ไอเดียชุมชน
รอจังหวะเข้าซื้อทองคำ ตามแนวรับรายวัน การซื้อ 5
การขาย 1
สรุปดัชนีหุ้นสหรัฐรายวัน ดัชนีอาจมีการปรับตัวลง
-ทองคำอาจปรับตัวขึ้น
รายชั่วโมง การซื้อ 5
การขาย 6
สรุปดัชนีหุ้นสหรัฐรายชั่วโมง ดัชนีอาจมีการปรับตัวขึ้น
-ทองคำอาจปรับตัวลง
15 นาที การซื้อ 5
การขาย 2
สรุปดัชนีหุ้นสหรัฐราย 15 นาที ดัชนีอาจมีการปรับตัวลง
-ทองคำอาจปรับตัวขึ้น
5 นาที การซื้อ 7
การขาย 3
สรุปดัชนีหุ้นสหรัฐราย 5 นาที ดัชนีอาจมีการปรับตัวลง
-ทองคำอาจปรับตัวขึ้น
เราได้เพิ่มประวัติราคาทองคำและเงินมากกว่า 100+ ปีทีมงานของเราที่ TradingView มุ่งมั่นที่จะสร้างแพลตฟอร์มที่ให้แผนภูมิ, ข้อมูล และการแสดงผลที่ดีที่สุดเพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้น วันนี้เรายินดีที่จะแสดงฟีดข้อมูลใหม่สองฟีด ที่เราได้ขยายเพิ่มเติมมันออกไปสำหรับผู้ที่ต้องการดูประวัติศาสตร์ของทองคำและแร่เงิน
ตอนนี้คุณสามารถสร้างแผนภูมิประวัติศาสตร์ของราคาทองคำและเงินกว่า 100 ปีได้แล้ว ในฐานะที่เป็นโลหะมีค่าที่เก่าแก่ที่สุดสองชนิด และจำเป็นต่อวิวัฒนาการของสกุลเงินและการค้า เราเชื่อว่าจำนวนปีที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้จะมีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์และผู้ที่ชื่นชอบโลหะมีค่าในระยะยาว ดูทองหรือเงินในกรอบเวลาระยะสั้นหรือกรอบเวลาระยะยาวย้อนไปไกลได้ถึงปี 1915
ในการเริ่มต้นพิมพ์ GOLD หรือ SILVER ในช่องค้นหาของคุณ หรือคุณยังสามารถใช้ลิงค์ 2 ลิงค์ที่เรารวมไว้ด้านล่างนี้เพื่อการเข้าดูอย่างรวดเร็วได้:
• ดูชาร์ตราคาทองคำเรียลไทม์
• ดูชาร์ตราคาแร่เงินเรียลไทม์
เราหวังว่าคุณจะเพลิดเพลินไปกับชุดข้อมูลเพิ่มเติมเหล่านี้ และหากคุณต้องการให้เราเพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับทิกเกอร์/สัญลักษณ์ใดโดยเฉพาะ โปรดเขียนลงในความคิดเห็น ทีมงานของเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มมันให้คุณ ขอขอบคุณที่อ่าน!
