คู่มือการใช้งาน SMC (Smart Money Concept) CHOCH BOS #2โอ้เรื่องนี้สำคัญมากเลยครับคุณ โดยเฉพาะถ้าคุณกำลังใช้แนวทาง SMC (Smart Money Concept) แบบเต็มระบบ ต้องเข้าใจความต่างระหว่าง CHOCH กับ BOS แบบแม่นๆ เพราะมันคือ "สัญญาณเปลี่ยนแนวโน้ม" และ "สัญญาณยืนยันแนวโน้ม" ซึ่งทั้งคู่ทำงานร่วมกันเหมือนพี่น้องเลย
สรุปแบบเร็วให้เห็นภาพก่อน
หัวข้อ CHoCH (Change of Character) BOS (Break of Structure)
ความหมาย การเปลี่ยน “พฤติกรรมของราคา” การยืนยัน “เทรนด์ปัจจุบันยังคงอยู่”
เกิดเมื่อ มีการทำ “Low ใหม่” ในขาขึ้น หรือ “High ใหม่” ในขาลง มีการทำ “HH ใหม่” ในขาขึ้น หรือ “LL ใหม่” ในขาลง
สื่อถึง อาจเป็นจุด “เปลี่ยนเทรนด์” เป็นจุด “ต่อเนื่องเทรนด์”
ใช้เมื่อ อยากจับจุดกลับตัว อยากเทรดตามเทรนด์เดิม
ความเสี่ยง สูงกว่า (ยังไม่ยืนยันแนวโน้ม) เสี่ยงน้อยกว่า (แนวโน้มชัด)
ลำดับการเกิด: CHoCH → BOS
CHOCH จะเกิดก่อนเสมอ → เป็นการ “เปลี่ยนพฤติกรรม” จากแนวโน้มเดิม
BOS จะเกิดหลังจากนั้น → เป็นการ “ยืนยันแนวโน้มใหม่”
ตัวอย่าง:
ราคาอยู่ในขาลง → ทำ Lower High, Lower Low
อยู่ดีๆ ราคาทำ Higher Low + Break High เดิม → CHOCH
ถัดมา ราคาทำ Higher High อีกครั้ง → BOS ขาขึ้น
คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ (ตามลักษณะ Probability)
ประเภท ความน่าเชื่อถือโดยเฉลี่ย แนวทางการพิจารณา
CHOCH ~60–70% ใช้เป็นจุดเริ่มพิจารณา Entry + รอดู Rejection
BOS ~80–90% ใช้เป็นยืนยันเทรนด์ใหม่ก่อนเข้าออเดอร์หนัก
เทคนิค: ถ้าเข้าเทรดตอน CHOCH → ควรใช้ Risk น้อยลง
แต่ถ้ารอ BOS แล้วเข้าตอนย่อกลับ → สามารถใช้ Risk ได้มากขึ้น
วิธีใช้ใน Timeframe ต่างๆ
TF ใช้ CHOCH/BOS เพื่ออะไร
1H ดู CHOCH เพื่อเตรียมแผนเปลี่ยนเทรนด์, รอ BOS เพื่อยืนยันแนวโน้มใหญ่
15M ใช้ CHOCH เพื่อตั้ง POI, รอ BOS เพื่อมั่นใจก่อนเข้า
5M / 1M ใช้ CHOCH ในจุด Entry, รอ BOS เพื่อเพิ่มออเดอร์หรือเข้าใหม่
สรุปภาพรวมสไตล์ Playbok SMC Trader
เมื่อเห็น CHOCH:
→ อย่าพึ่งเทรด! ให้เริ่มวางแผน หา Order Block หรือ FVG
เมื่อ BOS เกิด:
→ เข้าออเดอร์ได้ถ้ามีการย่อกลับ พร้อมแท่งยืนยัน
หลัง BOS:
→ เฝ้าดูการย่อ เพื่อ Re-entry หรือถือรันเทรนด์
#playbooksmc #บันทึกเทรดน้า #tradersetup
แนวรับและแนวต้าน
คู่มือการใช้งาน SMC (Smart Money Concept) POI Order Block FVG วันนี้น้าจะอธิบาย 3 องค์ประกอบสำคัญในแนวคิด SMC (Smart Money Concept) ได้แก่ POI, Order Block, FVG แบบละเอียด พร้อมตัวอย่างการใช้งานในการเทรดจริง โดยเฉพาะสำหรับ Timeframe 1H, 15M, 5M ที่คนส่วนใหญ่ใช้งานนะครับ
1. POI (Point of Interest) คืออะไร
POI คือ “จุดที่น่าสนใจ” ซึ่งคาดว่าราคาจะมีปฏิกิริยาเมื่อกลับมาแตะ ใช้เป็น โซนสำหรับรอเทรด (Entry Zone)
ตัวอย่างของ POI ที่นิยมใช้:
Order Block (OB) – บริเวณแท่งเทียนสุดท้ายก่อนราคาพุ่งขึ้น/ลง
FVG (Fair Value Gap) – ช่องว่างที่เกิดจากแรงซื้อ/ขายเร็ว
Liquidity Zone – จุดที่มี Stop Loss ของเทรดเดอร์รายย่อยซ่อนอยู่
