ค้นหาในไอเดียสำหรับ "INSIDE BAR"
แนวโน้มยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ inside barกราฟน่าจะฟอร์มตัวอยู่ในแท่งกราฟ daily ที่เป็นตัวคุมที่ breakout resistance 60000
เพื่อให้คนที่อยากขาย (ทั้งคนที่ปิดที่ถือ L มาและก็คนที่อยากจะสวน S กัน)
ซึ่งปกติใน phase นี้ วอลุ่มต้อง dry ไป
ตอนนี้ใน phase นี้ เราคงต้องรอดูกราฟทำการ dry out ไปก่อน
ก่อนจะไปต่อ ดังนั้นสำหรับผม ผมยังไม่เห็นสัญญาณขาย ดังนั้นก็ไม่ควรขาย หรือเปิด S ใส่แบบไม่จำเป็น
ถ้าไม่ได้เฝ้ากราฟ หรือตั้ง STOP LOSS
ควรหาจังหวะซื้อมากกว่า....
มันไปใช่เรื่องที่แปลกเลยที่จะบอกอีกครั้งว่า แนวโน้มขาขึ้น ความหมายคือ
ราคาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็เป็นปกติที่เราในฐานะผู้อยู่ในแนวโน้ม ก็ย่อมต้องซื้อราคาที่สูงขึ้น
ดังนั้นการมองในลักษณะที่ว่า "ราคาสูงแล้ว แล้วไม่ซื้อ" ไม่ผิด
แต่จะผิดอย่างมาก ถ้ามองว่า "ราคาสูงแล้ว แล้วไปเปิดอะไรสวนเทรนแบบไม่ได้มีสัญญาณขาการเปลี่ยนแปลง
เช่น อยู่ดีๆไปเปิด short สวน ยกเว้นจะมีสัญญาณอะไรที่ท่านๆรู้ว่า
ลงเพราะอันนี้แน่ๆ อันนี้ถ้ารู้ก็๋แบ่งปันกันได้ครับ
และอีกจุดที่จะบอกคือ การเปลี่ยนแนวโน้มนั้น เป็นเรื่องที่ยากกว่า การคงอยู่ของแนวโน้ม
แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงพยายามอยากจะเปลี่ยนแนวโน้มกันมากมายเหลือเกิน
อีกจุดหนึ่งที่น่าจะมีคนสงสัย
macd 4 hour rsi sto ในรายชม. เป็น divergence หมดแล้วนะ
สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือ งั้นผมก็บอกได้ว่า macd daily weekly ไม่ได้เป็นแบบนั้น
เครื่องมือถูกออกแบบมา ส่วนใหญ่ที่เราใช้ ในเชิง reversal
ซึ่งจริงๆ เราน่าจะใช้มันในเชิง continuation ของแนวโน้มมากกว่า
ดังนั้นสรุป divergence จริง แต่มี timeframe ที่ใหญ่กว่าคุมอยู่ หรือเปล่า?
