มีคำถามว่า xau/usd TF4h นับคลื่นแบบ Small x-Wave ได้ไหม คำตอบ นับไม่ได้ครับ เพราะ แม้ว่ารูปแบบ X-wave เป็นการนำคลื่น standard correction มากกว่า 1 ชุดขึ้นไปมาต่อกันโดยการมี X-wave เป็นตัวเชื่อมโดยอิสระทำให้เกิด Non-Standard wave pattern แต่ว่าถึงจะอิสระแต่มี LOGIC Rules กำกับ บทที่ 8 หน้า 3 เรื่อง Complex Correction with Small x-Wave(s)
"When a Non-Standard wave pattern unfolds, the chances are much greater the x-wave will be smaller in price than the previous Corrective phase (less than 61.8%)" This Non-Standard variation will often produce the look of an Impulse pattern, but close attention to detail should rule out that possibility (for details, see Emulation and Missing Waves in Chapter 12).As a reminder, to properly associate a complex X-wave with the previous Correction, make sure the LOGIC Rules are followed for proper integration of market action.
สรุป จาก LOGIC Rules ตัดเรื่อง Small x-Wave ออกไปเพราะ X-wave มีขนาดใหญ่กว่า 61.8% ของ Corrective wave ก่อนหน้าอย่างงั้นเป็น Large X-Wave ได้ไหม Complex Correction With Large X-Wave(s) มีกฏตายตัวที่ว่า Corrective wave ก่อนหน้าจะต้องเป็น Flat เท่านั้น (บทที่ 8 หน้าที่ 11) ดังนั้นจึงไม่ใช่รูปแบบทั้ง Small x-Wave และ Large X-Wave
ไอเดียชุมชน
คำแนะนำ: วิธีโพสต์ไอเดียเจ๋งๆ และรับการไลค์เยอะๆหลักเกณฑ์ทั่วไป:
ในการเผยแพร่แนวคิดที่ยอดเยี่ยมและได้รับการกดไลค์จำนวนมากนั้น ขั้นตอนแรกคือทำให้ไอเดียของคุณปรากฏต่อสาธารณะ ซึ่งหมายความว่าคุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าไอเดียของคุณจะไม่ถูก "ซ่อน" หรือ "ไม่ได้รับการแนะนำ" เนื่องจากละเมิดกฎการใช้งาน
การซ่อนไอเดียหมายถึงอะไร และอะไรคือสาเหตุ?
ผู้ดูแลการใช้งานของ TradingView จะซ่อนแนวคิดที่ละเมิดกฎการใช้งาน กรณีที่พบบ่อยที่สุดคือการที่ผู้เผยแพร่ให้ลิงก์หรือการอ้างอิงไปยังโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์ของตน โดยมุ่งเป้าไปที่การโปรโมตตนเอง
ไอเดียที่ถูกซ่อนจะไม่ปรากฏต่อสาธารณะอีกต่อไป จะมีเพียงคุณและผู้ดูแลการใช้งานของ TradingView เท่านั้นที่มองเห็น ทั้งนี้เนื่องจากคำอธิบายไอเดียนั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทั้งจากคุณหรือทีมงานของ TradingView เอง จึงไม่สามารถแสดงแนวคิดเหล่านี้ได้อีก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับเวลาที่คุณใช้ในการวิเคราะห์และเผยแพร่ใช่ไหม? โปรดอ่านกฎการใช้งานอย่างละเอียดเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
เหตุใดไอเดียของคุณจึงไม่ถูกแนะนำ?
TradingView มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงไอเดียที่นำเสนอการวิเคราะห์ที่ดีเกี่ยวกับแผนภูมิและคำอธิบายที่ดี เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้นเรา "ไม่แนะนำ" ไอเดียที่:
มีชื่อหรือคำอธิบายด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด
มีการวิเคราะห์น้อยมากหรือไม่มีเลยในแผนภูมิ
ขาดคำอธิบาย
มีการเผยแพร่ในไซต์เวอร์ชั่นภาษาอื่นนอกเหนือไปจากไซต์ที่เผยแพร่
ไอเดียที่ "ไม่ได้รับการแนะนำ" จะไม่ปรากฏในหน้าแรกหรือในสตรีมไอเดียยอดนิยม ซึ่งจำกัดการเปิดเผยสู่ผู้ใช้งานอื่นๆ
มันจะปรากฏเฉพาะในสตรีมไอเดียใหม่ล่าสุด, สำหรับผู้ใช้งานที่เข้าเยี่ยมชมโปรไฟล์ของคุณ หรือผู้ที่มีลิงก์โดยตรงไปยังสิ่งที่คุณเผยแพร่เท่านั้น
เรามาดูตัวอย่างของการเผยแพร่ไอเดียที่ดี เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เราจะนำเสนอไอเดียที่ไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีที่สุดสำหรับหมวดหมู่นี้ด้วย
คลิกไอเดียใดๆ เพื่อแสดงรายละเอียดเพิ่มเติม
การวิเคราะห์ทั้งหมด
► ความสมดุล: ชัดเจน, ไม่รก, เป็นมืออาชีพ, ไม่เว่อร์เกินไป
ดี:
จำเป็นต้องมีการปรับปรุง:
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
► มีภาพวาดที่อธิบายแนวคิด เครื่องมือวิเคราะห์อย่างน้อยสองอย่างหรือสองเหตุผล เช่น ระดับแนวรับและรูปแบบแท่งเทียน หรือเส้นแนวโน้มและอินดิเคเตอร์ ฯลฯ ใช้ให้เพียงพอ แต่ไม่มากเกินไป!
