ทอง MACD ดีดสูงมาก หลังจากดีดขนาดนี้เกิดอะไรขึ้นบ้างในอดีตบทความนี้จะเป็นบทความวิเคราะห์เชิงสถิติ และเหตุการณ์โลกที่เกี่ยวข้อง
เนื่องจาก ณ ปัจจุบัน MACD ได้ดีดขึ้นสูงมาก
และจากประวัติศาสตร์ราคาทอง กับ MACD ระดับการดีดของ Indicator นี้
MACD พุ่งสูงถึงระดับนี้ มีเพียงแค่ 3 ครั้ง เท่านั้น !!!
ซึ่งในบทความนี้จะชี้ให้เห็นถึงราคาที่ร่วงลงอย่างมีนัยยะสำคัญ
สัมพันธ์กับเหตุการณ์โลกในช่วงปีดังกล่าว
จะพบว่าราคาทองจะพุ่งสูงขึ้นในช่วงวิกฤติ แต่กลับพบว่า วิกฤตินั้นจะเกิดขึ้นต่อ หรือจบลง
ราคาทองมักจะร่วงลงเสมอ ราวกับว่ามีนักลงทุนที่คาดหวังการ Price in จากเหตุการณ์แนวๆ นี้เสมอ
ครั้งนี้อาจจะเป็นอีกครั้งหรือไม่ที่ราคาทองกำลังจะร่วงลง
กอปรกับสัญญาณทางสงครามที่ดูจะเงียบๆ ลง
ซึ่งผู้เขียนมิอาจคาดเดาหรือฟันธงได้ว่าจะมีขึ้นหรือไม่ในเร็วๆ นี้ !
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "MACD"
SET สัญญาณของการพัก MACD cross SignalSET Index เกิดสัญญาณทาง Momentum MACD ตัดลง Signal บงบอกถึงสภาวะตลาดกำลังเข้าสู่สภาวะพักตัวระยะสั้น
เทคนิคการการภาษากราฟ
{
MACD > 0 = ภาพรวมของตลาดยังเป็นแนวโน้มขึ้น
MACD cross down Signal = ภาพของเทรนย่อยเกิดแนวโน้มลง
}
สรุปแปลความ
"ภาพตลาดยังเป็นแนวโน้มขึ้นที่กำลังเข้าสู่การพักการขึ้น" หากการพัก ไม่รุนแรง โอกาสขึ้นต่อทำนิวไฮน์ยังมี ...แต่หาการพักครั้งนี้รุนแรงจนทำให้ MACD ลงไปตัด 0 ไปอยู่ในแดนลบได้ นั่นแปลว่า การพักครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนสภาวะของภาพรวมตลาดให้กลายเป็น Downtrend ทันที
มนุษย์กราฟ | Humangraphy
PTTGC |วิเคราะห์คลื่นรูปแบบ Leading Diagonal - MACD crossover+บทวิเคราะห์คลื่นในรูปแบบประยุกค์อย่างไม่ซับซ้อนผสมเทคนิคการวิเคราะห์รูปทรงและการเคลื่อนที่ของราคา
มีโอกาสเป็นเวฟ Leading diagonal เวฟ 1 หลัก ประกอบด้วย 5 คลื่น ย่อ 2 - ABC มาที่โซน 0.618 - 0.786 แล้วมีแรงซื้อกลับทันที
รีบาวน์ขึ้นไปชนเส้น 200 วันแล้ว และ แนวต้าน Volume Profile POC มีโอกาสเบรคเอ้าท์ ขึ้นไปได้กลับตัวเป็นไซด์เวย์อับ
Action: รอรูปแบบการกลับตัวที่ชัดเจน ราคาลงมารีเทสแนวรับด้านล่าง Pullback Entry?