BTCUSD กำลังจะทำ Harmonic ขา Sell อีกครั้งราคา BTC ได้ปรับตัวสูงขึ้นซึ่งเป็นสัญญาณที่บอกว่ามีการทำราคาของรายใหญ่โดยราคา BTC อาจจะขึ้นไปทำรูปแบบ Harmonic ของขา Sell ได้ โดยถ้าราคามาถึง 36846 ให้พิจารณาเล่น sell ได้ครับ โดยมีระยะ sl ที่ 38000 และมีเป้า tp ที่ราคา 33900 เป็นเป้าแรกส่วนเป้า tp2 และ tp3 อยู่ที่ราคา 30900 และ 287600 ครับ
ทองคำมีโอกาสขึ้นได้หรือไม่ #วางแผนเทรดทองคำ #แนวโน้มราคาทองคำหลังจากที่ราคาเปิดตลาดมาในวันจันทร์ ราคาโดยเทขายลงไปอย่างรุนแรงและมีแรงซื้อกลับขึ้นมา สามารถกลับเข้ามายืนเหนือแนวรับโซน 1820-30 ได้ และใน TF H4 มีสัญญาณกลับตัวของ pinbar เกิดขึ้นด้วย ราคาจึงปรับตัวขึ้นมาแบบเฉื่อยๆ โดยราคามาทดสอบ 1840 แล้วย่อลงมา ซึ่งราคามีแนวโน้มที่จะขึ้นไปทดสอบกรอบบนของ Trendline channel 1850-55 ก่อนที่จะมองว่าย่อลงมาเพื่อสะสมแรงซื้อขึ้นไปอีก ในลักษณะย่อเพื่อขึ้น แนวรับมี 1820-30 (โซนนี้หากหลุดจะลงไปต่อถึง 1800 ) และ 1840 หากทะลุกรอบ Trendline channel ขึ้นไปได้ ราคาเป้าหมาย 1862 และ 1875
GOLD : รอบนี้เตรียมขึ้นจริงซะที? หลังจากย่อทำ wave 1-2 เสร็จแล้วทองนี่ เราโดนสับขาหลอกมาบ่อยมาก
โดยผมเข้าไปสองรอบ ก็โดนชน Break even SL ทั้งสองรอบ ( แต่ก็ไม่ได้เสียอะไรอ่ะนะ 55 )
แต่ก็นั่นแหละ ในการลงทุกรอบ มันก็ยังไม่เคยทำ new low ได้ซะที
สำหรับรอบนี้ การย่อล่าสุด ก็ได้ย่อลงมาทดสอบ key fib 0.786 ที่ 1802 แล้ว
และจะเห็นได้ว่า แตะปุ๊บเด้งปั๊บกันเลยทีเดียว
แสดงว่า มีคนใช้วิธีนับเวฟ กันอยู่เยอะพอสมควร
โดยรอบนี้ ถ้าเราเข้าแถวๆ โซน 1840-1845 นี้
และลาก SL ไปที่ใต้ low 1800 เราก็จะพบว่า..
รอบนี้ จุด SL แคบมากๆ! โดยอยู่ที่ประมาณ -2.5% เท่านั้นเอง
แต่ RR upside ดีมากๆ! เพราะมันลงมานาน และรอบนี้ "ถ้า" มันเป็นการย่อทำเวฟ 1-2 เตรียมขึ้น 3 จริง .. มันก็น่าเสี่ยงครับ
โดยเป้า TP แรก ตาม fibo projection 1.618 ของเราจะอยู่ที่ประมาณ 2100 ครับ
ใครอยากเสี่ยงก็ลองดูเน้อ
EURUSD : ลุ้นเวฟ 5 ขาสุดท้ายห่างหายจากการอัพเดทไปนาน
ปัจจุบัน EURUSD ได้อยู่ในกรอบพักตัวระยะกลาง
มุมมองปัจจุบันคือราคาอาจจะมีการกลับตัวเพื่อวิ่งขึ้นต่อตามเทรนด์ เพราะตรงนี้เป็นแรว Fibo 50% ของเวฟ 3 สีขาว
จากตรงนี้หากราคาจะขึ้นต่อจริง ไม่ควรจะลงมาถึง 1.19240 เพราะตรงนั้นจะเป็นจุดที่ทำให้กราฟเสียทรง แล้วเราอาจจะต้องมาเล่นขาลงกันแทน
BTCUSD (TF 60) หน้า Buy ยังได้เปรียบBTCUSD (TF 60)
1) แนวโน้ม SW
2) แนวรับ 36782/34800
3) แนวต้าน 38768/40112
การอ่านค่าจากกราฟ => BTCUSD (TF 60) เป็นแนวโน้ม sw มีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 38768/40112 มากกว่าลงไปทดสอบแนวรับที่ 36782
แผนการเทรด
คนมี Long/Buy ถือต่อไป sl 36782, tp 38768/40112
By MONEY BETTER
XAU/USD ทิศทางชัดเจน เตรียมไปนิวไฮหลังจากที่ Joe Biden ประกาศจะเพิ่มเงินเยียวยา Covid-19 จาก 1.3 Trillion --> 2 Trillion ก็ส่งผลให้ Dollar index TVC:DXY อ่อนค่าลงทันที
เวลาเดียวกัน ทองก็ดีดตัวขึ้นมา และเห็นหน้าตาชัดเจนขึ้น
ตรง 1826 คิดว่าจะ correction แบบ flat แล้ว
และตอนนี้เรามี 5 wave up
