การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
[DRT] หุ้นโคตร Value เงินปันผลพอใช้ได้ ความสามารถทำกำไรก็เยี่ยมDRT นับว่าเป็นบริษัทที่เป็นตัวอย่างที่ดีในการนิยามคำว่า หุ้นแบบเน้นคุณค่าหรือแบบ VI มากครับ เนื่องจากหากมองงบดูดีๆ แล้ว นับว่าเป็นหุ้นที่ยอดขายเขาเข้าสู่จุดอิ่มตัวแล้วกอปรกับอัตราเงินปันผลที่จ่ายได้สมน้ำสมเนื้อ เหมาะแก่นักลงทุนที่ต้องการเซฟๆ เลยครับ
กอปรกับปัจจุบันนี้เขาได้พักฐานมานานแสนนานแล้ว และทำท่าว่าจะเบรคโซนที่เขาพักตัวด้วยเลยขอมาแนะนำเพื่อนๆ ณ ที่นี้
จุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ เมื่อหลายปีที่แล้วหุ้นตัวนี้เคยเทรดที่ระดับเส้น Dividend Valuation โดยเทรดอยู่ในระดับเส้นสีเหลือง ซึ่งตอนนี้ราคา Market Cap ปัจจุบันเขายังมีการเทรดต่ำกว่าระดับเส้นสีเหลืองอีกด้วย
ทั้งหลายนี้นับว่าเป็นจุดที่ไม่เลวครับ หากใครต้องการลงทุนหรือเก็งกำไร อาจเป็นตัวเลือกที่ผมว่าใช้ได้อยู่ครับ
ยาวหน่อย แต่ถ้าคุณชอบ ผมก็ดีใจนะครับ
วันที่ 4 Dogecoin มีโอกาศเติบโต ถึง 20% ++++Elon Musk มีผลต่อการขึ้นลงของ Doge เป็นอย่างมากตัวอย่างคือสัปดาห์ที่ผ่านมาในวันที่ 29/1 โดย Dogecoin เติบโตถึง 1100% แต่แล้วก็ร่วงลง ทำให้ฐานตอนนี้กลับมาจาก 0.2 ไป 2 และมายัง 1 บาท ในช่วงนี้ราคาต่ำลงถึง 0.9 โดยถ้าเราซื้อไว้ตอนนี้อาจมีโอกาสทันที่จะได้กำไรในเปอร์เซนต์ที่สูง อีกอย่าง Elon Musk บอกว่าจะไม่ได้เข้ามาเล่นทวิตเตอร์ทำให้ราคา Dogecoinดิ่งลง หากเขากลับมามีโอกาศที่มูลค่าของ Doge Coin จะสูงขึ้นมาก
[SAWAD]ภายใต้พื้นฐานกำไรที่เติบโต มีเรื่องน่ากังวลอะไรหรือไม่?!!
สำหรับ SAWAD นับว่าเป็นหุ้นตัวหนึ่งที่ผมมักอารมณ์องุ่นเปรี้ยวทุกครั้งเลยครับ เวลาเห็นเขาทำราคาที่สูงขึ้น กอปรกับความกลัวเรื่องของ NPL ผมเลยกลัวอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ จรพบกับความผิดพลาดที่ไม่ได้ลงทุนในตัวพวกเขา
แต่ตอนนี้ถ้าเราลบอคติฝังตาลง เราพบอะไรบ้างจากอินดิเคเตอร์ที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างกำไรสุทธิกับราคาหุ้นกัน โดยผ่านอินดิเคเตอรตัวเดิมของผมอย่าง Yield Valuation นี้ครับ
SAWAD นับว่าเป็นหุ้นที่อยู่ในหมวดของ Growth อย่างแท้จริงครับ จากการดูการเติบโตของสินทรัพย์(เส้นส้ม) ของเขา จากหนังสือพ่อรวยสอนลูกก็อย่างที่ว่าครับ สินทรัพย์คือสิ่งที่ช่วยสร้างรายได้ให้เรา การมีสินทรัพย์มากขึ้นก็เสมือนกับการเพิ่มที่มาของรายได้แบบนี้นั่นเองครับ
แต่กระนั้นแล้วสินทรัพย์ที่เพิ่มมขึ้นของ SAWAD นี้ เขาเพิ่มขึ้นในหมวดของหนี้สินนั่นเอง ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องปกติครับ เพราะว่า SAWAD ทำธุรกิจการเงิน หนี้สินของหมวดนี้ก็คือปริมาณเงินที่เราปล่อยสินเชื่อไปแน่นอนครับ
ว่ากันตามตรงในความเห็นของผมเอง ประเทศไทยเรามีระบบการเงินที่ Conservative มากนะครับ จากการที่แบงก์ของเราไม่มีการแข่งขันเท่าที่ควรจนมาถึงการไม่กล้าปล่อยสินเชื่อจนเรามีทุนสำรองของประเทศเราอยู่สูงมาก การไม่กล้าทำอะไรแบบนี้ทำให้ประเทศเรามี Opportunity Cost สูงมาก สังเกตได้จากการที่นายกพูดเลยครับ ที่ว่าทำไม่เราถึงแพ้เวียดนาม ทั้งที่เรามีทุนสำรอง(งบดุลของประเทศ) ที่แข็งแกร่งมาก พูดง่ายๆ คือเราอาจจะล้มได้ยากนั่นเองครับ
กลับมาที่เรื่องของ SAWAD ด้วยความที่ธุรกิจการธนาคารของเราไม่ค่อยได้ปล่อยสินเชื่อให้รายย่อย นั่นเลยเป็นช่องทางให้กับธุรกิจ Nonbank อย่างพวก SAWAD และ MTC ได้มาทำหน้าที่นี้แทนพวกเขา เมื่อ Demand(ผู้ต้องการเงินรายย่อย) มีอยู่อย่างมหาศาล การเติบโตก็มหาศาลอีก และ Supply ที่กล้าทำตอนนั้นเองก็มีอยู่ไม่มาก Supply น้อย (MTC SAWAD) ดังนั้นแล้วหุ้นทังสองตัวนี้เลยโตเอาๆ จากความกลัว ความกังวลของหุ้นกลุ่มธนาคารนั่นเอง แต่เอาเถิดท่านอย่าเศร้ากับอุตสาหกรรมการเงินไทยเลย เพราะปัจจุบันนี้ภาครัฐก็ได้ส่งแบงก์ออมสินมาสู้ๆ พวกธุรกิจนี้แล้วครับ
การมาของออมสินเอง ทำให้เราอาจต้องกังวลมากขึ้นกับการลงทุนหุ้น SAWAD ครับ ว่าเขาจะมีโอกาสไปต่อได้หรือไม่ การแข่งขันนั้นดีตรงที่เราอาจจะได้พบนวัตกรรมใหม่ๆ และทางออกให้ผู้บริโภคที่สร้างสรรค์มากขึ้นจากการแย่งชิงตลาด แต่กระนั้นแล้วการลงทุนอย่างนักลงทุนเราคงต้องทำการบ้านหนักขึ้นครับ
แล้ว SAWAD ตอนนี้มีอะไร เรามาดูเส้น Yield Valuation ที่โปรแกรมสังเคราะห์มาครับ ว่าหากอนาคตคน "ให้ค่า" แก่ตัว SAWAD มากกว่าสมัยก่อน การที่เขาจะก้าวไกลเข้าสู่เส้นสีแดงนั้นก็อาจเป็นไปได้นั่นเองครับ เพราะว่ากำไรของเขาเติบโตตลอดเวลาเลย ตรงส่วนนี้ก็อยู่กับความคิดเห็นของรายย่อยอย่างเราแล้วครับ ว่าในฐานะผู้ถือหุ้นท่านจะเป็นลมใต้ปีกให้แก่ผู้บริหาร หรือทางผู้บริหารเขาจะทำอะไรได้บ้าง (ผมก็เพิ่งรู้ว่าที่ต่างประเทศนักลงทุนรายย่อยอย่างเราก็สามารถเสนอแผนธุรกิจให้แก่บริษัทได้เหมือนกันครับ หากเราเห็นศักยภาพของเขา)
ยาวหน่อย แต่ถ้าคุณชอบผมก็ดีใจนะครับ
[CK] ณ ระดับแนวรับที่สำคัญ ภายใต้ราคานี้เขามีอะไรอยู่กันนะ!!???หุ้น CK นับว่าเป็น 1 ในหุ้นที่ทำรับเหมาก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดของไทยซึ่งมีรายหลักๆ อยู่ 3 ราย อันได้แก่ STEC ITD CK
โดยหากมองแบบลึกๆ แล้ว หุ้นหมวดนี้เขามีวัฎจักรรายได้ที่ล้อตามการลงทุนของภาครัฐเลยครับ หากภาครัฐมีการลงทุนใหญ่ๆ สำคัญๆ คงไม่พ้นทั้ง 3 ตัวนี้ที่จะได้หน้าเหนือเค๊กเป็นแน่แท้ กอปรกับอาจมีการแข่งขันจากประเทศมหามิตรอย่างจีนในการที่เขามาเข้าประมูลควบคู่กับกลุ่ม CP ด้วยครับ
นอกจาก CK จะทำหน้าที่หลักเป็นรับเหมาก่อสร้างแล้ว เราก็ต้องไม่ลืมเลย ว่า CK ก็ได้ทำหน้าที่เป็นคุณแม่ที่ให้กำเนิดลูกๆ ที่สำคัญทั้งสิ้น 3 คนอันได้แก่ CKP TTW BEM ด้วย ซึ่งทั้ง 3 หุ้นนี้สังกัดอยู่ในหุ้นหมวด SET100 ด้วยกันทั้งสิ้นครับ
ซึ่งก็เข้ามาสู่ประเด็นที่ผมผูกไว้ที่หัวข้อเรื่องกันนะครับ ว่าที่ราคา 15 บาทแนวสำคัญนี้ มันมีอะไรแฝงอยู่กันแน่ นั่นคือเรื่องของเงินลงทุนในบริษัทลูกนั่นเองครับ ซึ่งที่ราคานี้นั้น Market Cap เทียบเท่ากับเงินลงทุนในบริษัทลูกเลย เรียกได้ว่าได้ซื้อธุรกิจรับเหมาที่ใหญ่ที่สุดแล้วก็ได้ของแถมเป็นลูกๆ ที่ทำกิจการเงินสดนั่นเองครับ (ไม่ว่าจะรับเงินค่าไฟจาก กฟผ เอย รับเงินค่าประปาเอย รับเงินจากคนที่สัญจรทางด่วนเอย)
ยาวหน่อยแต่ถ้าคุณชอบ ผมก็ดีใจนะครับ
setไทย 2019 สรุปภาพรวมที่ผ่านมาsetไทย 2019 สรุปภาพรวมที่ผ่านมา
แรงขายชนะตลอด8 เดือนที่ผ่านมา
สรุปเหตุการณ์ที่กิดขึ้นในปี 2020
"มกราคม"
ถ้าใครจำได้ตอนต้นปีเริ่มด้วยการที่อเมริกาโจมตีทางอากาศใส่อิหร่านทำให้ผู้นำทหารเสียชีวิต อิหร่านเลยตอบโต้ด้วยการโจมตีฐานทัพอเมริกาในอิรัก รวมถึงเริ่มมีข่าว Covid กระจายตัวอย่างรวดเร็วใน อู่ฮั่น
SET เปิดที่ 1584.34 ปิดเดือนที่ 1514.14 ลดลง -4.43%
"กุมภาพันธ์"
ผลกระทบจาก Covid เริ่มมากขึ้นแพร่กระจายออกไปยัง เกาหลี ญี่ปุ่น และอเมริกา รวมถึงหลายๆประเทศในยุโรป
SET เปิดที่ 1507.73 ปิดที่ 1304.52 ลดลงไป -13.48%
"มีนาคม"
หลายประเทศทั่วโลกเริ่มใช้มาตรการ Lock Down ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นเรื่อย รวมถึงยังมีเหตุการณ์สงครามน้ำมันระหว่างซาอุดิอาราเบียและรัสเซีย ที่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการลดกำลังการผลิตน้ำมันได้
SET เปิดที่ 1356.30 ปิดที่ 1125.86 ลดลง - 16.99%
"เมษายน"
รายงานผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างคงที่ไม่มีการพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ มีการเริ่มใช้มาตรการทางเศรษฐกิจเข้ามาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ทำให้ตลาดหุ้นโลกฟื้นตัว
SET เปิดที่ 1118.14 ปิดที่ 1301.66 เพิ่มขึ้น +16.41%
"พฤษภาคม"
เริ่มมีข่าวการวิจัยและพัฒนาวัคซีน หลายประเทศเริ่มคุมการแพร่กระจายได้ในวงจำกัด เริ่มมีการคลายมาตรการ Lockdown
SET เปิดที่ 1286.64 ปิดที่ 1342.85 เพิ่มขึ้น +4.37%
"มิถุนายน"
เริ่มมีรายงานผู้ติดเชื้อในจีนเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ทำให้กังวลว่าจะมีโอกาสเกิดการระบาดระลอกสอง
SET เปิดที่ 1356.13 ปิดที่ 1339.03 ลดลง -1.26%
"กรกฎาคม"
รายงานผู้ติดเชื้อกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง รวมถึงมีปัจจัยกดดันเรื่องการตอบโต้กันระหว่างจีนและอเมริกา โดยอเมริการสั่งปิดกงสุลจีนและจีนเตรียมตอบโต้
SET เปิดที่ 1345.86 ปิดที่ 1328.53 ลดลง -1.29%
"สิงหาคม"
เริ่มมีข่าวว่าหลายประเทศ จีนและรัสเซียเริ่มผลิตวัคซีน แต่ยังไม่เห็นความคืบหน้าที่ชัดเจน สถานการณ์ในประเทศมีปัจจัยกดดันเรื่องการประท้วงทางการเมืองเข้ามามากขึ้น
SET เปิดที่ 1324.43 ปิดที่ 1310.66 ลดลง -1.04%
"กันยายน"
ตัวเลขรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันเพิ่มขึ้นสูงทะลุสถิติ รวมถึงข่าวการโยกย้ายเงินอย่างผิดกฎหมายของธนาคารหลายแห่ง
SET เปิดที่ 1312.60 ปิดที่ 1237.04 ลดลง -5.76%
"ตุลาคม"
ปัจจัยกดดันทางเมืองในประเทศเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงปัจจัยการประชุมเพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของอเมริกา
SET เปิดที่ 1244.02 ปิดที่ 1194.95 ลดลง -3.94%
"พฤศจิกายน"
ประเด็นใหญ่ที่เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดคือการที่ โจ ไบเดน ชนะได้เสียงข้างมากในการเลือกตั้งประธานาธิบดี รวมถึงการประกาศความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีน Covid
SET เปิดที่ 1196.55 ปิดที่ 1408.31 เพิ่มขึ้น +17.70%
"ธันวาคม"
โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามกระตุ้นเศรษฐกิจ เริ่มมีการฉีดวัคซีน Covid รวมถึงคาดหวังการฟื้นตัวในปีหน้า
SET เปิดที่ 1419.28 ปิดที่ 1449.35 เพิ่มขึ้น +2.12%
สรุป
ทำให้เกิดคน2วิ
คนที่1 วิกฤตล้างพอร์ต
คนที่2 วิสัยทัศน์กล้าซื้อ ตอนที่คนอื่นกลัว
[APCO] หุ้น Value จ๋า พร้อมงบอันแข็งแกร่งที่ไม่ยอมลง แม้ราคาแพง?สวัสดีปีใหม่มิตรสหายทาง Trading View ทุกท่านนะครับ
พอดีช่วงปีใหม่นี้ผมเองก็ว่างไม่ได้ออกไปไหนเนื่องจากเรื่องของไวรัสโควิดตามที่ท่านได้พบเจอกัน ผมเลยได้มาสอดส่องดูหุ้นรับปีใหม่ถือเป็นการวางแผนประจำปีไปด้วยนั่นเองครับ
แล้วทีนี้ผมก็เจอหุ้นตัวนึงเข้าที่มีความเป็น Value จ๋าๆ มีงบที่แข็งแกร่งมาก และมีกิจการที่ทำนุบำรุงซ่อมแซมเครื่องจักรทางการเงินของบริษัทได้ดีเสมอ มีอัตราการทำกำไรที่สูงมาก แต่อนิจจาที่เขาอาจหมดสิ้นสภาพความเป็นหุ้นเติบโตไปแล้ว
เป็นภาพสะท้อนกรายๆ ว่าหุ้นที่เคย Growth แล้วเป็นหุ้น Value เดี่ยวๆ มันเป็นแบบนี้นี่เอง
วันนี้ผมเลยอยากทำวีดีโอสั้นๆ มาอธิบายเกี่ยวกับหุ้น Value จ๋าๆ งบการเงินแข็งๆ นั้นเป็นอย่างไรให้ชมกันครับ โดยจะอธิบายอย่างกระชับไม่กินเวลาท่านมาก พอเป็นกระษัย ขนาดท่านจิบกาแฟแก้วหนึ่งแล้วยังอุ่นๆ อยู่ก็ได้สาระพอดี
หวังว่า Case Study ของ APCO นี้ จะช่วยเป็นไอเดียในการเลือกสรรค์หุ้นเข้าพอร์ตในอนาคตของใครไม่มากก็น้อยนะครับ ที่สำคัญคือขอให้ทุกคนมีวิจารณญาณในการลงทุนเสมอนะครับ
หวังว่าทุกท่านจะชอบใจไม่มากก็น้อย สามารถส่ง Feed Back หรือ Comment มาได้เสมอนะครับ ผมตามอ่านและนำมาปรับปรุงเสมอ
สวัสดีปีใหม่ครับ
[BFIT] หุ้น PE ต่ำ Free Float ต่ำ ปันผลสูง ROE ก็สูง อัตรากำไรก็ในช่วงที่ตลาดหุ้นกำลังปรับตัวเข้าใกล้ 1400 จุด ผมมองว่าช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ไม่เลวเลยครับ ในการหาหุ้นคุณค่าพร้อมกับการทำทรงกราฟที่น่าสนใจ
วันนี้ผมเลยมาแนะนำหุ้น BFIT หุ้นที่มี PE ต่ำ ปันผลสูง ROE สูง แถมใครเป็นสายโมเมนตั้ม Technical หุ้นตัวนี้ก็มี Free Float ที่ต่ำเหมาะแก่การที่จะถูกเป่าขึ้นไปเมื่อไรก็ได้
เมื่อเทียบกับ ROE ของตลาดหลักทรัพย์จากที่ผมทำข้อมูลแล้ว ผมมองว่าหุ้นตัวนี้ให้อัตรา ROE ที่สุดยอดกว่าตลาดเกือบ 90% เลย นั่นคือตลาดให้ผลตอบแทนราวๆ 10% แต่หุ้นตัวนี้กลับให้สูงถึง 19% แถมยังมีโอกาสเติบโตจากการที่ธุรกิจบริษัทแม่หาฐานเงินทุนอีกด้วยครับ
ผมเลยมองว่าจุดที่เข้า ณ ช่วงนี้นับเป็นช่วงที่ไม่เลวเลยหากมีการวาง Risk to Reward ดีๆ และเป็นการได้หุ้นที่ดีในการถือยาว ณ จุดที่ได้ผลตอบตอบแทนจากเงินปันผลถึง 8% ซึ่งผมคิดว่ามันช่วยลดความเครียกจากการ Day Trade วันต่อวันด้วยครับจากการมีหุ้นไว้ถือยาว
สำหรับรายละเอียดปลีกย่อยจะเป็นอย่างไรมารับฟังกันได้เลยครับ
ยาวหน่อย แต่ถ้าคุณชอบ ผมก็ดีใจนะ
[CPALL] หุ้นโคตร Defensive ณ ราคาดัชนี 1200 จุด ดีไหม มาดููกันสำหรับ CPALL ผมมองว่าตอนนี้หุ้นตัวนี้เริ่มมี Valuation ที่น่าสนใจไม่เลวเลย
จากการที่ธุรกิจของเขานั้น ล้อตามตัว C ในสมการของ GDP (GDP = "C" +I+G+X-M)
ซึ่งตัว C ที่ว่าก็คือกำลังซื้อของผู้บริโภคนั่นเองครับ กล่างคือ หากว่ากำลังซื้อของคนกลับมาหุ้นตัวนี้ก็อาจได้รับอานิสงฆ์นั้นก็เป็นได้เลย
สำหรับหุ้นตัวนี้ที่อาจมีการเติบโตอื่นๆ เข้ามา จากการมีฐานทุนที่ใหญ่ขึ้น ก็ไม่เลวเลยที่เราจะมาลองทำการบ้านสำหรับตัวนี้ดูกันครับ รายละเอียดเป็นอย่างไร มารับชมกันครับ
PS. รายละเอียดนอกคลิป สำหรับ CPALL หุ้นตัวนี้ มี ROE หรืออัตราการทำกำไรต่อผู้ถือหุ้นอยู่ที่ราวๆ 20%++ ซึ่งนับว่าสูงมาก เมื่อเทียบกับ ROE ของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะมีค่าอยู่ที่ราวๆ 9-11% เท่านั้น แล้วแต่ราคาน้ำมัน (ว่ากันมาตรง ตลาดบ้านเราพึ่งพิงอุตสาหกรรมเก่า อย่างน้ำมันมาก ถึงมากเลยครับ)
ซึ่งการมีระดับ ROE เท่านี้ เราเลยไม่แปลกใจเลยที่เขาให้มูลค่าเทรดที่ Market Cap. เหนือกว่า Asset ของบริษัทเสียอีก เราอาจมองได้ว่า หุ้นตัวนี้ถูกหวังกับการเติบโตในอนาคตก็ไม่ผิดเลยครับ
ซึ่งตรงส่วนนี้เราอาจจะเอาจุดที่ Market Cap <= Total Asset เป็นจุด Stop Loss คงอาจจะดูโหดร้ายไป (คนไม่เห็นอนาคต หมดฝันแล้ว)
ดังนั้นแล้วตรงส่วนนี้ท่านอาจจะใช้จุดซื้อแบบ Technical ในการเข้าซื้อก็ได้ครับ แล้วก็เอาไปบอกลูกหลานท่านว่าท่านเป็นเจ้าของ 7-11 คงคูลไม่น้อยเลย ฮาา
ปล. ทั้งหมดก็มีราวๆ นี้นะครับ หากมีอะไรเพิ่มเติมผมจะมาแจ้งครับ ยาวหน่อย แต่ถ้าคุณชอบ ผมก็ดีใจนะ
Tritn ปี 63 ถือว่ากลับมา Turnaround แน่นอน- หุ้น Tritn กลับตัวขึ้นชัดเจน โดยยังคงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องสลับกับการพักฐานในแนวต้านต่าง ๆ
โดยราคายังอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย แนวโน้มไปต่อ อาจติดแนวต้านสำคัญที่ 0.37 หรือ 0.41
โดยมีเป้าหมายเบื้องต้นที่ 0.48 - 0.50
- ในส่วนของปัจจัยพื้นฐาน
- งบการเงิน สถานะมีกำไร 2 ไตรมาสติดกัน อย่างมีนัยยะ คาดว่าทั้งปีนี้จะกำไรสุทธิทั้ง 4 ไตรมาส
- โดยเฉพาะปลายไตรมาส 3 และ 4 จะรับรู้รายได้จากการเข้าถือหุ้น GLOCON และโรงไฟฟ้าเข้ามา
- โดยปัจจัยข้างต้น ในความเห็นส่วนตัว ยังไม่ได้รวมการเข้าซื้อ TTR บริษัทรับเหมาก่อสร้างงานวางระบบอาณัติสัญญาณ ระบบไฟฟ้าในการเดินรถไฟ ที่ทาง Tritn มี Connection กับผู้ถือหุ้นของเครือซีพี ที่ถือหุ้นผ่านกองทุน อาจโยนงานให้ Tritn เติบโตขึ้นไปอีก
PLANB หุ้นสื่อนอกบ้านที่กำลังทำ Sideway และน่ามองขึ้นมากPLANB ตอนนี้เขากำลังเทรดอยู่ในกรอบ Sideway อยู่ในโซนที่น่าเก็บของไว้ขายข้างบน จากการใช้เครื่องมือ VWAP ของผมนี้เราจะเห็นได้ว่า ณ จุดนี้ เป็นจุดที่เหมาะกับการเก็บของไม่เลวเลยครับ
สำหรับด้านงบดุแล้ว หุ้นตัวนี้มีความแข็งแกร่งในด้านการมีเงินสดที่เพียงพอไม่มีปัญหาเรื่องหนี้สินแน่นอนครับ เผลอๆ อาจจะสามารถขอเครดิตเงินกู้ทำ Finance ในการขยายธุรกิจเพิ่ม ขยาย Topline ให้โตกว่านี้ได้ด้วยครับ
ด้าน มุมมองเรื่องเงินปันผลแล้วหุ้นตัวนี้นับว่ามี Premium พอสมควรเลยครับ จากการที่เขาเทรดที่ราคา Market Cap. เหนือราคา Asset รวม
จากการที่ผมมองว่าหุ้นตัวนี้เป็น Side Way อยู่ผมว่าตอนนี้เหมาะกับการเก็บ Position ของหุ้นในอนาคตอาจจะเพื่อปันผลหรือ Capital Gain ก็ได้ ครับ โดยการวาง RR เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด
ผมมี Entry Point ที่ 5.75 Stoploss ที่ 5.35 และ Take Profit ที่ 7.10 บาทครับ
อีกประเด็นหนึ่งที่ผมตั้งจุด Take Profit ไว้ที่ 6.10 บาท นี้ก็เพราะว่าบริเวณนี้เป็นบริเวณที่หุ้นเคยเทรดที่ Valuation นี้มาก่อนครับ ผมมีความเชื่อว่าหากอะไรเริ่มเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น ผ่านพ้นวิกฤติไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเขาน่าจะกลับมาได้แน่ๆ ดังนั้น Valuation ที่ราคานี้เลยมีโอกาสที่จะได้เห็นแน่นอนครับ
ขอให้มิตรสหายเทรดเดอร์ชาวไทยรักษาสุขภาพกนด้วยนะครับ หวังว่าไอเดียด้านพื้นฐานเทคนิคแบบ Hybrid นี้จะช่วยท่านได้ไม่มากก็น้อย
ยาวหน่อย แต่ถ้าคุณชอบ ผมก็ดีใจนะครับ ขอบคุณมากครับ
มีความเห็นอย่างไรคอมเม้นมาได้เลยนะครับผมอ่านทุกคอมเม้นเลยครับ :)
[TH]AEONTS Sideway อยู่ข้างล่างเริ่มเบรกกรอบขึ้นแล้วสำหรับหุ้น Aeonts ตัวนี้ ผมชอบในความที่เขาเป็นบัตรเครดิตจากญี่ปุ่นที่ IPO ในไทย แต่มีฐานลูกค้าในเขตพม่า ลาว ไทย 3 ประเทศเลย(แถบลุ่มแม่น้ำโขง) ผมเลยมองว่าในอนาคตหากผ่านพ้นวิกฤติไปแล้ว กำลังซื้อกลับมา บัตรเครดิตก็อาจกลับมาได้ครับ
ในคลิปวีดีโอนี้ผมได้ให้ไอเดียทั้งทางด้านเทคนิค และพื้นฐานอย่างครบถ้วนในมุมมองของผมพอตัวเลย
ซึ่งวีดีโออาจยาวหน่อย แต่ถ้าพวกคุณชอบผมก็ดีใจนะครับ
[TH]CPALL Test เส้น MA แล้วดีดกลับทันทีสำหรับ CPALL ตอนนี้เขาได้ทำไส้เทียน Test เส้น Volume Weight Moving Average ระดับ 35 วัน แล้ว เขาก็กลับตัวเป็นแท่งเขียวทันที
ผมมองว่า ณ จุดนี้เป็นนิมิตรหมายที่ไม่เลวเลยครับ ที่เราอาจจะลองเริ่มลงทุนในหุ้น Growth ตัวนี้ แม้ว่า Market Cap. ของเขาจะสูงระดับแสนล้านแล้ว แต่หากเก็บบางส่วนไว้ลงทุนระยะยาว และบางส่วนไว้เล่นสั้น คงได้กระแสเงินสดมาสร้างพอร์ตไม่น้อยเลย
สำหรับมุมมองทางด้าน Fundamental ที่ผมนำมาประยุคใช้ในกราฟนี้นะครับ จะเป็นเส้น ที่แสดงเงินปันผลที่ระดับ 1.12% 1.25% และ 1.38% ซึ่งตอนนี้เขาสามารถยืนได้ที่เส้นระดับเงินปันผลที่ 1.38% เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากท่านได้ย้อนกลับไปดูในอดีต ท่านจะเห็นทันที ว่าหุ้นตัวนี้เทรดที่ระดับค่าที่ 3 เส้นนี่แหละครับ
หากอนาคตเขากลับมาทำได้ดี แก้ไขปัญหาคนไม่ซื้อของโดยไม่ใส่ถุงได้ ผมว่าราคาเขากลับมาได้แน่นอนครับ
ยาวหน่อย แต่หากคุณชอบ ผมก็ดีใจนะ
[TH]SPVI กำลังทำทรง ascending triangleจากภาพและคำบรรยาย จะเห็นว่าหุ้น SPVI กำลังทำทรง ascending triangle หรือทรงสามเหลี่ยมที่มีการยก Low เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมี High อยู่ที่บริเวณเดิม พร้อมกับมี Volume เข้ามาประกอบ จึงเป็นเหตุให้หุ้นตัวนี้ปรับขึ้นได้ในอนาคต
แถมประกอบกับอินดิเคเตอร์ Relative Strength นี้ ได้แสดงค่าที่เหนือ 0 แสดงให้เห็นว่าตัวหุ้นตัวนี้มีความแข็งแกร่งกว่าตลาดมาก ในรอบ 60 วัน
ในแง่พื้นฐานแล้วหุ้นตัวนี้นับว่าเป็น Growth Stock ที่เทรด ณ ระดับเงินปันผลที่อยู่ระหว่าง 2-4% แถมมีการเทรดที่ Market Cap. เหนือ Asset ของเขาด้วย นับว่าตลาดให้ค่ากับอนาคตมาก
ทั้งหลายนี้ผมเลยมองว่าตลาดมีการให้ค่ากับอนาคตพอสมควร โอกาสที่จะขึ้นไปพร้อมรับรู้ผลประกอบการยังมีอยู่มากเลยครับ
ยาวหน่อย แต่ถ้าคุณชอบ ผมก็ดีใจนะ
ขอบคุณครับ
Gunkul มองขึ้น จากการยก Low และมีการทำ Breakout ระยะสั้นSET:GUNKUL
จากที่ท่านเห็นนี้ กราฟเริ่มมีการฟอร์มตัวเป็นขาขึ้น
-ประกอบกับอินดิเคเตอร์ Relative Strength เริ่มฟอร์มตัวเป็นขาขึ้น (ใช้ตัวเลขอ้างอิงจากราคาหุ้นเทียบกับเัชนี SET Index 200 วัน ย้อนหลัง)
-ปัจจัยด้าน Fundamental สอดรับที่หุ้นเทรดที่ -1 SD จากค่า Price per Book Value คุ้มค่าที่จะ Bet กับอนาคตของเขา
- ตัว Model ธุรกิจของ Gunkul เรียกว่าไม่น่าจะกระทบจาก Covid-19 มากนะผมว่า แผมกำไรช่วงหลังมาจากการข่ายไฟฟ้าซึ่งแทบจะเป็น Recurring Income ด้วย ดังนั้นแล้ว หากไม่มีอะไรผิดพลาด กำไรของเขาน่าจะเป็นบวกอยู่ในปีนี้ และราคาก็น่าจะตามผลกำไรที่จะเติบโตด้วย
ทั้งหลายทั้งปวงนี้ ผมเลยมองว่า Gunkul จะเป็นบวก น่าลงทุนนั่นเองครับ