BTCUSD : ระบบ Break 52Days high มีสัญญาณ"ซื้อ" 25/9/2024อธิบาย : ระบบ Break 52Days High เป็นระบบที่จะดู High ย้อนหลังของแท่งเทียน เป็นเวลา 52 วัน และตีเส้นราคาลากมาเรื่อยๆ จนกว่าเมื่อไหร่ที่ราคาปิดแท่งเหนือกว่าเส้น 52 วันย้อนหลัง ระบบก็จะมีสัญญาณซื้อ ส่วนสัญญาณขายจะใช้ MA 52 วัน เพื่อตัดสินใจ โดยเมื่อไหร่ที่ราคาปิดแท่งต่ำกว่าเส้น MA52 ก็จะมีสัญญาณขาย นั่นเอง
ระบบนี้ดัดแปลงไอเดียมาจาก Break 52 Weeks High ที่ใช้กับตลาดหุ้น แต่ว่ามาใช้กับคริปโตแล้วมันช้าเกิน ก็เลยลองลดเหลือเป็น 52 วันแทน ก็ให้ผลที่ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะหลายๆ ครั้งระบบนี้ก็ช่วยให้เราไม่ต้องเสียเวลาเข้าๆ ออกๆ ตอนตลาด sideway down หรือขาลงจ๋าๆ เพราะเราจะนั่งเฉยๆ ตลอดทางนั่นเอง ( เหมือนกับ 5 เดือนที่ผ่านมา )
ความเห็นของผม : เราเห็นระบบนี้เขียวไปครั้งสุดท้ายก็เมื่อช่วง ก.พ. 2024 ที่ผ่านมา แถวๆ 47k ก่อนราคาจะพุ่งทะยานต่อไปทำ ATH ที่แถวๆ 74k นั่นเอง หลังจากระบบแดงแถว 63k ช่วงเดือน เมษา ถ้าทำตามระบบเราก็นั่งเฉยๆ กันยาวไปห้าเดือน จนมาถึงวันนี้นี่แหละครับ
ระบบนี้ คือระบบที่ "ช้าที่สุด" ที่ผมใช้อยู่ด้วยกันทั้ง 3 ตัว อารมณ์เหมือนเก็บไว้ออกไม้สุดท้าย หลังจากมีไม้อื่นๆ ที่เข้ามาแล้ว มาจาก 2 ระบบก่อนหน้าครับ ( MACD ตัดศูนย์ และ ATR ) ซึ่ง ไม่แนะนำให้ใช้แค่ตัวนี้ตัวเดียว เพราะจะช้าเกินไป ยอมกัดฟันแบ่งไม้เข้าในระบบอื่นๆ ด้วยจะดีกว่าครับ
โดยถ้าเราสามารถเข้าได้ตามระบบ ในทุกๆ ระบบที่ผ่านมา ทุนเฉลี่ยของรอบนี้ก็จะอยู่ราวๆ 62k ครับ ที่ความเสี่ยง 4% และจะถือ position size ที่ 40% ของพอร์ตครับ
BTC BreakHigh = เขียว ( 25/9/2024 )
------------------
Entry : 64260+-
SL : 57834 (-10%)
Position Size = 10% ของพอร์ต ( Risk1% )*
* ปัดเศษเพื่อความง่ายต่อการคำนวณ
---------------------------
สรุปผลกำไร สะสม ของทุกระบบ ในปี 2024 ได้ดังนี้
* รายการกำไรนี้ เป็นการคำนวณตรงๆ ยังไม่ได้ใส่ค่า fee และ slippage เข้าไปนะครับ ดังนั้น กำไรจริงๆ ของการทำตามระบบ ก็น่าจะต่ำกว่านี้พอสมควรครับ
(8Feb-17Mar) ATR = +6.61% ที่ความเสี่ยง 1% ( 6.61R )
(9Apr-14Apr) ATR = -1.06% ที่ความเสี่ยง 1% (-1.06R )
(10Feb-14Apr) BreakHigh = +4.94% ( 4.94R )
(2Feb-17Apr) ActionZone = +9.6% ( 9.6R )
(16May-15Jun) ATR = -0.023%
(19May-18Jun) ActionZone = -0.059%
(1Jan-25Jun) EMA120DCross = +5.95% ( 5.95R )
(16Jul-3Aug) ATR = -0.5%
(16Jul-3Aug) EMA120DCross = -0.5%
(20Jul-5Aug) ActionZone = -0.9%
(24Aug-27Aug) EMA120DCross = -0.7%
(26Aug-30Aug) ActionZone = -0.75%
(24Aug-2Sep) ATR = -1.04%
(14Sep-???) ATR = ?%
(19Sep-???) ActionZone = ?%
(19Sep-???) EMA120DCross = ?%
(25Sep-???) BreakHigh = ?%
Sum = 21.56% ที่ความเสี่ยง 1% ต่อระบบต่อครั้ง
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "macd"
บทวิเคราะห์ทองคำ 23/09/24บทวิเคราะห์ราคาทองคำสำหรับวันจันทร์ที่ 23
1. จากกราฟ H1 และ H4 ของทองคำ (XAUUSD) มีสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งในขาขึ้นอย่างชัดเจน:
• การทะลุแนวต้านที่ระดับ 2606 แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่แข็งแรง และราคาได้ขึ้นมาถึงโซน 2627 ซึ่งใกล้เคียงกับ Fibonacci 100%
• RSI อยู่ที่ระดับ 72-74 บ่งบอกว่าตลาดอยู่ในภาวะ overbought ซึ่งมีโอกาสที่ราคาอาจปรับฐานเล็กน้อยก่อนที่จะแข็งค่าต่อไป
• ค่า Stochastic อยู่ในโซนที่สูง (ประมาณ 92-94 บน H4) บ่งชี้ว่าตลาดยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้น แต่มีแนวโน้มที่อาจพักตัว
• ค่า MACD แสดงให้เห็นถึง momentum ขาขึ้นที่ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนถึงแรงซื้อที่แข็งแรง
2. แนวทางการเข้าซื้อ
• ช่วงซื้อที่แนะนำ: แนะนำให้รอราคาปรับฐานลงมาที่ระดับ 2600-2605 ซึ่งเป็นจุดพักของ Fibonacci 61.8% และมีแนวโน้มที่ราคาจะดีดตัวขึ้นอีกครั้งในโซนนี้
• จุดทำกำไร: หากราคาทะลุแนวต้าน 2627 ไปได้ คาดว่าเป้าหมายต่อไปจะอยู่ที่โซน 2645-2650
• จุดตัดขาดทุน: วางจุดตัดขาดทุนที่บริเวณ 2590 เพื่อป้องกันความเสี่ยงกรณีตลาดกลับตัวลงอย่างรุนแรง
3. ผลกระทบของการประกาศดอกเบี้ยของ FED
การประกาศนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในช่วงนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาทองคำ ในกรณีที่ FED ปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม จะทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งส่งผลดีต่อราคาทองคำ โดยนักลงทุนจะถือทองคำมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากภาวะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ .
ในทางกลับกัน หาก FED ยังคงยืนกรานในการควบคุมเงินเฟ้อโดยการเพิ่มดอกเบี้ย ราคาทองคำอาจปรับตัวลงเนื่องจากต้นทุนการถือครองทองคำสูงขึ้น
ทั้งนี้ บทความที่เขียนมาเป็นเพียงการวิเคราะห์ และคาดการณ์เท่านั้น โปรดใช้ วิจารณญาณ ในการลงทุนครับ
2024 09 20 GOLD GOLD GOLDวิเคราะห์: TVC:GOLD TVC:GOLD TVC:GOLD
- แนวโน้มตลาด (Trend Analysis) : กราฟแสดงถึงรูปแบบขาขึ้นที่ชัดเจนหลังจากการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วและการตั้งตัวในระดับราคาใหม่ พร้อมด้วยการทำ higher highs และ higher lows.
- ระดับราคา : ดูเหมือนว่าราคาอยู่ใกล้กับแนวต้านสำคัญที่ประมาณ $2,617 USD ซึ่งอาจเป็นจุดที่ตลาดจะทดสอบก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะขยับต่อหรือกลับตัว.
แนวรับและแนวต้าน :
- แนวต้าน : 2,617 USD เป็นจุดที่ราคาอาจพบกับแรงขายทำกำไร ถ้าทะลุผ่านได้ สามารถมองหาเป้าหมายถัดไปที่ประมาณ 2,650 USD.
- แนวรับ : แนวรับใกล้เคียงอยู่ที่ประมาณ 2,580 USD ที่จุดต่ำก่อนหน้านี้ และอาจจะเป็นจุดซื้อหากราคาหดตัวลง.
Indicators :
- MACD (Histogram) : แสดงการเพิ่มขึ้นของโมเมนตัมบวก อาจบ่งบอกถึงการต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้น.
- RSI (Relative Strength Index) : อยู่ในระดับสูงแต่ยังไม่ถึง overbought ซึ่งบ่งบอกว่ายังมีพื้นที่สำหรับการเคลื่อนไหวขึ้นต่อ.
แผนการเทรด :
- กลยุทธ์การ Buy: รอให้ราคาทะลุแนวต้านที่ 2,617 USD แล้วเข้าซื้อโดยตั้งเป้าหมายถัดไปที่ 2,650 USD พร้อมตั้ง stop loss ที่ 2,580 USD.
- กลยุทธ์การ Sell: หากราคาไม่สามารถผ่าน 2,617 USD และแสดงสัญญาณกลับตัว เข้าสถานะขายโดยตั้งเป้าหมายที่ 2,580 USD หรือต่ำกว่านั้น พร้อมตั้ง stop loss อยู่เหนือ 2,620 USD.
สรุป :
ราคาทองคำอยู่ในระยะที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงหลังจากการทดสอบแนวต้านสำคัญ หากสามารถทะลุผ่านได้ จะยืนยันถึงความต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้น ควรจับตาดูพฤติกรรมราคาใกล้แนวต้านเพื่อการตัดสินใจที่เหมาะสม
2024 09 19 GOLD GOLD GOLDวิเคราะห์:
- แนวโน้ม : กราฟแสดงถึงแนวโน้มที่ชัดเจนว่าเป็นขาขึ้น โดยราคาทองคำยังคงมีโมเมนตัมในการขึ้นต่อเนื่อง และมีการทำ Higher Highs และ Higher Lows.
- ระดับราคา: ดูเหมือนว่ากำลังอยู่ในช่วงใกล้แนวต้านสำคัญที่ประมาณ $2,586 USD ซึ่งเป็นโซนที่อาจจะมีการทดสอบและกลับตัว.
แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance):
- แนวต้านแรก: 2,586 USD หากราคาสามารถทะลุผ่านได้จะมีเป้าหมายต่อไปที่ระดับ 2,600 USD.
- แนวรับ: อยู่ที่ประมาณ 2,500 USD ซึ่งเป็นระดับที่ควรเฝ้าดูหากราคาปรับตัวลง.
Indicators:
- **MACD (Histogram):** ยังคงเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง แสดงถึงโอกาสที่ราคาจะพักตัว.