และระมัดระวังการใช้เครื่องมือในเชิง reversal ตลอดเวลา
สุดท้ายเรื่องของแนวรับแนวต้าน
อยากให้มองว่า มันทำหน้าที่ในลักษณะที่ให้คนมีสถานะมาขาย
แต่ไม่ใช่ทำหน้าที่แบบว่า ยังไม่ได้มี สัญญาณว่าไม่ไปต่อใดๆ แล้วมาแทงลง short sell
ดังนั้นบิทคอยในราคา 60000 เป็นแนวต้านถูกต้อง
หลายๆท่านอาจถูกก็ได้นะที่มาแทงลงที่แนวต้าน
แต่สำหรับผม ผมคงไม่ได้ทำอะไรจนกว่ามันจะ prove ว่ามันไม่ขึ้นแล้ว
และส่วนใหญ่ในหัวผมตอนนี้ก็คิดอยู่ว่า มันจะย่อมากน้อยแค่ไหน เพื่อรอซื้อในทิศทางฝั่งขึ้น
ทั้งหมดสมมตินะ พรุ่งนี้ บิทคอยลงเลย ไป 55000
ผมก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เพราะมันก็จะโดน stop loss ของเรา 1 ครั้งเท่านั้นเอง
ซึ่งถ้ามันเป็นแบบนั้น เราก็แค่เปลี่ยนตามที่กราฟมันเป็น
ซึ่งมันก็ถููกต้องเลยนะครับ ที่เราจะมองกราฟแบบที่มันเป็น
ไม่ใช่แบบที่เราอยากให้มันเป็น
ด้วยรัก
USDJPY 24 OCT 2018เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คู่นี้มีการทำรูปแบบ inside bar และเบรกขึ้นด้านบนได้ โดยราคามีการเคลื่อนไหวสูงกว่าแนวรับสำคัญที่ 110.90 กับแนวรับย่อยที่ 112.00
เราคิดว่าหากราคาเคลื่อนไหวไม่หลุดแนวรับสำคัญลงไป มีโอกาสที่จะเป็นแนวโน้มขาขึ้น น่าจะ long เมื่อราคาย่อลงมา หรืออาจดูสัญญาณซื้อ จากกราฟรายวัน หรือราย 4 ชั่วโมงประกอบ มีโอกาสที่ราคาจะวิ่งไปถึงแนวต้านที่ระดับ 113.20
S&P500 23 OCT 2018เรามีมุมมองเป็นกลางต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งราคามีการปรับฐาน และเกิด inside bar ขึ้นอีก จากนั้นราคาวิ่งทะลุขอบล่างลงมาได้ แต่ยังไม่ถึงแนวรับที่ระดับ 2742 โดยมีแนวต้านอยู่ที่ระดับ 2795
เราคาดว่า ราคามีโอกาสที่จะผ่านแนวรับ 2742 ไปได้ อาจไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 2692 ซึ่งน่าจะเกิดแรงซื้อที่บริเวณนั้น ควรหาจังหวะ long หรืออีกกรณีหากราคาเชิดขึ้นผ่านแนวต้าน 2795 ไปได้ อาจไปทดสอบที่แนวต้านสำคัญที่ 2862 ซึ่งน่าจะเกิดแรงขายที่บริเวณนั้น ควรหาจังหวะ short หรือดูสัญญาณจากกราฟรายวัน หรือราย 4 ชั่วโมงประกอบ
CRUDE OIL 17 OCT 2018ราคาน้ำมันลงมาแรงเมื่อสัปดาห์ก่อน และเกิด inside bar ขึ้น 2 ชุด โดยสามารถเบรกกรอบด้านบนขึ้นไป แต่ยังไม่สามารถยืนราคาไว้ได้ ทำให้ควรจับตาต่อไปอีก โดยมีแนวรับที่ 71.00 และแนวต้านที่ 72.75
เราคิดว่าควรรอดูว่าราคาจะเลือกข้างฝั่งใดแน่ แล้วค่อยซื้อตาม โดยอาจดูสัญญาณซื้อจากกราฟรายวันหรือราย 4 ชั่วโมงประกอบ
GBPUSD 24 SEP 2018เกิดมี inside bar ขึ้นที่กราฟรายวัน และเบรกขึ้นทำให้มีแรงเข้าซื้อต่อ และราคาเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับแนวรับ 1.3045 โดยมีเป้าอยู่ที่แนวต้าน 1.3200 และ 1.3300