Indicator: MACD ตัดเส้นสัญญาณขึ้นมีโอกาส สร้างฐานใต้เส้น 200 วันเพื่อรอเบรคขึ้นไปได้
Target: เป้าหมายโซน 0.786 -1.0 เวฟ 1 หลัก +10-15% ที่ 49.50 และ 52.50
ITC เป้าหมายเก็งกำไรรีบาวน์ระยะสั้น MACD bullish divergenceเกิดรูปแบบเบรคเอ้าท์เส้นค่าเฉลี่ย 5 วันตัดขึ้นเส้น 20 วัน ของกราฟราคา 4 ชม และแนวต้านคลื่นที่สองของการย่อพักฐานที่ฟิโบนันชี 100% มีโอกาสเปลี่ยนแนวโน้มเป็นโอกาสทำกำไรระยะสั้นรีบาวน์
เป้าหมายโซน 0.382 ฟิโบนันชี รีเทรสเม้นท์ หรือ SMA 50 TF4H MACD เกิดสัญญาณบวกสนับสนุน bullish divergence ตัดเส้นสัญญาณ golden cross
น้ำมันผิดพลาด เพราะเอา macd day ตั้งไม่ได้ดูรายละเอียดน้ำมันผิดพลาด เพราะเอา macd day ตั้งไม่ได้ดูรายละเอียดน้ำมันผิดพลาด เพราะเอา macd day ตั้งไม่ได้ดูรายละเอียดน้ำมันผิดพลาด เพราะเอา macd day ตั้งไม่ได้ดูรายละเอียดน้ำมันผิดพลาด เพราะเอา macd day ตั้งไม่ได้ดูรายละเอียด
BTCUSD : MACD Weekly กำลังจะตัดเส้น 0 ขึ้นครั้งที่ 5 ในรอบ 8 ปีจากกราฟเลยครับ
MACD Weekly ตัดศูนย์ขึ้น
ครั้งแรก
11 มิ.ย. 2012
ตอนนั้นราคา 6.18$
MACD Weekly ตัดศูนย์ขึ้น
ครัั้งที่สอง ( False Signal ขึ้นหลอกแล้วลงต่อ )
2 มิ.ย. 2014
ตอนนั้นราคา 658$
MACD Weekly ตัดศูนย์ขึ้น
ครั้งที่สาม
2 พ.ย. 2015
ตอนนั้นราคา 374$
MACD Weekly ตัดศูนย์ขึ้น
ครั้งที่สี่
6 พ.ค. 2019
ตอนนั้นราคา 7000$
MACD Weekly กำลังจะตัดศูนย์ขึ้น
ครั้งที่ห้า
10 ก.พ. 2020
น่าจะอยู่แถวๆ ราคา 9800-10,000?
จะเห็นได้ว่า ในสัปดาห์หน้านี้ เราน่าจะมีเหตุการณ์ที่สำคัญเกิดขึ้น
ระดับความแม่นยำสูงมาก และไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ
เพราะการที่ MACD จะตัดเส้นศูนย์ขึ้นมาได้นั้น
ตลอดช่วงอายุของ BTC มันขึ้นมาได้แค่ 4 ครั้งเท่านั้นเอง
ในเวลา 8 ปี .. และเจอสัญญาณหลอกไป 1 ครั้ง
ดังนั้น Win Rate ก็จะอยู่ที่ 75% ครับ
จริงๆ สัปดาห์นี้เราจะเห็นเส้นของ MACD เส้นนึง วิ่งขึ้นมาเหนือเส้นศูนย์แล้วด้วยซ้ำ ( เส้นสีฟ้า )
แต่ถ้าจะเป็นการ confirm จริง ก็คือ ทั้งสองเส้น ต้องวิ่งขึ้นมาเหนือเส้น 0 ครับ
แต่ก็นั่นแหละ ถ้ารอ confirm ระดับ weekly แล้วค่อยเข้า มันก็จะค่อนข้างช้าพอสมควร
เพราะรอบก่อน ถ้าไปรอสัญญาณ weekly กว่าจะได้เข้าก็ปาเข้าไป 7000 โน่นแล้วครับ
จริงๆ สัญญาณ Daily หลายๆ Trend Following มันก็บอกให้เข้าซื้อมาตั้งนานแล้วนะ บางตัวตั้งแต่กลางเดือน ธ.ค. 2019 แล้วด้วยซ้ำ
ก็ลองพิจารณากันดูครับ เหตุการณ์แบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย
และถ้าเกิดแล้ว ก็ไม่ควรมองผ่าน และ Bias ลงจนไม่กล้าเข้านะครับ
เอาจริงๆ เหตุการณ์ MACD Weekly ตัดศูนย์ขึ้น
มันเคยเกิดกับกราฟทอง ช่วงราคา 1280 ช่วง ธ.ค. 2018 แล้วด้วยซ้ำครับ