- **RSI (Relative Strength Index):** อยู่ในช่วงค่อนข้างสูง แต่ยังไม่ถึงระดับ Overbought (70) ดังนั้นยังมีพื้นที่ให้ราคาทองคำขึ้นต่อไปได้.
แผนการเทรด:
- ถ้าต้องการ Buy: รอให้ราคาทะลุผ่านแนวต้านที่ 2,586 USD อย่างชัดเจน แล้วค่อยเปิดสถานะ Buy โดยตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่ 2,600-2,620 USD และตั้ง Stop Loss ใกล้ระดับ 2,550 USD.
- ถ้าต้องการ Sell: หากราคาทองคำไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 2,586 USD และเกิดการกลับตัวลง ให้เปิดสถานะ Sell ตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่แนวรับสำคัญที่ 2,500-2,520 USD และตั้ง Stop Loss ไว้ที่เหนือระดับแนวต้าน 2,590 USD.
### สรุป:
ราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แต่ใกล้ทดสอบแนวต้านสำคัญ ควรระวังการพักตัวหรือลดลงในระยะสั้น ในกรณีที่ราคาทะลุแนวต้านได้ คาดว่าจะมีโอกาสขึ้นต่อ.
2024 09 16 GOLD GOLD GOLD### วิเคราะห์:
1. **แนวโน้มตลาด (Trend Analysis):**
- จากกราฟเป็นขาขึ้นชัดเจน โดยราคาทองคำยังคงมีโมเมนตัมในการขึ้นต่อเนื่อง มีการทำ Higher High และ Higher Low
- ระดับราคาที่กราฟแสดงตอนนี้ดูเหมือนว่ากำลังอยู่ในช่วงใกล้แนวต้านสำคัญที่ประมาณ **2,586 USD** ซึ่งเป็นโซนที่น่าจะมีการทดสอบการเบรคหรือกลับตัว
2. **แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance):**
- แนวต้านแรกคือ **2,586 USD** หากราคาสามารถทะลุผ่านได้จะมีเป้าหมายต่อไปที่ระดับ **2,600 USD** และมากกว่านั้น
- แนวรับอยู่ที่ประมาณ **2,500 USD** ซึ่งเป็นระดับที่ควรเฝ้าดูหากราคาปรับตัวลง
3. **เครื่องมือวิเคราะห์ (Indicators):**
- **MACD (Histogram):** ยังคงเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง แต่มีการอ่อนแรงลงบ้าง แสดงถึงโอกาสที่ราคาจะพักตัว
- **RSI (Relative Strength Index):** อยู่ในช่วงค่อนข้างสูง แต่ยังไม่ถึงระดับ Overbought (70) ดังนั้นยังมีพื้นที่ให้ราคาทองคำขึ้นต่อไปได้
### การวางแผนการเทรด:
1. **ถ้าคุณต้องการซื้อ Buy:**
- รอให้ราคาทะลุผ่านแนวต้านที่ **2,586 USD** อย่างชัดเจน แล้วค่อยเปิดสถานะ Buy โดยตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่ **2,600-2,620 USD**
- ตั้ง Stop Loss ใกล้ระดับ **2,550 USD** เพื่อจัดการความเสี่ยง
2. **ถ้าคุณต้องการขาย Sell:**
- หากราคาทองคำไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ **2,586 USD** และเกิดการกลับตัวลง ให้เปิดสถานะ Sell
- ตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่แนวรับสำคัญที่ **2,500-2,520 USD**
- ตั้ง Stop Loss ไว้ที่เหนือระดับแนวต้าน **2,590 USD** เพื่อป้องกันความเสี่ยง
### สรุป:
ราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แต่ใกล้ทดสอบแนวต้านสำคัญ ควรระวังการพักตัวหรือลดลงในระยะสั้น ในกรณีที่ราคาทะลุแนวต้านได้ คาดว่าจะมีโอกาสขึ้นต่อ
2024 09 14 ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ วิเคราะห์แนวโน้มและทิศทางค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ วิเคราะห์แนวโน้มและทิศทางในอนาคต
1. **แนวโน้มขาลง (Downtrend):** จากกราฟ เราสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าเงินบาทมีการแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแนวโน้มนี้อาจจะยังคงดำเนินต่อไปหากยังไม่มีการกลับตัวที่ชัดเจน
2. **แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance):**
- ระดับแนวรับที่เห็นได้ชัดเจนอยู่บริเวณ **33.00** บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งหากเงินบาทแข็งค่ากว่าระดับนี้ จะเป็นสัญญาณของการแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง
- แนวต้านอยู่บริเวณ **33.50** บาทต่อดอลลาร์ หากราคาสามารถทะลุแนวต้านนี้ไปได้ อาจจะเป็นสัญญาณการกลับตัวขึ้น
3. **เครื่องมือวิเคราะห์ (Indicators):**
- **RSI** แสดงให้เห็นว่าอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ซึ่งบ่งบอกถึงภาวะการขายที่มากเกินไป (Oversold) และมีโอกาสเกิดการกลับตัวขึ้นในอนาคต
