Fibonacci
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 5 กรกฏาคม 2564ตัวเลขการจ้างงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาพุ่งขึ้นดีกว่าที่คาด แต่กลับหนุนราคาทองคำปรับขึ้น 6.5 ดอลลาร์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดตลาดปรับเพิ่มขึ้น 6.5 ดอลลาร์ หรือ +0.37% ปิดตลาดที่ระดับ 1,783.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์เมื่อรายงานตัวเลขสำคัญของวันศุกร์ที่ผ่านมาได้ออกรายงานตัวเลขการจ้างงานที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าที่คาดการณ์ที่ระดับ 850,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 706,000 ตำแหน่ง การรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรหรือ NFP กลับไม่ได้ทำให้ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นอย่างที่รายงานดังกล่าวออกมา นั่นเป็นเพราะรายงานตัวเลขอัตราว่างงานยังพุ่งขึ้น เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และมากกว่าในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมารายงานตัวเลขดังกล่าวออกมาที่ระดับ 5.9% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.6% ในเดือนมิ.ย. ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าตัวเลขของการจ้างงานาที่ยังแข็งแกร่งพอกับสภาวะที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน อาจทำให้เฟดไม่ดำเนินการใดๆ เพิ่มเติมจากนี้ เพราะยังเห็ นว่าตัวเลขการจ้างงานยังไม่บรรลุระดับเป้าหมายที่วางไว้ จึงอาจเป็นเหตุผลให้เฟดยังจะเดินหน้านโยบายเดิมที่ทำไว้ต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายที่เฟดได้วางไว้ แม้ตัวเลขเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นสูงก็ตาม แต่เฟดก็ยังคงมีความเชื่อมั่นว่าเรื่องดังกล่าวยังคงเป็นเพียงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้นเท่านั้น จึงทำให้ดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอ่อนค่าลงทันที จึงหนุนให้ราคาทองคำกลับฟื้นขึ้นใกล้ระดับ 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง
ทั้งนี้การแพร่ระบาดรอบใหม่ของเชื่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ที่กำลังแพร่ระบาดในหลายพื้นที่รอบโลกเราวันนี้ทำให้นักลงทุนยังคงวิตกกังวลต่อสถานะการณ์ดังกล่าว ซึ่งอาจนำมาสู่การกำหนดมาตรการ Lock down ในเขตพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญๆ ของโลกอีกครั้ง ทำให้นักลงทุนต่างเข้าซื้อทองคำเพิ่มเติมในฐานะที่ทองคำเองเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ความไม่แน่นอนอีกครั้ง ทั้งนี้การแพร่ระบาดรอบนี้ทำให้หลายภูมิภาคอย่างเอเซียและยุโรป อาจจะต้องชะลอการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง หากการแพร่ระบาดยังคงไม่สามารถควบคุมได้ขณะนี้ สำหรับในวันนี้ไม่มีรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ วันนี้ปริมาณการซื้อขายอาจเบาบางเนื่องจากตลาดการเงินและตลาดการลงทุนสหรัฐฯ ปิดทำการหนึ่งวันเนื่องจากเป็นวันชาติสหรัฐ ( Independence Day)
ประเมินทางเทคนิควันนี้
ปริมาณการซื้อขายทองคำในตลาดการลงทุนวันนี้อาจเบาบางลงไปเนื่องจากเป็นวันหยุดของสหรัฐในวันชาติ อาจทำให้ราคาทองคำมีการปรับขึ้นได้ในระดับจำกัด หรืออาจแกว่งตัวในกรอบอีกครั้ง โดยประเมินว่าราคาทองคำยังมีทิศทางแนวโน้มปรับขึ้นทดสอบแนวต้านระดับ 1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซี่งหากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นไปยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้นั้น อาจเกิดการอ่อนตัวจากการเทขายทำกำไรระยะสั้นออกมาอีกครั้ง ประเมินแนวรับที่บริเวณ 1,776-1,770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในกราฟรายชั่วโมง RSI ได้ทำ Divergence หากราคาไม่สามารถผ่านเทรนด์ไลน์ตามภาพประกอบอาจมีการอ่อนตัวลงเพื่อปรับฐานการกลับขึ้นมาอีกรอบ โดยประเมินตามแนวรับที่กล่าวมาข้างต้น
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,776-1,770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หาทราคาทองคำย่อตัวและไม่สามารถปรับตัวต่ำกว่าแนวรับบริเวณดังกล่าว ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” โดยเน้นการเข้าทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,796-1,791 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,770 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : หากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,796-1,791 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่หลุดต่ำกว่าระดับแนวรับบริเวณ 1,776-1,770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นเหนือ 1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : Up trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
---- -------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,783 / 1,776 / 1,767
---------------------------------------------------
Resistance : 1,791 / 1,796 / 1,802
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR เดือนกรกฎาคม 64
- ถารถือครองทองคำ : ปรับลดการถือครองลง -0.58 ตัน
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,787.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,042.58 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 2 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : -3.20 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
XAUUSD ทองรายสัปดาห์ที่27 รอสัญญาณแท่งเทียนกลับตัวบันทึกการเทรดน้า
เมื่อสัปดาห์ก่อน #Gold #ทอง แท่งpinbar สวยงาม มีแรงสู้
หายไปนาน คิดถึงน้ากันบ้างไหม ไปแอบซุ่มเขียนหนังสือ เงียบ แต่ตลาดยังไม่ไปไหน
XAUUSD ทองรายสัปดาห์ที่27
แนวทางเทรด ในสัปดาห์นี้น้ามองว่า หาจุดกลับตัวbuy ได้ทุนดีถือยาวได้นะ
แผนสัปดาห์นี้ รอสัญญาณแท่งเทียนกลับตัว
เบรกเส้นกดเทรนไลน์มาได้แล้วนะ ลุ้นว่าจะของจริงไหม โลกนี้โหดร้าย สำหรับมือใหม่ ลากขึ้นตบลง
เบรกหลอก เบรกจริงใครจะไปรู้ ในลงการเงิน สิ่งเดียวที่เรามีคือ นิ้วโป่งในการกดคัท กดtakeprofit
ข้อคิดที่น้าฝากไว้ อยากปล่อยกำไรมาขาดทุน เราเข้าตลาดมาเพื่อหวังเงิน ตราบใด เรามีกระสุนพร้อมรบ
เรามีโอกาสเข้าสู้ตลอดเวลา ตลาดนี้นับคนเก่งที่มีกำไร เพื่อพอร์ตคงอยู่ในสงคราม
ทองกรอบการเล่น เปลี่ยนใหม่ 1797-1730
แผนA. ราคาปิดยืน1798 สามารถวางแผนเก็งกำไร #buy ตามได้ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 1813,1820,1840
แผนB. ราคาขึ้นแต่ไม่สามารถยืนได้ 1790 สามารถดัก #Sell มีโอกาสลงไปทดสอบเป้า 1785 ,1782 และ1775 แผนนี้ต้องอดทน เพราะมันสวิงขยี้บีบหัวใจ
แผนC. ราคาลงหลุด 1ึ772 #Short ได้ มีโอกาสลงไปทดสอบเป้า 1767,1763
แผนD. ราคาลงแต่ไม่หลุด 1780 หรือหลุดแต่มีแรงซื้อยกกลับ สามารถวางแผน #buy กลับไปได้ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบเป้า 1785,1790และ 1798 แต่หลุดแล้วต้องstoploss ด้วย
น้าเชื่อว่า เบรกรอบนี้พี่ทองก้อน ไม่น่าจะทำให้เสียของ แต่อาจจะขยี้ จิตใจนักเทรดกันบ้าง เพราะดลกใหม่ในการลงทุนเวลานี้มีให้เลือก มากกว่าเดิม ไม่ขึ้นง่ายให้นักเทรดได้ฝันหวานเมื่อแต่ก่อน
จุดประสงค์เพื่อเสนอแนวการวางแผนเทรดเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำหรือฟันธงตลาด
ไม่ว่าตลาดจะเลือกทางไหน
ขอให้ทำตามแผนที่วางไว้ และมีวินัย สามารถได้กำไรทุกคนครับ.
