📢วางแผนเทรดEURNZD ด้วย Advance QM Demand Supply 22 กันยายน 2565EURNZD BUY QM-C H1
เป็นการเทรดตามเทรนขาขึ้นของ Day, H4
รอ confirm ด้วย QM m5 ขึ้นไปครับ
SL ที่เหมาะสมคือโครงสร้างชุด confirm
ซึ่ง Trade Setup QM-C BUY ใน H1 มีปัจจัยทางเทคนิคดังนี้
1 Trend Up Week, Day
2 Demand Zone ( RBR )
4 QML
5 Fibo Retracement 50-61.8
ช่วย Like Comment และกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
รายการตัวย่อ
RBR = Rally Base Rally
DBD = Drop Base Drop
SBR = Support Become Resistance
RBS = Resistance Become Support
R= Resistance
S= Support
TF= Time Frame
QM = Quasimodo Pattern
QMR = Quasimodo Reversal
QML = Quasimodo Level
QMC = Quasimodo Continuous
QMM = Quasimodo Manipulation
MPL = Maximum Pain Level
FRT = Fast Return
$$$ = Liquidity
TB = Throw Back
PB = Pull Back
CHoCH = Change of Character
**บทความนี้เป็นเพียงการวางแผนเทรดส่วนบุคคล ไม่ได้มีเจตนาชักชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
Fibonacci
📢วางแผนเทรดCADJPY ด้วย Advance QM Demand Supply 22 กันยายน 2565CADJPY BUY SNRC1 Day
เป็นการเทรดตามเทรนขาขึ้นของ Week, Day
Pending หรือ รอ confirm QM H1 ขึ้นไปครับ
ซึ่ง Trade Setup SNRC1 ใน Day มีปัจจัยทางเทคนิคดังนี้
1 Trend Up Week, Day
2 Demand Zone ( RBR )
4 TB
5 Fibo Retracement 50-61.8
ช่วย Like Comment และกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
รายการตัวย่อ
RBR = Rally Base Rally
DBD = Drop Base Drop
SBR = Support Become Resistance
RBS = Resistance Become Support
R= Resistance
S= Support
TF= Time Frame
QM = Quasimodo Pattern
QMR = Quasimodo Reversal
QML = Quasimodo Level
QMC = Quasimodo Continuous
QMM = Quasimodo Manipulation
MPL = Maximum Pain Level
FRT = Fast Return
$$$ = Liquidity
TB = Throw Back
PB = Pull Back
CHoCH = Change of Character
**บทความนี้เป็นเพียงการวางแผนเทรดส่วนบุคคล ไม่ได้มีเจตนาชักชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
📢วางแผนเทรด US30 ด้วย Advance QM Demand Supply 20 กันยายน 2565US30 BUY QM H4
เป็นการเทรดสวนเทรนขาลงของ Day, H4
รอ confirm QM m15 ขึ้นไปครับ
**ลดความเสี่ยงเนื่องจากสวนเทรน
SL ที่เหมาะสม คือโครงสร้างของชุด confirm ครับ
ซึ่ง Trade Setup QM ใน H4 มีปัจจัยทางเทคนิคดังนี้
1 Trend down Day, H4 (สวนเทรนใหญ่)
2 Demand Zone ( RBR )
3 QML
4 Support Demand Zone Day
5 Fibo Retracement 50-61.8
ช่วย Like Comment และกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
รายการตัวย่อ
RBR = Rally Base Rally
DBD = Drop Base Drop
SBR = Support Become Resistance
RBS = Resistance Become Support
R= Resistance
S= Support
TF= Time Frame
QM = Quasimodo Pattern
QMR = Quasimodo Reversal
QML = Quasimodo Level
QMC = Quasimodo Continuous
QMM = Quasimodo Manipulation
MPL = Maximum Pain Level
FRT = Fast Return
$$$ = Liquidity
TB = Throw Back
PB = Pull Back
CHoCH = Change of Character
**บทความนี้เป็นเพียงการวางแผนเทรดส่วนบุคคล ไม่ได้มีเจตนาชักชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
📢วางแผนเทรดGER40ด้วย Advance QM Demand Supply 20 กันยายน 2565GER40, DE30 BUY QM H1
เป็นการเทรดสวนเทรนขาลงของ Day, H4
รอ confirm QM m15 ขึ้นไปครับ
**ลดความเสี่ยงเนื่องจากสวนเทรน
SL ที่เหมาะสม คือโครงสร้างของชุด confirm ครับ
ซึ่ง Trade Setup QM ใน H1 มีปัจจัยทางเทคนิคดังนี้