Supply/Demand Zone – พื้นฐานโซนดีมานด์/ซัพพลายแบบคลาสสิก
2. Order Block (OB) คืออะไร
Order Block คือ “แท่งเทียนสุดท้ายของฝั่งตรงข้าม” ก่อนที่เกิดการเคลื่อนไหวอย่างแรง เช่น:
ในขาขึ้น → มองหา แท่งแดงสุดท้ายก่อนเกิดแท่งเขียวใหญ่
ในขาลง → มองหา แท่งเขียวสุดท้ายก่อนเกิดแท่งแดงใหญ่
วิธีใช้งาน:
ใช้ Order Block เป็น จุดรอราคาเข้ามา Re-test เพื่อเข้าออเดอร์
ใช้ร่วมกับ Break of Structure (BOS) เพื่อเพิ่มความแม่นยำ
วาง SL ไว้ใต้ OB (ในขาขึ้น) หรือเหนือ OB (ในขาลง)
เทคนิคพิเศษ:
ใช้ OB บน TF ใหญ่ (1H, 15M) เพื่อเป็น POI
ยืนยันด้วย Candlestick + Indicator ใน TF เล็ก (5M, 1M)
3. FVG (Fair Value Gap) คืออะไร
FVG คือ “ช่องว่างของราคาที่เกิดจากความไม่สมดุล” ระหว่างแรงซื้อกับแรงขาย
รูปแบบ:
เกิดเมื่อแท่งเทียน 3 แท่งเรียงกัน โดย:
แท่งที่ 2 มี Body ใหญ่
ไม่เติมเต็ม Wick ของแท่งที่ 1 หรือแท่งที่ 3
ช่องว่างนี้ = โซน FVG
วิธีใช้งาน:
ใช้เป็น POI สำหรับรอการ Refill (ราคามักย้อนกลับมาเติม)
วาง Limit Order ได้ หรือรอแท่งเทียนยืนยันเมื่อราคากลับมา
ตัวอย่างการวางแผนเทรดด้วย OB + FVG
สมมุติ:
TF 1H = Uptrend (มี BOS)
พบ Order Block อยู่บริเวณ 1,800
มี FVG ระหว่างราคา 1,790 - 1,795
แผน:
วาง POI บริเวณ OB (1,800) + FVG (1,790–1,795)
รอราคาลงมาทดสอบ
เข้าเทรดเมื่อมีแท่งเทียน Rejection บน TF 5M หรือ 1M
SL ใต้ OB (1,785) / TP ที่ Liquidity Zone ถัดไป (1,820)
สรุปง่ายๆ แบบใช้จริง
-------------------------
องค์ประกอบ ความหมาย ใช้ยังไง
POI จุดที่คาดว่าราคาจะกลับตัว ใช้เป็น "โซนเฝ้า" เพื่อหา Entry
Order Block แท่งสุดท้ายก่อนเกิด impulsive move ใช้เป็น POI ที่แม่นยำมาก
FVG ช่องว่างที่เกิดจากแรงซื้อ/ขาย ใช้คาดจุดที่ราคาจะมาเติมเต็ม
เปรียบเทียบ ทฤษฎี Wyckoff Accumulation Schematic เปรียบเทียบ ทฤษฎี Wyckoff Accumulation Schematic #1 กับ กราฟ BTC/USDT บน Timeframe 4H
ผมขอวิเคราะห์ให้แบบละเอียดด้านล่างเลยครับ:
🔍 Step-by-Step เทียบกับ Wyckoff Accumulation
✅ Phase A – Stopping the Downtrend
✅ มีการลงแรงอย่างชัดเจนก่อนหน้า (Preliminary Support – PS, Selling Climax – SC)
✅ มีการดีดตัวขึ้นแรงหลังลง (Automatic Rally – AR)
✅ และมีการย่อกลับลงมาอีกครั้งแบบไม่หลุดจุดต่ำสุดเดิม (Secondary Test – ST)
ในกราฟ BTC เห็นชัดเจนว่าช่วงประมาณ 23 มี.ค. – 27 มี.ค. มีรูปแบบนี้เกิดขึ้นครบ
✅ Phase B – Building a Cause
✅ กราฟเริ่มแกว่งตัวในกรอบ Sideways โดยมีความผันผวนสูง
✅ มีหลายครั้งที่ราคาทดสอบแนวรับ-แนวต้านซ้ำ
ช่วงนี้กินเวลาตั้งแต่ ประมาณ 27 มี.ค. – 15 เม.ย. เป็นการสะสมพลังตามหลัก Wyckoff
✅ Phase C – Spring และ Test
✅ มีจังหวะที่ราคาหลุดแนวรับช่วงสั้นๆ แล้วดีดกลับแรง (Spring)
✅ ตามมาด้วยการเทสซ้ำในกรอบเดิม (Test)
ในกราฟดูเหมือนเกิด Spring ประมาณ 18 เม.ย. ซึ่งหลุดกรอบแล้วเด้งกลับทันที (ลักษณะพฤติกรรมของแรงซื้อเข้าทันที)
✅ Phase D – Markup เริ่มต้น