ดี:
จำเป็นต้องมีการปรับปรุง:
ไอเดียการซื้อขาย
► มีการระบุ Bias ไว้ในไอเดียและเปิดเผยว่าคุณ Long หรือ Short ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณแจ้งให้ผู้คนทราบว่า จุดออกหรือจุดเข้าของการซื้อขายอยู่ที่ใด และระบุว่าการซื้อขายจะอยู่ได้ยาวนานแค่ไหน
ดี:
จำเป็นต้องมีการปรับปรุง:
การวิเคราะห์พื้นฐาน & คำวิจารณ์ตลาด
► ระบุแนวโน้มทั่วไปและเส้นทางราคาโดยประมาณตามเหตุผลที่เหมาะสม
ดี:
โพสต์เพื่อการศึกษา
► คำอธิบายโดยละเอียดเกี่ยวกับวิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิค, พื้นฐาน,หรือมหภาค
ดี:
การวิเคราะห์ Inter-Market
► ซึ่งรวมถึงการวิเคราะห์ภาพซ้อนทับหรืออัตราส่วน ระบุทิศทางการเคลื่อนพร้อมคำอธิบายที่เพียงพอ
ดี:
การวิเคราะห์ข้อความ
► จะต้องมีประโยชน์และเป็นข้อมูลแก่ชุมชน ตัวอย่างเช่นสื่อการเรียนรู้ คอลัมน์ หรือประสบการณ์ส่วนตัว
ดี:
จำเป็นต้องมีการปรับปรุง:
ต้องการคำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นสำหรับประเภทการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบเฉพาะเจาะจง
รูปแบบฮาร์โมนิค
► ราคาต้องผ่านจุด B เป็นอย่างน้อยในระหว่างทางจากจุด C ไปจุด D หรือต้องมีเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ ที่รองรับมุมมอง ใช้เครื่องมือบิวท์อินของ TradingView เพื่อแสดงอัตราส่วน Fibonacci ลิงค์ที่เป็นประโยชน์: www.harmonictrader.com
ดี:
จำเป็นต้องมีการปรับปรุง:
Double Tops
► รูปแบบที่ไม่ได้ทำจุดสูงสุดที่สองอย่างสมบูรณ์และมุ่งหน้ากลับไปที่เส้น Neckline ไม่ควรมีคุณสมบัติเป็น Double Top เช่นเดียวกันกับกรณีของ Double Bottom
ดี:
จำเป็นต้องมีการปรับปรุง:
Head and Shoulders
► รูปแบบที่ไม่ได้ทำไหล่ขวาอย่างสมบูรณ์และมุ่งหน้ากลับไปที่ Neckline ไม่ควรมีคุณสมบัติเป็น Head and Shoulders เช่นเดียวกันกับกรณีของ Inverse Head and Shoulders
ดี:
จำเป็นต้องมีการปรับปรุง:
การวิเคราะห์อินดิเคเตอร์เท่านั้น
จำเป็นต้องมีการปรับปรุง:
Elliott Wave
► ควรสอดคล้องกับกฎที่สามารถพบได้ใน www.elliottwave.com นี่เป็นแหล่งข้อมูลที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด
ดี - ชัดเจนและมี Trade Setup ที่ใช้สำหรับดำเนินการได้:
จำเป็นต้องมีการปรับปรุง - รก:
การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะให้ไอเดียที่ดีขึ้นและนำไปใช้ได้จริงสำหรับผู้เข้าชมใน TradingView เท่านั้น แต่ยังเพิ่มโอกาสที่ไอเดียของคุณจะได้รับเลือกเข้าสู่ไอเดีย คัดสรรโดยบรรณาธิการ ของเราอีกด้วย
เราหวังว่าคู่มือนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณ โปรดแจ้งให้เราทราบว่าคุณคิดอย่างไรในความคิดเห็นด้านล่าง
วิธีใช้เครื่องมือวาดภาพใหม่ Fixed Range Volume ProfileVolume Profiles นั้นมีประโยชน์ในการทำความเข้าใจอุปสงค์, อุปทาน และสภาพคล่องโดยรวม เครื่องมือวอลุ่มโปรไฟล์ทำให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มของปริมาณการซื้อขายในระดับราคาและช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจงได้ เครื่องมือวาดภาพใหม่ของเราที่เรียกว่า Fixed Range Volume Profile ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ทุกคนสามารถศึกษาแนวโน้มของวอลุ่มบนแผนภูมิของตนได้
นี่คือวิธีที่คุณสามารถเริ่มใช้เครื่องมือวาดภาพใหม่ Fixed Range Volume Profile:
1. ไปที่ด้านซ้ายของแผนภูมิของคุณแล้วคลิกเครื่องมือคาดการณ์และการวัด นี่คือที่เดียวกับที่คุณสามารถค้นหาช่วงราคาหรือเครื่องมือ Long / Short
2. เลื่อนลงไปและเลือก Fixed Range Volume Profile
3. เมื่อคุณเลือกเครื่องมือแล้วให้ค้นหาและคลิกลงบนพื้นที่ของแผนภูมิที่คุณต้องการศึกษา คลิกจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด ในตัวอย่างนี้เรากำลังแสดง Fixed Range Volume Profile สำหรับ BTCUSD จากจุดสูงสุดตลอดกาลจนถึงวันนี้
การทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการอ่าน Fixed Range Volume Profile เป็นสิ่งสำคัญ เมื่อคุณวาด Fixed Range Volume Profile ครั้งแรกของคุณคุณจะเห็นสิ่งต่อไปนี้:
