set นับ wave ที่ค่อนข้างจะสุดโต่งไปหน่อย แต่มีความเป็นไปได้ก่อนอื่นไม่ได้บอกว่าจะต้องเป็นไปตาม นี้นะครับ แต่ โอกาส ก็เป็นไปได้ขอให้นักลงทุนระมัดระวัง มากๆ ยิ่ง เดือนหน้า จะประกาศงบ q2 แล้ว ที่แน่ๆ ดูไม่จืด แน่ๆ ครับลดลงโดย Nungz8
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ทดสอบแนวรับ 1,320 จุด แรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยทรุดตัวลงปิดที่ 1,333.43 จุด ลดลง 23.00 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.08 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,320 จุด ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธ (24/6) ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลง 710 จุด หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หวั่นการติดเชื้อระลอกใหม่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐมากกว่าที่คาด ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวเป็นแนวต้าน ดัชนีตลาดหลุดแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,338 จุด และกำลังทดสอบแนวรับของเส้น MMA2 ที่ 1,331 จุด ดัชนีตลาดสร้างจุดสูงยกลงต่ำ (Lower High) ทำให้ดัชนีตลาดเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาลง ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement (969/1454 จุด) อยู่ที่ 1,269 จุด สัญญาณ DMI เริ่มแสดงทิศทางปรับตัวลง ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลง จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น i) ที่ 1,454 จุด และมีทิศทางปรับตัวลดลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) โดยการวิเคราะห์แนวรับเป้าหมายด้วย Fibonacci Retracement โดยใช้จุดต่ำที่ 969 จุด กับจุดสูงที่ 1,454 จุด จะได้เป้าหมายที่ 1,269 จุด, 1,212 จุด และ 1,154 จุด ตามลำดับ ซึ่งเป็นเป้าหมายของคลื่น ii) โดยดัชนีต้องปรับลงไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น i) ที่ 969 (ตามหลักการนับคลื่น) สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ สัญญาณ Modified Stochastic เริ่มปรับตัวเข้าเขตขายมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,320 จุด และมีเป้าหมายหลักอยู่ที่ 1,269 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,348 – 1,362 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,320 – 1,308 จุด กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับฐาน นักลงทุนควรกลับเข้าทยอยซื้อเมื่อสัญญาณ Modified Stochastic เกิดสัญญาณบวกเป็นรูป W-shape #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv4
w.5 failurew.5 เขียว ล้มเหลว เนื่องจาก w.4 เขียว เป็น elongate flat และ w.3 เขียว ยืดมากกว่า 300% ดังนั้น เมื่อยิ่งเข้าใกล้ 1000 จะมีแรงซื้อกลับสูงมาก...ลดลงโดย jokenakrub70
SET: ATR flip จากเขียวเป็นแดง + ทำ lower low ทรงนี้มีแววลงหนักหลังจากลากเม่าขึ้นไปที่ยอดดอยเพื่อไปรับของกันจนเต็มมือ สุดท้าย วันนี้ กราฟก็ทำทรงที่ไม่ควรจะทำ ถ้าจะขึ้นต่อได้ นั่นก็คือ.. 1) ATR (4) Daily Flip จากเขียวเป็นแดง : เป็นสัญญาณว่า การลงรอบนี้ แหกกรอบการแกว่งลงมาแรงมากจนเกินไป 2) ราคาวิ่งใต้ EMA 18 และกรอบ Action Zone มาสามสี่วัน และวันนี้เป็นวันที่ confirmation ว่า น่าจะเป็นการเปิดฉากขาลงอย่างเป็นทางการ 3) กราฟทำ Lower Low หลุด low เดิม ที่ 1338 และไปปิดต่ำกว่า low เดิม ที่ 1333 4) MACD กำลังจะมุดเส้น 0 ลงไป 5) แท่ง Monthly จะปิดแท่งด้วยทรง Rejection ที่อัปรีย์ที่สุด หางชี้ฟ้ายาวเฟื้อย 6) ช่วง peak 1450 สัญญาณเม่ามาเต็ม ทั้งคนอวดกำไรเต็มเฟส และยอดคนเปิดบัญชีหุ้นสูงที่สุดในรอบหลายๆ เดือน รวมถึงการเปิด gap ขึ้นข้างบน และเศรษฐกิจโลก ที่กำลังจะเจอการเผาจริง หลังออกงบ Q2 ที่กำลังจะถึงนี้... รอบนี้ ถ้าการปรับฐานที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่ทำ new low เราก็น่าจะได้เห็นการพักตัวที่แถวๆ 1100-1200 ( fibo 0.618-0.786 ) แต่ถ้าทำ new low ก็ตัวใครตัวมัน เพราะไม่รู้จะลงไปถึงไหนกันเลย รอบนี้ เม่ามือใหม่ ที่ไม่เคยเทรดหุ้นมาก่อน และไม่มีความรู้ หรือ mindset ที่ถูกต้อง ก็จะมือแข็ง ทำอะไรไม่ถูก เพราะที่ผ่านมา คิดว่าตลาดมันง่าย แค่ซื้อๆ ขายๆ ก็ได้กำไรง่ายๆ ทุกวัน สุดท้าย ก็ได้แต่ปลอบใจกันเองบนยอดดอย ว่า ไม่ขาย ก็ไม่ขาดทุน และแปลงร่างจาก day trade เป็น VI จำเป็นกันจนหมด เฮ้อ ก็นั่นน่ะแหละ ไม่รู้มันจะลากขึ้นไปทำไม สุดท้ายก็จบรอบอยู่ดี 555 ตอนนี้ส่วนตัวผมมือว่างละ ก็ขาดทุนกันไปตามระเบียบ แต่ก็ได้เรียนรู้อะไรมาหลายๆ อย่าง ก็ถือว่าเป็นค่าครูที่คุ้มค่า 555 เป็นกำลังใจให้มือใหม่ทุกคนนะครับ หาความรู้กันเยอะๆ นะครับ ตลาดมันไม่ง่าย.. มันมีช่วงง่าย(อ่อยเหยื่อ) และช่วงคืนกำไร เสมอครับ ปล. กราฟ month รันทดจัด ลดลงโดย Real_inwCoin9