เชื่อว่าพรุ่งนี้น่าจะย่อจบ บริเวณ 1840 +-5
แล้วขึ้นไป 2040
BABA : หลังจากย่ำฐาน 0.618-0.786 มานาน ในที่สุดก็ระเบิดขึ้นแล้ว!หลังจาก BABA ย่อลงมาซะลึก เพราะข่าวพี่จีนกดดันมาตลอด 2 เดือนกว่า และย่อลงไปถึง -33%
วันนี้ในที่สุดก็มีแท่ง เปิด gap ขึ้นไปยืนเหนือ EMA 18 ได้ซะทีครับ
ถือว่าเป็นจุดที่ confirm การกลับตัวได้พอสมควร และ RR ดีมากๆ ถึง 8.0
โดย SL ใต้ low แค่นิดเดียว
ตัวนี้ผมว่าถือกันไปเลยยาวๆ ให้ลูกให้หลาน ถ้าไม่ SL ก็ไม่ต้องออกครับ
VCOM 15 JAN 2021 Good pattern mega trendVCOM ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยี ทั้งจัดจำหน่ายและบริการ
มีสัดส่วนของรายได้มาจาก service 30% ซึ่งมีกำไรสูง
ตรงนี้ทำให้กำไรรวมของบริษัทจะไม่พึ่งพาแค่การขาย
(รายได้จากการขายปกติจะต่ำมากในอุตสาหกรรมนี้ ประมาณไม่เกิน 2%)
ในส่วนของ price pattern คือ ค่อนข้างเรียบง่าย classic มาก
หลังจากการบวกขึ้นมาแรงๆช่วงโควิด 1
ก็ย่อยาวๆมาจนถึงตอนนี้เพิ่งเริ่มมีการยกอีกครั้ง
PE ต่ำมากเมื่อเทียบกับธุรกิจประเภทเดียวกัน
มองว่าสามารถถือได้จนถึง pe30++
Por : Technical AnalysisGold (XAUUSD)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ราคาทองคำแกว่งตัวแคบๆขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,855 เหรียญ แต่ไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ ราคาปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ 1,819 เหรียญ แท่งเทียนเกิดเป็น Hammer ราคาทองคำพักตัวเป็นรูปธงที่ชายธงชี้ขึ้น เป็นสัญญาณลงต่อเนื่อง สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน ทำให้ราคาทองคำระยะสั้นแกว่งตัวออกด้านข้างภายในกรอบ 1,819 – 1,863 เหรียญ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ราคาทองคำมีทิศทางแกว่งตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 4 ที่มีลักษณะพักตัวแบบ (a)-(b)-(c)-(x)-(a)-(b)-(c) ที่มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,819 เหรียญ
ทิศทางราคา Gold ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,855 – 1,870 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,832 – 1,822 ดอลลาร์/ออนซ์
สรุป
เปิดสถานะซื้อ (Open Long) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 1,863 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,879 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาทองคำปรับตัวลงต่ำกว่า 1,836 เหรียญ
เปิดสถานะขาย (Open short) เมื่อราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1,836 เหรียญ เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1,820 เหรียญ ตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นเหนือ 1,863 เหรียญ
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Xau/usd ลงมาเป็น Impulse wave x3 หรือไม่ สองหลักการในการแยกแยะ1.หลักการพิจารณาในเคสนี้ก็คือ ต้องเอากฏ Rule of Equality มาช่วยในการแยกแยะ
Rule of Equality กฏแห่งความเท่าเทียมในรูปแบบ Impulse จะต้องอยู่ภายใต้กฏ Extention rule คลื่น 1/3/5 จะต้องเกิดการยืดตัวยาวกว่าคลื่นอื่นอย่างมีนัยยะสำคัญ
