nipart

CPALL ธุรกิจโต รายได้ดี กำไรดี แต่ราคาลงแล้วจะลงไปถึงไหน

ลดลง
nipart ที่อัปเดต:   
SET:CPALL   CP ALL PUBLIC COMPANY LIMITED
CPALL ธุรกิจโต รายได้ดี กำไรดี แต่ราคาลงแล้วจะลงไปถึงไหน

CPALL เป็นอีก 1 ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ในปีที่ผ่านมา และยังคงได้รับผลกระทบต่อในปีนี้และปีถัดไป ไม่เพียงเท่านั้น ยังพ่วงด้วยการซื้อกิจการเทสโก้ โลตัส เข้ามาด้วยอีก
ซึ่งส่งผลให้ต้องมีการกู้เงินอย่างเลี่ยงไม่ได้และทำให้ต้นทุนเงินทุน (ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น) อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ Fed ยังคงนโยบายคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำไว้อยู่
ซึ่งก็ยังเป็นปัจจัยบวกต่อการกู้ยืมเงินของ CPALL อยู่ แต่ถ้าโชคไม่เข้าข้าง ปลายปี 2021 นี้ หรือปีหน้า Fed มีการประกาศขึ้นดอกเบี้ย ก็จะทำให้ CPALL มีต้นทุนเงินทุนเพิ่มขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
ยิ่งทำให้ EPS หายลงไปอีก ถ้ายอดขายและกำไรยังฟืนตัวไม่ทัน (ซึ่งก็จะมาจากภาคการท่องเที่ยวด้วยส่วนนึง) เพราะเป็นตัวผลักดันให้เกิดการใช้จ่ายให้เกิดขึ้น
ด้วย CPALL มีธุรกิจในมือหลายธุรกิจ แต่ที่เห็นชัดเจนว่าได้รับผลกระทบก็คือ 7-11, MAKRO, TESCO LOTUS ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งที่อยู่ในมือทั้งสิ้น
และคาดว่ากำไรน่าจะมาหลังจาก Covid-19 หายไป + จ่ายหนี้ที่กู้เงินมาซื้อ Tesco Lotus หมดแล้ว ก็ให้เวลาอีกสัก 3-5 ปีได้นะครบ

จากเหตุผลข้างต้น เมื่อนำมาวิเคราะห์เข้ากับกราฟโดยนับคลื่นอีเลียตเวฟแล้วก็ค่อนข้างสนับสนุนทรงกราฟว่าในปี 2021 นี้น่าจะไปในทิศทางเดียวกันก็คือ "การปรับตัวลดลงของราคาหุ้น" เพราะสุดท้ายราคาก็ทะลุเทรนด์ไลน์ระยะยาวลงมาได้ในที่สุด

ตอนนี้ใน TF Week คาดว่าชุดคลื่นที่ขึ้นมาสูงสุดในช่วง มี.ค. 2018 นั้น เป็นจุดสูงสุดเป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้กำลังทำการ Correction ตัวเองอยู่และคาดว่าน่าจะเป็นคลื่นสุดท้ายแล้วเพื่อเตรียมขึ้นรอบถัดไป
จากนับเวฟ ภาพใหญ่เป็น Correction Flat ซึ่งตอนนี้มองเป็น Normal B , C>=B เป้าลงคือ 138.2% ถ้าเลยจากนี้ออกไป จะเป็น Elongate Flat ขึ้นมาทันที

แต่เมื่อดูขา C ที่กำลังทำขาอยู่ใน ขอตั้งสมมติฐานแบบโลกสวยไว้ก่อนว่าเกิดคลื่น 1X และคลื่น 2 จบไปแล้ว กำลังทำคลื่น 3 ซึ่งราคาคาดการณ์ว่าจะลงไปถึง 50.5
และทำคลื่น 5 เป้าลึกสุดที่เป็นไปได้คือ 36.5 บาท แต่จะถึงไหมก็ขึ้นอยู่กับคลื่น 4 ว่าจะ Rebound ได้สูงขนาดไหน

ดังนั้นขอตั้งสมมติฐานสำหรับการปรับฐานไว้ 2 กรณี คือ
1. สมมติฐานคลื่น C นี้เป็น 5 ขา ให้เป็น 1x และคลื่น 4 rebound เกินหัว 1 แต่ไม่เกิน 38.2% ของคลื่น 1+3 และคลื่น 5 สามารถทำราคาต่ำสุดได้ <= ความยาวคลื่น 3 ก็คือราคาต่ำสุดน่าจะเป็นไปได้คือ 44.75 บาท
2. สมมติฐานคลื่น C นี้เป็น 5 ขา ให้เป็น 1x และคลื่น 4 rebound ไม่เกินหัว 1 และคลื่น 5 สามารถทำราคาต่ำสุดได้ <= ความยาวคลื่น 3 ก็คือราคาต่ำสุดน่าจะเป็นไปได้คือ 36.25 บาท

สรุป
1. เป้าลงที่วัด Fibo แล้วตามคลื่นอีเลียต คือ 50.5 เป็นเป้าแรก
2. เป้าลงลึกสุดที่คาดว่าจะเป็นไปได้ 44.75 และ 36.25 บาท
3. ภาพระยะยาวยังดูไม่ดี ราคายังคงปรับตัวลงอยู่เรื่อยๆ

แนวทางการเทรด
1. เล่นสั้นเก็งกำไรเมื่อราคาแตะ 50.5 คาดว่าจะมี rebound คลื่น 4 เป้าที่ 56.75 และ 65 บาท
2. สาย VI ทยอยซื้อตามแนวรับ
3. สายเล่นรอบรันเทรนด์ หาตัวอื่นเล่นดีกว่า

ทุกอย่างจะผิดเงื่อนไขทั้งหมด เมื่อพื้นฐานบริษัทเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ หรือเมื่อราคาเบรกกรอบการเล่นกลับตัวเป็นขาขึ้นชัดเจน
การซื้อขายยังคงดำเนินอยู่:
สังเกตุว่า CPALL พยายามปรับตัวขึ้นเพื่อขึ้นไปยืนในกรอบเส้น up trend line ให้ได้ แต่ไม่สำเร็จ แล้วราคาก็ปรับตัวลงมา เป็นการยืนยันแล้วว่า น่าจะมีการปรับตัวลงไปต่อได้

เพื่อยืนยันการลงอย่างแน่นอนควรรอให้มันการ Rebound ก่อนถ้าไม่สามารถทะลุ 59 บาทขึ้นไปได้ ฝั่ง Short มีความน่าสนใจพอสมควรเลย
คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบ

ข้อมูลและบทความไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อก่อให้เกิดกิจกรรมทางการเงิน, การลงทุน, การซื้อขาย, ข้อเสนอแนะ หรือคำแนะนำประเภทอื่น ๆ ที่ให้หรือรับรองโดย TradingView อ่านเพิ่มเติมที่ เงื่อนไขการใช้บริการ