1 Trend down Day, H4 (สวนเทรนใหญ่)
2 Demand Zone ( RBR, KINK )
3 QML
4 Sipport Day
5 Fibo Retracement 50-61.8
ช่วย Like Comment และกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
รายการตัวย่อ
RBR = Rally Base Rally
DBD = Drop Base Drop
SBR = Support Become Resistance
RBS = Resistance Become Support
R= Resistance
S= Support
TF= Time Frame
QM = Quasimodo Pattern
QMR = Quasimodo Reversal
QML = Quasimodo Level
QMC = Quasimodo Continuous
QMM = Quasimodo Manipulation
MPL = Maximum Pain Level
FRT = Fast Return
$$$ = Liquidity
TB = Throw Back
PB = Pull Back
CHoCH = Change of Character
**บทความนี้เป็นเพียงการวางแผนเทรดส่วนบุคคล ไม่ได้มีเจตนาชักชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
📢วางแผนเทรดAUDCAD ด้วย Advance QM Demand Supply 15 กันยายน 2565AUDCAD SELL QM-C H4
เป็นการเทรดตามเทรนขาลงของ week day
รอ confirm QM m30 ขึ้นไปครับ
SL ที่เหมาะสม คือโครงสร้างของชุด confirm ครับ
ซึ่ง Trade Setup QM-C ใน H4 มีปัจจัยทางเทคนิคดังนี้
1 Trend down Week, Day, H4
2 Supply Zone ( ORZ )
3 QML
4 QM H4
5 Fibo Retracement 61.8-88.6
ช่วย Like Comment และกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
รายการตัวย่อ
RBR = Rally Base Rally
DBD = Drop Base Drop
SBR = Support Become Resistance
RBS = Resistance Become Support
R= Resistance
S= Support
TF= Time Frame
QM = Quasimodo Pattern
QMR = Quasimodo Reversal
QML = Quasimodo Level
QMC = Quasimodo Continuous
QMM = Quasimodo Manipulation
MPL = Maximum Pain Level
FRT = Fast Return
$$$ = Liquidity
TB = Throw Back
PB = Pull Back
CHoCH = Change of Character
**บทความนี้เป็นเพียงการวางแผนเทรดส่วนบุคคล ไม่ได้มีเจตนาชักชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
XAU/USD - อาจจะเด้งขึ้นบริเวณนี้ 1/9/2022จากบทวิเคราะห์ก่อนหน้า
ราคาได้มาถึง ต่ำกว่า 1700
ตอนนี้คิดว่าขา B น่าจะจบแล้ว
หากจบแค่ตรงนี้จะทำให้ขา A และ B มี 3 ขาย่อย อาจจะเป็นการปรับฐานแบบ Flat แบบ regular และหลังจากนี้จะทำขา C ดีดขึ้นไป
โดยมีเป้าของขา C ที่มี 5 ขา (ถ้าเป็น flat) ตามแนวฟิโบ 0.382-0.50-0.618
ต้องไม่หลุดเส้นสีเขียวครับ
แผนเทรด USD/CHF สัปดาห์หน้าแผนเทรด USD/CHF สัปดาห์หน้า เเนวโน้มมองลงจาก TF D H4 ครั้งนี้ตามเทรน นะตอนนี้ราคาได้ปรับตัวขึ้นมาถึง Supply zone RBD เเละ อยู่เเถวโซน fibo 88.6 เเละราคาฟอมร ตัวขึ้นมาทำ รูปเเบบ AC CU หรือรูปเเบบคล้าย ขั้นบันได พร้อมร่วงเเต่ก้ไม่ เเน่นอน อาจขึ้นต่อก็ได้ เเละ ราคาใน RSI ได้ทำ Bearish Divergence ( Hidden ) เป็นสัญญาณพร้อมกลับตัว ครั้งนี้ที่ ไม่ TP ตรง LL เพราะ ใน TF ใหญ่เช่น TF W D กำลังทำเเพทเิทร์น falling Wedge คิดว่า RRR เท่านี้ก็พอดีเเล้ว
เหตุผลมองลง 5 ปัจัจยดังนี้
- ตามเทรน
- Supply zone RBD
- fibo 88.6
- AC CU
- Bearish Divergence ( Hidden )
: นี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
GOLD - Bird eye view มุมมองจากภาพใหญ่ 12-8-2022
จากภาพหากมองทองย้อนไปตั้งแต่ยอดปี 1980- ราคา low ปี 1999 จะเห็นว่าราคา all time high ของทองคำที่ 2080 เป็นยอดที่ติดแนวต้าน 1.618 fibo level
ราคาตอนนี้ บริเวณ 1787-179x เป็นแนวที่เคยทำหน้าที่เป็นแนวต้านตอนปี 2011-2012 จะเห็นว่าราคาได้ sideway แถวนี้มาหลายวันแล้ว
หากมองว่าทองจะขึ้น
รูปทรงการปรับฐานจะต้องมองเป็น flat correction 3-3-5 โดยเวฟ C ได้จบ 5 wave แล้ว
แต่หากมองว่าทองลง
