จากความวิตกว่าเฟดจะปรับลดวงเงินที่เข้าซื้อพันธบัตร และตัวเลขเงินเฟ้อจะกดดันให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้าน ดัชนีตลาดปรับตัวลงทดสอบแนวรับของ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด (ทำจุดต่ำที่ 1,601 จุด) โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับร่วมอยู่ที่ 1,611 – 1,599 จุด สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้างตามรูปแบบของ “Common Gap” มีจุดต่ำเก่าเป็นแนวรับอยู่ที่ 1,591 จุด และมีจุดสูงเก่าเป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,639 จุด ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ (สัญญาณ RSI อยู่ที่ 46.5 เปอร์เซ็นต์) จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ก่อนที่จะแกว่งตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) ซึ่งจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,673 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็น ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐานหรือแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways) ตามรูปแบบของ Common Gap ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,616 – 1,626 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,595 – 1,585 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv0
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย แกว่งตัวออกด้านข้าง แรงซื้อเก็งกำไรและการข้าวของต่างชาติเพื่อทำ Cover Short หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,616.98 จุด เพิ่มขึ้น 0.48 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9.28 หมื่นล้านบาท ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิกว่า 1 พันล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางแกว่งตัวออกด้านข้างตามรูปแบบของ “Common Gap” ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธที่ 29 กันยายน ดัชนีดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากแรงซื้อที่กลับเข้าเก็งกำไร ขณะที่ดัชนีแนสแดคปรับตัวลดลงจากแรงขายที่มีออกมาในหุ้นเทคโนโลยี ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดต่ำปิดสูง ระหว่างการซื้อขายดัชนีตลาดปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด (ทำจุดต่ำที่ 1,604 จุด) โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับร่วมอยู่ที่ 1,611 – 1,599 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้างตามรูปแบบของ “Common Gap” ดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีสามารถยืนปิดเหนือ 1,639 จุด ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ (สัญญาณ RSI อยู่ที่ 51 เปอร์เซ็นต์) จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ก่อนที่จะแกว่งตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) ซึ่งจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,673 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็น ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐานหรือแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways) ตามรูปแบบของ Common Gap ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,626 – 1,635 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,606 – 1,595 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv1
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ตลาดหุ้นสหรัฐฯผวาเงินเฟ้อ แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด กดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,616.50 จุด ลดลง 3.52 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9.86 หมื่นล้านบาท ต่างชาติกลับมานำซื้อสุทธิ ขณะที่สถาบันภายในประเทศเป็นกลุ่มนำขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลมีทิศทางไปในทางลบ ส่งผลให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,602 จุด ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันอังคารที่ 28 กันยายน ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีทรุดตัวลง 2 เปอร์เซ็นต์ จากการตื่นขายของนักลงทุน หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะถูกคุกคามจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและปรับตัวลงปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,631 – 1,619 จุด สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นกลับมาเป็นลบ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลดลงและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง ตามรูปแบบของการเกิด “Common Gap” โดยมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,6023 จุด และมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับร่วมอยู่ที่ 1,611 – 1,598 จุด ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ (สัญญาณ RSI อยู่ที่ 51 เปอร์เซ็นต์) จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ก่อนที่จะแกว่งตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) ซึ่งจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,673 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ RSI และ MACD เป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐานหรือแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways) ตามรูปแบบของ Common Gap ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,626 – 1,637 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,606 – 1,595 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv0
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย พักตัวเข้าหาแนวรับที่ 1,602 จุด แรงเทขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,620.02 จุด ลดลง 11.13 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.34 แสนล้านบาท ต่างชาติและสถาบันภายในประเทศเป็นฝ่ายขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลชี้ว่าดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,602 จุด ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ที่ 27 กันยายน ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก จากแรงหนุนในหุ้นกลุ่มที่รับประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 และแนสแดคปรับตัวลดลงจากการปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ดัชนีฟิวเจอร์สเกิดช่องว่างขาลงและขาขึ้น และปิดช่องว่างโดยสมบูรณ์ (Complete Filling the Gap) ช่องที่เกิดขึ้นเป็นช่องว่างแบบ “Common Gap” ซึ่งจะเกิดในช่วงที่ดัชนีตลาดกำลังเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเป็นบวก ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways) ดัชนีมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด และมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,610 – 1,597 จุด ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ (สัญญาณ RSI รอบนี้ปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 46 เปอร์เซ็นต์) จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ก่อนที่จะแกว่งตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) ซึ่งจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,673 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ RSI และ MACD เป็นลบ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐานหรือแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways) เนื่องจากเกิด Common Gap ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,631 – 1,639 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,611 – 1,601 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv0