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ทดสอบแนวรับ 1,338 จุด หลังจากแบงก์ชาติสั่งแบงก์พานิชย์ระงับการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลและห้ามซื้อหุ้นคืน ทำให้หุ้นแบงก์ถูกมองไปในทางลบ แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มแบงก์ ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งลงปิดที่ 1,352.18 จุด ปรับลดลง 18.64 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.57 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,338 จุด ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ (22/6) ปิดตลาดในแดนบวก ตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยหุ้น Apple สวนทางกับยอดผู้ป่วยโควิด-19 ที่มากขึ้น ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงทดสอบแนวรับของเส้น MMA2 ที่ 1,348 – 1,330 จุด โดยมีจุดต่ำเก่าที่ 1,338 จุดเป็นแนวรับร่วม และมีจุดสูงเก่าที่ 1,386 จุดเป็นแนวต้าน กรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,338 จุด ดัชนีตลาดจะปรับลดลงเข้าหาแนวรับ 38.2% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,269 จุด สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลง จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น i) ที่ 1,454 จุด และมีทิศทางปรับตัวลดลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) โดยการวิเคราะห์แนวรับเป้าหมายด้วย Fibonacci Retracement โดยใช้จุดต่ำที่ 969 จุด กับจุดสูงที่ 1,454 จุด จะได้เป้าหมายที่ 1,269 จุด, 1,212 จุด และ 1,154 จุด ตามลำดับ ซึ่งเป็นเป้าหมายของคลื่น ii) โดยดัชนีต้องปรับลงไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น i) ที่ 969 (ตามหลักการนับคลื่น) สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,338 จุด และมีเป้าหมายหลักอยู่ที่ 1,269 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,367 – 1,380 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,338 – 1,323 จุด กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับฐาน เนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv2
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ระวังความเสี่ยงจากหุ้นกลุ่มแบงก์ ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆ เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยหนุนและการซื้อขายขาดทิศทาง ดัชนีตลาดปิดที่ 1,370.82 จุด ลดลง 2.16 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.3 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,338 จุด ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันศุกร์ (19/6) ปิดตลาดแบบไร้ทิศทาง นักลงทุนหวั่นการระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐรอบสอง หลังยอดติดเชื้อเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันและราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้างต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ดัชนีตลาดยืนเหนือแนวรับของเส้น MMA2 ซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,348 – 1,329 จุด และมีกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาขึ้นเป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,417 จุด สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ทำให้ดัชนีตลาดอยู่ในช่วงปรับฐาน ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดจะยืนยันการปรับตัวลงต่อเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 1,338 จุด จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น i) ที่ 1,454 จุด และมีทิศทางปรับตัวลดลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) โดยการวิเคราะห์แนวรับเป้าหมายด้วย Fibonacci Retracement โดยใช้จุดต่ำที่ 969 จุด กับจุดสูงที่ 1,454 จุด จะได้เป้าหมายที่ 1,269 จุด, 1,212 จุด และ 1,154 จุด ตามลำดับ ซึ่งเป็นเป้าหมายของคลื่น ii) โดยดัชนีต้องปรับลงไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น i) ที่ 969 (ตามหลักการนับคลื่น) สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,338 จุด และมีเป้าหมายหลักอยู่ที่ 1,269 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,380 – 1,393 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,358 – 1,342 จุด กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับฐาน เนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv0