แต่ตอนนั้นผมมัวแต่ลังเลๆ เลยไม่ได้เข้าซื้อ
มานึกอีกทีก็เสียดายเหมือนกันครับ 555 แต่ว่า ตอนนั้นก็ไปเข้า BTC แทนน่ะ
[BULLISH] MACD SETINDEX TFM "กำลังจะ" ตัดขึ้นสัญญาณง่ายๆบ้านอย่าง MACD ที่ทุกคนรู้จักดี
ในตอนนี้ Set index บ้านเรากำลังมีการตัดขึ้นของ MACD ใน TFM
ซึ่งจากสถิติของ MACD Cross แบบบ้านๆ ตั้งแต่ปี 1982 - 2020 (38 ปี)
MACD มีการตัดขึ้นทั้งหมด 13 ครั้งเป็นสัญญาณหลอก 4 ครั้ง อีก 9 ครั้งถูก
เวลาถูกทางรันเทรนยาวๆกันไป 2-3 ปี
ครั้งที่ 14 ของการตัดขึ้น กำลังรอคอนเฟิร์มในจบเดือนนี้ ปีหน้าอาจจะเป็น Super Bullish ของตลาดไทยก็เป็นได้
*** การลงทุนมีความเสี่ยง ยังไงต้องบริหารจัดการความเสี่ยงกันด้วยนะครับ ***
BTCUSD : ระบบ MACD ตัด 0 มีสัญญาณ "ซื้อ" 22/6/2023ระบบ MACD ตัดศูนย์ หรือที่คนไทยเรารู้จักกันในชื่อว่า Action Zone นั้น
เป็นระบบ Classic Trend Following โดยใช้หลักการของเส้น MACD โดยดูว่า เมื่อไหร่ที่เส้นนี้ ตัดค่า 0 ขึ้นมา ก็ให้ซื้อ ถ้าตัดลงก็ให้ขาย หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เขียวซื้อแดงขาย นั่นเอง
ระบบนี้จะ work ได้ดีกับสินค้าที่ "เป็นเทรนขาขึ้นชัดๆ" อย่างเช่น BTC ใน TF Daily หรือ หุ้นเมกาใน TF Weekly ขึ้นไป ส่วนสินค้าไหนที่ภาพใหญ่มันไม่เป็นเทรน ใครเอาระบบนี้ไปใช้ก็จะจุกๆ หน่อย ( อ้อ ใช้กับ TF เล็กๆ อย่าง 1H ก็ไม่เวิร์คนะ เจ๊งเหมือนกัน เพราะมันมีแต่ noise )
ซึ่ง ช่วง 2 วันที่ผ่านมา พรี่ BTC ก็ทำการลากไม่ยั้ง ลากทะลุมิติ ลากเหนือจินตนาการของหลายๆ คน แต่.. มันก็เป็นท่าปกติของพี่เขาน่ะแหละ ถ้าท่านอยู่กับมันมานานพอ 555 และ ลากจนระบบเขียวกันหมดทุกระบบที่ผมใช้อยู่นั่นเอง
ดังนั้น มันก็ไม่ยากครับ เขียว ก็เข้า ก่อนเข้า วางความเสี่ยง วาง position size ให้ถูกต้องก่อนด้วยนะ ไม่ใช่อ่านแล้วมาเข้ามั่วๆ all-in เสร็จแล้วพอต้องคัทก็เจ็บหนัก เพราะระบบที่ผมใช้ ผมจะวางความเสี่ยงแค่ระบบละ 1% ของพอร์ตเท่านั้น อย่างรอบนี้ก็จะเข้าได้ราวๆ แค่ 10% ของพอร์ตเท่านั้นเองนะครับ หมายความว่า ถ้าคุณมีเงิน 100 บาท คุณก็ซื้อ BTC ไม้นี้ได้แค่ 10 บาทเท่านั้นเอง..
เพราะ ถ้ามันไม่ขึ้น อย่างที่เราคิด เราก็คัทลอสที่ -10% ตามแผนที่วางไว้ เราก็เสียตังแค่ 10 บาท * 10% = 1 บาท เท่านั้นเอง แทบไม่เจ็บอะไรเลย
แต่ถ้าเรามั่ว ไปเข้าแบบ all-in หรือที่แย่กว่าคือไปใช้ leverage แทนที่เราจะเสียแค่ 1% กลับกลายเป็นว่า เราต้องเสียเงินสูงถึง 10% ของพอร์ต หรือ มากกว่านั้น ถ้าคุณใช้ leverage ไปด้วยนะครับ
ก็ต้องแวะมาย้ำเตือนกันอีกรอบ เพราะผมเชื่อว่า ก็มีคนอ่านผ่านๆ เข้าใจแบบงูๆ ปลาๆ แล้วก็ไปกดตามกันมั่วๆ สุดท้ายพอต้องคัทก็ไม่กล้าคัท แล้วก็ขาดทุนหนัก แล้วก็มาด่าระบบอีกว่า กาก แทนที่จะโทษตัวเองว่า ทำไมไม่ยอมศึกษาก่อนให้เข้าใจถ่องแท้
