𝐊𝐒_𝐍𝐯𝐢𝐝𝐢𝐚_𝐄𝐚𝐫𝐧𝐢𝐧𝐠𝐬 𝐑𝐞𝐬𝐮𝐥𝐭 𝟐𝐐'𝐅𝐘𝟐𝟔💡 𝐁𝐮𝐲 𝐨𝐧 𝐝𝐢𝐩 คงคำแนะนำซื้อ 𝐊𝐊𝐏 𝐓𝐄𝐂𝐇-𝐔𝐇 สำหรับการลงทุนเป็น 𝐒𝐚𝐭𝐞𝐥𝐥𝐢𝐭𝐞 𝐏𝐨𝐫𝐭𝐟𝐨𝐥𝐢𝐨 ในระยะ 12 เดือนข้างหน้า
Nvidia รายได้ Data Center ต่ำคาด แต่อาจ Ramp ขึ้นใน Q3 ราคาหุ้นปรับตัวลงราว 3% After hours
• Nvidia รายงานผลประกอบการ 2Q’FY26 ที่ยังเติบโตโดดเด่น แม้เผชิญแรงกดดันจากข้อจำกัดการส่งออกชิปไปจีน รายได้รวมอยู่ที่ $46.74 bn (สูงกว่าคาด $46.23 bn) และกำไรต่อหุ้น $1.05 (คาด $1.01) แต่รายได้จาก Data Center อยู่ที่ $41.1 bn (ต่ำกว่าคาด $41.29 bn) เพราะกลุ่ม Compute ได้รับผลกระทบจากตลาดจีน ($33.84 bn ต่ำกว่าคาด $34.19 bn) ขณะที่กลุ่ม Networking กลับทำได้ดีมาก $7.25 bn (มากกว่าคาด $5.07 bn) เติบโต 98% YoY จากความต้องการโซลูชัน rack-scale ที่ต้องใช้ Networking เชื่อมต่อระหว่าง Rack/datacenter ในกลุ่ม hyperscaler รายใหญ่ เช่น AWS, Google Cloud, Microsoft Azure และ CoreWeave
• แรงขับเคลื่อนหลักในไตรมาสนี้มาจากการเร่งลงทุน Reasoning/Agentic AI ของลูกค้ากลุ่ม Cloud และ Enterprise ที่ต้องการประมวลผล LLM ขนาดใหญ่ ส่งผลให้รายได้จาก Blackwell เติบโต 17% QoQ โดยเฉพาะ Blackwell Ultra (GB300) ซึ่งขณะนี้ ramp-up การผลิตเต็มกำลัง, ส่งมอบให้ CSP ระดับโลกแล้วสัปดาห์ละ 1,000 racks และเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาสนี้ โดยยอดจองเต็ม capacity และจะเร่งส่งมอบมากขึ้นอีกใน Q3 นำโดย CoreWeave ที่เป็น early adopter ทั้งนี้ OPEX และ Inventory เพิ่มขึ้นเพื่อตอบรับการ ramp-up Blackwell Ultra รองรับดีมานด์ที่ยังล้นตลาด ขณะเดียวกัน Gaming โต 49.7% YoY และ Automotive/Robotics โต 69% YoY จากกระแส AI PC และเทรนด์รถยนต์อัตโนมัติ
• สำหรับแนวโน้มข้างหน้า Nvidia ให้ Guidance Q3 เป็นบวก คาดรายได้ $54 bn (±2%) สูงกว่าคาด $53.46 bn และ Gross Margin ฟื้นตัวที่ 72.7% จาก 71.3% ไตรมาสก่อนหน้า โดยมีเป้าหมายแตะระดับกลาง 70% ในช่วงปลายปี นอกจากนี้ การเร่งลงทุน AI Infrastructure ของ hyperscaler รายใหญ่ดัน CAPEX อุตสาหกรรมแตะ $600 bn/ปี และคาดว่าจะเพิ่มเป็น $3-4 tn ใน 5 ปีข้างหน้า สำหรับรายได้ใน Q3 อาจมี Upside ขึ้นอีกหากข้อจำกัดการส่งออกไปจีนคลี่คลาย ซึ่งอาจเพิ่มรายได้ $2-5 bn พร้อมกันนี้ Nvidia ยังเดินหน้าเตรียมผลิต Rubin platform รุ่นใหม่ในปีหน้า เพื่อรองรับคลื่นความต้องการ AI ที่ยังขยายตัวต่อเนื่องทั่วโลก