5 ขาที่ลงมาต้องมองว่าเป็นขาลง และตอนนี้ราคาได้ขึ้นมา 3 ขา เป็น A-B-C โดยอยู่ใต้เส้นน้ำเงินที่เป็นแนวต้านปี 2011-2012
กรณีมองขึ้น ทองต้องไม่ลงไปต่ำกว่า 1680 และควรจะเจอแนวรับ ไม่ต่ำกว่า 1747
กรณีมองลง ทองต้องไม่ขึ้นไปเหนือ 1808
และอาจจะลงไปใกล้ 1680 หรือต่ำกว่า
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2565 ทองดับฝันไม่ถึงฝั่ง 1800 หลังรายงานข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งเกินคาด
ศุกร์ที่ผ่านมาทองคำปรับตัวร่วง โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับตัวลดลง 15.7 ดอลลาร์หรือ -0.87% ปิดที่ราคา 1,791.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์
การปรับร่วงของทองคำอีกครั้งหลังได้มีการเปิดเผยตัวเลขแรงงานที่ดีเกินคาด โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non farm payroll : NFP) ตัวเลขออกมาที่ 528,000 ตำแหน่งในเดือนกรกฏาคม สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 258,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานเดือนกรกฎาคมได้ปรับลดลงสู่ระดับ 3.5% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.6% ตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้ดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้นเป็นเหตุให้กดดันราคาทองคำอีกครั้ง โดยดอลลาร์กลับมาเคลื่อนไหวปรับขึ้นที่ระดับ 106.57 เพิ่มขึ้น 0.82% หรือ +0.78% การปรับขึ้นของดอลลาร์นั้นเป็นผลจากการคาดการณ์ว่าเมื่อตัวเลขแรงงานที่ออกมาดีเกินคาดนั้น จะส่งผลต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ให้เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
ประเมินทางเทคนิคทองคำยังคงแกว่งตัวผันผวนตามการขึ้นลงของดอลลาร์เป็นหลัก โดยปัจจัยหลักๆ ที่กระทบก็คงหนีไม่พ้นในเรื่องของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสำคัญๆ ต่างทั่วโลก ภาพรวมตลาดทองคำในกรอบเวลาต่างๆ
กรอบเวลารายสัปดาห์ (Week) : หลังเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมาราคาทองคำได้ปรับตัวลงที่ระดับ 1680.74 ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (Exponential Moving Average 200 ) และโดนปฏิเสธราคาที่บริเวณดังกล่าว ทำให้ทองคำ rebound กลับขึ้นมาอีกครั้ง แต่ตลอดเวลาที่ปรับขึ้นมานั้นทองคำยังต้องเผชิญกับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และบอนด์ยีลส์อายุ 10 ปีของสหรัฐ โดยมองว่าตลาดทองคำในภาพรวมกว้างๆ นั้นยังคงเป็นตลาดหมี (Bearish market) อยู่ หากทองคำจะปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1876 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เราถึงจะมองว่าภาพของฝั่งกระทิง (Bullish market) กำลังกลับมาอีกครั้ง ตราบใดที่ราคายังไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้น ก็อย่าเพิ่งเบาใจสำหรับนักลงทุนฝั่งตลาดกระทิง ทางเทคนิคเรายังมองเห็นทองคำยังต้องเผชิญกับแนวต้านหลักๆ ตั้งแต่ 1772 และ 1830 ขึ้นไปให้ได้ก่อน ถึงจะมีลุ้นว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นทดสอบ 1876 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กรอบรายวัน (Day) : สำหรับในกรอบรายวันนั้น หลังทองคำปรับร่วงเมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาแต่ก็ยังคงรักษาระดับไว้เหนือแนวรับบริเวณ 1756 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยแรงซื้อยังคงเข้าช่วยพยุงราคาไว้ ทางเทคนิคในกรอบรายวันเราให้ช่วงบริเวณรับราคาในระหว่าง 1756-1727 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้นั้น