SET:SET   ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์ไทย

ระยะพักตัว
แรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงปิดที่ 1,280.40 จุด ลดลง 14.15 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.66 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นลบ และเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นจะเผชิญแรงขายและมีโอกาสปรับตัวลง ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 9
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพฤหัสบดี (14/5) ตลาดแกว่งตัวผันผวน ตลาดทรุดตัวลงในช่วงเปิดตลาด แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารหนุนดัชนีดาวโจนส์กลับมาปิดในแดนบวก ปรับเพิ่มขึ้น 377 จุด ดาวโจนส์สวิง 800 จุด ตัวเลขการว่างงานปรับเพิ่มขึ้น

ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หลังดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,303 จุด ดัชนีตลาดเกิดรูปแบบ Double Top ร่วมกับการเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณปลายตลาดขาขึ้น สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงหรือแกว่งตัวออกด้านข้างในทางลง
เมื่อนำจุดสูงที่ 1,301 จุด กับจุดต่ำที่ 969 จุด มาวิเคราะห์แนวรับด้วย Fibonacci Retracement จะได้แนวรับที่ 1,174 จุด, 1,135 จุด และ 1,096 จุด ตามลำดับ

จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดอ่อนตัวลงหลังดัชนีตลาดปรับตัวเข้าหาแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,300 จุด ดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 969 จุด ดัชนีจะจบคลื่น II ที่ 969 จุด ดัชนีตลาดจะต้องไม่ปรับตัวลงต่ำกว่า 942 จุด

สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI กลับมาเป็นลบ สัญญาณ RSI เกิดเป็น Bearish Divergence ทำให้ดัชนีตลาดที่ปรับตัวขึ้นมีความเสี่ยงจากปัจจัยทางเทคนิคัลเพิ่มมากขึ้น
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,290 – 1,300 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,270 – 1,257 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
ทยอยกลับเข้าซื้อหุ้นรายตัว (เพิ่มพอร์ตการลงทุนเป็น 20 เปอร์เซ็นต์) เมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,083 จุด
คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบ

ข้อมูลและบทความไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อก่อให้เกิดกิจกรรมทางการเงิน, การลงทุน, การซื้อขาย, ข้อเสนอแนะ หรือคำแนะนำประเภทอื่น ๆ ที่ให้หรือรับรองโดย TradingView อ่านเพิ่มเติมที่ เงื่อนไขการใช้บริการ