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ยังมีปัจจัยเสี่ยง ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆ นักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอดูทิศทางตลาด ดัชนีตลาดปิดที่ 1,372.98 จุด ลดลง 3.20 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.0 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,338 จุด ต่างชาติขายสุทธิ 4,462 ล้านบาท ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพฤหัสบดี (18/6) ปิดตลาดแบบไร้ทิศทาง นักลงทุนกังวลถึงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้น แต่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังเป็นปัจจัยบวก ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้างต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ดัชนีตลาดยืนเหนือแนวรับของเส้น MMA2 ซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,346 – 1,328 จุด และมีกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาขึ้นเป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,411 จุด สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ทำให้ดัชนีตลาดอยู่ในช่วงปรับฐาน ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดจะยืนยันการปรับตัวลงต่อเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 1,338 จุด เมื่อนำจุดต่ำที่ 969 จุด กับจุดสูงที่ 1,454 จุด มาวิเคราะห์หาแนวรับ Fibonacci Retracement จะได้แนวรับ ดังนี้ แนวรับ 38.2%, 50.0% และ 61.8% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,269 จุด, 1,212 จุด และ 1,154 จุด ตามลำดับ จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,384 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่น i) ที่ 1,454 จุด และมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับ Fibonacci ที่ 1,269 จุด, 1,212 จุด และ 1,154 จุด ตามลำดับ ซึ่งเป็นเป้าหมายของคลื่น ii) โดยดัชนีต้องปรับลงไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น i) ที่ 969 (ตามหลักการนับคลื่น) สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,338 จุด และมีเป้าหมายหลักอยู่ที่ 1,269 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,386 – 1,400 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,359 – 1,345 จุด กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับฐาน เนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv0
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย พักตัวเข้าหาแนวรับ 1,326 จุด แรงซื้อขายที่เข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบๆ ดัชนีตลาดปิดที่ 1,376.18 จุด เพิ่มขึ้น 9.05 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.15 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,326 จุด ต่างชาติกลับมาขายสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธ (17/6) ปิดตลาดแบบไร้ทิศทาง ดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลดลง ขณะที่แนสแดคปรับตัวเพิ่มขึ้น นักลงทุนกังวลถึงภาวะเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบสอง ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆเหนือแนวรับของเส้น MMA2 ที่ 1,344 – 1,326 จุด และมีกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,404 จุด สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ทำให้ดัชนีตลาดอยู่ในช่วงปรับฐาน ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดจะยืนยันการปรับตัวลงต่อเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 1,338 จุด เมื่อนำจุดต่ำที่ 969 จุด กับจุดสูงที่ 1,454 จุด มาวิเคราะห์หาแนวรับ Fibonacci Retracement จะได้แนวรับ ดังนี้ แนวรับ 38.2%, 50.0% และ 61.8% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,269 จุด, 1,212 จุด และ 1,154 จุด ตามลำดับ จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,384 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่น i) ที่ 1,454 จุด และมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับ Fibonacci ที่ 1,269 จุด, 1,212 จุด และ 1,154 จุด ตามลำดับ ซึ่งเป็นเป้าหมายของคลื่น ii) โดยดัชนีต้องปรับลงไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น i) ที่ 969 (ตามหลักการนับคลื่น) สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,326 จุด และมีเป้าหมายหลักอยู่ที่ 1,269 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,388 – 1,400 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,364 – 1,350 จุด กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับฐาน เนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv2