อาจมีแรงซื้อเข้ามาผยุงราคาทองคำหลังราคาทองคำปรับราคาถูกลง โดยเมื่อทองคำมีราคาที่ถูกลงก็มักจะเป็นที่สนใจของนักลงทุนระยะสั้น เข้าทำการเก็งกำไรและเทขายสลับออกมา นักลงทุนจึงควรเฝ้ามองหาโอกาสจากการช่วงชิงการซื้อขายของทองคำในภาวะดังกล่าวตามแนวรับแนวต้านสำคัญๆ ประเมินว่าทองคำยังคงพยายามขึ้นทดสอบระดับ 1803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณดังกล่าวจะมีเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันพาดผ่านอยู่ นักลงทุนควรให้ความสำคัญในแนวบริเวณดังกล่าว เพราะหากทองคำสามารถขึ้นไปได้ถึงจุดนั้น อาจเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนบางส่วนจะมองหาโอกาสการทำกำไรในบริเวณดังกล่าว
กรอบรายชั่วโมง (H1) : สำหรับนักลงทุนระยะสั้นที่ให้ความสำคัญในกรอบรายชั่วโมงนั้น หลังทองคำปรับตัวเข้าในบริเวณ Demand zone ช่วง 1754-1770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในค่ำคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ทองคำก็ยังคงรักษาระดับได้เหนือบริเวณดังกล่าว โดยทางเทคนิคหากทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจมีการเทขายทองคำอีกครั้งจนทำให้ราคาทองคำจะกลับมาเคลื่อนไหวในบริเวณ 1754-1770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่เฝ้าติดตามจังหวะเข้าซื้ออาจพิจารณารอจังหวะซื้อทองคำที่บริเวณดังกล่าวได้เช่นกัน แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้าน 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โอกาสที่ทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้าน 1795-1804 ก็มีความเป็นไปได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอย่าลืมว่าทองคำขณะนี้มีปัจจัยกดดันจากเรื่องของอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูง จึงไม่แนะนำนักลงทุนให้วางแผนการเทรดในระยะกลางถึงยาว ควรเน้นการลงทุนระยะสั้นเป็นหลัก เทรดตามแนวโน้มราคาปัจจุบันจะดีที่สุด
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงรอขายทำกำไรระยะสั้นจากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำเคลื่อนไหวไม่ผ่านแนวรับ 1762 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้นั้นก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน แนวรับถัดไปประเมินที่บริเวณ 1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : รอซื้อคืนทองคำบริเวณ 1762-1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้ ให้เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้นก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนไปก่อน สำหรับแนวต้านถัดไปประเมินที่บริเวณ 1795-1804 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1754 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1803 / 1836 / 1856
-------------------------------------------
Support : 1756 / 1727 / 1681
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1779 / 1795 / 1804
-------------------------------------------
Support : 1770 / 1763 / 1754
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก -1.16 ตัน
คงถือสุทธิ = 999.16 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,774.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 4
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -6.71 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 5 สิงหาคม 2565 ทองคำกลับมาเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง
ทองคำวานนี้ปิดบวกไป 30.5 ดอลลาร์ การซ้อมรบของจีนรอบบริเวณเกาะไต้หวันที่ได้เริ่มขึ้นเมื่อวานเป็นเหตุให้นักลงทุนเกิดความกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้นักลงทุนเริ่มเข้าซื้อทองคำกันอีกครั้ง โดยตลาดสัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นอีก 30.5 ดอลลาร์หรือ +1.72% ปิดที่ราคา 1,806.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์
การกลับมาของทองคำเมื่อวานนี้เกิดจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และความวิตกกังวลเกี่ยวกับการขัดแย้งรอบใหม่ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา โดยทางการจีนได้มีการเปิดการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันหลังนางแนนซี่ เพโลซี่ ประธานรัฐสภาของสหรัฐได้มาเยือนเกาะไต้หวัน ทำให้สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐเริ่มมีมากขึ้น
ประเมินทางเทคนิคแล้ววันนี้ในกรอบรายวันเรายังเห็นการเคลื่อนไหวทองคำถึงโอกาสที่จะเข้าทดสอบระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ทั้งนี้ต้องมีแรงซื้อสนับสนุนต่อเนื่องถึงจะเคลื่อนไหวเข้าเหนือหรือทดสอบบริเวณดังกล่าวได้
ทั้งนี้หากราคาทองคำยังมีแรงปรับฐานเหนือบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น โอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นได้อีกครั้งเพื่อผ่านแนวต้านระยะสั้นที่ 1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือระดับสูงสุดของเมื่อวานนี้ สำหรับวันนี้นักลงทุนเฝ้าติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ "รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non farm payroll : NFP) นักวิเคราะห์คาดการว่าจะมีตัวเลขการจ้างงานที่ 250,000 ตำแหน่งในเดือนกรกฎาคม ลดลงจากเดิม 381,000 ตำแหน่ง จากเดือนมิถุนายน และตัวเลขรายงานอัตราการว่างงานของเดือนกรกฎาคม นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการว่างงานคงที่ที่ระดับ 3.6% ของเดือนมิถุนายน ในเวลา 19:30 น. (ตามเวลาของประเทศไทย) ในช่วงวันนี้คาดว่าทองคำอาจแกว่งตัวในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงชะลอการลงทุนเพื่อติดตามรายงานดังกล่าวในค่ำคืนนี้ จึงให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุนก่อนช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : รอขายบริเวณ 1795-1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึันไปได้ เสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาทำกำไรบริเวณ 1779-1774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : รอซื้อทองคืนบริเวณ 1779-1785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถหลุดแนวรับดังกล่าวลงมาได้ เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาทำกำไรบริเวณ 1795-1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1779 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1803 / 1836 / 1856
-------------------------------------------
Support : 1790 / 1756 / 1727
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1795 / 1804 / 1810
-------------------------------------------
Support : 1785 / 1779 / 1774
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก -2.32 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,000.65 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,765.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 2
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -5.22 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
