รัดเข็มขัด อาจมีตกหลุมอากาศหากหลุดแท่งเทียน 1287 น่าจะมีการตกหลุมอากาศเกิดขึ้น แต่ถ้าทนยื้อออกไปอีกผ่านไปได้น่าจะมีเล่นรอบเด้งอีกที ต้านเดิม 1301โดย NutaponKo114
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย Filling the Gap แรงซื้อที่กลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด หนุนดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นและปิดที่ 1,266.02 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 8.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.4 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นลบ ส่งผลให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันศุกร์ (8/5) ตลาดปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก จากการที่นักลงทุนตีความว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาเปิดดำเนินการ หลังตัวเลขการว่างงานแตะระดับ 30 ล้านคน ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆขึ้นปิดช่องว่างขาลง (Filling the gap) หลังจากดัชนีตลาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของช่องว่าง (Gap) ที่ 1,272 – 1,364 จุด และเกิดสัญญาณกลับตัวรูป Isolated Island ในเขตซื้อมากเกิน สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นจะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดปรับตัวลดลง เมื่อนำจุดสูงที่ 1,301 จุด กับจุดต่ำที่ 969 จุด มาวิเคราะห์แนวรับด้วย Fibonacci Retracement จะได้แนวรับที่ 1,174 จุด, 1,135 จุด และ 1,096 จุด ตามลำดับ จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดอ่อนตัวลงหลังดัชนีตลาดปรับตัวเข้าหาแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,300 จุด ดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 969 จุด ดัชนีจะจบคลื่น II ที่ 969 จุด ดัชนีตลาดจะต้องไม่ปรับตัวลงต่ำกว่า 942 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI กลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นจะเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ทำให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวลง ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,277 – 1,287 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,254 – 1,245 จุด กลยุทธ์การลงทุน ทยอยกลับเข้าซื้อหุ้นรายตัว (เพิ่มพอร์ตการลงทุนเป็น 20 เปอร์เซ็นต์) เมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,083 จุดโดย prajobv2
SET wait for bullish divergenceลองย้อนดูเรื่องไดเวอร์เจนของ SET บ้าง โดยที่ TF month ณ จุดกลับตัวต่างๆ เทียบกับ idicator Woody พบปรากฏตามรูปที่แสดงไว้ ลดลงโดย jokenakrub72
SET Index - พฤษภาคม 2563 ตอนนี้หากหลุด 1255 เราคงลงไปพักข้างล่าง แต่ถ้าอยู่เหนือ 1255 เป้าข้างบนคือ 1350-1400 ถ้าจะขึ้นต่อโดยที่ไม่มี new lowคิดว่าไม่หลุดเส้นดำข้างล่าง ถ้าหลุดจะน่าเป็นห่วงว่ามีนิวโลเพิ่มขึ้นโดย UNRPPที่อัปเดต: 282812
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย สัญญาณทางเทคนิคัลกลับมาเป็นลบ สัญญาณทางเทคนิคัลที่กลับมาเป็นลบ กดดันให้เกิดแรงขายออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงปิดที่ 1,257.98 จุด ลดลง 20.65 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.6 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นพักตัวลง ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพฤหัสบดี (7/5) นักลงทุนตอบรับการเปิดดำเนินการธุรกิจ แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หนุนดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก และเป็นการปิดบวกของปี ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 211 จุด ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และตัวเลขการว่างงานแตะ 33.5 ล้านคน ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง หลังดัชนีตลาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของช่องว่าง (Gap) ที่ 1,272 – 1,364 จุด และเกิดสัญญาณกลับตัวรูป Isolated