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ระยะสั้นผันผวน แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารและพลังงาน ดันดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,367.13 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 25.14 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.84 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลดลง แต่การกลับมาปิดบวกของตลาดหุ้นนิวยอร์กจะส่งผลบวกในเชิงจิตวิทยา ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อย ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันอังคาร (16/6) ปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก ขานรับยอดค้าปลีกที่ดีเกินคาดและสภาพคล่อง จะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาด ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวเข้าหาแนวต้านของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,397 จุด หลังดัชนีตลาดพักตัวลงทดสอบแนวรับของเส้น MMA2 ที่ 1,341 – 1,324 จุด สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงสลับกับการพักตัว เมื่อนำจุดต่ำที่ 969 จุด กับจุดสูงที่ 1,454 จุด มาวิเคราะห์หาแนวรับ Fibonacci Retracement จะได้แนวรับ ดังนี้ แนวรับ 38.2%, 50.0% และ 61.8% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,269 จุด, 1,212 จุด และ 1,154 จุด ตามลำดับ จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,384 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่น i) ที่ 1,454 จุด และมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับ Fibonacci ที่ 1,269 จุด, 1,212 จุด และ 1,154 จุด ตามลำดับ ซึ่งเป็นเป้าหมายของคลื่น ii) โดยดัชนีต้องปรับลงไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น i) ที่ 969 (ตามหลักการนับคลื่น) สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,324 จุด และมีเป้าหมายหลักอยู่ที่ 1,269 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,382 – 1,396 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,353 – 1,338 จุด กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับฐาน เนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv0
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย พักตัวเข้าหาแนวรับที่ 1,322 จุด แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยทรุดตัวลงปิดที่ 1,341.99 จุด ลดลง 40.57 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.32 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,322 จุด นักลงทุนรายบุคคลเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ (15/6) ปิดตลาดในแดนบวก หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขยายวงเงินกู้ฉุกเฉินให้กับโครงการ "Main Street Lending Program" เพื่อสนับสนุนธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้าน หลังดัชนีตลาดหลุดแนวรับของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,384 จุด เป็นสัญญาณยืนยันการเปลี่ยนทิศทางปรับตัวลง ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของเส้น MMA2 ที่ 1,322 จุด สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ทำให้ดัชนีตลาดที่ปรับตัวลงสลับกับการพักตัว เมื่อนำจุดต่ำที่ 969 จุด กับจุดสูงที่ 1,454 จุด มาวิเคราะห์หาแนวรับ Fibonacci Retracement จะได้แนวรับ ดังนี้ แนวรับ 38.2%, 50.0% และ 61.8% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,269 จุด, 1,212 จุด และ 1,154 จุด ตามลำดับ จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,384 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่น i) ที่ 1,454 จุด และมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับ Fibonacci ที่ 1,269 จุด, 1,212 จุด และ 1,154 จุด ตามลำดับ ซึ่งเป็นเป้าหมายของคลื่น ii) โดยดัชนีต้องปรับลงไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น i) ที่ 969 (ตามหลักการนับคลื่น) สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,323 จุด และมีเป้าหมายหลักอยู่ที่ 1,269 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,357 – 1,373 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,326 – 1,315 จุด กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับฐาน เนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv3