อ้อ แล้วก็จะมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ก็จะออกมาบอกว่า "โอ้ย ระบบนี้มันง่ายแค่นี้เนี่ยนะ มันจะทำเงินได้จริงๆ เหรอ ถ้ามันง่ายขนาดนี้คนมันก็รวยกันหมดทั้งโลกแล้ว" พูดเสร็จ ก็ไม่ทำตามระบบ
ผมก็อยากจะบอกว่า ก็มีคนอีก 95% ที่คิดแบบนี้ และก็เลยเป็นคำตอบว่า ทำไม คนถึงไม่รวยกันหมดทั้งโลกไงครับ 555
ก็แวะมาบอกกันหน่อยนึง เก็บไว้เป็น track record ครับ
BTC Action Zone = เขียว ( 22/6/2023 )
------------------
Entry : 30000+-
SL : 27400+- ( -8.66% )
Position Size = 11.5% ของพอร์ต ( Risk1% )
BTCUSD : ระบบ MACD ตัด 0 (ActionZone) มีสัญญาณ "ขาย" 10/5/2023ระบบ MACD ตัดศูนย์ หรือ ระบบ Action Zone บน TF Daily เป็นระบบตระกูล Trend Following ระบบหนึ่ง ที่ใช้ได้ผลดีกับ Bitcoin ในช่วงที่ผ่านมา
โดยระบบนี้จะค่อนข้างช้า กว่าจะมีสัญญาณซื้อหรือขาย ทำให้อาจจะต้องใช้อีกระบบหนึ่ง เช่น Trailing Stop หรือ แผนการขายเก็บกำไรบางส่วนเมื่อถึง Risk:Reward ที่ดี ( เช่น 1.5R ขึ้นไป ) มาซ้อนเอาไว้ เพื่อ lock กำไรบางส่วนไม่ให้คืนตลาดไปหนัก ตอนที่กราฟร่วงแรง
ระบบนี้ได้มีสัญญาณซื้อตั้งแต่วันที่ 17/3/2023 ที่ผ่านมา ตั้งแต่แถวๆ ราคา 25k
และได้มีสัญญาณขายในวันที่ 10/5/2023 รายละเอียดตามด้านล่าง เป็นเวลาถือ position ทั้งหมดเกือบสองเดือนครับ
BTC ActionZone = แดง ( 10/5/2023 )
------------------
Entry : 25000+-
Exit : 27600+- ( +10.4% )
Position Size = 9% ของพอร์ต ( Risk1% )
Realized Profit = 9% * 10.4% = 0.93% ของพอร์ต
ดังนั้น จากที่สามระบบใน TF Daily แดงไปหมดแล้ว ผมจึงพอสรุปกำไรของรอบ Swing Trade BTC ตามระบบได้ดังนี้ครับ
ระบบ ATR = มีกำไร 1.53% ของพอร์ต ที่ความเสี่ยง 1% ( 1.53R )
ระบบ Break High = มีกำไร 1.21% ของพอร์ต ที่ความเสี่ยง 1% ( 1.21R )
ระบบ MACD ตัดศูนย์(ActionZone) = มีกำไร 0.93% ของพอร์ต ที่ความเสี่ยง 1% ( 0.93R )
รวมกำไรทั้งหมด ของรอบ swing มี.ค. - พ.ค. 2023 = 1.53% + 1.21% + 0.93% = 3.67% ของพอร์ต ที่ความเสี่ยงรวม 3% ( 1.22R )
รวมกับกำไรของรอบเดือน ม.ค. - มี.ค. 2023 อีก 19.9% ทำให้ ณ ตอนนี้ การทำตามระบบ มี Realised Profit อยู่ที่ 19.9% + 3.67% = 23.57% ของพอร์ต ต่อความเสียง 3% ของแต่ละรอบ = 7.85R นั่นเอง
จริงๆ แล้ว รอบนี้ ก็คืนกำไรกันไปหนักพอสมควรครับ เพราะตอนที่ราคา BTC ทะลุ 30k ที่ 14/4/2023 เรามี Unrealized Profit รวมกับกำไรสะสมของรอบแรก อยู่ที่ราวๆ 30% ของพอร์ตเลยครับ พอจบรอบเหลือแค่ 23.57%
ก็คืนกำไรกันไปถึงราวๆ 70% ของกำไรกันเลยทีเดียว 555 แต่ระบบ Trend Following มันก็เป็นแบบนี้เสมอครับ ตอนสมัยรอบ ม.ค. ก็เคยได้กำไรสูงถึง 27% ของพอร์ต แต่ตอนหมดเดือน ก.พ. เหลือกำไรแค่ 20% เท่านั้นเอง