💡 𝐈𝐦𝐩𝐥𝐢𝐜𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧
• เรามองผลประกอบการของ Nvidia ออกมาค่อนข้างดี แม้รายได้ Data Center จะต่ำกว่าคาดเล็กน้อย แต่หากดูรายละเอียดจะเห็นว่าถูกฉุดจากฝั่ง Compute (ชิปประมวลผล) ซึ่งได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดในจีน ขณะที่รายได้จาก Networking (อุปกรณ์เชื่อมต่อภายใน Rack/Data Center) กลับทำได้ดีกว่าคาดและเติบโตเกือบ 100% สะท้อนว่าดีมานด์ฝั่งการขายเป็น Rack ให้กับ Hyperscaler รายใหญ่ยังขยายตัวแรง แม้การขายชิปเดี่ยวไปจีนจะเจออุปสรรคก็ตาม
• นอกจากนี้ Nvidia ยังให้ Guidance รายได้ใน 3Q'FY26 ที่สูงกว่าตลาดคาด (ไม่นับรวม H20 ในจีน) และเติบโตจากไตรมาสก่อนอย่างมีนัยสำคัญ บ่งชี้การ Ramp up ที่จะเกิดขึ้นในไตรมาสถัดไป ขณะเดียวกัน Gross margin ก็ฟื้นตัวชัดเจน และมีเป้าหมายกลับสู่ 75% ในช่วงปลายปี ซึ่งสะท้อนว่าการเปลี่ยนผ่านจาก Hopper สู่ Blackwell เสร็จสมบูรณ์แล้ว ขณะที่การอัปเกรดจาก Blackwell ไป Blackwell Ultra จะ Seamless ยิ่งขึ้น เนื่องจากใช้สถาปัตยกรรมเดียวกัน นำไปสู่การเพิ่มศักยภาพกำไรและโอกาสการเติบโตต่อเนื่องในระยะถัดไป
• จากราคาหุ้นที่อาจปรับตัวลงในระยะสั้น แต่รันเวย์ระยะกลาง-ยาว ค่อนข้างชัดเจนว่าดี เราคงคำแนะนำซื้อ 𝐊𝐊𝐏 𝐓𝐄𝐂𝐇-𝐔𝐇 สำหรับการลงทุนเป็น 𝐒𝐚𝐭𝐞𝐥𝐥𝐢𝐭𝐞 𝐏𝐨𝐫𝐭𝐟𝐨𝐥𝐢𝐨 ในระยะ 12 เดือนข้างหน้า
𝐊𝐒 𝐖𝐞𝐚𝐥𝐭𝐡 𝐒𝐭𝐫𝐚𝐭𝐞𝐠𝐲
NVDAB ไอเดียในการเทรด
Trading Discipline ฝึก “วินัย” ไม่ใช่แค่ “กำไร”ฝึก “วินัย” ไม่ใช่แค่ “กำไร”
👹 เพราะกำไรจะไม่มีทางยั่งยืน ถ้าไม่มีวินัยที่มั่นคง คำนี้พูดกี่ทีก็เจ็บ แต่โดยส่วนใหญ่มักจะเจ็บแล้วไม่ค่อยจำ วันนี้แอดเลยมาช่วยเตือนเทรดเดอร์ทุกๆท่านกันฮะ ว่าทำแบบไหนเราจะไม่เจ็บแต่จำได้ด้วย จากบทความดีๆที่นี่
👉“การเทรดที่ดี ไม่ได้เริ่มจากการหาจุดเข้า แต่เริ่มจากการควบคุมตัวเอง”
เพราะในโลกของการเทรด ทุกคนต่างมีความหวังว่า…
1. จะทำกำไรให้ได้มากที่สุด
2. จะต้องเข้าออเดอร์ให้ได้แม่นๆสวยๆ
3. หรือจะต้องมีกลยุทธ์ลับที่ยังไม่มีใครรู้มาก่อน
👉👉แต่ความจริงอันโหดร้ายก็คือ ต่อให้กลยุทธ์ดีแค่ไหน ถ้าไม่มีวินัย คุณก็พังได้อยู่ดี
🎯 วินัยคืออะไรในโลกการเทรด?