ไม่ดื้อ ไม่โลภ ไม่กลัว
เสี่ยงเท่าที่คุณจะสูญเสียมันได้
นิ่งให้พอ รอให้เป็น เย็นให้ได้
เล็กน้อยxสม่ำเสมอ = มหาศาล
BNBUSDT รายสัปดาห์ที่27 เผาเหรียญ ครั้งที่ 16บันทึกการเทรดน้า
เมื่อวันวาน #BNB #Binance
BNBUSDT รายสัปดาห์ที่27
แนวทางเทรด Binance coin/TetherUS
แนวทางเทรด BTCUSDT Futures Bitcoin/TetherUS Perpetual
แนวทางเล่นในสัปดาห์นี้
กรอบการเล่น 330-275
เหรียญbinance ในเดือนนี้น่าจะเป็นความหวังให้นักเทรดได้ดี เพราะจะมีเทศกาล ตามเอกสาร Whitepaper ของ Binance นั้นระบุไว้ว่า “ในทุก ๆ ไตรมาส พวกเราจะใช้กำไรของบริษัท 20 เปอร์เซ็น ในการซื้อโทเคน BNB คืน และเผาทำลายมันทิ้ง ซึ่งกระบวนนี้จะเกิดขึ้นไปเรื่อย ๆ จนกว่าพวกเขาจะทำการซื้อคืนเหรียญได้กว่า 50 เปอร์เซ็นของจำนวน Supply เหรียญ BNB ที่มีอยู่ทั้งหมด หรือคิดเป็นประมาณ 100 ล้านล้านเหรียญ BNB ทุก ๆ การซื้อคืนธุรกรรมจะปรากฏบน Blockchain พวกเราจะทำลาย BNB ไปเรื่อย ๆ จนกว่า BNB จะเหลือเพียง 100 ล้านล้าน BNB”
น้าจะเตือนไว้ก่อนนะ ว่าคุณจะสะสมBNB ไว้เพื่ออะไร
1.สะสมเพื่อเก็งกำไร ไว้รอเผา
2.สะสมเพราะโอกาส พื้นฐานดี
3.สะสมเพราะขายออกไม่ทัน
ตอบตัวเองให้ได้ก่อนเทรด
แผนA ราคาปิดยืน 316.5 สามารถวางแผนเก็งกำไร #buy ตามได้ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 330และ 340
แผนB. ราคาขึ้นแต่ไม่สามารถยืนได้ 309 สามารถดัก #Sell มีโอกาสลงไปทดสอบเป้า 300 ,295 และ292
แผนC. ราคาลงหลุด 276 สามารถวางแผนเปิด #Sell ได้ มีโอกาสลงไปทดสอบเป้า 265 ,260
แผนD .ราคาย่อลงลึกมาแต่ยืนไม่หลุด 293 สามารถวางแผนเปิด #buy กลับไปได้ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบเป้า296,305 แผนนี้ติดstoplossไว้ด้วยนะ
วางแผน5ชั่วโมง ดูกราฟหน้างาน5นาที ตัดสินใจ5วิ
จุดประสงค์เพื่อเสนอแนวการวางแผนเทรดเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำหรือฟันธงตลาด
ไม่ว่าตลาดจะเลือกทางไหน ขอให้ทำตามแผนที่วางไว้ และมีวินัย สามารถได้กำไรทุกคนครับ.