และเมื่อระบุได้ว่าคลื่นใดยาวที่สุด กฏ Rule of Equality จะถูกนำมาพิจารณา กฏนี้ใช้เทียบระหว่างคลื่น 1/3/5 เช่น ถ้าคลื่น 1 ยืดขยาย กฏนี้จะนำมาใช้กับคลื่น 3 และ 5 ถ้าคลื่น 3 ยืดขยาย กฏนี้จะนำมาใช้กับคลื่น 1 และ 5 ถ้าคลื่น 5 ยืดขยาย กฏนี้จะนำมาใช้กับคลื่น 1 และ 3 คลื่นที่ไม่ได้ยืดตัวทั้งสองคลื่นนั้นจะต้องมีสัดส่วนเท่ากันในแง่ราคา หรือ เวลา หรือ เป็นสัดส่วนกันในอัตราส่วน 61.8 % อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่าง
***กฎมีอิทธิพลมากที่สุดในรูปแบบคลื่น 3 Extention และ การวัดความยาวของคลื่นลูกที่ 5Failure แต่กฎนี้ไม่ครอบคลุมคลื่นที่ 1 ยืดขยาย
หรือเป็น Terminal Impulse เมื่อเอาพิจารณาตามกฏนี้คลื่นที่ 5 จะต้องลงไปเท่ากับคลื่น 1 หรือ ใช้เวลาเท่ากับคลื่น 1 หรือ เป็นอัตราส่วน 61.8%
2.อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ Correction คลื่นสอง และ คลื่น 4 ของ Impulse wave x3 คลื่น 2 กับ 4 มักจะทำสัดส่วนกันในแง่ราคา หรือ เวลา อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างเช่นเดียวกับ ในคลื่นยืดขยาย หลักการนี้อยู่ในบทที่ 12 หน้าที่ 25
Corrections
Wave-2 & Wave-4 If wave-2 is the largest price correction of the Impulse pattern, the 4th wave will likely be 61.8% of the price covered by wave-2 (see Figure 12-29, Diagram A). The next choice would be 38.2%. If wave4 is the larger price correction in the Impulse pattern, wave-2 should be 61.8%, or less likely, 38.2% of wave-4 (refer to Figure 12-29, Diagram B).
Wave-a & Wave-b Unlike waves 2&4, waves a &b move in opposite directions. Contrary to the prevailing beliefs of many, Fibonacci relationships are more reliable between patterns traveling in the same direction, not opposite directions. As a result, there are no consistently reliable relationships between waves-a & b. The relationship between waves a &b is used mostly in deciding the Structure of the a-wave (see Retracement Rules and Pre-Constructive Rules of Logic, Chapter 3).
วิธีใช้แผนภูมิแบบล็อกและเหตุใดมันจึงสำคัญแผนภูมิทั้งสองในไอเดียนี้แสดงราคาหุ้นของ Tesla ตั้งแต่การเสนอขายหุ้น ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือแผนภูมิหนึ่งคือแผนภูมิแบบล็อกและอีกแผนภูมิหนึ่งคือแผนภูมิราคาเชิงเส้นปกติ นั่นเป็นเหตุผลที่มันดูแตกต่างกัน การทำความเข้าใจแผนภูมิแบบล็อกและแผนภูมิเชิงเส้นปกติเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุนทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดูการเปลี่ยนแปลงของราคาในช่วงระยะเวลาที่ยาวนาน
แผนภูมิด้านซ้ายเป็นแผนภูมิแบบล็อกของ Tesla และแผนภูมิด้านขวาเป็นแผนภูมิราคาเชิงเส้นของ Tesla แผนภูมิแบบล็อกแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างระหว่างราคา ในขณะที่แผนภูมิเชิงเส้นปกติจะแสดงระยะทางคงที่ระหว่างราคา ดูแผนภูมิทั้งสองทางด้านบนอีกครั้ง หากคุณยังไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเขาแสดงไม่ต้องกังวลอ่านต่อไป 😁
สมมติว่า Tesla ย้อนกลับไปในช่วงแรกๆ ในฐานะบริษัท ที่มีการซื้อขายเพิ่มขึ้นจาก $5 ต่อหุ้น เป็น $10 ต่อหุ้น นั่นคือการเคลื่อนไหว 100% คุณจะต้องเพิ่มเงินเป็นสองเท่า ไม่กี่ปีต่อมา Tesla มูลค่าสูงขึ้นถึง $100 ต่อหุ้น และเพิ่มขึ้นเป็น $105 ต่อหุ้น นั่นเป็นเพียงการเคลื่อนไหว 5% เท่านั้น การเคลื่อนไหวของราคาทั้งสองในตัวอย่างนี้แสดงถึงการเพิ่มขึ้น $5 ต่อหุ้น แต่ราคาหนึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ใหญ่กว่ามาก นั่นคือสิ่งที่แผนภูมิแบบล็อกมีประโยชน์ - มันแสดงเปอร์เซ็นต์ของการเปลี่ยนแปลงนี้! อย่างไรก็ตามในแผนภูมิปกติ ราคาแต่ละระดับจะแสดงที่ระยะทางคงที่ ดังนั้นการเคลื่อนที่จาก $5 เป็น $10 จะแสดงในลักษณะเดียวกับการเคลื่อนที่จาก $100 ไปเป็น $105
การเริ่มต้นใช้งานแผนภูมิแบบล็อกนั้นทำได้ง่ายและรวดเร็ว:
1. หากคุณใช้ PC ให้กด Alt + L บนแป้นพิมพ์ของคุณ ชุดแป้นพิมพ์นี้จะปรับแผนภูมิของคุณให้เป็นแผนภูมิแบบล็อกอย่างรวดเร็ว คุณสามารถกดคีย์ลัดนั้นอีกครั้งเพื่อกลับสู่แผนภูมิราคาเชิงเส้นปกติ
2. หากคุณใช้ Mac ให้กด Option + L คุณสามารถสลับระหว่างแผนภูมิแบบล็อกได้อย่างรวดเร็วด้วยคีย์ลัดนี้บน Mac ของคุณ
3. คุณยังสามารถคลิกปุ่ม log ที่อยู่บริเวณมุมขวาล่างของแผนภูมิเพื่อเปิดหรือปิดการใช้งาน
อีกหนึ่งเคล็ดลับ: วางเมาส์เหนือสเกลราคา จากนั้นคลิกค้างไว้แล้วลากขึ้นหรือลงเพื่อบีบอัดหรือขยายขนาดสเกลราคา เคล็ดลับง่ายๆ นี้ช่วยให้คุณควบคุมสเกลราคาได้มากขึ้นสำหรับทั้งแผนภูมิแบบล็อกและแผนภูมิเชิงเส้นปกติ
คุณควรใช้แผนภูมิแบบล็อกอย่างไรในอนาคต?
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องรู้ว่าคุณมีเครื่องมือในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาในหลายๆ วิธี เปรียบเทียบและดูความแตกต่างกันเสมอโดยการดูแผนภูมิทั้งสองเมื่อจำเป็น เทรดเดอร์และนักลงทุนมือใหม่มักจะประหลาดใจกับข้อมูลที่แสดงในแผนภูมิแบบล็อกในช่วงเวลาอันยาวนาน นอกจากนี้การเปรียบเทียบแผนภูมิแบบล็อกกับแผนภูมิราคาเชิงเส้นปกติสามารถปลดล็อกข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ ได้ แผนภูมิ Tesla ทั้งสองในตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นถึงสิ่งนั้นอย่างสมบูรณ์แบบ แผนภูมิหนึ่งมีลักษณะพาราโบลา ไม่เป็นระเบียบและดูยุ่งเหยิงเล็กน้อย ส่วนอีกอันมีพื้นที่ แสดงแนวโน้มที่ชัดเจน และทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะพลาดช่วงการซื้อขายที่สำคัญไป
ขอบคุณที่อ่าน! เช่นเคยโปรดฝากคำถามหรือความคิดเห็นไว้ด้านล่าง หากคุณมีคำร้องขอผลิตภัณฑ์หรือต้องการฟีเจอร์เพิ่ม โปรดเขียนมันไว้ในช่องความคิดเห็น ทีมงานของเราจะช่วยคุณ
GOLD, (XAUUSD) TF : 30#โพสแรกของปี
จริงแล้วทางเพจเรากะว่าจะเปิดตัวด้วยคลิปวิเคราะห์ทองคำ
ใช่ครับ...ทางเพจเราจะกลับมาวิเคราะห์ทองคำเป็นคลิปให้ครั้ง
และหลังจากนี้ เพจเราจะมีการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง รอติดตามกันได้เลยครับ
.
