วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 3 สิงหาคม 2565 วานนี้ทองคำไม่สามารถถึงฝันเหนือ 1800 ได้หลังดอลลาร์ได้แรงหนุนกลับมาอีกครั้ง
ทองคำวานนี้ปิดบวกไป 2 ดอลลาร์ จากความวิตกกังวลต่อความขัดแย้งใหม่ที่เสี่ยงจะเกิดขึ้นระหว่างสหรัฐฯ กับ จีน ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มมากขึ้น จนทำให้วานนีัทองคำกลับขึ้นไปทำ High ใกล้ๆ กับระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทำจุดสูงสุดของวันเมื่อวานนี้ที่ระดับ 1805 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยตลาดสัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นอีก 2 ดอลลาร์หรือ 0.11% ปิดที่ราคา 1,789.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำโดนสกัดการพุ่งขึ้นเมื่อวานนี้จากการแข็งค่าของดอลลาร์อีกครั้งหลังเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่อีกครั้ง จนทำให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่ากดดันราคาทองคำที่มีราคาที่แพงขึ้น ทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งปล่อยเทขายทำกำไรจากความกังวลดังกล่าว แต่ก็มีนักลงทุนส่วนหนึ่งที่วางเป้าหมายทำกำไรในบริเวณ 1800 เช่นกัน ทำให้ราคาบริเวณดังกล่าวเกิดความไม่สมดุลย์ ทั้งนักลงทุนที่มองเห็นกำไรที่เริ่มลดลงเกิดความกังวลต่อผลกำไรรอบนี้ก็เทขายออกมาเพื่อปรับฐานราคากันใหม่อีกครั้ง ทองคำจึงเป็นสิ่งที่เวลานี้ต้องมีการวางแผนสำรองการคาดหมายไว้มากกว่า 1 แผนเสมอ
เจ้าหน้าที่เฟดคือ แมรี เดลี่ ประธานเฟดในซานฟรานซิสโก ได้ออกมากล่าวกับสำนักข่าว CNBC ว่า “เฟดยังมีหนทางอีกยาวไกล ก่อนที่อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในความควบคุมได้ ซึ่งน่าจะชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น”
และเจ้าหน้าที่อีกคนคือ นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดประจำชิคาโก ได้ออกมาระบุว่ามีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งสำคัญอีกครั้ง
ข้อมูลเหล่านี้จึงเป็นเหตุให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่ากดดันทองคำให้ไม่สามารถกลับไปเหนือระดับ 1800 ดอลลาร์ได้ แต่ทั้งนี้ภาพรวมทองคำก็ยังมีนักลงทุนเฝ้าติดตามสถานการณ์ระดับราคาที่เหมาะสมในการเข้าทำกำไรต่อเนื่องเสมอ โดยเมื่อทองคำขยับขึ้นก็มักจะมีการทำกำไรสลับออกมาเป็นระยะๆ
ทางเทคนิควันนี้ภาพรวมทองคำยังเห็นการปรับฐานราคาเหนือบริเวณ Support zone 1746-1755 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากวันนี้ทองคำไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1781-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ก็อาจส่งผลให้ราคาทองคำกลับมาอ่อนค่าลงไปได้อีกครั้ง ทั้งนี้เราได้ประเมินแนวรับต้านสำคัญที่ระดับ 1768 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทองคำผ่านตรงจุดนี้ไปได้ ก็ยังเป็นโอกาสให้นักลงทุนเข้าซื้อขายในระยะสั้นๆ ได้ ใครที่รับความเสี่ยงได้ก็อาจเสี่ยงเปิดซื้อทำกำไรระยะสั้นที่ระดับแนวต้าน 1781-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหร้บเป้าหมายกำไรระหว่างวัน หากทองคำได้รับแรงหนุนเหนือแนวต้าน 1781-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ประเมินแนวทำกำไรระหว่างวันที่ระดับ 1796-1803 ดอลลาร์ต่อออนซ์
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : รอขายบริเวณ 1781-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณนี้ขึ้นไปได้ พิจารณเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายที่แนวรับ 1767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวได้ก็ให้ชะลอการทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน พิจารณาแนวรับถัดไปที่ 1746-1755 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาขยับขึ้นเหนือกว่า 1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : รอซื้อทองคืนหากราคาทองคำปรับตัวลงมาที่บริเวณ 1755-1746 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พิจารณาเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายการทำกำไรที่ 1781-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำสามารถขยับขึ้นไปเหนือกว่าก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน แนวทำกำไรถัดไปประเมินที่ 1796-1803 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1780 / 1803 / 1836
-------------------------------------------
Support : 1756 / 1727 / 1681
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1781 / 1790 / 1796
-------------------------------------------
Support : 1754 / 1746 / 1733
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก -2.90 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,002.97 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,760.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 1
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -2.90 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "COMMODITY"
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 2 สิงหาคม 2565 ทองคำยังพุ่งปรับเพิ่มสูงกว่า 4.03% ขยับใกล้ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำกลับมาอีกครั้งวานนี้ปิดบวกไป 5.9 ดอลลาร์ หลังดอลลาร์ซบเซาเหตุข้อมูลเศรษฐกิจออกมาน่าผิดหวัง ทองคำกลับมาบวกติดต่อกันต่อเนื่องเป็นวันที่ี 4 โดยตลาดสัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นอีก 5.9 ดอลลาร์หรือ 0.33% ปิดที่ราคา 1,787.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ทองคำปรับเพิ่มขึ้นก็มาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาไม่ดีสร้างความกังวลต่อนักลงทุนที่เห็นว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ กำลังเช้าสู่ภาวะถดถอยในเร็วๆ นี้
วานนี้สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 52.8 ในเดือน ก.ค. ซึ่งจัดว่าเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ระหว่างนี้นักลงทุนยังคงชะลอการลงทุนทองคำบางส่วนเพื่อเฝ้าติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในวันศุกร์นี้คือ “รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non farm payroll : NFP)”
สำหรับวันนี้ประเมินทางเทคนิคแล้วหลังทองคำปรับตัวพุ่งขึ้นต่อเนื่องกว่า 4 วัน จนเข้าใกล้ระดับต้านสุดท้ายของ Level 1700 คือ 1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตรงนี้เราประเมินว่าถ้าราคาทองคำวันนี้ไม่ผ่าน 1780 -1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจมีการพักปรับฐานกันอีกรอบ โดยอาจย่อตัวลึกกว่าที่ผ่านมา โดยประเมินใกล้ๆ ระดับ 1764 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง ทั้งนี้แรงซื้อในกรอบรายวันอาจลดลงไปแต่ก็ยังแรงหนุนเพื่อปรับตัวอยู่พอสมควร เราจึงคาดว่าการปรับย่อน่าจะไม่ลงลึกไปกว่า 1750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนจึงควรใช้ประโยชน์การวิเคราะห์นี้ไปวางแผนเพื่อปรับเป้าหมายการเข้าทำกำไรต่อไป สำหรับเป้าหมายของกรอบรายวัน (Day) เราประเมินที่ระดับ 1802 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ภาวะสุ่มเสี่ยงต่อการถดถอยเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้นจะยิ่งหนุนทองคำได้มากขึ้นเวลานี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อว่าหากสัญญาการถดถอยทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นจริง ธนาคารกลางทั่วโลกโดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา จะปรับลดท่าทีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยลง จึงส่งผลลบต่อสกุลเงินโดยตรง
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : รอขายบริเวณ 1780-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณนี้ขึ้นไปได้ พิจารณเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายที่แนวรับ 1774-1767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาขยับขึ้นเหนือกว่า 1802 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : รอซื้อทองคืนหากราคาทองคำปรับตัวลงมาที่บริเวณ 1755-1746 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พิจารณาเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายการทำกำไรที่ 1774-1767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำสามารถขยับขึ้นไปเหนือกว่าก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน แนวทำกำไรถัดไปประเมินที่ 1802-1790 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1780 / 1803 / 1836
-------------------------------------------
Support : 1756 / 1727 / 1681
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1781 / 1790 / 1800
-------------------------------------------
Support : 1768 / 1754 / 1746
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Downtrend
Time Frame Week = Uptrend
Time Frame Month = Uptrend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ยังไม่มีข้อมูลการเปลี่ยนแปลง
คงถือสุทธิ = 1,005.87 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = - ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = -
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = - ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 24 พฤษภาคม 2565 ทองคำต้อนรับต้นสัปดาห์เปิดบวกขึ้นได้ 5.7 ดอลลาร์ หลังดอลลาร์อ่อนตัวลง
เมื่อวานนี้ทองคำได้ปรับตัวลดลงจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์ ทำให้ทองคำปรับตัวฟื้นทำจุดสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 1865.34 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อวานนี้ดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าลงหลังตลาดหุ้นกลับมาเปิดรับความเสี่ยงอีกครั้ง และยังมีข่าวดีเกี่ยวกับการขึ้นกำแพงภาษีระหว่างสหรัฐกับจีน หลังนายโจ ไบเดน เตรียมที่จะยุติการทำสงครามทางการค้ากับจีน โดยพิจารณาปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในบางรายการลง และยังคงมีการกดดันจากสกุลเงินยูโรที่ปรับแข็งค่าขึ้นต้อนรับว่าทาง ECB หรือธนาคารกลางยุโรปมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฏาคม และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะกลับมาสู่ภาวะแดนบวกในช่วงสิ้นไตรมาสที่ 3 จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -0.50% เหตุผลดังกล่าวทำให้เงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้น ช่วยเป็นปัจจัยหนุนให้ทองคำกลับไปสู่ภาวะเหนือระดับ 1860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่ช่วงเวลาระหว่างวันทองคำก็ปรับย่อตัวลงบ้างจากการปรับฐานราคาในการทำกำไรระยะสั้นของนักลงทุน
สัญญาตลาดทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ +0.31% ปิดที่ระดับ 1,847.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำวันนี้กรอบรายวันยังมีการปรับตัวขึ้นตามรูปแบบ harmonic pattern (Gartley) อยู่ โดยประเมินแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1891 ดอลลาร์ต่อออนซ์อาจจะเป็นช่วงการปรับฐานในระยะสั้นของกรอบรายวันได้ ให้โฟกัสการลงทุนไว้ที่แนวดังกล่าวไว้ครับ สำหรับระยะสั้นกรอบรายชั่วโมงวันนี้ช่วงเช้าราคาทองคำลงทดสอบแนว SMA50 และทรงตัวปรับขึ้นได้ประเมินแนวต้านสำคัญช่วง 1858-1865 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากแนวต้านดังกล่าวยังไม่สามารถทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเหนือได้ เราอาจเห็นการเคลื่อนไหวทองคำในกรอบ (Sideway) ช่วงบริเวณ 1865-1849 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อหาแนวทางการปรับขึ้นหรือลงของทองคำในช่วงของวันนี้
วันนี้ดอลลาร์มีโอกาสฟื้นตัวในระยะสั้น เป้าหมายที่ระดับ 103 อาจเป็นเหตุกดดันราคาทองคำได้ จึงควรลดขนาดการเข้าซื้อบางส่วนเพื่อปรับสมดุลการลงทุนให้เหมาะสม
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1858-1865 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเป็นหลัก พิจารณาปิดกำไรหากราคาทองคำไม่หลุด 1849 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดลงไปก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1839 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1860 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1891 / 1925 / 1960
-------------------------------------------
Support : 1842 / 1813 / 1780
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1859 / 1865 / 1870
-------------------------------------------
Support : 1849 / 1839 / 1833
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Down trend