- **MACD หรือ Histogram** แสดงถึงการแข็งค่าของเงินบาทต่อดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง แต่อาจเริ่มเห็นสัญญาณของการกลับตัวในช่วงเวลาถัดไป
ราคาน้ำมันดิบ WTI ฟื้นตัวหลังการขายหนักราคาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้นจากจุดต่ำสุดในรอบ 17 เดือน
ตัวชี้วัดแรงผลักดันเริ่มฟื้นตัวเล็กน้อย
น้ำมันดิบ WTI ได้ฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดในรอบ 17 เดือนที่ 65.70 หลังจากการขายอย่างหนักจากแนวต้านที่ 78.75 ในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา สินค้าชนิดนี้สูญเสียมูลค่ากว่า 16% ทำให้แนวโน้มเปลี่ยนเป็นขาลงอย่างแรง 💹🔻
ตามที่ตัวชี้วัดทางเทคนิคระบุว่า MACD กำลังสูญเสียแรงผลักดันด้านลบ และเริ่มขยับขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ stochastic oscillator กำลังเคลื่อนตัวขึ้นหลังจากที่เกิดการไขว้กันระหว่างเส้น %K และ %D ในพื้นที่ที่ขายมากเกินไป สิ่งนี้บ่งชี้ว่าความสนใจในการขายที่รุนแรงอาจใกล้สิ้นสุด 💼📊
หากตลาดยังคงการฟื้นตัวขึ้นต่อไป ราคาน่าจะเจอแนวต้านที่ระดับจิตวิทยา 70.00 ก่อนจะถึงระดับ 71.30 และ 72.70 การพุ่งขึ้นเหนือเส้นแนวโน้มขาขึ้นและค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย 20 วัน (SMA) อาจเจออุปสรรคทันทีที่เส้นแนวโน้มขาลงในระยะสั้นที่ 76.60 ซึ่งซ้อนทับกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (SMA) 💰📈
ในสถานการณ์ลบ หากมีการพลิกกลับต่ำกว่าจุดต่ำสุดในรอบหลายเดือน อาจกระตุ้นการขายจนถึงแนวรับถัดไปที่ระดับต่ำสุดในเดือนเมษายน 2023 ที่ 63.60 📉🛢
โดยสรุป ราคาน้ำมันได้อยู่ในแนวโน้มขาลงอย่างสำคัญตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม และการฟื้นตัวเหนือระดับต้านที่ 84.70 เท่านั้นที่อาจเปลี่ยนแนวโน้มกลับเป็นขาขึ้นได้ 🚀💥
#น้ำมันWTI #ราคาน้ำมัน #ตลาดน้ำมัน #เทรนด์ตลาด #แรงซื้อขาย
2024 09 09 GOLD GOLD GOLD for FREE ทิศทางตลาดยังไม่แน่นอน(XAUUSD, Timeframe 30 นาที) แสดงถึงการเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway โดยมีการแกว่งตัวระหว่างแนวรับและแนวต้านชัดเจน ทิศทางตลาดยังไม่แน่นอน ทำให้ต้องระวังการเข้าเทรดในช่วงนี้
### วิเคราะห์:
1. **แนวต้านสำคัญ**: บริเวณ 2,510 หากราคาทะลุผ่านแนวต้านนี้ได้ มีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบบริเวณ 2,520 ขึ้นไป
2. **แนวรับสำคัญ**: บริเวณ 2,490 เป็นแนวรับหลัก หากราคาหลุดจากระดับนี้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงไปทดสอบบริเวณ 2,475
3. **RSI**: ขณะนี้ RSI อยู่ในช่วงกลางประมาณ 50 แสดงถึงสภาพตลาดที่ยังไม่แน่นอน ต้องรอให้ RSI ขยับไปใกล้ 70 (Overbought) หรือ 30 (Oversold) เพื่อให้ชัดเจนในทิศทางมากขึ้น
4. **MACD และ Histogram**: บ่งบอกถึงการทรงตัวของตลาด โดยโมเมนตัมยังคงอยู่ในช่วงพักตัว ควรรอสัญญาณที่ชัดเจนในการเคลื่อนไหวขาขึ้นหรือขาลง
### แผนการเทรด:
1. **หากคุณต้องการขาย (Sell)**:
- รอให้ราคาหลุดแนวรับ 2,490 อย่างชัดเจนก่อน โดยตั้งเป้าหมายกำไรที่บริเวณ 2,475
- ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ที่บริเวณ 2,495 หากราคาฟื้นตัวขึ้น
2. **หากคุณต้องการซื้อ (Buy)**:
- พิจารณาเข้า Buy หากราคายืนเหนือ 2,510 อย่างมั่นคง โดยมีเป้าหมายที่บริเวณ 2,520-2,525
- ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ที่บริเวณ 2,505
แผนการเทรดนี้ควรระมัดระวังและติดตามดูการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างใกล้ชิด
XAUUSD (ทองคำ) - การแปลงระยะยาว-ระยะสั้น
วันนี้ ตลาดสหรัฐจะมีการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงาน ADP ของสหรัฐสำหรับเดือนสิงหาคม ตามด้วยการเปิดเผยข้อมูลนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ ดังนั้น แนวโน้มในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์นี้จึงต้องพิจารณาแยกจากช่วงครึ่งแรกของสัปดาห์ ทองคำฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการลดลงสองครั้งในสัปดาห์นี้ ในช่วงเซสชั่นเอเชียวันนี้ ราคาทองคำยังคงซื้อขายเหนือ 2,490 และทะลุระดับ 2,500 ไปแล้ว ในช่วงเซสชั่นยุโรป ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ทะลุระดับกดดันที่ 2,507 ได้อย่างง่ายดาย และปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ระดับ 2,516 หากแนวโน้มเซสชั่นยุโรปถอยกลับตามที่คาดไว้ มีโอกาสสูงที่เซสชั่นสหรัฐจะยังคงทำลายจุดสูงสุดใหม่ในช่วงเย็น