SET Bearish TD sequential Reinforcement, 9-13-9SHORT SET 1. Completed Bearish TD sequential Reinforcement, 9-13-9 2. Form Reversal Island Pattern 3. Broken down the Trendline with Gapลดลงโดย Overt_Forex3
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย จับตาผลกระทบจากโควิดรอบสอง แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มพลังงาน แบงก์และโรงไฟฟ้า ฉุดดัชนีตลาดปรับตัวลงต่ำจุดต่ำที่ 1,353 จุด แรงซื้อที่มีเข้ามาช่วงบ่ายลดช่วงลบ ดัชนีตลาดปิดที่ 1,382.36 จุด ลดลง 14.21 จุด มูลค่า 8.58 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,341 – 1,322 จุด ต่างชาติกลับมาขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันศุกร์ (12/6) กลับมาปิดในแดนบวก หลังจากนักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้น ขานรับการกลับมาเปิดดำเนินธุรกิจและดัชนีความเชื่อที่เพิ่มขึ้น ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดทรุดตัวลงไปทำจุดต่ำที่ 1,353 จุด หลุดแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,387 จุด ซึ่งจากนี้ไปจะทำหน้าที่เป็นแนวต้าน แรงซื้อที่มีเข้ามาทำให้ดัชนีตลาดเปิดต่ำปิดสูง สัญญาณทางเทคนิคัลที่เป็นลบ จะทำให้ดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับของเส้น MMA2 ที่ 1,341 – 1,322 จุด เมื่อนำจุดต่ำที่ 969 จุด กับจุดสูงที่ 1,454 จุด มาวิเคราะห์หาแนวรับ Fibonacci Retracement จะได้แนวรับ ดังนี้ แนวรับ 38.2%, 50.0% และ 61.8% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,269 จุด, 1,212 จุด และ 1,154 จุด ตามลำดับ จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,384 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่น i) และมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับ Fibonacci ที่ 1,269 จุด, 1,212 จุด และ 1,154 จุด ตามลำดับ ซึ่งเป็นเป้าหมายของคลื่น ii) โดยดัชนีต้องปรับลงไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น i) ที่ 969 (ตามหลักการนับคลื่น) สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI กลับมาเป็นลบ แรงขายระยะสั้นจะทำให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,340 – 1,322 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,396 – 1,410 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,370 – 1,353 จุด กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับฐาน เนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv1
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย หลุด 1,384 จุด เสี่ยง แรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มธนาคาร พลังงานและโรงไฟฟ้า ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งลงปิดที่ 1,396.77 จุด ลดลง 22.00 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.29 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวลง หากดัชนีตลาดปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 1,384 จุด ต่างชาติกลับมาขายสุทธิ นักลงทุนรายบุคคลเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพฤหัสบดี (11/6) ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลง 1,861 จุด นักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย ตัวเลขการว่างงานเพิ่ม หากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระบาดรอบสอง ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวลงเข้าหาแนวรับของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,384 จุด หลังเกิดสัญญาณกลับตัวรูป Evening Star ดัชนีตลาดจะยืนยันการเปลี่ยนทิศทางปรับตัวลงเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 1,384 จุด และมีเส้น MMA2 เป็นแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,338 จุด กรณีที่ดัชนีตลาดปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 1,384 จุด จะนำจุดต่ำที่ 969 จุดกับจุดสูงที่ 1,454 จุด มาวิเคราะห์แนวรับของ Fibonacci Retracement ต่อไป จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,454 จุด ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่น i) ที่ 1,454 จุด เมื่อดัชนีตลาดปรับตัวลดลงหลุดแนวรับของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,384 จุด จากนั้นจะวิเคราะห์แนวรับ Fibonacci Retracement โดยใช้จุดต่ำที่ 969 จุดกับจุดสูงที่ 1,454 จุด ซึ่งเป็นเป้าหมายของคลื่น ii) สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI กลับมาเป็นลบ แรงขายระยะสั้นจะทำให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,370 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,410 – 1,423 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,384 – 1,374 จุด กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงพักตัวลง #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv1
DOW JONES ดิ่ง 1861 จุด SET จะแค่ถอย หรือ ถ่อยเลย?ขณะที่แชร์ Idea นี้ บน TradingView ตลาดเมกาปิดไปแล้ว DJI ล่วงไป 6.91% หรือ -1861จุด ใครที่หลับไปตอน -900 คงหนาวแล้ว ตื่นมาเจอ -1861 หนาวกว่าแน่นอน โดยเฉพาะคนที่ ซื้อหุ้นมาเต็ม หรือ ห่อ Long TFEX มา ทีนี้มาดูกันครับ ว่า ลบระดับ 6.91% จะฉุดให้ปู่ SET ถอยลงไปได้ถึงไหน ถ้าคิดแบบคณิตศาสตร์ง่ายๆ เลย SET ปิดวันพฤหัสที่ 1396.77 ถ้าลบเท่ากบ DJI คือ 6.91% ก็จะลบได้ถึง 96 จุด หรือกลมๆ กลับไป 1300 จุด เห้ย!!!! วันเดียวจะลบ 100 จุดเลยเหรอ? ในด้านเทคนิคอล โค้ชลองตี Fibonacci ไว้ 2 ชุด ชุดใหญ่คือ ของรอบใหญ่ใน TF Day และชุดกลาง คือ รอบ ใน TF 60 จาก 1200-1450 โดยประมาณ - ในชุดกลาง วันพฤหัสถอยมาทำความเคารพที่แนว 23.6%(1392) แล้วเด้งไปปิด 1396.77 พร้อมด้วย MACD อ้าปากลงใน TF60 - แนวถัดไป คือแนว 38.2% ของ Fibo คู่กลาง สีน้ำเงิน ที่ 1355 แน่นอนโอกาสเปิด Gap ข้ามไปในวันที่ DJI -1861 ไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่หากโดดข้ามแนวนี้ภาพการขึ้นระยะกลาง-สั้นจะไม่ค่อยงามนัก แต่ยังไม่แย่ซะทีเดียวนะ - แนว 61.8% หรือแถว 1296 ตรงนี้สิ ที่จะเป็นตัวบอกว่า ภาพระยะกลาง-สั้น จะไม่ไหว แต่ ภาพรวมยังมีแนวรับ 1273 (Fibo 38.2%) ของชุดใหญ่ รอบ TF Day อยู่ - 1273 หลุดเมื่อไหร่ อวสาน V Shape แต่เห็นมั้ย นี่แค่ถอยนะ ย้ำว่า แค่ถอย สรุป การตะบี้ตะบันลาก แบบไม่พักเลย ยิ่งลากไปไกลเท่าไหร่ การพัก ก็ลึกมากเท่านั้น 1273 เป็นแนว 38.2% ของชุดใหญ่ แม้ว่า ถ้ายืนแถวนั้นได้ ภาพรวมจะไม่เสียทรง แต่ลองถามใจคุณ การดีด V-Shape ทั้งโลกของตลาดโควิด-19 และ Dow Jones ตัดริบบิ้นการพักตัวด้วยการน๊อคกลางอากาศ -1861 จุดแบบนี้ ว่าก็ว่าเถอะ แค่ถอย พอร์ทของบางคนก็ถ่อยเสียแล้ว ลองดูต่อไปครับ ถ้าถอยมารับต้องย่ำ ด้วย Volume น้อยลง แต่ถ้าถอยมาพร้อมเร่ง Volume มา อันนี้ ถอยมาทับชัวร์ เทรดด้วยสติ และความเสี่ยง คือเรื่องเดียวที่เราคุมได้ กำไรมาก-น้อยไม่สำคัญ ที่สำคัญ คือการทำให้เงินในพอร์ทยังเหลือ เพื่อให้เราอยู่ในตลาดได้นานพอ ลดลงโดย cyberpop1113
SET : ไม่ทำ new low ก็เป็นแค่การย่อ เพื่อไปต่อ มือใหม่ ที่เพิ่งเข้าตลาดมาช่วงตลาดดีๆ จะไม่เคยเจอภาวะการ correction ของตลาดที่รุนแรงมาก่อน ซึ่งอย่าลืมว่า ตอนเราขึ้น เราขึ้นมาแบบ ร้อนแรงเหลือเกิน บางตัวขึ้นมาเป็น 100%+ ในเวลาแค่ 1-2 สัปดาห์ ก็ไม่น่าแปลกใจ ที่รอบนี้ เราอาจจะได้เห็นการ correction หนักกันบ้าง ส่วนตัว ผมมองแล้ว การย่อรอบนี้ ก็เป็นสิ่งที่หลายๆ ที่ดูกราฟเป็น รอกันอยู่ เพราะการจะสร้างฐานไปต่อได้นั้น ก็ต้องมีการย่อและยก low เพื่อเตรียมทำกรอบขาขึ้นต่อไปนั่นเอง ส่วนจะย่อลึกถึงไหนนั้น ก็ไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ๆ สำหรับตลาดไทย ถ้าลูกศิทย์ลุงโฉลกเยอะ เราก็น่าจะได้เห็นการย่อลงมาทดสอบแถวๆ Action Zone แล้วก็เด้ง เพราะเราต่างเรียนมาตำราเดียวกัน 555 แต่ถ้าไม่เด้ง ก็โน่นเลย ไปรอแถวๆ 0.786-0.887 fib แถวๆ 1000 - 1100 จุดอีกรอบ แต่ถ้าจะลงมาถึงนี่ ก็ต้องถามพี่กองว่า จะยอมให้ลงหรือป่าว ส่วนเม่าน่ะเหรอ เปิดตลาดพรุ่งนี้คงตกใจขายกันไม่ยั้งแน่นอน 5555เพิ่มขึ้นโดย Real_inwCoin2