• เส้นสีแดง = จุดควบคุมหรือระดับราคาที่มีปริมาณมากที่สุด
• แถวสีเหลืองและสีน้ำเงิน = ปริมาณที่เพิ่มขึ้นและลดลงสำหรับแต่ละระดับราคา
• พื้นที่แรเงาสีน้ำเงิน = พื้นที่ที่เลือก volume profile ที่กำลังแสดงผลอยู่
โปรดทราบว่าคุณสามารถปรับการตั้งค่าของ Fixed Range Volume Profile ได้ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์, ความรู้สึก และการคำนวณได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเพิ่มจุดควบคุมที่กำลังพัฒนา, ปรับสีของพื้นที่แรเงาและเปลี่ยนขนาดของแถวโวลุ่ม ความเป็นไปได้นั้นไม่มีที่สิ้นสุดและขึ้นอยู่กับคุณที่จะสร้างรูปลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับ Fixed Range Volume Profile ของคุณเอง
เราหวังว่าคุณจะสนุกกับเครื่องมือวาดภาพใหม่นี้ และเราหวังว่าจะได้เห็นวิธีการใช้งานของคุณ เราอยู่ในภารกิจที่จะช่วยเหลือนักลงทุนและเทรดเดอร์ให้ได้มากที่สุด และเราเชื่อว่าเครื่องมือเช่นนี้สามารถทำได้ มันสามารถใช้งานได้ฟรีและเปิดให้ใช้งานสำหรับทุกคน
หากคุณมีคำถามหรือข้อเสนอแนะโปรดเขียนไว้ในความคิดเห็นด้านล่าง หากคุณยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือนี้เราขอแนะนำให้คุณทดลองมันทันทีและเริ่มการทดลอง วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการเรียนรู้ คือลองใช้เครื่องมือนั้นด้วยตัวคุณเอง
6 คีย์ลัดสำหรับการแชร์ จดบันทึก และใช้งานชาร์ตให้รวดเร็วขึ้นวันนี้เราต้องการแสดง 6 คีย์ลัดที่สามารถปรับปรุงวิธีการดูราคา, แบ่งปันไอเดีย, และติดตามความคืบหน้าของคุณ ในการเริ่มต้นนั้นให้คุณเปิดแผนภูมิและลองใช้ชุดแป้นพิมพ์ต่อไปนี้:
Alt + S = บันทึกภาพแผนภูมิของคุณ
Alt + W = เพิ่มสัญลักษณ์ในรายการเฝ้าดูของคุณ
Alt + L = เปิดแผนภูมิแบบล็อก
Alt + P = เปิดแผนภูมิแบบ %
Alt + G = ไปยังวันที่ที่แน่นอนใดๆ บนแผนภูมิ
Alt + N = เริ่มการจดโน้ตใหม่
หากคุณใช้ Mac ให้ใช้ปุ่มตัวเลือก ⌥:
⌥ + S = บันทึกภาพแผนภูมิของคุณ
⌥ + W = เพิ่มสัญลักษณ์ในรายการเฝ้าดูของคุณ
⌥ + L = เปิดแผนภูมิแบบล็อก
⌥ + P = เปิดแผนภูมิแบบ %
⌥ + G = ไปยังวันที่ที่แน่นอนใดๆ บนแผนภูมิ
⌥ + N = เริ่มการจดโน้ตใหม่
มาดูกันว่าเพราะเหตุใดคีย์ลัดเหล่านี้จึงมีความสำคัญ และคุณจะใช้มันได้อย่างไร Alt + S คือวิธีที่คุณบันทึกภาพรวมของแผนภูมิที่คุณกำลังดูได้อย่างทันที ทำให้ง่ายต่อการแบ่งปันแผนภูมิกับเพื่อน, ห้องสนทนาหรือที่อื่น ๆ บนโซเชียลมีเดีย
Alt + L คือวิธีที่คุณสลับไปใช้แผนภูมิแบบล็อกและ Alt + P คือวิธีที่คุณสลับไปใช้แผนภูมิแบบเปอร์เซ็นต์ความเปลี่ยนแปลง เมื่อทำการวิเคราะห์ชาร์ต แป้นพิมพ์ลัดทั้งสองนี้สามารถให้มุมมองทางเลือกในการทดสอบสมมติฐานของคุณได้ ตัวอย่างเช่น เป็นจำนวนมาก/น้อยเท่าใดที่สัญลักษณ์เฉพาะใดๆ เคลื่อนที่ขึ้นหรือลงในช่วงเวลาหนึ่ง ให้ใช้ Alt + P สำหรับสิ่งนั้น ในทางกลับกันแผนภูมิแบบลอการิทึมจะปรับแกน y (ราคา) เพื่อสะท้อนการเปลี่ยนแปลงจากราคาหนึ่งไปยังอีกราคาหนึ่งแทนที่จะเว้นระยะเท่าๆ กัน ให้ใช้ Alt + L สำหรับสิ่งนั้น
สุดท้ายนี้เรามาพูดถึง Alt + N นั่นคือวิธีที่คุณเปิดโน้ตใหม่ คุณสามารถใช้การจดโน๊ตบน TradingView เป็นบันทึกการซื้อขายได้ ระดมความคิด, เขียนความคิดของคุณ และบันทึกแผนจากบันทึกข้อความของคุณได้โดยตรง สิ่งนี้สำคัญมากสำหรับการสร้างกระบวนการในระยะยาวและสะท้อนแนวคิดของคุณในฐานะเทรดเดอร์หรือนักลงทุน
ขอขอบคุณที่อ่าน และเราหวังว่าคีย์ลัดเหล่านี้จะช่วยท่านได้ หากคุณมีคำถามหรือความคิดเห็นโปรดเขียนไว้ด้านล่างในช่องความคิดเห็น นอกจากนี้เรายังได้เชื่อมโยงแนวคิดอื่นๆ ด้านล่างที่เจาะลึกไปยังคีย์ลัดเพิ่มเติมที่คุณสามารถตรวจสอบและเรียนรู้
ช็อตคัต! วิเคราะห์, สร้าง, และศึกษาแผนภูมิได้รวดเร็วขึ้นช็อตคัต ช่วยให้คุณประหยัดเวลาและสร้างแผนภูมิได้รวดเร็วขึ้น, ง่ายขึ้น, และคล่องแคล่วมากขึ้น แทนที่จะใช้การคลิกลงบนแต่ละเครื่องมือในแต่ละครั้ง คุณสามารถใช้ช็อตคัตเพื่อเร่งกระบวนการทำงานได้ ในชาร์ตเราได้ยกเอารายการยอดนิยมหลายรายการ ได้แก่:
