BTC - การหาแนวโน้มการกลับตัวจาก TD Sequential ต่อเนื่องจาก Idea ที่แล้วนะครับ พี่ผมเคยเกริ่นเอาไว้ในเรื่องการใช้งาน indicator ที่เป็นการบ่งบอกถึง "แนวโน้ม" ในการกลับตัวอย่าง TD Sequential
ซึ่งเป็น Free Indicator ที่ดีและมีประโยชน์มากๆ ตัวนึงในกระดานนี้
ดูเนื้อหาจาก Clip แล้วผมขออนุญาตสรุปเอาไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ
- TD Sequential คือการเคลื่อนที่ต่อเนื่องกัน "9" แท่งในทิศทางเดียวกัน
- การเคลื่อนที่ขึ้นต่อเนื่อง เมื่อครบ 9 แท่ง จะบ่งบอกถึงสภาพการอ่อนแรงลงในขาขึ้น ในทางกลับกัน 9 แท่งลงติดกันก็จะบ่งบอกถึงการอ่อนแรงในการลง
- การนับ 9 แท่งต่อเนื่องนี้เราเรียกว่าเป็น phase "Setup" (ซึ่งการ Countdown จะยังไม่อธิบายเพราะ ตลาด react กับการ Setup ดีมากพออยู่แล้ว)
- คำว่าเคลื่อนที่ขึ้น 9 แท่งต่อเนื่อง ให้พิจารณา "ราคาปิด" ที่ต้องเหนือกว่า "ราคาปิด" ของ 4 แท่งก่อนหน้า
- การเกิด Perfect Sell Signal คือการที่ "High Price" ของแท่งที่ 8\9 เหนือกว่า "High Price" ของแท่งที่ 6\7
- การเกิด Sell or Buy signal จาก TD Seq. ไม่ใช่เป็นการบอกจุดกลับตัว แต่เป็นการบอก แนวโน้ม ที่อาจจะเกิดการกลับตัว
- การเข้าซื้อต้องรอให้เกิดการ swing ที่ประกอบไปด้วยแท่งเทียน 2-3 แท่งก่อนเท่านั้น ไม่ใช่ซื้อ ณ แท่งที่ 9
- การเข้าซื้อสามารถพิจารณาสภาพ Bull\Bear จาก TF ย่อยเป็นการประกอบได้
ทั้งนี้ขอบคุณ พี่ม้าเฉียวดูหุ้น ที่เคยแชร์ความรู้ indicator TD Seq. นี้มาในการเทรดหุ้นนะครับ
X-indicator
วิธีใช้ Session Volume HD เพื่อศึกษาราคาและปริมาณการซื้อขายSession Volume HD ถูกสร้างขึ้นเพื่อเพิ่มระดับรายละเอียดและความแม่นยำใหม่ในการศึกษาราคาและปริมาณการซื้อขายของแต่ละเซสชัน Session Volume HD จะปรับแบบไดนามิกเพื่อแสดงข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อคุณซูมเข้าและออกจากแผนภูมิ
ให้คิดว่า Session Volume HD เป็นเหมือนแว่นขยายสำหรับศึกษาปริมาณการซื้อขายและราคา ระดับราคาใดที่ดึงดูดปริมาณการซื้อขายมากที่สุด? สิ่งนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรเมื่อเราซูมเข้าหรือออกจากช่วงการซื้อขายที่เฉพาะเจาะจง? ด้วย Session Volume HD ยิ่งคุณซูมมากเท่าไหร่คุณก็จะยิ่งเห็นรายละเอียดเกี่ยวกับราคาและปริมาณการซื้อขายสำหรับวันซื้อขายที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น มันเป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบสำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุนที่ซูมเข้าและออกและเปลี่ยนกรอบเวลาของกราฟอย่างรวดเร็ว
ในตัวอย่างข้างต้น เรากำลังดูแผนภูมิสองรายการของ Tesla ที่ตั้งค่ากรอบเวลาและความละเอียดต่างกัน คุณเห็นความแตกต่างระหว่าง Volume Profiles ที่แสดงในแต่ละแผนภูมิหรือไม่? แผนภูมิทางด้านซ้ายคือแผนภูมิรายวันย้อนหลังไปถึงเดือนพฤศจิกายน แผนภูมิทางด้านขวาคือแผนภูมิราย 65 นาทีที่ซูมเข้าในช่วงสองสามวันสุดท้ายของการซื้อขาย แผนภูมิทั้งสองใช้ Session Volume HD เพื่อแสดงการวิเคราะห์ Volume Profiles แต่ทว่าแต่ละแผนภูมิจะแสดงรายละเอียดในระดับที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเพราะเครื่องมือ Session Volume HD ได้รับการปรับแบบไดนามิกเมื่อเราซูมเข้าหรือออก กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเมื่อการซูมเพิ่มขึ้นระดับ volume profile จะแสดงเพิ่มมากขึ้น