Island ในเขตซื้อมากเกิน สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นจะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดปรับตัวลดลง เมื่อนำจุดสูงที่ 1,301 จุด กับจุดต่ำที่ 969 จุด มาวิเคราะห์แนวรับด้วย Fibonacci Retracement จะได้แนวรับที่ 1,174 จุด, 1,135 จุด และ 1,096 จุด ตามลำดับ จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดอ่อนตัวลงหลังดัชนีตลาดปรับตัวเข้าหาแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,300 จุด ดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 969 จุด ดัชนีจะจบคลื่น II ที่ 969 จุด ดัชนีตลาดจะต้องไม่ปรับตัวลงต่ำกว่า 942 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI กลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นจะเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ทำให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวลง ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,271 – 1,281 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,246 – 1,234 จุด กลยุทธ์การลงทุน ทยอยกลับเข้าซื้อหุ้นรายตัว (เพิ่มพอร์ตการลงทุนเป็น 20 เปอร์เซ็นต์) เมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,083 จุดโดย prajobv3
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ระยะพักตัว สัญญาณเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและผลประกอบการไตรมาสสองที่ทรุดลง ทำให้นักลงทุนนำหุ้นออกเทขายเพื่อลดความเสี่ยง ส่งผลให้ดัชนีตลาดปรับตัวลงปิดที่ 1,278.63 จุด ลดลง 23.03 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.18 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลง ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธ (6/5) ปิดตลาดแบบไร้ทิศทาง ดัชนี Nasdaq ปรับตัวเพิ่ม 45 จุด จากแรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปรับลดลง 213 จุด หลังตัวเลขเศรษฐกิจ GDP ไตรมาสสอง ปรับลดลง 18% ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำแบบมีช่องว่าง (Gap) ทั้งขาขึ้นและลง ดัชนีตลาดเกิดรูปแบบกลับตัวเป็น Isolated Island ในเขตซื้อมากเกิน หลังดัชนีตลาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของช่องว่าง (Gap) ที่ 1,272 – 1,364 จุด ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นจะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดระยะสั้นพักตัวลง สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ทำให้ดัชนีตลาดแกว่งตัวออกด้านข้างในทิศทางลง (Sideways down) จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดอ่อนตัวลงหลังดัชนีตลาดปรับตัวเข้าหาแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,300 จุด ดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 969 จุด ดัชนีจะจบคลื่น II ที่ 969 จุด ดัชนีตลาดจะต้องไม่ปรับตัวลงต่ำกว่า 942 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI กลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นจะเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ทำให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวลง ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,289 – 1,301 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,267 – 1,255 จุด กลยุทธ์การลงทุน ทยอยกลับเข้าซื้อหุ้นรายตัว (เพิ่มพอร์ตการลงทุนเป็น 20 เปอร์เซ็นต์) เมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,083 จุดโดย prajobv1
SETindex 1997, 2020 (BOT) BANK OF THAILAND YEAR GDP 1992 9.2 1993 8.7 1994 8.0 1995 8.1 1996 5.7 1997 -2.8 * 1998 -7.6 * 1999 4.6 2000 4.5 2001 3.4 2002 6.1 2020 -6.7 (Projected Real GDP,IMF) * 2019 2.4 2018 4.2ลดลงโดย APINTHASEMที่อัปเดต: 3
