ไอเดียชุมชน
BTCUSD : ระบบ Trend Following ทั้งสามระบบ มีสัญญาณ "ขาย" 21/9/21นั่งรอระบบสุดท้ายอย่าง Action Zone ( MACD ตัดศูนย์ ) แดง มาหลายวัน ถึงจะเขียนบทสรุปอันนี้ได้ 555
สรุปก็คือว่า ระบบแดงทั้งสามระบบแล้วจ้า เรามีแนวโน้มเข้าสู่ตลาดหมีกันอีกแล้ว
-----------
ระบบ Break High ( แดง )
-----------
Entry : 42200 ( 31/7/2021 )
Exit : 45000 ( 14/9/2021 )
Profit : 6.59%
-----------
ระบบ ATR ( แดง )
-----------
Entry : 33700 ( 24/7/2021 )
Exit : 46800 ( 8/9/2021 )
Profit : 38.70%
-----------
ระบบ Action Zone ( แดง )
-----------
Entry : 39380 ( 28/7/2021 )
Exit : 42870 ( 21/9/2021 )
Profit : 9.05%
* นอกจากนั้น ก็มี indicator อื่นๆ มาแจมด้วย เช่น
- ราคาปิดแท่งใต้ EMA 120 Daily = แนวโน้มขาลงใหญ่
- โครงสร้างกราฟทำ Lower High + Lower Low = แนวโน้มขาลง
- โครงสร้างกราฟใหญ่มากๆ ทำ Lower High ( วัดจากยอด 64k และ ยอด 52k ) ซึ่งก็เหลือแต่การทำ Lower low หลุด 30k ในภาพใหญ่ ก็จะ confirm trend ขาลงใหญ่ครับ
------------
สรุป
------------
* จากบทเรียนที่ผ่านมา โดยเฉพาะในรอบสามเดือนที่แล้ว ที่กราฟก็มาทรงคล้ายแบบนี้ และก็มีหลายๆ คนที่ดื้อ ไม่ยอมออกตอนระบบแดงแรก ตอนที่ผมเตือนลงใน trandingview นี้ ตอนเดือน 5/2021
* สุดท้าย ก็ต้องไปนั่งเครียด ติดดอย นอนไม่หลับ กันทุกวัน ในช่วงเดือน 5-6-7 ที่ผ่านมา
* รอบนี้ ระบบก็แดงทั้งหมด อีกแล้ว.. คุณก็ต้องถามตัวเองว่า .. คุณได้เรียนรู้อะไรจากการดอย เพราะไม่ยอมลงมือ take action ใดๆ ในรอบที่แล้วหรือไม่? เพราะ ถ้าคุณไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย และยังไปยึดติดกับแนวคิดว่า "ไม่ขายไม่ขาดทุน" --- "ปิดจอไว้ก่อน เดี๋ยวมันก็กลับมา" ... แล้ว... ถ้ามันไม่กลับมาล่ะ? คุณจะต้องเจอความเครียด สะสมทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน เหมือนรอบที่แล้ว อีกครั้งนะ? คุณรับไหวหรือป่าว?
* ถ้ารับไม่ไหว ก็ไปจัดการชีวิตให้เรียบร้อยซะตั้งแต่วันนี้ครับ การเทรด มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ที่คุณจะเข้ามาแล้วจะรวยออกไปได้ง่ายๆ นะครับ บอกไว้ก่อน 555
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 21 กันยายน 2564ตลาดทองคำฟิวเจอร์เมื่อวานนี้ปรับบวก 12.4 ดอลลาร์ เหตุตลาดหุ้นทั่วโลกปั่นปวนยักษใหญ่อสังหาฯ ของจีนผิดนัดชำระหนี้
ตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อวานนี้ปั่นป่วนหนัก จนทำให้ปิดลบกันทุกกระดาน นักลงทุนแห่หนีตายเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เหตุจากการที่มีรายงานเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ของจีน ทำให้ทองคำกลับมาบวกได้อีกครั้งสวนกระแสที่บอกว่าทองคำจะปรับตัวต่ำจากการปรับลดวงเงิน QE ของธนาคารกลางสหรัฐในการประชุมระหว่าง 21-22 กันยายนนี้
ตลาดทองคำ COMEX (Commodity Exchange) สัญญาส่งมองเดือนธ.ค. ปิดบวก 12.4 ดอลลาร์หรือ 0.71% ปิดที่ระดับ 1,763.8 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำกลับมาอยู่ในช่วงผันผวนอีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่าทองคำจะเจอสภาวะกดดันจากการตัดสินใจนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดในช่วงสองสามวันนี้ แต่เมื่อวานนี้ทองคำต้องเจอกับภาวะผันผวนอีกรอบตลอดทั้งวัน เมื่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจีน ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ได้ผิดนัดการชำระหนี้ จึงสร้างความกังวลให้กับตลาดหุ้นทั่วโลก ทำให้มีการเข้าซื้อทองคำเข้ามาอีกรอบเพื่อเป็นหลักประกันความเชื่อในฐานะที่ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
ตลาดหุ้นเอเซียวันนี้ก็เปิดแดนลบกันหมด แต่ในส่วนของเซี่ยงไฮ้คอมฯ วันนี้ปิดทำการ 1 วันเนื่องจากเป็นวันหยุดของประเทศจีนในเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ปัญหาสภาพคล่องของบริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วภูมิภาค ถือเป็นประเด็นร้อนที่เข้ามากลบกระแสของการปรับลดวงเงิน QE ธนาคารกลางสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้เอเวอร์แกรนด์ได้ออกแถลงการณ์ยอมรับวาบริษัทฯ กำลังเผชิญกับปัญหาขาดสภาพคล่อง จนเป็นเหตุให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามนัดหมายที่กำหนด ในขณะที่หนี้ของเอเวอร์แกรนด์มากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 10 ล้านล้านบาท เทียบเท่ากับ 2% ของตัวเลข GDP ของจีน