#XAUUSD : TF 30
.
XAU/USD (ทองคำ) : หลังจากที่ราคาทองคำ โดนเททิ้งลงมาอย่างต่อเนื่อง มีนักลงทุนบางท่านพอร์ตระเบิดไปหลายราย บางคนเปิด Order มาถูกทางก็มีกำไรพอที่หยุดเทรดได้หลายเดือน แต่คนที่โดนนะครับ ถ้าคุณพร้อมที่จะเริ่มใหม่ ผมก็พร้อมที่จะพาคุณกำไรไปตลอดทั้งปี
.
พูดถึงแพทเทิ้ลของทองคำตอนนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นการลงในรูปแบบ Impulse Wave ซึ่งจะเกิดตอนที่เป็น Wave 3 หรือ Wave 5 (Running Flat) นั่นหมายความว่าตอนนี้ทองคำกำลังลงด้วย รูปแบบ Elloitt Wave แบบชัดเจน และถ้าเราพิจารณาจากกราฟที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้
คำตอบที่เราได้คือ... ทองคำยังลงไม่จบ
ใช่ครับ ... เรายังอยู่ใน Down trend เต็มตัว มีโอกาสที่ราคาทองคำยังลงได้อีกและอาจจะหลุด Low จนเกิด Lower Low เลยก็ว่าได้
.
แต่ภาพใหญ่ใน TF : Day ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว กลับเป็นเรื่องดีซะด้วยซ้ำ เพราะเป็นการลงของ Wave 2 ใน Next Degree Wave 5 ใหญ่ นั่นหมายความว่าการลงของทองคำรอบนี้ถ้าไม่หลุด Low ใน TF : Day ( 1764 ) จะเป็นการยก Low และเข้าสู่สถานะของ Wave 2 เล็กทันที และนั่นหมายความว่า ทองคำจะขึ้นยาว หลังจากจบการลงครั้งนี้
.
แล้วเงินที่ไหลเข้ามาในทองคำ จะมาจากไหน
มาหาคำตอบกันในโพสหน้า
.
ผู้เล่นที่ได้เปรียบตอนนี้จะเป็นผู้เล่นฝั่ง :
Buy เมื่อราคายืนเหนือ 1850
Sell เมื่อราคาต่ำกว่า 1840
.