วินัยการเทรด (Trading Discipline) ไม่ใช่แค่การทำตามแผน
👉 แต่มันคือ "การควบคุมตัวเอง" แม้ในเวลาที่เทรดเสีย และอารมณ์กำลังพุ่งพล่านที่สุด หรือเทรดได้กำไรมากที่สุด
ตัวอย่างของ “วินัย” ที่แท้จริง ได้แก่
ไม่เข้าออเดอร์นอกแผน แม้จะรู้สึกว่า “ถูกทางแน่ๆ”
ยอมคัทลอสเมื่อถึงจุดที่วางไว้ โดยไม่ฝืนรอ “เผื่อเด้งกลับ”
ไม่ revenge trade ไม่เติมเงิน ไม่แก้แค้นหรือเอาคืน แม้จะเพิ่งโดนล้างพอร์ต เพราะเทรดต่อยังไงก็หมด แล้วที่สำคัญ หมดตัวแน่นอนถ้าไม่หยุด
ไม่โลภเกินไปเมื่อกำลังได้กำไร
รู้จักหยุด เมื่ออารมณ์ไม่พร้อม
📉 เพราะกำไรคือ “ผลลัพธ์” ไม่ใช่ “เป้าหมาย”
เทรดเดอร์หลายๆคนมักตกม้าตายและพลาดกันตรงนี้แหละ
“โฟกัสแต่ผลกำไร จนมองข้ามพฤติกรรมของตัวเอง”
คนที่หมกมุ่นกับการเอาชนะตลาด มักจะเร่งรีบ
แต่ตลาดไม่เคยรีบ ตลาดรอคนที่ “ใจเย็นและมีวินัย” เสมอ
💡 ฝึกวินัย = ฝึกการยอมรับความไม่แน่นอน
ตลาดเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่จิตใจของนักเทรดต้อง “มั่นคงพอ” ที่จะอยู่ท่ามกลางความไม่แน่นอนนั้นได้
การมีวินัยคือ:
การยอมรับว่าเราอาจแพ้ และเตรียมรับมือได้เสมอ
การไม่ต้อง “เทรดทุกวัน” เพื่อพิสูจน์ตัวเอง
การเข้าใจว่า “บางวันไม่เทรด ก็ยังชนะตลาดได้”
✍️ แนวทางฝึกวินัยแบบใช้ได้จริง
เขียนแผนก่อนเทรดทุกครั้ง
วางแผนจุดเข้า จุดออก SL/TP ให้ชัด แล้ว “ห้ามเปลี่ยน” ระหว่างทาง
จำกัดจำนวนออเดอร์ในแต่ละวัน
เช่น วันละไม่เกิน 3 ไม้ เพื่อฝึก “เลือกเทรด” ไม่ใช่ “เทรดทุกจังหวะ”
รีวิวการเทรดทุกสิ้นวัน
ถามตัวเองว่า “วันนี้ฉันทำตามแผนไหม?” มากกว่าถามว่า “วันนี้กำไรเท่าไหร่?”
เทรดในบัญชีเดโมบ้างเป็นระยะ
เพื่อฝึก mindset ให้แยกตัวตนออกจากเงิน
ฝึกการ “ไม่ทำอะไร” เมื่อไม่มีสัญญาณ
ตลาดบางวันคือ “สนามซ้อมใจ” มากกว่าจะเป็นสนามหาเงิน
🧘♂️ กำไรไม่เคยชนะอารมณ์
👌 ถ้าคุณไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ อย่าหวังจะควบคุมผลลัพธ์ในตลาด
👌ตลาดไม่ได้ต้องการคนที่ฉลาดที่สุด แต่มันให้รางวัลกับคนที่ “นิ่งที่สุด” มากกว่า
👌และคนที่มีวินัย คือคนที่พร้อมจะยอมขาดทุนเล็กๆ เพื่อไม่ขาดทุนใหญ่ พร้อมจะรอจังหวะดีๆ แทนที่จะพุ่งเข้าไปด้วยอารมณ์
😊📈 อย่าเอา “กำไร” เป็นเป้าหมายเดียวในการเทรด แต่ให้ “วินัย” เป็นฐานของทุกการตัดสินใจ เมื่อคุณฝึกวินัยได้ กำไรจะตามมาเอง และที่สำคัญกว่านั้น...คุณจะเป็นคนที่มั่นคงขึ้นทั้งในตลาด และในชีวิตจริงด้วย
Momentum Indicators ตัวบ่งชี้โมเมนตัมคืออะไร และต่างกันอย่างไร?Momentum Indicators ตัวบ่งชี้โมเมนตัมคืออะไร มีอะไรบ้าง และต่างกันอย่างไร?
👹 กลับมากันอีกแลวกับบทความดีๆและเทคนิคการเทรดในหลายๆรูปแบบมาฝากกัน วันนี้แอดรื้อฟื้นกับความรู้เก่าๆเบสิคๆที่เราจำเป็นต้อง เผื่อใครบางคนยังหาทางออกให้กับกลยุทธ์การเทรดยังไม่เจอ มาครับ บทความนี้มีคำตอบ
👹ในโลกของการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) ตัวบ่งชี้โมเมนตัม (Momentum Indicators) ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนและเทรดเดอร์สามารถวัดความแรงหรือความเร็วของแนวโน้มราคาได้ ซึ่งช่วยในการตัดสินใจในการเข้า-ออกออเดอร์ได้แม่นยำยิ่งขึ้น
โมเมนตัมคืออะไร?
โมเมนตัม หมายถึง “แรง” หรือ “ความเร็ว” ที่ราคาของสินทรัพย์เปลี่ยนแปลง ตัวบ่งชี้โมเมนตัมจึงทำหน้าที่แสดงให้เห็นว่าราคากำลังเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด และมีแรงส่งมากน้อยแค่ไหน
👉หากโมเมนตัมสูง แสดงว่าแนวโน้มมีความแข็งแรง
👉หากโมเมนตัมเริ่มลดลง แม้ราคายังวิ่งต่อ ก็อาจบ่งบอกแนวโน้มกำลังอ่อนแรงและอาจกลับตัว
ตัวอย่างตัวบ่งชี้โมเมนตัมที่นิยม
1. Relative Strength Index (RSI)
ดัชนีเปรียบเทียบความแข็งแกร่ง (RSI) เป็นเครื่องมือที่แสดงถึงความแรงของการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง (โดยปกติคือ 14 วัน) เราสามารถปรับแต่งค่าได้ ตามที่เราต้องการ
ช่วงค่า: 0 – 100
ระดับสำคัญ:
RSI > 70 = เข้าสู่เขตซื้อมากเกินไป (Overbought)
RSI < 30 = เข้าสู่เขตขายมากเกินไป (Oversold)
👉 จุดเด่น: เหมาะสำหรับดูจังหวะกลับตัวของราคา เทรดสวนทาง
2. Moving Average Convergence Divergence (MACD)
ใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของราคาสองเส้น (EMA) มาคำนวณเพื่อหาทิศทางแนวโน้มและแรงโมเมนตัม โดยใช้เส้นค่าเฉลี่ยที่สามารถปรับแต่งได้ตามวันที่เราต้องการ
องค์ประกอบหลัก:
MACD Line = EMA(12) – EMA(26)
Signal Line = EMA ของ MACD Line
Histogram = แสดงความต่างของ MACD กับ Signal Line
การใช้งาน:
👉 MACD ตัดขึ้นเหนือ Signal Line = สัญญาณซื้อ BUY
👉 MACD ตัดลงใต้ Signal Line = สัญญาณขาย SELL
3. Stochastic Oscillator : SO
ใช้วัดระดับราคาปิดเมื่อเทียบกับช่วงราคาสูงสุด-ต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง
ช่วงค่า: 0 – 100
ระดับสำคัญ:
80 = Overbought
< 20 = Oversold
จุดเด่น: ให้สัญญาณการกลับตัวได้เร็ว เหมาะสำหรับตลาด Sideway
4. Rate of Change (ROC)
ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาตามสัดส่วนเมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนหน้า
วิธีคิด: (ราคาปัจจุบัน – ราคาในอดีต) ÷ ราคาในอดีต × 100
การใช้งาน:
ROC > 0 = ราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ROC < 0 = ราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง
สรุป
ตัวบ่งชี้โมเมนตัมเป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจแรงส่งของราคา ช่วยจับจังหวะซื้อ-ขายได้ดีขึ้น แต่ควรใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ และการวิเคราะห์เชิงพื้นฐาน เพื่อประกอบการตัดสินใจอย่างรอบคอบ
👿👿👿 เป็นอย่างไรกันบ้างครับ พอจะได้แนวทางในการวางแผนการเทรดกันบ้างหรือยังครับ ถ้ายังก็ลงใช้ให้ครบก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าเรานิยมและชมชอบแบบไหนที่สุด ที่สำคัญต้องตรงกับเทคนิคที่เราจะเทรดด้วยนะครับ แล้วอย่าลืมหมั่นฝึกฝนและเรียนรู้การเทรดในหลายๆแบบให้เข้าใจมากขึ้นนะครับ เพราะการเรียนรู้ไม่มีคำว่าสิ้นสุด แอดเอาใจช่วย แอดเชื่อว่าทุกคนทำได้ แค่เริ่มลงมือทำ สู้ๆฮะ
NVDA ราย 4H เส้นค่าเฉลี่ยตัดลงNVDA ราย 4H เส้นค่าเฉลี่ยตัดลง
ทั้ง 50/200 วัน บ่งบอกเป็นเทรนด์ลงระยะสั้น
โดยหากเด้งน้อยไม่ข้าม 112 หรือหลุด 104.72
ลงไปเลยจะมีแนวรับถัดไปคือ 97
กลับกัน หากเด้งแรงๆ ก็มีโอกาสขึ้นทดสอบ 122 ก่อนลงต่อได้
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเพจไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
4. ผลตอบแทนในอดีตที่ผ่านมา ไม่สามารถวัดหรือการันตีผลตอบแทนในอนาคตได้ว่าจะดีเหมือนในอดีตหรือไม่ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องเข้าใจหลักและวิธีการเงื่อนไขการลงทุน และผลตอบแทน ความเสี่ยงที่ได้รับก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
NVDA, Time Frame 60M. มีแนวรับห้ามหลุด 129NVDA, Time Frame 60M.
มีแนวรับห้ามหลุด 129 ซึ่งถ้าไม่หลุดก็จะเด้งกลับขึ้นต่อได้ โดยมีเป้าแนวต้านที่ 141, 150 ตามลำดับค่ะ
ท่านไหนรอซื้อให้รอลงมาใกล้ๆแถวแนวรับ 129 และวาง stop loss หากหลุด 129
Disclaimer คำเตือน
1.โพสต์นี้เป็นการแชร์มุมมองเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พฤติกรรมการทำราคาของกราฟเทคนิคคอลเท่านั้น (For Educational purposes only) และ ผู้เขียนไม่ใช่ (Financial advisor nor a CPA)
2.ทางเพจไม่ได้มีเจตนาชี้แนะหรือชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด (I am sharing my opinion with no guarantee of investment gains or losses.)
3.ผู้ลงทุนควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนก่อน และตัดสินใจการลงทุนเอง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง (Investing of any kind involves risk. While it is possible to minimize risk, your investments are solely your responsibility. You must conduct your own research.)
Stock Analysis - NVDA (Nvidia)ที่สนใจหุ้นตัวนี้มี 2 ปัจจัยคือ
1. ปัจจัยทางพื้นฐาน : เราจะเห็นจาก indicator EPS ด้านล่างได้ว่ามีการเติบโตอย่างสม่ำๆ และ PE ปัจจุบันเมื่อเทียบกับอดีตของมันเองอยู่ในโซนต่ำ ทำให้มองว่า Upside ทางราคาหากคาดการณ์ Fair Price ด้วย PE กับ EPS
2. ปัจจัยทางเทคนิคกราฟ : ราคาจากกราฟนั้นในภาพ Week ราคาได้มี Throw back ลงมาที่แนวต้านในอดีตที่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นโซนแนวรับ และราคาก็ออกข้าง ในส่วนของภาพที่เล็กลงมา TF-Day นั้นปัจจุบันราคาก็อยู่ในโซนของ Lower Band ด้วยหากนำ Bollinger Band มาช่วยสังเกตุ
โดยมีการคาดหวังราคาเป้าหมายอยู่ที่แนวจากปัจจัยพื้นฐานจากการประเมินว่าหาก EPS ในครั้งถัดไปโตขึ้นมาอีก 10 / 15% และ PE ขึ้นมาที่ 61 / 66 นั้นจะมีเป้าหมายราคาตามแนวที่อยู่ในกราฟ แต่หากนำเป้าหมายทางเทคนิคจากการตี Fibonacci มาประกอบด้วยจะมีแนวที่ทับซ้อนกันที่ระดับราคา 170-172 และ 186-190
Nvidia พุ่งทะยาน: มูลค่าบริษัทสูงที่สุดในโลกNvidia กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกที่ $3.34 ล้านล้านดอลลาร์ หุ้นเพิ่มขึ้นกว่า 1,100% ตั้งแต่ต.ค. 2022 และกว่า 170% ในปีนี้ จากความต้องการ AI ที่เพิ่มขึ้น Nvidia มีการเติบโตของรายได้ต่อเนื่องถึงหกไตรมาส แม้มีความเสี่ยงจากการแข่งขันกับบริษัทอื่น ในระยะสั้นแนวโน้มยังเป็นบวก หาก Fed ผ่อนคลายมาตรการทางการเงินจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับหุ้นนี้
มุมมองทางเทคนิค
ราคาหุ้นของ Nvidia ได้ทะลุแนวเส้นขอบช่องขาขึ้น ล่าสุดราคาผ่านระดับ 117.01 ซึ่งเป็นจุดสำคัญ หากราคายังคงสูงกว่าระดับนี้ การเคลื่อนไหวขึ้นยังคงเป็นไปได้ต่อไป แต่ถ้าราคาหลุดต่ำกว่าระดับนี้ จุดสนับสนุนถัดไปจะอยู่ที่ 97.31 และแนวเส้นขอบช่องขาขึ้น
NVIDIA อาจไปต่อ แต่ไม่น่าซื้อแล้วอะจากการ backtest ส่วนตัวพบว่า NVIDIA มักมีพฤติกรรม extend ในขาขึ้นเยอะและบ่อยมาก
ผ่าน elliott wave บางจุดค่อนข้างตีกราฟยากพอสมควร แต่ในคลื่นก่อนหน้านี้จะเป็นคลื่น 5
ที่เป็นการ retracing แบบ equal to wave 1 or 61.8% of wave 1+3
นั่นคือการขึ้นของ wave 5 จะขึ้นไปสูงพอสมควร หากมองจากกราฟปัจจุบันที่มันขึ้นมาสูงมากๆ แล้ว
ถามว่าขา buy เสี่ยงมั้ย ? ก็เสี่ยงอยู่ แต่คล้ายว่าตลาดยังไม่วาย
ถามว่าขา sell มีโอกาสมั้ย ? ใช่เลย แต่ลอง backtest ดูพฤติกรรมคลื่นก่อนหน้าก็น่ากลัว
แต่ถ้าถามว่าส่วนตัว ผมอยากจะเทรดแบบไหนผมมองแบบนี้ครับ มันจะเลียนแบบ pattern เดิม
คือจบ wave 5 ด้วย retracing แบบ equal to wave 1 or 61.8% of wave 1+3 จะมีจุดเข้า action ดังนี้
Sell : แถว ๆ 613 โดยประมาณ เพราะภาพไกลมากไม่ชัดเจน
SL : แถว 674
TP : แถว 380
และบทวิเคราะห์นี้เป็นเพียงบทวิเคราะห์สำหรับ swing trade ระยะกลางยาว ซึ่ง wave 3 ขอให้นักลงทุนหรือเทรดเดอร์ทุกท่านประเมินความเสี่ยง และป้องกันความเสี่ยงตนเองให้ดีครับ ขอให้รวยๆ กันทุกคนครับ
Nvidia ดึงความสนใจกลับมาที่การเลือกหุ้นของ Pelosiการลงทุนในหุ้นโดยประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกา Nancy Pelosi และสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้ร่วมทุน Paul Pelosi กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งหลังจากหุ้นของ Nvidia (NASDAQ: NVDA ) ลดลงอีกครั้งหลังจากที่ทั้งคู่ลดความสนใจในบริษัทเซมิคอนดักเตอร์
เปโลซีเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรหญิงคนแรกของสหรัฐฯ และเป็นรองประธานาธิบดี (รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส) เมื่อพิจารณาถึงตำแหน่งที่เปิดเผยต่อสาธารณะแล้ว ประเด็นด้านการเงินของเธอและโดยการขยายความของสามี มักจะดึงดูดความสนใจเสมอ
ในเดือนกรกฎาคม ทั้งคู่ขายหุ้น Nvidia 25,000 หุ้นในธุรกรรมมูลค่าระหว่าง 1 ล้านดอลลาร์ถึง 5 ล้านดอลลาร์ หุ้นถูกขายที่ 165.05 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสะท้อนถึงการสูญเสีย 340,000 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 1 กันยายน Nvidia ลดลง 18.3% และหากไม่ใช่สำหรับการทำธุรกรรมในเดือนกรกฎาคม Pelosis จะสูญเสีย 753,000 ดอลลาร์แพลตฟอร์มข่าวกล่าวเสริม
แม้ว่าการตัดสินใจอาจเกิดจากสัญชาตญาณของนักลงทุนที่ดี แต่การโต้เถียงกลับถูกทำลายลง การยื่นร่างกฎหมายในสภาคองเกรสและการเยือนไต้หวันทำให้ยากขึ้นที่จะขจัดข้อโต้แย้งบางอย่างไว้ใต้พรม
สารกึ่งตัวนำ Boost
Paul Pelosi ลงทุนใน Nvidia เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนโดยใช้สิทธิในการเรียกหุ้น 200 รายการสำหรับหุ้นในบริษัทในราคา 100 ดอลลาร์ต่อหุ้น การทำธุรกรรมดังกล่าวยังมีมูลค่าระหว่าง 1 ล้านดอลลาร์ถึง 5 ล้านดอลลาร์..
เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่กฎหมาย CHIPS ได้รับการอนุมัติในสภาคองเกรส ร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งประธานาธิบดีไบเดนลงนามในกฎหมายเมื่อเดือนสิงหาคม มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างการผลิต การออกแบบ และการวิจัยเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ ตาม TechRepublic กฎหมายจะให้เงิน 52 พันล้านดอลลาร์สำหรับสิ่งจูงใจในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และการลงทุนด้านการวิจัย รวมถึงเครดิตภาษีการลงทุน 25% สำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับบริษัทต่างๆ เช่น Nvidia
Charles Gasparino คอลัมนิสต์ของ New York Post ระบุว่าการลงทุนนี้เป็น "โฮมรันล่าสุด" สำหรับ Pelosi ซึ่ง Gasparino เขียนว่า "ได้ฆ่ามันในตลาดหุ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา" ซึ่งชนะบริษัทต่างๆ ที่ได้รับประโยชน์จากกฎหมายของรัฐบาล
สภาคองเกรสเปโลซีสนับสนุนพระราชบัญญัติ CHIPS หลังจากการขายในเดือนกรกฎาคม ผู้คนเริ่มร้องเพลงที่แตกต่างกันซึ่งอาจทำธุรกรรมเพื่อบรรเทาข้อกังวลด้านผลประโยชน์ทับซ้อน
หรืออาจเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดอีกอย่างหนึ่ง Nvidia ร่วงลงเกือบ 3% เมื่อปิดการซื้อขายเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา โดยอยู่ในภาวะขาดทุนในสัปดาห์นั้น ซึ่งน่าจะเกิดจากการที่รัฐบาลสหรัฐฯ จำกัดการขายของบริษัทไปยังประเทศจีน
อีกเหตุการณ์หนึ่งที่เชื่อมโยงประธานสภากับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์คือการไปเยือนไต้หวันในวันที่ 2 สิงหาคม การเยือนจีนตามรายงานของ BBC นั้น "ถูกประณามอย่างรุนแรง" โดยเกี่ยวข้องกับการพบปะกับ Mark Liu ประธานผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก ไต้หวัน Semiconductor Manufacturing Co. หรือ TSMC (TPE: 2330)
การลงทุนอื่นๆ
นอกเหนือจาก Nvidia แล้ว บริษัท Pelosis ยังมีการลงทุนอื่นๆ ในบริษัทมหาชนอีกด้วย Business Insider รายงานในเดือนกรกฎาคมว่าพวกเขามีหุ้นในบริษัทต่างๆ ได้แก่:
อัลไลแอนซ์เบิร์นสไตน์ (NYSE: AB),
คลาส A (NASDAQ: GOOGL ) และหุ้น C (NASDAQ: GOOG ) ของ Alphabet
Amazon.com (NASDAQ: AMZN ),
อเมริกัน เอ็กซ์เพรส (NYSE: AXP ),
แอปเปิล (NASDAQ: AAPL ),
เทคโนโลยีไมครอน (NASDAQ: MU)
ไมโครซอฟท์ (NASDAQ: MSFT ),
เพย์พาล (NASDAQ: PYPL ),
Salesforce.com (NYSE: CRM ),
เทสลา (NASDAQ: TSLA ), วีซ่า (NYSE: V),
วอลท์ ดิสนีย์ (NYSE: DIS),
และ Warner Bros. Discovery Series A (WNASDAQ: WBD )
การมีส่วนร่วมของประธานเปโลซีในบริษัทเหล่านี้ทำให้เกิดกฎหมายที่จะห้ามสมาชิกรัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกาซื้อขายหุ้น หลังจากการต่อต้านเป็นเวลาหลายเดือน เปโลซีก็ล้มเลิกการคัดค้านกฎหมายที่เสนอ
คนวงในรวมประธานสภาไว้ในรายชื่อสมาชิกรัฐสภาที่ร่ำรวยที่สุด 25 คน โดยมีมูลค่าสุทธิอย่างน้อย 46.1 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางสัญชาตญาณว่าสิ่งนี้อาจเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่เธอส่งต่อเพื่อช่วยสามีของเธอในการตัดสินใจลงทุน ส.ส.หญิงกล่าวกับผู้สื่อข่าวในเดือนกรกฎาคมว่าไม่เคยเป็นเช่นนี้
NVDA จุดซื้อ W4 ไป W5นี้ภาพ Wave 3 น่าจะเป็น X3W เกิน 161.8 และ เบรค 0-2 trend line
เมื่อคืนย่อตัวลงมาบริเวณ 38.2 เกิด Doji และตามด้วยแท่งกลับตัวใน TF 4 ชม
W4 ย่อ 38.2 และตัด 1-3 trend line และ AO ถอยไปใกล้ๆ 0 มีโอกาสจบ Wave4 หรือที่ลงมาเป็น A มีโอกาสที่ชุดต่อจากนี้เด้ง 5 หรือ B
จุดซื้อบริเวณนี้ เป้าขายW5 183 SL หลุด158.77 ( Fibo 61.8 ถ้าหลุดที่มอง X3W น่าจะเป็น C )
Nvidia มองโลกในแง่ดีNvidia และ Intel เป็นผู้นำในหุ้นชิปเนื่องจากการมองโลกในแง่ดีต่อเศรษฐกิจช่วยเพิ่มสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
หุ้นเซมิคอนดักเตอร์ปรับตัวสูงขึ้นในวันพฤหัสบดีเนื่องจากนักลงทุนกลับมากระหายในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงและเข้าซื้อหุ้นจาก Nvidia และ Intel ในสัปดาห์นี้
จนถึงปีนี้ หุ้นชิปได้รับผลกระทบจากความกลัวเงินเฟ้อและความกังวลว่าวิกฤตในยูเครนจะเพิ่มความท้าทายในห่วงโซ่อุปทาน ในช่วงปิดตลาดวันพุธ iShares Semiconductor ETF ลดลง 15% ในปี 2565 ในขณะที่ Nasdaq และ S&P 500 ลดลง 12% และ 6.8% ตามลำดับ
Nvidia เป็นผู้นำการชุมนุมในวันพฤหัสบดีโดยเพิ่มขึ้น 9.8% ซึ่งเป็นวันที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เมื่อต้นสัปดาห์นี้ Nvidia กล่าวในวันนักลงทุนว่าแผนงานของบริษัทนั้นรวมถึงชิปเซิร์ฟเวอร์ใหม่โดยเน้นที่ปัญญาประดิษฐ์ เช่นเดียวกับแผนการสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ที่เร็วที่สุดในโลก
การคาดหวังในครั้งนี้?
การชุมนุมของชิปได้รับความช่วยเหลือจากรายงานของกระทรวงแรงงานซึ่งแสดงให้เห็นว่าการขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2512 นักลงทุนซื้อหุ้นของบริษัทต่างๆ ที่พร้อมจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
AMD เพิ่มขึ้นมากกว่า 5% ในวันพฤหัสบดีขณะที่ Broadcom ได้รับ 4.5% และ Qualcomm เพิ่มขึ้นมากกว่า 3% พวกเขาทั้งหมดยังคงลดลงสำหรับปี
การวิเคราะห์ของราคา
โดยปัจจัยนี้อาจจะทำให้หุ้น Nvidia มีความผันผวนระยะสั้นจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นกรอบแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 284.090 ดอลล่าร์ต่อหุ้นแนวต้านที่สองก็คือ 292.37 ดอลล่าร์ต่อหุ้นแนวต้านสุดท้ายก็คือ 297.52 ตลาดหุ้น
แต่ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 277.71 ดอลล่าร์ต่อหุ้นแนวรับที่สองก็คือ 270.62 ดอลล่าร์ต่อหุ้นแนวรับสุดท้ายก็คือ 261.47 ดอลล่าร์ต่อหุ้น