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ทดสอบแนวต้าน 1,306 จุด แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก ดัชนีตลาดปิดที่ 1,301.66 จุด เพิ่มขึ้น 18.98 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.9 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ต่างชาติกลับมาขายสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ (4/5) ปิดตลาดในแดนบวก หลังดัชนีดิ่งลงในช่วงเปิดตลาด แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นปัจจัยหนุนดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นแบบมีช่องว่าง (อาจเป็น Breakaway gap หรือ Exhaustion gap) ดัชนีตลาดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของช่องว่าง (Gap) ที่ 1,272 – 1,364 จุด และมีแนวต้าน 38.2% Fibonacci Retracement เป็นแนวต้านถัดไปอยู่ที่ 1,306 จุด ดัชนีตลาดเกิดเป็น Star ในเขตซื้อมาก สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ และจะยืนยันการปรับตัวลงเมื่อดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นปิดเหนือแนวต้านที่ 1,290 จุด หลังจากดัชนีตลาดทรุดตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 942 จุด ดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 969 จุด ดัชนีจะจบคลื่น II ที่ 969 จุด ดัชนีตลาดจะต้องไม่ปรับตัวลงต่ำกว่า 942 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก โดยสัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,307 – 1,317 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,293 – 1,281 จุด กลยุทธ์การลงทุน ทยอยกลับเข้าซื้อหุ้นรายตัว (เพิ่มพอร์ตการลงทุนเป็น 20 เปอร์เซ็นต์) เมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,083 จุดโดย prajobv3
ปิด GAP เลยมั้ยปู่?ถ้ายืน 1294 ได้ ก็เจอกันที่ 1360 แต่ถ้าย่อก่อนขึ้น ขออย่าให้หลุด 1238 กราฟจะได้ไม่เสียทรง เพิ่มขึ้นโดย Investor_T3
เอาไงต่อดีครับปู่?ถ้าไม่หลุดโซน 1186 และยืนเหนือ 1238 ได้ สถานีต่อไปก็ 1294 ************แต่ถ้าหลุด 1186 ก็ถอยมาตั้งหลัก หาจังหวะใหม่โดย Investor_Tที่อัปเดต: 2
set ที่เปิดโดดเนื่องจากมีทุนมาดันตลาด และไปถึงต้านที่ตีไว้ บวกกับตลาดบ้านเราใกล้หยุดยาว ไม่ควรไล่หุ้น มองตัวที่มีโอกาส วันนี้เล่นไวน่าดีสุด มีโอกาสเบรค 1300.08 หรือจะย่อปิดแก้ป ก็ได้โดย NutaponKo3
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ปัจจัยเสี่ยงระยะสั้น ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆในแดนบวก ตามแรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มปตท.แต่กลับมีแรงขายทำกำไรออกมาในหุ้นโรงไฟฟ้าและธนาคาร ดัชนีตลาดปิดที่ 1,282.68 จุด เพิ่มขึ้น 7.69 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.9 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ต่างชาติกลับมาขายสุทธิเล็กน้อย ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธ (29/4) ปิดตลาดในแดนบวก ตลาดได้รับความหวังจากการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 หนุนดัชนีดาวโจนส์ปรับเพิ่มขึ้น 532 จุด และเฟดยังมีนโยบายคงอัตราดอกเบี้ยไปอีกนาน ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆ ขึ้นทดสอบแนวต้านของช่องว่าง (Gap) ที่ 1,272 – 1,364 จุด และมีแนวต้าน 38.2% Fibonacci Retracement เป็นแนวต้านถัดไปอยู่ที่ 1,306 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Doji ในเขตซื้อมากเกิน ดัชนีตลาดแกว่งตัวออกด้านข้างในลักษณะจำหน่ายจ่ายแจก (Distribution) สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ และยืนยันการปรับตัวลงเมื่อดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้าน 38.2% Fibonacci Retracement (380/1852) ที่ 1,290 จุด หลังจากดัชนีตลาดดิ่งลงเป็นคลื่น II, E เหนือแนวรับ 61.8% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 942 จุด หากดัชนีตลาดจบคลื่น II ที่จุดนี้ ดัชนีตลาดจะต้องไม่ปรับตัวลงต่ำกว่า 942 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก โดยสัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,293 – 1,306 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,271 – 1,264 จุด กลยุทธ์การลงทุน ทยอยกลับเข้าซื้อหุ้นรายตัว (เพิ่มพอร์ตการลงทุนเป็น 20 เปอร์เซ็นต์) เมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,083 จุดโดย prajobv1