#เทรดอย่างมีสติแผนต้องชัดถ้าไม่ชัดถอยออกมาก่อน
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
จับตาผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบๆ การซื้อขายหุ้นเป็นไปแบบไร้ทิศทาง ดัชนีตลาดปิดที่ 1,536.49 จุด ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.05 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9.38 หมื่นล้านบาท นักลงทุนรายบุคคลเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก แต่ภาวะซื้อมากเกินและสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงความเสี่ยงช่วงปลายตลาดขาขึ้น
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ (11/1) ตลาดปรับตัวลดลงหลังอัตราผลตอบพันธบัตรสหรัฐฯปรับขึ้น แนวโน้มดอกเบี้ยที่สูงขึ้น จะทำให้เม็ดเงินลงทุนไหลออกจากตลาดทุนและตลาดทองคำ ด้วยความหวังว่าวัคซีนโควิดจะหนุนให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตา
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,550 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Spinning Top ในเขตซื้อมากเกิน และสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงความเสี่ยงช่วงปลายตลาดขาขึ้น ระยะสั้นจึงควรระวังดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ เพราะจะเป็นสัญญาณถึงการปรับตัวลง ระยะยาวดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น สอดคล้องกับการเรียงตัวของเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้น (Bull Market) และจะทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,481 – 1,408 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดแกว่งตัวผันผวนหลังปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,550 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse eave) คลื่น 1 และกำลังพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 2 ที่มีแนวรับเป้าหมายอยู่ที่ 1,388 จุด, 1,350 จุด และ 1,311 จุดตามลำดับ กรณีที่ดัชนีตลาดจบคลื่น 2 ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่น 3 ซึ่งมีเป้าหมาย 100% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,673 จุด
(แนวรับที่ได้เกิดจากนำจุดต่ำที่ 1,187 จุด กับจุดสูงที่ 1,512 จุด มาวิเคราะห์ด้วยหลักการ Fibonacci Retracement
หมายเหตุ 61.8% FR = 1,388 จุด, 100% FR = 1,350 จุด และ 161.8% FR = 1,311 จุด)
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก โดยสัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัว โดยระยะยาวดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,548 – 1,560 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,521 – 1,512 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ถือพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 60 เปอร์เซ็นต์
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
ทำไมเราถึงไม่สามารถถือ BTC + Altcoins เพื่อกระจายความเสี่ยงได้?ความน่าเบื่อของตลาดคริปโตอย่างนึง ที่ผมเจอและเห็นมาตลอดคือ..
"เมื่อไหร่ Bitcoin ร่วงลงแรง -- พวกเหรียญอื่นๆ จะร่วงกันแรงยิ่งกว่า"
นั่นก็คือ หมายความว่า ตลาดนี้ ทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับ Bitcoin และ Bitcoin เท่านั้น
เหรียญอื่นๆ เป็นแค่ตัวหลอก ที่จะทำให้ท่านเสียเงินโดยใช่เหตุ
เพราะคุณแทบจะไม่สามารถหลบการร่วงของราคาได้เลย ถ้า Bitcoin ลงแรง
ตัวอย่างเช่น รอบนี้ ( วันนี้ ที่ 12/1/2021 )
BTC -13.89%
ETH -21.84%
XRP -12.34% ( ทีงี้ล่ะสู้งาน 55 )
LTC -25.76%
ADA -15.38%
และอื่นๆ อีกมากมาย
เห็นไหมครับว่า สุดท้ายแล้ว เหรียญอื่นๆ ดันร่วงหนักกว่า Bitcoin เป็นส่วนใหญ่ ซะงั้น..
ซึ่งมันต่างจากหุ้นตรงที่ว่า... ถึงแม้ว่า วันนี้ตลาด จะทุบ Tesla แต่ว่า ในทางกลับกัน หุ้น NIO ก็อาจจะไม่ลงตามไปด้วยก็ได้
ดังนั้น มันทำให้เราสามารถ diversify portfolio โดยการเข้าหุ้นหลายตัวได้ เพื่อลดความเสี่ยง
ต่างกับคริปโตที่ .. ถ้าเราไป diversify ด้วยการเข้า Bitcoin และ Altcoins อื่นๆ กลับจะทำให้พอร์ตภาพรวมของเราโตได้ไม่เต็มที่ และสูญเสียมากกว่าเดิม ถ้า Bitcoin ร่วงด้วยซ้ำไป..
ดังนั้น ผมก็ขอให้ทุกๆ ท่านมองตลาดคริปโตว่า มันคือ "สินทรัพย์เสี่ยง" ตัวหนึ่ง
และนำเงินแค่เล็กๆ น้อยๆ เพียงไม่กี่ % ของ Portfolio การลงทุน มาเข้า Bitcoin เท่านั้น เช่น 3-5% เป็นต้น
เพราะอย่างที่เห็นว่า บทมันจะแกว่งลง มันก็แกว่งลงแรง และถ้าใครไปเข้าด้วยเงิน 100% ของพอร์ต.. ผมรับรองว่า.. Mindset จะพังแน่นอนครับ






















