วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 28 กันยายน 2564ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยต้อนรับสัปดาห์ใหม่
ทองคำตลาดนิวยอร์ก COMEX (Commondity Exchange) ปิดบวก 0.30 ดอลลาร์ หรือ +0.02% ปิดที่ระดับราคา 1,752 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ความผันผวนทองคำที่ปรับตัวขึ้นในช่วงแรกก่อนที่จะเกิดการแข็งค่าของดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ที่พุ่งขึ้นสกัดช่วงบวกของทองคำ
ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นโดยได้รับปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี โดยดัชนีดอลลาร์ปรับเพิ่มขึ้น 0.06% แตะที่ระดับ 93.3812 การปรับขึ้นของดอลลาร์แข็งค่ารับการพุ่งของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ดีดขึ้นเหนือระดับ 1.5% เมื่อคืนนี้ นับเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. ซึ่งเกิดจากการที่มีปัจจัยความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ รวมทั้งความวิตกต่อการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
นักลงทุนยังคงเฝ้าติดตามการกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมธิการการธนาคารประจำวุฒิสมาชิกของนายเจอโรม พาวเวล และนางเจเน็ต เยเลน ซึ่งทั้งสองคนจะแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และความสำคัญของการใช้นโยบายการเงินและการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ก็ยังคงมีเรื่องที่เกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ รวมทั้งร่างกฎหมายโครงสร้างพี้นฐานของสหรัฐวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์และสุดท้ายก็เรื่องของเพดานหนี้ของสหรัฐ
เมื่อคืนนี้การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ “ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ” ก็เป็นอีกปัจจัยหนุนดอลลาร์เช่นกัน โดยประกาศค่าตัวเลขออกมาที่ 1.8% ในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.7%
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
ทองคำวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,762-1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นเหนือแนวต้าน 1,762 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจมีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวต่ำในแนวกรอบราคาเดิม และหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่าแนวรับ 1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีโอกาสสูงที่ราคาทองคำจะปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 1,738 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้เช่นกัน
============
Signal
============
สัญญาณเทรดที่ระบุไปเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2564 จุดเข้า 1,762 ดอลลาร์ต่อออนซ์ยังคงสามารถดำเนินการได้ต่อ ซึ่งเมื่อวานสามารถทำกำไรที่ระดับ TP2 ได้ถึงสองรอบ หากราคาทองคำยังไม่ปรับตัวขึ้สูงกว่า 1,752 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็ยังคงสถานะถือไว้ลุ้น TP2 และ TP3 อีกรอบ แต่หากปรับตัวขึ้นสูงแนะนำให้ทยอยปิดกำไรบางส่วนออกไปก่อน
สัญญาณเทรดชุดแรกระบุเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2564 จุดเข้า 1,769 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยกเลิกสัญญาณเทรด
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณ 1,745-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถตรงตัวได้ในบริเวณดังกล่าว อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1768 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,747-1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position: หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,762-1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว พิจารณาปิดทำกำไรระยะสั้นได้ที่บริเวณ 1,747-1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำขยับสูงกว่า 1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Resistance : 1762 / 1776 / 1800
-------------------------------------------
Support : 1747 / 1738/ 1728
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ขายออก -3.20 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,750.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 990.32 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 11
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -11.40 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Fibonacci Retracement
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 22 กันยายน 2564ทองคำนิวยอร์กปิดบวก 14.4 ดอลลาร์ เหตุวิกฤตเอเวอร์แกรนด์สร้างแรงหนุนเข้าซื้อทองคำ
ทองคำเมื่อคืนนี้ปิดบวกติดต่อกัน 2 วัน โดยมีแรงหนุนจากการเข้าซื้อทองคำของนักลงทุนจากความกังวลวิกฤตหนี้สินของบริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป
ตลาดทองคำ COMEX (Commondity Exchange) สัญญาส่งมองเดือน ธ.ค. ปิดเพิ่มขึ้นอีก 14.4 ดอลลาร์ หรือ 0.82% ปิดที่ระดับ 1,778.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์
การเข้าซื้อทองคำของนักลงทุนยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกล่างความกังวลการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโลก ล่าสุดนั้นทางแบงค์ ออฟ อเมริกาได้ปรับลดคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ GDP ของจีนลงเหลือ 8% จากที่คาดการณ์เดิมไว้ที่ 8.3% เนื่องจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ของเอเวอร์แกรนด์ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง
ทางด้านเอส แอนด์ พี โกลบอล เรทติ้ง ยังได้คาดการณ์ว่ารัฐบาลจีนจะไม่ให้การช่วยเหลือโดยตรงแก่เอเวอร์แกรนด์ และเอเวอร์แกรนด์เองคงจะมีการผิดนัดชำระหนี้การจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 งวดในเดือนนี้
วันที่ 23 กันยายน กำหนดจ่ายดอกเบี้ย 83.5 ล้านดอลลาร์ของหุ้นกู้ที่ครบอายุเดือนมี.ค. 2565
วันที่ 29 กันยายน กำหนดจ่ายดอกเบี้ย 47.5 ล้านดอลลาร์ของหุ้นกู้ท่ีครบอายุเดือน มี.ค. 2567
ในประเด็นนี้จึงทำให้มีการเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยในระยะสั้นอีกครั้ง ทั้งนี้ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์สหรัฐเล็กน้อย เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ การอ่อนค่าของดอลลาร์เป็นการอ่อนค่าก่อนการรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้หรือเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้อ่อนค่าลดลง 0.08% แตะที่ระดับ 93.2047
สำหรับการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นั้นอาจมีการประกาศปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรหรือ QE ในการประชุมครั้งนี้ นักลงทุนยังเฝ้าติดตามคำแถลงของนายเจอโรม ประธานเฟดรวมทั้งรายงาน “Dot plot” ซึ่นเป็นการคาดการณ์ในอนาคตของกรรมการเฟดแต่ละคน
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
การปรับขึ้นทองคำนั้นมาจากการเข้าซื้อเหตุเอเวอร์แกรนด์ จึงประเมินว่าทองคำไม่ได้ปรับขึ้นตามปัจจัยชี้นำตลาดขณะนี้ในระยะยาว จึงไม่ควรเน้นการสะสมเข้าซื้อมากเกินไปในเวลานี้ หากวันนี้ราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจมีการเทขายทำกำไรจากการเข้าซื้อทองคำสองวันก่อนหน้า ประเมินแนวรับบริเวณ 1,760-1745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้เฝ้าติดตามผลการประชุมของเฟดให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะตัดสินใจการลงทุนต่อไปในตลาดทองคำ
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : รอซื้อทองคำหากราคาทองคำย่อลงสู่ระดับ 1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้วไม่สามารถผ่านระดับราคานี้ลงไปได้ ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่าน 1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านขึ้นไปได้นั้นให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position: หากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับขึ้นเหนือระดับ 1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรบริเวณ 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากราคาไม่สามารถผ่านแนวรับนี้ลงไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาปรับตัวขึ้นสูงกว่า 1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Resistance : 1783 / 1793 / 1806
-------------------------------------------
Support : 1759 / 1745 / 1731
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ขายออกทองคำ -0.87 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,774.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 1,000.79 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 8
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -0.93 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 21 กันยายน 2564ตลาดทองคำฟิวเจอร์เมื่อวานนี้ปรับบวก 12.4 ดอลลาร์ เหตุตลาดหุ้นทั่วโลกปั่นปวนยักษใหญ่อสังหาฯ ของจีนผิดนัดชำระหนี้
ตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อวานนี้ปั่นป่วนหนัก จนทำให้ปิดลบกันทุกกระดาน นักลงทุนแห่หนีตายเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เหตุจากการที่มีรายงานเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ของจีน ทำให้ทองคำกลับมาบวกได้อีกครั้งสวนกระแสที่บอกว่าทองคำจะปรับตัวต่ำจากการปรับลดวงเงิน QE ของธนาคารกลางสหรัฐในการประชุมระหว่าง 21-22 กันยายนนี้
ตลาดทองคำ COMEX (Commodity Exchange) สัญญาส่งมองเดือนธ.ค. ปิดบวก 12.4 ดอลลาร์หรือ 0.71% ปิดที่ระดับ 1,763.8 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำกลับมาอยู่ในช่วงผันผวนอีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่าทองคำจะเจอสภาวะกดดันจากการตัดสินใจนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดในช่วงสองสามวันนี้ แต่เมื่อวานนี้ทองคำต้องเจอกับภาวะผันผวนอีกรอบตลอดทั้งวัน เมื่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจีน ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ได้ผิดนัดการชำระหนี้ จึงสร้างความกังวลให้กับตลาดหุ้นทั่วโลก ทำให้มีการเข้าซื้อทองคำเข้ามาอีกรอบเพื่อเป็นหลักประกันความเชื่อในฐานะที่ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
ตลาดหุ้นเอเซียวันนี้ก็เปิดแดนลบกันหมด แต่ในส่วนของเซี่ยงไฮ้คอมฯ วันนี้ปิดทำการ 1 วันเนื่องจากเป็นวันหยุดของประเทศจีนในเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ปัญหาสภาพคล่องของบริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วภูมิภาค ถือเป็นประเด็นร้อนที่เข้ามากลบกระแสของการปรับลดวงเงิน QE ธนาคารกลางสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้เอเวอร์แกรนด์ได้ออกแถลงการณ์ยอมรับวาบริษัทฯ กำลังเผชิญกับปัญหาขาดสภาพคล่อง จนเป็นเหตุให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามนัดหมายที่กำหนด ในขณะที่หนี้ของเอเวอร์แกรนด์มากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 10 ล้านล้านบาท เทียบเท่ากับ 2% ของตัวเลข GDP ของจีน
เอเวอร์แกรนด์มีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 งวดในเดือนนี้ โดยมีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 83.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,780 ล้านบาท ในวันที่ 23 ก.ย.ของหุ้นกู้ที่มีกำหนดครบอายุเดือนมี.ค. 2565 และมีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 47.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,580 ล้านบาท ในวันที่ 29 ก.ย.ของหุ้นกู้ที่ครบอายุเดือนมี.ค. 2567
หากเอเวอร์แกรนด์ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยเมื่อถึงวันกำหนดชำระดังกล่าว ทางบริษัทจะมีเวลาอีก 30 วันในการชำระดอกเบี้ย มิฉะนั้นจะถือว่าบริษัทผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ซึ่งหากเอเวอร์แกรนด์ตกอยู่ในสภาพผิดนัดชำระหนี้ ทางบริษัทจะต้องทำการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งคาดว่านักลงทุนที่เข้าซื้อหุ้นกู้ของเอเวอร์แกรนด์จะได้รับส่วนแบ่งการชำระคืนในสัดส่วนต่ำ
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
วันนี้ตลาดทองคำอาจมีความผันผวนบ้าง แต่วันนี้ตลาดการเงินจีนปิดทำการ 1 วัน ทำให้ประเด็นของจีนได้ลดแรงบางส่วนออกไปได้บ้าง สำหรับวันนี้เราได้ประเมินการเข้าหาจุดซื้อขายในกรอบ ซึ่งก็พอมีระยะความคุ้มค่าต่อความเสี่ยง แต่ในกราฟนั้นเราจะวางกลยุทธรองรับสำหรับสถานการณ์รายงานการประชุมของเฟดที่กำลังเริ่มต้นขึ้นในระหว่างวันที่ 21-22 กันยายน นี้ หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่าน 1,769 ขึ้นไปได้นั้น ก็อาจมีแรงเทขายทำกำไรออกมาจากการเข้าซื้อทองคำไว้เมื่อวานนี้ ซึ่งนักลงทุนอาจเทขายทำกำไรระยะสั้นออกมาอีกรอบ เราอาจอาศัยจังหวะดังกล่าวเข้าทำกำไรระยะสั้นได้เช่นกัน ทั้งนี้หากจะเข้าทำการเสี่ยงขายก็ให้รอราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,769 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : หากราคาทองคำปรับตัวย่อมาในบริเวณแนวรับ 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้รอซื้อทองคำคืนในบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการเข้าทำการเก็งกำไรระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากทองคำยังไม่สามารถผ่าน 1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปิดต่ำกว่า 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position: เมื่อราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,775-1,769 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ที่บริเวณดังกล่าว โดยเน้นการเข้าทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่ระดับ 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้นั้นก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นสูงกว่า 1,775 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Resistance : 1769 / 1783 / 1793
-------------------------------------------
Support : 1745 / 1731 / 1722
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,754.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 1,001.66 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 7
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -0.06 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ตลาดทองคำจันทร์ที่ 20 กันยายน 2564ตลาดทองคำฟิวเจอร์เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาปิดลบ 5.3 ดอลลาร์ เหตุดัชนีดอลลาร์กลับมาแข็งค่าอีกครั้ง
ดอลลาร์กลับมาแข็งค่าอีกครั้งเป็นเหตุกดดันราคาทองคำปิดลบ 5.3 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ระดับ 1,751.4 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำถูกปรับลดมูลค่าลง 2.3% และปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา ทองคำได้ถูกปรับลดลงก่อนที่จะมีการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดในระหว่างวันที่ 21-22 กันยายน ที่จะถึงนี้ และทองคำยังได้โอกาสปรับขึ้นมาเล็กน้อยในค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมาจากรายงานดัชนความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ เพิ่มขึ้นมาสู่ระดับ 71 ในเดือนกันยายน จากระดับ 70.7 ในเดือนสิงหาคม ถือเป็นการเพิ่มขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ผันผวนต่อดอลลาร์ได้ชั่วขณะ
ดัชนีดอลลาร์ได้ขยับแข็งค่าเมื่อเทียกกับ 6 สกุลเงินหลักในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ปิดที่ระดับ 93.246 หรือ +0.380 (+0.41%) ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปิดที่ระดับ 1.365 หรือ +0.026 (+1.94%) การกลับมาแข็งค่าของทั้งสองปัจจัยจึงยังเป็นเหตุผลหลักๆ ของการปรับอ่อนค่าทองคำ
ปัจจัยกระทบต่อทองคำที่นักลงทุนต้องเฝ้าติดตามต่อคือ การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย. นี้ เพื่อติดตามหาสัญญาณบ่งชี้การปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
วันนี้ทองคำไร้ปัจจัยหนุน การเคลื่อนไหวจะเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด ระหว่างราคา 1,769-1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำยังไม่สามารถขยับขึ้นเหนือระดับ Fibo 38.2% (1,769 ดอลลาร์ต่อออนซ์) เราอาจเห็นนักลงทุนเข้าทำการขายทองคำในระยะสั้น แต่เมื่อราคาทองคำลงสู่แนวรับที่เป็นจุดต่ำสุดก่อนหน้าที่ระดับ 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็มักจะมีแรงซื้อเข้ามาในบริเวณดังกล่าวด้วยเช่นกัน แนะนำนักลงทุนระยะสั้นอาจมองหาโอกาสการเข้าซื้อขายได้จากแนวบริเวณดังกล่าว สำหรับนักลงทุนระยะกลางถึงยาวนั้น ควรรอให้มีการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐในระหว่างวันที่ 21-22 กันยายน นี้ผ่านพ้นไปก่อนเพื่อมองหาสัญญาณในการเข้าทำการซื้อขายต่อไป
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : หากราคาทองคำปรับตัวต่ำลงมาบริเวณแนวรับ 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และทรงตัวเหนือบริเวณดังกล่าว อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,769 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position: รอขายทองคำในบริเวณ 1,769 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังไม่สามารถขึ้นยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ โดยให้เสี่ยงเปิด “ขาย” เน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวรับ 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1,769 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Resistance : 1769 / 1783 / 1793
-------------------------------------------
Support : 1745 / 1731 / 1722
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : เข้าซื้อทองคำ 1.74 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,754.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 1,001.66 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 7
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -0.06 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน 2564ตลาดทองคำฟิวเจอร์เมื่อวานนี้หลุด 1,800 ดอลลาร์หลังนักทุนแห่ขายทำกำไร
ทองคำร่วงหลุดต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง หลังนักลงทุนเทขายทองคำเพื่อทำกำไรระยะสั้นจากการปรับขึ้นของทองคำก่อนหน้านี้ โดยสัญญาทองคำตาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 12.10 ดอลลาร์ หรือ 0.67% สู่ระดับ 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำได้ปรับตัวขึ้นก่อนหน้านี้หลังได้รับรายงานตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ นักลงทุนมองว่าแนโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและทำการปรับลดวงเงิน QE นั้นอาจไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ส่งผลให้ดอลล่าร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลง รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ก่อนหน้าได้ขยับขึ้นไปถึง 1.316% แต่ก็ปรับร่วงลงมาอีกครั้ง จึงส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมานั่นเอง
แต่เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาทำให้นักลงทุนได้มีการเทขายทำกำไรจากการที่ทองคำปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ทองคำร่วงหลุด 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเช้านี้ทองคำยังไม่ปรับตัวหลุดแนว Fibo 61.8% ก็ยังพอมีลุ้นการกลับขึ้นมาทดสอบ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ใหม่อีกครั้งได้หรือไม่ สำหรับวันนี้ตัวเลขสำคัญ ๆ ได้แก่ GDP ของนิวซีแลนด์ที่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดย GDP ออกมา 2.8% จากคาดการณ์ 1.5% ทำให้ NZD ปรับตัวขึ้น ส่วนถัดไปคือเวลา 08:30 ตามเวลาประเทศไทยก็จะมีข่าวของออสเตรเลียการเปลี่ยนแปลงการจ้างงาน คาดการณ์ไว้ที่ -70.0K สำหรับข่าวเศรษฐกิจฝั่งสหรัฐที่สำคัญคืนนี้ได้แก่ ยอดขายปลีกพื้นฐาน (Core retail sale) คาดการณ์ -0.1%, จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (รายสัปดาห์) คาดการณ์ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 310,000 คน, ดัชนีภาคการผลิตธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย คาดการณ์ 19.0, และดัชนียอดขายปลีก คาดการณ์ -1.0% โดยจะรายงานเวลา 19:30 น.ตามเวลาประเทศไทย
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
ทองคำกรอบเวลารายชั่วโมงเช้านี้กลับมาอยู่ต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง โดยยังเคลื่อนไหวเหนือระดับ Fibo 61.8% (1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ซึ่งหากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับขึ้นเหนือระดับ Fibo 38.2% (1,798 ดอลลาร์ต่อออนซ์) อาจมีการปล่อยขายทำกำไรจากการปรับขึ้นของทองคำก่อนหน้าอีกรอบ ประเมินแนวรับที่ 1,787 และ 1784 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : หากราคาทองคำยังทรงตัวเหนือบริเวณ Fibo 61.8% (1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์) อาจเสี่ยงเปิด”ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ แต่หากหลุดขึ้นไปได้นั้นก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับต่ำกว่า 1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position: รอขายทองคำที่แนวต้านบริเวณ 1,802-1,798 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวดังกล่าวขึ้นไปได้ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” เน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรบริเวณแนวรับ 1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,802 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Resistance : 1798 / 1802 / 1809
-------------------------------------------
Support : 1792 / 1787 / 1781
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ปล่อยขายทำกำไร -1.75 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,793.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 998.46 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 5
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -3.26 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 25 สิงหาคม 2564ตลาดทองคำนิวยอร์กคืนวานนี้ปิดบวก 2.2 ดอลลาร์ หลังทองคำข้าม 1,800 ดอลลาร์มาได้อีกครั้ง
ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดบวกต่อเนื่องกันเป็นเวลากว่า 3 วันแล้ว สาเหตุจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำจากเหตุความวิตกเกี่ยวกับการกลับมาแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ขณะที่นักลงทุนก็ยังเฝ้าติดตามสถานการณ์การประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในระหว่างวันที่ 26-28 สิงหาคมนี้ เพื่อที่จะเฝ้ามองหาสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายทางการเงินของเฟดต่อไป
ทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมองเดือนธ.ค. ปิดเพิ่มขึ้น 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ราคา 1,808.5 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ยังคงสร้างแรงผลักดันให้ราคาทองคำโดนนักลงทุนเข้าซื้อเก็บอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังเป็นการผันผวนจากการขึ้นลงของดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ด้วยเช่นกัน ซึ่งทองคำได้ถูกปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 1,800 อีกครั้งช่วงเช้ามืดวันนี้หลังตลาดหุ้นสหรัฐ และดัชนีดอลลาร์ต่างพากันปรับขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำกลับมาอยู่ต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง สำหรับดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ปิดราคาที่ระดับ 92.879 ปิดลบ 0.094 ( -0.10%)
ประเมินทางเทคนิคทองคำรายชั่วโมงวันนี้
ทองคำเช้านี้ได้ถูกสกัดช่วงบวกจากเมื่อวานร่วงลงมาต่ำกว่าระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง โดยกรอบรายวันจะเห็นการปฏิเสธราคาบริเวณเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (SMA200) และช่วงดึกของเมื่อวานยังพบเห็นการเกิด Divergence ที่กรอบเวลา 1 ชั่วโมงก่อนหน้าที่จะปรับหลุดต่ำกว่า 1,801 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำยังไม่หลุดต่ำกว่า 1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เราก็ยังพอมีโอกาสเห็นการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำได้อีกเช่นกัน ทั้งนี้ปลายสัปดาห์นี้เราคงได้เห็นความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นกับตลาดทองคำและตลาดการลงทุนทั่วโลก ช่วงที่มีการประชุมประจำปีของธนาคารกลางระหว่างวันที่ 26-28 สิงหาคม 2564 นี้ จึงควรระมัดระวังด้วยในช่วงเวลาดังกล่าว
กลยุทธ์การซื้อขายทองคำกรอบรายชั่วโมงประจำวันนี้
Long Position : รอซื้อทองคำหากราคาย่อมาบริเวณแนวรับ 1788-1784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถทรงตัวเหนือบริเวณดังกล่าว อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” และเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณ 1,801 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถปรับขึ้นไปยืนเหนือบริเวณแนวต้านดังกล่าวได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
H1 : Uptrend
H4 : Uptrend
DAY : Downtrend
WEEK : Uptrend
Month : Uptrend
แนวรับแนวต้านทองคำรายชั่วโมง
SUPPORT : 1,793/ 1,789 / 1,784
RESISTANCE : 1,801 / 1,809 / 1,818
การถือครองทองคำขอกองทุน SPDR
การถือครองทองคำล่าสุด : ลดการถือครองลง -2.03
ราคาที่เข้าซื้อขายล่าสุด : 1,806 ดอลลาร์
ระดับทองคำถือครองล่าสุด : 1,004.63 ตัน
รวมการเปลี่ยนแปลงเดือนนี้ : 12 ครั้ง
รวมการการเปลี่ยนแปลงสุทธิเดือนนี้ : -26.83 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงจึงควรใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงค่าสมมุติฐานจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีผลการทำกำไรที่ถูกต้อง 100% เสมอ จึงควรพิจารณาด้วยความรอบคอบก่อนนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประกอบการพิจารณาการลงทุนต่อไป
วิเคราะห์แน้วโน้ม GOLD (XAUUSD) 04/08/2021จากราคา ณ ปัจจุบัน ราคาทองได้อยู่ระดับ 1,826 USD ซึ่งแนวต้านที่สำคัญอยู่ที่ 1,910 USD และแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1,749 USD ซึ่งจากรูปแบบของราคาตาม Elliott Waves เป็นรูปแบบ Standard Correction Flats ซึ่งราคามีโอกาสทะลุแนวต้านที่ 1,910 USD ซึ่งสามารถไปถึงแนวต้านที่สำคัญที่ 2,030 USDได้ แต่อักมมุมองหนึ่งถ้ามองเป็นรูปแบบคลื่น เวฟ 3 วิ่งไปถึงระดับ Fibo 300% ซึ่งถือเป็นคลื่นยืดขยาย และประกอบกับ เวฟ 4 ลงมาลึกถึงระดับ 61.8% เกือบ หัวเวฟ 1 ทำให้มีโอกาสที่เวฟ 5 จะไม่สามารถผ่านเวฟ 3 ได้ แล้วเป็น Double Top ก่อนแล้วจังหวะย่อของราคาไม่ควรจะหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,749 USD จะทำให้ราคามีโอกาสกลับขึ้นมาที่แนวต้านสำคัญอีกครั้งก็เป็นไปได้ครับ แต่ถ้ามอง ณ ตอนนี้ ด้วย Time Frame 1 Day จะเห็นได้ว่าจะพยายามหลุด กรอบ Sideway เพื่อ Breakout เพื่อทำ Up Trend อีกครั้ง ดังนั้นการมองราคาตามแนวโน้มขาขึ้นอาจจะปลอดภัยกว่าครับในมุมมองส่วนตัวของผมครับ
***ซึ่งมุมมองทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ได้เป็นการชี้นำและแนะนำควรพิจารณาก่อนการลงทุนอย่างมาก ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนครับ***
มุมมองส่วนตัวสำหรับ ETHUSDT 02/08/2021ณ วันที่ 02/08/2021 ด้านราคาของ ETH อยู่ในกรอบ Sideway ระหว่างราคา 1,700 USDT - 3,000 USDT ซึ่งเป็นกรอบ Sideway ขนาดใหญ่ และเมื่อมองในรูปแบบราคา ณ ตอนนี้ ตั้งแต่วันที่ 21/07/2021 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ราคาเป็น Strong Trend Up ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งมีโอกาสไปถึงแนวต้านที่ Fibo 50% ได้ที่ราคา 3,038 USDT ซึ่งจุดนี้เป็นจุดแนวต้านที่สำคัญ ถ้าสามารถผ่านไปได้มีโอกาสทำราคาได้ถึง 3,400 USDT -3,800 USDT แต่ให้ระวังกับเครื่องมือ RSI ที่เข้าสู่โซน Overbought ระดับ 70.14 ซึ่งตรงนี้ถ้าไม่มีผู้เล่นที่เป็นนักเกร็งกำไรเข้ามาจะไม่สามารถทำให้ราคาทะลุผ่านแนวต้านตรงนี้ได้ ส่วนแนวรับที่ 1,700 USDT เป็นจุดแนวรับสำคัญซึ่งจะอัพเดทอีกที่เมื่อมีอะไรเปลี่ยนแปลงครับ ซึ่งมุมมองทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ได้เป็นการชี้นำและแนะนำควรพิจารณาก่อนการลงทุนอย่างมาก ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนครับ
วิเคราะห์แนวโน้ม EURUSD 05/08/2021สำหรับ EURO ณ วันที่ 05/08/2021 มีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ประมาณ 1.21899 และแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1.16079 โดย ณ ตอนนี้ ราคาได้พยายามกลับมายืนเหนือ EMA 8 ที่ราคา 1.18440 ซึ่งถ้าสามารถยืนเหนือได้ภายใน2-3วันนี้มี โอกาสที่จะไปทดสอบแนวต้าน EMA 50 ที่ 1.19111 ซึ่งเป็นแนวต้านสำหรับการฟอร์มตัวเป็น Up Trend ต่อไปโดย มุมมองด้าน Elliot Wave ณ ตอนนี้ ราคาได้ฟอร์มตัวในรูปแบบสามเหลี่ยมปากแคบ มุมมองส่วนตัวของผมถ้าราคาไม่หลุด 1.17481 ณ ตรงนี้มีโอกาสที่ราคาจะขึ้นไปยืนเหนือ EMA 50 เพื่อกลับไป Up Trend ได้ครับ ซึ่งส่วนตัวผมจะ Focus ตรง EMA 8 นี้ก่อนประมาณ 2 วันเพื่อดูการฟอร์มตัวราคาใน Time Frame ที่ต่ำกว่า เพื่อหาจุดเข้าออเดอร์อีกทีหนึ่ง ดังนั้นการมองราคาตามแนวโน้มขาขึ้นอาจจะปลอดภัยกว่าแม้ ณ ตอนนี้จะเป็นเทรนขาลงก็ตามแต่การฟอร์มตัวดีดกลับมาของราคาเป็นจุดที่น่าสนใจครับ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นมุมมองส่วนตัวของผมครับ
***ซึ่งมุมมองทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ได้เป็นการชี้นำและแนะนำควรพิจารณาก่อนการลงทุนอย่างมาก ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนครับ***
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 22 กรกฏาคม 2564ตลาดทองคำนิวยอร์คเมื่อคืนนี้ปิดลบ 8 ดอลลาร์ จากเหตุบอนด์ยีลด์พุ่งกลับมากดดันตลาดอีกครั้ง/b]
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. วานนี้ปิดลดลง 8 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ 1,803.4 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การปรับร่วงของทองคำครั้งนี้มาจากสาเหตุการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี เป็นปัจจัยหลักที่เข้ามากดดันตลาดทองคำอีกครั้ง ถึงอย่างไรการปรับตัวลงของทองคำก็ยังเป็นเพียงการปรับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ยังสร้างความกังวลต่อนักลงทุนที่กระตุ้นให้เข้ามาลงทุนส่วนหนึ่งในตลาดทองคำที่อยู่ในฐานสินทรัพย์ปลอดภัยประเภทหนึ่ง
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ได้ดีดตัวขึ้นใกล้ระดับ 1.30% เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นการสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ
อย่างไรก็ดีการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ก็มาช่วยให้ทองคำมีแรงดึงดูดในการเข้าซื้อได้เช่นกัน เนื่องจากทำให้ราคาทองคำจะมีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ได้มีการถือครองเงินสกุลอื่นๆ สำหรับดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลหลักในตะกร้าเงินลดลง 0.22% ที่ระดับ 92.76 เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา
นักลงทุนยังคงมีความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดครั้งใหม่ในสหรัฐในเวลานี้ ทั้งนี้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ได้ออกมาแถลงว่า จำนวนผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้พุ่งขึ้นในสหรัฐ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา โดยขณะนี้สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้าคิดเป็น 83% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด สูงกว่าระดับ 50% ที่พบในช่วงวันที่ 27 มิถุนายน – 3 กรกฏาคมที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์กันว่าทองคำอาจจะพุ่งขึ้น 10% และแตะระดับ 2,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้
ประเมินทางเทคนิควันนี้
ทองคำวันนี้ยังมีทิศทางการปรับตัวลงต่ำเนื่องจากการปรับขึ้นของบอนด์ยีลด์ สำหรับช่วงเช้าวันนี้บอนด์ฯ ได้ปรับขึ้นทดสอบ SMA200 วันในกรอบรายชั่วโมงซึ่งราคายังคงปรับฐานที่บริเวณดังกล่าว หากไม่ปรับขึ้นต่อก็จะส่งผลต่อทองคำให้ปรับตัวขึ้นได้ แต่อาจเป็นการปรับขึ้นระยะจำกัด เพราะดอลลาร์ช่วงเช้าวันนี้ก็เข้าลักษณะการปรับฐานราคาเหนือเส้น SMA200 วันในกรอบรายชั่วโมง ประเมินทางเทคนิคแล้ววันนี้หากราคาทองคำยังไม่หลุด 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงไปได้นั้น เราอาจเห็นการปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านระดั้บ 1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ทั้งนี้แนะนำนักลงทุนทองคำเวลานี้ให้ทำการซื้อขายด้วยการเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ไม่แนะนำให้มีการถือ Position ข้ามคืน เนื่องจาทองคำมีความผันผวนจากปัจจัยสองด้านคือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี และดัชนีดอลลาร์ เข้ามามีส่วนกดดันตลาดทองคำเวลานี้ จึงควรติดตามสถานการณ์ของสินทรัพย์สองประเภทนี้ควบคู่กันไปด้วย สำหรับวันนี้ติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐได้แก่
1. รายงานงานจำนวนคนยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก คาดการณ์ที่ 350,000 ตำแหน่ง เวลา 19:30 น.
2. ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) เดือนมิ.ย. คาดการณ์ 5.90 ล้านยูนิต เวลา 21:00
ตลาดหุ้นวันนี้ฝั่งเอเชียปรับขึ้นเชิงบวกขานรับตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับเชิงบวกไปเมื่อคืนนี้ คาดการณ์วันนี้ตลาดหุ้นจะกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง จึงจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่อาจทำให้ทองคำถูกสกัดกั้นเชิงบวกได้เช่นกัน ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดเช่นกัน
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : กลยุทธ์การเทรดรายชั่วโมงสำหรับฝั่ง Long รอราคาทองคำลงมาบริเวณ 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถทรงตัวได้เหนือบริเวณดังกล่าวได้นั้น ก็อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้ที่บริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้น ประเมินปิดทำกำไรที่แนวต้านบริเวณ 1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : สำหรับกลยุทธ์การเทรดฝั่ง Short นั้นหากราคาทองคำไม่สามารถผ่าน 1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้น ก็ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ใต้บริเวณแนวต้านดังกล่าว เน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินปิดทำกำไรที่แนวรับบริเวณ 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวรับบริเวณดังกล่าวลงไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือแนวต้าน 1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
---- -------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,795 / 1,785 / 1,775
---------------------------------------------------
Resistance : 1,804 / 1,810 / 1,825
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR เดือนกรกฎาคม 64
- ถารถือครองทองคำ : ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,812.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,028.55 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 8 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : -17.23 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 12 กรกฏาคม 2564ตลาดทองคำนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดบวกที่ 10.40 ดอลลาร์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ปิดบวก 10.40 ดอลลาร์ หรือ 0.58% ปิดที่ระดับ 1,810.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังสกุลเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อ่อนค่าลงต่อเนื่อง
สัปดาห์นี้นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกต่างเฝ้าจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือ “เฟด” ซึ่งมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาครองเกรสในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ, อัตราเงินเฟ้อ, ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ และรวมทั้งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อระบบเศรษฐกิจของสหรัฐ
ทั้งนี้นายเวลจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 14 กรกฎาคม และแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ การแถลงของนายพาวเวลในสัปดาห์นี้ถือว่าเป็นความสำคัญเนื่องจากเขาอาจส่งสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากที่รายงานการประชุมของเฟดเดือนมิ.ย. ระบุว่า กรรมการเฟดได้เริ่มหารือกันเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดวงเงิน QE พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิม 1 ปี และเฟดอาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งในปีดังกล่าว ถ้อยแถลงของนายพาวเวลมีผลต่อความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นอย่างมาก เช่นเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นหลังนายพาวเวลแถลงต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์โควิด-19 ประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยคำกล่าวมีเนื้อหาว่า “เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนตลาดแรงงานให้ฟื้นตัวเป็นวงกว้างและครอบคลุมให้ได้มากที่สุด และเฟดจะไม่ใช้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อเป็นแรงผลักดันให้ต้องเร่งปรับอัตราดอกเบี้ยเร็วจนเกินไป
แม้นักวิเคราะห์หลายคนรวมนักลงทุนใหญ่ๆ มีความกังวลที่เฟดยังมีทีท่าเฉยต่อภาวะเงินเฟ้อดังกล่าว และเมื่อเงินล้นระบบก็ต้องมีที่รองรับเงินดังกล่าว อย่างตอนนี้ก็เห็นชัดว่าตลาดหุ้นที่พุ่งสูงขึ้นนั้น เป็นตลาดที่รองรับเม็ดเงินดังกล่าวอย่างชัดเจนที่สุด แม้เงินกู้จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกก็จริง แต่หลายๆ บริษัทฯ ใหญ่ๆ ก็ต่างมีการกู้เต็มเพดานวงเงินกันหมดแล้ว ไม่เว้นแม้แต่ผู้กู้เงินทั่วไปที่เป็นประชาชนธรรมดา ก็ล้วนแต่กู้เงินเต็มเพดานกันเป็นส่วนใหญ่ จึงเกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ถ้าหากเฟดยังไม่ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งอาจจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อระบบเศรษฐกิจของสหรัฐได้เช่นกัน แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าการที่เฟดจะขยับอะไรบางอย่างออกมานั้น ก็จำเป็นต้องทำอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้นักลงทุนอยู่ในภาวะอาการตกใจ จนอาจทำให้ตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนัก และระบบเศรษฐกิจก็อาจหยุดชะงักได้เช่นกัน จึงต้องมีวิธีการสื่อสารที่ตรงไปตรงมา และแสดงถึงความเข้าใจต่อตลาดให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดความคลาดเคลื่อนต่อการตัดสินใจของเฟดที่จะมีในไม่ช้านี้ เรียกว่าเฟดโดนแรงกดดันจนกลืนไม่เข้า คายไม่ออกกันทีเดียว งานนี้เรียกว่าร้องเพลงพี่เบิร์ดกันเสียงหลงเวลานี้ “กลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง” เอ้าก็ติดตามกันต่อไปครับ เพราะเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อทองคำโดยตรง เดี๋ยวจะหาว่าไม่ได้มาเล่าให้ฟังกันครับ
ประเมินทางเทคนิควันนี้
ราคาทองคำเช้านี้ยังขยับตัวภายใต้กรอบระดับ 1,797-1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีระดับแรงซื้อเข้ามาหนุนตลาดทองคำหลังการอ่อนตัวของดอลลาร์และอัตราพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ยังคงดำเนินต่อไป ทั้งนี้ประเมินทางเทคนิควันนี้ราคาทองคำยังคงพยายามขึ้นทดสอบระดับแนวต้านบริเวณ 1,810-1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังไม่สามารถฝ่าแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้น มีแนวโน้มที่จะเกิดการเทขายเพื่อทำกำไรกันอีกรอบ ประเมินแนวรับบริเวณ 1,797-1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้รอซื้อทองคำเมื่อเกิดการอ่อนตัวที่บริเวณแนวรับดังกล่าวเพื่อทำกำไรระยะสั้น
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : วันนี้ก็ยังมีลุ้นที่ราคาทองคำอาจ breakout ระดับแนวต้าน 1,810-1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ แต่หากแรงซื้อยังคงจำกัดก็จะทำให้เกิดการเหวี่ยงของราคาในกรอบเดิมอีกครั้ง สำหรับการเปิดคำสั่ง “ซื้อ” นั้นแนะนำให้รอราคาทองคำย่อตัวมายังบริเวณแนวรับ 1,797-1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาย่อมาที่บริเวณดังกล่าวอีกครั้งและสามารถยืนเหนือได้ก็ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” เพื่อเน้นการทำกำไรระยะสั้นไปก่อนเวลานี้ พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวต้านบริเวณ 1,810-1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านดั้งกล่าวขึ้นไปได้ สำหรับกรณีที่ราคาทองคำไม่ได้ย่อตัวลงมาที่แนวรับที่กล่าวไป หากมีการ Breakout ราคาขึ้นเหนือแนวต้านบริเวณ 1,810-1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้รอราคาย่อตัวลงทดสอบแนวต้านด้งกล่าวที่ได้ถูกทลายลงไปก่อน แล้วค่อยหาจังหวะในการเข้าซื้อ เพื่อป้องกันการย่อตัวกลับมายังโซนกรอบ Sideway เดิมอีกครั้ง
แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : Up trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
---- -------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,797 / 1,790 / 1,783
---------------------------------------------------
Resistance : 1,815 / 1,823 / 1,844
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR เดือนกรกฎาคม 64
- ถารถือครองทองคำ : ขายออกทองคำ -0.29 ตัน
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,802.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,040.19 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 5 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : -5.59 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน 2564ทองคำตลาดนิวยอร์กวานนี้ปิดบวกขึ้น 6 ดอลลาร์ จากแดนล่าง 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังเฟดคลายสัญญาณไม่เร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6 ดอลลาร์ (+0.34%) ปิดที่ระดับ 1,783.4 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปัจจัยแรงหนุนทางคำมาจากการที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวร่วงลงจากคำมั่นของเฟดที่ออกมายืนยันว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาอันใกล้นี้ ทำให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับร่วงลงมา สร้างปัจจัยหนุนทองคำกลับฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง
นายพาวเวลได้กล่าวต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์โควิด-19 ประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐว่า “เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนตลาดแรงงานให้ฟื้นตัวเป็นวงกว้าง และเฟดจะไม่ใช้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องภาวะเงินเฟ้อมาเป็นแรงผลักดันให้ต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป”
นอกจากนี้ก็ยังมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาก่อนหน้ายังสะท้อนถีงความอ่อนแอของโครงสร้างระบบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งหมดจึงเป็นปัจจัยหนุนทองคำกลับมายืนเหนือระดับ 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ก็ต้องลุ้นกันต่อว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน
ในส่วนกรณีพิพาทระหว่างสหรัฐกับจีน เรื่องการส่งเรือรบเข้าประจำในพื้นของทะเลจีนใต้นั้น หลังจากที่ก่อนหน้าเกิดภาวะความตึงเครียดอีกครั้งหลังสหรัฐนำเรือรบเข้าแล่นผ่านช่องแคบใต้หวัน ซึ่งถือเป็นอาณาเขตของทะเลจีนใต้ แต่สหรัฐอ้างว่าเป็นการตรวจตราในบริเวณน่านน้ำสากลเท่านั้น จากความขัดแย้งดังกล่าวได้ถูกปรับลดความร้อนแรงลงหลังมีข่าวว่าจะมีการเจรจาทางการทูตระหว่างสหรัฐกับจีนถึงกรณีดังกล่าว ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลในเรื่องดังกล่าวลงไป อาจทำให้ความน่าสนใจของทองคำถูกลดทอนลงไปด้วยเช่นกัน
ประเมินทางเทคนิควันนี้
วันนี้ทองคำกลับมาอยู่เหนือระดับแนวรับ 1,774-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง หลังจากที่ปรับขึ้นทดสอบแนวต้านระยะสั้น 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถฝ่าผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ ทำให้ราคาทองคำช่วงเช้ามืดของวันนี้กลับมาแกว่งตัวเหนือบริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง ประเมินทางเทคนิคหากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือบริเวณแนวรับดังกล่าวได้อีกครั้ง มีแนวโน้มที่อาจเห็นการปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่บริเวณ 1,795 -1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง แต่หากราคาทองคำยังคงมีแรงกดดันอีกรอบ มีโอกาสที่แนวรับระดับบริเวณ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจต้องพังทลายในรอบใกล้ๆ นี้ ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,741 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ติดตามเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการทำ QE, ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้, อินเดียวโดนปรับลดความน่าเชื่อถือจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
คืนนี้ติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ของสหรัฐดังนี้
19:30 ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (MoM) พ.ค.
19:30 ดัชนีจีดีพี (QoQ) (Q1)
19:30 จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (รายสัปดาห์)
ช่วงเวลาดังกล่าวอาจสร้างความผันผวนต่อตลาดทองคำได้ จึงแนะนำสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ควรระมัดระวังในการเทรดซื้อคำสั่งในเวลาดังกล่าวด้วย
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคากลับมาทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการเข้าทำกำไรระยะสั้น พิจารณาทำกำไรได้ที่บริเวณแนวต้าน 1,795-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์) แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้นั้น ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านบริเวณถัดไปที่ 1,825 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Short Position : รอขายทองคำบริเวณแนวต้าน 1,795-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ให้เปิดคำสั่ง “ขาย” เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
-----------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,767 / 1,741 / 1,709
---------------------------------------------------
Resistance : 1,795 / 1,803 / 1,826
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR
- ถารถือครองทองคำ : ขายออก -2.91 ตัน
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,778.15 $
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,046.56 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 11 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : +3.44 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
USDJPY H1 Low Risk TradeUSDJPY H1 ดีดกลับไปใกล้ระดับจุดสูงสุดเดิม
ปราการด่านสุดท้ายของ Fibo คือ 88.60% หรือ 110.200
ซึ่งน่าสนในการ Short ลงมาเนื่องจากมี Risk ที่ต่ำ (จุดสูงสุด)
ทางคลื่น Elliott Wave : Impluse ลงมา 1-2-3-4-5
ท่อนที่ดีดกลับนี้เป็น A-B-C
.
อย่างไรก็ตามหากทะลุ 88.6% นี้ขึ้นไปได้จะไปเช็ค High 110.325
และมีโอกาสปลิ้นขึ้นไปได้ถึง 110.50- 110.60
.
ควรพิจารณา Price Action รูปแบบแท่งเทียนบริเวณระดับต่าง ๆ ประกอบก่อนเข้าเทรดด้วยครับ
Toomtrade EP01 ไอดีเทรดคู่เงิน ปอนด์ดอลล่า GU ด้วย Elliot Waveหลังจากจุด ABCDE ราคามีการเทลงมายาวประมาณนึ่งแล้วมีการย่อดีดตัวกบัไปที่ Fibo เกือบแตะ 23.6 แล้ววนกลับลงมาจดแตะจุด100% ซึ่งเป็นแนวรับที่แข็งพอสมควรไม่สามารถผ่านไปได้
ราคามีการย่อกลับไม่ผ่าน Fibo 78.6 น่าจะมีการลงมาเทสที่แนว 100 % อีกครั้งถ้าราคาสามารถเบรคแนวรับแข็งตัวนี้ได้น่าจะลงยาวเพราะเข้าเวฟ 3 ของ Elliot Wave ซึ่งจะไม่เป็นเวฟที่สั้นที่สุดน่าจะลงยาวได้มากกว่าเวฟ1
ถ้าเบรคไปได้มอง
จุดเข้าฝั่ง Sell ที่เมื่อราคาเบรรค FIBO 100 %
TP 1 ที่ FIBO 161.8
TP 2 ที่ FIBO 261.8
Gold มุมมองแผนขึ้นระยะยาว มี 2 senario สำหรับตอนนี้ [7/11/20]ตอนนี้ผมได้มองไว้ 2 scenario สำหรับขาขึ้นในปัจจุบัน
สำหรับแผนแรก white scenario :
ตอนนี้กำลังจะย่อลงลึก ประมาณ 50-61.8 % หรือ 38.2 % ของ i (ขาที่ขึ้นมา) สามารถใช้ fibonacci retracement ลากตั้งแต่จุดเริ่มต้นของขาที่ขึ้นมาถึง high ปัจจุบัน
แต่แผนนี้จะผิดก็ต่อเมื่อราคาลงมาตํ่ากว่าเส้นสีเหลือง
สำหรับแผนที่สอง green scenario :
ย่อลงเล็กน้อยเพื่อขึ้นไปที่ 2000* ก่อนจะปรับฐานซักพักก่อนขึ้นขาสุดท้ายของ i of 3 ก่อนจะย่อลึกเพื่อขึ้นระยะยาว
แต่แผนนี้จะผิดก็ต่อเมื่อราคาลงมาตํ่ากว่าเส้นสีแดง
TFEX 17/8/63 TF60 ชนต้านกรอบเทรนไลน์TFEX 17/8/63 TF60 ชนต้านกรอบเทรนไลน์
ตราบใดไม่มีไฮใหม่ ก้ต้องมีนิวโล
เป็นเรื่องธรรมชาติของกราฟ ผู้ชนะคือคนที่ทนรอได้
เมื่อเปิดเช้ามาไม่สามารถยืน857.5 เตรียมทำใจ เทส846.9 ยืนได้มีเด้งนึงรอบ
เมื่อหลุดได้เจอ840
ดังนี้
แนวทางที่1 เช้าเปิดโดดก็รอ shortแถวแนวต้าน ไปได้ไม่เกิน865.5 ไปเบรก875.5ก็ยอม
แนวทางที่2 เช้ามาเปิดหลุด846.9 สามารถเก้งกำไร Shortตามไปปิดที่ราคา842.2 และ840 ได้เลย
แนวทางที่3 เมือราคาหลุด840 เมื่อไร่ก็ว่าแผนเข้าไม้เพื่อไปปิดตามราคา 830 และ824 สามารถลงไปได้ไกลถึง798.5
แต่หากราคาหลุด 840เมื่อไหร่ให้หันไปดูsetด้วยว่าต้องหลุด1300แล้วล่ะ
จะเห็นว่า กราฟตอนนี้มอง short ได้เปรียบกว่า Long ในแนวต้านสำคัญเมื่อราคามาถึงแนวที่กล่าวไว้
แผนเดิมๆเพิ่มเติมรายละเอียด
เทรดอย่าbias คิดว่ากราฟจะเป็นไปตามทฤษฎี
เพราะมันเป็นศาสตร์และศิลป์
จินตภาพสำคัญกว่าความคิด
รู้งี้ ทำไปแบบนี้ไปนานแล้ว
USDCHF 4H/D1 Long จากดีมานด์โซน เป้า 0.92500 และ 0.94000คู่เงิน USDCHF ราคาพักตัวอยู่ในดีมานด์โซนรายสัปดาห์ และเคลื่อนที่ในโครงสร้าง Double Bottom ในกรอบเวลา
MACD ในกรอบเวลา 4H ยก Low สูงขึ้นและเกิด RSI Divergence ในกรอบเวลา H1 แนะนำให้ Buy ที่ดีมานด์โซน 4H เป้าหมายการทำกำไร 0.92500 และเป้าหมายถัดไปที่ Support / Resistance Flip 0.94000
*** การเทรดคู่นี้ระยะ Stop Loss จะไม่ไกล แต่ยังมีความเสี่ยงสูงอยู่เนื่องจากราคายังไม่สามารถเบรค Neckline ของรูปแบบ Double Bottom ได้ ***
#GiveAndTakeZone by #ForexTradeReview
set TF Day จะทำอะไรก็รีบทำset 10-14/8/63 TF Day จะทำอะไรก็รีบทำ
มีหยุดกลางสัปดาห์วันแม่ ทรงเดือนนี้ย่อก็ไม่น่ากลัว
กรณี setหลุด1303 แล้วแนวรับถัดไป1270 และ1212 ถัดไป1154
ภาวะการณ์นี้ เงินนอกตลาดเยอะมากดูได้จากหุ้น ipoเข้ามา3ตัว หรูหราไอโซ
ทำให้เรารู้ว่าเงินรอจะเข้าตลาดเพื่อเล่นรอบใหม่แต่การยื้อของกลุ่มเงินทุนยังรอเวลา
จังหวะเข้าหุ้นในราคาหรือภาวะตกใจอีกซักครั้ง
ดังนี้
แนวทางที่1แนวรับ1270 ควรจะเริ่มซื้อหุ้นคาดหวัง หุ้นในฝันได้แล้วอาจจะเริ่มสะสมพอร์ตลงทุน30% กันตกรถ
แนวทางที่2 แนวรับ1212 ควรจะเริ่มซื้อหุ้นหวังผล สะสมพอร์ตลงทุนเพิ่ม20% รวม50% ของพอร์ต
แนวทางที่3 แนวรับ1154 ควรจะเริ่มซื้อดีราคาถูก สะสมพอร์ตลงทุนเพิ่ม20% รวม70% ของพอร์ต
เหลือถือเงินสด30% สำหรับเล่นเก็งกำไร
จะเห็นว่า กราฟตอนนี้มอง Long ได้เปรียบกว่า short ในแนวรับสำคัญเมื่อราคามาถึงแนวที่กล่าวไว้
แผนในสัปดาห์นี้คงชัดเจนและเห็นภาพในกลางสัปดาห์ ใจเย็นเพราะแนวโน้มที่คุยกัน
อาจจะเกิดขึ้นในปลายเดือนก้ได้
ฉะนั้น เลือกหุ้นให้ถูกตัวและถูกเวลาสำคัญกว่า ซื้อแล้วตกใจตัวแดง
เงินสดคืออำนาจ ในการตัวสินใจในการลงทุน
เห็นภาพขัดเจนแล้วค่อยนำทาง
เทรดอย่าbias คิดว่ากราฟจะเป็นไปตามทฤษฎี
เพราะมันเป็นศาสตร์และศิลป์
จินตภาพสำคัญกว่าความคิด
รู้งี้ ทำไปแบบนี้ไปนานแล้ว






