เอเวอร์แกรนด์มีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 งวดในเดือนนี้ โดยมีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 83.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,780 ล้านบาท ในวันที่ 23 ก.ย.ของหุ้นกู้ที่มีกำหนดครบอายุเดือนมี.ค. 2565 และมีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 47.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,580 ล้านบาท ในวันที่ 29 ก.ย.ของหุ้นกู้ที่ครบอายุเดือนมี.ค. 2567
หากเอเวอร์แกรนด์ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยเมื่อถึงวันกำหนดชำระดังกล่าว ทางบริษัทจะมีเวลาอีก 30 วันในการชำระดอกเบี้ย มิฉะนั้นจะถือว่าบริษัทผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ซึ่งหากเอเวอร์แกรนด์ตกอยู่ในสภาพผิดนัดชำระหนี้ ทางบริษัทจะต้องทำการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งคาดว่านักลงทุนที่เข้าซื้อหุ้นกู้ของเอเวอร์แกรนด์จะได้รับส่วนแบ่งการชำระคืนในสัดส่วนต่ำ
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
วันนี้ตลาดทองคำอาจมีความผันผวนบ้าง แต่วันนี้ตลาดการเงินจีนปิดทำการ 1 วัน ทำให้ประเด็นของจีนได้ลดแรงบางส่วนออกไปได้บ้าง สำหรับวันนี้เราได้ประเมินการเข้าหาจุดซื้อขายในกรอบ ซึ่งก็พอมีระยะความคุ้มค่าต่อความเสี่ยง แต่ในกราฟนั้นเราจะวางกลยุทธรองรับสำหรับสถานการณ์รายงานการประชุมของเฟดที่กำลังเริ่มต้นขึ้นในระหว่างวันที่ 21-22 กันยายน นี้ หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่าน 1,769 ขึ้นไปได้นั้น ก็อาจมีแรงเทขายทำกำไรออกมาจากการเข้าซื้อทองคำไว้เมื่อวานนี้ ซึ่งนักลงทุนอาจเทขายทำกำไรระยะสั้นออกมาอีกรอบ เราอาจอาศัยจังหวะดังกล่าวเข้าทำกำไรระยะสั้นได้เช่นกัน ทั้งนี้หากจะเข้าทำการเสี่ยงขายก็ให้รอราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,769 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : หากราคาทองคำปรับตัวย่อมาในบริเวณแนวรับ 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้รอซื้อทองคำคืนในบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการเข้าทำการเก็งกำไรระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากทองคำยังไม่สามารถผ่าน 1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปิดต่ำกว่า 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position: เมื่อราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,775-1,769 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ที่บริเวณดังกล่าว โดยเน้นการเข้าทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่ระดับ 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้นั้นก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นสูงกว่า 1,775 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Resistance : 1769 / 1783 / 1793
-------------------------------------------
Support : 1745 / 1731 / 1722
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Downtrend
Time Frame H4 = Downtrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
การถือครองทองคำกองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,754.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 1,001.66 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 7
รวมการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น : -0.06 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
TU 14/9/2564TU เป็นเพียงแค่แนวทาง ไม่ได้แนะนำการลงทุน
โดยทั่วไปแล้ว Corrective Wave จะมีโครงสร้างเป็น 3 คลื่นย่อย ประกอบด้วย คลื่น A, B, C และ Corrective Wave นี้ สามารถทำให้เข้าใจผิดได้ โดยในส่วนรายละเอียดของ Corrective Wave จะอธิบายในภายหลัง แต่วัตถุประสงค์หลัก ก็คือ Corrective Wave จะมีเพียง คลื่นย่อย 3 คลื่น เท่านั้น