ถ้ามัวแต่มองการคืนกำไรก็คงเครียดจนไม่ต้องทำอะไรกันพอดี
ปล. จริงๆ ยังเหลืออีกไม้นึงที่ยังไม่ออก คือ ระบบ Close Above EMA120D แต่เนื่องจากมันเป็นกึ่ง TF Weekly ผมก็เลยเก็บมันไว้ก่อน ค่อยมาสรุปอีกทีถ้ามันจบรอบนะครับ
BTCUSD : ระบบ MACD ตัดศูนย์ TF Weekly ให้ "ซื้อ" 13/3/2023ระบบ MACD ตัดศูนย์ หรือ Action Zone ที่ชาวไทยคุ้นเคย ( เหรอ? )
วันจันทร์ ที่ 13/3/2023 ที่ผ่านมา ระบบนี้ก็มีสัญญาณ "ซื้อ" เป็นที่เรียบร้อย
หลังจากระบบนี้ แดงกันมาตลอดระยะเวลาปีกว่าๆ
ระบบที่เล่นบน TF Weekly จะทำยากกว่าบน TF Daily เยอะ เพราะเวลามันย่อ บน TF Weekly มันย่อแรง ส่วนใหญ่ก็จะทนย่อกันไม่ได้
และ พอต้องรันเทรน รันกำไร บางทีก็ต้องรันกันเป็นปี ก็จะทนกันไม่ได้อีกอยู่ดี
แต่ถ้าใครทำได้ ก็จะถือเป็นระบบที่ให้กำไรได้อย่างดีมากครับ
BTC Action Zone Weekly = เขียว ( 13/3/2023 )
------------------
Entry : 22000+-
SL : 19800 ( -10% )
Position Size = 10% ของพอร์ต ( Risk1% )
BTCUSD : ระบบ MACD ตัด 0 (Action Zone) มีสัญญาณ "ซื้อ" 3/3/2022กลับมาเขียวกันอีกแล้ว สำหรับระบบ MACD ตัดศูนย์ หรือ CDC Action Zone ที่คนไทยหลายๆ คนคุ้นเคยกัน
วันนี้... กลับมาเขียวอีกแล้ว...
แต่... หลายๆ คนก็เริ่มจะหลอน และคิดในใจว่า "ฤา จะเขียวหลอก กันอีกครา"
ผมบอกเลยว่า ช่างมันเถอะครับ
ถ้าคุณจะทำตามระบบ คุณก็ยึดระบบเป็นหลัก
มันเขียว คุณก็เข้า มันเสียทรง คุณก็ขาย เท่านั้นเอง
อย่าไปเดาอะไรมาก อย่าไปคิดอะไรเยอะ
เพราะอย่างที่ผมบอกเสมอครับ ว่า ถ้าคุณเข้าซื้อ ด้วยการคุมความเสี่ยง ผ่าน Position Sizing คุณก็แทบจะไม่ต้องมานั่งกังวลอะไรมาก ว่า มันจะเขียวจริง หรือ เขียวหลอก
เพราะคุณจะโดนอย่างมาก ก็แค่ loss ที่คุณยอมรับได้ และกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้วนั่นเองครับ
อย่างรอบนี้ ถ้าเข้าตามระบบ ก็จะมีรายละเอียด ประมาณนี้
===============
BTC Action Zone = เขียว ( 3/3/2022 )
===============
Entry : 43800+-
SL : 37490 ( -15% )
Position Size
Risk 1% = 6.67% ของพอร์ต
จะเห็นได้ว่า ถ้ารวมกับ Position ของระบบ ATR ที่เขียวไปวันก่อน
คุณก็จะถือ BTC ประมาณ 13% ของพอร์ต และเหลือเงินสดอีกตั้ง 87% ของพอร์ตกันเลยนะครับ
คัทก็เจ็บนิดเดียว
ถ้าใครกลัว แทนที่จะใช้ความเสี่ยง 1% คุณอาจจะลดเหลือ 0.5% ของพอร์ต ต่อกลยุทธ ก็ได้เช่นกัน คุณก็จะเข้าไปได้แค่ ราวๆ 7% ของพอร์ต 5555
โห แอด เข้าแค่นี้ แล้วถ้ามันขึ้นจริง ไม่ตกรถแย่เหรอ
เอ้า! ถ้าคุณคิดว่า คุณรับความเสี่ยงไหว คุณก็เพิ่มไปสิ แทนที่จะใช้แค่ 1% Risk คุณก็เพิ่มเป็น 3% Risk 5% Risk อะไรก็ได้ เรื่องของคุณเลยครับ
เช่น ถ้าคุณใช้ 5% Risk คุณก็จะเข้าได้ถึงประมาณ 33% ของพอร์ตเลย ในวันนี้..