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มเป็นลบ แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มแบงก์ หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยกลับมายืนบวก ขณะที่แรงขายในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดลดช่วงบวกลงมาปิดที่ 1,418.77 จุด เพิ่มขึ้น 10.40 จุด มูลค่าการซื้อขายลดลงเหลือ 7.74 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นลบ ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,370 บาท ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดแบบไร้ทิศทาง ดาวโจนส์และ S&P 500 ปรับลดลง ขณะที่ Nasdaq ปิดบวกเหนือ 10,000 จุด สัญญาณเศรษฐกิจที่ถดถอย ทำให้เฟดมีนโยบายคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์ต่อไปอีกระยะ ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆเหนือแนวรับ 1,410 จุด หลังแท่งเทียนเกิดเป็น Evening Star ในเขตซื้อมากเกิน ดัชนีตลาดเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้เกิดแรงออกมา ฉุดดัชนีตลาดพักตัวเข้าหาแนวรับของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,370 จุด และมีแนวรับของเส้น MMA2 อยู่ที่ 1,310 จุด ดัชนีตลาดจะยืนยันการปรับตัวลดลงเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่าแนวรับที่ 1,370 จุด จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดจบคลื่น II,E ที่ 969 จุด (ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของคลื่น i)) ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น i) โดยดัชนีตลาดยืนปิดเหนือแนว 50.0% Fibonacci Retracement ที่ 1,410 จุด และมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้าน 61.8% Fibonacci Retracement ที่ 1,515 จุด ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) ซึ่งจะวิเคราะห์แนวรับด้วย Fibonacci Retracement เมื่อดัชนีตลาดมีสัญญาณการจบคลื่น i) โดยคลื่น ii) ที่ปรับตัวลงจะต้องไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นคลื่น i) ที่ 969 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI กลับมาเป็นลบ แรงขายระยะสั้นจะทำให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,370 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,430 – 1,443 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,407 – 1,394 จุด กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,370 จุด #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv0
แนวโน้ม set 10/6/2563 แนวโน้ม set 10/6/2563 สะบัดเพิ่อเก็บหุ้น แล้วขึ้นต่อไปชน แนวต้าน ปรมาณ 1549โดย chaiwichak113
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย Evening Star แรงขายทำกำไรที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,408.37 จุด ลดลง 30.29 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.15 แสนล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน แรงขายทำกำไรระยะสั้น ฉุดให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,370 จุด ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ ขณะที่สถาบันภายในประเทศเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันอังคาร (9/6) ปิดแบบไร้ทิศทาง ดาวโจนส์และ S&P 500 ปรับลดลง ขณะที่หุ้นเทคโนโลยีหนุน Nasdaq ปิดบวก นักลงทุนติดตามการประชุมของเฟด ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเคลื่อนตัวไปตามช่องแนวโน้มขาขึ้น ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,454 จุด แรงขายที่มีออกมาทำให้ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Evening Star ในเขตซื้อมากเกิน สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,370 จุด และมีแนวรับของเส้น MMA2 อยู่ที่ 1,310 จุด ดัชนีตลาดจะยืนยันการปรับตัวลดลงเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่าแนวรับที่ 1,370 จุด จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดจบคลื่น II,E ที่ 969 จุด (ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของคลื่น i)) ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น i) โดยดัชนีตลาดยืนปิดเหนือแนว 50.0% Fibonacci Retracement ที่ 1,410 จุด และมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้าน 61.8% Fibonacci Retracement ที่ 1,515 จุด ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) ซึ่งจะวิเคราะห์แนวรับด้วย Fibonacci Retracement เมื่อดัชนีตลาดมีสัญญาณการจบคลื่น i) โดยคลื่น ii) ที่ปรับตัวลงจะต้องไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นคลื่น i) ที่ 969 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI กลับมาเป็นลบ แรงขายระยะสั้นจะทำให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,370 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,420 – 1,433 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,394 – 1,378 จุด กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,370 จุดโดย prajobv2