จากมุมมองของกลยุทธ์เซสชั่นยุโรป ขอแนะนำให้สังเกตการถอยกลับของราคาทองคำก่อน จากนั้นจึงเลือกโอกาสในการจัดคำสั่งซื้อ โดยมีเป้าหมายเป็นขาขึ้น ระดับแนวรับหลักด้านล่างอยู่ที่ 2,505 และจุดเน้นที่สองอยู่ที่ระดับ 2,500 ระดับแนวต้านด้านบนสามารถขยับขึ้นได้อย่างเหมาะสมที่ 2,518 หรือ 2,526
จากมุมมองทางเทคนิค กราฟ 4 ชั่วโมงแสดงให้เห็นว่าเส้น MACD ที่เร็วและช้าสร้างจุดตัดสีทองและเพิ่มขึ้น และคอลัมน์พลังงานจลน์สีแดงอยู่ในระยะที่มีปริมาณมาก จุดตัดสีทองของตัวบ่งชี้สุ่ม KDJ เคลื่อนตัวขึ้น และดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ของ RSI ก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน สัญญาณเหล่านี้โดยทั่วไปแล้วเป็นผลดีต่อราคาทองคำ
โดยสรุป การดำเนินการระยะสั้นของทองคำในวันนี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นหลังจากการแก้ไข โดยเสริมด้วยการขายชอร์ตเมื่อรีบาวด์ ในระยะสั้น ด้านบนต้องมุ่งเน้นไปที่ช่วงแนวต้าน 2,518-2,526 และด้านล่างต้องมุ่งเน้นไปที่ช่วงแนวรับ 2,503-2,505 OANDA:XAUUSD
XAUUSD(Gold)-การวิเคราะห์แนวโน้มวันจันทร์หน้า
การวิเคราะห์ทางเทคนิคของทองคำ: ในช่วงการซื้อขายของสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แม้ว่าข้อมูล PCE จะเป็นไปในเชิงบวก แต่ทองคำก็ไม่สามารถแสดงแนวโน้มขาขึ้นอย่างมีนัยสำคัญได้ ข่าวดีล่าสุดหลายข่าวล้มเหลวในการช่วยให้ราคาทองคำทะลุระดับสูงสุดในอดีต ซึ่งสะท้อนถึงแนวต้านที่แข็งแกร่งในพื้นที่สูงในอดีต ทองคำร่วงลงต่ำกว่าระดับ 2,500 ตามที่คาดไว้ในระหว่างการซื้อขายของสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ แรงขายชอร์ตก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น และโครงสร้างด้านบนก็ชัดเจนมากขึ้น
จากกราฟรายวัน ทองคำร่วงลงหลังจากทำจุดสูงสุดหลายครั้ง และตกลงสู่จุดต่ำสุดของสัปดาห์นี้ในคืนวันศุกร์ และปิดท้ายด้วยเส้นลบ อย่างไรก็ตาม เอนทิตีของเส้นลบยังไม่ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ และเส้นรายวันในปัจจุบันแสดงแนวโน้มของการแปลงหยินและหยาง นี่แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มของวันจันทร์ไม่มีความแน่นอน: ทองคำอาจดีดตัวขึ้นและปิดด้วยเส้นบวก หรืออาจดำเนินต่อไปในแนวโน้มขาลงของวันศุกร์ หากดีดตัวขึ้นปิดด้วยเส้นบวก คาดว่าราคาจะมีโอกาสขยับขึ้นมาอยู่ที่ประมาณปี 2521 แต่หากราคาทองคำปรับตัวลดลงในวันศุกร์นี้ ราคาทองคำอาจเผชิญกับแรงกดดันที่บริเวณ 2,510 และร่วงลงอีกครั้ง ระดับแนวรับสำคัญด้านล่างอยู่ใกล้ 2,494 เมื่อราคาทองคำทะลุแนวรับนี้แล้ว อาจส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงอีกอย่างน้อย 10 เหรียญ
จากกราฟ 4 ชั่วโมง ทองคำเริ่มถอยกลับจากแรงกดดันที่แข็งแกร่งที่บริเวณ 2,530 และแนวโน้มผันผวนในช่วงปิดตลาดวันศุกร์ ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคของ Bollinger Band ยังคงรักษารูปแบบการแกว่งตัวแบบกล่อง ตัวบ่งชี้ MACD ตัดลง และระบบค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เริ่มเปลี่ยนทิศทางลงและเคลื่อนตัวลงมาจนสร้างระดับแนวต้านที่บริเวณ 2,515 ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า เราจำเป็นต้องให้ความสนใจกับแนวรับที่บริเวณ 2,495 หากราคาทองคำทะลุแนวรับนี้ ตลาดอาจได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมเพื่อเตรียมทางสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นในเดือนกันยายน ในปัจจุบัน ทองคำได้สร้างโครงสร้างหลายจุดยอด หากราคาทองคำดีดตัวกลับที่บริเวณ 2,512 ในสัปดาห์หน้า โอกาสในการขายชอร์ตก็จะเกิดขึ้นอีกครั้ง