แต่.. ก็ขอเตือนไว้ก่อนเช่นกันว่า ถ้าคุณเข้าด้วยความเสี่ยง 5% Risk ถ้าคุณเจอ Consecutive Loss หรือ false sig ติดๆ กัน 4-5 ครั้ง เหมือนปี 2018
คุณจะขาดทุน ( Drawdown ) สูงถึง -20% ถึง -25% เลยนะครับ! ซึ่ง สำหรับผม ผมมองว่า มันเยอะไป นั่นเอง...
ก็มาเล่าเป็นไอเดียนะครับ ที่เหลือ คุณก็ต้องวางแผนกันเอง
การลงทุน การเก็งกำไร คุณจะมาเที่ยวคอยลอกการบ้านคนอื่นไม่ได้
หน้าที่ของคุณคือต้องทำความเข้าใจ ให้มากที่สุด หาความรู้ ให้มากที่สุด
อย่าไปฟังคนโน้นคนนี้มาก เพราะเงินของคุณ คุณต้องรับผิดชอบด้วยตัวคุณเองนะครับ..
usdjpy แผนวันที่ 25/1/22 ไดเวอร์เจอร์ในภาพใหญ่ อย่างไร macdจะต้แนวทางเทรด ในวันนี้น้ามองว่า มีไดเวอร์เจอร์ในภาพใหญ่ อย่างไร macdจะต้องมุดน้ำ1รอบ
แผนวันนี้ หาจังหวะเข้าทำ
แผนA. ราคาปิดยืน115.100 #buystop สามารถวางแผนเก็งกำไร #buy ตามได้ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 115.400 และ 116.000
แผนB. ราคาเด้งขึ้นแต่ไม่สามารถยืนได้ 114.750 สามารถดัก #Selllimit มีโอกาสลงไปทดสอบเป้า 113.500 และ112.700
แผนC. ราคาลงหลุด113.450 #Sellstop ได้ มีโอกาสลงไปทดสอบเป้า113.100 ,112.700
แผนD. ราคาลงแต่ไม่หลุด 113.900 หรือหลุดแต่มีแรงซื้อยกกลับ สามารถวางแผน #buy กลับไปได้ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบเป้า 114.250,114.750 แต่หลุดแล้วต้องstoploss 113.600 ด้วย
คำเตือน
จุดประสงค์เพื่อเสนอแนวการวางแผนเทรดเท่านั้น เรียนรู้พฤติกรรมราคา
ไม่ได้ชี้นำหรือฟันธงตลาด
ไม่ว่าตลาดจะเลือกทางไหน ขอให้ทำตามแผนที่วางไว้ และมีวินัย สามารถได้กำไรทุกคนครับ.
อย่าเชื่อ100% และน้าหวังว่าจะนำไปปรับใช้กับการเทรดของทุกคนได้
ไม่ดื้อ ไม่โลภ ไม่กลัว
เสี่ยงเท่าที่คุณจะสูญเสียมันได้
นิ่งให้พอ รอให้เป็น เย็นให้ได้
เล็กน้อยxสม่ำเสมอ = มหาศาล
ท่านใดเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากกดlike และShare ให้ด้วยนะ
BTCUSD : Action Zone จะแดง เช้านี้ ( MACD < 0 ) กำไร 25%เช้านี้ MACD จะวิ่งเข้าใต้ศูนย์
( หรือ Action Zone เปลี่ยนเป็นสีแดง )
ใครตามระบบนี้ ก็ถึงเวลาออกครับ
โดยระบบนี้ ได้บอกให้เข้าตั้งแต่ 10 Apr 2020
Entry : 7283
SL : 5853 ( -19% )
Position Size Risk 5% = 25% ของพอร์ต
TP : 9132 ( +25% )
Actual Profit = 25% x 25% = 6.25%
จะเห็นได้ว่า เอาจริงๆ เราก็ไม่ควรที่จะ all-in
และควรเข้าด้วยการคุมความเสี่ยงเสมอครับ
ซึ่ง ช่วงแถวๆ เมษา ราคา BTC แกว่งค่อนข้างแรงมาก
ทำให้ Stop เราไปอยู่ลึกถึง -20% โน่นเลย
เราก็เลยเข้า position ได้ไม่ครบ 100% ของไม้ที่วางไว้ครับ
โดยถ้าเราถือทนมาจนถึงวันนี้ และออกตามระบบ เราก็จะได้กำไร ดังนี้
Risk 2% / Position Size = 10% ของพอร์ต / กำไร 2.5% ( Conservative )
Risk 5% / Position Size = 25% ของพอร์ต / กำไร 6.25% ( Risk Taker )
Risk 10% / Position Size = 50% ของพอร์ต / กำไร 12.5% ( A lot of profit buffer from last trade )