✅ ราคาทะลุกรอบบน (Resistance) แบบมี Volume (Sign of Strength – SOS)
✅ ตามมาด้วยการย่อลงทดสอบ (Last Point of Support – LPS)
ประมาณช่วง 21 เม.ย. – 28 เม.ย. BTC ขึ้นแรง ทะลุแนวต้าน และย่อเบาๆ ก่อนจะเริ่มแกว่งตัวบนกรอบใหม่
❓ Phase E – Trend ใหม่เริ่มต้น
⚠️ ตอนนี้กราฟยังอยู่ในช่วงปลาย Phase D → ยังไม่ยืนยันการเริ่มต้นเทรนด์ใหม่อย่างชัดเจน (Phase E)
ต้องรอราคายืนเหนือแนวต้านได้อย่างมั่นคงและมี Volume สนับสนุนอีกหน่อย
🔮 สรุปภาพรวม
✅ กราฟ BTC/USDT ปัจจุบันตรงกับ Wyckoff Accumulation Schematic ค่อนข้างแม่นยำ
ผ่าน Phase A → C อย่างครบถ้วน
กำลังเข้าสู่ปลาย Phase D
ถ้าราคายืนเหนือแนวต้านได้และมี Breakout → Phase E อาจเกิดขึ้นต่อไป
🎯 แนวทางสำหรับเทรดเดอร์
รอดู LPS หรือ BU/LPS ล่าสุด ว่าจะรับอยู่ไหม
ถ้าราคาเบรก High เดิมใน Phase D (บริเวณ ~88K-90K) = สัญญาณเปิด Long เพิ่ม
Stop Loss ควรอยู่ใต้ LPS (ประมาณ ~80K)
เปรียบเทียบ 2 กรณีจากกราฟ BTC ตอนนี้ ที่ดูเหมือนจะอยู่ในช่วงปลาย Phase D ของ Wyckoff Accumulation ซึ่งกำลังใกล้จุดตัดสินใจ ว่าจะไป Phase E (ขาขึ้น) หรือ Fail (ลงซ้ำ)
📈 กรณีที่ 1: ไปต่อ Phase E – เข้าขาขึ้นเต็มตัว
🔹 สัญญาณที่จะยืนยัน:
ราคายืนเหนือแนวต้านเดิมได้ (เช่น FWB:88K –$90K)
มี Volume สนับสนุนขาขึ้น (SOS)
การย่อตัวหลังจากเบรกเป็นเพียงการทดสอบแนวรับใหม่ (BU/LPS)
🔮 คาดการณ์ล่วงหน้า:
เป้าหมายแรกอาจไปทดสอบ High เดิมช่วง $94K– GETTEX:98K
ถ้าแรงดี อาจเห็นราคาทะลุ $100K ในรอบถัดไป
ลักษณะการเคลื่อนไหวจะ “ขึ้น–พัก–ขึ้น” แบบแข็งแรง
✅ กลยุทธ์:
ซื้อเพิ่มเมื่อราคาเบรกแนวต้านสำเร็จ + ย่อมาเทสต์ไม่หลุดแนวรับใหม่
ใช้ Trailing Stop เพื่อรักษากำไรในขาขึ้น
📉 กรณีที่ 2: Fail ขึ้นจริง – กลับตัวลงซ้ำ (Fail of Accumulation)
🔹 สัญญาณที่จะยืนยัน:
ราคาย่อตัวหลุดแนวรับของ LPS หรือ BU/LPS (~$80K)
เกิดการ “Breakdown” พร้อม Volume ขายหนาแน่น
พฤติกรรมเปลี่ยนจากการสะสมเป็น Distribution
🔮 คาดการณ์ล่วงหน้า:
ราคาจะลงกลับไปทดสอบแนวรับเดิมบริเวณ $76K หรือแม้แต่ต่ำกว่า Spring ที่ ~$72K
อาจเข้าสู่ Wyckoff Distribution หรือ Re-Accumulation ใหม่อีกที
⚠️ กลยุทธ์:
Cut loss หากหลุดแนวรับ LPS
หากหลุดแบบมี Volume หนัก = อาจมีโอกาส Short ระยะสั้น
หลีกเลี่ยงการ Buy-the-dip ถ้าไม่มีพฤติกรรม Spring ใหม่ที่ชัดเจน
📌 สรุปเบื้องต้น (ณ 5เม.ย. 2025)
กรณี ความเป็นไปได้ แนวทาง
Phase E (ขึ้นต่อ) ✅ 60% เฝ้ารอสัญญาณเบรก + เทสต์แนวต้าน
Fail / ลงต่อ ⚠️ 40% เฝ้าแนวรับ ~$80K ถ้าหลุดให้ระวัง
ช่วยกดติดตามด้วยนะ ผมจะมาวิเคราห์กราฟ ด้วยระบบSMC
#smcลึกแต่เข้าใจง่าย #เทรดแบบไม่โดนแดก #oakmastertrader #บันทึกเทรดน้า
เข้าลักษณะของ Wedge pop?Oliver Kell ให้นิยาม wedge pop ไว้ว่า
- เป็นการเคลื่อนที่ของราคากลับขึ้นไปผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) ในที่นี้คือเส้น 21 วัน
- มันเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า แนวโน้มกำลังจะกลับตัวเป็นขาขึ้น