Time Frame Day = Uptrend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ล่าสุดซื้อเพิ่ม 4.64 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,068.07 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,853.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 14
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -26.48 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565 ทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับบวกเล็กน้อย รับการฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง
ทองคำช่วงนี้เรียกว่าผูกติดกับหมัดของสกุลเงินดอลลาร์จริงๆ พอฝั่งโน้นเบาแรงก็จะขยับขึ้นได้ แต่ก็ยังถูกจำกัดจากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ทำให้การปรับฟื้นไม่ได้ดีเท่าที่ควรนัก
การร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่แล้วก็พอเป็นปัจจัยให้เงินไหลเข้ามาระบบของทองคำได้บ้าง โดยดาวโจนส์ร่วงลง 2.9% ดัชนี S&P500 ร่วงลง 3.0% และ ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 3.8%
สำหรับในสัปดาห์นี้นักลงทุนเฝ้าติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ของสหรัฐฯ เพื่อที่จะทำการประเมินแนวทางการลงทุน และทิศทางแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขาเซนต์หลุยต์ กล่าวไว้ว่าการเทขายหุ้นสหรัฐในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมายแต่อย่างใด เพราะส่วนหนึ่งนั้นการเทขายออกของหุ้นเกิดจากความกังวลในเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคากลางสหรัฐฯ และเขาได้ยืนยันว่าเศรษฐกิจของสหรัฐจะไม่เกิดภาวะถดถอยในปีนี้และปีหน้า นอกจากจะมีเหตุการณ์เหนือความคาดหมายเกิดขึ้นกับระบบของเศรษฐกิจสหรัฐ
มีข้อมูลจาก Refinitiv Lipper ได้ออกมาชี้แจงว่า นักลงทุนทั่วโลกขณะนี้ได้มีการปรับลดขนาดการลงทุนในกลุ่มของกองทุนพันธบัตรและกองทุนหุ้นในสัปดาห์นี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวเรื่องของเงินเฟ้อ และการปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าว จนอาจเป็นเหตุให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถอถอยได้ นั่นจึงอาจเป็นเหตุให้ทองคำอาจมีแรงซื้อเข้าหนุนให้วิ่งกลับไปเหนือ 1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง
สัญญาตลาดทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 0.05% ปิดที่ระดับ 1,842.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำทางเทคนิคในกรอบรายวันกำลังวิ่งตามแบบของ Harmonic Pattern (Gartley) แต่ก็ยังมีแนวต้านสำคัญที่อาจะเป็นอุปสรรค์ต่อการปรับฟื้นของทองคำได้ที่ระดับ 1891 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันนั้นยังไม่มีการปรับขึ้นมาในระหว่างนี้ แต่เส้นค่าเฉลี่ย 200 ในระยะยาวได้มีการปรับขึ้นต่อเนื่อง แม้ก่อนหน้าทองคำจะย่อตัวลงแรงก็ตาม แต่ภาวะแนวโน้มระยะยาวทองคำก็ยังมีโอกาสปรับขึ้นสูงได้
สำหรับแนวทางระยะสั้นกรอบรายชั่วโมงนั้น ทองคำกำลังพยายามขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1858-1860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณดังกล่าวได้นั้น อาจทำให้มีการเทขายทำกำไรระยะสั้นได้ที่บริเวณดังกล่าว
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1858-1860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเป็นหลัก พิจารณาปิดกำไรหากราคาทองคำไม่หลุด 1849 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดลงไปก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1839 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1860 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำปรับตัวย่อลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1849 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วไม่สามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้นั้น ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นการลงทุนระยะสั้น เป้าหมายกำไรที่ 1858-1860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นเหนือเป้าหมายดังกล่าวให้ชะลอปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 1865-1870 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1849 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1891 / 1925 / 1960
-------------------------------------------
Support : 1842 / 1813 / 1780
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1859 / 1865 / 1870
-------------------------------------------
Support : 1849 / 1839 / 1833
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Down trend
Time Frame Day = Uptrend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ล่าสุดซื้อเพิ่ม 7.25 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,063.43 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,846.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 13
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -31.12 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 18 พฤษภาคม 2565 ทองคำปรับบวกขึ้นมาได้ 4.9 ดอลลาร์วานนี้หลังร่วงลงมาต่อเนื่อง
เมื่อวานนี้ผลการวิเคราะห์ทองคำก็เป็นไปตามที่วาดไว้อีกวันหนึ่ง วันนี้ผมมองว่าการปรับขึ้นในช่วงสั้นๆ เมื่อวานนี้ยังไม่เห็นการปรับขึ้นของทองคำที่ชัดเจน เนื่องจากพิจารณาในกรอบรายวันแล้วเรายังเห็นว่าทองคำยังมีแนวทางของการทดสอบราคาที่ระดับ 1842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปัจจัยเสริมที่ทำให้คิดเช่นนั้นก็มาจากบริเวณดังกล่าวมีเส้นค่าเฉลี่่ย 200 วัน (SMA200) ในแนวดังกล่าวอยู่ จึงต้องติดตามกันว่าที่ระดับบริเวณดังกล่าวทองคำจะสามารถฝ่ากลับขึ้นไปได้หรือไม่ ถ้าฝ่าขึ้นไปได้ เรามีโอกาสได้เห็นทองคำปรับขึ้นเหนือ 1850 ได้อีกครั้ง
วานนี้การปรับฟื้นของทองคำทำได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นหลังขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1829-1840 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่จากการกลับมาพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กลับมากดดันราคาทองคำอีกครั้ง สำหรับกองทุน SPDR กองทุนทองคำขนาดใหญ่ของโลกก็มีการปรับลดการถือครองต่อเนื่อง ทำให้น้ำหนักราคาทองคำจะกลับไปสู่ตลาดกระทิง (Bullish) ยังไม่คงเห็นเค้าลางชัดเจนสักเท่าไหร่ เหมือนเรายังยืนอยู่กลางสายหมอกที่เส้นทางการลงทุนทองคำยังไม่ชัดเจนมากนัก ก็ต้องมาดูว่า 1800 จะโดนทลายลงเมื่อไหร่ ซึ่งก่อนหน้าที่ผมคาดการณ์แนวรับไว้ที่ระดับ 1780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ผมก็ยังยืนยันว่าโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับฐานลงมาสู่ระดับดังกล่าวยังมีความเป็นไปได้อยู่ ซึ่งหากหลุดจากแนวนี้ไม่ต้องพูดแล้วระดับ 1800 ในช่วงเวลาที่เรายังต้องติดตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
วันนี้ขอเล่ายาวๆ ถ้าใครอ่านก็จะมีประโยชน์ บริบททองคำในอดีตคือเครื่องมือต่อสู้กับเงินเฟ้อ แต่ต้องเข้าใจว่าปัจจุบันตลาดการลงทุนมันถูกเปลี่ยนผันไปจากเดิมเกือบทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการเกิดใหม่ของตลาดการลงทุน สินทรัพย์ใหม่ที่นักลงทุนรุ่นใหม่ๆ ให้ความสนใจและเข้าทำการซื้อขายอย่างกว้างขวาง ทองคำจึงลดสเน่ห์ลงไปพอสมควร แต่ด้วยมูลค่าความน่าเชื่อถือทองคำจึงยังคงเป็นสินทรัพย์ถาวรที่ใครๆ ยังให้ความมั่นใจอยู่
สัญญาตลาดทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 0.27% ปิดที่ระดับ 1,818.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ตลาดทองคำทางเทคนิควันนี้ก็คงมีแนวทางเดิมอยู่ในกรอบรายวันหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่าน 1842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้น ก็ยังมีโอกาสที่จะถูกขายออกทำกำไรระยะสั้นได้อีก ในกรอบระยะสั้นรายชั่วโมงในช่วงเช้านี้ถ้าราคาทองคำยังไม่หลุด 1810-1792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีโอกาสที่จะปรับฟื้นขึ้นระยะสั้นเพื่อทดสอบแนวต้าน 1822-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ถ้าหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวนี้ก็จะเห็นการปรับตัวต่ำของทองคำได้อีกครั้งหนึ่ง
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1822-1830 ขึ้นไปได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยคงเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านััน พิจารณาทำกำไรหากราคาทองคำปรับย่อลงมาไม่เกินแนวรับ 1810-1792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับสูงกว่า 1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำปรับทรงตัวได้ในบริเวณ 1810-1792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวต้าน 1830-1840 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับต่ำกว่า 1792 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1842 / 1891 / 1925
-------------------------------------------
Support : 1780 / 1701 / 1600
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1822 / 1830 / 1840
-------------------------------------------
Support : 1810 / 1799 / 1792
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Down trend
Time Frame H4 = Down trend
Time Frame Day = Down trend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ล่าสุดลดลง -4.07 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,049.21 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,815.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 11
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -45.34 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 17 พฤษภาคม 2565 ทองคำปรับฐานช่วงเช้ามืดวันนี้ หลังร่วงลงต่อเนื่องมาหลายวัน
การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์กลับมาอีกครั้งจากช่วงการปรับฐานราคาจากระดับ 104 ซึ่งมีโอกาสที่ดอลลาร์จะปรับฐานเข้าใกล้ 103 ก่อนจะตั้งทรงตัวได้หรือไม่นั้น ถ้าดอลลาร์ทรงตัวได้ในแนว 103 การปรับฟื้นที่นักลงทุนจะเข้าซื้อจากแนวดังกล่าวอีกครั้งก็มีความเป็นไปได้สูง จึงอาจเป็นเหตุผลให้เกิดการกดดันราคาทองคำขึ้นได้อีกครั้ง
การอ่อนค่าของดอลลาร์นั้นส่วนหนึ่งก็มาจากหลังมีการเปิดเผยตัวเลขดัชนีการผลิต (Empire State Index) จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ร่วงลงสู่ระดับติดลบในเดือนพฤษภาคม โดยร่วงลงแตะ -11.6 จากระดับ 24.6 ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งการที่ตัวเลขติดลบต่ำกว่า 0 เป็นเครื่องสะท้อนถึงการหดตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก นักลงทุนจึงเข้าซื้อทองคำในช่วงจังหวะดังกล่าว เมื่อเห็นความอ่อนไหวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้
ตลาดทองคำฟื้นคืนกลับมาในช่วงปรับฐานราคาอีกครั้ง โดยทองคำมีช่วงจังหวะน่าเข้าซื้อที่ใกล้ระดับ 1780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้แรงซื้อเข้ามาสนับสนุนพร้อมกับการเทขายทำกำไรของนักลงทุนที่เข้าคำสั่ง “ขาย” ไว้ก่อนหน้า ซึ่งถ้าพิจารณาจากกรอบรายวันที่เราพบเจอรูปแบบของ Harmonic pattern “Gartley” นั้น ถ้าไม่เสียสมดุลที่ระดับ 1780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็ยังมีโอกาสที่จะปรับราคาขึ้นจากแนวดังกล่าวได้ ตามรูปแบบที่ควรจะเป็น แต่เนื่องจากการปรับฐานระยะสั้นยังคงมีอุปสรรคจำกัด
ในส่วนของทองคำนั้นหากพิจารณาจากกรอบรายวัน โอกาสที่ยังมองเห็นถึงการกลับมาของตลาดกระทิง (Bullish) นั้นยังต้องดูว่าระดับ 1,780 จะรับราคาสุดท้ายไว้ได้หรือไม่ (เกิดแนวรับที่ฟอร์ม harmonic pattern gartley) ถ้าทองคำสามารถทรงตัวได้ที่แนวทางดังกล่าว (Day) เราก็ยังพอจะมีลุ้นว่าทองคำอาจมีแรงซื้อระยะสั้นเข้าหนุนตลาดในจังหวะที่ราคาทองคำปรับตัวต่ำเช่นนี้ มันเป็นโอกาสของการเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ในตอนที่ดอลลาร์กำลังเข้าช่วงการปรับฐานราคาในระดับ 104-103 ตรงนี้เราอาจมองประเด็นการเข้าซื้อในระยะสั้นได้เช่นกัน โดยประเมินแนวต้านไว้ดังนี้ 1891, 1925, 1960 และ 2001 ตามลำดับ
สัญญาตลาดทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.8 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 0.32% ปิดที่ระดับ 1,814 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ตลาดทองคำฟื้นคืนกลับมาในช่วงปรับฐานราคาอีกครั้ง โดยทองคำมีช่วงจังหวะน่าเข้าซื้อที่ใกล้ระดับ 1780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้แรงซื้อเข้ามาสนับสนุนพร้อมกับการเทขายทำกำไรของนักลงทุนที่เข้าคำสั่ง “ขาย” ไว้ก่อนหน้า ซึ่งถ้าพิจารณาจากกรอบรายวันที่เราพบเจอรูปแบบของ Harmonic pattern “Gartley” นั้น ถ้าไม่เสียสมดุลที่ระดับ 1780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็ยังมีโอกาสที่จะปรับราคาขึ้นจากแนวดังกล่าวได้ ตามรูปแบบที่ควรจะเป็น แต่เนื่องจากการปรับฐานระยะสั้นยังคงมีอุปสรรคจำกัดในกรอบรายวันเรายังคงเห็นเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (Simple Moving Average 200) อยู่เหนือระดับราคาที่บริเวณ 1842-1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเป็นเหตุผลที่ทองคำปรับขึ้นได้เพียงระยะสั้นในรอบแรก ก่อนที่จะปรับตัวย่อได้ต่อ ฉะนั้นนักลงทุนควรให้ความสำคัญแนวต้านบริเวณ 1842-1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไว้ก่อน หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านในบริเวณดังกล่าวได้ นักลงทุนอาจตัดสินใจซื้อขายได้จากบริเวณดังกล่าว แนะนำให้ติดตามแนวต้านนั้นไว้