Alt + T = เส้นแนวโน้ม
Alt + F = Fib Retracement
Alt + H = เส้นแนวนอน
Alt + V = เส้นแนวตั้ง
Alt + C = เส้นตัด
Alt + A = เพิ่มการแจ้งเตือน
Alt + S = แคปหน้าจอชาร์ต
Alt + I = กลับด้านชาร์ต
Alt + P = ชาร์ตเปอร์เซ็นต์
Alt + L = ชาร์ตแบบล็อก
ถ้าคุณใช้เครื่องแมค, กดปุ่ม option ⌥ แทนปุ่ม Alt:
⌥ + T = เส้นแนวโน้ม
⌥ + F = Fib retracement
⌥ + H = เส้นแนวนอน
⌥ + V = เส้นแนวตั้ง
⌥ + C = เส้นตัด
⌥ + A = เพิ่มการแจ้งเตือน
⌥ + S = แคปหน้าจอชาร์ต
⌥ + I = กลับด้านชาร์ต
⌥ + P = ชาร์ตแบบเปอร์เซ็นต์
⌥ + L = ชาร์ตแบบล็อก
สำหรับคำแนะนำที่สมบูรณ์เกี่ยวกับช็อตคัตที่มีให้สำหรับคุณโปรดไปที่ คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ของเราที่นี่ ตัวอย่างเช่น กด Space bar เพื่อดูแต่ละแผนภูมิในรายการเฝ้าดูของคุณ หรือลบวัตถุด้วยล้อเลื่อนของเมาส์โดยวางเคอร์เซอร์ไว้เหนือรูปวาดหรืออินดิเคเตอร์จากนั้นคลิกที่ล้อเลื่อนของเมาส์ เปิดเมนูอินดิเคเตอร์เพียงแค่กด "/" บนแป้นพิมพ์ของคุณ และเปลี่ยนกรอบเวลาของชาร์ตเพียงแค่พิมพ์ตัวเลขใด ๆ ลงในแป้นพิมพ์โดยตรง
เราหวังว่าคุณจะสนุกกับช็อตคัตเหล่านี้ และหากคุณคิดว่าเราควรสร้างช็อตคัตที่จะช่วยในการเทรดหรือการลงทุนของคุณ โปรดเขียนมันไว้ในส่วนความคิดเห็นด้านล่างนี้ เราอาจสร้างมันให้คุณ! ขอขอบคุณที่เป็นสมาชิกของ TradingView
เมื่อ Bitcoin ย่อในช่วงขาขึ้น... มันจะย่อประมาณกี่เปอร์เซ็น?เมื่อ Bitcoin ย่อในช่วงขาขึ้น... มันจะย่อประมาณกี่เปอร์เซ็น?
ไม่มีกราฟไหนขึ้นไปได้อย่างเดียว ยังไงก็ต้องมีการย่อ พักฐาน หรือภาษาอังกฤษ เรียกว่าการ "Correction"
ทีนี้ Bitcoin เอง ผมว่า ก็น่าจะใกล้เกิดการพักฐานอยู่รอมร่อแล้วล่ะ แต่ปัญหาคือ มันจะไปพักเมื่อไหร่ ที่ราคาไหน ก็ไม่มีใครรู้หรอก
รู้แต่เพียงว่า แถวๆ นี้ เราต้องระวังตัวกัน และอย่าประมาทไปตามกระแส FOMO เด็ดขาด เพราะ ถ้าเราประมาท + overtrade + ไล่ราคา
เวลามันพักฐานลึกๆ ที คุณก็หมดตัว ได้ง่ายๆ แบบไม่ทันตั้งตัวได้เลย
อ่ะ ทีนี้ เราลองมาดูกันว่า ในอดีต ที่ผ่านมา ในช่วง "ขาขึ้น" Bitcoin เคยย่อลงไปแรงสุดเท่าไหร่
โดยผมจะค่อยๆ ไล่ไปทีละจุด ที่ผมเห็นเป็นการย่อแบบ เห็นในกราฟชัดๆ ล่ะกันนะครับ
เริ่มจากล่าสุด ไปไกลที่สุด
ส.ค. - ก.ย. 2020 Correction
-----------------
High : 12476
Low : 9800
ย่อประมาณ -21%
มิ.ย. - ก.ค. 2020 Correction
-----------------
High : 10433
Low : 8800
ย่อประมาณ -15%
Covid Dump : มี.ค. 2020 Correction
-----------------
High : 10481
Low : 3866
ย่อประมาณ -64%
มิ.ย.-ธ.ค. 2019 Correction ยาว 6 เดือน หลังจากขึ้นรอบใหญ่ + Max Fomo
-----------------
High : 13893
Low : 6429
ย่อประมาณ -53%
พ.ค.-มิ.ย. 2019 Flash Correction มีสองรอบ
-----------------
High : 8391
Low : 6179
ย่อประมาณ -26%
-----------------
High : 9079
Low : 7446
ย่อประมาณ -18%
ปี 2018 ผมไม่นับ เพราะมันเป็น downtrend
--------------
2016-2017 Bull run
--------------
ธ.ค. 2017 -- 20k Flash Crash
-----------------
High : 19667
Low : 11132
ย่อประมาณ -43%
พ.ย. 2017 : พักฐานขำๆ
-----------------
High : 7888
Low : 5538
ย่อประมาณ -30%
ก.ย. 2017 : ลงเพราะข่าวจีน
-----------------
High : 4982
Low : 2972
ย่อประมาณ -40%
มิ.ย. 2017 : พักฐานยาว
----------------
High : 2989
Low : 1828
ย่อประมาณ -40%
มี.ค. 2017 : พักอีกละ
----------------
High : 1300
Low : 891
ย่อประมาณ -30%
ม.ค. 2017
----------------
High : 1140
Low : 751
ย่อประมาณ -34%
ก.ค.-ส.ค. 2016
----------------
รอบนี้มีย่อสองรอบ รอบละประมาณ -30%
พ.ย. 15- ม.ค. 16
------------------
มีย่อสองรอบ รอบละ -40% กับ -25%
---------------
สรุป
---------------
* สรุปได้ว่า ทุกการขึ้นที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นตลาดกระทิงแบบไหน BTC ก็มักจะมีการย่อประมาณ -20% ถึง -40% แล้วก็ไปต่อ ( ยกเว้นจะจบรอบขาขึ้นและเปลี่ยนเป็นขาลง )