ไม่ดื้อ ไม่โลภ ไม่กลัว
เสี่ยงเท่าที่คุณจะสูญเสียมันได้
นิ่งให้พอ รอให้เป็น เย็นให้ได้
เล็กน้อยxสม่ำเสมอ = มหาศาล
แนวโน้มทองประจำ Week 2 July 64แนวโน้มทองประจำ Week 2 July 64
โอการกำไร 2000จุด เสี่ยงขาดทุน 700จุด
BUY LIMIT 1782.00 (ยังไม่ได้เผื่อ Spread)
TP 1802 (ยังไม่ได้เผื่อ Spread)
SL 1775 (ยังไม่ได้เผื่อ Spread)
MACD เหมาะแก่การ BUY
Stoch ยังไม่เหมาะแก่การ BUY
แต่ถ้าลงมารับ 1782 คาดจะเห็น Stoch คาดน่าจะสวย
คาดการณ์ตาม elliott wave คาดจะขึ้นเวฟ C ไปที่ 1802 ภายในสัปดาห์ที่ 2
* โอกาสตกรถสูง แต่โอกาสกำไรสูงเช่นกัน *
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 2 กรกฏาคม 2564การแพร่ระบายของไวรัสสายพันธุ์เดลต้ากำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก หนุนทองคำปรับบวก 5.2 ดอลลาร์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เมื่อวานนี้ปิดตลาดปรับเพิ่มขึ้น 5.2 ดอลลาร์ หรือ +0.29% ปิดตลาดที่ระดับ 1,776.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ทองคำปรับตัวขึ้นจากความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ซึ่งเป็นเชื้อที่มีการติดที่รุนแรงและรวดเร็วกว่าชนิดอื่นๆ ทำให้นักลงทุนต่างเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำเพิ่มขึ้น จึงเป็นแรงหนุนให้ราคาทองคำวานนี้ปรับตัวขึ้นจากแนวรับด้านล่างได้อีกครั้ง
ทั้งนี้การปรับขึ้นของทองคำก็ยังเป็นไปได้อย่างจำกัด เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ก็ยังเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำเอาไว้เช่นกัน จากความกังวลเกี่ยวกับการตัดสินใจของเฟดเอง และการเข้าซื้อเก็บดอลลาร์จากวิกฤตการแพร่ระบายไวรัส ซึ่งดอลลาร์ถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นกัน ทำให้ดอลลาร์วานนี้ปิดบวก +0.175 (+0.19%) ปิดที่ระดับ 92.532 แต่ทองคำก็ยังได้รับแรงหนุนมาจากการอ่อนค่าของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่ปรับตัวอ่อนลงสู่ระดับ 1.4590 หรือ =0.0120 (=0.82%) หลังกรรมการเฟดบางส่วนออกมาขานรับถึงการปรับลดการเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ทั้งนี้ก็ต้องติดตามรายงานเศรษฐกิจสำคัญในค่ำคืนนี้เพื่อติดตามการตัดสินใจของเฟดต่อข้อมูลดังกล่าวในการนำไปซึ่งพิจารณาการปรับอัตราดอกเบี้ยและการปรับลดวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ลงในอนาคตอันใกล้นี้ จึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนยังเฝ้าติดตามและระมัดระวังในการเข้าซื้อขายทองคำในระยะนี้
ทั้งนี้แม้ความผันผวนของราคาทองคำจะมีอยู่ แต่เมื่อราคาทองคำปรับสู่แนวรับสำคัญต่างๆ ก็มักจะมีแรงเข้าซื้อเพื่อเข้าเก็งกำไรระยะสั้นอยู่เสมอ นักลงทุนจึงสามารถมองหาโอกาสในการเข้าทำกำไรในช่วงสั้นๆ ได้เช่นกัน และให้ระมัดระวังแนวต้านสำคัญๆ ต่างๆ ที่มักจะมีการเทขายทำกำไรกันออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้การพิจารณาเข้าถือครองคำสั่งซื้อฝั่ง Long นั้น ควรระมัดระวังเอาไว้ก่อน เนื่องจากทองคำเองยังไม่สามารถขยับราคาขึ้นเหนือแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในเวลา จึงควรรอโอกาสดังกล่าว เพราะหากทิศทางตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมานั้นส่งผลด้านลบต่อราคาทองคำ ก็จะทำให้ทองคำปรับร่วงลงได้อีกรอบหนึ่ง แนะนำให้นักลงทุนปรับลดการถือครองฝั่ง Long ในระยะกลางและยาวออกไปก่อน ควรเน้นการทำกำไรระยะสั้นในวันเท่านั้น
วันนี้นักลงทุนเฝ้าติดตามรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรหรือ NFP ในเวลา 19:30 น.ตามเวลาประเทศไทย นักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้ว่าจะมีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น 706,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.6% ในเดือนมิ.ย. รายงานตัวเลขดังกล่าวจะเป็นผลสะท้อนต่อราคาทองคำโดยตรงหากตัวเลขออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้นั้นก็จะส่งผลเชิงบวกต่อดัชนีดอลลาร์สหรัฐ แต่หากต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์เอาไว้ก็จะส่งผลเชิงบวกต่อทองคำเช่นกัน จึงควรเฝ้าติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่ยังไม่เข้าใจในปัจจัยพื้นฐานดังกล่าว โดยอาศัยเพียงทางด้านเทคนิคคอลในการเทรดทำกำไรนั้น แนะนำให้หลีกเลี่ยงการเข้าทำการซื้อขายในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยต่อพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนเอง
ประเมินทางเทคนิควันนี้
เช้านี้ทองคำยังปรับตัวขึ้นทดสอบระดับแนวต้าน 1,780-1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถขี้นทดสอบและทรงตัวได้ที่บริเวณแนวต้านดังกล่าวอาจมีโอกาสที่จะมี่แรงซื้อเข้ามาหนุนทำให้ราคาทองคำหลุดแนวต้าน 1,780-1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้เช่นกัน แต่หากแรงซื้อยังมีจำกัด ก็จะส่งผลให้เกิดการเทขายทองคำเพื่อทำกำไรระยะสั้นได้จากบริเวณดังกล่าว ประเมินแนวรับไว้ที่ระดับ 1,770-1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้รอการทดสอบที่แนวต้านดังกล่าวก่อน หากไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้นั้น ก็อาจหาโอกาสเข้าทำการขายทองคำจากบริเวณด้งกล่าวได้เช่นกัน สำหรับใครที่ยังไม่มี Position ในพอร์ตก็อาจรอให้ทองคำปรับย่อตัวลงมาแนวรับบริเวณ 1,768-1,770 ดอลลาร์ต่อออนซ์เสียก่อน แล้วค่อยมองหาโอกาสในกาเข้าทำการซื้อทองคำจากแนวบริเวณดังกล่าวได้
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,768-1,770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถทรงตัวได้เหนือบริเวณดังกล่าวอาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยให้เน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวต้านบริเวณ 1,780-1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : รอขายทองคำบริเวณแนวต้าน 1,780-1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ให้เปิดคำสั่ง “ขาย” เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวรับ 1,768-1,770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,783 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H :Hold
-----------------------------------------
4H :Down trend
-----------------------------------------
DAY :Down trend
---- -------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,770 / 1,767 / 1,763
---------------------------------------------------
Resistance : 1,782 / 1,791 / 1,795
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR เดือนกรกฎาคม 64
- ถารถือครองทองคำ : ปรับลดการถือครองลง -2.62 ตัน
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,776.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,043.16 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 1 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : -2.62 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 30 มิถุนายน 2564ทองคำดิ่งหนักกว่า 20 ดอลลาร์ ทำราคาใกล้หลุด 1,750 หลังดอลลาร์และบอนด์แข็งค่ากดดันทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เมื่อวานนี้ปิดตลาดปรับลดลงหนักกว่า 26.90 ดอลลาร์ หรือ 1.50% ปิดที่ระดับ 1,753.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำปรับตัวร่วงลงจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ในส่วนของดอลลาร์เองก็มีการเข้าซื้อเก็บจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้า ที่เริ่มระบาดในเมืองที่มีการฉีดวัคซีนน้อย ทำให้นักลงทุนเริ่มเป็นกังวลในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง จึงเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกประเภทหนึ่ง เลยเป็นแรงกดดันเพิ่มเติมให้ทองคำปรับร่วงลงมา
