ทองมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นมากกว่าขาลงเนื่องจาก Elliot wave ในคลื่นรอบใหญ่กำลังมองหาจุดจบของ Wave 5
ซึ่งปัจจุบันจะอยู่ที่ราคาแถวๆ 2100-2200$ โดย wave 5 อาจจะมี ending diagonal ซึ่งอยู่ในกรอบสีเขียว
โดยขอบบนของ diagonal ยังไม่ชัดเจน อยู่ที่มองแบบไหน
หากมองในภาพเล็กๆ จะเห็นว่า wave 3 ย่อยๆ ได้ยืดขยายสูงมาก
จน wave 5 ย่อยมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิด Truncated fifth ซึ่งเป็น wave 5 ที่เตี้ยกว่า wave 3
แต่อย่างไรก็ตาม wave 4 ย่อย ยัง retrace ไม่หลุดต่ำกว่า 50% (ไม่งั้นก็จะ fail 4)
และมีกรณีนึงที่ สามารถจบ wave 5 ได้โดยเงื่อนไข " wave 5 is inverse 123.6 – 161.8% retracement of wave 4 " ซึ่งจะถูกถ้านับแค่ไปแตะ 123.6% แล้วร่วง
หากมองการ retracement อื่นๆ โดยภาพย่อย ยังมีเงื่อนไขอยู่ " wave 5 is 61.8% of wave 1-3 " ซึ่งก็จะตรงกับการนับรอบคลื่นใหญ่
สรุปจากทั้งหมด ไม่ว่าการนับคลื้่นใหญ่หรือย่อย มีจุดที่กราฟดีดไปถึง 2100-2200 ได้ทั้งคู่ ดังนั้นอาจมองเป็นขาขึ้นมากกว่า
ซึ่งต่างจากการมองขาลง โดยการนับคลื่นภาพย่อย ซึ่งมีโอกาสน้อยกว่า (แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นไปไม่ได้)
ผู้เขียนมีมุมมองที่ว่าตลาดทองไม่มีใครคุมตลาดได้ และยังเป็นตลาดที่ทุกคนแข่งกันแบบสมดุล
ดังนั้นการมองทางออกแคบๆ เพียงทางเดียวเป็นทางออกที่ไม่ใช่จุดร่วมของการตัดสินใจของนักลงทุนมากนัก
ผู้เขียนจึงมองว่าการเป็นขาลงได้ในรอบนี้มีเหตุผลรองรับได้น้อย น้อยกว่าที่จะมองเป็นขาขึ้น
แต่สุดท้ายทั้งหมดนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์ไอเดียหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่การแนะนำการลงทุนแต่อย่างใด
ผู้ลงทุนทั้งหลายควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนลงทุน เนื่องจากการลงทุนทุกชนิดมีความเสี่ยง
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "ELLIOT"
หลายเหตุผลทาง Technical ที่ SET กำลังจะร่วงแต่ร่วงจากอะไรกันนะ ?จาก Elliot wave ที่ผมมองตอนนี้ สภาพกราฟใน TF W
กำลังอยู่ในกรอบของ Diagonal ซึ่งตามปกติแล้ว หาก Wave นี้เป็น Wave B
แปลว่า Wave B ควรกำลังจะจบ เพราะตามปกติแล้ว Diagonal มักไม่เกิดกลาง Wave
ดังนั้นการขึ้นต่อจึงเป็นไปได้ยาก
รวมกับเหตุผลต่างๆ ดังนี้ที่ทำไมถึงมองว่าเป็นขาลงทาง Technical
1. เกิด Triple bottom แต่ไม่มีแรงดีดตัวขึ้น
2. หากมองย้อนไปจะเห็นภาพ Inverse Head and shoulder ซึ่ง Fail
3. หากจะมอง B เป็นขาขึ้นแบบ Running flat / Expanded flat
จะไม่สมเหตุสมผล และติดตรง Diagonal ไม่ค่อยเกิดกลาง wave และ สัดส่วนค่อนข้างไม่สมดุล
4. เศรษฐศาสตร์เชิงมหภาคโดยรวมยังไม่ค่อยดี
ทั้งนี้ทั้งนั้นภาพรวมอาจจะรอหลังการเลือกตั้ง เพื่อบอกทิศทางหรือแนวโน้มว่านักลงทุนต่างประเทศกำลังสนใจตลาดไทยหรือไม่
เงินต่างชาติจะไหลเข้ามาหรือไหลออกไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางการเมืองร่วมด้วย
เป้าหมายหากเป็นขาลง
จบ Wave B -> เกิด Wave C ของ pattern zigzag ซึ่งจะลงไปในราคาตามเป้าดังกล่าว โดยเทียบจากระดับ Fibonacci
แต่
เป้าหมายหากเป็นขาขึ้น
SET ควรปีนขึ้นเหนือกรอบบน บริเวณราคาช่วง 1700 และยืนได้ ไม่หลุดลงกลับไป ซึ่งเป้าหมายราคาดังกล่าวจะอยู่ 2058
ทั้งนี้ทั้งนั้น นี่เป็นเพียงไอเดียหรือความเห็นโดยทั่วไป มีทั้งผิดและถูก ทุกกรณีเกิดขึ้นได้ นักลงทุนจำเป็นต้องศึกษาและจำกัดความเสี่ยงทั้งหมด
ก่อนจะนำเงินเข้าตลาด ด้วยความหวังดีครับ ร่ำรวยอย่างสมเหตุสมผลทุกท่านครับ
ทองกำลัง sideway เพื่อเลือกทาง อาจจะมีการย่อสั้นๆ หากจะขึ้นต่อปัจจุบันในแง่ของ Elliot wave ผมมองว่าเป็นคลื่น Correction แบบ regular flat ที่จบอาจจะจบขา B แล้ว
หรือกำลังขึ้นไปจบขา B ก็ได้แถว 20178 (fibonacci 1.236) ซึ่งจะกลายเป็น running flat
(ในคลื่นใหญ่ของ Expanded triangle / Double three / Triple three ซึ่งมองได้ทั้ง 3 รูปแบบ)
เนื่องจาก Dow's theory เป็น trend ขาลงระยะสั้นๆ และแนวรับเส้น MA 50 TF D กำลังไปบรรจบแถวราคา 1955 ในวันที่ 3-4
ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประกาศการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ช่วงวันที่ 4 พ.ค. ตอนเวลาตี 1.00 น.
ในระยะสั้นๆ ก่อนที่จะถึงเวลาดังกล่าว : กราฟอาจเกิด Sideway กรอบแคบๆ ระหว่าง MA 50 และ MA 200 ใน TF 4H (ราคาช่วง 1980-1995 $)
เมื่อถึงเวลาดังกล่าว : แบ่งเป็น 2 กรณี
1. ประกาศออกมาในแง่ตลาดค่อนข้างดีขึ้น กราฟอาจจะย่อลงมาบริเวณ 1950-1955 ซึ่งตรงกับแนวรับ MA 50 TF D หากเกิดกรณีนี้
- sell บริเวณราคานี้ TP แรก 1955 หรือหากหลุดลงไปต่อ อาจจะรันเทรนยาวโดยเก็บกำไรบางส่วนออกก่อน
โดยเหลือ Equity ให้เพียงพอสำหรับการแกว่ง และหากหลุด 1910 อาจจะกลายเป็นขาลงระยะกลาง -ยาว
2. ประกาศออกมาในแง่ตลาดแย่ลงหรือซึมยาว กราฟจะดีดเหนือทุกระดับ MA ในทุก TF หากเกิดกรณีนี้ขึ้นอาจจะ
- รอ sell แถว 20178 (เป็นตำแหน่งสิ้นสุด ขา B running flat / expanding flat)
- follow buy สามารถทำได้ แต่มีความเสี่ยงสูง และ Risk : Reward ratio ไม่ดีมากนัก
จุดที่น่าสนใจคือ
1.หากไม่หลุด 1950-1955 อาจมองเป็นขาขึ้น
2.หากหลุด 1955 อาจมองเป็นขาลง
กลยุทธ์การเทรด ส่วนตัวอาจจะรอหลังข่าวประกาศและเกิดการย่อยข้อมูลของตลาดก่อน
หากเทรดระหว่างข่าว อาจจะเกิดอาการพอร์ตแตกก่อน แม้ว่าจะถูกทาง ซึ่งเกิดจากความผันผวนและการแกว่งของราคา
ส่วนตัวมองว่าจุดที่ยากสุดสำหรับนักลงทุนส่วนมาก คือกราฟล้างขา buy ลงไปแถว 1950-1955
และเด้งกลับมาล้างขา sell ในเวลาถัดมา ทั้งนี้อาจจะต้องดูสัญญา maximum pain level ประกอบด้วย
ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า กราฟทองกำลังทำสิ่งที่ยากสุดสำหรับการตัดสินใจของผู้ลงทุนทั้งสองฝั่ง
ทั้งนี้การลงทุนและการเทรดมีความเสี่ยง ข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงไอเดียหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการเงิน การเทรด หรือการลงทุนแต่อย่างใด
จีบ Near ก่อนจะมีคนเห็น สำหรับคนที่นับ Elliott Wave ไม่เป็นอย่างผม ก็ขอแนะนำ INDY Elliotte Wave Absolute ใช้คู่กับ CDC (HAP) จะเห็นว่า ใน TF D และ 4 HR พึ่งจบ W5 สิ่งที่น่าสนใจคือการกลับตัวในระยะสั้น
ในตอนนี้ ใครกล้าที่จะ BET มีโอกาสอยู่ใน ทั้ง หัว a และ ถือยาวได้ถึง b เพื่อรอ กลับตัวเป็น C
SL สวยๆ 19-1.8 กันวืด...โดยยึดหลัก เข้าก่อนจะสวย กันนะคับ
BTCUSD กำลังสร้าง เวฟ2 เพื่อไป 110-165KElliott Wave and Harmonic Analysis
BTCUSD ทำเทรนขาขึ่้นใน TF Day ได้สำเร็จ และได้สร้าง Flat Pattern ซึ่งหมายถึงการสร้าง Correction ของ เวฟ2
และ BTC อาจจะทำ Harmonic Cypher Pattern ได้ เมื่อราคาลงไปถึง 11K ที่ level 88.6%
ถ้า ... ราคาลงไปถึง 11K BTCUSD จะสร้าง Flat ใน คลื่นใหญ่ เวฟ2 และแถวนี่้คือโอกาสในการซื้อ BTCUSD เพื่อเก็งกำไร 110k(161.8%) - 165k(261.8%)
Elliott wave by Eaw อัพเดท BTC ที่นับไว้ 5 มี.ค. 2565
ปรากฏว่าคลื่นซีลงมาเป็นอิมพาวเวฟแบบ 5Extension คลื่นห้าจะยาวได้ 100 - 161.8% ของคลื่น 1 ทำให้ไม่ได้เป็น Double Combination อย่างที่คาดการณ์ไว้แต่การลง
คิดว่าน่าจะลงแค่ 100% เพราะว่าคลื่น4 เป็น Triangle (Nuetral pattern ) แนวรับจะอยู่ที่ 34,816.91 / 33,180.76 TP 31,382.79
Elliott wave by Eaw อัพเดท BTC/USDT 25/02/65
วิเคราะห์ไว้ว่า จะเป็นรูปแแบบ Double Combination ก็เกิดแล้วตามนั้น หนังสือบอกว่าเมื่อหลังจบรูปแบบราคาจะเด้งไปประมาณ 80% แต่ไม่เกิน 100% ของชุดที่ลงมา ประมาณ 61000 - 67000 กรณีเลวร้ายที่สุดก็ยังไม่หลุด 37,000 ไม่ดีจะลงไป 34,000 หลุด 34,000 จะลงไปคุยกับรากมะม่วง