SET : Corrective Scenario1 >> Normal FlatSET : WaveLabel 's Humangraphy Corrective Scenario1 >> Normal Flat (A)(B)(C) Plan1 : แผนกรณีพักตัวแบบ Normal Flat Open Short เมื่อหลุด 2-4 เทรนไลน์ Stop @High Target1 @Wave 4 Target2 @61.8% of Wave(C) และ @wave (B) ตามลำดับลดลงโดย HumanGraphy5
SET index - วิเคราะห์ด้วย relative strength และ Elliott waveจาก wave count คราวก่อน ตอนนี้ ไม่รู้ว่ตรงลูกศร มือ ชี้ จะนับเป็น ((1)) หรือ ((A)) ถ้าเป็น ((1)) แสดงว่าเราจะเป็นขาขึ้น แต่ถ้าเป็น ((A)) แสดงว่าเมื่อชน แถว 1300-1350 เราจะลงไปทำ new low? ส่วนตัวผม bias ว่าไม่น่าจะมีนิวโล เพราะว่าอิงจาก ทฤษฎี Elliott wave wave 4 จะไม่ overlap wave 1 (ยกเว้นกรณี leading/ending diagonal) จากภาพ wave 4 ได้ลงไปเกือบจะชนเวฟ 1 แถว 900 ต้นๆแล้ว และกราฟเดือนได้ปิดเหนือ 50 fib (ถ้าเปิด MA200 จะเห็นว่าเราปิดเหนือเส้น MA200 ซึ่งสนับสนุนว่ายังเป็นขาขึ้น) ส่วนตัวผมที่ซื้อมาแถว SET 1000 คาดว่าต่อให้มี new low แต่ก้แค่ลงเล็กน้อยเท่านั้น คงจะไม่มีการคัทหุ้นทิ้งที่ก้นเหวครับ "ซื้อถูก ขายแพง" คือสิ่งที่ยังมีผลต่อการลงทุนในตลาดช่วงนี้ ในระยะสั้น คิดว่าจบเวฟ e ของ 3 เหลี่ยมเวฟ 4 ความสูง 75 จุด ได้เป้าที่ 1353 ซึ่งเป็น 0.5 fib วัดจาก low ล่าสุด ถึง swing high ปี 2019 พอดี แต่ทั้งนี้ ไอเดียนี้จะผิด ถ้า set ลงมาต่ำกว่าเวฟ C แต่บริเวณ psychological number 1300 เป็นแนว .382 วัดจาก all time high คงมีแรงขายกดลงมาบ้าง ต้องดูกันต่อครับ มาดู Emerging market index มีลักษณะทำ pattern triangle ที่ควรจะ break ขึ้น เมื่อเปรียบเทียบ performance ของ EEM กับ SP500 พบว่าตอนนี้ด้าน relative performance EEM เริ่มกลับมาทำท่าจะ outperform SP500 หมายความว่าควรลงทุนใน emerging market มากกว่า SP500 ด้าน relative strength ของ SET index ของไทย เทียบกับ EEM ตอนนี้ SET ก็ outperform กลุ่ม emerging market แล้ว ทุกครั้งที่ set outperform ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ก้จะมีการ rally เกิดขึ้น สังเกตจากกราฟข้างล่าง เมื่อเทียบ SET vs SP500 พบว่าตอนนี้ relative performance ได้ทะลุแนวต้านตั้งแต่ 30 ปีก่อน และเมื่อ 2 ปีก่อนแล้ว และเป็นไปได้ว่าหลังจากนี้เรากำลังเข้าสู่การทำฐาน ก่อนที่จะขึ้นไป all time high Fibonacci ratio แสดงให้เห็นว่า performance chart เจอแนวต้านที่ .148 และ .236 มานานหลายปี และเป็นไปได้ว่าภายใน10 ปีเราจะ outperform ขึ้นไปข้างบน เพิ่มขึ้นโดย UNRPPที่อัปเดต: 16
อัพเดท SET INDEX อัพเดท SET ขึ้นไม่ได้ก็ต้องลงมาทำคลื่น b ย่อยก่อน ให้สองเป้า เป้าเบาที่ 38.2% กับเป้าหนัก 61.8%ลดลงโดย Eaw_Neowaveที่อัปเดต: 4
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย จำหน่ายจ่ายแจก ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวออกด้านข้าง ตามแรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า และแรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มธนาคาร ดัชนีตลาดปิดที่ 1,274.99 จุด เพิ่มขึ้น 7.58 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อยในรอบ 15 วัน ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันอังคาร (28/4) ปรับตัวลดลง ดัชนี Nasdaq รูดลง 122 จุด ตามแรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่ม FANG ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) ดัชนีตลาดแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของช่องว่าง (Gap) ที่ 1,272 – 1,364 จุด และมีแนวต้าน 38.2% Fibonacci Retracement เป็นแนวต้านร่วมอยู่ที่ 1,306 จุด ดัชนีตลาดแกว่งตัวออกด้านข้างในลักษณะจำหน่ายจ่ายแจก (Distribution) ในเขตซื้อมากเกิน สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ และยืนยันการปรับตัวลงเมื่อดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้าน 38.2% Fibonacci Retracement (380/1852) ที่ 1,290 จุด หลังจากดัชนีตลาดดิ่งลงเป็นคลื่น II, E เหนือแนวรับ 61.8% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 942 จุด หากดัชนีตลาดจบคลื่น II ที่จุดนี้ ดัชนีตลาดจะต้องไม่ปรับตัวลงต่ำกว่า 942 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก โดยสัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,285 – 1,299 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,265 – 1,256 จุด กลยุทธ์การลงทุน ทยอยกลับเข้าซื้อหุ้นรายตัว (เพิ่มพอร์ตการลงทุนเป็น 20 เปอร์เซ็นต์) เมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,083 จุดโดย prajobv1