- เรามักจะเห็น หุ้นขยายตัวขึ้น (Expand Higher) จากนั้นหดตัวเล็กน้อยและเริ่มสร้างฐานแนวรับใหม่ (Higher Low)
- เส้นค่าเฉลี่ยมักจะช่วยจับจังหวะของจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นได้ค่อนข้างดี
-80% ในวันเดียว ความโหดของหุ้นอเมริกาหุ้นอเมริกาไม่มี floor ครับ
ตัวนี้ผมโดนไป -80% ในวันเดียว
มันลงตอนปิดตลาด ตีสาม ผมยังหลับฝันอยู่เลย
โชคดีที่ผม position size น้อยมาก ซื้อ 2 หุ้น ประมาณ 15 เหรียญ ความเสียหายจึงแค่ 10 เหรียญเท่านั้น
นี่เป็นข้อเสียของการไม่มี Stop loss ล่วงหน้า
อยากให้ Dime! คิดถึงเรื่องนี้ และช่วยเพิ่มคำสั่งนี้ให้ลูกค้าหน่อยครับ มันช่วยเซฟเงินลูกค้าได้นะ
SET ยังลงไม่จบ แต่หุ้นไทยไม่น้อยที่ทำ bottom pattern จบแล้วลองไล่เปิดดูหุ้นที่บวกดี ๆ ในสัปดาห์นี้ดูนะครับ มีหลายตัวมากที่เคลียร์ bottom setup (โดยเฉพาะ double bottom)ได้แล้ว ซึ่งน่าสนใจมาก ลองแหย่ดูนะครับ เผื่อบางทีช่วงนี้ตลาดจะเริ่มกลับตัวแล้วก็ได้
ปล. อย่าเสี่ยงกับหุ้น xd นะครับ มีโอกาสเสียมากกว่าได้นะครับ
EP27bitcoin :Technical TREND LINE,Very easy Simple Analysis etc.จากเทคนิคอลที่ง่ายๆได้สร้างความฮือฮาให้ผมมาแล้วหลายต่อหลายรอบแล้วนั้น (ให้ผมนะ) โดยเทคนิคอลได้มีชื่อว่า
*** Technical TREND LINE,Very easy Simple Analysis etc. ***
โดยให้นิยามว่า
*** การวิเคราะห์อย่างง่ายแบบที่ง่ายให้ง่ายมากๆในรูปแบบเส้นแนวโน้ม ฯลฯ ***
(ผมตั้งชื่อเอง(ขำๆ) คิดเอง ใช้เอง นั้นเอง 555 ) โดยทดลองใน EP ก่อนๆมาแล้วมากมายทั้งทีตีแผ่ได้และไม่ได้ตีแผ่ เผยแพร่ในส่วนที่เผยแพร่ได้
Technical TREND LINE,Very easy Simple Analysis etc. : BTCUSDT.P
1.แนวโน้ม เทรนไลน์
2.แนวโน้ม ฟิโบไลน์
3.แนวโน้ม ไทม์มิ่งไลน์
แนวโน้ม เทรนไลน์ในไทม์เฟรม1ชั่วโมงเราจะเห็น
- main theme เป็นแนวโน้มขาลงชัดเจน
- current trends ไม่เป็นเทรนขึ้นๆลงๆออกข้าไปเรื่อยๆ
ส่วนการวิเคราะห์เทรดแบบเรียลไทม์เมื่อ main theme แนวโน้มขาลงแล้ว current trends เป็นการไซต์เวย์ จะส่งผลทำให้การ Action ในทางใดทางหนึ่งเป็นไปได้ยากมากเพราะไม่เป็นเทรน ดังนั้นเราจะใช้ กลยุทธ์ ซื้อขายใน current trends ไซต์เวย์นี้ได้ทันทีแบบมองลงไปจนกว่าราคาจะเปลี่ยน main theme นั้นเอง
แถมให้ : สังเกตุ หากแนวโน้มหลุด current trends แนวโน้มก็จะดำเนินการณ์ต่อตาม main theme แต่หากแนวโน้มเป็นไปตาม current trends ไปเรื่อยๆจนทะลุ main theme มีแนวโน้มเป็นไปได้ว่าจะเกิด main theme ใหม่ก็จะมีสูงเช่นเดียวกัน
แนวโน้ม ฟิโบไลน์ในไทม์เฟรม1ชั่วโมงเราจะเห็น
หาก main theme แข็งแรงมากเป็นไปได้ว่าแนวรับ จะอยู่ที่เป้าหมายด้านล่างตามลำดับ แต่ถ้าหาก current trends แข็งแรงแนวโน้มของการจะอยู่ในกรอบฟิโบไลน์ตาม current trends จนกว่าแนวโน้มจะเกิด main theme ใหม่ ต่อไป
eurusd Day เรียนรู้ คอนเฟิร์มสวิง เทรด EP3eurusd Day เรียนรู้ คอนเฟิร์มสวิง เทรด
นับดาว นับดอย
เพื่อนำไปเทรดในระบบsmc
ไม่ว่าตลาดจะเลือกทางไหน
ขอให้ทำตามแผนที่วางไว้ และมีวินัย สามารถได้กำไรทุกคนครับ.