เมื่อคุณเริ่มเข้าใจและใช้ Session Volume HD สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าเครื่องมือนี้สามารถปรับแต่งตามความต้องการและการสังเกตของคุณได้ เปิดการตั้งค่าเพื่อเริ่มต้น เทรดเดอร์และนักลงทุนทุกคนมีวิธีการของตนเองและการตั้งค่าเหล่านี้จะช่วยให้คุณสร้างรูปแบบการวิจัยที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณเอง:
Point of Control (POC) - ระดับราคาสำหรับช่วงเวลาที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด เส้นสีแดงที่แสดงบนทั้งสองแผนภูมิภายในโซน Volume Profile แต่ละโซน
Up Volume - กำหนดสีสำหรับ Up Volume หรือตำแหน่งที่เกิดการซื้อและราคาเพิ่มสูงขึ้น
Down Volume - กำหนดสีสำหรับ Down Volume หรือตำแหน่งที่เกิดการขายและราคาลดลง
Value Area Up - กำหนดสีของ Value Area Up หรือตำแหน่งที่การซื้อเกิดขึ้นในโซนปริมาณการซื้อขายสูง เช่น 70% ของปริมาณซื้อขายทั้งหมด
Value Area Down - กำหนดสีของ Value Area Down หรือตำแหน่งที่การขายเกิดขึ้นในโซนปริมาณการซื้อขายสูง เช่น 70% ของปริมาณซื้อขายทั้งหมด
Profile High - ระดับราคาที่สูงที่สุดที่ไปถึงในช่วงเวลาที่กำหนด
Profile Low - ระดับราคาที่ต่ำที่สุดที่ไปถึงในช่วงเวลาที่กำหนด
Value Area (VA) - ช่วงของระดับราคาที่มีการซื้อขายเป็นเปอร์เซ็นต์ตามที่ระบุ ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมดในช่วงเวลานั้น โดยปกติเปอร์เซ็นต์นี้จะกำหนดไว้ที่ 70% อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเทรดเดอร์แต่ละท่าน
Value Area High (VAH) - ระดับราคาสูงสุดภายในพื้นที่มูลค่านั้น
Value Area Low (VAL) - ระดับราคาต่ำสุดภายในพื้นที่มูลค่านั้น
เราหวังว่าคำแนะนำนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงพลังของ Session Volume HD และเครื่องมือ Volume Profile อื่นๆ ที่สำคัญเราหวังว่าจะช่วยให้คุณเข้าใจคุณสมบัติ การปรับแต่งและฟังก์ชันการทำงานทั้งหมดที่มาพร้อมกับคุณสมบัติเหล่านี้ Session Volume HD เป็นหนึ่งในเครื่องมือ Volume Profile ที่มีให้สำหรับคุณ และจะมีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อซูมเข้าและออกจากกราฟ เปลี่ยนกรอบเวลา และค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมขณะที่คุณศึกษาช่วงการซื้อขายเฉพาะใดๆ
ขอบคุณที่อ่านและกรุณาแสดงความคิดเห็นของท่านด้านล่างนี้ หากคุณต้องการดูเครื่องมือหรือคุณสมบัติ Volume Profile เพิ่มเติม - เราต้องการทราบข้อมูลเหล่านั้น! เพราะเราอาจสร้างมันเพื่อคุณ
วิธีใช้เครื่องมือวาดภาพใหม่ Fixed Range Volume ProfileVolume Profiles นั้นมีประโยชน์ในการทำความเข้าใจอุปสงค์, อุปทาน และสภาพคล่องโดยรวม เครื่องมือวอลุ่มโปรไฟล์ทำให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มของปริมาณการซื้อขายในระดับราคาและช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจงได้ เครื่องมือวาดภาพใหม่ของเราที่เรียกว่า Fixed Range Volume Profile ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ทุกคนสามารถศึกษาแนวโน้มของวอลุ่มบนแผนภูมิของตนได้
นี่คือวิธีที่คุณสามารถเริ่มใช้เครื่องมือวาดภาพใหม่ Fixed Range Volume Profile:
1. ไปที่ด้านซ้ายของแผนภูมิของคุณแล้วคลิกเครื่องมือคาดการณ์และการวัด นี่คือที่เดียวกับที่คุณสามารถค้นหาช่วงราคาหรือเครื่องมือ Long / Short
2. เลื่อนลงไปและเลือก Fixed Range Volume Profile
3. เมื่อคุณเลือกเครื่องมือแล้วให้ค้นหาและคลิกลงบนพื้นที่ของแผนภูมิที่คุณต้องการศึกษา คลิกจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด ในตัวอย่างนี้เรากำลังแสดง Fixed Range Volume Profile สำหรับ BTCUSD จากจุดสูงสุดตลอดกาลจนถึงวันนี้
การทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการอ่าน Fixed Range Volume Profile เป็นสิ่งสำคัญ เมื่อคุณวาด Fixed Range Volume Profile ครั้งแรกของคุณคุณจะเห็นสิ่งต่อไปนี้:
• เส้นสีแดง = จุดควบคุมหรือระดับราคาที่มีปริมาณมากที่สุด
• แถวสีเหลืองและสีน้ำเงิน = ปริมาณที่เพิ่มขึ้นและลดลงสำหรับแต่ละระดับราคา
• พื้นที่แรเงาสีน้ำเงิน = พื้นที่ที่เลือก volume profile ที่กำลังแสดงผลอยู่
โปรดทราบว่าคุณสามารถปรับการตั้งค่าของ Fixed Range Volume Profile ได้ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์, ความรู้สึก และการคำนวณได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเพิ่มจุดควบคุมที่กำลังพัฒนา, ปรับสีของพื้นที่แรเงาและเปลี่ยนขนาดของแถวโวลุ่ม ความเป็นไปได้นั้นไม่มีที่สิ้นสุดและขึ้นอยู่กับคุณที่จะสร้างรูปลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับ Fixed Range Volume Profile ของคุณเอง
เราหวังว่าคุณจะสนุกกับเครื่องมือวาดภาพใหม่นี้ และเราหวังว่าจะได้เห็นวิธีการใช้งานของคุณ เราอยู่ในภารกิจที่จะช่วยเหลือนักลงทุนและเทรดเดอร์ให้ได้มากที่สุด และเราเชื่อว่าเครื่องมือเช่นนี้สามารถทำได้ มันสามารถใช้งานได้ฟรีและเปิดให้ใช้งานสำหรับทุกคน
หากคุณมีคำถามหรือข้อเสนอแนะโปรดเขียนไว้ในความคิดเห็นด้านล่าง หากคุณยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือนี้เราขอแนะนำให้คุณทดลองมันทันทีและเริ่มการทดลอง วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการเรียนรู้ คือลองใช้เครื่องมือนั้นด้วยตัวคุณเอง
การใช้งานอินดิเคเตอร์ Visible Range หรือ Volume Profileการใช้งานอินดิเคเตอร์ Visible Range หรือ Volume Profile
อินดี้ตัวนี้ใช้ในการดูว่านักลงทุนส่วนใหญ่ "ติดหุ้น" ในราคาไหนกันบ้าง
ซึ่งอาจนำมาตีความว่าเป็น "แนวต้าน" ของหุ้นก็ได้
หมายเหตุ การตีความเป็นไปตามทฤษฏีเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำเพื่อซื้อหรือขายหุ้นตัวใดตัวนึงแต่อย่างใด
การใช้อินดิเคเตอร์ Trend Ribbon คู่กับ EMA 50 จับจังหวะ ซื้อ ขายหากแท่งเทียนอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EMA 50 วัน (แนวโน้มขาลง)
จุดที่แท่งเทียนเริ่มหลุด "ต่ำกว่า" เส้น EMA 50 >> บ่งบอกถึง "จุดขาย"
หากแท่งเทียนอยู่ "เหนือ" เส้นค่าเฉลี่ยนเคลื่อนที่ EMA 50 วัน (แนวโน้มขาขึ้น)
จุดที่แท่งเทียนเริ่มยืน "เหนือ" เส้น EMA 50 >> บ่งบอก "จุดซื้อ"
แถบ Ribbon จะช่วยยืนยัน "จุดซื้อ" เมื่อมีสัญญาณ "Long" เกิดขึ้น
และ "จุดขาย" คือจุดที่มีสัญญาณ "Short" เกิดขึ้น
หรือถึงคราวหมุนเวียนมาเล่น "กลุ่มแบงก์" 12 สค 63หากมือใหม่ต้องการทราบ "จุดเข้าซื้อ" หรือ "จุดขาย" ก็สามารถใช้อินดิเคเตอร์ MACD ได้
และกลุ่มธนาคารเมื่อวานนี้มีสัญญาณ MACD เกิด Golden Cross แท่งสีแดงได้เปลี่ยนเป็น "แท่งสีเขียว" แล้ว
นักลงทุนสามารถ "แบ่งไม้" เข้าซื้อได้ อาทิ ต้องการสะสมหุ้น KBank 1000 หุ้น ก็อาจทยอยเข้าซื้อที่ละ 500 + 500
หรือ 250+250+250+250 ก็ได้ เพื่อทำการเฉลี่ยต้นทุน และป้องกันกรณีผิดทางหรือเกิดการผันผวนเนื่องจากปัจจัยภายนอกต่างๆ
หมายเหตุ: Indicator ทุกตัวมีความแม่นยำประมาณ 50-70% เท่านั้น ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้