CPALL จบอะไร ทำไมเด้งCPALL จบชุดคลื่นอะไร สักอย่าง ราคาเด้ง เป็นแท่งเขียวสวยงาม แต่จะไปได้ไกลแค่ไหน ต้องติดตาม
CPALL.R ไอเดียในการเทรด
cpall ลงมาเป็น x เวฟ เข้าโซนหน้าลงทุนแม้ว่าราคาจะยังไม่วิ่งแต่มี อัพไซด ลุ้น ไฮเดิมได้เลย เหมาะสำหรับคนไม่มีเวลาดูซื้อถือได้ครับ
Cpall กับแอปที่ส่งของถึงบ้านหลังจากโควิทที่ผ่านมา มีการปรับตัวหลายอย่าง พนักงานเซเว่นเอง ก็เทรนใหม่ แกมบังคับให้ลูกค้าสมัครแอป เพื่อกดสะสมแต้ม สั่งของ เหมือนให้เตรียมตัวกับการล็อคดาวน์รอบสอง
และเริ่มมีโฆษณาออกมา ที่ส่งให้ถึงบ้าน
จากที่ดูมีของขายหลากหลาย เรียกว่าว่าครบทุกอย่าง รวมทั้งมีเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย
จากกราฟ มีการเทส 58 บาทแล้วยังไม่ยอมหลุด หากเบรคราคา 59.5 ได้น่าจะกลับตัวเด้งรอบใหม่ได้
คัทเมื่อหลุด 57.75
CPALL ยังจะไปต่อหรือขอพักก่อนดี?ตลาดช่วงที่ผ่านมาหุ้นแต่ละตัวมีความร้อนแรงในการปรับตัวขึ้นมากเหลือเกิน ตัดภาพมาที่cpallแรกๆก็ดูขึ้นดี สามารถขึ้นมายืนเหนือEMA89 จากนั้นทำการย่ำๆออกข้าง โมเมนตัมกำลังทางขึ้นเริ่มแผ่วเหมือนอยากพักตัว ยังไม่แน่ชัดว่าพักแนวema89นี้ได้หรือไม่ กรอบแนวพัก 61.5-63.75 บาท ถ้าทะลุ63.75ก็ขึ้นต่อได้ แต่หากหลุด61.5 อาจลงมาพักตัวก่อนที่แนว60.25/59/57.75ตามลำดับ ถ้าพักสวยๆค่อยว่ากันใหม่
โดยส่วนตัวมองว่าCpall ในระยะสั้นๆมีความอยากพัก ไม่ว่าจะพักตัวออกข้าง หรือพักตัวแบบย่อลง ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะพักแบบไหนอาจต้องรอดูวอลุ่มตลอดทั้งสัปดาห์นี้ประกอบการตัดสินใจอีกที
CPALL: ลงหาแนวรับสำคัญ ฿52.50 แนวรับสำคัญ 52.50 บาท มีโอกาส Rebound ที่แนวนี้
**แต่ถ้ารับไม่อยู่ภาพใหญ่จะเป็น Sideway ลงหา zone เส้นสีแดงเป็นกรอบแนวรับถัดไป
Plan1 : รอเก็บหุ้นเมื่อเห็นสัญญาณของการกลับทิศ (Reversal)
Plan2 : กรณีหลุด 52.50 บาท >> รอเก็บหุ้นที่แนว Harmonic (อัพเดตอีกครั้งเมื่อหลุด)
[CPALL] หุ้นโคตร Defensive ณ ราคาดัชนี 1200 จุด ดีไหม มาดููกันสำหรับ CPALL ผมมองว่าตอนนี้หุ้นตัวนี้เริ่มมี Valuation ที่น่าสนใจไม่เลวเลย
จากการที่ธุรกิจของเขานั้น ล้อตามตัว C ในสมการของ GDP (GDP = "C" +I+G+X-M)
ซึ่งตัว C ที่ว่าก็คือกำลังซื้อของผู้บริโภคนั่นเองครับ กล่างคือ หากว่ากำลังซื้อของคนกลับมาหุ้นตัวนี้ก็อาจได้รับอานิสงฆ์นั้นก็เป็นได้เลย
สำหรับหุ้นตัวนี้ที่อาจมีการเติบโตอื่นๆ เข้ามา จากการมีฐานทุนที่ใหญ่ขึ้น ก็ไม่เลวเลยที่เราจะมาลองทำการบ้านสำหรับตัวนี้ดูกันครับ รายละเอียดเป็นอย่างไร มารับชมกันครับ
PS. รายละเอียดนอกคลิป สำหรับ CPALL หุ้นตัวนี้ มี ROE หรืออัตราการทำกำไรต่อผู้ถือหุ้นอยู่ที่ราวๆ 20%++ ซึ่งนับว่าสูงมาก เมื่อเทียบกับ ROE ของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะมีค่าอยู่ที่ราวๆ 9-11% เท่านั้น แล้วแต่ราคาน้ำมัน (ว่ากันมาตรง ตลาดบ้านเราพึ่งพิงอุตสาหกรรมเก่า อย่างน้ำมันมาก ถึงมากเลยครับ)