* ดังนั้น คนที่เล่นแบบ Leverage ก็ไม่ควรเล่นเกิน 2x เพราะว่า การย่อที่แรงที่สุด คือประมาณ -40% แต่.. เราก็อาจจะเจอเหตุการณ์ black swan ย่อลึกก็อาจจะเป็นได้ ( เล่น 2x เจอ -40% ก็ -80% ไปแล้ว นั่งไม่ติดหรอก ) สรุปได้ว่า ก็ไม่ควรเล่นแบบ leverage ด้วยเงินก้อนใหญ่อยู่ดี 555 ควรเล่นแบบ Spot เท่านั้น เพราะจะทนการแกว่งได้
* คนที่ Take Profit ออกมานั่งข้างสนามถือเงินสดแล้ว ให้วางแผน ช้อนซื้อ แถวๆ โซน -20% ถึง -40% เป็นต้นไป โอกาสที่จะได้ของราคาถูกก็มีสูง ( อาจจะแบ่งไม้ไว้ช้อน กี่% ของพอร์ตก็ว่าไป )
* รอบนี้ ตอนเขียน ราคาอยู่ประมาณ 16700 ดังนั้น จุดที่น่าสนใจจะมีดังนี้
-20% = 13,360 * โอกาสเป็นไปได้สูง คือการ Retest แนวต้านแกร่งๆ ที่ทะลุขึ้นมา
-25% = 12,525 * โอกาสเป็นไปได้สูง คือการ Retest แนวต้านแกร่งๆ ที่ทะลุขึ้นมา
-30% = 11,690
-35% = 10,855
-40% = 10,200 * แนวรับสุดท้าย ที่คิดว่า ยังไงก็คงไม่หลุดลงไปจากนี้อีกแล้วล่ะ
-45% = 9,185
ถ้าราคาวิ่งไปต่อ ก็ค่อยไปคำนวณใหม่
* ก็ลองวางแผนกันดูนะครับ สิ่งที่สำคัญ ในการเทรดก็คือ อย่าประมาท และอย่าไปไล่ราคา รวมถึงการตั้งสติ ควบคุมความโลภ และกำหนดแผนขึ้นมาให้ได้ ระหว่างที่ทุกคนกำลัง FOMO กันอยู่
* รอบนี้ ผมเฉยๆ เพราะผมก็ไม่ได้มือว่างหมด ผมก็ยังมีของติดไม้ติดมือไว้อยู่ด้วย ราคาขึ้นต่อ ผมก็สบายๆ ยังไงพอร์ตก็โตขึ้น แต่ถ้ามันลง ผมก็มีเงินสด ไว้รอเข้าเพิ่มได้ ในจุดที่ได้เปรียบ ครับ
[CPALL] หุ้นโคตร Defensive ณ ราคาดัชนี 1200 จุด ดีไหม มาดููกันสำหรับ CPALL ผมมองว่าตอนนี้หุ้นตัวนี้เริ่มมี Valuation ที่น่าสนใจไม่เลวเลย
จากการที่ธุรกิจของเขานั้น ล้อตามตัว C ในสมการของ GDP (GDP = "C" +I+G+X-M)
ซึ่งตัว C ที่ว่าก็คือกำลังซื้อของผู้บริโภคนั่นเองครับ กล่างคือ หากว่ากำลังซื้อของคนกลับมาหุ้นตัวนี้ก็อาจได้รับอานิสงฆ์นั้นก็เป็นได้เลย
สำหรับหุ้นตัวนี้ที่อาจมีการเติบโตอื่นๆ เข้ามา จากการมีฐานทุนที่ใหญ่ขึ้น ก็ไม่เลวเลยที่เราจะมาลองทำการบ้านสำหรับตัวนี้ดูกันครับ รายละเอียดเป็นอย่างไร มารับชมกันครับ
PS. รายละเอียดนอกคลิป สำหรับ CPALL หุ้นตัวนี้ มี ROE หรืออัตราการทำกำไรต่อผู้ถือหุ้นอยู่ที่ราวๆ 20%++ ซึ่งนับว่าสูงมาก เมื่อเทียบกับ ROE ของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะมีค่าอยู่ที่ราวๆ 9-11% เท่านั้น แล้วแต่ราคาน้ำมัน (ว่ากันมาตรง ตลาดบ้านเราพึ่งพิงอุตสาหกรรมเก่า อย่างน้ำมันมาก ถึงมากเลยครับ)
ซึ่งการมีระดับ ROE เท่านี้ เราเลยไม่แปลกใจเลยที่เขาให้มูลค่าเทรดที่ Market Cap. เหนือกว่า Asset ของบริษัทเสียอีก เราอาจมองได้ว่า หุ้นตัวนี้ถูกหวังกับการเติบโตในอนาคตก็ไม่ผิดเลยครับ
ซึ่งตรงส่วนนี้เราอาจจะเอาจุดที่ Market Cap <= Total Asset เป็นจุด Stop Loss คงอาจจะดูโหดร้ายไป (คนไม่เห็นอนาคต หมดฝันแล้ว)
ดังนั้นแล้วตรงส่วนนี้ท่านอาจจะใช้จุดซื้อแบบ Technical ในการเข้าซื้อก็ได้ครับ แล้วก็เอาไปบอกลูกหลานท่านว่าท่านเป็นเจ้าของ 7-11 คงคูลไม่น้อยเลย ฮาา
ปล. ทั้งหมดก็มีราวๆ นี้นะครับ หากมีอะไรเพิ่มเติมผมจะมาแจ้งครับ ยาวหน่อย แต่ถ้าคุณชอบ ผมก็ดีใจนะ
วิธีติดตามผลกำไรสุทธิและรับทราบเมื่อบริษัทรายงานฤดูกาลแห่งการประกาศผลกำไรกำลังดำเนินไปอยู่และ บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกบางบริษัทจะมีประกาศรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ Apple, Microsoft, Amazon, Visa และ Shopify ด้วยเหตุนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะเตือนทุกคนว่าการติดตามประกาศผลกำไรนั้นง่ายเพียงใด หากคุณเป็นเทรดเดอร์หรือนักลงทุนคุณไม่อยากติดกับโดยรายงานที่คุณไม่รู้ คุณต้องเตรียมพร้อมและคู่มือนี้จะแสดงวิธีการให้ดูว่าต้องทำอย่างไร
ปฏิทินรายได้ของ TradingView ( ลิงค์ ) แสดงบริษัทที่กำหนดรายงานในวันนี้, พรุ่งนี้, สัปดาห์นี้ และสัปดาห์หน้า คุณยังสามารถจัดเรียงรายงานแต่ละรายงานตามวันที่หรือปัจจัยพื้นฐานเช่น Market Cap, การคาดการณ์รายได้ และ EPS Surprise ปฏิทินรายได้เป็นวิธีที่เร็วที่สุดวิธีหนึ่งในการดูว่าบริษัทไหนรายงานรายได้และเมื่อใด