เราคิดว่าควรหาจังหวะซื้อ เมื่อราคาย่อลงใกล้ๆบริเวณแนวรับ 1.3045 หากแนวรับนี้รับไม่อยู่ก็ให้รอซื้อใหม่ที่บริเวณแนวรับถัดไปที่ 1.2950
แนวรับ อยู่ที่ 1.3045, 1.2950
แนวต้าน อยู่ที่ 1.3200, 1.3300
EURUSD 17 JUL 2019คู่นี้ในภาพใหญ่ราคายังเป็นแนวโน้มขาลงอยู่ เนื่องจากเคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่าแนวต้านสำคัญที่ช่วง 1.1420 - 1.1450 โดยหลังจากเกิด multiple bearish inside bars ทำราคาร่วงลงมาแล้ว สัปดาห์ที่ผ่านมาก็เกิด bearish inside bar และ bearish pin bar ที่บริเวณแนวต้านช่วง 1.2700 - 1.2850 ทำให้มีการเทขายอย่างหนักอีก ทำให้ในระยะสั้นก็มีโอกาสเป็นแนวโน้มขาลงต่อ ตอนนี้แนวต้านแรกอยู่ที่ระดับ 1.1230 ส่วนแนวรับแรกอยู่ที่ช่วง 1.1175 - 1.1190
นักลงทุนสามารถพิจารณาหาจังหวะขายที่บริเวณแนวต้าน หรือเมื่อราคาเด้งขึ้น โดยดูสัญญาณขายจากกราฟรายวันหรือราย 4 ชั่วโมงประกอบ เป้ามีโอกาสลงไปทดสอบที่แนวรับ หรืออาจลึกถึงแนวรับสำคัญที่ระดับ 1.1110
EURUSD 10 APR 2019คู่นี้แนวโน้มทางเทคนิคในภาพใหญ่ยังเป็นทิศทางขาลงอยู่ แต่จาก bullish pin bar ที่เกิดขึ้น หางยาวลงไปใกล้บริเวณแนวรับสำคัญ ตามมาด้วย bullish inside bar ที่ break inside bar ถึง 2 แท่ง ทำให้ฝั่งผู้ซื้อเข้ามาดันราคาสูงขึ้นต่อ ซึ่งหากราคาอยู่เหนือแนวรับที่ 1.1215 ได้ จะเป็นโอกาสของแนวโน้มขาขึ้นต่อในระยะสั้น ซึ่งมีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบถึงแนวต้านที่ระดับ 1.1340 แนวต้านแรกอยู่ที่ระดับ 1.1270 ส่่วนแนวรับแรกอยู่ที่ระดับ 1.1215
นักลงทุนสามารถพิจารณาหาจังหวะซื้อ ที่บริเวณแนวรับ หรือเมื่อราคาย่อลงมา โดยดูสัญญาณซื้อจากกราฟรายวันหรือราย 4 ชั่วโมงประกอบ
รีวิวภาพ set ทางเทคนิค30/10/2023SET:SET รีวิวภาพ set ทางเทคนิค30/10/2023
ตลาดเมื่อวันศุกร์ รีบาวกลับจากแรงซื้อของต่างชาติและตลาดที่อยู่ในโซน oversold หรือถูกขายมากเกินไป ทางเทคนิดเรามอง การรีบาวด์ยังเป็น inside bar ของแท่งวันพฤหัส โดยให้เงื่อนไขว่าตลาดจะเล่นกลับได้และเเป็นการรีบาวด์ลูกใหญ่คือต้องเล่นออกจาก inside bar ไปยืนเหนือ 1400 จุดตามเส้นลูกศรสีแดงครับ
NZDUSD 26 FEB 2020คู่นี้ในระยะสั้นราคามีแนวโน้มขาลงอยู่ สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิด bearish multiple inside bars และสัปดาห์นี้เกิด false break ของ inside bar ทำให้ฝั่งผู้ขายกดราคาลง มีโอกาสเป็นแนวโน้มขาลงต่อไปอีก ตอนนี้แนวต้านแรกอยู่ที่ช่วง 0.6320 - 0.6335 ส่วนแนวรับแรกอยู่ที่ช่วง 0.6240 - 0.6260
นักลงทุนสามารถหาจังหวะขาย ที่บริเวณแนวต้าน หรือเมื่อราคาเด้งขึ้น โดยดูสัญญาณขายจากกราฟรายวันหรือราย 4 ชั่วโมงประกอบ เป้ามีโอกาสลงไปทดสอบแนวรับที่ระดับ 0.6200