ทั้งนี้มีนักวิเคราะห์ยังมองว่านักลงทุนยังไม่กล้าเสี่ยงเปิด Position long ใหม่เข้าตลาดแม้ราคาทองคำจะอยู่ในระดับราคาที่น่าเข้าซื้อก็ตาม เนื่องจากทองคำเองยังไม่สามารถผ่านแนวต้านระดับจิตวิทยาที่ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ในส่วนของแรงกดดันที่มาจากธนาคารกลางสหรัฐหรือว่าเฟดเองก็ยังคงต้องรอความชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ที่อาจเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เมื่อวานเวลา 21:00 น. มีรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB ออกมาดีเกินคาดที่ระดับ 127.3 จากคาดการณ์ที่ระดับ 119.0 ตัวเลขออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้และสูงกว่าตัวเลขเมื่อเดือน พ.ค.ที่ระดับ 120.0 จึงทำให้ดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย เรียกว่ารุมเร้าราคาทองคำจนปรับหลุดแนวรับ 1,767-1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่เป็นแนวรับมากว่าร่วมสองสัปดาห์ ทำให้ราคาทองคำลุ้นหลุด 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้หรือไม่ก็ต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ และก่อนหน้านี้ตัวเลขนอกภาคการเกษตรได้เพิ่มขึ้น 559,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 671,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.8% ในเดือนพ.ค. ตัวเลขออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงสู่ระดับ 5.9% หลังจากแตะที่ระดับ 6.1% ในเดือนเม.ย. ก็เป็นเรื่องที่เราจะต้องติดตามกันต่อไปในวันศุกร์ที่จะถึงนี้
ประเมินทางเทคนิควันนี้
ผมได้ทำการประเมินแนวรับแนวต้านใหม่จาก Fibo เพื่อให้สอดคล้องกับตำแหน่งการเคลื่อนไหวของราคาในปัจจุบัน โดยวันนี้ถ้าหากราคาทองคำยังไม่หลุดระดับ 1,750=1,761 ดอลลาร์ต่อออนซ์นั้น แนวโน้มที่ราคาทองคำอาจกลับขึ้นมาทดสอบแนวต้านระดับ 1,783-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็มีความเป็นไปได้ แต่ถ้าราคาไม่สามารถยืนได้ที่ระดับบริเวณแนวรับดังกล่าว เราอาจเห็นการอ่อนตัวจากการเทขายทำกำไรได้อีกครั้ง ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,734 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้แนะนำให้ลดการถือครองฝั่ง Long Position ลงเพื่อให้สมดุลราคาที่เหมาะสมกับพอร์ตการลงทุน ควรจะรอให้ราคาปรับขยับขึ้นเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จึงค่อยวางแผนการลงทุนฝั่ง Long Position อีกครั้ง และแนะนำว่าควรติดตามดัชนีดอลลาร์และบอนด์ยิลด์อายุ 10 ปี อย่างใกล้ชิดด้วย เพราะยังเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำโดยตรง
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,750-1,761 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถทรงตัวได้เหนือบริเวณดังกล่าวอาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยให้เน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวต้านบริเวณ 1,782-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : รอขายทองคำบริเวณแนวต้าน 1,782-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ให้เปิดคำสั่ง “ขาย” เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวรับ 1,761-1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
-----------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,750 / 1,734 / 1,720
---------------------------------------------------
Resistance : 1,782 / 1,800 / 1,823
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน (25/06/21) SPDR
- ถารถือครองทองคำ : ยังไม่เปลี่ยนแปลงการถือครอง
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,778.40
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,045.78 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 13 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : +2.57 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 29 มิถุนายน 2564 (ภาคบ่าย)ทองคำตลาดนิวยอร์กวานนี้ยังอยู่ช่วงภาวะผันผวนปิดลบ 2.9 ดอลลาร์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เมื่อวานนี้เปิดตลาดที่ระดับราคา 1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำจุดสูงสุดระหว่างวันได้ที่ระดับ 1,786.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และจุดต่ำสุดระหว่างวัน 1,770.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดราคาที่ระดับ 1,780.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับลดลง 2.9 ดอลลาร์ หรือ -0.16%
การเคลื่อนไหวราคาทองคำวานนี้เคลื่อนไหวท่ามกลางปัจจัยบวกและลบที่เข้ามาสร้างความผันผวนให้ตลาดต่อเนื่องทั้งวัน ภาพรวมแล้วทองคำยังได้รับอิทธิพลแรงกดดันจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์เป็นหลัก โดยดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น +0.08% ซึ่งเป็นผลจาการเปิดเผยตัวเลขดัชนีภาคการผลิตรัฐเท็กซัสที่ดีดตัวสูงสู่ระดับ 29.4 จุดในเดือน มิ.ย. จากระดับ 15.7 ในเพือนพ.ค. ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตในรัฐเท็กซัส นอกจากนี้เองดอลลาร์ยังได้รับการปรับแข็งค่าจากคำแถลงการณ์ของนายโธมัส บาร์กิ้ง ประธานเฟดริชมอนด์ ที่ออกมาให้คำแถลงว่า “เศรษฐกิจสหรัฐมีความคืบหน้าอย่างมาก ในการนำไปสู่เป้าหมายด้านเงินเฟ้อ ซึ่งก็เพียงพอที่เฟดจะเริ่มลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE และเขายังมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับตลาดแรงงาน จึงเป็นสาเหตุให้นักลงทุนวิตกว่าหากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่กำลังจะเปิดเผยในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ออกมาแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้นั้น อาจจะเป็นประเด็นสนับสนุนให้เฟดเร่งการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงิน สถานการณ์ที่ว่ามาจึงส่งผลให้นักลงทุนยังคงเทขายทองคำออกมาเป็นระยะ แต่เมื่อราคาทองคำเคลื่อนตัวไปในแนวรับด้านล่างก็ยังพอมีแรงซื้อเข้ามาช้อนซื้อทองคำไว้เช่นกัน และทองคำยังได้รับแรงหนุนบางส่วนจากความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าที่กำลังจะระบาดหนักในหลายประเทศทั่วโลก
ประเมินทางเทคนิควันนี้
ราคาทองคำเช้าวันนี้ยังเคลื่อนตัวปรับลงในแนวรับบริเวณ 1,774 – 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากมีแรงชื้อเข้ามาหนุนในช่วงบ่ายอาจพอมีแนวโน้มให้ราคาทองคำปรับขึ้นทดสอบแนวต้านเดิมที่บริเวณ 1,780-1,785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่คาดว่าอาจเป็นแรงซื้อที่ค่อนข้างจำกัด จึงไม่แนะนำให้ถือสัญญาซื้อขายในระยะยาวสำหรับการเทรดทองคำในเวลานี้ เนื่องจากความผันผวนของราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ จึงแนะนำนักลงทุนให้เฝ้ารอสถานะการณ์ที่ราคาปรับทิศทางก่อนจะดีกว่า หากจะเข้าทำการซื้อขายทองคำเวลานี้ก็ให้เข้าซื้อขายในระยะสั้นๆ เท่านั้น โดยเปิดการซื้อขายตามทิศทางการเคลื่อนไหวของราคา