ถ้าไม่กลับมาแนว คงขอพักก่อนใครที่มานั่งไล่ราคาช่วงบ่ายคงเหนื่อย มีการพยายามให้กลับไปแนวขาขึ้น แต่ก็โดนตบลงมา ถ้าพรุ่งนี้เปิดเหนือ 1282 ได้น่าจะดี แค่ถ้าหลุด 1257 ก็พักก่อน รอฟอร์มตัวใหม่ ต้านนี้จะเหนื่อยๆ โดย NutaponKo1
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ทดสอบแนวต้านทางเทคนิคัล ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆ จากแรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า และแรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ดัชนีตลาดปิดที่ 1,267.41 จุด เพิ่มขึ้น 8.63 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.9 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเริ่มกลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 14 ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ (27/4) ปิดตลาดในแดนบวก ดัชนีดาวโจนส์ปรับเพิ่มขึ้น 358 จุด นักลงทุนขานรับการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์และหันมาเปิดธุรกิจ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 24 เปอร์เซ็นต์ และการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ยังดำเนินต่อไป ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง หลังดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของช่องว่าง (Gap) ที่ 1,272 – 1,364 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Star ในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับของช่องว่างที่ 1,184 – 1,150 จุด สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ระยะสั้นจึงควรระวังดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ เพราะจะเป็นสัญญาณที่ดัชนีตลาดพักตัวลงปิดช่องว่างที่ 1,184 – 1,150 จุด จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้าน 38.2% Fibonacci Retracement (380/1852) ที่ 1,290 จุด หลังจากดัชนีตลาดดิ่งลงเป็นคลื่น II, E เหนือแนวรับ 61.8% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 942 จุด หากดัชนีตลาดจบคลื่น II ที่จุดนี้ ดัชนีตลาดจะต้องไม่ปรับตัวลงต่ำกว่า 942 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic กลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน แรงขายที่มีออกมาจะกดดัชนีตลาดปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,200 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,280 – 1,292 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,256 – 1,241 จุด กลยุทธ์การลงทุน ทยอยกลับเข้าซื้อหุ้นรายตัว (เพิ่มพอร์ตการลงทุนเป็น 20 เปอร์เซ็นต์) เมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,083 จุดโดย prajobv1
sell in may รอบนี้จะมีอีกหรือไม่sell in may วัดสถิติ ถึงปี 2007 เดือน พ.ค. 13 ครั้ง ปรากฏว่า เดือน พ.ค.ขึ้นเพียง 4ครั้ง ลง 9 ครั้งโดย MasterTraderist5
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ระวังเปิดสูงปิดต่ำ แรงขายที่มีออกมาในช่วงบ่าย กดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,258.78 จุด ลดลง 13.75 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.87 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเริ่มกลับมาเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,184 จุด ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 13 ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันศุกร์ (24/4) ปิดตลาดในแดนบวก ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 