โดยรวมแล้ว จากรูปแบบทางเทคนิคในปัจจุบันและความรู้สึกของตลาด ข้อเสนอแนะการดำเนินการในระยะสั้นสำหรับวันจันทร์หน้าคือการขายชอร์ตหลังจากการดีดตัวกลับ เสริมด้วยการซื้อเมื่อราคาย่อตัวลง ในระยะสั้น ด้านบนมุ่งเน้นไปที่ช่วงแนวต้าน 2512-2515 และด้านล่างมุ่งเน้นไปที่ช่วงแนวรับ 2485-2493 OANDA:XAUUSD
2024 08 26 GOLD GOLD GOLD### การวิเคราะห์:
1. **แนวโน้มราคา**: ราคามีการปรับตัวขึ้นจากแนวรับในช่วงก่อนหน้าและยังคงมีโอกาสปรับขึ้นได้ในระยะสั้น แต่ควรระวังการย่อตัวหากราคาไม่สามารถทะลุแนวต้านที่สำคัญได้
2. **แนวต้านสำคัญ**: อยู่ที่บริเวณ 2,520-2,525 ซึ่งเป็นระดับที่ราคาต้องเผชิญแรงขายพอสมควร หากราคาสามารถทะลุผ่านไปได้ แนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ 2,530
3. **แนวรับสำคัญ**: อยู่ที่บริเวณ 2,500-2,505 ซึ่งเป็นโซนที่มีการรองรับราคา หากราคาหลุดต่ำกว่าแนวรับนี้ อาจส่งสัญญาณการปรับตัวลงต่อเนื่อง
4. **สัญญาณ MACD**: มีสัญญาณการกลับตัวที่เป็นบวก ซึ่งสนับสนุนการเข้าซื้อในกรณีที่ราคาย่อตัวลงมาใกล้แนวรับ
### แผนการเทรด:
1. **กรณีที่ราคาย่อตัวมาทดสอบแนวรับที่ 2,505-2,510**:
- หากราคาไม่หลุดแนวรับนี้ สามารถพิจารณาเปิดคำสั่งซื้อ (Buy) โดยตั้งเป้าหมายกำไรที่ 2,520-2,525
- วางจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ที่ต่ำกว่า 2,500 เพื่อจำกัดความเสี่ยง
2. **กรณีที่ราคาทะลุแนวต้าน 2,520 ขึ้นไปได้**:
- สามารถพิจารณาเปิดคำสั่งซื้อ (Buy) เพิ่ม โดยตั้งเป้าหมายกำไรที่ 2,530-2,535
- วางจุดตัดขาดทุนที่บริเวณ 2,515 เพื่อป้องกันการกลับตัวลง
3. **กรณีที่ราคาหลุดแนวรับ 2,500 ลงมา**:
- สามารถพิจารณาเปิดคำสั่งขาย (Sell) โดยตั้งเป้าหมายที่ 2,490-2,485
- วางจุดตัดขาดทุนที่ 2,505 เพื่อป้องกันการกลับตัวขึ้น
### คำแนะนำเพิ่มเติม:
- ติดตามปัจจัยข่าวสารและตัวเลขทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ
- ควรใช้การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม เช่น การตั้ง Stop Loss ในทุกการเปิดคำสั่ง
Ripple ฝ่าวิกฤตและพุ่งขึ้น 4%Ripple ฝ่าวิกฤตและพุ่งขึ้น 4%, XRP ทะลุแนวต้านที่ $0.5000 💹🚀
* Ripple ประกาศโปรแกรม RippleX Bug Bounty เชิญนักวิจัยด้านความปลอดภัยเข้ามาค้นหาบั๊กที่อาจเกิดขึ้นในโปรเจกต์ของบริษัท
* Ripple ได้มอบรางวัลมากกว่า $1 ล้านในโปรแกรมนี้ และฐานรหัสครอบคลุม Multi-Purpose Tokens, Oracles, Lending Protocol, DID และอื่น ๆ อีกมากมาย
* XRP มีแนวโน้มที่จะเก็บสภาพคล่องที่ $0.4700 ก่อนที่จะพยายามทะลุแนวต้านที่ $0.6000
Ripple (XRP) ประสบการปรับฐานอย่างหนักในตลาดคริปโตเมื่อวันจันทร์ โดย XRP ลดลงไปถึง $0.4300 ต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม แต่ในวันอังคารนี้ altcoin ได้พุ่งขึ้น 4% ลบการสูญเสียล่าสุดออกไป อย่างไรก็ตาม ดัชนีทางเทคนิคชี้ว่า XRP อาจทดสอบแนวรับที่ $0.4700 ก่อนการฟื้นตัว XRP อาจพุ่งขึ้นไปถึงระดับแนวต้านทางจิตวิทยาที่ $0.6000 หลังจากการเก็บสภาพคล่อง 🌐📊
ในข่าวอื่น ๆ Ripple ได้ทำการประกาศสำคัญสำหรับนักวิจัยด้านความปลอดภัยเมื่อวันอังคาร
ตลาดประจำวัน: Ripple ประกาศโปรแกรม Bug Bounty หลังจากการขายออกอย่างมาก
* วันจันทร์ที่นองเลือด ซึ่งนักวิเคราะห์ชอบเรียกวันที่ 5 สิงหาคม ทำให้ราคา XRP ปรับฐานอย่างหนัก โดยโทเค็นของ XRPLedger ลดลงไปถึง $0.43 ต่ำสุดในรอบเดือน ควบคู่ไปกับการลดลงอย่างมากของ Bitcoin และคริปโตที่ติดอันดับ 30 อันดับแรก
* Ripple ประกาศโปรแกรมรางวัลสำหรับนักวิจัยด้านความปลอดภัยเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม RippleX Bug Bounty ในเช้าวันอังคาร
* บริษัทการชำระเงินเรียกร้องให้นักวิจัยระบุช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้นในฐานรหัส ซึ่งรวมถึง Multi-Purpose Tokens ของ XRP Ledger, Oracles, Lending Protocol, DID และโปรเจกต์อื่น ๆ อีกมากมาย
Ripple ระบุว่า บริษัทได้มอบรางวัลมากกว่า $1 ล้านให้กับนักวิจัยในช่วงเวลาล่าสุด
* บริษัทประกาศกิจกรรม Bug Bounty Live Hack ซึ่งเป็นการท้าทาย 48 ชั่วโมงในการระบุช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการจัดเวิร์กช็อปและการทำงานร่วมกันสำหรับนักวิจัยด้านความปลอดภัย 💻🔐
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: Ripple อาจเก็บสภาพคล่องที่ $0.47 หลังการฟื้นตัว
กราฟรายวันของ XRP/USDT แสดงความเป็นไปได้ของการเก็บสภาพคล่องที่แนวรับ $0.4700 ก่อนการฟื้นตัวของราคา Ripple altcoin อาจขยายการสูญเสียอีก 7% และเก็บแนวรับที่ $0.4700 ซึ่งเป็นขอบบนของโซนไม่สมดุลในกราฟเป้าหมายของ Ripple คือแนวต้านทางจิตวิทยาที่ $0.6000 และ altcoin อาจทะลุขึ้นหลังจากการเก็บสภาพคล่อง XRP อาจพบแนวต้านที่ Fair Value Gap (FVG) ระหว่าง $0.5188 และ $0.5406
ดัชนี Moving Average Convergence Divergence (MACD) สนับสนุนสมมติฐานของการลดลงของสินทรัพย์ โดยสัญญาณแรงกระตุ้นเชิงลบในแนวโน้มราคาของ XRP 📉📈
#Ripple #XRP #ตลาดคริปโต #การลงทุน #การวิเคราะห์เทคนิค #ข่าวการเงิน #BugBounty #โปรแกรมรางวัล #การชำระเงิน #ตลาดโลก
Anglo American (AAL) stock chart analysis1. Price Action:
The stock has recently experienced a significant rally followed by a sharp decline. It's currently trading around 2,463.0, which appears to be a critical level.
2. Trend Analysis:
The long-term trend seems bullish, given the overall upward movement. However, the recent sharp decline suggests a potential trend reversal or at least a significant correction.
3. Support and Resistance:
- Key resistance levels: 2,500.0, 2,464.0
- Key support levels: 2,270.5, 2,214.5, 1,993.0
4. Breakout and Breakdown Points:
- A significant breakout occurred at the point marked "Breakout Point" on the chart.
- The recent high near the "Sell Point" could act as a strong resistance if retested.
5. Volume Analysis:
While detailed volume data isn't visible, it's crucial to confirm price movements with volume, especially at key breakout or breakdown points.
6. Potential Scenarios:
a) Bullish scenario: If the price breaks above 2,464.0 with strong volume, it could target the recent highs around 2,800.
b) Bearish scenario: A break below 2,270.5 could lead to a test of 2,214.5 or even 1,993.0.
7. Risk Management:
- For long positions: Place a stop loss below 2,270.5
- For short positions: Place a stop loss above 2,500.0
8. Technical Indicators:
While not visible on this chart, it would be prudent to consider indicators like RSI, MACD, and moving averages for confirmation of trends and potential reversals.
9. Trading Opportunities:
- Short-term: Look for a bounce off the 2,270.5 support for a quick long trade.
- Medium-term: Consider a short position if the price fails to break above 2,464.0 with conviction.
10. Anomalies/Divergences:
The rapid price increase followed by a sharp decline could indicate a potential blow-off top, suggesting caution for long positions.
In conclusion, the stock is at a critical juncture. The 2,463.0 - 2,464.0 level is key. A break above with volume could signal renewed bullish momentum, while a failure to break this level might confirm a bearish reversal. Always manage risk carefully and use multiple timeframes and indicators to confirm trades.
OKBUSDT เเชร์มุมมอง OKBUSDT เเชร์มุมมอง
เหรียญ OKB เป็นอีกเหรียณหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับเหรียญ altcoin เนื่องจากราคาเป็นขาลงมาสักพักเริ่มมีการกลับตัวเริ่มให้เห็นโครงสร้างที่เริ่มเปลี่ยน หลัง จากเป็น bear trendมาระยะเวลาหนึ่ง จรึ่งเป็นเหรียญที่ค่อนค้างน่าสนใจเนื่องจากตามเทคนิคกราฟตามฉบับ
smc หลังจากราคาได้มีการ CHOCH เปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาลงมาระยะนึ่งเเล้ว bos bear trend มาจนตอนนี้ราคามีการทำ Failure Swing เเล้วมีเเรงซื้อเข้ามาอย่างรุ่นเเรงจนเบรค CHOCH เปลี่ยนโครงสร้างเเล้วยังมี Bull Div เกิดใน macd จรึงได้เกิดการกลับตัว