เคล็ดลับ: บุ๊กมาร์กปฏิทินรายได้ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้มันหายไป - ( ลิงค์ )
เครื่องมือที่มีประโยชน์อีกอย่างหนึ่งสำหรับการติดตามรายงานบริษัท คือการตรวจสอบให้แน่ใจว่าไอคอนรายได้ (E) แสดงบนชาร์ตของคุณ คุณสามารถทำได้โดยไปที่การตั้งค่าชาร์ตของคุณ เลือกเหตุการณ์ จากนั้นเลือกช่องที่ระบุว่า "แสดงรายได้บนชาร์ต" ชาร์ตในตัวอย่างนี้คือ Apple และไอคอน E แต่ละไอคอนแสดงรายงานประจำไตรมาส นอกจากนี้คุณสามารถวางเมาส์เหนือไอคอน E แล้วคลิกเพื่อดูว่าบริษัททำได้ตามเป้าหรือไม่ถึงเป้าหมายในรายงานเหล่านั้น
เคล็ดลับ: สร้างการแจ้งเตือนสำหรับรายงานรายได้ ที่ส่งก่อน, ระหว่าง หรือหลังรายงานรายได้ เพียงเปิดตัวจัดการการแจ้งเตือนและเริ่มสร้างการแจ้งเตือนใหม่
แม้ว่าตัวเลขกำไรบรรทัดแรกและตัวเลขบรรทัดสุดท้ายจะมีความสำคัญ แต่ก็มักจะไม่บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด มีสิ่งอื่นๆ ที่ควรพิจารณา เช่นคำแนะนำ, ความเห็นด้านการบริหารจัดการ และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เมื่อบริษัทรายงานผลประกอบการ การติดตามข่าวสารของบริษัท นั้นๆ อาจเป็นประโยชน์ คุณสามารถทำได้โดยคลิกไอคอนหนังสือพิมพ์ที่เมนูด้านขวา นี่คือวิธีที่คุณเข้าถึงข่าวด่วนก่อนและหลังรายงานของบริษัท เพื่อรับข้อมูลเชิงลึกและข้อมูลเพิ่มเติม
คำแนะนำสุดท้าย คือหน้า รายได้ ใหม่ของเราโดยเฉพาะ ที่นี่คุณสามารถค้นหาไอเดียที่เผยแพร่และติดแท็กโดยเทรดเดอร์และนักลงทุนท่านอื่นๅ ที่เน้นเหตุการณ์ตลาดที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับรายได้ คุณสามารถใช้หน้านี้เพื่อค้นหาไอเดีย, ผู้เขียน, สคริปต์ และแนวคิดด้านการศึกษาใหม่ๆ ที่ถูกแท็กเป็นไอเดียที่เกี่ยวข้องกับรายได้
ขอขอบคุณที่อ่าน และเราหวังว่าสิ่งนี้จะช่วยให้คุณรับทราบข้อมูลมากขึ้นเมื่อฤดูกาลแห่งการรายงานรายได้เริ่มขึ้น รวมถึงรายงานของบริษัทอื่นๆ หากท่านมีคำถามหรือข้อเสนอแนะโปรดเขียนไว้ในความคิดเห็นด้านล่าง ขอบคุณที่เป็นสมาชิกของ TradingView!
วิธีสร้างชาร์ตด้วยสีพื้นหลังแบบไล่ระดับสีเมื่อเร็ว ๆ นี้เราได้พัฒนาชาร์ตของเราให้สามารถมีสีพื้นหลังที่ไล่ระดับสีได้ นั่นหมายความว่าคุณสามารถใช้สองสีพร้อมกันเพื่อสร้างแผนภูมิที่ดูดีและไม่เหมือนใครของคุณเองได้ ในตัวอย่างนี้เราได้สีน้ำเงินอ่อนกับสีขาวเพื่อสร้างพื้นหลังที่ดูสบายตา
ในการเริ่มต้น ให้ทำตามขั้นตอนง่ายๆเหล่านี้:
ขั้นตอนที่ 1 - เปิดการตั้งค่าชาร์ตของคุณ
ขั้นตอนที่ 2 - ในหน้าต่างการตั้งค่า คลิกแถบการแสดงผล
ขั้นตอนที่ 3 - เปลี่ยนการตั้งค่าสีพื้นหลังเป็น การไล่ระดับสี
ขั้นตอนที่ 4 - เลือก 2 สีที่ต้องการ
ชาร์ตในตัวอย่างนี้แสดงราคาของ Apple ตั้งแต่ IPO โดยใช้แท่งเทียนรายเดือน แท่งเทียนแต่ละแท่งจะแสดงการซื้อขายหนึ่งเดือนเต็ม เราตัดสินใจใช้ Apple เพราะ 9 ปีที่แล้ววันนี้ สตีฟ จ็อบส์ จากไป Apple ทำหลายอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีและโดยเฉพาะอย่างยิ่งศิลปะของการลงทุนในระยะยาว เมื่อดูที่ชาร์ตนี้คุณสามารถเรียนรู้ประวัติราคาทั้งหมดของ Apple ย้อนกลับไปในการเสนอขายหุ้นในปี 1980 รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และกิจกรรมทางการเงิน นอกจากนี้ยังแสดงบนพื้นหลังชาร์ตแบบไล่ระดับสีใหม่ของเรา
ขอขอบคุณที่อ่าน และเราหวังว่าท่านจะสนุกกับฟีเจอร์ใหม่ของการไล่ระดับสีของชาร์ตนี้! กรุณาฝากคำถามหรือความคิดเห็นไว้ด้านล่าง ทีมงานของเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อติดตามและช่วยเหลือท่าน
จะค้นหารูปแบบแท่งเทียนบนชาร์ตของคุณอย่างทันทีได้อย่างไรเราสร้างชาร์ตนี้ของหุ้น Apple เพื่อแสดงการอัปเดตที่เราทำกับรูปแบบแท่งเทียน ซึ่งเป็นวิธีใหม่ในการระบุรูปแบบแท่งเทียนที่เฉพาะเจาะจงโดยอัตโนมัติ ทำได้ง่ายและรวดเร็ว เพียงคลิกเดียวสามารถตรวจจับรูปแบบแท่งเทียนได้เกือบทุกรูปแบบตั้งแต่แท่งเทียน Bearish Engulfing ไปจนถึง Shooting Star Top