260 จุด ขานรับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นและได้รับแรงหนุนจากหุ้นเทคโนโลยี ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ หลังดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของช่องว่าง (Gap) ที่ 1,272 – 1,364 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Engulfing ในเขตซื้อมากเกิน สัญญาณทางเทคนิคัลที่เริ่มกลับมาเป็นลบ จะกระตุ้นแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับของช่องว่างที่ 1,184 – 1,150 จุด สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ระยะสั้นจึงควรระวังดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ เพราะจะเป็นสัญญาณที่ดัชนีตลาดพักตัวลงปิดช่องว่างที่ 1,184 – 1,150 จุด จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้าน 38.2% Fibonacci Retracement (380/1852) ที่ 1,290 จุด หลังจากดัชนีตลาดดิ่งลงเป็นคลื่น II, E เหนือแนวรับ 61.8% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 942 จุด หากดัชนีตลาดจบคลื่น II ที่จุดนี้ ดัชนีตลาดจะต้องไม่ปรับตัวลงต่ำกว่า 942 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic กลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน แรงขายที่มีออกมาจะกดดัชนีตลาดปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,200 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,269 – 1,280 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,248 – 1,234 จุด กลยุทธ์การลงทุน ทยอยกลับเข้าซื้อหุ้นรายตัว (เพิ่มพอร์ตการลงทุนเป็น 20 เปอร์เซ็นต์) เมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,083 จุดโดย prajobv3
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย สัญญาณซื้อมากเกิน แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด หนุนให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,272.53 จุด เพิ่มขึ้น 10.72 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.9 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 12 ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพฤหัสบดี (23/4) ตลาดเปลี่ยนแปลงขึ้นลงเล็กน้อย เนื่องจากข่าวล้มเหลวการทดลองยาต้านโควิด-19 และยอดขอรับสวัสดิการว่างงานพุ่งขึ้นแตะ 4.4 ล้านราย ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวออกด้านข้างและมีทิศทางปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของช่องว่าง (Gap) ที่ 1,272 – 1,364 จุด และมีแนวต้าน 38.2% Fibonacci Retracement (1852/969 จุด) อยู่ที่ 1,306 จุด ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายออกมาเป็นระยะ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสพักตัวลงเข้าหาแนวรับของช่องว่างที่ 1,184 – 1,150 จุด ระยะสั้นจึงควรระวังดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ เพราะจะเป็นสัญญาณที่ดัชนีตลาดพักตัวลงปิดช่องว่างที่ 1,184 – 1,150 จุด จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 969 จุด จากที่ได้วิเคราะห์ไว้คลื่น II,E มีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับ 61.8% Fibonacci Retracement (คำนวณระหว่าง 380 จุดกับ 1,852 จุด) ที่ 942 จุด ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นอย่างร้อนแรง เมื่อนำจุดสูงที่ 1,852 จุด กับจุดต่ำที่ 969 จุด มาวิเคราะห์แนวต้านจะได้ ดังนี้ 38.0% Fibonacci Retracement = 1,306 จุด 50.0% Fibonacci Retracement = 1,410 จุด และ 61.8% Fibonacci Retracement = 1,515 จุด ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,153 – 1,083 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ในเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 860 – 870 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 838 – 825 จุด กลยุทธ์การลงทุน ทยอยกลับเข้าซื้อหุ้นรายตัว (เพิ่มพอร์ตการลงทุนเป็น 20 เปอร์เซ็นต์) เมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,083 จุดโดย prajobv116