สำหรับกรอบรายชั่วโมงผู้ลงทุนระยะสั้น ไม่ควรเข้าซื้อขายระยะกลางหรือยาวในเวลานี้ เนื่องจากดอลลาร์ยังคงมีความผันผวนในระยะสั้น ซึ่งผมประเมินไว้ว่าดอลลาร์พยายามจะปรับขึ้นเหนือ 104 เพื่อเข้าสู่ระดับ 105 ตรงนี้จึงยังคงเป็นแรงกดดันต่อเนื่องที่อาจทำให้ทองคำอาจมีการปรับร่วงมาทดสอบแนวรับ 1780 ได้อีกครั้ง หากแนวทางนี้ปรากฎก็ให้นักลงทุนได้เตรียมการวางแผนล่วงหน้าเพื่อหาทางออกในการเข้าทำกำไรให้เกิดประโยชน์กับพอร์ตของนักลงทุนให้ได้มากที่สุด สำหรับช่วงเช้ามืดวันนี้ราคาทองคำปรับฟื้นจนหลุดแนวต้าน 1820 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังขยับไม่ได้เกินจากระดับ 1829-1840 ดอลลาร์ต่อออนซ์สำหรับกรอบรายชั่วโมง อาจมีช่วงปรับฐานย่อตัวเกิดขึ้นได้ จึงควรระมัดระวังแนวทางดังกล่าวไว้
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1829-1840 ขึ้นไปได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยคงเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านััน พิจารณาทำกำไรหากราคาทองคำปรับย่อลงมาไม่เกินแนวรับ 1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้ก็ให้ปิดการทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1799 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับสูงกว่า 1840 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำปรับทรงตัวได้ในบริเวณ 1820-1822 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวต้าน 1834-1840 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับต่ำกว่า 1820 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1842 / 1891 / 1925
-------------------------------------------
Support : 1780 / 1701 / 1600
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1829 / 1834 / 1840
-------------------------------------------
Support : 1822 / 1810 / 1799
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Down trend
Time Frame H4 = Down trend
Time Frame Day = Down trend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ล่าสุดลดลง -2.61 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,053.28 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,823.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 10
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -41.27 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม 2565 ทองคำนิวยอร์กวันศุกร์ที่ผ่านมาร่วงใกล้หลุด 1,810-1,800 ดอลลาร์
ตลาดทองคำนิวยอร์กยังคงเคลื่อนไหวปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากการแข็งค่าของดอลลาร์เหนือ 104 ทำให้ทองคำอยู่ในภาวะกดดันราคาลงจนหลุดระดับคาดการณ์ไว้หลายจุดด้วยกัน จนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทองคำปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ระดับ 1,797.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวันทองคำสามารถรีบาวน์กลับมายืนเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้งโดยปิดระดับ 1808.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้การอ่อนค่าของทองคำยังคงอาจมีต่อเนื่องอีกสักระยะ เนื่องจากนักลงทุนยังคงให้ความสำคัญต่อดอลลาร์ จากการที่ตลาดหุ้นร่วงติดต่อกัน และ Bitcoin ที่โดนโจมตีจนเกิดความเสียหายอย่างหนัก ทำให้นักลงทุนแห่เข้ามาถือครองดอลลาร์กันไว้ก่อนในระยะนี้ เพราะปัจจัยเร่งเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยคงเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจเข้าซื้อดอลลาร์ของนักลงทุนในเวลานี้ ซึ่งส่วนตัวผมไม่เชื่อว่าดอลลาร์จะปรับแข็งค่าไปไกลมากนัก เพราะยังงัยระบบกลไกควบคุมค่าเงินก็ยังคงต้องนำออกมาใช้อยู่ดี แต่จะจบลงและเหมาะสมที่ตรงไหน นั่นคือสิ่งที่พวกเราต้องเฝ้ารอและหาคำตอบกันในประเด็นนี้
ในส่วนของทองคำนั้นหากพิจารณาจากกรอบรายวัน โอกาสที่ยังมองเห็นถึงการกลับมาของตลาดกระทิง (Bullish) นั้นยังต้องดูว่าระดับ 1,780 จะรับราคาสุดท้ายไว้ได้หรือไม่ (เกิดแนวรับที่ฟอร์ม harmonic pattern gartley) ถ้าทองคำสามารถทรงตัวได้ที่แนวทางดังกล่าว (Day) เราก็ยังพอจะมีลุ้นว่าทองคำอาจมีแรงซื้อระยะสั้นเข้าหนุนตลาดในจังหวะที่ราคาทองคำปรับตัวต่ำเช่นนี้ มันเป็นโอกาสของการเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ในตอนที่ดอลลาร์กำลังเข้าช่วงการปรับฐานราคาในระดับ 104-103 ตรงนี้เราอาจมองประเด็นการเข้าซื้อในระยะสั้นได้เช่นกัน โดยประเมินแนวต้านไว้ดังนี้ 1891, 1925, 1960 และ 2001 ตามลำดับ
สัญญาตลาดทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวลดลง 10.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 0.58% ปิดที่ระดับ 1,808.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
สำหรับทองคำในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้คาดทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบมากกว่า เนื่องจากตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐไม่มีรายงานในวันดังกล่าว โดยประเมินว่าหากราคาทองคำกรอบระยะสั้น (รายชั่วโมง) ยังไม่สามารถวิ่งขึ้นเหนือระดับ 1820 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเกิดการเทขายทองคำระยะสั้นออกมาอีกรอบประเมินแนวรับที่บริเวณ 1799 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับกรอบรายวันจากที่ได้เกิด pattern ของ harmonic pattern gartley ขึ้นนั้น นักลงทุนสามารถเฝ้ารอติดตามเข้าซื้อทองคำได้ในช่วงเวลานี้ โดยเป้าหมายที่ควรจับตามองคือระดับแนวรับ 1780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถ้าไม่หลุดในแนวรับดังกล่าว แนะนำให้เข้าซื้อทองคำในระดับดังกล่าวเพื่อการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นในรอบ
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1817-1821 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้น้้น ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ในบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาเป้าหมายกำไรที่แนวรับ 1798 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นสูงกว่า 1821 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำสามารถทรงตัวได้ที่บริเวณ 1798-1799 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาเป้าหมายแนวต้าน 1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1798 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1842 / 1891 / 1925
-------------------------------------------
Support : 1780 / 1701 / 1600
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1822 / 1834 / 1840
-------------------------------------------
Support : 1800 / 1799 / 1792
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Down trend
Time Frame H4 = Down trend
Time Frame Day = Down trend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ล่าสุดลดลง -4.93
คงถือสุทธิ = 1,055.89 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,810.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 9
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -38.66 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2565 ทองคำนิวยอร์กยังปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี เหตุเดิมดอลลาร์แข็งค่า
ทองคำนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ยังปรับร่วงลงจากการแข็งค่าของดอลลาร์ โดยหลักๆ ก็คงเป็นความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เห็นได้ว่า FedWatch tool ได้ชี้ว่านักลงทุนเชื่อมั่น 100% ว่าเฟดจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินอีก 2 ครั้ง ในเดือนมิ.ย. และ ก.ค. ทำให้ดัชนีดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องสลับช่วงปรับฐานสั้น ทำให้ทองคำเจอแรงกดดันตลอดเวลา แม้ระหว่างวันอาจมีการปรับขึ้นได้บ้างของราคาทองคำ แต่ก็ไม่อาจปรับขึ้นจากแรงซื้อระยะยาว เพียงมีแต่การกทำกำไรระยะสั้นๆ ตามการทดสอบแนวรับและแนวต้านสำคัญๆ
สัญญาตลาดทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวลดลง 29.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1.57% ปิดที่ระดับ 1,824.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้พิจารณาในกรอบรายวันกันก่อน กรอบรายวันตอนนี้ทางเทคนิคเราได้เห็นรูปแบบของ Gartley Pattern เกิดขึ้นมาโดยหากพิจารณาตามหลักการของรูปแบบดังกล่าวช่วงโอกาสในการเข้าซื้อประเมินไว้ที่ระดับ 1800-1809 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเป้าหมายราคาระดับช่วงแนวต้านบริเวณที่ 1 ระหว่าง 1977-1998 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวต้านบริเวณที่ 2 ระหว่าง 2048-2071 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำจะกลับไปเหนือระดับ 1900 แล้วทดสอบบริเวณ 2000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้หรือไม่นั้น หากพิจารณาตามเหตุการณ์ ณ ปัจจุบัน โอกาสที่จะเป็นก็มีความเป็นไปได้ ไม่ว่าความไม่แน่นอนจากสงครามที่อาจส่อเค้าขยายวงกว้างขึ้น และเหตุการแพร่ระบาดโควิดที่พบเป็นรายแรกที่เกาหลีเหนือ และที่จะไม่กล่าวถึงเลยไม่ได้คือภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงทั่วโลกขณะนี้ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่จะมีการเร่งปรับอัตราดอกเบี้ยรุนแรงขึ้น โดยคาดว่าจะปรับที่ระดับ 0.50% ในอีกสองครั้งที่จะมีการประชุมต่อจากนี้ จึงคงเป็นเหตุผลให้เกิดความผันผวนต่อราคาทองคำตลอดเวลา ปกติแล้วผมจะเป็นคนที่ชอบหารูปแบบของ Harmonic ในการตัดสินใจวางแผนการเทรดในกรอบรายวันเป็นหลัก ซึ่งจากรูปแบบนี้ถ้าประเมินกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ผมมีความเชื่อลึกๆ ว่าเรื่องการแข็งค่าของดอลลาร์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกลไกระยะสั้น ผมไม่เชื่อว่าดอลลาร์จะแข็งค่าสูงสุดที่เป็นอยู่ขณะนี้ได้ยาวเกินไป เพราะก็จะไม่ส่งผลดีต่อกลุ่มผู้ค้าส่งออกของสหรัฐฯ โดยเฉพาะความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากภาวะสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่มีเรื่องพลังงานเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเป็นเรื่องต้นๆ ชาติยุโรปก็คงตัดสินใจซื้อพลังงานราคาแพงจากสหรัฐฯ ได้ลำบากมากขึ้น ยิ่งค่าดอลลาร์แข็งค่าเช่นนี้ก็จะส่งผลต่อราคาพลังงานที่จะนำเข้าจากสหรัฐฯ โดยตรงอยู่แล้ว เรื่องนี้จึงเป็นเหตุให้ติดตามได้ตลอดเวลาจริงๆ ประเมินสำหรับกรอบรายวันนั้น ถ้าหากรูปของ Harmonic (Gartley) ที่เปิดขึ้นไม่เสียทรง คาดว่าถ้าไม่หลุด 1800-1809 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไปได้อีกครั้ง แต่ทั้งนี้ถ้าพิจารณาส่วนย่อยนั้นเรายังคงเห็นอุปสรรคจากแรงซื้อที่ยังไม่สูงพอเท่าไหร่นัก เมื่อพิจารณาจากเส้น SMA50 ที่บริเวณ 1900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะเป็นอุปสรรคพอสมควรที่จะทำให้ราคาทองคำฟื้นคืนตัวกลับไปได้อีกอย่างมั่นคงเหนือระดับ 1900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็ต้องเฝ้าติดตามหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปได้จริง และเข้าใกล้บริเวณดังกล่าว
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1829-1834 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากแนวบริเวณดังกล่าว โดยคงเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรในกรอบแนวรับตั้งแต่ 1822-1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1834 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำทรงตัวเหนือแนวรับบริเวณ 1822-1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากแนวบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเป็นหลัก ให้พิจารณาปิดทำกำไรในกรอบแนวต้านบริเวณ 1840-1835 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1842 / 1891 / 1925
-------------------------------------------
Support : 1842 / 1813 / 1780
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1829 / 1834 / 1840
-------------------------------------------
Support : 1822 / 1810 / 1799
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Down trend
Time Frame H4 = Down trend