ซึ่งการมีระดับ ROE เท่านี้ เราเลยไม่แปลกใจเลยที่เขาให้มูลค่าเทรดที่ Market Cap. เหนือกว่า Asset ของบริษัทเสียอีก เราอาจมองได้ว่า หุ้นตัวนี้ถูกหวังกับการเติบโตในอนาคตก็ไม่ผิดเลยครับ
ซึ่งตรงส่วนนี้เราอาจจะเอาจุดที่ Market Cap <= Total Asset เป็นจุด Stop Loss คงอาจจะดูโหดร้ายไป (คนไม่เห็นอนาคต หมดฝันแล้ว)
ดังนั้นแล้วตรงส่วนนี้ท่านอาจจะใช้จุดซื้อแบบ Technical ในการเข้าซื้อก็ได้ครับ แล้วก็เอาไปบอกลูกหลานท่านว่าท่านเป็นเจ้าของ 7-11 คงคูลไม่น้อยเลย ฮาา
ปล. ทั้งหมดก็มีราวๆ นี้นะครับ หากมีอะไรเพิ่มเติมผมจะมาแจ้งครับ ยาวหน่อย แต่ถ้าคุณชอบ ผมก็ดีใจนะ
CPALL - Bullish divergence
ตอนนี้ราคาได้กลับมายืนเหนือ support เดิม ร่วมกับมี bullish divergence
หากตรงนี้สามารถยืนได้ เป้าหมายคือ ขึ้นไปท้าทาย high เดิม ที่ 88 บาท
เหนือ 63 เราจะอยากซื้อ แต่ต่ำกว่า 60 เราจะไปรอแนวรับถัดไปครับ
[TH]CPALL Test เส้น MA แล้วดีดกลับทันทีสำหรับ CPALL ตอนนี้เขาได้ทำไส้เทียน Test เส้น Volume Weight Moving Average ระดับ 35 วัน แล้ว เขาก็กลับตัวเป็นแท่งเขียวทันที
ผมมองว่า ณ จุดนี้เป็นนิมิตรหมายที่ไม่เลวเลยครับ ที่เราอาจจะลองเริ่มลงทุนในหุ้น Growth ตัวนี้ แม้ว่า Market Cap. ของเขาจะสูงระดับแสนล้านแล้ว แต่หากเก็บบางส่วนไว้ลงทุนระยะยาว และบางส่วนไว้เล่นสั้น คงได้กระแสเงินสดมาสร้างพอร์ตไม่น้อยเลย
สำหรับมุมมองทางด้าน Fundamental ที่ผมนำมาประยุคใช้ในกราฟนี้นะครับ จะเป็นเส้น ที่แสดงเงินปันผลที่ระดับ 1.12% 1.25% และ 1.38% ซึ่งตอนนี้เขาสามารถยืนได้ที่เส้นระดับเงินปันผลที่ 1.38% เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากท่านได้ย้อนกลับไปดูในอดีต ท่านจะเห็นทันที ว่าหุ้นตัวนี้เทรดที่ระดับค่าที่ 3 เส้นนี่แหละครับ
หากอนาคตเขากลับมาทำได้ดี แก้ไขปัญหาคนไม่ซื้อของโดยไม่ใส่ถุงได้ ผมว่าราคาเขากลับมาได้แน่นอนครับ
ยาวหน่อย แต่หากคุณชอบ ผมก็ดีใจนะ
การใช้เส้น RSI ในการหา จุดซื้อ และ จุดขายการใช้เส้น RSI ในการหา จุดซื้อ และ จุดขาย
เส้น RSI สามารถนำมาใช้จับจังหวะการเข้าซื้อหุ้นได้โดยให้สังเกต 2 ตำแหน่งที่สำคัญคือ เมื่อเส้น RSI เข้าใกล้หรือต่ำกว่าเส้น 30 จะเกิดภาวะ OverSold (แพนิคเซลล์ / ขายแบบเทกระจาด) ซึ่งสามารถระบุเป็นจุด "เข้าซื้อ" ได้
ขณะเดียวกัน หากเส้น RSI อยู่เหนือเส้น 70 จะเกิดภาวะ OverBought (เข้าเขต ซื้อมากเกินไป เพราะกลัวตกรถ) ก็สามารถเป็น "จุดขายทำกำไร" ได้เช่นกัน
ตัวอย่างการใช้งาน MACDตัวอย่างการใช้งาน MACD
เส้นสีน้ำเงิน ตัด เส้นสีส้ม (ตัดขึ้น) เป็น "จุดเข้าซื้อ" เพราะราคาหุ้นมีแนวโน้ม "ขึ้น"
เส้นสีน้ำเงิน ตัด เส้นสีส้ม (ตัดลง) เป็น "จุดขาย" เพราะราคาหุ้นมีแนวโน้ม "ลดลง"
ความแม่นยำ 60-70%
ไม่มีอินดิเคเตอร์ตัวใด ทำนายผลได้แม่นยำ 100%
การใช้ MACD ในการหา "จุดกลับตัว" Reversal แบบง่ายการใช้ MACD ในการหา "จุดกลับตัว" Reversal แบบง่าย
ความแม่นยำ 60-70%