WTI Clude Oil 30 JUL 2019ราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบใหญ่ช่วง 50.00 - 66.50 โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาเบรก multiple inside bars ขึ้นไปได้ แต่แล้วก็ถูกกดลงต่อ มาสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันทำท่าว่าจะเบรก multiple inside bar อีกชุด แต่ยังไม่ผ่าน นักลงทุนควรรอจังหวะที่ราคาน้ำมันเลือกข้างก่อนว่าจะไปทางใด ซึ่งหากผ่านระดับ 57.90 ขึ้นไปได้ ก็มีโอกาสไปทดสอบช่วงแนวต้านสำคัญ 60.00 - 60.85 และมีโอกาสที่ฝั่งผู้ขายจะเข้ามากดราคาลงที่บริเวณนี้ได้ หรือหากราคาลงทะลุแนวรับที่ 54.65 ไปได้ ก็มีโอกาสลงต่อไปอีก ตอนนี้แนวรับแรกอยู่ที่ระดับ 55.85 ส่วนแนวต้านแรกอยู่ที่ช่วง 57.20 - 57.90
นักลงทุนสามารถพิจารณาหาจังหวะขาย ที่บริเวณแนวต้าน หรือเมื่อราคาทะลุแนวรับที่ 54.65 ลงไปได้ โดยดูสัญญาณขายจากกราฟรายวันหรือราย 4 ชั่วโมงประกอบ
GOLD 28 MAR 2019ราคาทองคำในเทรนด์ใหญ่ยังคงเป็นแนวโน้มขาขึ้นอยู่ ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิด bullish inside bar ดันราคาขึ้นไปแตะที่แนวต้าน 1325 จากนั้นเมื่อต้นสัปดาห์ก็เกิดเป็น bearish inside bar ทำให้ราคาถูกกดลงมาจนทะลุแนวรับเดิมช่วง 1298 - 1306 ได้ ซึ่งมีโอกาสที่ราคาจะปรับฐานลงมาถึงแนวรับที่ช่วง 1276 - 1282 แล้วเด้งกลับขึ้นไปต่อ และหากราคาสามารถยืนเหนือแนวต้าน 1306 ได้ ก็จะเป็นโอกาสของแนวโน้มขาขึ้นต่อไป แนวรับแรกอยู่ที่ช่วง 1276 - 1282 ส่วนแนวต้านแรกอยู่ที่ช่วง 1298 - 1306
นักลงทุนสามารถพิจารณาจังหวะซื้อ หากราคาไม่หลุดแนวรับช่วง 1276 - 1282 หรือเมื่อราคาย่อลงมา โดยดูสัญญาณซื้อจากกราฟรายวันหรือราย 4 ชั่วโมงประกอบ เป้าคาดว่ามีโอกาสขึ้นไปทดสอบที่แนวต้านช่วง 1298 - 1306 หรือสูงกว่านั้น
GOLD 25 OCT 2018ราคาทองคำสามารถเบรกขอบบนของกรอบ multiple inside bar ได้ และวันนี้ก็ยังเบรก inside bar ตัวลูกขึ้นไปได้อีก ทำให้มีโอกาสมากที่จะเกิดแรงซื้อตามมาดันราคาให้สูงขึ้นไปอีก โดยมีแนวรับอยู่ที่ช่วง 1214 - 1207 และแนวต้านอยู่ที่ช่วง 1235 - 1240
เราคิดว่าควรหาจังหวะซื้อเมื่อราคาย่อลงมา หรือเมื่อราคาสามารถยืนเหนือระดับแนวต้านนี้ได้ โดยดูสัญญาณซื้อจากกราฟรายวันหรือราย 4 ชั่วโมงประกอบ
ตัวเลข CPI - จะขับเคลื่อนให้ทะลุ 2400 จะได้มั๊ยหนอ?🌐 ทองคำยังตอบสนองในเชิงบวกต่อเนื่อง ฟื้นตัว $7.40!! วานนี้ทำ High 2,386 จากตลาดผ่อนคลายเรื่องดอกเบี้ย หลังจาก “พาวเวล” ปธ.เฟด ได้แถลงต่อสภาคองเกรส เป็นวันที่ 2 โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ “เฟดจะไม่รอจนกว่าเงินเฟ้อปรับตัวสู่เป้าหมาย 2% ถึงจะเริ่มลดดอกเบี้ยเนื่องจากเฟดเริ่ม เห็นตลาดแรงงานกำลังชะลอตัวลง”
🙏ขอขอบคุณข้อมูลจาก บ. YLG
