ตลาดมันมีขึ้น ก็มีลงจริงๆ หลายๆ คนชอบประมาท โดยเฉพาะมือใหม่ ที่คิดว่า ตลาดนี้จะมีแต่ขึ้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อย่างเดียวไม่มีลง.. มาดูหุ้น FOMO เป็น Case Study กันดีกว่า ตัวนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ZOOM โดย Zoom ขึ้นไปทั้งหมด ตั้งแต่ Action Zone Week เริ่มเขียว ประมาณ 500% โดยใช้เวลาการขึ้นทั้งสิ้น ประมาณ 8 เดือน แต่อะไรที่มีขึ้น ก็มีลง เป็นเรื่องปกติ...
นั่งหาหุ้นที่ลงลึกๆ ตามหลักวิชาการหาหุ้นบนยอดหย้า โดดลงมาจะได้ไม่เจ็บ สำหรับ GILD ตัวนี้ ถือว่า ย่อได้ที่ พอสมควร ในภาพใหญ่ๆ เลย เพราะลงจากดอยสูงชันมาแตะ 0.618 พอดี และทดสอบสองทีแล้วเด้งกลับ ถ้าเสี่ยงตรงนี้ก็ SL นิดเดียว หลุด low ก็หนี แต่ถ้าระยะยาวมันขึ้นจริงก็ถือกันไปยาวๆ ไม่ต้องขาย ลองดูครับ
ตามสูตรของการเข้าซื้อด้วยจุด RR ที่ดี ตอนนี้ SNOW ถือว่าเป็นหุ้นตัวที่ RR ดีมากๆ ครับ โดยถ้าเราเข้าตรงนี้ SL เราจะต่ำต้อยแค่ -20% เท่านั้นเอง ( Low ของ Low สุดกราฟของมัน ) แต่ Upside potential มีมหาศาล ถือให้ลูกให้หลานกันไปเลย ถ้าไม่หลุด low ก็ไม่ต้องขาย สวยครับ ลองดูครับ
X ( United State Stell Corp. ) มาทรงเดียวกับทองเลย คือ เริ่มปี 2021 มาก็ Break Out Trendline ขาลง ผมไล่ดู commodities หลายๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็น ทอง, เงิน, ข้าวสาลี ตอนนี้ก็ทำทรง Break Out Trendline ขาลงกันหมด โดยรอบนี้ ถ้านี่คือการ continue uptrend จริงๆ เราจะเห็นเป้าถัดไปของการขึ้นรอบนี้อยู่ไกลมาก โดยเป้าแรก 1.618 จะอยู่ที ประมาณ 36$ ( 100% ) โดยมี RR สูงถึง...
ตามรูปเลยครับ รอบนี้ BABA ดูทรงแล้วเป็นการย่ำฐานที่น่าสนใจ เพราะถ้าเราเสี่ยงเข้าแถวนี้ ตัว SL เราแค่ -10% ถึง -12% แค่นั้นเอง (Risk) แต่ upside potential ( reward ) สูงมากๆ เข้าแล้วถือกันไปยาวๆ ครับ เป้า new high โน่นเลยแหละ แถวๆ 450$ ( +88% ) RR = 7.7
เนื่องจากผมนั่งคิดๆ อะไรออก ก็พิมพ์ ออกมาเรื่อยๆ ทำให้บางทีหัวข้อมันกระจัดกระจาย ไม่ group สวยเท่าไหร่ และตอนนี้ก็เหมือนจะยังใส่ไม่ครบด้วย แต่วันนี้ขี้เกียจคิดละ ปวดหัว เอาเท่านี้ก่อนล่ะกัน 555 ก็เป็นข้อคิด และสิ่งที่เจอมา ตลอดการนั่งเทรดมาสองปีครึ่งนะครับ ซึ่งอาจจะถูกบ้าง ผิดบ้าง แต่ก็เป็นสิ่งที่ผมเจอมา และพยายามที่จะยัดพวกแนวคิดเหล่านี้เอาไว้ในสมองของผม...
วันนี้เป็นวันที่ บ้า และ FOMO ที่สุดแล้วมั้ง ในรอบหลายๆ เดือน ของตลาดคริปโต ตั้งแต่รอบล่าสุด ตอน Oct 2019 คือแท่ง สีจินผิง สองวัน +43% .. ทำเอาหลายๆ คนหมดตัวจากการถัว short หรือไม่ยอม stop short จนโดนลากไปล้างพอร์ตกัน รอบนี้ ถ้าให้ผมมองแบบตรงๆ ที่มันขึ้นมาขนาดนี้ ส่วนนึงก็เพราะแท่งที่มีการเปิดขึ้นมาจาก 8000 ไป 8400 ตอนเช้าวันที่ 14/1 ที่ลากขึ้นมาทะลุ trendline...
[ Repost จากของเก่า แต่ก็เหมือนจะใช้กับสถานการณ์ช่วง fomo 30k ได้อยู่นะ 555 ) ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ ผมสังเกตุได้ว่า ใน group ใหญ่มีสมาชิกใหม่เข้ามาเยอะมากๆ และส่วนใหญ่ ก็เข้ามาแบบ no idea เกี่ยวกับ Bitcoin หรือ การลงทุนโดยภาพรวมเลยแม้แต่น้อย .. จริงๆ ผมก็ค่อนข้างแปลกใจนะ ที่อยู่ๆ ในช่วงตลาดร่วงหนักแบบนี้..แทนที่หลายๆ คนจะกลัว .....
ผ่านไปแล้วกับ Bitcoin Halving ครั้งที่ 3 ในปี 2020 ที่ชาวคริปโตฯ ตื่นเต้นกันมาตั้งแต่ปี 2019 ว่า Bitcoin จะ Moon ไปเป็นระดับ 100,000 ตามที่ Stock to Flow Model ได้ทำนายไว้ ซึ่ง หลายๆ คนก็ใช้ไอ้ S2F Model เนี่ยแหละ ในการเอามาอ้างว่า เดี๋ยวราคามันก็จะต้องขึ้นไปตามนี้ “อย่างแน่นอน” ซึ่ง...ไอ้ความอย่างแน่นอน เนี่ยแหละ ที่มันคาใจผมมาก 555 เพราะพอเริ่มศึกษาการเทรด...
ในวันที่ 12-13/3/2020 ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ที่น่าจะถือเป็นหนึ่งหน้าในประวัติศาสตร์ของ Bitcoin กันเลยทีเดียว นั่นก็คือ ราคา BTC ร่วงลงมาจาก 8000 ลงมาถึง 3600 ( ประมาณ -55% ) ในเวลาแค่ 28 ชั่วโมง โดยผมได้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ตลอดการทุบแรงทั้งสองรอบ ซึ่งก็บอกได้เลยว่า... ผมเองนั้นก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์ทุบที่เร็วและแรง แบบนี้มาก่อน...
* ผ่านไปอีก 1 ปี สำหรับชีวิตการออกมาเป็นเทรดเดอร์ + โค้ช แบบ Full-time ของผม รวมสิริเวลาก็ 3 ปีกว่าๆ แล้วครับ ผมยอมรับว่า ปีนี้ เป็นปีที่ผมได้ตกผลึกข้อผิดพลาดที่เจอมาตลอด 2 ปีกว่า ทำให้ปีนี้สามารถเทรดแล้ว "มีกำไร" เกินเป้าที่ตั้งไว้ได้ อย่างค่อนข้างมาก โดยได้กำไรมาทั้งหมด 52% จากเป้าที่ตั้งไว้ 20% ครับ * ผมเลยขอมานั่งเรียบเรียงและสรุปบทเรียนทั้งหมด ที่สำคัญๆ...
* เห็นเพจ ข่าวเพจนึง ขึ้นต้นด้วย ล ลงท้ายด้วย น มีหุ่นยนต์เป็นแมสคอท ( ไม่กล้าพิมพ์ชื่อเดี๋ยว mod tradingview มาแบนบทความผมอีก ) เขาทำ podcast แต่ก็ฟังผ่านๆ อ่ะนะ ขี้เกียจ 555 ผมก็เลยขอเอามาทำสรุปในแบบของผมบ้างดีกว่า ว่า เราได้เรียนรู้อะไรจากเคสนี้กันบ้าง.... เทพคอยน์จะเล่าให้ฟัง ( ขอก๊อปหน่อย 555 ) ----------- "อะไรก็ตามที่มันราคาขึ้นรัวๆ +...