Time Frame Day = Down trend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ล่าสุดลดลง -5.80
คงถือสุทธิ = 1,060.82 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,821.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 8
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -33.73 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 11 พฤษภาคม 2565 ทองคำยังปรับร่วงต่อเนื่องปัจจัยกดดันจากดอลลาร์เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยเป็นหลัก
ช่วงนี้จะได้ยินบ่อยๆ ถึงอาการเบื่อทองคำจากความผันผวนที่กดดันทองคำตลอดเวลา แต่ผมกลับมองว่านี้คือโอกาสที่จะทำให้เราสามารถหาช่องทางการลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอ ดีกว่านิ่งๆ หรือเป็นเทรนด์ยาวๆ เพราะสายสั้นจะมีโอกาสน้อยกว่าสายยาว สำหรับทองคำเมื่อมองกันที่ภาวะตลาดตอนนี้คงไม่หนีหายจากแรงกดดันจากดอลลาร์เป็นเหตุผลหลักๆ โดยตลาดทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ในวันอังคารที่ผ่านมา เหตุความกังวลที่เกี่ยวกับเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐที่คาดว่าจะปรับรุนแรงขึ้นอีก จึงยังเป็นปัจจัยเร่งดอลลาร์ให้ขยับขึ้นในช่วงนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบในเดือนมิถุนายน ได้ปรับตัวลดลง 17.6 ดอลลาร์ หรือ 0.95% ปิดที่ระดับ 1,841 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทางฝั่งของ FedWatch Tool ได้บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 75% ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมระหว่างวันที่ 14-15 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ ซึ่งได้เพิ่มขึ้นจากระดับ 19% ของเดือนที่แล้ว นักลงทุนได้เฝ้าติดตามรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐประจำเดือนเมษายน ในวันนี้เวลา 19:30 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ให้การคาดการณ์ว่า ดัชนี CPI เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคอาจมีการปรับตัวขึ้น 8.1% ในเดือนเมษายน เมื่อเทียบกับรายปี
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทางด้านเทคนิคการเทรดนั้น เรายังมองที่กรอบใหญ่เนื่องจากการปรับฐานในกรอบรายวันค่อนข้างชัดเจน จากที่ราคาทองคำได้มีความพยายามปรับตัวลงทดสอบเส้น SMA200 วันแถวๆ แนวบริเวณ 1,842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งมีความเป็นไปได้ในระยะสั้นอาจมีความผันผวนได้ในแนวบริเวณดังกล่าว แต่ปัจจัยเร่งอื่นๆ ก็คงเป็นประเด็นที่ทำให้เรายังไม่ฟันธง 100% จากการแข็งค่าของดอลลาร์ยังคงเป็นอุปสรรคที่ทองคำจะปรับฟื้นตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว แนะนำสำหรับคนเล่นช่วงสั้นอาจหาจังหวะได้จากบริเวณดังกล่าว ในกรณีที่เส้น SMA200 วันรองรับราคาไม่ได้ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,813 และ 1,780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ สำหรับในกรอบรายชั่วโมงนาทีนี้คงไม่มีอะไรที่จะลงเล่นได้แบบเข้าตลาดอย่าอยู่ให้นาน เพราะดูจะปลอดภัยมากกว่าสำหรับการเล่นช่วงนี้ สำหรับรายชั่วโมงวันนี้ถ้าหากราคาทองคำยังไม่ขยับสูงกว่า 1,846-1,855 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจมีการเทขายทำกำไรอีกครั้ง แนวรับติดตามวันนี้คือ 1,842-1,838 ดอลลาร์ต่อออนซ์
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,846-1,855 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณ 1,842-1,838 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำหลุดต่ำกว่าให้เลื่อนการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน พิจารณาแนวรับถัดไปที่ 1,813 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นสูงกว่า 1,855 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1891 / 1925 / 1960
-------------------------------------------
Support : 1842 / 1813 / 1780
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1846 / 1855 / 1862
-------------------------------------------
Support : 1832 / 1818 / 1809
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Down trend
Time Frame H4 = Down trend
Time Frame Day = N
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ล่าสุดลดลง -7.25
คงถือสุทธิ = 1,068.65 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,838.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 6
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -25.90 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Update สถานะทองคำ XAUUSD H1 ประจำวันที่ 07.04.22ภาครวมเศรษฐกิจทางสหรัฐ
1. Balance Sheet 8,937 งบดุลมีการปรับตัวลดลงเล็กดน้อย ( #กดดดันทองคำ )
2.USD LIBOR Interest Rates 0.32729% ---> 0.32614% อัตราดอกเบี้ยการกู้ระหว่างธนาคารของตลาดลอนดอน ปรัวตัวลง ( #หนุนทองคำระยะสั้น )
3.การคาดการณ์ของCMEGroup มีโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50-0.75% ได้ปรับตัวลงที่ 25.6%---> 21.7% และคาดการณ์ขึ้นดอกเบี้ย 0.75-1.00% มีโอกาสสูงขึ้นที่ 78.3% ( #กดดันทองคำ )
4.Reverse repo rate 1,692 --->1,731 การขายคืนพันธบัตรกลับสู่ตลาดเงินเพื่อดึงสภาพคล่องออกจากตลาด ( #เริ่มกดดันทอง )
5.Break Even 10 Year การคาดการณ์เงินเฟ้อ 10 ปีอยู่ที่ 2.84 ---> 2.83 ยิ่งขึ้นไปยิ่งกดดันให้เฟดใช้มาตรการเข้มงวดทางการเงิน ( #หนุนทองระยะสั้น กดดันทองในระยะยา )
6.กองทุน SPDR วันที่ 5 ที่ผ่านมาได้ทำการเทขายทองคำ 2.68 ตัน ( #กดดันทองคำ )
7.Forward Inflation 5 Year การคาดการณ์เงินเฟ้อ 5 ปี มีการย่อตัวเล็กน้อยที่ 2.32 --->2.37 ยังอยู่ในโซนพักฐาน ยิ่งขึ้นไปยิ่งกดดันให้เฟดใช้มาตรการเข้มงวดทางการเงิน ( #หนุนทองระยะสั้น กดดันทองในระยะยาว )
8. CBOE:GVZ ดัชนีความกลัวของทองคำ ที่ 19.12---> 18.47 ความกังวลในตลาดทองคำเริ่มมีการปรับตัวลง และทองคำพุ่งขึ้น ดังนั้นจึงวิเคราะห์ได้ว่าทองคำตอนนี้ราคาถูก เหมาะสำหรับการเข้าซื้อ ( #หนุนทองคำ )
9.ดัชนีหุ้นเหมืองทองคำ NYSE:HUI พักตัวอยู่ในโซนแนวต้านของดัชนี ( #หนุนทองคำ )
10.US30 ดาวน์โจนส์ เริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังจากโดนเทขายทำกำไรก่อนประกาศประชุมเฟดเมื่อตี1ที่ผ่านมา ( #หนุนทองคำ )
11.Realyield 10y มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย -0.52---> -0.25 มีการปรับตัวลงเล็กน้อย ยังอยู่ในโซนบวก หากต่ำกว่า -0.5 ไปถึง -1.0 อันนี้จะเป็นผลดีต่อทองคำ ( #กดดันทองคำ )
12. US10Y ปรับตัวขึ้นมาที่ 2.54--->2.57 พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ10 มีการพุ่งขึ้นเล็กน้อย หลังจากการประกาศเมื่อตี1ที่ผ่านมา ( #กดดันทองคำ )
13. TIP หรือตราสารหนี้ มีการปรับตัวลงเรื่อยๆ ( #กดดันทองคำ )
14. DXY หรือดัชนีดอลลาห์ 98.833 ---> 99.625 ทำจุดสูงสุดของปี ผลมาจากที่EU ประกาศคว่ำบาตรขนส่งและส่งออกรัสเซีย #หนุนทองคำ ( หากอยู่ในสภาวะปกติ ยิ่งขึ้นยิ่งกดดันทอง แต่กับสงครามกลับกัน ยิ่งลงยิ่งกดดันทอง )
15. SILVER แร่โลหะ สวิงตัวออกข้างตามทองคำ ( - )
16. TVC:GOLDSILVER อัตราส่วนทองคำและเงิน มักจะสวนทางกับทองคำ ณ ปัจจุบัน ปรับตัวตัวสูงขึ้น ( #กดดันทองคำ )
17.U.S. 10 Year Tips คือจำนวณที่เพิ่มขึ้น/ลดลง ( ข้อ 10 ) ณ ช่วงเวลานี้อยู่ในแดนบวก +0.046( #กดดันทองคำ )
18. US10Y-US02Y 0.117---> 0.154 เป็นตัวชี้วัดของสถาบันการเงินต่างๆที่มีผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้น ( #เริ่มกดดันทองคำ )
19. Put/Call OI Ratio 0.57 ----> 0.58 ในการปรับตัวลงอาจจะทำให้มีความกังวลถึงราคาทองคำที่มีการปรับตัวลง ( #กดดันทองคำ )
20.Fear & Greed Index ค่าความกลัวของตลาดหุ้น 49 ---> 48 ยังอยู่ในแดนธรรมดา หากปรับตัวขึ้นเรื่อยๆก็เริ่มจะส่งผลดีในด้านของราคาหุ้นและบิทคอยน์ แต่จะส่งผลเสียให้ราคาทองคำ (ตอนนี้ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย #กดดันทองคำ )
21.ฝั่งของราคาน้ำมัน มีการปรับตัวลงมา 95.46$ ---> 97.74$ USOIL ราคาน้ำมันยังส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นทำให้ราคาสินค้าในตลาดและภาคอุตสหกรรม ( #หนุนทองคำ )
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันพุธ (6 เม.ย.) หลังปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุกของสหรัฐ และการคว่ำบาตรครั้งใหม่ของชาติตะวันตกต่อรัสเซีย จะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,587.70 จุด ลดลง 26.02 จุด หรือ -0.34%
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 100 ดอลลาร์ในวันพุธ (6 เม.ย.) หลังจากประเทศสมาชิกสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ตกลงว่าจะระบายน้ำมันจากคลังสำรองเพื่อรับมือกับภาวะอุปทานตึงตัว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่พุ่งขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 5.73 ดอลลาร์ หรือ 5.6% ปิดที่ 96.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. 2565
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 5.57 ดอลลาร์ หรือ 5.2% ปิดที่ 101.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. 2565
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (6 เม.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 4.4 ดอลลาร์ หรือ 0.23% ปิดที่ 1,923.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 7.6 เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 24.458 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 20 ดอลลาร์ หรือ 2.06% ปิดที่ 953.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 50.60 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 2,184.70 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (6 เม.ย.) หลังรายงานการประชุมเดือนมี.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า กรรมการเฟดเห็นพ้องที่จะปรับลดขนาดของงบดุลและเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.13% แตะที่ 99.5990 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 123.81 เยน จากระดับ 123.60 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9328 ฟรังก์ จากระดับ 0.9292 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2519 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2472 ดอลลาร์แคนาดา
แนวต้านระยะสั้น H1
1943.26
1938.15
1934.72
1931.17
-- 1926.79 --
แนวรับระยะสั้น H1
-- 1921.39 --
1917.22
1913.92
1910.48
1905.33
ส่วนตัวยังทองขึ้นไปในระยะสั้น ปัจจัยเงินเฟ้อ และยูเครนยังคงรุกหน้าเล่นประเด็นฆ่าล้างเผาพันธุ์ต่อUN และต่อผู้นำหลายๆประเทศให้แสดงถึงความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนมนุษย์
เมื่อใกล้ถึงวันที่ 4 พ.ค.65 นี้ อาจมีการทุบแรง เพราะ 1.เฟดประกาศแล้วยังไงก็จะขึ้นดอก 2.การลดงบดุล 95000ล้านดอลลาห์ต่อเดือน
ยังไงก็ดีนักลงทุนทุกท่านโปรดใช้วิจารณญาณในการเข้าออเดอร์ทุกครั้ง รักษาทุนไว้เสมอด้วยชีวิต
ขอบคุณครับ
Update สถานะทองคำ XAUUSD H4 ประจำวันที่ 05.04.22ภาครวมเศรษฐกิจทางสหรัฐ
1. Balance Sheet 8,937 งบดุลมีการปรับตัวลดลงเล็กดน้อย ( #กดดดันทองคำ )
2.USD LIBOR Interest Rates 0.32814% ---> 0.32729% อัตราดอกเบี้ยการกู้ระหว่างธนาคารของตลาดลอนดอน ปรัวตัวลง ( #หนุนทองคำระยะสั้น )
3.การคาดการณ์ของCMEGroup มีโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50-0.75% ได้ปรับตัวลงที่ 31.2%---> 25.6% และคาดการณ์ขึ้นดอกเบี้ย 0.75-1.00% มีโอกาสสูงขึ้นที่ 74.4% (#กดดันทองคำ)
4.Reverse repo rate 1,871 --->1,692 คืออัตราที่ธนาคารพาณิชย์ปล่อยเงินกู้ให้กับธนาคารกลางของอินเดีย ปรับตัวลงอาจทำให้ทองคำฟื้นตัวขึ้นได้บ้างเล็กน้อย ( #หนุนทองคำระยะสั้น )
5.Break Even 10 Year การคาดการณ์เงินเฟ้อ 10 ปีอยู่ที่ 2.79 ---> 2.80 ยิ่งขึ้นไปยิ่งกดดันให้เฟดใช้มาตรการเข้มงวดทางการเงิน ( #หนุนทองระยะสั้น กดดันทองในระยะยา )
6.กองทุน SPDR วันที่ 4 ที่ผ่านมาได้ทำการเทขายทองคำ 1.75 ตัน ( #กดดันทองคำ )
7.Forward Inflation 5 Year การคาดการณ์เงินเฟ้อ 5 ปี มีการย่อตัวเล็กน้อยที่ 2.29--->2.32 ยังอยู่ในโซนพักฐาน ยิ่งขึ้นไปยิ่งกดดันให้เฟดใช้มาตรการเข้มงวดทางการเงิน ( หนุนทองระยะสั้น กดดันทองในระยะยาว )
8. CBOE:GVZ ดัชนีความกลัวของทองคำ ที่ 21.08 ---> 19.08 ความกังวลในตลาดทองคำเริ่มมีการปรับตัวลง และทองคำพุ่งขึ้น ดังนั้นจึงวิเคราะห์ได้ว่าทองคำตอนนี้ราคาถูก เหมาะสำหรับการเข้าซื้อ ( #หนุนทองคำ )
9.ดัชนีหุ้นเหมืองทองคำ NYSE:HUI พักตัวอยู่ในโซนแนวต้านของดัชนี ( #หนุนทองคำ )
10.US30 ดาวน์โจนส์ ฟื้นตัวขึ้น ( #หนุนทองคำ )
11.Realyield 10y มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย -0.428 ---> -0.35 มีการปรับตัวลงเล็กน้อย ยังอยู่ในโซนบวก หากต่ำกว่า -0.5 ไปถึง -1.0 อันนี้จะเป็นผลดีต่อทองคำ ( #กดดันทองคำ )