ไม่ดื้อ ไม่โลภ ไม่กลัว
เสี่ยงเท่าที่คุณจะสูญเสียมันได้
นิ่งให้พอ รอให้เป็น เย็นให้ได้
เล็กน้อยxสม่ำเสมอ = มหาศาล
ท่านใดเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากกดติดตาม และShare ให้ด้วยนะ
น้าอ่านทุกคอมเม้นท์และเปิดรับทุกความคิดเห็น
[แกะหุ้นเด้ง pt.1] หาจุดซื้อรันเทรน กับ Evolution หุ้น 100 เด้ง - วีดีโอนี้พูดถึง Technical จุดซื้อ/ขาย 75% และพูดเกริ่นถึงบริษัท 25%
- บริษัท Evolution AB เป็นบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมใหม่อย่างอุตสาหกรรม pนันออนไลน์ ซึ่งมีอัตราการเติบโตของกำไรมากกว่า 2 หลักมาโดยตลอด
- นอกจากการเติบโตของกำไรแล้ว ในขาของด้านการบริหารนั้นบริษัทก็สามารถบริหารจนได้อัตรากำไรในระดับที่ดีมากๆ โดยสะท้อนมาที่ตัวเลขการเงินอย่างอัตรากำไรสุทธิ ที่บริษัทสามารถทำได้มากกว่า 30-40% ซึ่งเป็นระดับที่น้อยบริษัทจะสามารถทำได้
- กำไรจากการเทรดที่ได้แต่ละรอบสั้นนั้น สามารถทำได้มากกว่า 2x%
แต่ว่าเวลาที่หุ้นลง บริษัทจะมี Downside จาก ATH มากกว่า 30% เลย ดังนั้นแล้ว ใครซื้อแบบ FOMO อาจต้องระวังจุดนี้
- Breakout รับมือได้ดีที่สุดกับบริษัทจำพวกที่กำไรโตตลอดเวลา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรวางจุด Stoploss ให้ดีๆ เพราะว่าเวลาโดนคืนสามารถโดนคืนได้ในระดับ 3x% ได้ และหากเข้าช้าไปควรกำหนด Postition Size ที่เพียงพอต่อการถือทนด้วยครับ
-------------------------------
สำหรับเนื้อหาจะมี 2 พาร์ทด้วยกัน โดยพาร์ทนี้จะเน้นในเรื่อง Technical อย่างเดียวนะครับ จากนั้นอีกพาร์ทจะเป็นเรื่องของการเงินและธุรกิจล้วนๆ
และโพสนี้ผมแบ่งเป็น 3 ส่วน คือหลักการเลือกหุ้นลงทุน ตามมาด้วยจุดซื้อที่พอทำได้ และสิ่งที่ได้เรียนรู้จากหุ้นนี้/บริษัทนี้
---------------------------------
1. หลักการเลือกหุ้น
สำหรับระบบคัดเลือกหุ้นของบริษัทนี้ โดยหลักแล้วมาจากการเลือกบบริษัทที่มีกำไรเติบโตก่อนครับ โดยถ้ากำไรเติบโตเป็น 2 หลัก เหนือกว่าตัวเลข GDP สักราว 5 เท่า นายตลาดจะชอบบริษัทแบบนี้มาก
นอกจากกำไรเติบโตแล้ว การใช้ตัวกรองอย่าง PEG Raio มาช่วย จะทำให้เราเลือกหุ้นได้คมมากขึ้นครับ โดย PEG Ratio ที่ต่ำกว่า 1 จะเป็นตัวบอกว่าบริษัทนี้มีความน่าสนใจ
-------------------------------------
2. จุดซื้อหุ้นตัวนี้
สำหรับผมแล้ว ผมให้เรื่องของ Value Line ครับ โดยในกรณีนี้บริษัท Evolution ถูกเทรดอยู่ที่เส้นแดงมาโดยตลอดเลย หากเราตั้งสมมติฐานว่าซื้อหุ้นในจุดที่บริษัทมีราคาต่ำกว่าเส้น และนำมาขายบริเวณที่อยู่เหนือเส้น Value Line ก็นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจ
ต่อมาคือการเทรดเมื่อหุ้นวิ่งตัดขึ้นเส้นค่าเฉลี่ย 50 weeks หรือแม้แต่ 20 วัน เพื่อที่หลีกเลี่ยงอาการ FOMO หลังหุ้นตัวนั้นเด้งขึ้นอย่างร้อนแรง
และที่สำคัญคือบริษัทที่เป็นหุ้นเติบโต ในกรณีที่เขาเติบโตด้วยพื้นฐานอย่างแข็งแรง ส่วนมากราคาของบริษัทจะไม่มาเทรดที่จุดเดิมได้บ่อยๆ ครับ การที่เราซื้อขายหลังราคาตัดเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาวเพื่อรันเทรนด์อาจช่วยให้เราได้เปรียบมากขึ้น