setsetอยุ่ในแนวขาขึ้น น่าจะขึ้นรอบนี้ไม่ยาวนักและจะพักตัว เพื่อดไปต่อ แต่ทั้งนี้มั้งนั้น ต้องดู เอฟเวอร์แกรส และโควิด และการเปิดประเทษเพิ่มขึ้น02:29โดย noums11
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ไล่ซื้อแบงก์เพื่อทำ Cover Short ธนาคารไทยพาณิชย์ส่งสัญญาณปรับโครงสร้างธุรกิจ กระตุ้นแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคาร แรงซื้อส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากการที่ต่างชาติกลับเข้าซื้อหุ้นแบงก์เพื่อทำ Cover Short เนื่องจากขายล่วงหน้า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,631.15 จุด เพิ่มขึ้น 11.56 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.4 แสนล้านบาท ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิกว่า 3 พันล้านบาท รูปแบบ Common Gap ชี้ว่าดัชนีตลาดมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้าง ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวัศุกร์ที่ 24 กันยายน ดัชนีดาวโจน์และดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ดัชนีแนสแดคปรับตัวลดลง ตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้นเทสล่าและเฟซบุ๊คที่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่หุ้นไนกี้ปรับตัวลดลง ระยะสั้นตลาดหุ้นนิวยอร์กมีความเสี่ยง ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นแบบมีช่องว่าง (1,619 – 1,631 จุด) การเกิดช่องว่างทั้งขาลง - ขาขึ้น และปิดช่องว่างโดยสมบูรณ์ (Complete Filling the Gap) ช่องที่เกิดขึ้นเป็นช่องว่างแบบ “Common Gap” ซึ่งจะเกิดในช่วงที่ดัชนีตลาดกำลังเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นกลับมาเป็นบวก แรงซื้อที่กลับเข้าเก็งกำไรระยะสั้น หนุนให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นก่อนที่จะพักตัวเพื่อปรับฐาน หรือแกว่งตัวออกด้านข้างตามรูปแบบ Common Gap ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ (สัญญาณ RSI รอบนี้ปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 46 เปอร์เซ็นต์) จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ก่อนที่จะแกว่งตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) ซึ่งจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,673 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร ดัชนีตลาดดีดขึ้นปิดช่องว่างขาลงที่ 1,617 – 1,625 จุด ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐานหรือแกว่งตัวออกด้านข้าง (Sideways) เนื่องจากเกิด Common Gap ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,639 – 1,647 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,623 – 1,614 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv0
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย พักตัวหลังปิดช่องว่าง แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด เช่น ธนาคารและกลุ่มพลังงาน หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,619.59 จุด เพิ่มขึ้น 4.73 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.88 หมื่นล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,025 ล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นกลับมาเป็นบวกกในเขตขายมากเกิน ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นปิดช่องว่างขาลง ก่อนที่จะพักตัวเพื่อปรับฐาน ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประจำวันพุธที่ 22 กันยายน ดัชนีหลักปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก นักลงทุนคลายความกังวลหลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณลดวงเงินที่จะเข้าซื้อพันธบัตรแต่ไม่ได้ระบุเวลาที่ชัดเจน ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดช่องว่าง (Filling the gap) ขาลงที่ 1,617 – 1,625 จุด ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ระหว่างการซื้อขายดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,623 จุด ดัชนีตลาดมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด โดยมีเส้น MMA2 เป็นแนวรับร่วม และดัชนีตลาดมีแนวรับ 50.0% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,585 จุด สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวโน้มแกว่งออกด้านข้างเพื่อปิดช่องว่างขาลง ก่อนที่ดัชนีตลาดจะปรับตัวลงเพื่อปรับฐาน ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,658 จุด ดัชนีตลาดปรับลดลงมาปิดที่ 1,625 จุด ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นปิดช่องว่างขาลงที่ 1,617 – 1,625 จุด ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐาน ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,629 – 1,637 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,609 – 1,600 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commoditโดย prajobv3
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดช่องว่างก่อนปรับฐาน แรงซื้อเก็งกำไรที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,614.86 จุด เพิ่มขึ้น 11.80 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.38 หมื่นล้านบาท ต่างชาติและสถาบันภายในประเทศกลับมาเป็นฝ่ายซื้อสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวขึ้นปิดช่องว่างขาลงที่ 1,617 – 1,625 จุด ก่อนที่จะพักตัวเพื่อปรับฐาน ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันอังคารที่ 21 กันยายน ดัชนีดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนีแนสแดคปรับตัวเพิ่มขึ้น ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัท Evergrande และตลาดเฝ้าติดตามผลการประชุมของเฟด ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน แรงซื้อเก็งกำไรหนุนดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดช่องว่าง (Filling the gap) ขาลงที่ 1,617 – 1,625 จุด ระหว่างการซื้อขายดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,591 จุด ดัชนีตลาดมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด โดยมีเส้น MMA2 เป็นแนวรับร่วม และดัชนีตลาดมีแนวรับ 50.0% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,585 จุด สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดช่องว่างขาลงก่อนที่จะปรับตัวลงเพื่อปรับฐาน ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,658 จุด ดัชนีตลาดปรับลดลงมาปิดที่ 1,625 จุด ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นปิดช่องว่างขาลงที่ 1,617 – 1,625 จุด ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐาน ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,623 – 1,632 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,604 – 1,595 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv1
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ผลกระทบจาก Evergrande การผิดนัดชำระหนี้ของ Evergrande สร้างความวิตกให้กับตลาด หวั่นผลกระทบกระจายในวงกว้าง แรงเทขายในหุ้นกลุ่มนำตลาดส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งลงปิดที่ 1,603.06 จุด ลดลง 22.59 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.5 หมื่นล้านบาท สถาบันภายในประเทศเป็นกลุ่มนำขายสุทธิกว่า 4 พันล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตขายมากเกิน ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ที่ 20 กันยายน 2564 ปิดตลาดในแดนลบ นักลงทุนผวาผลกระทบจากการผิดนัดชำระหนี้ของ Evergrande จะส่งผลกระทบในวงกว้าง ทำให้นักลงตื่นเทขายหุ้น ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดทรุดตัวลงแบบมีช่องว่าง (Breakaway Gap ที่ 1,617 – 1,625 จุด) ซึ่งจากนี้ไปจะทำหน้าที่เป็นแนวต้าน และเป็นสัญญาณลงต่อเนื่อง ดัชนีตลาดหลุดแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement ที่ 1,602 จุด และมีเส้น MMA2 เป็นแนวรับร่วม ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับ 50.0% Fibonacci Retracement ที่ 1,585 จุด สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดช่องว่างก่อนที่จะปรับตัวลงต่อ ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,658 จุด ดัชนีตลาดปรับลดลงมาปิดที่ 1,625 จุด ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,673 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,611 – 1,621 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,594 – 1,585 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv0
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดช่องว่าง (Filling the Gap) แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,625.65 จุด ลดลง 6.05 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.05 แสนล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 889 ล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้น (Filling the gap) ที่ 1,621 – 1,611 จุด ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันศุกร์ที่ 17 กันยายน ตลาดปรับตัวลดลงจากแรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวอย่างล่าช้า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้มีการขายหุ้นออกมา ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน แรงเทขายที่มีออกมากดดัชนีตลาดปรับตัวลงปิดช่องว่างขาขึ้น (Filling the gap) ที่ 1,621 – 1,611 จุด และมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับร่วมอยู่ที่ 1,608 – 1,593 จุด สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาขึ้นที่ชะลอตัว สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงพักตัวเพื่อปรับฐาน ดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ตามการเรียงตัวของเส้น MMA2 ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,658 จุด ดัชนีตลาดปรับลดลงมาปิดที่ 1,625 จุด ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ คลื่น (ii) ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1,673 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,635 – 1,642 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,617 – 1,606 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv113
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย แนวโน้มบวกเริ่มมา แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้น PTT, CPALL และ PTTEP หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,631.70 จุด เพิ่มขึ้น 3.66 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.95 หมื่นล้านบาท ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 1,372 ล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,621 – 1,611 จุด ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพฤหัสดบีที่ 16 กันยายน ดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ปรับลดลง ขณะที่แนสแดคปรับตัวเพิ่มขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มวัสดุปรับตัวลง ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆ หลังดัชนีปรับตัวลงปิดช่องว่างขาขึ้น (Filling the gap) ที่ 1,621 – 1,611 จุด ดัชนีตลาดมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับร่วม (1,605 – 1,591 จุด) สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาขึ้นที่ชะลอตัว สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงพักตัวเพื่อปรับฐาน ดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,650 จุด ดัชนีปิดเหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,642 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1,673 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,640 – 1,648 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,621 – 1,611 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv2
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ระยะพักตัว ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆ เหนือแนวรับของช่องว่างที่ 1,621 – 1,611 จุด แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้น PTT, INTUCH และ ADVANC หนุนดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,628.04 จุด เพิ่มขึ้น 4.20 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.29 หมื่นล้านบาท ต่างชาติกลับมาขายสุทธิ 667 ล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,621 – 1,611 จุด ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธที่ 15 กันยายน ปิดตลาดในแดนบวก จากตัวเลขการผลิตที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง กระตุ้นนักลงทุนกลับเข้าเก็งกำไรในตลาดหุ้น ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก หลังดัชนีปรับตัวลงปิดช่องว่างขาขึ้น (Filling the gap) ที่ 1,621 – 1,611 จุด ดัชนีตลาดมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับร่วม (1,605 – 1,591 จุด) สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาขึ้นที่ชะลอตัว สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงพักตัวเพื่อปรับฐาน ดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,650 จุด ดัชนีปิดเหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,642 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1,673 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,636 – 1,646 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,619 – 1,611 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv0