ในการเริ่มต้นให้เปิดเมนูอินดิเคเตอร์และกลยุทธ์ จากนั้นคลิกแท็บรูปแบบแท่งเทียน จากนั้นเลือกรูปแบบที่คุณต้องการใช้ หากตรวจพบรูปแบบแท่งเทียนโดยอัตโนมัติป้ายกำกับพิเศษจะปรากฏบนชาร์ต: สีน้ำเงินสำหรับ Bullish, สีแดงสำหรับ Bearish หรือสีเทาสำหรับทั้งสัญญาณ Bullish และ Bearish วางเมาส์เหนือป้ายกำกับเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบแท่งเทียนแบบเฉพาะเจาะจง
แผนภูมิที่เราสร้างในตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นหุ้น Apple ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน มันแสดงให้เห็นแท่งเทียน Bearish Engulfing และ Doji แต่ละอันที่แสดงด้วยป้ายกำกับสีแดงและสีเทา หุ้น Apple เพิ่มขึ้นมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเกิดเทียน Bearish Engulfing ขนาดใหญ่ เราได้ไฮไลต์พื้นที่นั้นบนแผนภูมิด้วยลูกศร หุ้น Apple ปรับตัวลดลงประมาณ 15% นับตั้งแต่แท่งเทียนก่อตัวขึ้น และอาจเป็นสัญญาณขาลง โดยความเชื่อมั่นและการเคลื่อนไหวของราคาจะเปลี่ยนเป็นขาลงในพริบตา อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือไม่ใช่แท่งเทียน Bearish Engulfing ทุกแท่งที่นำไปสู่การเทขายในระยะยาว ในความเป็นจริง ในอีกสามครั้งถัดมา หุ้น Apple ไม่มีผลกระทบจากรูปแบบแท่งเทียนเหล่านี้ ครั้งนี้จะแตกต่างกันไหม? เวลาจะบอกเอง
นอกจากนี้เรายังสามารถติดตามหุ้น Apple และผลกระทบของแท่งเทียนนี้เมื่อเวลาผ่านไปได้โดยการสร้างการแจ้งเตือน ใช้แล้ว - รูปแบบแท่งเทียนของเราทำงานร่วมกับระบบแจ้งเตือน ดังนั้นหากคุณต้องการรับการแจ้งเตือนทุกครั้งที่รูปแบบแท่งเทียนปรากฏบนชาร์ตคุณสามารถสร้างการแจ้งเตือนสำหรับสิ่งนั้นและส่งไปยังโทรศัพท์, คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปหรืออีเมลของคุณได้
เรารับฟังและรอคอยเสียงตอบรับและฟีดแบคของท่านเสมอ และเริ่มจากวันนี้ไป เราได้เพิ่มอินดิเคเตอร์ใหม่ 17 รายการไปยังเมนูรูปแบบแท่งเทียน:
• Dark Cloud Cover และ Piercing;
• Morning Doji Star และ Evening Doji Star;
• Harami Cross ( Bearish และ Bullish );
• Tweezer Bottom และ Tweezer Top;
• Rising Three Methods และ Falling Three Methods;
• Rising Window และ Falling Window;
• On Neck;
• Upside Tasuki Gap และ Downside Tasuki Gap;
• Doji Star ( Bullish และ Bearish )
อินดิเคเตอร์ทั้งหมดนี้ถูกเขียนขึ้นด้วยไพน์ ภาษาโปรแกรมอย่างเป็นทางการของเรา ถ้าท่านต้องการเข้าใจอัลกอริธึมของเราให้ดีมากยิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งปรับตั้งค่าหรือปรับแต่งมันด้วยตัวท่านเอง ให้ไปที่ ซอร์สโค้ดของอินดิเคเตอร์และแก้ไขมันจากที่นั่นได้เลย
เราหวังว่าท่านจะเพลิดเพลินไปกับ การสอนการใช้งานรูปแบบแท่งเทียนนี้ ถ้าท่านมีคำถามหรือความคิดเห็น ส่งข้อความของท่านไว้ด้านล่างนี้ ถ้าท่านชอบโพสต์นี้ กรุณากดไลค์ให้เรา
EURUSD และ Tesla สินทรัพย์ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลกEURUSD เป็นสัญลักษณ์ที่มีการค้นหามากที่สุดประจำเดือนกรกฎาคม ครองตำแหน่งสูงสุดใน 140 ประเทศทั่วโลก มากกว่าคู่แข่งที่ใกล้เคียงที่สุดอย่าง Tesla (17) ถึง 8 เท่า ตามมาด้วย GBPUSD (14) และ BTCUSD (13)
แน่นอนว่ามีความแตกต่างไปในบางประเทศ: เช่น สินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของรัสเซีย คือ Sberbank, บราซิล คือ ดัชนี Ibovespa และ ดัชนี Nifty 50 สำหรับอินเดีย
ตามที่เราได้เคยกล่าวไว้ในโพสต์ล่าสุด Tesla เป็นที่นิยมในอเมริกา (โดยมี Bitcoin ตามมาไม่ห่าง) แต่มันก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ายังได้รับความนิยมอย่างไม่น่าเชื่อในแคนาดา, นิวซีแลนด์,สแกนดิเนเวีย, ซาอุดีอาระเบีย และแม้กระทั่งกรีนแลนด์ ในขณะเดียวกัน Apple เป็นสัญลักษณ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในไต้หวันเท่านั้น
บางทีสิ่งที่น่าสนใจที่สุดก็คือ ข้อมูลของเรานั้นอาจชี้ชัดได้เพียงเล็กน้อย (อย่างที่คุณอาจจะจินตนาการได้ว่า ปริมาณการค้นหาอยู่ในระดับต่ำ) ตลาดที่เป็นที่นิยมและได้รับความสนใจมากที่สุด กับสถานที่นั้นมีความสัมพันธ์กับการเทรดเพียงเล็กน้อย ดังเช่น:
เกาหลีเหนือ: BTCUSD
นครวาติกัน: TRGP
ชาด: USDJPY
แอนตาร์กติกา: TSLA
และดังเช่นเคย ขอบคุณที่อ่านและเป็นส่วนหนึ่งของ TradingView ถ้าท่านมีคำถาม ข้อสงสัย โปรดฝากคอมเมนท์ไว้ด้านล่าง
สร้างชาร์ตหุ้นรายตัวจากข้อมูลพื้นฐานคุณสามารถสร้างชาร์ตด้วยข้อมูลพื้นฐานและวิเคราะห์ได้ในระดับเดียวกับกับชาร์ตอื่นๆ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มเส้นแนวโน้ม, เรนจ์, ลูกศร และข้อความต่างๆ สำหรับนักลงทุนระยะยาวหรือท่านที่ต้องการลงลึกลงไปในข้อมูลของแต่ละบริษัท นี่อาจเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพที่สามารถเพิ่มเข้าไปในกระบวนการของคุณได้
เริ่มต้นได้ง่ายๆ สิ่งแรกที่คุณควรทำคือเปิดชาร์ตของบริษัทที่ท่านสนใจศึกษาข้อมูล พิมพ์ชื่อหรือสัญลักษณ์ตัวย่อของบริษัทในช่องค้นหา จากนั้น คลิกที่ปุ่ม "การเงิน" หรือไอคอนที่ดูคล้ายรูปกราฟแท่ง 📊 ที่อยู่บริเวณด้านบนของชาร์ต จากนั้นเลือกข้อมูล/มุมมองทางด้านการเงินที่คุณต้องการศึกษา
ตอนนี้คุณมีข้อมูล/มุมมองทางด้านการเงินของบริษัทที่คุณสนใจแล้ว คุณสามารถเริ่มวาดภาพทางเทคนิคอลด้วยเครื่องมือวาดภาพและทำการวิเคราะห์สถานะทางการเงินของบริษัทได้ในแบบเดียวกันกับชาร์ตแบบปกติ ในตัวอย่างนี้ เราแสดงชาร์ตอัตราส่วน Price-to-Sales ของบริษัท Microsoft อัตราส่วนนี้แสดงและบ่งบอกว่า นักลงทุนต้องจ่ายเงินจำนวนเท่าไรสำหรับรายได้ 1$ ของบริษัท Microsoft ดังนั้นถ้าอัตราส่วน PS คือ 30 นั่นหมายถึงว่านักลงทุนต้องจ่ายเงิน $30 สำหรับรายได้ทุกๆ 1$ ของไมโครซอฟท์ ในชาร์ตนี้ เราทำการเพิ่มข้อความและไฮไลท์ช่วงเวลาที่น่าสนใจในประวัติศาสตร์ในด้านมูลค่าของบริษัท Microsoft แล้วท่านเห็นอะไรบ้าง?
เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะมีความสุขกับโพสต์นี้ และมั่นใจว่ามันจะช่วยท่านในการใช้งานการวิเคราะห์ในด้านข้อมูลพื้นฐานได้ นอกจากนี้ สำหรับท่านที่ต้องการใช้งานในระดับสูง คุณสามารถใช้ข้อมูลพื้นฐานได้ในไพน์สคริปต์เช่นเดียวกัน
ขอบคุณที่เป็นส่วนหนึ่งของ TradingView และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะสนุกสนานไปกับฟังก์ชันการวิเคราะห์ในเชิงพื้นฐานของเรา
จะกลับด้านชาร์ตของคุณได้อย่างไรกดปุ่ม ALT + I เพื่อกลับด้านชาร์ตของคุณ และถ้าคุณใช้เครื่อง Mac กดปุ่ม option ⌥ + I คีย์ลัดจะกลับด้านชาร์ตที่คุณกำลังดูอยู่จากบนลงล่างโดยทันที การกลับด้านชาร์ตจะทำให้คุณได้เห็นมุมมองที่แตกต่าง และไม่เหมือนใครในด้านราคาและแนวโน้ม
ในไอเดียนี้ เราแสดงชาร์ตรายวันของ Amazon เทียบกัน ชาร์ตทางซ้ายเป็นชาร์ตแบบกลับด้านในขณะที่ชาร์ตด้านขวาเป็นชาร์ตปกติของ Amazon โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขใดๆ การเปรียบเทียบชาร์ตทั้งสองนี้ระหว่าง ชาร์ตกลับด้านและชาร์ตปกติ เป็นแบบฝึกด้านมุมมองต่อชาร์ตของคุณ ลองถามตัวท่านเองว่า ท่านยังคงเห็นแนวโน้มที่ยังคงเดิมอยู่หรือไม่? หรือว่ามุมมองต่อชาร์ตของคุณนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะว่าคุณได้เห็นมุมมองที่ตรงข้ามกับสิ่งที่คุณได้เห็นมาก่อนหน้านี้หรือไม่?
นี่เป็นอีกตัวอย่างในการใช้แนวคิดนี้: ถ้าคุณ "ซื้อ" ชาร์ตกลับด้าน ไปทางด้านซ้าย เพราะดูเหมือนว่าจะเกิดการทำราคาหรือเป็นการราคาตกของหุ้นที่น่าสนใจ ดังนั้น มันควรจะเป็นโอกาสแห่งการ ขาย ในชาร์ตแบบปกติของ Amazon ไปทางด้านขวา ด้วยการกลับด้านชาร์ต คุณสามารถทดสอบตัวคุณเองในด้านการอ่านแนวโน้มและอ่านพฤติกรรมของแท่งเทียน ที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งถ้าคุณเกิดความไม่แน่ใจขึ้นมา กลับด้านชาร์ตไปในทิศทางตรงกันข้าม และถามคำถามกับตัวท่านเองว่า สิ่งที่ท่านเห็นนั้นเป็นการคอนเฟิร์มในแนวทางเดียวกันหรือไม่
เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะสนุกสนานไปกับทิปในการใช้งานนี้ และเรายังคงรอคอยฟีดแบค ความคิดและความเห็นของท่านอยู่เสมอ ขอบคุณสำหรับท่านสมาชิก TradingView!