และอย่างสุดท้าย การเทรดโดยใช้หน้าเทรด Breakout ในหุ้นเติลโต โดยเหตุผลหลักจะคล้ายๆ กับการเทรดตอนหุ้นตัดขึ้นเส้นค่าเฉลี่ย โดยหากบริษัทเติบโตไปแบบเรื่อยๆ อย่างบริษัท การ Breakout จึงเป็นหน้าเทรดที่สามารถปรับประยุกต์ใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเทรดแบบScalper ภายในวันอาศัยความผันผวนตอนช่วงประกาศผลประกอบการ หรือแม้แต่การซื้อเป็นไม้สุดท้ายหลังจากที่เรา MM ไม้ก่อนหน้านี้มาแล้ว
-------------------------------
3. สิ่งที่ได้จากหุ้นตัวนี้
บริษัทที่มีการเติบโตของกำไรอย่างสม่ำเสมอ และทำได้ดีกว่าที่ตลาดคาดมักเป็นหุ้นที่ไปได้ไกล(จากสมการ Price = PE * EPS) ไม่ว่าจะจากการปรับค่า PE ของตลาดหรือ EPS ที่เติบโตได้ด้วยตัวเอง
การเทรดโดยให้ราคาตัดเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว เป็นจุดที่ปลอดภัยจากการไม่โดนสะบัดหรือเขย่าตอนซื้อแนวจุดสูงสุดใหม่
หุ้นเติบโตมักมีการ Pullback 3x% เป็นเรื่องปกติมาก ถ้าจะให้ดี อย่าซื้อตอน ATH เว้นแต่ว่าเราจะลงทุนแบบ Day Trade/Scalper แบบจบในวัน
[Deep Value Scanner] หาหุ้นโคตรปลอดภัย ไม่เสี่ยงล้มละลายและดักVI แสกนหาหุ้น Deep Value โคตรปลอดภัย ไม่เสี่ยงล้มละลาย
สำหรับหลักการนี้ต้องขอขอบคุณ คุณเบนจามิน เกรแฮม ผู้เขียนตำรา Security Analysis และหนังสือ The Intelligent Investor และเป็นผู้ริเริ่มการลงทุนแบบ Value Investing แบบ Cigarette Butt ด้วยนะครับ
เทคนิคของ Deep Value กับเทคนิคหุ้นการลงทุนแบบ Cigarette Butt นี้ไม่ต่างกันมากเลย นั่นคือการซื้อหุ้นในมูลค่าที่น้อยกว่าทรัพย์สินส่วนของทุนบริษัท
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเลข 2 ตัวในการแสกนก่อนนะครับ เพื่อที่ทุกคนจะได้เข้าใจหลักการแสกนนี้ นั่นคือ
1 . Net Debt ซึ่งมีสูตรคือ Cash – (Short Term Debt + Long Term Debt)
2. Enterprise Value มีสูตรคือ (Market Cap + Debt )- Cash
โดยทั้งสองตัวเลขนี้ หากมีค่าติดลบก็หมายความว่าผ่านเกณฑ์แล้วครับ หลักการคือเราจะซื้อบริษัท ณ “ราคา” ที่น้อยกว่าเงินสดสุทธิหักลบหนี้สินของบริษัทนั่นเองครับ
สำหรับข้อดีข้อเสียของหลักการนี้มีดังนี้ครับ
ข้อดี
- เราสามารถซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีได้
- สามารถ Unlock Value ได้ ผ่านการเข้าไปถือหุ้น แล้วใช้สิทธิโหวตกดดันให้ผู้บริหารขายทอดกิจการ เพื่อนำเงินสดมาจ่ายสู่ผู้ถือหุ้นได้
- หากมูลค่าทางบัญชีสะท้อนความเป็นจริงแล้ว เหมือนกับการที่เราซื้อหุ้นโดยมีส่วนลด มีความสมเหตุสมผลในการลงทุนในเชิงทฤษฎี
(มีหลักยึดในการลงทุนชัดเจน)
- สิ่งที่เราต้องทำ มีเพียงอย่างเดียวคือการรอให้มูลค่าปลดล็อค สายกราฟคือหาจุดเข้าซื้อที่ได้เปรียบ
เช่นมีการสะสมพอสมควรแล้ว รวมถึงทำท่า Breakout อาจพิจารณาวางกลยุทธ์ได้
ข้อเสียและจุดอ่อน
- หากบัญชีมีการตกแต่งขึ้น อาจเป็นอุปสรรคได้ในการรับรู้มูลค่าที่แท้จริง
- ราคามักไม่ค่อยมีการขึ้นลงมาก หากไม่มีปัจจัยมาขับมูลค่า
เช่น การ Take Over , การขายสินทรัพย์ , การจ่ายเงินปันผลออกมา (ในกรณีที่บริษัทมีแต่เงินสดพร้อมจ่าย)