Rsi+macd+moving+bollinger//@version=4
study("Custom Indicator", overlay=true)
// Moving Average
ma_short = sma(close, 10)
ma_long = sma(close, 50)
plot(ma_short, color=color.blue)
plot(ma_long, color=color.red)
// RSI
rsi = rsi(close, 14)
hline(70, "Overbought", color=color.red)
hline(30, "Oversold", color=color.green)
plot(rsi, color=color.purple)
// MACD
= macd(12, 26, 9)
plot(macdLine, color=color.blue)
plot(signalLine, color=color.red)
bgcolor(macdLine > signalLine ? color.green : color.red, transp=90)
// Bollinger Bands
basis = sma(close, 20)
dev = stdev(close, 20)
upper = basis + dev * 2
lower = basis - dev * 2
plot(upper, color=color.green)
plot(lower, color=color.green)
2 กลยุทธ์ TradingView สำหรับการซื้อขาย crypto: กลยุทธ์ MACD
การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลอาจให้ผลตอบแทนสูงโดยใช้ตัวบ่งชี้ที่เหมาะสมและกลยุทธ์ TradingView กลยุทธ์ TradingView เป็นสคริปต์ที่สามารถส่ง แก้ไข และยกเลิกคำสั่งซื้อและขายเมื่อตรวจพบเงื่อนไขเฉพาะบนแผนภูมิ นอกจากนี้ กลยุทธ์ยังอนุญาตให้เทรดเดอร์ทำการทดสอบย้อนหลังเพื่อแสดงความถูกต้องของกลยุทธ์ในขณะที่อยู่บนแผนภูมิ TradingView
มีตัวเลือกกลยุทธ์มากมายบน TradingView เราจะพิจารณาสองกลยุทธ์ดังกล่าวในบทความนี้: กลยุทธ์ BarUpDn และกลยุทธ์ MACD
กลยุทธ์ MACD
MACD ย่อมาจาก Moving Average Convergence Divergence มีการใช้กันอย่างแพร่หลายโดยผู้ค้ารายวัน ตัวบ่งชี้กลยุทธ์ MACD บน TradingView ทำงานบนองค์ประกอบสามส่วน: ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองค่าและฮิสโตแกรม ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองค่านั้นเป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียล (เส้นของ EMA) เส้นหลักคือเส้นช้า ซึ่งก็คือ MACD ในขณะที่เส้นที่สองจะเร็วกว่าและเป็นเส้นสัญญาณ
เมื่อเส้นสองเส้นมารวมกัน เราเรียกว่าการบรรจบกัน และเมื่อเส้นทั้งสองอยู่ห่างจากกัน เราเรียกสิ่งนี้ว่าไดเวอร์เจนซ์ ฮิสโตแกรมทำหน้าที่แสดงความแตกต่างระหว่างเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองเส้นนี้ เส้นศูนย์บนฮิสโตแกรมคือจุดที่โมเมนตัมของคู่สกุลเงินดิจิทัลเป็นศูนย์ ฮิสโตแกรมจะขยายใหญ่ขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างรวดเร็วในทิศทางขาขึ้น ในขณะเดียวกัน มันจะหดตัวเมื่อมีการชะลอตัวของราคาสินทรัพย์ crypto
มีสามวิธีที่ผู้ค้า crypto สามารถใช้ตัวบ่งชี้กลยุทธ์ MACD บน TradingView พวกมันคือครอสโอเวอร์ ฮิสโตแกรมกลับตัว และครอสโอเวอร์เป็นศูนย์ กลยุทธ์ครอสโอเวอร์เป็นกลยุทธ์ที่ล้าหลังเพราะขึ้นอยู่กับการถือครองจนกว่าคุณจะเห็นการเคลื่อนไหวของราคาก่อนที่จะเปิดสถานะการซื้อขาย การกลับรายการฮิสโตแกรมเป็นกลยุทธ์ชั้นนำเนื่องจากขึ้นอยู่กับแนวโน้มทั่วไปจากข้อมูลในอดีตสำหรับการเข้าและออกทางการค้า สุดท้าย แนวทาง Zero Crosses ใช้ EMA ที่ข้ามเส้นศูนย์เป็นพื้นฐานในการตัดสินใจซื้อขาย เมื่อเส้นสัญญาณตัดผ่านเส้นศูนย์ จะเรียกว่าอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น และเทรนด์ขาลงเมื่ออยู่ใต้เส้นศูนย์