⭐️อย่างไรก็ตามคืนนี้ยังต้องระวังความเสี่ยงจากการประกาศตัวเลข CPI YoY และ Core CPI YoY โดย Blommberg คาดการณ์ว่า ตัวเลข CPI จะลดลงมาอยู่ที่ 3.1% จากเดิม 3.3% และ Core CPI YoY จะคงที่ที่ระดับ 3.4% ซึ่งหากเป็นไปตามคาด หรือ ตัวเลขออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์ ราคาทองคำควรจะปรับตัวขึ้นต่อ แต่ต้อง Break ทะลุ 2393 ขึ้นไปให้ได้เพื่อให้พ้นอณาเขตของ Mather Bar และ Error Test แต่หากตัวเลขพลิกล๊อก ประกาศจริงสูงกว่าคาดก็อาจทำให้ทิ้งตัวลงได้
🧿การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
วานนี้ทองคำขึ้นตาม Bullish Dimond Pattern จาก 2362 ไป 2386 ราว ๆ 24 เหรียญ ถือเป็นการทำภารกิจของ Bullish ได้สำเร็จ แต่ดันมีมีการสร้าง Pattern ซ้อนขึ้นมาใหม่ภายใต้การสร้างกรอบ Mather bar Inside bar ใน TF Day ทำให้มีความเสี่ยงที่กราฟจะสะบัดขึ้นแล้วหลอก หรือ ลงแล้วหลอกได้เช่นกัน
🙏ขอขอบคุณข้อมูลจาก บ. Shininggold
ขณะนี้ตลาดทองคำมีแนวต้านเล็กน้อยที่ระดับ 2385 หากราคาเกินกว่านี้ ระดับแนวต้านสำคัญถัดไปคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 2405 / 2420
ในทางกลับกัน หากระดับ 2385 ยังคงไม่ขาดตอน ราคาอาจกลับลงไปที่ 2360 และอาจลงไปที่ 2330 ต่อไป
แนวโน้มนี้แนะนำให้ติดตามระดับ 2385 อย่างระมัดระวัง เนื่องจากจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางระยะสั้นของราคาทองคำ
-----------------------------------------
⭐️ แนวคิดประจำวัน(11 ก.ค 2567)
หลังจากราคาอ่อนตัวลงมีแรงซื้อดันราคาเพิ่มขึ้น หากราคาสามารถเคลื่อนไหวทรงตัวในกรอบ Sideway up รอเปิดสถานะซื้อ หากราคาปรับตัวลงทดสอบเหนือแนวรับโซน 2360-2330 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจพิจารณาปิดสถานะซื้อทำกำไร หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านโซน 2395 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านได้ถือต่อ แต่หากยืนไม่ได้อาจมีแรงขายทำกำไรสลับเข้ามา พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 2,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(11 ก.ค) แนวคิดเพิ่มเติมอื่นๆโปรดติดตามในกลุ่ม
Buy 2345-2343-2341
Sl 2320
TP1 2355
TP2 2365
TP3 2375
TP4 2385
TP5 2395
(11 ก.ค) แนวคิดเพิ่มเติมอื่นๆโปรดติดตามในกลุ่ม
sell zone 2415 -2420 -2425
Sl ✨2450✨
TP1 2395
TP2 3375
TP3 2355
TP4 2335
TP5 2315
⚠️หมายเหตุ
- บทวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
- ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการคาดการณ์
- ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
- โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
**ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง ควรติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิด
--------------------------------------