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ปรับฐานเพื่อรอสัญญาณบวก แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้น DELTA ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,623.84 จุด ลดลง 9.92 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.4 หมื่นล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 และนักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,621 – 1,611 จุด ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธที่ 14 กันยายน ตลาดปรับตัวลดลงจากความกังวลว่าการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จะบั่นทอนเศรษฐกิจสหรัฐฯ แนวโน้มตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจะทำให้เฟดปรับลดวงเงินเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงประมาณเร็วกว่าที่คาด ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้าน สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาขึ้นที่ชะลอตัว สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับลดลงเข้าหาแนวรับของช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด ดัชนีตลาดมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับร่วม ทำให้ดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,650 จุด ดัชนีปิดเหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,642 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1,673 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,632 – 1,640 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,615 – 1,604 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv0
set มีการย่อ แรงเทขายเพื่อทำกำไร รอข่าวว่า ล้อกดาวต่อหรือไม่ set มีการย่อ แรงเทขายเพื่อทำกำไร รอข่าวว่า ล้อกดาวต่อหรือไม่ ถ้าปลดล้อก อาจยิงยาวไป1700 สลับย่อปรับฐานลดลงโดย noums10
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย พักตัวปิดช่องว่าง 1,621 – 1,611 จุด ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบและปิดที่ 1,633.16 จุด ลดลง 1.59 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.6 หมื่นล้านบาท นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นพักตัวลงปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด ดัชนีตลาดมีทิศทางพักตัวก่อนปรับตัวขึ้นต่อ เนื่องจากการเรียงตัวของเส้น MMA2 เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ที่ 13 กันยายน ปิดตลาดในแดนบวก โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมัน WTI ถีบตัวขึ้นยืนเหนือ 70 ดอลลาร์สรอ./บาร์เรล ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดสแกว่งตัวแคบๆ และเคลื่อนตัวออกด้านข้างในทิศทางปรับตัวลง เข้าหาแนวรับของช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาขึ้นที่ชะลอตัว สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดที่ปรับตัวลงมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,650 จุด ดัชนีปิดเหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,642 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1,673 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,642 – 1,650 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,623 – 1,615 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv2
วิเคราะห์ setวิเคราะห์set ช่วงนี้ตามอินอิเคเตอร์หลัก set จะยุ่ในช่วงขาลง หุ้นส่วนใหญ่จะลงตาม ควรเข้าเก็บในรอบนี้ เพื่อทำกำไรครับลดลง01:40โดย noums10
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ระยะพักตัวเพื่อปรับฐาน แรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,635.35 จุด เพิ่มขึ้น 6.23 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9.2 หมื่นล้านบาท ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 716 ล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,621 – 1,611 จุด ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันศุกร์ที่ 10 กันยายน ตลาดปรับตัวลดลงจากแรงเทขายที่มีออกมา นักลงทุนวิตกกังวลว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น อาจกดดันให้เฟดปรับลดวงเงินที่จะเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณเร็วกว่าที่คาด ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลงทดสอบแนวรับของช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด ระหว่างการซื้อขายดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด แท่งเทียนมีเงาส่วนล่างขนาดยาว สะท้อนถึงแรงซื้อที่กลับเข้ามา สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาขึ้นที่ชะลอตัว สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลง ดัชนีมีแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,602 จุด ควรเข้าซื้อเพิ่มเมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด หรือเมื่อสัญญาณ RSI ปรับลดลงไปที่ 50 – 40 เปอร์เซ็นต์ จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,650 จุด ดัชนีปิดเหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,642 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะจบคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น 2 ที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3 และคลื่น 3) ตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด ในกรณีที่คลื่น 3) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวคลื่น 1) คลื่น 3) จะมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,973 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเพื่อปิดช่องว่างขาขึ้นที่ 1,621 – 1,611 จุด โดยดัชนีตลาดมีเป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1,673 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,646 – 1,653 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,623 – 1,615 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต เนื่องจากดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,620 จุด ตั้งจุดซื้อไว้ที่ 1,621 จุด และเพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,611 – 1,602 จุด #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv0
แนวโน้ม SETมุมมอง พักตัวขาขึ้น เบรคยืน 1640 ซื้อตาม ย่อ มาในกรอบ 1620-1610 ซื้อ สต๊อปลอส ปิดหลุด 1600 พร้อมวอลลุ่ม เพิ่มขึ้นโดย RoninAcvengers2