12. US10Y ปรับตัวขึ้นมาที่ 2.38--->2.45 พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมีการพุ่งขึ้นเล็กน้อย ( #กดดันทองคำ )
13. TIP หรือตราสารหนี้ มีการปรับตัวลงเรื่อยๆ ( #กดดันทองคำ )
14. DXY หรือดัชนีดอลลาห์ 98.9036 ---> 98.833 พักฐานอยู่โซนแนวต้าน #หนุนทองคำ ( หากอยู่ในสภาวะปกติ ยิ่งขึ้นยิ่งกดดันทอง แต่กับสงครามกลับกัน ยิ่งลงยิ่งกดดันทอง )
15. SILVER แร่โลหะ เริ่มปรับตัวขึ้นตาม DXY ( #หนุนทองคำ )
16. TVC:GOLDSILVER อัตราส่วนทองคำและเงิน มักจะสวนทางกับทองคำ ณ ปัจจุบัน ปรับตัวลงอยู่ในแดนลบ ( #หนุนทองคำ )
17.U.S. 10 Year Tips คือจำนวณที่เพิ่มขึ้น/ลดลง ( ข้อ 10 ) ณ ช่วงเวลานี้อยู่ในแดนบวก +0.054( #กดดันทองคำ )
18. US10Y-US02Y -0.028 ---> -0.010 เป็นตัวชี้วัดของสถาบันการเงินต่างๆที่มีผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้น ( #เริ่มกดดันทองคำ )
19. Put/Call OI Ratio 0.57 ----> 0.58 ในการปรับตัวลงอาจจะทำให้มีความกังวลถึงราคาทองคำที่มีการปรับตัวลง ( #กดดันทองคำ )
20.Fear & Greed Index ค่าความกลัวของตลาดหุ้น 48 --->49 ยังอยู่ในแดนธรรมดา หากปรับตัวขึ้นเรื่อยๆก็เริ่มจะส่งผลดีในด้านของราคาหุ้นและบิทคอยน์ แต่จะส่งผลเสียให้ราคาทองคำ (ตอนนี้ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย #กดดันทองคำ )
21.ฝั่งของราคาน้ำมัน มีการปรับตัวลงมา 103.65$ ---> 104.35$ USOIL ราคาน้ำมันยังส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นทำให้ราคาสินค้าในตลาดและภาคอุตสหกรรม ( #หนุนทองคำ )
เมื่อวันจันทร์ (4 เมษายน 65) ที่ผ่านมา สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 10.3 ดอลลาร์ หลังจากที่นักลงทุนทยอยเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ยังคงไม่สงบ
จากความกังวลในครั้งนี้ได้ทำให้สัญญาทองคำ ทองคำขาว และแพลเลเดียมเพิ่มขึ้น ในขณะที่สัญญาโลหะเงินลดลง โดยมีรายละเอียดดังนี้
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) รอบส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 10.3 ดอลลาร์ หรือ 0.54% ปิดที่ 1,934 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาทองคำขาว รอบส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 2.4 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 991 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาแพลเลเดียม รอบส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 7.50 หรือ 0.33% ปิดที่ 2,275 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงิน รอบส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 6.4 เซนต์ หรือ 0.26% ปิดที่ 24.59 ดอลลาร์/ออนซ์
โดยเมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา ทางการยูเครนได้ออกมาเปิดเผยว่า เมืองบูชา ใกล้กับเมืองหลวงของยูเครน ได้มีการเข้าตรวจสอบพื้นที่หลังจากรัสเซียถอนกำลังทหารออกจากเมือง ทำให้พบร่างผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 280 ศพ ตามพื้นที่หลายแห่งในเมือง นอกจากนี้ ยังมีข่าวออกมาว่ารัสเซียไม่ได้ทำการถอนกำลังทหาร แต่เป็นการสับเปลี่ยนกำลังเข้าไปใหม่เพื่อเป็นการเสริมกำลังโจมตีต่อไป
จากข่าวที่เกิดขึ้น ได้ทำให้ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ออกมาเรียกร้องให้มีการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำตัวประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ขึ้นศาลในฐานะอาชญากรสงคราม
ขณะที่ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี เองก็มีท่าทีที่ยังคงไม่ไว้วางใจต่อคำกล่าวอ้างของรัสเซีย เขากล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน และการสังหารโหดที่เกิดขึ้นถือเป็นการก่อคดีอาชญากรรมสงคราม รงมถึงเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
จากข่าวที่เกิดขึ้น ถือเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งชี้ว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครน มีแนวโน้มที่จะบานปลายต่อไป ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากที่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน ได้เข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากปัจจัยทางสงครามแล้ว เศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนให้เกิดแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยด้วยเช่นกัน
สงครามจะดำเนินไปในทิศทางใด และการเจรจาสันติภาพจะสำเร็จหรือไม่ ยังคงต้องมีการติดตามต่อไป ดังนั้น นักลงทุนจึงควรมีความระมัดระวังในทุกฝีก้าวกับการลงทุนในช่วงนี้
แนวต้านระยะสั้น
1954.17
1945.82
1940.01
1934.94
แถม 1927.13
แนวรับระยะสั้น
แถม 1922.43
1915.57
1909.75
1903.99
1895.92
ส่วนแผนการเทรดจะให้ในกลุ่มไลน์นะครับ
เพราะช่วงนี้ตลาดมันสวนทาง และยังคาดการณ์ยาก อาจให้เป็นระยะในกลุ่มดีกว่า
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดนะครับ ช่วงนี้ค่อนข้างวิเคราะห์ยากหน่อยนะยังไงก็รักษาทุนเท่าชีวิตและเทรดอย่างระมัดระวังด้วยนะครับ
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 21 มกราคม 2565 ทองคำเมื่อคืนนี้กลับมาปิดลบเล็กน้อย หลังดอลลาร์กลับมาแข็งค่ากดดันตลาด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 60 เซนต์ หรือ +0.03% ปิดที่ระดับ 1,842.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ตลาดทองคำวานนี้ได้รับแรงหนุนช่วงค่ำหลังมีการรายงานตัวเลขสำคัญของสหรัฐฯ ที่ออกมาเช่นตัวเลขสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ที่สูงกว่านักวิเคราะห์คาดการไว้ ทำให้ทองคำวิ่งขึ้นทดสอบแนวต้านด้านบนที่ 1847 แต่ก็ยังไม่สามารถผ่านขึ้นได้นั้น ส่วนหนึ่งนักลงทุนเข้าซื้อทองคำจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย หลังสหรัฐกังวลต่อสถานการณ์ของรัสเซียที่ประธานาธิบดีดีวลาดิเมียร์ ปูตินอาจตัดสินใจบุกยูเครน นักลงทุนเลยเข้าซื้อทองคำส่วนหนึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยช่วงสุดท้ายของตลาดทองคำก็กลับลงมาอีกครั้งจากการเทขายทำกำไร และดอลลาร์กลับมาแข็งค่า แต่ก็ขยับได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถือว่าทองคำยังเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ดีกว่ารอบผ่านมา
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำเช้านี้ยังทรงตัวเหนือระดับ 1836 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งขณะเขียนนี้ทองคำขยับที่ 39 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถึงเป็นการปรับขึ้นช่วงบวกของเช้าวันนี้ โดยแรงซื้อยังคงเข้าหนุนราคาในระยะสั้นอยู่ หากทองคำยังไม่สามารถผ่าน 1842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้น อาจเจอแรงขายทำกำไรระยะสั้น หรือเป็นช่วงปรับฐานราคาก่อน โดยประเมินแนวรับที่ 1832-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนอาจพิจารณารอเข้าซื้อที่บริเวณดังกล่าวก็ได้ หากราคาลงไปทรงตัวได้อย่างชัดเจนที่บริเวณดังกล่าว
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ปรับตัววิ่งเข้าโซนปรับฐานจากจุดซื้อมากเกินไป แต่ยังทรงตัวเหนือระดับ 50 ได้อยู่ ซึ่งถ้าหากเส้น RSI ยังไม่สามารถขึ้นเหนือ 60 ได้ก็มีโอกาสที่ปรับตัวต่ำตามรอบการปรับฐานราคาอีกครั้ง ส่วน SMA20 วันก็ยังปรับตัวลดลงเช่นกัน แต่ยังอยู่เหนือแดนบวก
เส้น SMA200 ปรับตัวขึ้นสนับแรงซื้อที่เข้าตลาดเมื่อช่วงวานนี้ ทำให้ภาพรวมทองคำเวลานี้น้ำหนักฝั่งกระทิงจะดูได้เปรียบตลาดหมี แต่ก็ต้องระวังการปรับฐานย่อตัวที่จะเกิดขึ้นตามแนวต้านสำคัญๆ ต่างๆ ด้วยเช่นกัน
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำปรับฐานต่ำมาที่ระดับ 1831-1834 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้วทรงตัวเหนือระดับดังกล่าวได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายทำกำไรที่ระดับ 1838 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถผ่านแนวต้านระยะสั้นดังกล่าวขึ้นไปได้ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน แนวต้านถัดไปประเมินที่ 1842-1843 (แนวต้านระยะสั้น) (ตัดขาดทุนหากราคาหลุดต่ำกว่า 1831 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Postion : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่าน 1842-1843 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้นให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยคงเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวรับ 1838 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1832 ดอลลารร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1843 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1850 / 1862 / 1877
-------------------------------------------
Support : 1830/ 1814 / 1800
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1848 / 1858 / 1864
-------------------------------------------
Support : 1832/ 1822 / 1810
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UP TREND
Time Frame H4 = UP TREND
Time Frame Day = UP TREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก -0.58 ตัน
คงถือสุทธิ = 980.86 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,839.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 7
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +5.20 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 20 มกราคา 2565 ทองคำพุ่งผลบวกจากการอ่อนแอเศรษฐกจิของสหรัฐฯ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ปรับเพิ่มขึ้น 30.80 ดอลลาร์หรือ +1.70% ปิดที่ระดับ 1,843.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ตลาดทองคำได้รับการหนุนจากรายงานตัวเลขที่อ่ออนแอของสหรัฐฯ อเมริกา และการปรับฐานย่อตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี และดอลลาร์ที่ต่างปรับตัวย่อฐานลง ทำให้เป็นเหตุหนุนราคาทองคำในระยะสั้นให้ปรับขึ้นเหนือแนวต้านบริเวณ 1824-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ โดยราคาทองคำของตลาด COMEX สามารถทำจุดสูงสุดของวันที่ผ่านมาได้ที่ระดับ 1843.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการปรับจุดสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ปรับร่วงลงมาในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ทางด้านกองทุน SPDR ก็ได้เข้าซื้อทองคำเป็นมูลค่ากว่า 5.23 ตัน เป็นสัญญาการเข้าซื้อที่สามารถหนุนราคาทองคำได้อีกรอบหนึ่ง แต่ทั้งนี้นักลงทุนก็ต้องเฝ้าระวังการซื้อที่กระโดนขึ้นมาใกล้ 1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากบริเวณนี้ยังไม่มีแรงซื้อเข้ามาสนับสนุนต่อเนื่องได้นั้น อาจทำให้มีการเทขายทำกำไรออกมาได้เช่นกัน และการเทขายทองคำหากราคาปรับฐานไม่ต่ำกว่า 1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็คงไม่ใช่เรื่องยากแล้วที่ทองคำจะปรับขึ้่นทดสอบระดับ 1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ต่อไป ทั้งนี้ต้องอาศัยรายงานเศรษฐกิจคืนนี้มาเป็นตัวช่วยหนุนด้วย หากรายงานออกมาตรงกันข้ามกับการหนุนตลาดทองคำก็จะทำให้ทองย่อตัวกันอีกรอบ
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำเช้านี้เข้าช่วงพักฐานราคาระหว่าง 1842-1838 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากฝั่งของบอนด์และดอลลาร์ยังปรับฐานต่ำต่อเนื่องก็คงจะได้ลุ้นกันต่อที่ระดับ 1850 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นวันนี้มีรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ผลเป็นลบมากกว่าเชิงบวก เพราะรายงานก่อนหน้าสะท้อนถึงความถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐ ตลาดจนรายงานผลประประกอบการใน 3 ตลาดหุ้นที่ผ่านมาก็ไม่ได้สวยงามสักเท่าไหร่ เลยคาดการณ์ตัวเลขวันนี้่อาจส่งผลหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นได้อีก โดยช่วงระหว่างวันทองคำอาจผันผวนช่วงราคา 1842-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จึงยังควรระมัดระวังแนวดังกล่าวและติดตามอย่างใกล้ชิด
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ปรับเข้าช่วงการซื้อมากเกินไปแต่เส้นโน้มตัวกลับเข้าระดับ 70 อีกครั้ง เส้น SMA20 วันก็จบกับเส้น RSI ที่ระดับเดียวกัน ยังสะท้อนแรงซื้ออยู่ขณะนี้
เส้น SMA200 ปรับตัวขึ้นสนับแรงซื้อที่เข้าตลาดเมื่อช่วงวานนี้ ทำให้ภาพรวมทองคำเวลานี้น้ำหนักฝั่งกระทิงจะดูได้เปรียบตลาดหมี แต่ก็ต้องระวังการปรับฐานย่อตัวที่จะเกิดขึ้นตามแนวต้านสำคัญๆ ต่างๆ ด้วยเช่นกัน