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย แกว่งตัวขึ้นในเขตซื้อมากเกิน แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงาน หนุนให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเดินหน้า แต่แรงขายที่มีออกมาในหุ้นแบงก์ สื่อสารและโรงไฟฟ้า ฉุดให้ดัชนีตลาดลดช่วงบวก ดัชนีตลาดปิดที่ 1,438.66 จุด เพิ่มขึ้น 2.96 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.05 แสนล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเผชิญแรงขาย โดยดัชนีตลาดเคลื่อนอยู่ในช่องแนวโน้มขาขึ้น ต่างชาติกลับมาขายสุทธิครั้งแรกในรอบ 7 วัน ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ (8/6) กลับร้อนแรงจากตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนว่าเศรษฐกิจได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น สอดคล้องกับสัญญาณ DMI และเส้น MMA2 ที่ปลายเริ่มเปิดกว้าง ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,454 จุด และปรับตัวลงปิดต่ำ ตามหลังแท่งเทียน Three Advancing White Soldiers ซึ่งเป็นสัญญาณถึงการปรับตัวขึ้นต่อ (Continuation pattern) อย่างไรก็ดี ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเผชิญแรงขาย และดัชนีตลาดมีโอกาสปรับตัวลงก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อ เนื่องจากดัชนีตลาดสร้างจุดต่ำยกสูงและเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดจบคลื่น II,E ที่ 969 จุด (ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของคลื่น i)) ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น i) โดยดัชนีตลาดยืนปิดเหนือแนว 50.0% Fibonacci Retracement ที่ 1,410 จุด และมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้าน 61.8% Fibonacci Retracement ที่ 1,515 จุด ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) ซึ่งจะวิเคราะห์แนวรับด้วย Fibonacci Retracement เมื่อดัชนีตลาดมีสัญญาณการจบคลื่น i) โดยคลื่น ii) ที่ปรับตัวลงจะต้องไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นคลื่น i) ที่ 969 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI ปรับตัวอยู่ในเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเผชิญแรงขายและมีโอกาสปรับตัวลดลง ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,454 – 1,465 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,423 – 1,412 จุด กลยุทธ์การลงทุน ถือ หลีกเลี่ยงการไล่ราคา จับตาผลกระทบหลังมีข่าวว่าแบงก์ชาติจะออกมาตรการเข้าแทรกแซงค่าเงินบาท #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv1
SET Index - มิถุนายน 2020 ยังคง going strong ร่วมกับดัชนีทั่วโลกที่ฟื้นตัว แนวต้านต่อไปอยู่บริเวณ 1512-1540 @ 0.618 fib จาก all time high ผมยังคง Bias ขึ้นต่อครับ แต่ในเร็วๆนี้คงเห็นการย่อตัว แต่ผมคิดว่าคงไม่ลึก มาดู Emerging market index กันบ้าง จากบทวิเคราะห์เดือนที่แล้ว () ที่มองว่า Emerging market โดยรวมจะ sideway ในรูปแบบ 3 เหลี่ยม ตอนนี้มาตามที่คาดครับ ปัจจุบันอยู่ในรูปแบบนี้ หากเป็นแบบนี้ มีโอกาสสูงมากที่ set เราจะมี upside อีกเยอะ ตามโครงสร้างของ EEM มาดู Currency จากบทวิเคราะห์เดือนที่แล้ว Dollar index ได้ทำการ breakdown สอดคล้องกับการทำ QE และการคาดการณ์ว่า อเมริกาจะเข้าสู่ภาวะ เงินเฟ้อ hyperinflation ตอนนี้เรามี 5 wave ลงมา ตอนนี้คงจะเห็นการดีดกลับในระยะสั้นในรูปแบบ 3 wave ก่อนจะลงต่อ สิ่งที่อาจเกิดขึ้นคือ หุ้นกลุ่มธนาคารอาจจะมีการย่อตัวลง เนื่องจาก dollar ที่แข็ง ทำให้บาทอ่อนค่าแบบ relative ส่งผลลบต่อหุ้นธนาคารไทยในระยะสั้น เมื่อเงิน USD จะอ่อนค่าลง ทำให้การลงทุนใน emerging market รวมถึงตลาดหุ้นไทย มีความน่าสนใจเนื่องจากโอกาสในการทำกำไรจากหุ้น + ค่าเงินบาทที่จะแข็งขึ้น ต่างชาติอาจจะเริ่มเข้ามาลงทุนในไทย ทองคำ หากบทวิเคราะห์ก่อนหน้าของผมถูก (ซึ่งตอนนี้ก้ลงมาตามที่คิดพอสมควร ) ทองจะเจอ "Technical correction" เพราะสุดท้ายแล้วในอนาคตเมื่อเกิด hyperinflation ทองจะมีค่าแน่นอน แต่ใน short term การเจอ technical correction เพื่อนำเงินไปลงทุนในหุ้นก่อนในช่วงนี้ เป็นเรื่องปกติ เมื่อทองคำ และ USD ที่เป็น safe haven asset ทั้งคู่ถูกขาย อีกทั้งพันธบัตร เป็นหลักฐานสนับสนุนว่า ตลาดหุ้น ทั่วโลกจะฟื้นตัว สำหรับ SET index เป้าระยะกลางคือ 2700 แต่ก่อนหน้าเราคงต้องมี technical correction ก่อน แนวต้านสำคัญคือ 1500-1600 ต้องรอดูกันต่อไปครับ เพิ่มขึ้นโดย UNRPPที่อัปเดต: 222220