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคากลับมาทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการเข้าทำกำไรระยะสั้น พิจารณาทำกำไรได้ที่บริเวณแนวต้าน 1,780-1,785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์) แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้นั้น ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านบริเวณถัดไปที่ 1,787-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Short Position : รอขายทองคำบริเวณแนวต้าน 1,780-1,785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ให้เปิดคำสั่ง “ขาย” เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,785 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
-----------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,767 / 1,741 / 1,709
---------------------------------------------------
Resistance : 1,787 / 1,803 / 1,814
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน (25/06/21) SPDR
- ถารถือครองทองคำ : ซื้อเพิ่ม 2.91 ตัน
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,778.40
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,045.78 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 13 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : +2.57 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 28 มิถุนายน 2564ทองคำตลาดนิวยอร์กวานนี้ปิดบวกขึ้น $1.1 หลังดอลลาร์ปรับฐานอ่อนค่าลง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1 ดอลลาร์ (+0.06%) ปิดที่ระดับ 1,777.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปัจจัยแรงหนุนทางคำมาจากการที่มีรายงานตัวเลขดัชนี Core PCE ที่เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้นเพียง 0.5% ถือว่าต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.6% สถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนผ่อนคลายความวิตกเกี่ยวกับธนาคารกลางสหรัฐหรือ เฟดจะถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วกว่าที่คาด จึงทำให้ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดของวัน แต่ที่สุดทองคำกับปรับอ่อนค่าลงมาอีกครั้งหลังปรับขึ้นได้ไม่นาน เมื่อตัวเลข Core PCE เทียบรายปีพุ่ง 3.4% ในเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต้นทศวรรษ 1990 หรือสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปี ทำให้นักลงทุนยังคงไม่แน่ใจต่อการตัดสินใจของเฟดเกี่ยวกับการเร่งถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสกัดเงินเฟ้อหรือไม่ ทำให้แรงซื้อกลับเข้าสู่ดอลลาร์และเทขายทองคำออกมาอีกรอบ
ประเมินทางเทคนิควันนี้
วันนี้ให้เก็งกำไรในกรอบระหว่าง 1,767-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำยังไม่หลุดต่ำกว่าระดับ 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,787-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ทั้งนี้ให้นักลงทุนเฝ้าจับตาบริเวณแนวรับ 1,767-1,774 และแนวต้าน 1,787-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากแนวดังกล่าวเป็นแนวที่ราคามีการทดสอบหลายครั้ง และเป็นจุดเฝ้าระวังเมื่อราคาทองคำเลือกทิศทาง จึงอาจเป็นโอกาสในการทำกำไรได้จาบริเวณดังกล่าว วันนี้ไม่มีข่าวสำคัญฝั่งสหรัฐฯ
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคากลับมาทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการเข้าทำกำไรระยะสั้น พิจารณาทำกำไรได้ที่บริเวณแนวต้าน 1,795-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์) แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้นั้น ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านบริเวณถัดไปที่ 1,825 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Short Position : รอขายทองคำบริเวณแนวต้าน 1,795-1,787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ให้เปิดคำสั่ง “ขาย” เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
-----------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,767 / 1,741 / 1,709
---------------------------------------------------
Resistance : 1,795 / 1,803 / 1,826
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน (25/06/21) SPDR
- ถารถือครองทองคำ : ขายออก -3.78 ตัน
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,775/-5
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,042.87 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 12 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : -0.34 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
BA - ปีกหัก หลังโดนกลับลำเรื่องเปิดประเทศ
วันที่มีข่าวจะเปิดประเทศใน 120 วัน ราคาได้พุ่งขึ้นไปถึง 11 บาท
แต่หลังจากนั้น ก้ร่วงลงมาอยู่ใต้เส้น 50% fib
หากเป็นแบบนี้ มุมมองที่ดีต่อนักลงทุนคือ เราจะมีเวลาสะสมหุ้นมากขึ้น และอาจได้หุ้นถูกลง
หากราคายังอยู่ใต้เส้น 50% fib มีโอกาสที่รูปทรงของราคาจะเป็น pattern Leading diagonal จบเวฟ 1 ของขาขึ้น
จนกว่าจะมีแผนการเปิดประเทศจริงๆ อาจจะมีการย่อตัวของราคาลงมา หรูๆหน่อย อาจจะกลับมา 5.5 ให้สะสมครับ
เป็นตัวที่อยู่ใน watchlist อีกตัว
BANPU - Break แนวต้าน 10 ปี รอทดสอบก่อนไปต่อ
ตอนนี้ราคาได้ทะลุแนวต้านตั้งแต่ยอด all time high ปี 2011 มาแล้ว
แต่ติดแนวต้าน 50% fibonacci ที่ 16.5-16.6
อาจจะมี hard retest ลงไปหา trend line อีกรอบ
หากลงแรง มีแนวรับบริเวณ 14.5-14.8
ราคาถ่านหินเป็นตัวสนับสนุนราคาหุ้น
ตอนนี้ราคาถ่านหินอยู่ที่ 130 USD
ใน Q1 2021 ราคาขายถ่านหินของบ้านปูปรับขึ้นมาเกือบ 70 usd เทียบกับ 40-50 usd ในปี 2020 ทำให้มี EBITDA เพิ่มขึ้น
ที่ผ่านมาบ้านปูได้ประโยชน์จากราคาถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้นน้อย เพราะได้ทำการกำหนดราคาไว้ คิดเป็นกว่า 70% ของปริมาณการขายทั้งหมด
แต่ในปี 2021 บ้านปูได้เปลี่ยนแผน มากำหนดราคาล่วงหน้าไว้แค่ 20-30% คาดว่างบของ Q2 2021 เป็นต้นไป จะได้ประโยชน์จากราคาถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก เพราะจะขายราคาอิง spot price มากขึ้น
ราคาถ่านหินเองน่าจะปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจาก demand ของจีนที่เพิ่มขึ้น และจีนยังมีปัญหาด้าน supply shortage จากปัญหากับออสเตรเลีย
ราคา Natural Gas
ใน Q2 ราคา NatGas อยู่บริเวณ 2.8-3 usd จากผลการดำเนินงาน Q1 2021 ก็เห็นแล้วว่ามีรายได้จากส่วนนี้เพิ่มเข้ามามาก และแนวโน้มของ NatGas ในปีนี้เป็นขาขึ้น
โดยในระยะเวลาไม่นาน อาจจะไปได้ถึง 4 usd
คาดว่ารายได้ของบ้านปูจะดีขึ้นต่อเนื่องในปี2021 นี้
เมื่อบ้านปูทะลุ 50% fib ที่ 16.5-16.6 ขึ้นไปได้ แนวต้านที่อาจจะทำให้ย่อลงมา คือบริเวณ 18.6 ที่เป็น high ปี 1996 และยังเป็นจุดที่เส้น VWAP 3 เส้นมาบรรจบกันพอดี
อย่างไรก้ตาม คิดว่าทุกการย่อ เป็นโอกาสในการซื้อสะสมครับ
ทางเทคนิค