กลยุทธ์ BarUpDn
กลยุทธ์นี้จะตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างรวดเร็วในตลาดสำหรับคู่สกุลเงินดิจิทัลที่คุณกำลังติดตามอย่างต่อเนื่องก่อนที่จะตัดสินใจซื้อหรือขาย นอกจากนี้ กลยุทธ์ BarUpDn ยังใช้สีของแท่งหรือแท่งเทียนในการวิเคราะห์
ก่อนที่จะเข้าสู่ตำแหน่งยาวโดยใช้กลยุทธ์นี้ แท่งเทียนหรือแท่งปัจจุบันต้องเป็นสีเขียว นั่นคือราคาปิดของแท่งเทียนปัจจุบันจะมากกว่าราคาเปิด และราคาเปิดของแท่งเทียนปัจจุบันจะอยู่เหนือราคาปิดของแท่งก่อนหน้า สำหรับตำแหน่งสั้น แท่งเทียนปัจจุบันจะเป็นสีแดง จากนี้ การเปิดของแท่งเทียนสีแดงในปัจจุบันจะอยู่ต่ำกว่าการปิดของแท่งที่ดำเนินการต่อ
ในกลยุทธ์นี้ ทันทีที่เปอร์เซ็นต์การขาดทุนเกินจำนวนที่ระบุโดยตัวบ่งชี้สำหรับวัน ตำแหน่งที่เปิดและทำงานอยู่ทั้งหมดจะปิดลง
วิเคราะห์ความเป็นไปได้ของราคา BTC กรณีที่ MACD Daily < 0 เนื่องจาก Action Zone แดงไปแล้วเมื่อหลายวันก่อน ( MACD < 0 )
ผมเลยมานั่งลองไล่ดูกราฟย้อนหลังดูว่า ถ้า MACD มันตัดศูนย์ลงแล้ว
อนาคต มันจะเป็นอย่างไร
ก็เลยไล่ไปดูกราฟย้อนหลังดูครับ ก็พบข้อมูลที่น่าสนใจ ตามรูปเลย
27 Feb-10 Apr 2020 : 43 วัน
ลงไปต่ำสุด -56%
17 Nov 19 - 8 Jan 2020 : 52 วัน
ลงไปต่ำสุด -24%
19 Aug 19 - 29 Oct 19 : 71 วัน
ลงไปต่ำสุด -29%
12 Jan 19 - 18 Feb 19 : 37 วัน
ลงไปต่ำสุด -8%
8 Sep 18 - 8 Jan 19 : 121 วัน
ลงไปต่ำสุด -49%
17 May 18 - 19 July 18 : 63 วัน
ลงไปต่ำสุด -30%
11 Mar 18 - 21 Apr 18 : 41 วัน
ลงไปต่ำสุด -26%
15 Jan 18 - 1 Mar 18 : 45 วัน
ลงไปต่ำสุด -57%
30 Jul 16 - 7 Sep 16 : 39 วัน
ลงไปต่ำสุด -29%
10 Aug 15 - 3 Oct 15 : 54 วัน
ลงไปต่ำสุด -25%
โดยสรุปตามสถิติแล้วพบว่า
* ถ้า Action Zone แดง ( MACD < 0 ) BTC มักจะ Sideway down ไปต่ออีกประมาณ 40-60 วัน ก่อนจะกลับมาเขียวอีกครั้ง
* ในการ Sideway down BTC มักจะลงไปทำจุดต่ำสุด จากที่มันเริ่มแดง อีกประมาณ -25% ถึง -50%
* ดังนั้น ถ้าว่ากันตามสถิติแล้วก็พอสรุปได้ว่า
- BTC น่าจะมีการย่อลึกลงไปถึงโซน 4500-6800
- โดยน่าจะลงไปสุดแถวๆ ช่วง สิงหา 2020 แล้วอาจจะค่อยๆ เด้งกลับ
- มีความเป็นไปได้ว่าน่าจะดันกลับช่วงก่อนปิด Q3 คือประมาณ กันยา 2020
- ถ้าสามารถดันทะลุ 10k ก็มีโอกาสไปต่อยาว
- แต่ถ้าไม่ ก็มีโอกาส sideway down กันต่อไปเรื่อยๆ ตามสภาพ
- อนึ่ง ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดการณ์อนาคต ตามสถิติของ MACD < 0 เท่านั้น อาจจะเป็น หรือไม่เป็น ตามที่วิเคราะห์ก็ได้ เพราะสุดท้าย chart never lies เดี๋ยวมันก็เฉลยออกมาเอง
- แต่ที่แน่ๆ คือ "อย่าดื้อกับ Action Zone แดง ( MACD < 0 )" บอกได้แค่นี้ 555