เป็นรูปเเบบ falling wedge Breakout ทั้งนี้ราคาได้สร้างโซนเอาไว้ให้กลับมาเข้าเก็งกำไรไว้ด้วย เเถวๆ 47-46 usd หากราคามีการย้อนลงมาจรึงคิดว่าเหมาะสมในการเก็งกำไรในตลาดกระทิงเป็นอย่างมาก !!! ทั้งนี้ราคาไม่ควรหลุด 44 usd เป็นอัดเด็จขาด
ไม่เเนะนำให้ซื้อขายตามนะครับบ
วิเคราะห์ราคา EUR/USD: ปีนขึ้นเหนือ 1.0700 อุปสรรคต่อไปที่EMA 21**วิเคราะห์ราคา EUR/USD: ปีนขึ้นเหนือ 1.0700 อุปสรรคต่อไปที่ EMA 21 วัน**
EUR/USD มีโอกาสเข้าใกล้ EMA 21 วันที่ 1.0727 การหลุดต่ำกว่า 1.0700 อาจนำคู่เงินนี้ไปสู่แนวรับสำคัญที่ 1.0650 และต่ำสุดของเดือนเมษายนที่ 1.0601 การทะลุผ่านระดับสำคัญที่ 1.0695 ชี้ให้เห็นถึงการอ่อนแอของอารมณ์เทรดในทางลบ
EUR/USD ฟื้นตัวจากการสูญเสียในเซสชันก่อนหน้า โดยซื้อขายอยู่ที่ราว 1.0710 ในเซสชันเอเชียของวันพฤหัสบดี จากมุมมองทางเทคนิค การวิเคราะห์ชี้ให้เห็นถึงการอ่อนแอของอารมณ์เทรดในทางลบสำหรับคู่นี้ เนื่องจากได้ทะลุผ่านระดับสำคัญ 1.0695 และระดับจิตวิทยา 1.0700
นอกจากนี้ ตัวบ่งชี้ที่ล้าหลังอย่าง Moving Average Convergence Divergence (MACD) ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัมสำหรับคู่ EUR/USD เนื่องจากตั้งอยู่ใต้เส้นกลางแต่เหนือเส้นสัญญาณ อย่างไรก็ตาม ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) 14 วันยังคงอยู่ใต้เครื่องหมาย 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการต่อเนื่องของโมเมนตัมในทางลบ
แนวรับสำคัญสำหรับคู่ EUR/USD น่าจะอยู่ที่ระดับจิตวิทยา 1.0700 การหลุดลงไปต่ำกว่าระดับนี้อาจกดดันคู่เงินลง โดยอาจนำไปสู่พื้นที่รอบระดับแนวรับสำคัญ 1.0650 แนวรับเพิ่มเติมอาจถูกระบุได้รอบต่ำสุดเดือนเมษายนที่ 1.0601 ซึ่งตรงกับระดับจิตวิทยา 1.0600
ในทางตรงกันข้าม อุปสรรคทันทีสำหรับคู่นี้อาจเป็น EMA 21 วันที่ 1.0727 การทะลุผ่านขึ้นไปเหนือระดับนี้อาจผลักดันคู่เงินไปสู่ระดับการถอยหลังของฟีโบนัชชี 38.2% ที่ 1.0749 ซึ่งเขียนระหว่างระดับ 1.0981 และ 1.0606 ตรงกับระดับสำคัญ 1.0750
วิเคราะห์ราคา EUR/JPY: กระทิงครองตลาด แต่อาจมีการรวมตัวในอนาคต**วิเคราะห์ราคา EUR/JPY: กระทิงครองตลาด แต่อาจมีการรวมตัวในอนาคต**
ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) ประจำวันแสดงถึงโมเมนตัมการซื้อที่เพิ่มขึ้น แต่การเข้าใกล้สภาวะซื้อมากเกินไปชี้ไปที่การแก้ไขทางเทคนิคที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต แผนภูมิรายชั่วโมงชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัมระยะสั้นไปยังผู้ขาย และตัวบ่งชี้ดูเหมือนจะรวมตัวกัน
คู่ EUR/JPY มีราคาอยู่ที่ 165.68 โดยมีการซื้อขายที่มีกำไรเล็กน้อยและยังคงอยู่ในระดับสูงสุดหลายปี แนวโน้มตลาดปัจจุบันเอนเอียงไปทางโมเมนตัมขาขึ้น ทำให้ผู้ซื้ออยู่ในตำแหน่งที่ดี อย่างไรก็ตาม ตัวบ่งชี้ประจำวันกำลังเข้าใกล้สภาวะซื้อมากเกินไป ในขณะที่ตัวบ่งชี้รายชั่วโมงได้ถึงขีดจำกัดนั้นและดูเหมือนจะกำลังรวมตัวก่อนเซสชันเอเชีย
ดัชนี RSI บนแผนภูมิรายวันเปิดเผยแนวโน้มที่ดี โดยมีการเพิ่มขึ้นตั้งแต่กลางเดือนเมษายนจากช่วงกลาง 40 ไปยังพื้นที่บวกอย่างลึกซึ้งด้วยค่าล่าสุดที่ 65 การเพิ่มขึ้นของ RSI แสดงว่าผู้ซื้อได้ครองตลาดในช่วงหลัง อย่างไรก็ตาม การเข้าใกล้ขีดจำกัดการซื้อมากเกินไปชี้ให้เห็นถึงการแก้ไขตลาดในอนาคตที่อาจเกิดขึ้น ในทางตรงกันข้าม แผนภูมิรายชั่วโมงแสดงการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในค่า RSI ซึ่งได้แกว่งระหว่าง 48 และ 71 ในช่วงเซสชัน และผู้ซื้อดูเหมือนจะพักผ่อน การเคลื่อนไหวเฉลี่ยการรวมกันและการเบี่ยงเบน (MACD) แสดงแถบสีเขียวที่คงที่ ซึ่งเสริมข้อโต้แย้งว่าโมเมนตัมกำลังหยุดนิ่ง
เมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มโดยรวม EUR/JPY แสดงการเคลื่อนไหวที่เป็นขาขึ้นในระยะสั้นขณะที่รักษาตำแหน่งเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน (SMA) ในขณะที่หันไปใช้กรอบเวลาที่ยาวขึ้น คู่ดังกล่าวยังคงอยู่เหนือ SMA 100 วันและ 200 วัน การตั้งค่าดังกล่าวอาจชี้ให้เห็นถึงการต่อเนื่องของความเป็นกระทิงสำหรับคู่ EUR/JPY.