- ราคาหุ้นถูก ณ ตอนนี้ ไม่การันตีว่าจะราคาถูกตลอดไป
เช่นกรณีผู้บริหารใช้กลฉ้อฉล อย่างการนำเงินสดไปลงทุนในบริษัทอื่นๆ ซึ่งบริษัทอื่นๆ ที่ว่านี้อาจเป็น Shell Company ที่ผู้บริหารคนนั้นถือหุ้น
แล้วตั้งใจทำให้เกิดผลขาดทุน จนต้อง Whiteout ธุรกิจออกไปเกิดความสูญเสียทางบัญชีบริษัทเป็นต้น
[ดักรายใหญ่VI]สร้างแนวรับ/ต้านทางพื้นฐาน ด้วย PE และเงินปันผลวันนี้ผมจะมาพูดถึงที่มาของสูตรที่ได้ใช้ในอินดิเคเตอร์ใน Trading View กันนะครับ
(โดยอินดิเคเตอร์นี้ชื่อว่า DDM เพื่อแสดงแนวรับแนวต้านสำหรับสายพื้นฐานนะครับ สามารถดูสคริปสูตรได้ที่ด้านล่างคำอธิบายนี้ได้เลยครับ)
หลักๆ คือเพื่อต้องการประเมินมูลค่าหุ้นอย่างง่ายไว้ดูว่าแนวที่ควรซื้อแบบสวนกระแสอย่าง VI ควรซื้อประมาณโซนสะสมบริเวณไหนดี และใช้ประกอบการดูโซนการทำ Price Pattern ด้วย
หลักการคือเราจะใช้การกำหนดค่า PE ผ่านการตั้งค่า Dividend Payout ไว้คงที่(ที่ 40%) และปรับตัวเลข % Dividend Yield ตามที่เราต้องการ (2,3,4,6 เท่าไรก็ได้ตามที่เราอยากตั้งครับ)
ดั่งแนวรับและแนวต้าน โดยจะเป็นการประเมินมูลค่าหุ้นแบบ DDM นั่นเองครับ
สูตรมูลฐานที่เราจูดคือ Dividend Yield% = DPS / Price
และจะปรับมาเป็น PE = %Dividend Payout/%dividend Yield กันนะครับ
โดยท่านสามารถฟังการอธิบายเต็มๆ ได้ผ่านทางวีดีโอนี้นะครับ และมีตัวอย่างประกอบด้วย หวังว่าจะเป็นประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อยสำหรับการลงทุนโดยใช้อินดิเคเตอร์ต้นทางนะครับ
สำหรับวิธีการดักทางรายใหญ่ VI เราก็อาศัยดูเงินปันผลได้เลยครับ ว่าระดับไหนตามแบบ Price Pattern ที่จะจูงใจรายใหญ่ให้ซื้อหุ้นตัวนี้หรือตัวนั้น โดยอาจจะดูแนวโน้มเส้นแนวรับแนวต้านนี้ครั้นอดีตย้อนหลังก็ได้ครับ ว่าเขาเคยมีแนวที่แข็งๆ ตรงไหนเป็นต้นครับ
ทั้งนี้ท่านใดสนใจเกี่ยวกับการลงทุนแบบสวนกระแส สามารถหาอ่านได้ในหนังสือ ลงทุนหุ้นแบบจอห์น เนฟฟ์ ได้นะครับผม
📢📢วางแผนเทรดทองด้วย Advance QM Demand Supply 7 กรกฎาคม 2565แผนต่างๆ อธิบายอย่างละเอียดใน Live ตอนเช้าครับ
------------------------------------------------------------------------------
ข้อควรระวัง ในการเทรด Pattern SNCR1ต้องสัญญาณมี RSI Divergence Confirm ก่อนเข้าเทรด
MM ด้วยนะครับเป็นห่วง 😊😊
ช่วย Like Comment และกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
รายการตัวย่อ
RBR = Rally Base Rally
DBD = Drop Base Drop
SBR = Support Become Resistance
RBS = Resistance Become Support
R= Resistance
S= Support
TF= Time Frame
QM = Quasimodo Pattern
QMR = Quasimodo Reversal
QML = Quasimodo Level
QMC = Quasimodo Continuous
QMM = Quasimodo Manipulation
MPL = Maximum Pain Level
BTCUSDT บิตคอย แนวรับสำคัญ ดีเดย์ 28800 BTCUSDT บิตคอย แนวรับสำคัญ ดีเดย์ 28800
วันนี้ เราจะมาพูดถึงการ บิตคอยย์ พฤติกรรมราคา TF DAY
แนวรับ-แนวต้าน ที่สำคัญ
มีผลต่อราคาอย่างไร และกระทบอะไรบ้าง
วางแผนการเทรคได้อย่างไร!!!