GAL COIN WITH ELLIOT WAVEfactor for bullish
1. divergence
2. Expanded collection flat
3. They are going to complete their sub wave to make a full wave 3.
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 2 สิงหาคม 2565 ทองคำยังพุ่งปรับเพิ่มสูงกว่า 4.03% ขยับใกล้ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำกลับมาอีกครั้งวานนี้ปิดบวกไป 5.9 ดอลลาร์ หลังดอลลาร์ซบเซาเหตุข้อมูลเศรษฐกิจออกมาน่าผิดหวัง ทองคำกลับมาบวกติดต่อกันต่อเนื่องเป็นวันที่ี 4 โดยตลาดสัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นอีก 5.9 ดอลลาร์หรือ 0.33% ปิดที่ราคา 1,787.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ทองคำปรับเพิ่มขึ้นก็มาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาไม่ดีสร้างความกังวลต่อนักลงทุนที่เห็นว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ กำลังเช้าสู่ภาวะถดถอยในเร็วๆ นี้
วานนี้สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 52.8 ในเดือน ก.ค. ซึ่งจัดว่าเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ระหว่างนี้นักลงทุนยังคงชะลอการลงทุนทองคำบางส่วนเพื่อเฝ้าติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในวันศุกร์นี้คือ “รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non farm payroll : NFP)”
สำหรับวันนี้ประเมินทางเทคนิคแล้วหลังทองคำปรับตัวพุ่งขึ้นต่อเนื่องกว่า 4 วัน จนเข้าใกล้ระดับต้านสุดท้ายของ Level 1700 คือ 1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตรงนี้เราประเมินว่าถ้าราคาทองคำวันนี้ไม่ผ่าน 1780 -1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจมีการพักปรับฐานกันอีกรอบ โดยอาจย่อตัวลึกกว่าที่ผ่านมา โดยประเมินใกล้ๆ ระดับ 1764 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง ทั้งนี้แรงซื้อในกรอบรายวันอาจลดลงไปแต่ก็ยังแรงหนุนเพื่อปรับตัวอยู่พอสมควร เราจึงคาดว่าการปรับย่อน่าจะไม่ลงลึกไปกว่า 1750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนจึงควรใช้ประโยชน์การวิเคราะห์นี้ไปวางแผนเพื่อปรับเป้าหมายการเข้าทำกำไรต่อไป สำหรับเป้าหมายของกรอบรายวัน (Day) เราประเมินที่ระดับ 1802 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ภาวะสุ่มเสี่ยงต่อการถดถอยเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้นจะยิ่งหนุนทองคำได้มากขึ้นเวลานี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อว่าหากสัญญาการถดถอยทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นจริง ธนาคารกลางทั่วโลกโดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา จะปรับลดท่าทีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยลง จึงส่งผลลบต่อสกุลเงินโดยตรง
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : รอขายบริเวณ 1780-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณนี้ขึ้นไปได้ พิจารณเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายที่แนวรับ 1774-1767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาขยับขึ้นเหนือกว่า 1802 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : รอซื้อทองคืนหากราคาทองคำปรับตัวลงมาที่บริเวณ 1755-1746 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พิจารณาเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายการทำกำไรที่ 1774-1767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำสามารถขยับขึ้นไปเหนือกว่าก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน แนวทำกำไรถัดไปประเมินที่ 1802-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1780 / 1803 / 1836
-------------------------------------------
Support : 1756 / 1727 / 1681
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1781 / 1790 / 1800
-------------------------------------------
Support : 1768 / 1754 / 1746
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ยังไม่มีข้อมูลการเปลี่ยนแปลง
คงถือสุทธิ = 1,005.87 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = - ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = -
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = - ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
SET index - อาจจะเจอก้นเหวแล้ว 18/7/2022
เมื่อพิจารณาว่าเส้นสีน้ำเงินเป็นแนวต้านของไฮเดิมปี 1995
ตอนนี้จะเห็นว่าราคากำลังอยู่บริเวณแนวต้านนี้อีกครั้ง
เมื่อพิจารณาจากราคาตั้งแต่ Covid-19 low มีความเป็นไปได้ว่า SET ได้ขึ้นมา 5 ขาแล้ว และตอนนี้อาจจะเป็น corrective move
ตอนนี้เหมือนว่าการปรับฐานเป็น double correction 2 ชุด โดยชุดสุดท้ายเป็น (Y) เป็น zigzag 5-3-5
เมื่อวัดความสัมพันธ์ของเวฟย่อยด้วย fibonacci พบว่ามีความเป็นไปได้สูงว่าการปรับฐานเป็นรูปแบบ W-X-Y
จึงมีความเป็นไปได้ว่าราคา ไม่ควรจะลงต่ำกว่า 1516 แล้ว
และหากราคาเจอเหวตรงนี้จริง เชื่อว่าจะไปเจอแนวต้านสำคัญอีกทีบริเวณกรอบสีเหลือง