X-indicator
หรือถึงคราวหมุนเวียนมาเล่น "กลุ่มแบงก์" 12 สค 63หากมือใหม่ต้องการทราบ "จุดเข้าซื้อ" หรือ "จุดขาย" ก็สามารถใช้อินดิเคเตอร์ MACD ได้
และกลุ่มธนาคารเมื่อวานนี้มีสัญญาณ MACD เกิด Golden Cross แท่งสีแดงได้เปลี่ยนเป็น "แท่งสีเขียว" แล้ว
นักลงทุนสามารถ "แบ่งไม้" เข้าซื้อได้ อาทิ ต้องการสะสมหุ้น KBank 1000 หุ้น ก็อาจทยอยเข้าซื้อที่ละ 500 + 500
หรือ 250+250+250+250 ก็ได้ เพื่อทำการเฉลี่ยต้นทุน และป้องกันกรณีผิดทางหรือเกิดการผันผวนเนื่องจากปัจจัยภายนอกต่างๆ
หมายเหตุ: Indicator ทุกตัวมีความแม่นยำประมาณ 50-70% เท่านั้น ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้
การใช้้ EMA เส้นค่าเฉลี่ยในการหา จุดซื้อ/จุดขาย Level: Beginnerเส้นค่าเฉลี่ย (Moving Average)
เราสามารถใช้เส้น MA (ผมเลือกใช้ EMA: Moving Average Exponential) เพียง 2 เส้น นั้นคือ EMA5 (เส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน) และ EMA25 (เส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน) ในหาจุดซื้อจุดขายได้ดังนี้
หาก EMA5 ตัดขึ้น เส้น EMA25 (แท่งเทียนอยู่ เหนือเส้น EMA25 ) เป็นแนวโน้ม "ขาขึ้น" จุดตัดที่เกิดขึ้นอาจพิจารณาว่าเป็น "จุดเข้าซื้อ"
หาก EMA5 ตัดลงเส้น EMA25 (แท่งเทียนอยู่ ใต้เส้น EMA25 ) เป็นแนวโน้ม "ขาลง" จุดตัดที่เกิดขึ้นอาจพิจารณาว่าเป็น "จุดขาย" ก็ได้
การใช้เส้น RSI ในการหา จุดซื้อ และ จุดขายการใช้เส้น RSI ในการหา จุดซื้อ และ จุดขาย
เส้น RSI สามารถนำมาใช้จับจังหวะการเข้าซื้อหุ้นได้โดยให้สังเกต 2 ตำแหน่งที่สำคัญคือ เมื่อเส้น RSI เข้าใกล้หรือต่ำกว่าเส้น 30 จะเกิดภาวะ OverSold (แพนิคเซลล์ / ขายแบบเทกระจาด) ซึ่งสามารถระบุเป็นจุด "เข้าซื้อ" ได้
ขณะเดียวกัน หากเส้น RSI อยู่เหนือเส้น 70 จะเกิดภาวะ OverBought (เข้าเขต ซื้อมากเกินไป เพราะกลัวตกรถ) ก็สามารถเป็น "จุดขายทำกำไร" ได้เช่นกัน
การบริหารความเสี่ยงในการเทรด Forex ตามระบบครับการบริหารความเสี่ยงตามระบบผมจะเป็นตามความคิดส่วนตัวนะครับ ไม่มีการเบิ้ล lot ตั้ง SL จุดเดียว ไม่ overtrade ถ้าคุณทำได้ก็จะมีเงินทุนไม่มีวันหมดครับ
(สนใจศึกษาระบบเทรดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่แชทส่วนตัวนะครับ ผมจะสอนตั้งแต่เริ่มต้นการเทรด Forex มาจนถึงระบบเทรดแบบ Swing trade ที่ผมใช้ในการวิเคราะห์ครับ จะเป็นการสอนสดสามารถถามตอบแลกเปลี่ยนความรู้ได้ครับ สอบถามเพิ่มเติมเรื่องเวลาเรียนได้ที่แชทส่วนตัวนะครับ ส่วนเรื่องค่าเรียนขึ้นอยู่กับผู้เรียนพิจารณาเองเลยครับ)
การเข้าทำกำไร H&S ที่ไหล่ขวาการหาจุดเข้าทำกำไร H&S นั้นจริงๆจะทำการเข้าเทรดเมื่อราคาหลุด low เดิม แล้วตั้ง SL ที่ ไหล่ขวา แต่ผมมีการเข้าออเดอร์ที่ไหล่ขวาแล้วตั้ง SL ที่ หัวของแพทเทิร์นนี้โดยจะเผื่อระยะ SL ไว้ไม่เกิน 50 จุด หรือ 5 Pips นั่นเอง ซึ่งเราจะมีโอกาสเก็บทำกำไรได้มากกว่าโดยมี TP ที่ Low เดิม ถ้าตามระบบจริงๆจะมีจุดเข้า sell เพียง 2 จุด คือที่ราคา 1.24900 และ 1.25627 แต่ว่าผมจะเพิ่มอีก 1 จุด เพื่อให้ระยะ SL นั้นสั้นที่สุด โดยจะเพิ่มจุดเข้าที่ราคา 1.25999 โดยเราจะพิจารณาเข้าตามจุดดังกล่าว โดยอาจจะมี indy สักตัวช่วยในการตัดสินใจเข้าก็ได้ครับ ในที่นี้ผมจะใช้ MACD ประกอบ และผมได้ให้จุดแนวรับไว้เพื่อเป็นการเก็งกำไรสั้นๆ โดยจะเก็บกำไรได้ 300-400 จุด ขึ้นอยู่กับอารมณ์ตลาดครับ
(หากสนใจที่จะศึกษาระบบเทรดเพิ่มเติมก็ทักผ่านแชทส่วนตัวได้เลยครับ)
การหาเส้น Key level หรือ Horizontal กลับตัววิธีการหาเส้น Key level บางครั้งเราอาจจะมองที่ปลายไส้เป็นหลักในทามเฟรมใหญ่ๆ แต่ว่าการหา Key level หรือแนวรับแนวต้านแบบนั้นอาจจะทำให้เราได้ออเดอร์บ้างไม่ได้บ้างเพราะว่าราคาอาจวิ่งขึ้นหรือลงไปก่อน ผมจึงยกตัวอย่างกราฟ USDCAD เพื่อหาเส้น Key level โดยจะพบว่าผมจะให้ความสำคัญกับเส้นที่สัมผัสกับไส้เทียนและราคาปิดราคาเปิดด้วย และผมจะไม่ใช้เส้นที่สัมผัสปลายไส้เทียนยาวๆอย่างเดียวเพื่อตัดสินใจในการเข้าออเดอร์แต่ละครั้ง เพราะเราอาจจะเข้าออเดอร์ไม่ทันหรือตกรถไปเลยก็ได้ ซึ่งตามระบบที่ผมใช้เทรดนั้นก็ใช้เส้น Key level เป็นหลัก + indicator สักตัวเพื่อตัดสินใจในการเทรดไม่จำเป็นต้องเป็น MACD ก็ได้ครับ อาจจะเป็น STO RSI ก็ได้แต่อย่าใช้รวมกันนะครับเดี๋ยวสับสน ถ้าหากเปิดกราฟดูไปทางขวาจะพบว่า Key level เหมาะสมนั้นทำงานได้ดีแค่ไหน ซึ่งกราฟอาจจะชนแล้วเด้งกลับมากหนอยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับอารมณ์ของตลาดแต่ว่าก็มั่นใจได้เลยว่าเมื่อราคามาถึงแล้วมันกลับตัวแน่นอน
EURUSD เหตุผลของการ sellจากกราฟเราจะพบว่าสัญญาณหลักคือการเข้า Buy จาก Harmonic pattern+ MACD ซึ่งผมได้ทำการให้จุด Sell ที่ TP ของ Harmonic ชุดนี้ เพื่อทำกำไรสั้นๆในรอบ swing ซึ่งแต่ละจุด Sell ที่ให้นั้นจะเป็น zone TP ของ Harmonic ซึ่งสามารถเล่นได้เพราะเทรนหลักยังเป็นเทรนลง และสิ่งสำคัญของการสวนรอบ swing ของ Harmonic คือ การ MM ให้ดีถึงแม้จะเข้าที่ไส้แต่ราคาก็ยังกลับมาทดสอบจุด Sell zone 1 เสมอเพราะว่าราคาต้องการที่จะไป Extra TP + อารมณ์ตลาดที่มีแรงขายอ่อนตัวลง แต่ว่าราคาอาจจะลงต่อก็ได้เพราะ H4 เริ่มเกิด Divergent เล็กๆแล้ว ดังนั้นถ้าเราเห็นราคาที่ดีเหมาะแก่การเข้าออเดอร์แล้วก็ควรรู้จักการ MM และทำการบังทุนเมื่อได้กำไร 200-400 จุด โดยถ้าเราทำแบบนี้เป็นนิสัยจะทำให้พอตเราเป็นอมตะเลยทีเดียว
BTC :วิธีป้องกันการเข้า Order แล้วโดนแกว่งมากิน Stop Loss บ่อยๆ ผมได้ยินมาว่า สามเดือนที่ผ่านมา มีบางคนเข้า order แล้วราคาวิ่งมาชน Stop แทบจะทุกครั้ง
ก็เลยไปลองดูว่า ทำไมเขาถึงชน SL ได้ถี่ยิบขนาดนั้นนะ มีปัญหาอะไรหรือป่าว
ก็พบว่า ... อ้อ เขาตั้ง Stop Loss แบบ fix percent จากจุดเข้า ที่ -1.75% เสมอ
ซึ่ง ผมเห็นว่า เคสนี้ น่าสนใจดี ก็เลยเอามาเขียนบทความทิ้งไว้ เผื่อใครเจอปัญหาเดียวกันนี้ จะได้ลองหาวิธีปรับแก้ดูครับ
ก่อนอื่น.. เราต้องเข้าใจ พฤติกรรมของ BTC ก่อน โดยเท่าที่ผมสังเกตุมา มันมักจะทำท่านี้เสมอ
1) การตั้ง Stop ใต้ low หรือ High ก่อนหน้า มักจะไม่รอด ส่วนใหญ่จะโดนลากไปเกี่ยว Stop แล้วดึงกลับเสมอ ( เคสนี้เจอบ่อยมากจริงๆ )
2) การตั้ง Stop ด้วยการ fixed percent โดยที่ไม่ดูการแกว่งนั้น.. ไม่เวิร์ค เพราะเราจะโดนราคาแกว่งมาเข้า stop เสมอ
3) การเดากราฟ แล้วเข้าแบบมั่วๆ ตาม bias ตัวเอง ไม่เวิร์ค ควรมีหลักการ filter trade ด้านที่สวนเทรนออก เพื่อลดความเสี่ยง
แนวทางแก้ไข : ATR Trailing Stop
===========
ในโลกของ indicator มันจะมีเครื่องมืออยู่ตัวนึงที่ชื่อว่า ATR ( Average True Range ) ซึ่งมันคือเครื่องมือที่ใช้วัดความผันผวนของราคา ณ ช่วงเวลาที่มันใช้ ( เช่น ATR(14) เท่ากับการวัดค่าความผันผวนของราคา ย้อนกลับไป 14 แท่ง )
โดยให้เราไปค้น indicator ที่ชื่อว่า inwCoin CDC ATR Trailing Stop Strategy ( หรือกด favorite จากโพสนี้ได้เลย ) ซึ่งตัวนี้ ผมเอา indicator ของ CDC ATR Trailing stop ของ คุณลุงโฉลก มาปรับปรุง เพิ่มเส้นสีเหลืองที่จะเป็นกรอบ ATR อีกด้านเข้าไปในกราฟ เพื่อความสะดวกในการอ่านค่า ATR ครับ
ซึ่งโดยปกติแล้ว ค่าที่เราจะแก้ ก็คือ "Slow ATR Multiplier" ครับ โดยค่านี้จะเป็นตัวคูณ สำหรับความกว้างของ ATR ที่เราจะใช้บอกเทรน .. โดยปกติแล้ว สำหรับ Bitcoin ผมแนะนำให้ใช้ค่า 2.3 ครับ
ปกติแล้ว 1 ATR จะเท่ากับ ระยะการวิ่งของราคาตั้งแต่ยอดไปถึงก้น ณ ช่วงเวลาที่ระบุ ซึ่ง 2 ATR ก็จะเท่ากับกรอบราคานี้ คูณ 2 นั่นเอง
วิธีใช้ ATR เพื่อหาจุด Stop Loss
=================
โดยหลักการแรกที่ต้องยึดถือก็คือ.. เราจะไม่ "เทรดสวนเทรน" เด็ดขาด เพื่อลดความเสี่ยง
โดยเทรน และจุด SL + Target ก็ ดูง่ายๆ ดังนี้ ( อันนี้ดูเร็วๆ ไม่ได้ทำ backtest นะครับ )
----------
โซนแดง = Short only ไม่ long
จังหวะ short = ดีดขึ้นเข้าใกล้เส้นแดงด้านบน ( หรือ EMA 18 )
Stop Short = เส้นแดงด้านบน
Target = เส้นเหลืองด้านล่าง
----------
โซนเขียว = long only ( ไม่ short )
จังหวะ long = ย่อเข้ามาใกล้เส้นเขียวด้านล่าง หรือ EMA 18
Stop Long = เส้นเขียวด้านล่าง
Target = วิ่งไปชนเส้นเหลืองด้านบน
จากการไล่ดูด้วยตา จะเห็นได้ว่า ส่วนใหญ่ เราจะไม่ค่อยได้วิ่งมาชนกับ ATR ด้านล่าง หรือด้านบน เท่าไหร่
เพราะเมื่อไหร่ที่มันวิ่งขึ้นมาจนขึ้นไปเหนือเส้นด้านล้างหรือด้านบนได้ .. เทรนมันก็จะเปลี่ยนทันที ( ไม่เชื่อไปลองไล่ดูกราฟเอาเองนะ )
ซึ่ง.. ถ้าใคร Advance กว่านั้น ก็สามารถใช้ ATR ในการหาจุด Stop Loss เพื่อคำนวณ Position Size ที่เหมาะสมกับ Risk ที่เราต้องการได้อีกด้วยครับ ( ดีกว่าไปตั้งใต้ low )
โดยจะเห็นว่า บางที Stop จาก ATR มันจะลึกมากๆ จากจุดเข้า ดังนั้น เราจึงไม่สามารถมาเทรดแบบ All-in ได้ หรือใช้ leverage ได้เลยครับ ( ถ้าจะใช้ก็ได้ แต่ว่า ให้ดึงเงินบางส่วน สัก 1-2% ของกำไร ออกมาจัด high leverage เท่านั้น แล้วคำนวณจุดล้างให้อยู่ใต้ ATR พอดี )
ด้วยวิธีนี้ เราก็จะ ไม่โดน Stop บ่อยจนเกินไป และ ถ้าเราใช้ ATR จริงๆ จังๆ ในระยะยาว พอร์ตเราก็มีโอกาสโตขึ้นได้ด้วยครับ
ก็เอามาแบ่งปันแนวทาง ใครเห็นว่ามีประโยชน์ก็ลองไปประยุกต์ใช้ดูนะครับ
บทวิเคราะห์ทองคำประจำวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2562ทิศทางทองคำเมื่อวันศุกที่ผ่านมาได้ทำการขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 0.5 FIBO ที่ราคา 1472 แต่ไม่สามารถยืนเหนือและจบปิดแท่งราคาช่วงนี้ได้ แต่ภาพรวมสำคัญที่สุดในตอนนี้ยังส่งผลให้ทองคำมีโอกาสปรับตัวร่วงลงไปถึงแนวรับระดับ S2 1436 ได้ เพราะหลังจากมีข่าวช่วงดึกเกี่ยวกับข้อตกลงของจีนที่เหมือนจะออกมาในเชิงบวกส่งผลให้ทองคำทะลุแนวรับ S21456 ลงไปได้รอบนึงแล้วแต่ยังยืนปิดจบไม่ได้ และ ที่สำคัญในช่วงราคา 1472 ได้เกิด Pattern Falling Three ซึ่งมีโอกาสทำให้แท่งวันแท่งที่ 3 ปิดต่ำกว่าราคาเดิมในวันศุกร์ที่ผ่านมา
สรุปง่ายๆ ผมมองว่าทองคำยังมีโอกาสลงต่อไปมากกว่า 60% และ มีโอกาสขึ้นกลับไปเทสแนวต้านระดับ 1472 อีกครั้ง โอกาส 40% ในเมื่อสงครามการค้าในช่วงนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเราก็คงต้องเทรดตามเทรนระยะสั้นกันไปก่อนน้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวางเลยครับ
จุดเข้าซื้อรอจังหวะกลับตัวขึ้น และ ขายทำกำไรในจังหวะไหลกลับมาทดสอบที่แนวรับ
ช่องคู่ขนานช่วยชีวิต นรกกับสวรรค์ห่างกันนิดเดียว : BHเล่าประสบการณ์ตรง หุ้น BH มีสัญญาณซื้อแบบเทรดดิ้ง
คือทำทรงยก Low ยก High ในใจก็แอบเสียวว่าเป็น Corrective เท่านั้น
แต่ก็ลอง Bet ดูซื้อที่ 173.00 บาท
จากนั้นลองดีเส้นคู่ขนานเอาไว้ ถ้าเบรคขึ้นแสดงว่าเราน่าจะถูกทาง
หุ้น BH จะเป็นการกลับตัวที่สวย อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
คือการเบรคลง ซึ่งนั่นคือ สัญญาณเตือนชั้นดีให้เราทำการขายออกมาครับ
โชคดีของผมที่การหลุดนั้นเป็นการทะลุแบบเบา ๆ ค่อย ๆ ลงอยู่เกือบ 1 สัปดาห์
ผมตัดขาดทุนไปที่ 167.00 บาท หรือ ราว 3.4%
"
หากผมไม่เชื่อสัญญาณช่องคู่ขนานนี้ ปัจจุบันราคาร่วงลงมาแล้วกว่า 25%
ช่องคู่ขนานได้ช่วยเอาไว้ได้ นรกกับสวรรค์ห่างกันนิดเดียว
ยอมรับว่าโชคช่วยด้วย แต่ความรู้ก็สำคัญครับผม
Gold trading diary - September
Open long position ที่ 1463 เพราะว่ามี PA buy เหนือ 1461 ที่ C นับจาก 1535-1459 = A นับจาก 1557-1485
หากไม่ถูก SL ที่ 1459 แสดงว่า correction ของเวฟ 4 จบแล้ว และกำลังจะขึ้นไป new high
จะออกเมื่อ
1. ถูก SL
2. มี PA ขายบริเวณ 1500-1508
Risk 4 reward 37-45
ถือต่อถ้าทะลุ 1530 ไป TP แรกที่ 1590
Risk 4 reward 127
XAU/USD - บันทึกการเทรด20-9-2019
Open long position บริเวณ 1500 เนื่องจากวิเคราะห์ว่าทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นในลักษณะ 5 เวฟ
โดยเปิด buy เพราะว่าจาก 1483 ขึ้นมา 1506 นับได้ 5 wave จึงรอให้ย่อมา 3 เวฟที่ 1H TF
แผนคือ หากราคาปิดเหนือ 1500 จะ go long
เป้าแรก 1532 ( R:R 1:29)
เป้าสอง 1547 (R:R 1:11)
ตอนนี้บวกขึ้นมาตามแผน