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือระดับ 1830-1824 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินเป้าหมายทำกำไรที่ระดับ 1842-1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้นก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1824 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Postion : หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนว 1843 ขึ้นไปได้นั้นก็ให้เสี่ยง “ขาย” ต่ำกว่าบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินเป้าหมายทำกำไรที่บริเวณ 1837-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้อีกให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1843 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1850 / 1862 / 1877
-------------------------------------------
Support : 1830/ 1814 / 1800
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1842 / 1858 / 1876
-------------------------------------------
Support : 1830/ 1811 / 1805
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UP TREND
Time Frame H4 = UP TREND
Time Frame Day = UP TREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ซื้อเพิ่ม 5.23 ตัน
คงถือสุทธิ = 981.44 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,840.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 6
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +5.78ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 19 มกราคม 2565 ทองคำเมื่อวานนี้ปิดลบ 4.1 ดอลลาร์ ขณะที่บอนด์และดอลลาร์ยังพุ่งต่อเนื่อง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ปรับลดลง 4.1 ดอลลาร์หรือ -0.23% ปิดที่ระดับ 1,812.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ตลาดทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี และดอลลาร์ที่ปรับแข็งค่าหลังเฟดส่งสัญญาณปรับอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมนี้และจะปรับงบดุลลง ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและดอลลาร์พุ่งขึ้นเป็นเหตุให้กดดันราคาทองคำ แต่ทั้งนี้ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนก็ร่วงหนักผลจากความผิดหวังรายงานผลประกอบการที่ออกมา และรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐที่อ่อนแอ ไม่ว่าจะเป็นดัชนีรายงานภาคการผลิตที่ตัวเลขออกมาติดลบ สะท้อนถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่กำลังจะเกิดขึ้น ส่งผลให้ช่วงลบของทองคำลดลงได้บ้าง
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีแตะขึ้นระดับ 1.87% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตลาดปริวรรตเงินตราปรับเพิ่มขึ้น 0.49% แตะที่ระดับ 95.7296 เมื่อคืนนี้
ทองคำเองก็ยังคงได้รับแรงหนุนเข้าซื้อบางส่วนพยุงราคาไม่ให้หลุดต่ำกว่า 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเหตุการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยสหรัฐออกเตือนชาวอเมริกาให้เลี่ยงการเดินทางไป 22 ประเทศและเขตแดน เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อในกลุ่มประเทศเหล่านี้ยังเพิ่มสูงขึ้น เป็นเหตุให้นักลงทุนยังคงกังวลกับสถานการณ์ดังกล่าวว่าจะกลับมาซ้ำเติมระบบเศรษฐกิจของสหรัฐได้อีกหรือไม่
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำเช้าวันนี้ยังแกว่งตัวแคบระหว่าง 1816-1811 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยแรงซื้อเข้าสะสมในบริเวณของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันทำให้พยุงราคาไม่ให้ปรับตัวต่ำลงไป แต่แรงขายเหนือระดับดังกล่าวก็ยังมีอยู่สมควร ซึ่งวันนี้มีโอกาสที่ทองคำอาจหลุดระดับ 1816-1811 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงมาได้ หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและดอลลาร์ยังปรับตัวขึ้นต่อ แต่ในช่วงเช้าวันนี้ฝั่งของบอนด์และดอลลาร์ เข้าช่วงปรับฐานจะส่งผลให้ทองคำปรับขึ้นได้บ้างแต่เป็นไปได้จำกัด จึงควรระมัดระวังคำสั่ง “ซื้อ” ในช่วงเวลานี้ ซึ่งหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่าน 1811-1816 ขึ้นไปได้นั้น มีโอกาสสูงที่จะมีการขายทำกำไรกันที่บริเวณดังกล่าวออกมา โดยประเมินแนวรับที่ 1805-1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะเป็นแนวตั้งรับและรอจังหวะการเข้าซื้อต่อไป แต่หากราคาทองคำสามารถผ่าน 1811-1816 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้นก็เป็นจังหวะที่เราอาจเสี่ยงเข้า “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าวเพื่อทำกำไรระยะสั้น ประเมินแนวต้านที่บริเวณ 1824-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ยังมีลักษณะแรงในแนวระนาบ แกว่งตัวเล็กน้อยเหนือระดับ 40 เส้น SMA20 วันก็ยังไม่มีแรงซื้อขายที่ชัดเจน
เส้น SMA200 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยบอกถึงแรงซื้อสะสมในระยกลางและยาวกำลังเข้าตลาดบ้างแล้วบางส่วน
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือระดับ 1811-1816 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินเป้าหมายทำกำไรที่ระดับ 1824-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้นก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1811 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Postion : หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนว 1811-1816 ขึ้นไปได้นั้นก็ให้เสี่ยง “ขาย” ต่ำกว่าบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินเป้าหมายทำกำไรที่บริเวณ 1805-1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้อีกให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1816 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1830 / 1850 / 1877
-------------------------------------------
Support : 1800/ 1782 / 1752
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1819 / 1824 / 1830
-------------------------------------------
Support : 1811/ 1800 / 1793
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UP TREND
Time Frame H4 = UP TREND
Time Frame Day = UP TREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
คงถือสุทธิ = 976.21 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,821.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 5
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +0.55ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 18 มกราคม 2565 ทองคำเมื่อคืนเงียบเหงาแต่ก็สามารถปิดบวกได้ที่ 1.6 ดอลลาร์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ปรับเพิ่มขึ้น 1.6 ดอลลาร์หรือ 0.09% ปิดที่ระดับ 1,818.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ตลาดทองคำวานนี้ค่อนข้างเงียบเหงาทั้งวันเนื่องจากตลาดสหรัฐฯ ได้ปิดทำการหนึ่งวันสำหรับวันนี้ข้อมูลตัวเลขฝั่งอเมริกาไม่มีข้อมูลสำคัญ คาดการซื้อขายไปตามกลไกทางเทคนิค การแกว่งตัวอาจจำกัด เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐก็ยังปรับตัวสูงขึ้น หากช่วงจังหวะที่มีการพักฐาน จะส่งผลให้แรงกลับเข้ามาที่ทองคำต่อไป นักลงทุนอาจต้องเฝ้ารอจังหวะดังกล่าวอย่างรอบคอบ เรื่องของการปรับอัตราดอกเบี้ยและปรับลดดุลของอเมริกาก็ยังส่งผลให้ดอลล่าและอัตราผลตอบแทนยังกดดันราคาทองคำอยู่ขณะนี้ ส่วนเรื่องการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธ์ุโอมิครอนก็คลายความกังวลลง หลังพบว่าการแพร่ระบาดไม่รุนแรงเช่นสายพันธุ์เดลต้า
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำเช้านี้ปรับตัวลง หลังจากที่ราคาได้พยายามขึ้นทดสอบ 1824 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากราคาทองคำยังไม่หลุด 1816-1811 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้อีกครั้ง นักลงทุนจึงควรพิจารณาการเข้าซื้อทองคำ ณ บริเวณดังกล่าว โดยเน้นเป้าหมายการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ยังเคลื่อนไหวผันผวนแกว่งตัวในระดับ 60-40 ส่วน SMA20 ยังมีแรงซื้อเข้าสะสมเป็นไปในปริมาณจำกัด
เส้น SMA200 ยังไม่มีแรงซื้อสะสมที่เด่นชัดพอให้ราคาขยับกระโดดใกลในเวลานี้ จึงควรรอดูให้ชัดเจนก่อนสำหรับนักลงทุนสายกลางและยาว
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำไม่ปรับตัวหลุดต่ำกว่า 1816 - 1811 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1819-1824 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรออกไปก่อน ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1811 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1830 / 1850 / 1877
-------------------------------------------
Support : 1800/ 1782 / 1752
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1824 / 1830 / 1842
-------------------------------------------
Support : 1811/ 1805 / 1793
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UP TREND
Time Frame H4 = UP TREND
Time Frame Day = UP TREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
คงถือสุทธิ = 976.21 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,821.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 4
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด =0.55ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 11 มกราคม 2565 ทองคำเมื่อคืนนี้ปิดบวกเพิ่มขึ้น 1.4 ดอลลาร์หลังจากการร่วงลงอีกรอบ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ปรับเพิ่มขึ้น 1.4 ดอลลาร์หรือ 0.08% ปิดที่ระดับ 1798.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำเมื่อวานนี้ยังคงได้รับแรงกดดันจากการคาดการเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะนำมาสกัดกั้นการพุ่งของอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 4 ครั้งด้วยกันในปีนี้ และจะมีการปรับลดงบดุลลงภายในไตรมาส 3 ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีปรับพุ่งขึ้น เป็นเหตุให้กดดันราคาทองคำ แต่ก็ยังมีแรงซื้อสลับกลับเข้ามาเนื่องจากนักลงทุนส่วนหนึ่งก็ยังคงกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น จึงเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ประกอบกับการปรับฐานอ่อนค่าลงของอพันธบัตรอายุ 10 ปี ทำให้ทองคำปรับตัวขึ้นและสามารถขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง
สำหรับคืนนี้ติดตามคำแถลงของคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐตั้งแต่เวลา 21:00 น. ตามเวลาประเทศไทย และเวลา 22:00 น. นายเจอโรม พาวเวลล์จะออกแถลงการณ์ให้เฝ้าติดตามเรื่องราวต่างๆ เพื่อค้นหาแนวโน้มทิศทางทองคำต่อไป
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
เช้านี้ทองคำยังปรับตัวขึ้นได้จนปรับขึ้นเหนือระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากการอ่อนค่าของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี แต่หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1805 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ อาจมีการเทขายทำกำไรระยะสั้นออกมาเป็นเหตุให้ทองคำอาจหลุดแนว 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงมาได้อีกครั้ง ทั้งนี้ให้ติดตามความเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีประกอบด้วย เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเคลื่อนไหวในโซนซื้อมากเกินไปอาจเปิดช่วงปรับฐานในช่วงเวลานี้ เป็นเหตุให้ราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้นไปได้อีก ประเมินแนวต้านที่ระดับ 1811 ดอลลาร์ต่อออนซ์
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ปรับตัวอยู่เหนือโซน Overbought (ซื้อมากเกินไป) อาจเห็นการย่อปรับฐานในเร็วๆ นี้ ในส่วนของ SMA20 วันยังปรับฐานได้สูงกว่าระดับ 50 สะท้อนแรงซื้อสะสมยังมีอยู่
เส้น SMA200 ปรับเส้นเข้าแนวระนาบบอกแรงซื้อขายกำลังรอชี้นำว่าฝั่งซื้อหรือฝั่งขายจะเข้าครองตลาดต่อจากนี้
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำไม่ปรับตัวหลุดต่ำกว่า 1800 - 1805 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1811 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรออกไปก่อน ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 1820 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1805-1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้นให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวรับบริเวณ 1793 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นเหนือ 1810 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1811/ 1820 / 1830
-------------------------------------------
Support : 1800/ 1793 / 1782
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = DOWN TREND
Time Frame H4 = DOWN TREND
Time Frame Day = DOWN TREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
คงถือสุทธิ = 977.08 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,796.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 4
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -1.75 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 10 มกราคม 2565 ทองคำเช้านี้ยังปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ปรับเพิ่มขึ้น 8.2 ดอลลาร์หรือ 0.48% ปิดที่ระดับ 1797.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
โดยการเคลื่อนไหวยของทองคำเมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ผ่านมานั้นเป็นผลจากการเปิดเผยตัวเลขในตลาดแรงงานสหรัฐเช่น อัตราการว่างงานที่ลดลงสู่ระดับ 3.9%, ค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงของแรงงานเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งตัวเลขที่ปรับตัวดีขึ้นมานั้นสะท้อนว่าแรงงานในตลาดสหรัฐฟื้นตัวต่อเนื่องและอาจใกล้ระดับการจ้างงานเต็มประสิทธิภาพที่เป็นเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐที่วางไว้ เป็นผลที่อาจจะมีการสนับสนุนให้มีการปรับอัตราดอกเบี้ยและปรับลดงบดุลในปีนี้ ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่มกราคม 2020 ที่ระดับ 1.801% แต่การอ่อนค่าของทองคำยังเป็นไปได้จำกัดเช่นกัน เนื่องจากภาวะการเคลื่อนไหวทองคำอยู่ในระดับการขายมากเกินไปเป็นส่วนหนึ่งที่อาจสกัดแรงขายออกทองคำได้เช่นกัน และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์นั้นก็เป็นผลให้มีการเข้าซื้อทองคำในขณะนั้นด้วย ด้านกองทุน SPDR ก็ยังคงขายออกทองคำต่อเนื่องโดยขายออกไป -1.74 9yo วันนี้ติดตามการเปิดเผยสต็อคสินค้าคงคลังภาคค้าส่งของสหรัฐฯ
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำวันนี้ยังเคลื่อนไหวในกรอบจำกัดแนวราคาเดือนระหว่าง 1802-1786 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ด้วยแรงซื้อที่เข้ามาสะสมยังคงทำให้ทองคำเคลื่อนไหวปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อเนื่อง แต่แรงยังไม่เด่นชัดมากนัก ซึ่งแนวต้าน 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังเป็นแนวที่ราคาทองคำยังพยายามที่จะปรับตัวขึ้นทองสอบ
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ยังปรับตัวขึ้นสูงต่อเนื่องสลับการอ่อนแรงของราคา แต่ยังต่ำกว่าระดับ 50 และยังทดสอบบนเส้นเทรนด์ไลน์
เส้น SMA200 ยังปรับตัวลงต่ำแต่ไม่ลาดชันมากนัก ระยะกลางถึงยาวแรงขายออกยังคงส่งผลให้ทองคำยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้มากนัก
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวรับ 1786-1782 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว คงเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณ 1802-1796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1782 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1802-1796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยคงเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณแนวรับ 1786-1782 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับสูงกว่า 1802 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1802/ 1813 / 1825
-------------------------------------------
Support : 1786/ 1782 / 1769
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = DOWN TREND
Time Frame H4 = DOWN TREND
Time Frame Day = DOWN TREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
คงถือสุทธิ = 977.08 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,796.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 4
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -1.75 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 7 มกราคม 2565 ดอลลาร์-บอนด์ยีลด์กลับมาปรับตัวขึ้นกดดันทองคำปิดร่วง $35.9 เมื่อคืนนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 35.9 ดอลลาร์หรือ 1.97% ปิดที่ระดับ 1,789.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำตลาดนิวยอร์กร่วงหนักโดยมีปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี หลังจากที่คณะกรรมการนโนบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดได้ออกมารายงานผลการประชุมเดือนธ.ค. ทีระบุว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ และจะเริ่มปรับลดขนาดงบดุลลง ซึ่งกรรมการดเฟดได้สนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและยังสนับสนุนให้เฟดปรับลดขนาดของงบดุลหลังจากที่เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว การส่งสัญญาณดังกล่าวเป็นสัญญาณว่านอกจากการที่จะมีการปรับลดวงเงินเข้าซื้อพันธบัตรในโครงการ QE แล้วนั้น เฟดยังจะขายพันธบัตรที่ถือครองอยู่ออกมาเพื่อลดขนาดของงบดุลซึ่งขณะนี้พุ่งสูงกว่า 8 ล้านล้านดอลลาร์ การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรฯสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.75% และยังทำให้ดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลัก ปัจจัยดังกล่าวจึงเป็นเหตุให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และทองคำปรับตัวร่วงลงอย่างหนักหลังปิดบวกต่อเนื่องกันเป็นเวลาสองวันติดต่อกัน
สำหรับวันนี้ตลาดทองคำยังคงผันผวนได้อีกเพราะวันนี้จะมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ที่จะทำให้ตลาดการเงินทั่วโลกมีความผันผวนได้ โดยรายงานตัวเลขสำคัญๆ ที่เราต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดนั้นมีดังนี้
เวลา 20:30 (ตามเวลาประเทศไทย)
1.การจ้างงานนอกภาคการเกษตร คาดการณ์ 400,000 ตำแหน่ง
2.อัตราว่รงงาน (ธ.ค.) คาดการณ์ 4.1%
3.รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเทียบรายเดือน คาดการณ์ 0.4%
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
สำหรับทางเทคนิคของทองคำวันนี้ราคาทองคำยังปรับตัวต่ำต่อเนื่องหลังจากที่ทางเฟดได้ออกมารายงานการประชุมที่ผ่านมา แต่เนื่องจาการปรับตัวลงของทองคำหลุด 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์และ Idicator อย่าง RSI ก็หลุดเข้าโซน Oversold และมีแรงซื้อเข้าหนุนมาทำให้เรามองเห็น RSI ปรับตัวขึ้นมาใกล้ระดับ 40 ในเช้าวันนี้เป็นสัญญาณมีการเข้าซื้อระยะสั้น โดยประเมินว่าหากทองคำยังไม่สามารถขยับตัวขึ้นเหนือระดับ 1,794-1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจมีแรงขายออกมาทำกำไรระยะสั้นอีกเช่นกัน จึงควรรอจังหวะดังกล่าวมองหาโอกาสเข้าทำกำไร และแนวรับประเมินไว้ที่ 1,787-1,785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เช่นกันแนวรับดังกล่าวหากสามารถทรงตัวได้เหนือระดับดังกล่าวนี้ ทองคำก็มีโอกาสที่จะเข้าทดสอบแนวต้านด้านบนได้อีก นักลงทุนที่ยังไม่มีคำสั่งซื้่อขายควรรอให้ผลการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญทั้งฝั่งของยุโรปและอเมริกาช่วงเย็นวันนี้ผ่านพ้นไปก่อน จึงค่อยพิจารณาวางแผนการลงทุนต่อไป
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ปรับตัวขึ้นเหนือโซนการขายที่มากเกินไป และเข้าใกล้แนว 40 โดยมีลักษณะการปรับขึ้น หลังจากได้สร้าง Divergence เมื่อคืนนี้ที่กรอบ 1 ชั่วโมง สำหรับเส้น SMA20 วันเริ่มปรับตัวแนวระนาบและยกเส้นขึ้นเล็กน้อยบอกถึงแรงซื้อที่กลับเข้ามาหนุนตลาดทองคำได้บ้างแล้ว
เส้น SMA200 สะท้อนแรงระยะกลางถึงยาวยังมีแรงขายที่ค่อนข้างออกมาเด่นชันกว่าแรงซื้อ ทำให้ระยะกลางเราอาจยังคงเห็นการปรับตัวลงได้ในระยะสั้นๆ
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำยังไม่หลุดต่ำกว่าระดับ 1,785-1,787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่ระดับ 1,794-1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,785 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,794-1,796 ดอลลสาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ได้ต่ำกว่าบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณแนวรับ 1,787-1,785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้ก็ให้เลื่อนการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน โดยประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวเหนือกว่า 1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1796/ 1802 / 1812
-------------------------------------------
Support : 1786/ 1782 / 1769
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = DOWN TREND
Time Frame H4 = DOWN TREND
Time Frame Day = DOWN TREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก -1.16 ตัน
คงถือสุทธิ = 978.83 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,790.55 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 3
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +3.17 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม 2565 ทองคำนิวยอร์กปิดบวก $10.5 หลังนักลงทุนแห่เข้าซื้อหลังเฟดประกาศเร่งปรับอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
สัญญาซื้อขายทองคำตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้เปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 10.5 ดอลลาร์หรือ 0.58% ปิดราคาที่ระดับ 1,825.1 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการที่ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งตัวลงอย่างหนัก และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยรายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 57.6 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 58.0 ในเดือนพ.ย. ผลกระทบดังกล่าวมาจากการขาดแคลนแรงงานในภาคบริการ จึงส่งผลให้การจ้างงานเกิดการชะลดตัวลง
สำหรับวันนี้การติดตามรายงานตัวเลขสำคัญๆ ทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำมีดังนี้
16:30 น. ดัชนี PMI แบบผสมของเยอรมนี (ธ.ค.) คาดการณ์ 53.2 (GBP)
16:30 น. ดัชนี PMI ภาคบริการ (ธ.ค.) คาดการณ์ 53.2 (GBP)
20:30 น. จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (USD) คาดการณ์ 197,000 คน
22:00 น. ดัชนี PMI ภาคการบริการจาก ISM (USD) คาดการณ์ 66.9
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำเช้านี้ยังคงเจอแรงกดดันจากความผันผวนที่เฟดจะเร่งปรับอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่ากำเนิด ทำให้ทองคำยังกลับลงมาแกว่งตัวเหนือระดับแนวรับ 1,804-1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง ทั้งนี้หากราคายังสามารถตรงตัวเหนือบริเวณนี้ได้ก็ยังเป็นโอกาสที่จะทำให้ทองคำปรับขึ้นได้ในช่วงแคบๆ ระยะสั้นๆ แต่เนื่องจากแรงขายที่ยังคงมีออกมาต่อเนื่องก็ยังส่งผลต่อการปรับขึ้นของทองคำเช่นกัน เราประเมินแนวรับที่สองไว้ที่ 1,796-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากราคาทองคำปรับตัวหลุดแนวรับแรกลงมาให้รอซื้อคืนได้ที่แนวรับที่สอง หากราคายังสามารถทรงตัวและมีการรีบาวน์ราคากลับขึ้นมาได้อีกครั้ง
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI เคลื่อนไหวในทิศทางลง โดยแกว่งตัวแนวเส้นต่ำกว่าระดับ 40 บอกถึงแรงขายสะสมยังมีอยู่แต่ไม่สูงมากนักเนื่องจากดูระดับเส้นเริ่มปรับเข้าแนวระนาบ ในส่วนของ SMA20 วันยังมีแรงซื้อให้เห็นอยู่
เส้น SMA200 ปรับเส้นขึ้นเหนือราคาอีกครั้ง
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำยังสามารถรักษาระดับเหนือแนวรับ 1,800-1,810 ได้ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณ 1,816-1,820 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1813/ 1820 / 1828
-------------------------------------------
Support : 1800/ 1795/ 1789
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = DOWN TREND
Time Frame H4 = UPTREND
Time Frame Day = UPTREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
XAUUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 6/10/2022 by TraderTanทองคำตลาดนิวยอร์กยีังคงปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจาก สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 10.5 ดอลลาร์ หรือ 0.58% ปิดที่ 1,825.1 ดอลลาร์/ออนซ์
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับทองคำ โดยทำให้สัญญาทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
แนวรับ 1809
แนวรับ 1798
แนวรับ 1786
แนวต้าน 1831
แนวต้าน 1849
แนวต้าน 1873
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI
--เป็นขาลง
Treandline
ราคายังคงวิ่งอยู่ในกรอบเส้นเทรนไลน์ขาขึ้นระยะสั้น โดยทำโลว์ขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะมีสัญญาณ ขาลงของRSI แล้วแต่ราคายังไม่หลุดออกจากกรอบเส้นเทรนไลน์ ทำให้ขาขึ้นยังคงได้เปรียบอยู่ ให้เล่นในกรอบระยะสั้นๆ จะปลอดภัยที่สุด รอสัญญาณที่ชัดเจน แล้วเข้าตามแนวรับแนวต้าน
กลยุทธิ์วันนี้ เล่นตามแนวรับแนวต้าน
ทางเลือกในการลงทุน
เล่นตามแนวรับแนวต้าน
1.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1809 เข้าซื้อ(buy ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1831 หรือตามแนวรับต้าน
2.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1802 เข้าขาย(sell ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1786 หรือตามแนวรับต้าน
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 24 ธันวาคม 2564 ทองคำเมื่อคืนนี้ปรับบวกหลังผันผวนจากการประกาศค่าตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
วันนี้ถือเป็นวันสุดท้ายของการวิเคราะห์ทองคำประจำปี 2564 แล้วเราจะกลับมาเจอกันใหม่ปีหน้านะครับ 2565 ทองคำจะทำกำไรอย่างไรเจอกันอีกครั้งครับ
ปีใหม่นี้ของทุกคนโชคดีมีกำไรไว้ไปท่องเที่ยวเก็บกำไรชีวิตจากการเหน็ดเหนื่อยทางความคิดในการทำกำไรมาตลอดทั้งปีนะครับ เจอกันใหม่ปีหน้าครับ
Happy News Year 2022
ตลาดทองคำนิวยอร์กปรับขึ้นฟื้นตัวปิดตลาดบวกเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ปัจจัยหนุนทองคำยังคงเป็นเหตุที่นักลงทุนวิตกกังวลจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธ์ุโอมิครอน และความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐที่พุ่งสูงขึ้น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมองเดือน ก.พ. ปรับเพิ่มขึ้น 9.25 ดอลลาร์ หรือ 0.53% ปิดที่ระดับ 1,811.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นักวิเคราะห์มีความเชื่อว่าสัญญาทองคำจะยังคงอยู่เหนือระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยแรงหนุนจากการที่มีการเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยตัวเลขราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบกับรายเดือน และในส่วนของรายปี PCE พุ่งขึ้น 4.7% ในเดือนพ.ย.หลังปรับขึั้น 4.2% ในเดือนต.ค. ถือว่าเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 30 ปี
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำวันนี้ในระยะสั้นอาจมีการทดสอบบริเวณ 1814 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้นั้น ก็จะมีแรงซื้อเข้ามาหนุนตลาดให้ทองคำอาจเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1817 -1830 ดอลลาร์ต่ออนซ์ได้ ทั้งนี้ช่วงจังหวะก่อนการปรับตัวขึ้นนั้นถ้าแรงซื้อตลาดยังคงมีอยู่ชัดเจน ก่อนปรับขึ้นทองคำอาจย่อตัวปรับฐานราคาจากการทำกำไรระยะสั้นของนักลงทุนบางส่วนก่อน เราจึงคาดการว่าที่ระดับ 1814 นั้นอาจมีการปรับฐานราคากันอีกรอบ นักลงทุนอาจเฝ้ารอช่วงจังหวะดังกล่าวรอเข้าซื้อทองคำกันอีกครั้งเมื่อราคาปรับฐานจนเสร็จสิ้นสมบูรณ์และสะท้อนแรงซื้อเข้ามาหนุน โดยประเมินแนวรับระยะสั้นที่ระดับ 1810-1807 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทรงตัวได้เหนือแนวรับดังกล่าวนักลงทุนอาจพิจารณาเสี่ยงเข้าซื้อได้ที่บริเวณดังกล่าวเพื่อทำกำไรระยะสั้นต่อไป
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI แรงซื้อสะสมยังคงมีต่อเนื่องทำให้เส้น RSI ยังคงปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 70 อีกครั้ง SMA20 เคลื่อนตัวลงต่ำเล็กน้อย สะท้อนแรงซื้อที่ยังไม่มีมากพอในระยะสั้น อาจทำให้มีการเทขายทองคำทำกำไรระยะสั้นออกมาในช่วงใกล้ๆ นี้
เส้น SMA200 ปรับตัวขึ้นชัดเจนมากขึ้น สะท้อนแรงซื้อระยะกลางเข้ามามากขึ้น ทำให้ทองคำยังคงปรับทิศทางเหนือระดับ 1800 ได้ในระยะในี้
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำปรับขึ้นบริเวณแนวต้าน 1810-1814 ดอลลลาร์ต่อออนซ์ แล้วไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณ 1800-1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นสูงกว่า 1814 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำปรับย่อตัวลงมาบริเวณ 1802-1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้งและสามารถทรงตัวเหนือระดับดังกล่าวได้มั่นคง ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่่แนวต้าน 1810-1814 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้เหนือบริเวณดังกล่าว
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1814/ 1830 / 1838
-------------------------------------------
Support : 1800/ 1795/ 1783
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UPTREND
Time Frame H4 = DOWNTREND
Time Frame Day = DOWNTREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
การถือครองทองคำกองทุน SPDR (รายเดือน)
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลง
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,803.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 973.63 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 8
รวมการเปลี่ยนแปลงในเดือนนี้ทั้งสิ้น : -19.22 ตัน---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม 2564 ตลาดทองคำปรับตัวขึ้น 13.5 ดอลลาร์ แรงซื้อหนุนตลาดหลังดอลลาร์อ่อนค่า
ตลาดทองคำวานนี้ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง โดยปัจจัยหนุนทองคำยังคงเป็นเรื่องที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงจากความวิตกกังวลในเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ “โอมิครอน” ที่สหรัฐออกมายอมรับแล้วว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีการแพร่ระบาดในสหรัฐฯ ขณะนี้ถึงร้อยละ 73 ทำให้นักลงทุนแห่เข้าถือครองทองคำกันอีกรอบ
ทั้งเรื่องของ GDP ที่ออกมาต่ำกว่าไตรมาสก่อนหน้าตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แม้ตัวเลขจะออกมาดีกว่าที่คาดการณ์แต่ก็ยังเป็นตัวเลขที่ GDP ลดลง สำหรับรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก ซีบี ออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้สู่ระดับ 115.8 และยอดขายบ้านมือสองออกมาต่ำกว่านักวิเคราห์คาดการณ์ไว้ 6.46M ทั้งหมดจึงส่งผลต่อเนื่องให้ดอลลาร์ขยับอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักในตลาดปริวรรตเงินตราระหว่างประเทศ โดยดอลลาร์ปรับตัวลดลง 0.41% แตะที่ระดับ 96.0888
สำหรับสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมองเดือน ก.พ. ปรับเพิ่มขึ้น 13.5 ดอลลาร์ หรือ 0.75% ปิดที่ระดับ 1,802.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำภาคเช้าวันนี้ยังคงมีแรงซื้อเข้าสะสมอยู่ แต่จะเป็นช่วงปรับฐานระยะสั้นๆ ถ้าหากราคาไม่หลุดต่ำกว่า 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็จะมีแรงซื้อเข้ามาหนุนตลาดได้อีกเช่นกัน เราจึงควรรอการปรับฐานราคาในบริเวณดังกล่าวเพื่อรอการวางแผนการเข้าซื้อทองคำต่อไป โดยเป้าหมายวันนี้ประเมินว่าถ้าแรงซื้อหนุนตลาดได้ชัดเจนมีโอกาสที่ทองคำจะขยับตัวเข้าทดสอบแนวต้านบริเวณ 1810-1814 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้าหากทองคำมาถึงบริเวณนี้อาจเจอการเทขายทำกำไรระยะสั้นได้เช่นกัน จึงควรระมัดระวังที่แนวดังกล่าวด้วย
===========
Indicator (TF H1)
===========
- True RSI (14) เส้น RSI แรงซื้อยังสะสมต่อเนื่อง แต่เส้นเคลื่อนไหวในระดับ Overbought จึงอาจมีการปรับฐานในระยะสั้นได้ โดยแรงซื้อสะสมอาจพอจะพยุงราคาให้กลับขึ้นไปได้อีกรอบ ถ้าหากการปรับตัวลงไม่หลุดระดับ 50 ในส่วนของเส้น SMA20 ยังเคลื่อนไหวขึ้นด้านบนสะท้อนแรงซื้อสะสมในระยะสั้นยังคงมีอยู่
- เส้น SMA200 เริ่มปรับตัวขึ้นเล็กน้อย หลังแรงซื้อเข้าหนุนตลาดทองคำให้กลับขึ้นเหนือ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกรอบหนึ่ง
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำปรับขึ้นบริเวณแนวต้าน 1810-1814 ดอลลลาร์ต่อออนซ์ แล้วไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณ 1800-1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นสูงกว่า 1814 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำปรับย่อตัวลงมาบริเวณ 1800-1795 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้งและสามารถทรงตัวเหนือระดับดังกล่าวได้มั่นคง ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่่แนวต้าน 1810-1814 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้เหนือบริเวณดังกล่าว
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1814/ 1830 / 1838
-------------------------------------------
Support : 1800/ 1795/ 1783
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UPTREND
Time Frame H4 = DOWNTREND
Time Frame Day = DOWNTREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
การถือครองทองคำกองทุน SPDR (รายเดือน)
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ขายออก -4.94 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,803.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 973.63 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 8
รวมการเปลี่ยนแปลงในเดือนนี้ทั้งสิ้น : -19.22 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 22 ธันวาคม 2564 ตลาดทองคำวานนี้ปรับตัวลดลง $5.9 หลังผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี พุ่ง
ตลาดทองคำวานนี้ยังไม่สามารถกลับขึ้นยืนเหนือระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ เนื่องจากยังคงได้รับแรงกดดันจาการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี เป็นปัจจัยหลักที่กดดันราคาทองคำเอาไว้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมองเดือน ก.พ. ปรับลดลง 5.9 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ระดับ 1,788.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีนี้มาจากความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ “โอมิครอน” จะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจสหรัฐ ทำให้นักลงทุนคลายความกังวล และขาทองคำบางส่วนออกมา จึงเป็นแรงทำให้ทองคำร่วงลงเมื่อวาน สำหรับวันนี้จะมีรายงานตัวเลข GDP รายไตรมาส เป็นรอบไตรมาสที่ 3 ของสหรัฐอเมริกาในเวลา 20:30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) นักวิเคราะห์คาดการว่าตัวเลขจะคงที่ที่อัตรา 2.1% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า 2.1% ซึ่งหากตัวเลขออกมาต่ำติดต่อกัน 3 ไตรมาสก็สะท้อนถึงภาวะถดถอยของระบบเศรษฐกิจสหรัฐต่อไป และเวลา 22:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) มีรายงานตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB (CB Consumer Confidence) ของเดือนธ.ค. นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 110.8 และยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sale) เทียบเดือนต่อเดือนของเดือนพ.ย. ในช่วงเวลาดังกล่าวอาจสร้างความผันผวนต่อสกุลเงินดอลลาร์ได้ ซึ่งก็จะกระทบต่อราคาทองคำได้เช่นกัน นักลงทุนจึงควรระมัดระวังการถือครอง Position ในช่วงจังหวะเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำวันนี้ภาคกลางวันยังคงเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1795-1782 ดอลาลาร์ต่อออนซ์ โดยตลาดทองคำอาจได้รับแรงสนับเข้าซื้อขายในช่วงจังหวะที่มีรายงานตัวเลขสำคัญของทางฝั่งสหรัฐอเมริกา อาจส่งผลให้ทองคำสามารถเคลื่อนไหวนอกกรอบได้สองทิศทาง คือ กลับไปยืนเหนือระดับ 1800 ได้อีกครั้ง และอาจร่วงลงไปที่ระดับ 1765 ได้เช่นกัน นักลงทุนจึงควรติดตามสถานะการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ยังถูกสะสมแรงขายต่อเนื่อง ทำให้ราคายังเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด แรงซื้อแรงขายฝั่งตลาดเอเซียวันนี้ยังเงียบเหงา ทำให้เส้นมีลักษณะออกด้านข้าง ในส่วนของ SMA20 ก็ยังอยู่ในลักษณะระนาบโน้มลงเล็กน้อย
เส้น SMA200 ปรับตัวเคลื่อนไหวออกข้างสะท้อนว่าแรงตลาดระยะสั้นอาจเป็นภาพของ sideway ในวันสองวันนี้ก่อน
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับขึ้นเหนือระดับแนวต้าน 1795-1803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจมีแรงขายออกมาจึงอาจเสี่่ยงเปิดขายได้จากแนวบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้น โดยประเมินแนวรับที่ 1782-1776 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาปรับสูงกว่า 1803 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำปรับลงมาในแนวรับบริเวณ 1776-1783 และทรงตัวเหนือบริเวณดังกล่าวได้นั้น ให้เปิดรับความเสี่ยงเข้าซื้อทองคำได้จากแนวดังกล่าว โดยยังคงเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับตัวเหนือ 1795-1803 ได้ (ตัดขาดทุนหากราคาร่วงลงต่ำกวา่ 1776 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1795/ 1800 / 1814
-------------------------------------------
Support : 1783/ 1776/ 1765
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = N
Time Frame H4 = DOWNTREND
Time Frame Day = DOWNTREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
การถือครองทองคำกองทุน SPDR (รายเดือน)
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,797.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 978.57 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 7
รวมการเปลี่ยนแปลงในเดือนนี้ทั้งสิ้น : -14.28 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต