Elliott Wave
ทองภาพเล็ก เตรียมจบ 3 of c เด้งขึ้น 4 ลง 5 ก่อนจบขา C จริงๆคลื่น C อาจวิ่งด้วย impulse wave
1 2 3 4 5
ซึ่ง 3 มักมีความยาว 161.8 % ของคลื่น 1
1770- 1765 เป็นจุดเข้าซื้อตามเทคนิค EW ที่คลื่น3 จะฟอร์มตัวจบ
และเป็นเบส zone ของขาขึ้น ชุดที่แล้ว ตาม เทคนิค Demand zone
ลุ้นเตรียมขึ้นเบาๆ ครับ
#Elliottwave #FLAT(3-3-5) #อีสานเทรดเดอร์ การแก้ไขแบบ Flat ต่างจาก Zigzag ตรงที่ลำดับคลื่นย่อยคือ 3-3-5 เนื่องจากคลื่น Action คลื่น A ไม่มีแรงพอที่จะ
ขยายออก 5 คลื่นได้เหมือน Zigzag และคลื่น B ขาดแรงกดดันทำให้มีจุดสิ้นสุดใกล้กับจุดเริ่มต้นของคลื่น A และโดยทั่วไป
คลื่น C จะสิ้นสุดเล็กน้อยหลังจากจุดสิ้นสุดของคลื่น A
การแก้ไขแบบ Flat มักจะย้อนกลับคลื่น Impulse ก่อนหน้าได้น้อยกว่า Zigzag และมักจะเกิดขึ้นก่อนหน้าส่วนขยาย
ภายใน Impulse คลื่นลูกที่4 มักจะเป็น Flat ขณะที่คลื่นลูกที่2 เกิดขึ้นได้น้อยกว่า
Elliott ได้จัดหมวดหมู่ของ Flat ใช้เป็นชื่อการแก้ไข A-B-C ใดๆที่แบ่งย่อยออกเป็น 3-3-5 และในการแก้ไขแบบ 3-3-5
ก็แบ่งออกเป็น สามประเภท ด้วยความแตกต่างในรูปร่างโดยรวม
Common Flat หรือแบบปกติคลื่น B จะสิ้นสุดที่ระดับจุดเริ่มต้นของคลื่น A และคลื่น C จะสิ้นสุดลงหลังจากจุดสิ้นสุดของคลื่น A เพียงเล็กน้อย
Expended Flatจะมีโครงสร้างราคาสูงกว่าจุดสิ้นสุดของ Impulse ก่อนหน้า หรือ คลื่น B จะมีจุดสิ้นสุดเกินจุดเริ่มต้นของคลื่น A และ คลื่น C จะสิ้นสุดมากกว่าระดับที่เป็นจุดสิ้นสุดของคลื่น A
Running Flat เป็นรูปแบบที่หายาก คลื่น B จะสิ้นสุด เกินจุดเริ่มต้นของคลื่น A หรือเทียบเท่า แต่ คลื่น C ไม่สามารถเดิน
ทางได้เต็มระยะ ระดับสิ้นสุด น้อยกว่า ระดับสิ้นสุดของคลื่น A จากกรณีนี้เห็นได้ชัดว่ากำลังของแนวโน้มที่ใหญ่กว่าก่อนหน้านั้นทรงพลังอย่างมาก
***อย่าติดป้ายกำกับคลื่นแก้ไข(Label Corrective wave ) ก่อนเวลาอันควร มิฉะนั้นคุณจะพบว่าตัวเองผิดถึงเก้าครั้งจากสิบครั้ง
บันทึกการเทรด 004จากชุดที่ลงมานั้นผมมองว่าอาจจะเป็นไปได้ที่จะกำลังลงเป็น Corrective สักชุด
โดยถ้าเป็นไปได้อย่าใจร้อนผมแนะนำว่ารอดูดีกว่าครับมันอาจจะทำการกลับตัวขึ้น b แล้วลง c ต่อเราค่อยหาเล่นจังหวะ c ก็ได้ครับ
แต่ถ้าเกิดอยากเข้าผมแนะนำว่าให้ดูขา a ที่กำลังลงมามาโอกาสที่ใกล้จะจบแล้วเกิดการกลับตัวที่ขา b เราสามารถเข้าสั้นๆได้ครับสัก 100-300 จุดก็น่าจะปลอดภัยกว่า ถ้าอยากถือยาวกว่านั้นแนะนำว่ายก SL ขึ้นมากันทุนเหมือนชุด UC ที่ลงเล่นสวนเทรนครับอย่างน้อยเวลามันดีดกลับขึ้นมาเราไม่เสียอะไร
โดยปัจจัยที่บ่งบอกว่ามีโอกาสจะขึ้น b ต่อมีดังนี้
ข้อดี
1.ขาที่ลงมาใกล้ครบ 5 ขาแล้ว
2.มี DZ แต่มันได้มีการมาแตะครั้งแรกแล้ว
3.จุดคัทเตอร์ของเรานั้นจากปัจจัยทั้งหมดมีโอกาสเป็น Harmonic ที่เป็น Bat pattern
ข้อเสีย
1.เราเล่นในคลื่นพักตัวที่พักตัวอีกทีมันเสี่ยงมากอาจจะย่อยแค่สั้นๆแบบ UC แล้วดีดกลับได้
2.ขาที่ลงมาเหมือนจะทำไดแอก และ DZ นั้นมันไม่เฟรช อาจจะมีโอกาสวิ่งทะลุผ่านได้ง่ายมาก
****ถ้าอยากจะเข้าขา b จริงๆอย่าลืมยก SL มากันทุนด้วยนะครับเวลากำไรแล้ว
*****นี่เป็นบันทึกในการฝึกเทรดของตัวผมเอง ซึ่งตัวผมนั้นยังมีประสบการณ์ในตลาดนี้ไม่มากนักเลยอยากจัดทำรายละเอียดบันทึกการเทรดเผื่อจะเป็นประโยชน์แก่ท่านอื่นๆที่เข้ามาชม
Elliott wave ว่าด้วยเรื่องของ Zigzag #อีสานเทรดเดอร์ Zigzag แบบชุดเดียวเป็นรูปแบบการลดลง 3 คลื่น A-B-C มีลำดับคลื่นย่อยคือ 5-3-5 และด้านบนสุดของคลื่น B ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น A อย่างเห็นได้ชัด และในตลาดหมีการแก้ไข Zigzag เกิดขึ้นในทิศทางตรงกันข้าม ซึ้งบางครั้ง Zigzag จะเกิดขึ้น สองครั้ง หรือมากสุดสามครั้งติดต่อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Zigzagตัวแรกยาวเกินกว่าเป้าหมายปกติ ในกรณีเหล่านี้ Zigzag แต่ละอันจะถูกคันด้วย “สาม” ที่่เข้ามาแทรกทำให้เกิด Double Zigzag หรือ Triple Zigzag การก่อ
ตัวเหล่านี้คลายกับ การขยายใน Impulse แต่พบได้น้อยกว่า ภายใน Impulse คลื่นลูกที่ 2 มักจะเป็น Zigzag มากกว่า
คลื่นลูกที่ 4
***ข้อสังเกตุ คลื่นแก้ไข(Corrcetive)มักจะเคลื่อนไหวอยู่ภายใน Channelling
ขา C ของ Flat ยังไปต่อขา C ที่คิดว่าจบแล้วยังลงต่อด้วยรูปแบบ ของ nonstandard collection
ตาม non ที่ 2 อาจย่อตัวขึ้นได้ลึก ทะลุ small x ของชุดแรก จะต้อง label เป็นคลื่น B ของชุดที่2
ตามลงต่อ ขา C ของ non ที่2 ยังไปต่อได้อีก
สิ่งที่ต้องระวัง ภาพขาลงเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้คนส่วนใหญ่เริ่มตามขาลงมากขึ้น ก็อาจจะมีการเด้งกลับไปของราคาได้ลึก
จุดคัทต้องไกล วางไว้ที่ 1903 เป็นจุดเริ่มต้นของ ขา C
กลยุทธ์ ย่อขึ้น สะสมไม้ sell
Elliott wave ไม่สนข่าวข่าวเดียวที่ขับเคลื่อนราคา คือข่าวของอารมณ์ความกังวลในสมองเราเอง
หากเราเปิด Sell จากจุดต่ำๆมา แล้วราคาวิ่งขึ้น ราคาที่วิ่งขึ้นก็คือข่าวร้ายของเรา พอร์ตที่ขึ้นสถานะขาดทุน คือข่าวร้ายที่สุดของเรา
และความกังวลในอนาคตที่ว่า เราอาจจะล้างพอร์ต หรือพอร์ตเสียหายเยอะ ก็คือข่าวร้ายของเรา
เราเข้าไปใน กลุ่มเทรด ถามเพื่อนๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น คนบอกเพราะแบบนั้น เพราะแบบนี้ ลดQE ปรับดอกเบี้ย ทำสงคราม และอื่นๆอีกมากมาย
เราได้เหตุผลในการสนับสนุนว่า เราจะกลายเป็นคนแพ้ในตลาดนี้ ในครั้งนี้ การออกจากการเทรดนี้ คือการทำสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่าจะต้องขาดทุน
และก็ขายออกไปในราคา ต่ำ กว่าที่ซื้อมา แล้วใครซื้อต่อจากเรา ก็มีอยู่แค่สองพวก
1.คนที่จะถือสถานะขาดทุนต่อ หากราคาผิดทางต่อไปอีก
2.คนที่เข้าซื้อ และถือรอจนได้กำไร หากจังหวะนั้นเป็นจังหวะ ที่คนส่วนใหญ่ ก็ขายออกไปในราคา ที่เป็นข่าวร้ายที่สุดของพวกคนเหล่านั้นเอง
เราทุกคนล้วนเป็นเหยื่อของตลาด มีสิ่งเร้า กระตุ้นอยู่ตลอดเวลา ให้คุณขาย ที่ราคานั้น ซื้อที่ราคานี้ และซื้อๆ ขายๆ เวียนไปวนมา
เพื่อเชื่อมโยงให้ ทุกคนสร้างสมดุล แก่ตลาดเสรีแห่งนี้ วันนึงคุณอาจจะถูกปลุกด้วยความคิดกลางดึก ตื่นขึ้นมาดูกราฟ และเปิดสถานะที่คุณไม่ได้วางแผนจะเปิด เพื่อมอบเงินให้ตลาด
หรือวันนึงคุณอาจจะดึงเงินกำไรเป็นกอบเป็นกำกลับไป
ที่ตลกร้ายที่สุด ต่อให้คุณพยายามที่จะมีองค์ความรู้ขนาดไหน ก็ยังขาดทุน เพราะความรู้นั้นอาจสร้างความมั่นใจ Bias ทำให้คุณกลายเป็นเหยื่อ ในวันใดวันนึง
หรือไม่สร้างความมั่นใจอะไรเลย โยนหัวโยนก้อย และหวังว่าตลาดจะมอบเงินให้
แล้วจะทำอย่างไรต่อไป สำหรับสมรภูมิแสนโหดแบบนี้ แม้มันจะยาก แต่รู้ไว้อย่างนึงครับว่ามีคนรวยจากตลาดนี้ แลอยู่ได้นานพอและรวยมากๆ
ฉะนั้นเราจงเรียนรู้ที่จะอยู่ยาวและเติบโต อย่าหายออกจากตลาดไปก่อน
ส่วนวันนี้มองขึ้นครับ แต่ไม่เข้า buy นะครับ ส่วนตัวมองว่าอ่านยากครับหน้างานวันนี้ ฉะนั้น
สะสมไม้ Sell ไปตามแนวต้าน ถ้าถึงจุดตัดขาดทุน ก็ขาดทุนไป และจงมั่นใจว่า สุดท้าย การตัดขาดทุนนั้นจะ ไม่ใช่ข่าวร้ายของคุณครับ แต่เป็นแค่ 20% ของจำนวนครั้งที่คุณเทรดแล้วโดนจุดตัดขาดทุน
ยังมีโอกาสครั้งต่อไปเสมอ อีก 80% จำนวนครั้งทั้งหมด ที่จะทำให้คุณมีประสบการณ์มากขึ้น และดึงกำไรจากตลาดออกมาใช้อย่างง่ายดาย
บันทึกการเทรด 003.3มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นการพักตัวหลังจากทำลีดดิ้งชุดนี้ขึ้นมา ซึ่งชุดถัดไปอาจจะเป็นขา B หรือ 2 ก็ได้ที่น่าจะเป็นการพักตัวสั้นๆ ซึ่งในจุดนี้เราสามารถเข้าเพื่อเก็บสั้นๆได้เนื่องจาก SL ค่อนข้างแคบ ****แต่ถ้าเป็นไปได้แนะนำว่ามองหน้า Buy ยังไงก็ดีสุดอย่าสวนเทรนใหญ่กว่า ให้รอ Buy ที่โซนสีเขียวจะดีที่สุด เพราะมีโอกาสที่กราฟจะวิ่งต่อเพื่อทะลุกรอบเทรนไลน์ด้านบนได้
***โดยถ้าอยากเข้าชุดนี้จริงๆ TP ผมแนะนำให้ปลอดภัยสุดคือ TP1 แค่นั้นพอหรือจะเลื่อน SL มากันทุนก็ได้เมื่อผ่านมาสักพักแล้วแต่อย่าโลภสั้นๆพอครับ
****นี่เป็นบันทึกในการฝึกเทรดของตัวผมเอง ซึ่งตัวผมนั้นยังมีประสบการณ์ในตลาดนี้ไม่มากนักเลยอยากจัดทำรายละเอียดบันทึกการเทรดเผื่อจะเป็นประโยชน์แก่ท่านอื่นๆที่เข้ามาชม
ทองไปทางไหนได้บ้าง หน้างานตาม เทคนิค ELLIOT WAVEอย่าลืมน้ำหนักที่ terminal impuls ก่อนหน้าที่ให้ไว้ เมื่อเกิด terminal impuls ราคาจะต้องกลับไปจุดเร่ิมต้น ของ cycle เสมอคือ 1808
ฉะนั้นจะมองแค่มุมมอง มองลงเท่านั้นจนกว่าจะทะลุ เส้นแดงด้านบนครับ
เคสที่ ไม่ทะลุ 61.8%
1. จบด้วยC ของ Flat - หากคลื่นที่จบไปเป็น Flat มุมมองที่1 ขึ้น Small X wave (ไม่ทะลุเส้นฟ้าอันบน ) ลงทำ non ชุดที่สอง นำพาราคาสู่ 1808 ได้
2. ขา Cยังไม่จบ ยังอยู่ใน non standard หากราคายืนได้ไม่นาน 1865-1870 แล้ว ทะลุกลับลงไป Follow Sell เมื่อทะลุ low เดิม
เคสที่ ทะลุ 61.8%
1. จบด้วย 3 ของ leading ในคลื่น A ของ zigzag กำลังขึ้นด้วย leadingของ A เป็น subย่อยของ คลื่น 4 เมื่อจบคลื่น 4 คลื่น ต้องไม่ทำตัวทะลุ high ของ คลื่น 2
2. จบด้วยC ของ Flat ขึ้นทะลุ เป็น Large X wave ออกข้างยาวไป (ไม่เชียร์อันนี้เพราะไม่สอดคล้องกลับหมายเหตุจาก terminal)
( 4ทางเลือกที่เป็นไปได้ ) เมื่อทะลุ 61.8% จะง่ายขึ้น เพราะจะเหลือแค่2 ที่เหลือต้องตามดูหน้างานกันต่อ
คลื่นทั้งหมดที่ลงจบ หรือ ยัง ยังต้องดูน้ำหนักด้านเวลาประกอบ ในกรณียังไม่กลับไปทะลุ 1916 ก่อนจะตามหน้า buy
เส้นประสีส้มคือ ระยะเวลาที่คลื่นย่อย ขาย่อขึ้นชุดนี้ ควรใช้เวลาใกล้เคียงโซนเวลานี้ หากทะลุ 61.8 ใช้เวลาประมาณอีก5 วัน
และคลื่นขาลงชุดใหญ่นี้ สมเหตุสมผลในจบ เส้นประสีเขียว อันนี้เทียบกับ 2 or B ก่อนหน้า 4 or X ไม่ควรสั้นเกินไปในกรณีที่ 1or A ไม่ได้ขยาย
ยินดีด้วยครับสำหรับใครที่ถือไม้ sell ลงมา และปิดทำกำไร เป้า 1 ไปบ้างแล้ว
#Elliottwave #อีสานเทรดเดอร์Impulse Wave ส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วย สิ่งที่เอลเลียตเรียกว่า “ส่วนขยาย(Extension)” เป็น Impulse Wave ที่ยืดออกโดยมีการแบ่งส่วนแบ่งส่วนย่อยที่เกินจริง คลื่น Impulse ส่วนใหญ่จะมีส่วนขยาย หนึ่งในสามคลื่นย่อยของ
คลื่น Action ในบางครั้ง การแบ่งส่วนย่อยของคลื่นขยาย มีความกว้างและระยะเวลาเกือบเท่ากันกับ อีก สี่คลื่น
ของ Impulse ที่ใหญ่กว่าโดยให้จำนวน คลื่นทั้งหมดเก้าคลื่นที่มีขนาดใกล้เคียงกันแทนที่จะนับ “ห้า” แบบปกติ
สำหรับลำดับ ในลำดับเก้าคลื่นบ้างครั้งก็ยากที่จะบอกได้ว่าคลื่นใดขยายออกไป อย่างไรก็ตามโดยปกติจะไม่เกี่ยว
ข้องกันเลย เนื่องจากภายใต้ระบบ Elliott wave การนับเก้าหรือนับห้า มีความสำคัญทางเทคนิคเหมือนกัน