ตอนนี้ คิดว่าตรง Covid-19 low น่าจะเป็นเวฟ 2 ที่ลงไป 0.618% ของเวฟ 1
และตอนนี้ อาจจะกำลังขึ้นเวฟ 3 หรือ ไม่ก็ COV19 low เป็นขา A และตอนนี้กำลังขึ้น B ของเวฟ 2 ก้ได้
คงต้องตามดูไปก่อน
หากเป็นเวฟ 3 จริงๆ แนวรับและแนวต้านคงจะต้องยึดตามนี้
โดยมีเป้าแรกของปีนี้ที่ 23 บาท 28 บาท และ 35 บาท
คงต้องดูทางเทคนิคประกอบกับพื้นฐานควบคู่กันไปด้วยครับ
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 25 มิถุนายน 2564 ทองคำตลาดนิวยอร์กวานนี้ปิดลบ $6.7 ท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนกับคำแถลงของกรรมการเฟดที่หลากหลายข้อมูล
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ปรับตัวลดลง 6.7 ดอลลาร์ (-0.38%) ปิดที่ระดับ 1,776.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำวานนี้ผันผวนต่างจากตลาดสกุลเงินอย่าง EU, GU แม้วานนี้บางช่วงของวันดอลลาร์จะปรับอ่อนค่าลงก็ตาม แต่ทองคำก็ยังปรับขึ้นได้ในระดับที่จำกัดเท่านั้น โดยยังไม่สามารถผ่านแนวต้านระดับ 1,787-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้
นักลงทุนยังรู้สึกกังวลต่อการตัดสินใจของเฟด เพราะตลอดเวลาระยะนี้กรรมการของเฟดต่างออกมาให้ข้อมูลที่แย้งกันไปมา ทำให้สร้างความสับสนต่อการตัดสินใจลงทุนของตลาด แม้ผ่านมานายเจอโรม พาวเวลล์จะออกมให้คำมั่นต่อนักลงทุนแล้วว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาอันใกล้นี้ แต่สิ่งที่นักลงทุนต้องเฝ้าติดตามสถานะการณ์กันอย่างใกล้ชิดก็มีเรื่องวงเงินการเข้าซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลที่ตอนนี้มีการตั้งวงเงินไว้ที่ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ต่อเดือน จากที่นายพาวเวลล์ และคณะกรรมการส่วนหนึ่งเคยออกมาพูดในทำนองเดียวกันว่าจะมีการหารือถึงความจำเป็นต่อมาตรการดังกล่าวว่าเฟดควรที่จะปรับลดการทำ QE ลงหรือไม่ ทำให้นักลงทุนตลาดทองคำเองต้องเฝ้าติดตามเรื่องดังกล่าวต่อไป
เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐอย่างดาวโจนส์ก็ปรับพุ่งรับข่าวแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านข้อตกลงกับสภาคองเกรสในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแลการจ้างงานในสหรัฐ และจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นนั้น ทำให้ดาวโจนส์พุ่งกว่า 300 จุด ทะลุ 34,000 จุด อยู่ที่ระดับ 34,217.72 จุด บวกเพิ่ม 343.48 จุด หรือ 1.01% ถืออยู่ห่างจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ไม่ถึง 3% เท่านั้น ในส่วนของ S&P500 และ Nasdaq ก็ต่างปรับพุ่งขึ้นเช่นกัน ปัจจัยดังกล่าวทำให้นักลงทุนเทขายทองคำเพื่อไปลงทุนที่ตลาดความเสี่ยงสูงที่ให้ผลตอบแทนที่มากกว่า ทำให้ทองคำถูกจำกัดการปรับตัวขึ้นตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้
ประเมินทางเทคนิควันนี้
วันนี้ทองคำกลับมาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง หลังจากวานนี้ปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านระดับ 1,787-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามาราถฝ่าแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ ทำให้เกิดการเทขายทองคำออกมาจากแนวต้านดังกล่าว เกิดการอ่อนตัวของราคาลงสู่แนวรับด้านล่างบริเวณ 1,767-1,761 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง สำหรับวันนี้หากราคาทองคำยังสามารถปรับตัวยืนอยู่เหนือระดับแนวรับบริเวณดังกล่าวได้อีกนั้น ก็มีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,787-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้งเช่นกัน ทั้งนี้แนะนำนักลงทุนให้ปรับลดขนาดการลงทุนฝั่ง Long เนื่องจากหากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับตัวยืนเหนือระดับแนวต้านดังกล่าวได้นั้น ก็ยังคงจะเห็นความผันผวนการแกว่งตัวของราคาทองคำในกรอบเดิมตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ก็ต้องมาจับตาดูกันว่าวันนี้ทองคำจะปรับตัวขึ้นเหนือแนวต้านดังกล่าวได้หรือไม่ วันนี้ไม่มีประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคากลับมาทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการเข้าทำกำไรระยะสั้น พิจารณาทำกำไรได้ที่บริเวณแนวต้าน 1,795-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์) แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้นั้น ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านบริเวณถัดไปที่ 1,825 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Short Position : รอขายทองคำบริเวณแนวต้าน 1,787-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ให้เปิดคำสั่ง “ขาย” เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
-----------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,767 / 1,741 / 1,709
---------------------------------------------------
Resistance : 1,795 / 1,803 / 1,826
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR
- ถารถือครองทองคำ : ขายออก -3.78 ตัน
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,775.05 $
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,042.87 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 12 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : -0.34 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน 2564ทองคำตลาดนิวยอร์กวานนี้ปิดบวกขึ้น 6 ดอลลาร์ จากแดนล่าง 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังเฟดคลายสัญญาณไม่เร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6 ดอลลาร์ (+0.34%) ปิดที่ระดับ 1,783.4 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปัจจัยแรงหนุนทางคำมาจากการที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวร่วงลงจากคำมั่นของเฟดที่ออกมายืนยันว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาอันใกล้นี้ ทำให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับร่วงลงมา สร้างปัจจัยหนุนทองคำกลับฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง
นายพาวเวลได้กล่าวต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์โควิด-19 ประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐว่า “เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนตลาดแรงงานให้ฟื้นตัวเป็นวงกว้าง และเฟดจะไม่ใช้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องภาวะเงินเฟ้อมาเป็นแรงผลักดันให้ต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป”
นอกจากนี้ก็ยังมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาก่อนหน้ายังสะท้อนถีงความอ่อนแอของโครงสร้างระบบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งหมดจึงเป็นปัจจัยหนุนทองคำกลับมายืนเหนือระดับ 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ก็ต้องลุ้นกันต่อว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน
ในส่วนกรณีพิพาทระหว่างสหรัฐกับจีน เรื่องการส่งเรือรบเข้าประจำในพื้นของทะเลจีนใต้นั้น หลังจากที่ก่อนหน้าเกิดภาวะความตึงเครียดอีกครั้งหลังสหรัฐนำเรือรบเข้าแล่นผ่านช่องแคบใต้หวัน ซึ่งถือเป็นอาณาเขตของทะเลจีนใต้ แต่สหรัฐอ้างว่าเป็นการตรวจตราในบริเวณน่านน้ำสากลเท่านั้น จากความขัดแย้งดังกล่าวได้ถูกปรับลดความร้อนแรงลงหลังมีข่าวว่าจะมีการเจรจาทางการทูตระหว่างสหรัฐกับจีนถึงกรณีดังกล่าว ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลในเรื่องดังกล่าวลงไป อาจทำให้ความน่าสนใจของทองคำถูกลดทอนลงไปด้วยเช่นกัน
ประเมินทางเทคนิควันนี้
วันนี้ทองคำกลับมาอยู่เหนือระดับแนวรับ 1,774-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง หลังจากที่ปรับขึ้นทดสอบแนวต้านระยะสั้น 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถฝ่าผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ ทำให้ราคาทองคำช่วงเช้ามืดของวันนี้กลับมาแกว่งตัวเหนือบริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง ประเมินทางเทคนิคหากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือบริเวณแนวรับดังกล่าวได้อีกครั้ง มีแนวโน้มที่อาจเห็นการปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่บริเวณ 1,795 -1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง แต่หากราคาทองคำยังคงมีแรงกดดันอีกรอบ มีโอกาสที่แนวรับระดับบริเวณ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจต้องพังทลายในรอบใกล้ๆ นี้ ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,741 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ติดตามเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการทำ QE, ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้, อินเดียวโดนปรับลดความน่าเชื่อถือจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
คืนนี้ติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ของสหรัฐดังนี้
19:30 ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (MoM) พ.ค.
19:30 ดัชนีจีดีพี (QoQ) (Q1)
19:30 จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (รายสัปดาห์)
ช่วงเวลาดังกล่าวอาจสร้างความผันผวนต่อตลาดทองคำได้ จึงแนะนำสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ควรระมัดระวังในการเทรดซื้อคำสั่งในเวลาดังกล่าวด้วย
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคากลับมาทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการเข้าทำกำไรระยะสั้น พิจารณาทำกำไรได้ที่บริเวณแนวต้าน 1,795-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์) แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้นั้น ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านบริเวณถัดไปที่ 1,825 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Short Position : รอขายทองคำบริเวณแนวต้าน 1,795-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ให้เปิดคำสั่ง “ขาย” เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
-----------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,767 / 1,741 / 1,709
---------------------------------------------------
Resistance : 1,795 / 1,803 / 1,826
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR
- ถารถือครองทองคำ : ขายออก -2.91 ตัน
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,778.15 $
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,046.56 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 11 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : +3.44 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
BTC ปรับฐานใหญ่หลังจากที่ลงมาเยอะ ปัจจุบันราคา btc อยู่ที่ดีมานโซนทามเฟรมรายสัปดาห์
หากราคายังไม่ทะลุโซนนี้ มีโอกาสสูงที่ btc จะกลับขึ้นทามเทรนหลักของทามเฟรมเดือน
ขาบายจังหวะนี้ถือว่า RRR ดีมาก เพราะมีโอกาสทำกำไร3-6เท่าของจุดตัดขาดทุน
*** demand supplyเป็นแค่การหาโซนที่ได้เปรียบในการเข้าออเดอร์ ส่วนการหาจังหวะเข้าออเดอร์ขึ้นอยู่กับระบบที่ใช้ของแต่ละคน***
*** การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญานในการลงทุน***
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 23 มิถุนายน 2564ทองคำตลาดนิวยอร์กวานนี้ปิดลบอีกหนึ่งวันอีก 5.5 ดอลลาร์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ปรับตัวลดลง -$5.5 หรือ -0.31% ปิดระดับ 1.777.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการปรับแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ตลอดทั้งวันที่มีความผันผวนก่อนที่จะมีการแถลงต่อสภาครองเกรสของนายเจอโรม พาวเวลล์ เมื่อช่วงตีหนึ่งวันนี้ ทั้งนี้ในช่วงกลางวันทองคำได้ปรับฟื้นคืนมาได้บ้างแต่ก็ยังเป็นไปได้อย่างจำกัด แม้ดอลลาร์จะอ่อนค่าลงในช่วงค่ำของเมื่อวานนี้ แต่ก็ยังไม่ทำให้ทองคำปรับฟื้นตัวขึ้นมาได้เช่นกลุ่มสกุลเงินอื่นๆ และเช้านี้ดอลลาร์ก็ปรับขึ้นมาอีกครั้งหลังอ่อนค่าของไปที่ระดับ 91.645 แต่หากวันนี้ดอลลาร์ไม่สามารถปรับขึ้นไปเหนือ 92 นั้นเราก็คงได้เห็นการปรับตัวต่ำของดอลลาร์หลังจากที่ดีดตัวพุ่งจากการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่กำหนด
เมื่อช่วงตีหนึ่งของวันนี้นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือว่า เฟด ได้แถลงต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์โควิด-19 ประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยเฟดกล่าวว่ามีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนตลาดแรงงานให้ฟื้นตัวเป็นวงกว้างและครอบคลุม และเฟดจะไม่ใช้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องอัตราเงินเฟ้อมาเป็นแรงผลักดันให้มีการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วเกินไป นายพาวเวลยังกล่าวอีกว่า การพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อเมื่อไม่นานมานี้ ไม่ได้สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ตึงตัวเป็นวงกว้างจนต้องทำให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลานี้ เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นมานั้น เป็นผลมาจากความต้องการสินค้าและการบริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และภาวะติดขัดอุปทานที่เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐเริ่มเปิดเศรษฐกิจใหม่อีกรอบ หลังจากต้องปิดเศรษฐกิจเป็นเวลานานเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยนายพาวเวลมีความเชื่อว่าเรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เกิดจากการพุ่งขึ้นของราคาผู้บริโภคนั้น จะชะลอตัวลงในท้ายที่สุด
หลังคำกล่าวถึงท่าทีของเฟดที่จะยังไม่คงขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนกำหนดที่วางไว้นั้น ทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นอีกครั้ง เป็นเหตุให้ดอลลาร์กลับอ่อนค่าลงไปสู่ระดับ 91.645 ก่อนปรับฟื้นขึ้นได้ในช่วงเช้ามือวันนี้อีกครั้ง แต่ก็ยังเป็นการฟื้นในช่วงความกดดันต่อดอลลาร์อีกครั้ง หลังเฟดส่งสัญญาณไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ โดยเฟดจะยังคงต้องจับตาดูข้อมูลสถิติของตลาดแรงงานเป็นวงกว้างว่ามีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งขึ้นมาเสียก่อน
สำหรับทองคำเมื่อวานนี้ก็ยังถือว่าเป็นการปรับตัวขึ้นได้เพียงจำกัด แต่ไม่สามารถปรับบวกขึ้นได้จากข่าวดีดังกล่าวของตลาดทองคำ ทำให้วันนี้ต้องมาลุ้นกันต่อว่าจะสามารถปรับขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,800 ได้หรือไม่
ประเมินทางเทคนิควันนี้
วันนี้ทองคำปรับฟื้นตัวขึ้นมาได้เล็กน้อยในช่วงเช้าโดยหากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือระดับแนวรับบริเวณ 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง อาจมีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับขื้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถ้าพิจารณาน้ำหนักการให้ระดับคาดการณ์วันนี้ทองคำน่าจะปรับตัวสูงขึ้นได้หลังตลาดฝั่งยุโรปเปิดทำการ จึงแนะนำว่าให้รอซึ้อทองคำเก็บเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาอีกครั้ง เพื่อรอทำกำไรจากการปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,800-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทองคำสามารถผ่านระดับ 1,787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้นก็จะยิ่งเพิ่มความชัดเจนต่อความหวังการกลับไปยืนเหนือ 1,800 ได้อีกครั้ง
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคากลับมาทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการเข้าทำกำไรระยะสั้น พิจารณาทำกำไรได้ที่บริเวณแนวต้าน 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์) แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้นั้น ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านบริเวณถัดไปที่ 1,800-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Short Position : รอขายทองคำบริเวณแนวต้าน 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ให้เปิดคำสั่ง “ขาย” เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวรับ 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในกรอบเวลาต่างๆ
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
-----------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,767 / 1,760 / 1,741
---------------------------------------------------
Resistance : 1,787 / 1,803 / 1,814
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR
- ถารถือครองทองคำ : ขายออก 3.50 ตัน
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,783.20 $
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,049.56 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 10 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : +6.35 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 21 มิถุนายน 2564ทองคำเมื่อเช้ามืดวันเสาร์ที่ผ่านมา ปิดตลาดลบ $5.8
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ปรับตัวลดลง -$5.8 ปิดระดับ 1.769 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ถือเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์ที่มากที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 มี.ค. 2563
ดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า “เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า” โดยนายบูลลาร์ดเป็นกรรมการเฟด 1 ใน 7 รายที่คาดว่า เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งนายบูลลาร์ดได้กล่าวว่า “ผมคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายปีหน้า เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่จะพุ่งแตะ 3% ในปีนี้ และจะอยู่ที่ 2.5% ไปจนถึงปี 2565 โดยสูงกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2% ของเฟด” ซึ่งเขาได้ระบุว่า การที่เฟดส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดในสัปดาห์นี้นั้น ถือเป็นการเตรียมรับมือตามปกติต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และโดยเฉพาะต่อเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ ขณะที่สหรัฐทำการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งหลังจากที่ได้มีการประกาศล็อกดาวน์ไปก่อนหน้านี้นั้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโควิด-19
ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในสัปดาห์ที่ผ่านมา กรรมการเฟดจำนวน 13 จาก 18 รายคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าคาดการเดิมที่เคยส่งสัญญาณในเดือน มี.ค. ว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตตราดอกเบี้ยไปจนกว่าจะถึงปี 2567 นอกจากนี้เฟดยังคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งในปี 2566 ทั้งหมดจึงทำให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่าได้อีกครั้ง รวมทั้งยังกดดันทองคำให้ร่วงต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิควันนี้
วันนี้ทองคำอาจเจอความผันผวนของการเคลื่อนไหวราคาอีกครั้ง ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด หากราคาทองเองสามารถทรงตัวเหนือระดับแนวรับบริเวณ 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น เราอาจเห็นแนวโน้มการปรับตัวขึ้นในระยะสั้นได้อีกครั้ง ประเมินแนวต้านบริเวณที่ระดับ 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านในบริเวณดังกล่าวได้ อาจเกิดการเทขายทำกำไรกันอีกรอบหนึ่ง แนวรับราคาประเมินไว้ที่บริเวณ 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถรองรับราคาไว้ได้นั้น แนวรับถัดไปจะเป็นที่บริเวณ 1,741 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ถ้าวันนี้ราคาทองคำสามารถขยับตัวต่อเนื่องขึ้นได้ด้านบน และกลับไปยืนเหนือ 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจมีการขึ้นทดสอบแนวต้านระดับจิตวิทยาที่ 1,800-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้เช่นกัน วันนี้ขอแนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังแนวต้านในบริเวณดังกล่าวไว้ด้วย หากราคายังไม่สามารถผ่านขึ้นได้ มีแนวโน้มที่จะถูกเทขายทำกำไรทำให้ทองคำปรับตัวอ่อนลงได้ จึงควรติดตามในบริเวณดังกล่าวไว้ด้วย วันนี้ฝั่งสหรัฐฯ ไม่มีข่าวเศรษฐกิจสำคัญอะไรนะครับ ส่วนยุโรปเวลา 21:15 จะมีแถงการของประธานธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB ตามเวลาประเทศไทยนะครับ ช่วงเวลาดังกล่าวอาจสร้างความผันผวนต่อตลาดทองคำได้ จึงควรติดตามสถานะการณในช่วงดังกล่าวด้วย
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคากลับมาทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการเข้าทำกำไรระยะสั้น พิจารณาทำกำไรได้ที่บริเวณแนวต้าน 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : รอขายทองคำบริเวณแนวต้าน 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ให้เปิดคำสั่ง “ขาย” เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวรับ 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในกรอบเวลาต่างๆ
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
-----------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,767 / 1,760 / 1,741
---------------------------------------------------
Resistance : 1,787 / 1,803 / 1,814
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR
- ถารถือครองทองคำ : ซื้อทองคำเพิ่ม +11.07 ตัน
- เข้าซื้อขายทองคำที่ระดับราคา : 1,764.10 $
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,053.06 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 9 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : +9.85 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%