วันนี้หุ้น DELTA ก็ทำทรง ดีด ด้วยความ FOMO สุดๆ และทุกเพจมีแต่เอา "ผลลัพธ์" ที่เกิดขึ้นไปแล้วมาลงกันใหญ่ แต่สำหรับผม ผมมองว่า ดูผลลัพธ์ไปก็เท่านั้น เราไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย ได้แต่นั่งมองแล้วก็บ่นว่า "รู้งี้นะ จะ ขายบ้านขายรถ มา All-in!" แต่ถามว่า "เอ้า แล้วทำไม ตอนมันยังไม่ขึ้น ไม่ซื้อกันล่ะ? จะมารู้งี้อะไรตอนนี้ 555" หลายๆ คนก็ตอบไม่ได้ว่า ทำไมตอนนั้น...
ในที่สุด วันนี้ ทอง ก็มีสัญญาณ "ซื้อ" จากระบบ Action Zone ( MACD ตัดศูนย์ ) โดยเป็นเขียวแรก หลังจากแดง + ซึมมานานตลอด 4 เดือน ปกติแล้ว การที่ระบบเขียวแรก หลังจากซึมมานาน มักจะเป็น "เขียวจริง" ... คือ ขึ้นจริง แต่หลายๆ คนก็มักจะ "ไม่เชื่อ" ว่ามันจะขึ้นจริง และมองว่า "เขียวหลอกอีกละ เดี๋ยวก็ลง ไม่ตามร้อก" สุดท้าย พอมันวิ่งไปจริง วิ่งไปแรง...
มีขึ้น ก็ย่อม ต้องมีลง มีความสุข ก็ย่อม ต้องมีทุกข์ มีกำไร ก็ย่อม มีขาดทุน มีเงามืด ก็ย่อมมี แสงสว่าง ทุกอย่างล้วนเป็นของคู่กัน.. แต่ทว่า .. มือใหม่ ที่เพิ่งเข้ามาเทรดในช่วงระยะเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ เจอตลาดสปอย แจกกำไร กันง่ายๆ จนน่าเหลือเชื่อ แค่ซื้อ..แล้วก็ถือไว้นิ่งๆ... สักพัก เดี๋ยวก็มีกำไรขึ้น อีกหลายเปอร์เซ็น ทุกอย่างมันง่าย...
BYND หรือ Beyond Meat บริษัทที่ผลิตเนื้อสัตว์จากพืช โดยรสชาดเหมือนเนื้อจริงๆ ผมเคยนั่งดู Youtube เกี่ยวกับบริษัทนี้ ก็น่าสนใจดี เพราะคนที่ไปกินแฮมเบอร์เกอร์ที่ทำจากบริษัทนี้ บอกว่า แยกไม่ออกเลยว่าเป็นเนื้อจริงหรือเนื้อปลอม 55 สำหรับหุ้นตัวนี้ หลังจากขึ้นไปแล้ว ก็ร่วงกลับลงมาใหม่ แต่ว่า ถ้าดูตามกราฟ จะเห็นว่า ที่ผ่านมา เรามีการย่ำฐานตรง 120$ มาตลอดทั้งปี...
หุ้น NIO หุ้น EV ( รถไฟฟ้า ) จากจีน ที่ขึ้นมาโคตรๆ ร้อนแรงเมื่อตอนช่วงกลางปีนี้ โดยขึ้นมาระดับ 1700% ในเวลาแค่ 7 เดือน ( แต่สื่อหลายๆ สื่อก็ไม่ลงข่าว ไม่เหมือนกับ Bitcoin ขึ้นมานิดเดียวลงข่าวกันแบบระเบิดระเบ้อมาก 555 ) ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ได้มีการ correction เขย่าเม่า ที่ค่อนข้างรุนแรง...
จากการมาลองใช้ platform เจ้าหนึ่ง ที่สามารถเทรดสินค้าต่างๆ ทั่วโลกได้ ทำให้ผมเปิดโลกมากๆ ครับ โดยตอนนี้ก็ได้ลองใช้วิชาดูกราฟต่างๆ จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอด 3 ปี ในตลาดคริปโต มาลองหากราฟของ Asset ต่างๆ ที่ Risk : Reward สวยๆ และลองเข้าดูครับ อย่างรอบนี้ ผมกดหา Asset ต่างๆ ไปเรื่อยๆ ก็พบกับตัวที่น่าสนใจ นั่นก็คือ WEAT Fund ครับ โดย Fund ที่ว่านี่ก็คือตัว ETF...