or กับนิวนอมอลหลังจากการล็อคดาวน์ ไปสี่รอบ ร้านในห้างถูกปิด และคนเริ่มมีความกังวล จะเห็นได้ว่ามีร้านต่างๆ เริ่มมาออนไลน์ และอยู่นอกห้างกันมากขึ้น และที่เห็นชัดคือมาในปั่มน้ำมัน ซึ่งในอนาคตหลายๆอย่าง เหมือนจะเร่งระบบรถไฟฟ้ามากขึ้น ปั้มน่าจะเหมือนเป็นห้างขนาดย่อมๆ มีที่ชาร์จไฟ ทานอาหาร พักผ่อน ระหว่างรอรถ
เมื่อมาดูกราฟ มีการพักเป็นเวลานานตอนนี้ออกจากแนวกด และผ่านการขึ้น xd ปันผลแล้ว ทำให้เกิดทรง ยกโลขึ้น หากมองหุ้นตัวใหญ่ๆ น่าวิ่งต่อยาวๆ
คัทแรกที่ 28.5 ทิ้งหมดหากหลุด 27.25
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากตลาดกระทิงของ คริปโตฯ ปี 2021จดๆ เอาไว้กันลืม เอาไว้อ่านเองในอนาคต เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ และบทเรียน มาดูกันว่ามีอะไรบ้างนะครับ
-----------------------------------------
1) จงเชื่อในระบบ Trend Following ที่เราได้ Backtest + Forward Test มาแล้ว และทำตามระบบไปอย่างมีวินัย
-----------------------------------------
- เนื่องจากผมเอง โดนตลาดคริปโต สับขาหลอกมาตลอด ตั้งแต่ปี 2018 ยัน 2019 ยัน 2020
- โดย ระบบ Trend Following ที่ผมใช้สามตัว คือ MACD ตัดศูนย์ ( Action Zone ) , ATR Channel ( ATR Trailing Stop ) และ Break Previous High มักจะเป็นเขียว แล้วก็เปลี่ยนเป็นแดง หลังจากเทรนเกิดขึ้นไม่นานเสมอ
- โดย ช่วงที่เทรนมานานที่สุด ก็กินเวลาแค่ ประมาณ 3-4 เดือน เท่านั้น นั่นก็คือ ช่วง Apr 2019 - July 2019
- สิ่งเหล่านี้ ทำให้ perception ของผม ต่อการรันเทรนของคริปโตฯ ไม่ว่าจะเป็นเหรียญใดๆ นั่นก็คือ จะพยายาม หาจังหวะ Take Profit ออกมาอยู่เรื่อยๆ .. โดย ไม่ว่าจะใช้ fibo projection หรือใดๆ ก็ตามแต่ .. เพราะ มีความ "กลัว" ว่า ตลาดจะกลับตัว ทำให้กำไรที่ได้ หายไปหมด
- แต่กลายเป็นว่า รอบกระทิง ช่วง Oct 2020 ลากยาวไปถึง May 2021 ของคริปโตฯ นั้น กินเวลายาวนานถึง 7 เดือน! ซึ่งที่ผ่านมาผมก็ทยอย Take Profit ออกไปตลอดทาง ทำให้ กำไรที่ได้ ก็ไม่ได้เป็นเต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่าไหร่ ( แต่ก็นะ กำไรก็คือกำไร 55 )
- โดยเฉพาะที่ผ่านมา มีการปั๊ม Altcoins กันอย่างสนุกสนาน แต่เนื่องจากผมมี Bias ส่วนตัวต่อ Altcoins ทำให้ ตกรถไปโดยปริยาย ก็เลยนำไปสู่บทเรียนข้อ 2 ว่า...
-----------------------------------------
2) อย่าไปรังเกียจ Altcoin อะไรมาก แหย่ๆ มันไว้บ้าง เวลามันวิ่งแรงจะได้ไม่ตกรถ
-----------------------------------------
- เอาจริงๆ รอบขาขึ้นต้นปี ผมก็ไม่ได้รังเกียจ Altcoins ซะทีเดียวนะ เพราะก็มีไปเข้า ZMT lock ไว้ตามเพื่อนแนะนำบ้าง ซึ่ง ไอ้การ Lock ZMT นี่แหละ มันเลยทำให้เราสามารถถือ Altcoins นิ่งๆ โดยไม่ใจสั่นได้ ..เพราะสั่นไป ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี 555
- แต่ ก็พลาดโอกาสทำกำไรไปหลายตัวอยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น LUNA เอย หรือพวกเหรียญ DeFi สารพัด ที่ปั๊มกันแบบว่า กาวสุดๆ 555
- รอบนี้ ผมก็เลยไม่พลาดละ โดยผมได้ทำการแบ่งเงินส่วนที่เป็น "พอร์ต Altcoins" ออกมาต่างหากเลย เป็นก้อนเล็กๆ 10% ของพอร์ตหลัก และ ก็เอาก้อนนี้ ไปเข้าซื้อ alt ด้วยแบบ spot เท่านั้น ( ไม่เล่น future ) เพื่อที่จะสามารถทนการแกว่งได้ โดยมองว่า ถ้าเหรียญพวกนี้ ลงเต็มที่ -80% เราก็จะขาดทุนเต็มที่แค่ -8% ของพอร์ตหลักเท่านั้นเอง ยังรับได้อยู่ครับ
- โดยตอนนี้ ก็ได้ อานิสงค์จากเหรียญพี่แซม นั่นก็คือ SOL และ FTT ทำให้พอร์ตนี้โตขึ้นเรื่อยๆ ในความเสี่ยงที่เรารับได้นั่นเอง
-----------------------------------------
3) ระบบเขียวก็เข้าไป อย่าไปกลัวไรมาก ถ้ากลัว ก็จำกัดความเสี่ยงให้อยู่ในจุดที่เรารับได้ จบ!
-----------------------------------------
- ตอนระบบเขียวแรก ช่วงปลายเดือน July 2021 ผมเองก็เขียนบทความเรื่องนี้ แชร์ลงใน Tradingview ว่า ระบบเขียวแล้วน้า ควรเข้าแล้วน้า... แต่เท่าที่ไปแชร์ตามที่ต่างๆ ก็พบว่า หลายๆ คน ส่วนใหญ่ ไม่สนใจ และพอถามว่าทำไม ก็มีคำตอบง่ายๆ ว่า "กลัวมันหลอกอีก"
- สำหรับมือใหม่ น่าเห็นใจตรงที่ว่า หลายๆ คน ไม่เข้าใจว่า การเทรดอ่ะ มันสามารถ "เข้าแค่บางส่วน เพื่อคุมความเสี่ยง ให้เท่ากับที่เราต้องการ ผ่านการคำนวณ Position Size ได้นะ"
- หลายๆ คน ยังไปคิดว่า ถ้าเขียวแล้ว มีเงิน 100% ก็ต้องใส่ 100% เลย อะไรแบบนั้น ( ผมก็เคยเป็นนะ เลยเข้าใจ 555 )
- ทำให้ หลายๆ คนแหยง ที่จะกดซื้อ เมื่อระบบมีสัญญาณเขียวแรก นั่นเอง...
- แต่ถ้าใครสามารถคำนวณ Position Size ตามความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้ ผมบอกเลยว่า คุณจะตัดปัญหาเรื่องความกลัวการโดนเขียวหลอก ออกไปได้เลย เช่น
--- กลัวมากๆ ก็ใช้ความเสี่ยงมาตรฐาน 2% Risk per Trade
--- มีกำไรเยอะจากรอบที่แล้ว แต่ยังกลัวอยู่เหมือนกัน ก็ขยับขึ้นมาหน่อย อาจจะใช้ได้ถึง 4-6% Risk per Trade
--- รอบที่แล้ว รวยจัด รอบนี้ อยากเสี่ยงมากหน่อย เพราะมองว่าลงมาเยอะแล้ว ก็อาจจะใช้ได้สูงสุดถึง 10% Risk per trade ( แต่ไม่ค่อยแนะนำครับ ส่วนตัวผมว่าสัก 5-6% ก็เต็มที่ละ )
- คุณทำวิธีนี้ได้ คุณจะ "กล้า" เข้า ตอนเขียวแรก และ จะสามารถ "ทนถือได้อย่างนิ่งๆ" ได้ จนกว่าระบบจะแดง หรือ ชน stop loss ที่เราได้ตั้งไว้ตอนก่อนกดซื้อครับ
-----------------------------------------
4) เทรนขาขึ้นระดับ TF Daily TF Weekly ก็อย่าไป short สวนเทรนโดยไม่จำเป็น ...โอกาสเสียตังฟรี สูง
-----------------------------------------
- สำหรับมือใหม่ หรือมือเก่าบางคน จะชอบติดนิสัยทำตามตำราที่สอนๆ กันมา นั่นก็คือ กะจะทำกำไรได้ทุกคลื่น ไม่ว่าจะเป็น การขึ้น ( Long ) หรือการย่อ ( short ) ยิ่งพวกสาย short นี่ไม่รู้เป็นไร เห็น divergence แล้วรีบบบบ ไปกด short กันเลยกะว่าลงแน่ 5555
- ซึ่งผมบอกเลยว่า ถ้าท่านไม่เก๋าเกมจริงๆ ตัดสินใจเองไม่ได้ ยังต้องคอยมาตั้งกระทู้ถามคนอื่นในห้อง ว่า ดอย short หนักมาก ทำไงดี .. ผมก็ขอแนะนำว่า อย่าไปเล่นสองขาเลยครับ เล่นแค่ฝั่ง long (ซื้อ) ฝั่งเดียวให้รอดก่อน
- กำไรของ short อะ มันน้อย นิดเดียว ส่วนความเสี่ยง มันไม่จำกัด ถ้าอยากได้ตังจากช่วงขาขึ้น ก็แค่รอให้มันย่อ แล้วค่อยหาจังหวะเปิด long แค่นั้นเองครับ ง่ายๆ
- ส่วนถ้ามันยังไม่ย่อ ก็ไม่ต้องทำไร ถ้าตกรถแล้วก็นั่งเฉยๆ รอให้เป็น แค่นั้นเอง
- ผมเทรดคริปโตฯ มาตั้งแต่ปี 2017 นี่ก็จะครบปีที่ 5 ละ ผมเห็นคนที่ short ช่วงขาขึ้น แล้วไปถัวสู้ ไม่ยอมคัท พอร์ตระเบิด หมดตัว กันไปไม่รู้กี่คนละ ... ก็ขอออกมาเตือนกันไว้ ณ ที่นี้นะครับ ว่า ถ้าไม่อยากเสียตังฟรี ก็อย่าทำเล้ย.... ย่อซื้อ ตอนขาขึ้น = ez money กว่าเยอะครับ
-----------------------------------------
5) "คนอวดกำไรลงเฟส" คือสัญญาณให้เรา "หยุดมือ" และ "เฝ้าระวังการกลับตัว" ที่ยังใช้ได้อยู่เสมอ
-----------------------------------------
- ใครจำช่วงตลาดขาขึ้น ตอนต้นๆ ปี 2021 นี้ได้ ก็น่าจะคุ้นกันดีว่า ช่วงพีคๆ แถวๆ Apr-May 2021 ในเฟสบุค มีแต่เพื่อนๆ หรือคนรอบข้างของเรา อวดกำไรจากคริปโตกันเต็มไปโม้ดดด
- บางคน ร้อยวันพันปี ไม่เคยพูดเรื่องคริปโตฯ อยู่ๆ มาเปิดคอร์สสอน DeFi กันซะงั้น 555 ทุกคนเป็นเซียนกันไปหมด มีกูรูหน้าใหม่เกิดขึ้นกันเป็นดอกเห็ด
- ซึ่ง หลังจากนั้นไม่นาน เราก็เห็นการกลับตัว/ปรับฐานของตลาด ( correction ) ในช่วงเดือน May - Jul 2021
- การกลับตัวรอบนั้น ก็ทำให้ กูรูที่เกิดขึ้นมาช่วงตลาดดีๆ หายเงียบ กันไปหลายคน บางคนก็เลิกอัพเดทเพจกันไปเลย .. บางคนก็ดอยหนัก แต่ก็ยังออกมาอัพเดทด้วยสปิริทอยู่
- หลายๆ คนที่ไปเล่น ฟิวเจอร์ ก็หมดตัวกันถ้วนหน้า
- ซึ่ง ถ้าเรามาคิดดีๆ แล้ว... สำหรับคนที่ทำตามระบบ เราก็รันเทรนกันมาตั้งแต่ช่วง Oct 2020 ออกตอนไหนก็กำไร
- แต่.. มันจะไม่กำไร ถ้า ในช่วงที่ตลาดดีๆ เรา "นั่งเฉยๆไม่เป็น" และไป FOMO กู้หนี้ยืมสิน มาเข้าเหรียญเพิ่มในช่วงตลาด top + คนอวดกำไรนั่นเองครับ
- ดังนั้น รอบหน้านี้ ถ้ามีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีก ...เราก็อย่าไปเผลอใจ ไล่ราคา ณ ยอดดอย กันอีกนะคร้าบ
-----------------------------------------
6) เตือนไปก็เท่านั้น มีแต่คนด่าฟรี ตอนตลาดลงจริงๆ ก็ไม่ใช่จะมีคนคิดถึง .. นั่งเฉยๆ ดีกว่า
-----------------------------------------
- อันนี้เป็นบทเรียน ของตัวผมเอง เพราะ ตอนที่ตลาดดีๆ การไปเตือนคนเพราะความหวังดี จากประสบการณ์ที่เราเจอมา ... แต่สุดท้าย ก็โดนแคปไปด่า
- ผมก็เลยมานั่งคิดนอนคิด แล้วก็ยูเรก้า ว่า เออ มันก็เป็นธรรมชาติอ่ะนะ เพราะถ้าคนที่ไม่เคยเจ๊งจากตลาด เตือนเท่าไหร่ เขาก็ไม่เก็ตอ่ะ
- มันเหมือนไปบอกเด็กไม่กี่ขวบว่า น้ำร้อน มันร้อนนะ ไฟ มันร้อนนะ อย่าไปจับ เดี๋ยวมือพอง ...เด็กมันก็ไม่รู้เรื่องหรอก มันก็ต้องเอามือไปจับซักที ให้มือพองก่อน ถึงจะรู้ว่า เออ ไฟมันร้อนจริงๆ นะ
- เทรดเดอร์มือใหม่ ก็เหมือนกัน ก็ต้องปล่อยให้เขาไปเจอการขาดทุนหนัก หมดตัวก่อน สักรอบนึง เขาก็จะได้เรียนรู้ด้วยตัวเองว่า เออ ตลาดมันไม่ได้ง่ายๆ อย่างที่เขาเคยคิดไว้นะ ไม่เหมือนอย่างที่กูรูบอกไว้นะ
- ซึ่ง ถ้าเขามีความพยายามจะปรับปรุงแก้ไขตัวเอง เขาก็จะไปนั่งอ่านหนังสือต่างๆ ดูวีดีโอสอนเทรดต่างๆ ที่สอนโดยคนที่รอดจากตลาดมาได้ จริงๆ และสุดท้าย เขาก็จะกลายเป็นเทรดเดอร์ ที่สามารถอยู่รอดในตลาดได้เอง
- ดังนั้น ผมเองก็เลยต้องปรับแก้ตัวเองกันไปเช่นกัน นั่นก็คือ ปล่อยวาง และ ช่างหัวมัน รวมถึงไม่ไปวอร์ หรือกล่าวถึงคนอื่นด้วย 555 เพราะแต่ละคน เขาก็มี FC ของเขาเอง มีมุมมองต่อตลาดของเขาเอง เราไม่ถูกใจก็ block ทิ้งไปจะได้ไม่ต้องไปรับรู้ว่าเขาคิดอะไรพูดอะไร ...ก็แค่นั้นเอง 5555
------------
สรุป
------------
เอาเท่านี้ก่อนละกัน นึกไม่ค่อยจะออกละ แต่หลักๆ ก็ประมาณนี้แหละครับ ก็หวังว่าบทความนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อท่าน ไม่มากก็น้อย
ใครพลาด ก็อย่าลืม มองปัญหา และ หาทางแก้ให้ได้ ด้วยตัวเองกันนะครับ
ผมบอกเลยว่า การเทรดเนี่ย มันคือการปรับ mindset ของเราเองให้มันถูกต้อง และ ทำยังไงก็ได้ ให้รอดได้ในทุกสภาวะตลาด
ถ้าคุณรอดไปสัก 1 cycle หรือ 2 cycle เดี๋ยวกำไร มันจะมาเองครับ
คนส่วนใหญ่ ได้กำไรเยอะ ตอนตลาดดีๆ แต่ก็มาหมดตัวหรือเจ๊งยับ ตอนตลาดปรับฐานลึก กันทั้งนั้นครับ
เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะ
kubthbลงทุนใน morningmoonvillage
white paper ได้ระบุว่า
ความสามารถในการทำกำไรในปัจจุบัน " 236 % " ต่อปี
- APR หมายถึงฟาร์มแห่งนี้ให้ดอกเบี้ยเป็นกำไรในอัตรา 236 % ต่อปี
*** Convert APR to APY
236 % APR compounding weekly is 905 APY
- APY คืออัตราผลตอบแทนรายปี ซึ่งแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ เมื่อคุณรวมดอกเบี้ยทบต้นแล้ว คิดเป็น ประมาณ 900 % ต่อปี
*** CAUTION! There is a risk of investment in stems, which related to price of stem that can b
The Elliott Wave Basic Pattern EURAUD H1 และแผนการเทรดEURAUD H1
มีลักษณะคล้าย รูปแบบปฐมบทของ Elliott Wave หรือ The Basic Pattern
กล่าวง่าย ๆ คือ สวิงขึ้นแล้ว สวิงย่อ เก็งการเกิดคลื่น 1 - 2 --->3 ได้
ในรายละเอียดของ 1-2 จะมี 8 คลื่น คือ (1)-(2)-(3)-(4)-(5) แล้วย่อเป็น (a)-(b)-(c)
ภาพที่เห็นตอนนี้ (a)-(b)-(c) มีโอกาสเป็นคลื่นปรับชนิด Zigzag
โดยมีคลื่นย่อยเป็น
(a) : Impulse Wave ประกอบด้วย 5 คลื่นย่อย
(b) : Expanded Flat ประกอบด้วย 3 คลื่นย่อย
(c) : กำลังก่อตัวอยู่ เดาว่าเป็น Ending Diagonal ประกอบด้วย 5 คลื่นย่อย
.
เรามาดูต่อกันที่ Ending Diagonal สิ่งที่บังคับคือ คลื่น 4 ต้องมีระดับทับซ้อนกับคลื่น 1
และเมื่อลากเส้นแนวโน้มบนล่างจะสอบเข้าหากัน ขณะนี้มองว่ากำลังเริ่มคลื่น 4 ย่อย
ของ Ending Diagonal
.
การวางแผนเทรด Long
เมื่อเงื่อนไขทั้งหมดครบ
1. เกิด The Basic Pattern ข้างต้น Ending Diagonal ลงครบ 5 คลื่น
2. การย่อเกิน 61.8% หรือ 78.6% ที่ระดับราคาราว 1.6000
3. การ Long แบบที่ 1 เล่นการจบ Ending Diagonal เมื่อราคาเบรคคลื่น 4 ย่อยของ Diagonal ขึ้นไปได้
4. การ Long แบบที่ 2 เล่นการจบ Zigzag เมื่อราคาเบรคระดับคลื่น B ย่อยของ Zigzag ขึ้นไปได้
.
แผนทั้งหมดล้มเลิก
1. หากการย่อลงเกิน 90% ไม่เล่นแล้ว แสดงว่ามีโอกาสกลับตัวลงไปเลย ย่อแล้วยวบ
2. คลื่น (c) ไม่เป็น Diagonal
XAUUAD D1 เอาใจคนถือ Sell หน่อย รอดูวันศุกร์ Non farm ประกาศตัวเลขออกมาดี USD ขึ้น ทองอาจจะมีโอกาสดิ่ง แต่ส่วนตัวมองว่า ถ้าจะดิ่งได้ ทองไม่ควรจะผ่านแนวต้าน 1833-1834 หรือผ่านได้ก็ยืนเหนือไม่ได้ ใดๆ ตอนนี้ราคาทะลุออกนอกกรอบสามเหลี่ยมไปแล้ว ระวังไว้นิดนะครับ เทรนขึ้นยังคงมีแรงอยู่ และราคาวิ่งอยู่ใน BUY ZONE อาจมีย่อลงมาเมื่อถึงแนวต้าน 1818-1820 จะแค่ย่อ หรือดิ่งเลย ต้องติดตามต่อไป
การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณและศึกษาให้ดีก่อนการลงทุนครับ
วิเคราะห์ทองคำเช้าว้นจันทร์ที่ 30 สิงหาคม 2564ทองคำเช้าวันจันทร์ยังปรับตัวสูงขึ้น ส่วนดอลลาร์กับบอนด์กอดคอสวนทาง
เช้าวันจันทร์ตลาดทองคำยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาพุ่งขึ้น 24.3 ดอลลาร์ หรือ 1.35% ปิดที่ 1,819.5 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้นราว 2% สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้จะมีการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก่อนสิ้นปีนี้ก็ตาม
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
ทองคำเช้าวันนี้ยังมีการปรับตัวขึ้นสูง หากราคาทองคำยังสามารถทรงตัวเหนือระดับ 1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินราคาทองคำยังพยายามขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,830 (Fibo 161.8%) หากราคาทองผ่านแนวต้านดังกล่าวได้นั้นก็จะส่งผลให้แรงซื้ออาจเข้ามาหนุนตลาดให้ทองกลับเป็นบวกได้อีกครั้งในสัปดาห์นี้ แต่ก็ให้ระมัดระวังด้วยเนื่องจากสัปดาห์นี้มีรายงานตัวเลขสำคัญเช่น NFP ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้อาจสร้างแรงผันผวนต่อทองคำได้เช่นกัน
กลยุทธ์การเทรดทองคำรายชั่วโมงวันนี้
Long Position : หากราคาทองคำยังทรงตัวเหนือ 1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” จากบริเวณดังกล่าว เป้าหมายปิดทำกำไรหากราคาไม่สามารถผ่าน 1,830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านไปได้ให้ชะลอการปิดบางส่วนไปก่อน ประะเมินแนวต้านถัดไปที่ 1,842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1,809 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง
Support : 1818 / 1809 / 1800
Resistance : 1830 / 1842 / 1851
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
GBPUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 30/8/2021 by TraderTanแนวรับแนวต้านที่สำคัญ ✅✅
1.36946 แนวต้าน
1.36540 แนวต้าน
1.35881 แนวรับ
1.35407 แนวรับ
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค 💬💬
RSI เป็นเทรนขาขึ้นชัดเจน
หลังจากที่ราคาลงมาทดสอบแนว 1.35966 ก็ได้มีแนวแรงซื้อกลับเข้ามา ผลักดันราคากลับชึ้นไปทดสอบแนว 1.37688 หลังจากนั้นราคาก็ได้มีการลงมาพักราคาเพื่อปรับฐาน ที่แนว 1.36850 หลังจากนั้นราคาก็ได้มีการผลักดันราคากลับขึ้นทดสอบแนว 1.376688 ซึ่งเป็นแนวเดียวกับเทรนไลน์ หากราคาสามารถขึ้นไปปิดเหนือนแนว 1.37688 และเทรนไลน์ได้ก็มีแนวโน้มที่ราคาจะขึ้นต่อไปทดสอบแนว 1.38817 และอาจขึ้นไปทดสอบแนว 1.39786
ทางเลือกในการลงทุน 💭💭
หากราคาขึ้นไปทะลุและปิดเหนือแนว 1.37688 และเทรนไลน์ ได้ ให้หาจังหวะในการเข้า ซื้อ Buy
โดนกำหนดเป้าหมายราคา
1. ปิดกำไรที่แนว 1.38817 ✅
2.ถือยาวและไปปิดกำไรที่แนว 1.39777✅✅
ตัดขาดทุนอยู่ที่แนว 1.36681🚫🚫
ปล. เมือราคาถึงแนว 1.38271 เลือนเส้น Stoploss -ขึ้นมาตำแหน่งที่เปิด เพื่อป้องกันการขาดทุน
💢💢นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
AUDUSD 4H - Short Trade ตราบเท่าที่ราคาอยู่ใต้เส้น EMA 20#การวิเคราะห์ทางเทคนิคในหลายกรอบเวลา
Monthly : ราคาปรับตัวขึ้นจาก Remove Supply Zone เมื่อต้นปี 2020 แถบสีขาว
Weekly: ราคา Retrace กลับขึ้นจาก Weekly Demand Zone โดยสัปดาห์ก่อนหน้าเกิด Bearish Strong Move จากโซนราคา 0.73500
Daily: ราคาถูกกดภายใต้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน สีดำ และ 480 วัน สีแดง
4 Hourly: เคลื่อนที่อยู่บริเวณซัพพลายโซน
🔖พิจารณาการเคลื่อนที่และพฤติกรรมราคาในปัจจุบันแล้ว มีแนวโน้มปรับตัวลดลงสู่จุดต่ำสุดเดิมอีกครั้ง
#GiveAndTakeZone by #ForexTradeReview
ETHราคากำลังทำแพทเทิร์น Gartley ซึ่งตรงบริเวณจุด D นั้นมี PA : 3D พอดี อาจจะเกิดการกลับตัวได้ และตอนนี้ RSI เกิดสัญญาณ Divergence แล้วด้วย
แต่ถ้าราคายังคงปรับตัวลงต่อ แถวบริเวณฟิโบรีเทส 88.6 จะตรงกับ QML และ C Point Cypher พอดี ก้อาจจะทำให้ราคาปรับตัวขึ้นได้ และแถวบริเวณตรงนั้นยังตรงกับแพทเทิร์น ABCD + C Point 5-0 Pattern ด้วย
SET : ระบบ Action Zone ( MACD ตัดศูนย์ ) มีสัญญาณ "ซื้อ" 25/8/21เนื่องจาก SET ตลาดหุ้นเมืองไทย หลังจากระบบ CDC Action Zone หรือ MACD ตัดศูนย์ แดงมานาน
วันนี้ ( 25/8/2021 ) ก็กลับมาเขียวอีกครั้ง
รอบก่อนหน้าเราก็เจอเขียวหลอกกันไปรอบนึง ทำให้รอบนี้ หลายๆ คนก็น่าจะหลอนกันและไม่กล้าเข้า
เอาจริงๆ ถ้าคุณมีความรู้สึกหลอน และไม่กล้าเข้า ผมว่า นั่นคือสัญญาณที่ดีนะ เพราะ ส่วนใหญ่ มันมักจะไปจริง ตอนเราไม่ค่อยกล้านี้แหละ 555
รอบนี้ ใครอยากเข้าหุ้นรายตัว ก็ไปลองไล่หาหุ้นกันดูเองครับ หลายๆ ตัว ก็ย่อกันมานานอยู่ และก็เริ่มดีด + ระบบเขียวแล้วเดียว เช่น กลุ่ม Banks หรือ กลุ่ม Services
พวกนี้เราจะเห็น low อ้างอิงได้ ก็มองว่า ถ้าหลุด low ก็ค่อยหนีครับ ถ้าไม่หลุด ก็ถือๆ ไปงั้นแหละ
USDCHF to complete ZigzagUSDCHF to complete Zigzag
หลังจากสวิง High จาก 0.900 ไป 0.9230 นับเป็นคลื่นส่ง Impulse คลื่น 1
จากนั้นย่อลงมาเป็นคลื่น 2 ลักษณะเป็นการปรับแบบ Zigzag 5-3-5 เป็นคลื่น a-b-c
ซึ่งปัจจุบันมีโอกาสเป็นคลื่น c ซึ่งต้องมี 5 คลื่น
และ ควรจะต่ำกว่า a ที่ 0.9100
ดังนั้นมองการลงได้อีกเพื่อจบชุดนี้
โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 0.9150 และแนวรับอยู่ที่ 0.9075
"
เรายังสามารถใช้เทคนิคช่องคู่ขนาน
และ Fibo Projection c = a เพื่อประมาณการจบคลื่น C ได้อีก
.
แต่หากจะเก็งการจบการปรับ แล้วเล่น Long อย่างน้อย
ให้ตีเส้น Trendline ของคลื่น c แล้วรอเบรคขึ้นไปเพื่อเป็นสัญญาณครับ
Elliott wave by Eaw จริงหรือเปล่าที่เราควรซื้อหุ้นในคลื่นสอง 2บทความนี้เผยแพร่เพื่อแนวทางให้เพื่อนๆ นักลงทุนที่ศึกษา NEO-Wave ให้เอาไปใช้ประโยชน์ในการทำกำไรในตลาดหุ้นแบบจริงจัง การนำทฤษฎีไปใช้วิเคราะห์สำคัญมาก เพราะเวลาที่เรานับคลื่นเราต้องนำความรู้จากหนังสือมาใช้ให้มากที่สุด ไม่ใช่นับตะบี้ตะบันไปตามอารมณ์หลอกตัวเอง
ตัวอย่าง บิทคอยน์ต่อยูเอสดอลล่าร์ที่แอดมินได้นับไว้เมื่อ 19 พฤจิกายน 2561
หลักการพิจารณา ดูว่าบิทคอยน์ลักษณะคลื่นที่สมมุติว่าเป็น คลื่นหนึ่ง แม้จะสูงมากแต่ว่าไม่ได้มีการแบ่งตัว Subdivide ซึ่งในกราฟมีการแบ่งตัวเพียงสาม Segment ดังนั้นจึงเข้าหลักเกณฑ์ของการเป็น Polywave คลื่นสองปรับตัวเกิน 38.2% ดังนั้นจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ Wave-1 Extended แล้วตอนนี้เป็นการลงในคลื่นสองหรือไม่นั้น หลักการพิจารณามาจากหนังสือบทที่ 11มาดูว่าเงื่อนไขและ ลักษณะคลื่นสองในกรณีที่ Wave-1 Non-extended มีอะไรบ้าง
Textbook : Wave-1 Non-extended
Wave-2 can retrace as much as 99% of wave-1. If it does, and wave-1 is a polywave or higher, the 2-wave will subdivide into an a-b-c affair in which the c-wave will fail (the 2-wave may subdivide whether the 1st wave does or not). If you are witnessing the first wave-1 develop after a prolonged advance or decline, there are no specific price level requirements for the termination of wave-1. Ifit is wave-1 of a larger 3rd or 5th wave, then wave-1 should approach (and preferably exceed) the termination point of the last Impulse wave of one larger degree. The 3rd wave must be longer than wave-1. If the pattern is above Complexity level 1, the third or fifth wave will be the subdivided segment, not wave-1. This is not to imply wave-1 will not subdivide, it just means it will not be the subdivided wave of the group. In other words, wave-3 or 5 will be more subdivided.
คลื่นสองสามารถย้อนกลับได้มากถึง 99% ของคลื่นหนึ่ง ถ้าเป็นเช่นนั้น และ คลื่นหนึ่งเป็นโพลีเวฟ หรือสูงกว่า คลื่นสองจะแบ่งย่อยเป็น a-b-c ที่คลื่นซีจะล้มเหลว (คลื่นสองอาจแบ่งย่อยว่าคลื่นที่หนึ่ง มีหรือไม่) หากว่าเห็นคลื่นหนึ่งซึ่งเป็นคลื่นแรกที่เกิดขึ้น หลังจากราคาเพิ่มขึ้นหรือการลดลงเป็นเวลานาน สำหรับการสิ้นสุดการจบของคลื่นหนึ่ง มันไม่มีข้อกำหนดระดับราคาเฉพาะหากเป็นคลื่นหนึ่งของคลื่นลูกที่สาม หรือห้าที่ใหญ่กว่า คลื่นหนึ่งควรเข้าใกล้ (และควรเกินกว่านั้น) จุดสิ้นสุดของคลื่นแรงกระตุ้นสุดท้ายที่มีระดับที่ใหญ่กว่าหนึ่งระดับ คลื่นลูกที่สามต้องยาวกว่าคลื่นหนึ่ง หากรูปแบบอยู่เหนือ Complexity level 1 (Polywaves ขึ้นไป) คลื่นลูกที่สามหรือห้าจะเป็นคลื่นที่แบ่งย่อย ไม่ใช่คลื่น-1 นี่ไม่ได้หมายความถึงคลื่นหนึ่งว่าจะไม่แบ่งย่อย แต่หมายความว่าจะไม่เป็นคลื่นที่แบ่งย่อยของกลุ่ม กล่าวอีกนัยหนึ่ง คลื่นสามหรือคลื่นห้าจะถูกแบ่งย่อยมากขึ้น แต่โดยทั่วไปหากไม่ใช่ Wave-1Extended ไม่ควรเกิด Subdivided ในคลื่นหนึ่ง การเกิด Subdivide นั้นให้คิดว่าโอกาสจะเกิดในคลื่นหนึ่งนั้นน้อยกว่าในคลื่นสามและห้ามากเพราะคลื่นหนึ่งนั้นไม่ใช่คลื่นยืดตัวนั้นเอง
Textbook : Wave-2
If wave-1 turns out to be (or is believed to be) the longest wave in the sequence, the second wave cannot retrace much more than 38.2% of the first wave. If the first wave is not the longest wave, the lowest point of wave-2 can retrace as much as 99% of wave-1. If wave-1 is a polywave or higher, the 2-wave must subdivide into a polywave or higher pattern. If the 2-wave subdivides and wave-a (in wave-2) retraces more than 61.8% of wave-1, the entire correction will inevitably turn out to be a Double Failure or a C-Failure, with the C-failure occurring at a point 61.8% or less of wave-1.
หากคลื่นหนึ่งกลายเป็นคลื่นที่ยาวที่สุด (หรือเชื่อว่าเป็นคลื่นที่ยาวที่สุด) ในลำดับ คลื่นที่สองจะไม่สามารถย้อนกลับได้มากกว่า 38.2% ของคลื่นแรก หากคลื่นลูกแรกไม่ใช่คลื่นที่ยาวที่สุด จุดต่ำสุดของคลื่นสองสามารถย้อนกลับได้มากถึง 99% ของคลื่นหนึ่ง ถ้าคลื่นหนึ่งเป็นโพลีเวฟ หรือ Complexity level ที่สูงกว่าในคลื่นสองจะต้องแยกย่อยออกเป็นโพลีเวฟ หรือรูปแบบที่สูงกว่า หากแบ่งย่อยคลื่นสองและคลื่นเอ (ในคลื่นสอง) ปรับฐานมากกว่า 61.8% ของคลื่นหนึ่งการ correction ทั้งหมดจะกลายเป็น Double Failure หรือ C-Failure โดย C-failure เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จุด 61.8% หรือน้อยกว่าของคลื่นหนึ่ง