คำเตือน
โพสต์นี้ไม่ใช่เชิญชวนให้มาลง ทุกการเทรดมีความเสี่ยง
จุดประสงค์เพื่อเสนอแนวการวางแผนเทรดเท่านั้น เรียนรู้พฤติกรรมราคา
ไม่ได้ชี้นำหรือฟันธงตลาด
ไม่ว่าตลาดจะเลือกทางไหน ขอให้ทำตามแผนที่วางไว้ และมีวินัย สามารถได้กำไรทุกคนครับ.
อย่าเชื่อ100% และน้าหวังว่าจะนำไปปรับใช้กับการเทรดของทุกคนได้
ไม่ดื้อ ไม่โลภ ไม่กลัว
เสี่ยงเท่าที่คุณจะสูญเสียมันได้
นิ่งให้พอ รอให้เป็น เย็นให้ได้
เล็กน้อยxสม่ำเสมอ = มหาศาล
ท่านใดเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากกดติดตาม และShare ให้ด้วยนะ
น้าอ่านทุกคอมเม้นท์และเปิดรับทุกความคิดเห็น
ทองขาลง TFH1 ราคาหลุด มากกว่า160จุด กราฟบอกอะไรพฤติกรรมราคาทอง TFH1 ราคาหลุด มากกว่า160จุด กราฟบอกอะไร
เรียนรู้กราฟเปล่าเรื่องโคร้งสร้างราคา ขาลง ?
ดูอย่างไร ว่ากราฟขาลง
รู้โครงสร้างราคาจะได้ประโยชน์อะไร
รู้แนวโน้มราคาจะทำกำไรได้จริงหรือ!
พร้อมแล้วลุยเลย
คำเตือน
โพสต์นี้ไม่ใช่เชิญชวนให้มาลง ทุกการเทรดมีความเสี่ยง
จุดประสงค์เพื่อเสนอแนวการวางแผนเทรดเท่านั้น เรียนรู้พฤติกรรมราคา
ไม่ได้ชี้นำหรือฟันธงตลาด
ไม่ว่าตลาดจะเลือกทางไหน ขอให้ทำตามแผนที่วางไว้ และมีวินัย สามารถได้กำไรทุกคนครับ.
อย่าเชื่อ100% และน้าหวังว่าจะนำไปปรับใช้กับการเทรดของทุกคนได้
ไม่ดื้อ ไม่โลภ ไม่กลัว
เสี่ยงเท่าที่คุณจะสูญเสียมันได้
นิ่งให้พอ รอให้เป็น เย็นให้ได้
เล็กน้อยxสม่ำเสมอ = มหาศาล
ท่านใดเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากกดติดตาม และShare ให้ด้วยนะ
น้าอ่านทุกคอมเม้นท์และเปิดรับทุกความคิดเห็
📢📢วางแผนเทรดทองด้วย Advance QM Demand Supply 1 มีนาคม 2565วันนี้ยังไม่มีแผนเทรดที่ชัดเจนขอราคาทำโครงสร้างก่อน
แผนต่างๆ อธิบายอย่างละเอียดใน Facebook Live ตอนเช้าครับ
------------------------------------------------------------------------------
ข้อควรระวัง ในการเทรด Pattern SNCR1ต้องสัญญาณมี RSI Divergence Confirm ก่อนเข้าเทรด
MM ด้วยนะครับเป็นห่วง 😊😊
ช่วย Like Comment และกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
รายการตัวย่อ
RBR = Rally Base Rally
DBD = Drop Base Drop
SBR = Support Become Resistance
RBS = Resistance Become Support
R= Resistance
S= Support
TF= Time Frame
QM = Quasimodo Pattern
QMR = Quasimodo Reversal
QML = Quasimodo Level
QMC = Quasimodo Continuous
QMM = Quasimodo Manipulation
MPL = Maximum Pain Level
FRT = Fast Return
📢📢วางแผนเทรดทองด้วย Advance QM Demand Supply 1 มีนาคม 2565
**บทความนี้เป็นเพียงการวางแผนเทรดส่วนบุคคล ไม่ได้มีเจตนาชักชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
📢📢วางแผนเทรดทองด้วย Advance QM Demand Supply 28 ก.พ. 2565📢📢วางแผนเทรดทองด้วย Advance QM Demand Supply 28 ก.พ. 2565
แผนต่างๆ อธิบายอย่างละเอียดใน Facebook Live ตอนเช้าครับ
------------------------------------------------------------------------------
ข้อควรระวัง ในการเทรด Pattern SNCR1ต้องสัญญาณมี RSI Divergence Confirm ก่อนเข้าเทรด
MM ด้วยนะครับเป็นห่วง 😊😊
ช่วย Like Comment และกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
รายการตัวย่อ
RBR = Rally Base Rally
DBD = Drop Base Drop
SBR = Support Become Resistance
RBS = Resistance Become Support
R= Resistance
S= Support
TF= Time Frame
QM = Quasimodo Pattern
QMR = Quasimodo Reversal
QML = Quasimodo Level
QMC = Quasimodo Continuous
QMM = Quasimodo Manipulation
MPL = Maximum Pain Level
FRT = Fast Return
**บทความนี้เป็นเพียงการวางแผนเทรดส่วนบุคคล ไม่ได้มีเจตนาชักชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน