โอเปคจะตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมันโอเปกจะตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมันเนื่องจากomicron Covid เขย่าตลาด
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกบางส่วนกำลังประชุมกันในวันพุธเพื่อหารือเกี่ยวกับผลกระทบที่ โอไมครอน Covid ใหม่มีแนวโน้มที่จะมีต่อความต้องการพลังงาน
นำโดยซาอุดิอาระเบีย องค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันมีกำหนดประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เวลาลอนดอน. กลุ่มสมาชิก 13 คนจะเข้าร่วมโดยพันธมิตรที่ไม่ใช่กลุ่มโอเปกเช่นรัสเซียในวันพฤหัสบดี
มีสัญญาณเพียงเล็กน้อยที่กลุ่มที่กว้างขึ้น ซึ่งมักเรียกกันว่า OPEC+ ตั้งใจที่จะเปลี่ยนแนวทางจากแผนการผลิตปัจจุบันที่จะปรับขึ้นเดือนละ 400,000 บาร์เรลต่อวัน
การคาดหวังในครั้งนี้?
รัฐมนตรีโอเปกที่เป็นตัวแทนของซาอุดิอาระเบียและอิรักต่างก็ระบุว่ากลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะรักษานโยบายการส่งออกนี้ ในขณะที่ผู้นำที่ไม่ใช่กลุ่มโอเปกรัสเซียกล่าวเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่าจะไม่มีความจำเป็นที่จะดำเนินการอย่างเร่งด่วนในตลาดน้ำมัน
นักวิเคราะห์บางคนตั้งคำถามว่า OPEC+ อาจถูกล่อลวงให้หยุดชั่วคราวเพื่อประเมินตลาดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความผันผวนของราคาที่เพิ่มขึ้นและความกลัวต่อความต้องการพลังงานที่อาจเกิดขึ้นจากตัวแปรโอไมครอน
ที่จริงแล้ว คิดว่าผู้ผลิต OPEC+ บางรายอาจประสบปัญหาในการบรรลุโควตาในเดือนหน้า หากกลุ่มนี้ไม่ผลักดันให้มีการเพิ่มผลผลิต
การวิเคราะห์ของราคา
ปัตตานีอาจจะทำให้ XTIUSD อาจจะทำให้มีความผันผวนในระยะสั้นจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการปรับตัวสูงขึ้นกรอบแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 69.10 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวต้านที่สองก็คือ 70.88 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวต้านสุดท้ายก็คือ 72.28 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล
แต่ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 66.080 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวรับที่สองก็คือ 64.24 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวรับสุดท้ายก็คือ 62.37 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล
น้ำมัน
IEA วิจารณ์ในตลาดพลังงานอาจไม่ช่วยให้ราคาร่วงลงได้หัวหน้า IEA วิพากษ์วิจารณ์ 'ความรัดกุมเทียม' ในตลาดพลังงานกล่าวว่าบางคนไม่สามารถช่วยให้ราคาเย็นลงได้
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
หัวหน้าหน่วยงานด้านพลังงานชั้นนำของโลกกล่าวว่าบางประเทศล้มเหลวในการยอมรับจุดยืนที่เป็นประโยชน์ในการระงับราคาน้ำมันและก๊าซที่พุ่งสูงขึ้น โดยวิพากษ์วิจารณ์ "ความรัดกุมเทียม" ในตลาดพลังงาน
ปัจจัยที่ฉันต้องการขีดเส้นใต้ที่ทำให้ราคาสูงเหล่านี้เป็นตำแหน่งของซัพพลายเออร์น้ำมันและก๊าซรายใหญ่บางรายและบางประเทศไม่ได้รับตำแหน่งที่เป็นประโยชน์ในบริบทนี้ตามความเห็นของเรา" Fatih Birol กรรมการบริหารของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศกล่าวเมื่อวันพุธระหว่างการสัมมนาผ่านเว็บของสื่อมวลชน
“อันที่จริง สายพันธุ์สำคัญบางสายในตลาดปัจจุบันอาจถือได้ว่าเป็นความคับข้องใจ ... เพราะในตลาดน้ำมันทุกวันนี้ เราเห็นกำลังการผลิตสำรองเกือบ 6 ล้านบาร์เรลต่อวันอยู่กับผู้ผลิตหลัก ประเทศในกลุ่ม OPEC+”
ความคิดเห็นของเขามีขึ้นในขณะที่นักวิเคราะห์พลังงานประเมินประสิทธิผลของคำมั่นที่นำโดยสหรัฐฯ ในการปล่อยน้ำมันจากแหล่งสำรองเชิงกลยุทธ์ไปจนถึงราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น
การคาดหวังในครั้งนี้?
ในการเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ครั้งแรก ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ประกาศความร่วมมือในการปล่อยน้ำมันระหว่างสหรัฐฯ อินเดีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหราชอาณาจักร
สหรัฐฯ จะปล่อย 50 ล้านบาร์เรลจาก Strategic Petroleum Reserve จากทั้งหมดนั้น 32 ล้านบาร์เรลจะเป็นการแลกเปลี่ยนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ในขณะที่ 18 ล้านบาร์เรลจะเป็นการเร่งการขายที่ได้รับอนุญาตก่อนหน้านี้
ผู้ผลิตในกลุ่ม OPEC และนอกกลุ่ม OPEC ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลซึ่งมักเรียกกันว่า OPEC+ ได้ปฏิเสธการเรียกร้องของสหรัฐฯ หลายครั้งหลายครั้งให้เพิ่มอุปทานและลดราคาสินค้าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
การวิเคราะห์ของราคา
ปัจจัยนี้อาจจะทำให้ทิศทางราคาน้ำมันมีความหวานผลโดยเฉพาะทิศทางของ XTIUSD ดังนั้นจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 77.69 แนวรับที่สองก็คือ 77.09 แนวรับสุดท้ายก็คือ 76.20
แต่ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นกรอบแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 78.99 แนวต้านที่สองคือ 79.75 แนวต้านสุดท้ายก็คือ 80.40
รายงานสินค้าคงคลังน้ำมันดิบสหรัฐจับตาดูรายงานสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐอเมริกา
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
ในช่วงเวลา 22:30 น. จะมีการรายงานสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐอเมริกาประกอบกับจะมีการรายงานแนวโน้มพลังงานระยะสั้นจากมุมมองของ EIA รวมทั้งการรายงานสินค้าคงเหลือน้ำมันดิบประจำไตรมาสจาก API ของสหรัฐอเมริกาที่จับตาดูอย่างมากในครั้งนี้
การคาดหวังในครั้งนี้?
ในส่วนของการคาดหวังในครั้งนี้นักลงทุนจับตาดูรายงานแนวโน้มพลังงานระยะสั้นจากมุมมองของ EIA ประกอบกับรายงานสินค้าคงเหลือน้ำมันดิบประจำไตรมาสจาก API ซึ่งนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์เอาไว้ว่าจะประกาศออกมา 1.900M ครั้งก่อนก็คือ 3.594M ซึ่งจะมีการประกาศสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐอเมริกาโดยนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์เอาไว้ว่าจะประกาศออกมา 1.900M ครั้งก่อน 3.291M จับตาดูว่าการประกาศในครั้งนี้จะส่งผลทำให้ราคาน้ำมัน 1000 ผลอย่างไร
การวิเคราะห์ของราคา
จากปัจจัยดังกล่าวอาจจะส่งผลทำให้ทิศทางของราคาน้ำมันมีความผันผวนโดยเฉพาะ WIT จะมีความผันผวนอย่างมากดังนั้นจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นกรอบแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 81.94 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวต้านที่สองก็คือ 82.93 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวต้านสุดท้ายก็คือ 83.52 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล
แต่ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 0.71 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวรับที่สองก็คือ 79.70 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวรับสุดท้ายก็คือ 78.36 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล
Oil edges ร่วงลง หลังสหรัฐฯ ดันโอเปกให้สูบน้ำมากขึ้นOil edges ร่วงลง หลังสหรัฐฯ ดันโอเปกให้สูบน้ำมากขึ้น
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
น้ำมันร่วงลงในวันอังคารเนื่องจากกลุ่มโอเปกและพันธมิตรเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมในวันพุธท่ามกลางการเรียกร้องจากสหรัฐอเมริกาให้สูบน้ำมันดิบมากขึ้นแม้ว่าเบรนต์ยังคงซื้อขายได้ดีกว่า 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคายังอยู่ภายใต้แรงกดดันจากความกังวลว่าไฟฟ้าดับและน้ำท่วมในรัฐหลุยเซียนาหลังจากพายุเฮอริเคนไอดาจะลดความต้องการน้ำมันดิบจากโรงกลั่น
การคาดหวังในครั้งนี้?
น้ำมันดิบได้รับผลกระทบจากข้อมูลการผลิตที่อ่อนแอลงจากประเทศจีน ซึ่งกิจกรรมของโรงงานขยายตัวในอัตราที่ช้าลงในเดือนสิงหาคมเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
การวิเคราะห์ของราคา
ในส่วนของ WTI ยังคงมีการพักตัวระยะสั้นโดยในรอบวันมีการขยับตัว -1.14% และดูเหมือนมีการปรับตัวย่อตัวลงตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดังนั้นจับตาดูว่าจะมีการปรับตัวร่วงลงของ WTI หรือไม่โดยแนะนำควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 67.90 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวรับที่สองก็คือ 67.26 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวรับสุดท้ายก็คือ 66.81 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล
แต่ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 68.66 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวต้านที่สองก็คือ 69.23 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวต้านสุดท้ายก็คือ 69.76 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล
ประกาศสินค้าน้ำมันดิบการประกาศสินค้าคงคลังน้ำมันดิบสหรัฐอาจจะส่งผลทำให้ราคาน้ำมันมีความผันผวน
ในช่วงเวลา 21:30 น. จะมีการประกาศสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะจะมีการประกาศ คลังสินค้าน้ำมันดิบที่เมือง Cushing ซึ่งนักลงทุนจับตามองเช่นเดียวกันเนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ยังคงมีการคาดการณ์ว่าอาจจะประกาศน้อยกว่าครั้งก่อนอาจจะส่งผลทำให้ราคาน้ำมันมีการฟื้นตัวขึ้น โดยที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์เอาไว้ว่าจะประกาศออกมา -1.271M ครั้งก่อนก็คือ 3.626M
ซึ่งทิศทางราคาน้ำมันทั้ง WTI และ Brent มีการฟื้นตัวขึ้นในรอบวันโดยเฉพาะ WTI มีการขยับตัวขึ้น +0.19% และดูเหมือนว่าอาจจะมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยปัจจัยหลักที่มีการฟื้นตัวขึ้นนั้นก็คือทิศทางของดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ที่มีการขยับตัวสูงขึ้นในหลายชั่วโมงที่ผ่านมาดังนั้นนักลงทุนอาจจะจับตาดูว่าการประกาศครั้งนี้จะส่งผลทำให้ WTI มีการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือไม่
WTI มีการฟื้นตัวขึ้นในราคาดังกล่าวดังนั้นถ้ามีการประกาศออกมาน้อยกว่าครั้งก่อนอาจจะส่งผลทำให้มีการขยับตัวขึ้นจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นกรอบแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 68.51 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวต้านที่สองก็คือ 69.76 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวต้านสุดท้ายก็คือ 70.42 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล
แต่ถ้ามีการปรับตัวลงแนวรับแรกก็คือ 67.04 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวรับที่สองก็คือ 69.38 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวรับสุดท้ายก็คือ 65.67 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของทิศทางของราคาน้ำมัน : ปัจจัยหลักยังคงเป็นดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ที่สะท้อนให้เห็นถึงว่าราคาน้ำมันจะสูงขึ้น ไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่เนื่องจากว่าปัจจัยนี้จะส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าอาจจะมีการใช้น้ำมันมากขึ้นดังนั้นจึงควรติดตามปัจจัยนี้อย่างใกล้ชิดประกอบกับการประกาศตัวเลขน้ำมันในหลายภาคส่วน
น้ำมันดิบที่สูงขึ้นจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสินค้าคงคลังที่ลดลงสิ่งที่จะเกิดขึ้น?
ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี โดยพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ท่ามกลางสัญญาณของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สินค้าคงเหลือในกลุ่มผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของโลกลดลงอีกครั้ง
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐฯ ซื้อขายเพิ่มขึ้น 0.4% ที่ 72.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาเบรนท์เพิ่มขึ้น 0.6% เป็น 74.27 ดอลลาร์
สัญญาซื้อขายล่วงหน้า RBOB น้ำมันเบนซินของสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 0.7% ที่ 2.2990 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่เผยแพร่เมื่อต้นวันพฤหัสบดีแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของสหรัฐเพิ่มขึ้นในอัตรา 6.5% ต่อปีในไตรมาสที่แล้ว เนื่องจากโปรแกรมการฉีดวัคซีนกระตุ้นการใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง แม้ว่าจะน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ 8.5% แต่ก็ยังเพิ่มขึ้นจากอัตรา 6.3% ที่แก้ไขในไตรมาสแรก
กองทุนการเงินระหว่างประเทศในวันอังคารได้เพิ่มการคาดการณ์การเติบโตของสหรัฐเป็น 7.0% ในปี 2564 เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ 6.4% ในเดือนเมษายนซึ่งจะแสดงถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2527
การคาดหวังในครั้งนี้?
อย่างไรก็ดีจากราคาน้ำมันที่มีการฟื้นตัวขึ้นยังคงมีการคาดหวังถึงเศรษฐกิจฟื้นตัวโดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์และดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ที่มีการขยับตัวสูงขึ้นส่งผลทำให้ราคาน้ำมันมีการขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องดังนั้นในการคาดหวังในครั้งนี้ต้องจับตาดูว่ามาตรการการอัดฉีดเม็ดเงินอย่างต่อเนื่องจะส่งผลทำให้ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีการขยับตัวสูงขึ้นหรือไม่ถ้าดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีการขยับตัวสูงขึ้นราคาน้ำมันจะมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การวิเคราะห์ของราคา
WTI มีการฟื้นตัวขึ้นในรอบวัน +1.37% และดูเหมือนว่าอาจจะมีการขยับตัวสูงขึ้นโดยปัจจัยหนุนที่มีการฟื้นตัวขึ้นนั้นก็คือดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ที่มีการขยับตัวสูงขึ้นดังนั้นถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 73.68 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวต้านที่สองก็คือ 74.22 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลและแนวต้านสุดท้ายก็คือ 74.86 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล
แต่ถ้ามีการปรับตัวลงแนวรับสำคัญแรกก็คือ 72.30 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวรับที่สองก็คือ 71.63 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวรับสุดท้ายก็คือ 71.13 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล
น้ำมันฟื้นตัวขึ้นส่งผล CAD แข็งค่าดัชนีน้ำมันมีการขยับตัวสูงขึ้นส่งผลทำให้สกุลเงินแคนาดามีการปรับตัวแข็งค่าขึ้น
ทิศทางราคาน้ำมันมีการขยับตัวสูงขึ้นหลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีการขยับตัวสูงขึ้นในช่วงรอบวันโดยที่ WTI มีการฟื้นตัวขึ้น +0.60% จากการขยับตัวขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส่งผลทำให้สกุลเงินแคนาดามีการปรับตัวสูงขึ้นระยะสั้นดังนั้นจับตาปัจจัยนี้อย่างใกล้ชิดเพราะจะส่งผลทำให้สกุลเงินแคนาดาโดยตรง
โดยที่ CADJPY มีการขยับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนสองแรงหนุนไม่ว่าจะเป็นทั้งดัชนี Nikkei ฟิวเจอร์ที่มีการปรับตัวสูงขึ้นส่งผลทำให้สกุลเงินเยนมีการปรับตัวอ่อนค่าลงประกอบกับทิศทางราคาน้ำมันที่มีการขยับตัวสูงขึ้นส่งผลทำให้สกุลเงินแคนาดามีการขยับตัวสูงขึ้นในระยะสั้นดังนั้นจึงควรติดตามกรอบแนวรับ แนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นกรอบแนวต้านสำคัญได้ก็คือ 88.075 แนวต้านที่สองก็คือ 88.403 แนวต้านสุดท้ายก็คือ 88.661
แต่ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 87.479 แนวรับที่สองก็คือ 87.099 แนวรับสุดท้ายก็คือ 86.797
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของ CADJPY ซึ่งเป็นปัจจัยที่น่าจับตามองในสัปดาห์ถัดไป : ปัจจัยเสี่ยงจากคงต้องจับตาดูดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์เพราะจะส่งผลให้กับทิศทางราคาน้ำมันและจะส่งผลให้กับสกุลเงินแคนาดาโดยตรงประกอบกับในส่วนของสกุลเงินเยนยังคงต้องจับตาดูตลาดหุ้น Nikkei ฟิวเจอร์อย่างใกล้ชิด
ท่านที่เทรดสกุลเงินนี้ นั้นควรให้สังเกตตาม Zone แนวรับแนวต้าน ตรงที่แจ้งไว้ด้วยเนื่องจากอาจจะมีความผันผวนจนสุด Zone ซึ่งในการเทรดนั้นท่านที่ยังไม่มี Order หรือมีออเดอร์ CAD/JPY ติดอยู่ ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดด้วยนะครับ
(แนวรับแนวต้าน นั้นก็คือ ZONE ดังนั้นเป้าหมายที่แจ้งไปคือ Zone ดังนั้นไม่ต้องตามเป้าหมายเป๊ะแต่ให้ดูตาม Zone เพื่อจะเป็นจุดสำคัญในการตัดสินใจว่าจะเข้าเทรดหรือตัดสินใจของการเข้าออกออเดอร์หรือการจัดการออเดอร์ที่ดีที่สุด
CAD จับตาการเคลื่อนไวราคาน้ำมันการเคลื่อนไหวของทิศทางราคาน้ำมันในค่ำคืนนี้ส่งผลให้กับ CAD
ในค่ำคืนนี้การเคลื่อนไหวของทิศทางราคาน้ำมันยังคงส่งผลให้กับสกุลเงินแคนาดาในช่วงระยะสั้นประกอบกับในส่วนของห้ามดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีการปรับตัวย่อตัวลงในช่วงนี้ดังนั้นในค่ำคืนนี้ยังคงต้องจับตามองในส่วนของการขึ้นไหวของทิศทางราคาน้ำมัน
โดยในส่วนของคู่เงิน USDCAD ยังคงมีการปรับตัวย่อตัวลงหลังจากที่สกุลเงินแคนาดามีการปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยและยังคงมีการพักตัวแต่ในส่วนของสกุลเงินดอลล่าร์มีการปรับตัวอ่อนค่าลงในช่วงระยะสั้นดังนั้นทำให้คู่เงินนี้มีการปรับตัวร่วงลงระยะสั้นจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 1.22883 แนวรับที่สองก็คือ 1.22597 แนวรับสุดท้ายก็คือ 1.22352
แต่ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นกรอบแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 1.23387 แนวต้านที่สองก็คือ 1.23646 แนวต้านสุดท้ายก็คือ 1.23987
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของคู่เงิน USDCAD ที่สำคัญในวันนี้ : ยังคงต้องจับตามองในส่วนของการประกาศเลขที่สำคัญของสหรัฐอเมริกาก็คือการประกาศดัชนีการใช้จ่ายผู้บริโภคส่วนบุคคลรวมทั้งทิศทางของราคาน้ำมันที่จะคอยทั้งเป็นแรงหนุนและแรงกดดันให้กับคู่เงินนี้ในช่วงระยะสั้นต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
ท่านที่เทรดสกุลเงินนี้ นั้นควรให้สังเกตตาม Zone แนวรับแนวต้าน ตรงที่แจ้งไว้ด้วยเนื่องจากอาจจะมีความผันผวนจนสุด Zone ซึ่งในการเทรดนั้นท่านที่ยังไม่มี Order หรือมีออเดอร์ USD/CAD ติดอยู่ ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดด้วยนะครับ
(แนวรับแนวต้าน นั้นก็คือ ZONE ดังนั้นเป้าหมายที่แจ้งไปคือ Zone ดังนั้นไม่ต้องตามเป้าหมายเป๊ะแต่ให้ดูตาม Zone เพื่อจะเป็นจุดสำคัญในการตัดสินใจว่าจะเข้าเทรดหรือตัดสินใจของการเข้าออกออเดอร์หรือการจัดการออเดอร์ที่ดีที่สุด
น้ำมันพุ่งแตะระดับสูงน้ำมันพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบสองปีซึ่งกลุ่มโอเปคและพันธมิตรยืนยันการผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไป
กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันที่มีอำนาจที่สุดในโลกบางส่วนตกลงกันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าจะดำเนินการลดการผลิตน้ำมันอย่างค่อยเป็นค่อยไปท่ามกลางความฟื้นตัวของราคาน้ำมัน
โอเปคและพันธมิตรผู้ผลิตน้ำมันท ที่รู้จักกันในชื่อ OPEC+ จะเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนกรกฎาคมตามการตัดสินใจของกลุ่มในเดือนเมษายนที่จะคืน 2.1 ล้านบาร์เรต่อวัน สู่ตลาดระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคม
นโยบายการผลิตที่เกินเดือนกรกฎาคมไม่ได้ถูกกำหนดไว้ในกลุ่มและจะมีการประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 1 กรกฎาคม 2021
โดยราคาน้ำมันฟิวเจอร์ซึ่งเป็นน้ำมันดิบ Brent ตามมาตรฐานสากลที่ซื้อขายอยู่ที่ 71.17 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลในวันอังคารเพิ่มขึ้น 2.7% ในขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate อยู่ที่ 68.65 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลซึ่งได้รับมากกว่า 3% และเป็นระดับสูงสุดของสัญญาในรอบระหว่างสองปีซึ่งมีการขยับตัวขึ้นถึง 30% ในปีนี้
ซึ่งในกลุ่มผู้มีธิพลในตะวันออกกลางซึ่งรับผิดชอบในการผลิตน้ำมันมากกว่าหนึ่งในสามของโลกกำลังพยายามสร้างสมดุลระหว่างอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นที่คาดไว้กับศักยภาพในการเพิ่มผลผลิตของประเทศอิหร่าน
ซึ่งพันธมิตรได้มีการประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันครั้งใหญ่ในปี 2020 เพื่อพยายามพยุงราคาน้ำมันเมื่อการระบาดของไวรัส โควิด-19 ใกล้เคียงกับอุปสงค์ใน ประวัติศาสตร์การผลิตน้ำมัน
โดยปัจจัยนี้ทำให้ทิศทางราคาน้ำมันมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและในรอบหลายชั่วโมงที่ผ่านมามีการขยับตัวสูงขึ้นในการเทรดน้ำมันจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นในกรอบแนวต้านของราคาน้ำมัน แนวต้านแรกก็คือ 68.15 และแนวต้านสุดท้ายก็คือ 68.75
แต่ถ้ามีปัจจัยทำให้ราคาน้ำมันมีการย่อตัวลงแนวรับสำคัญแรกก็คือ 67.52 แนวรับที่สองก็คือ 66.78 แนวรับสุดท้ายก็คือ 66.39
ปัจจัยเสี่ยงต่อทิศทางราคาน้ำมันที่จำเป็นจะต้องติดตามก็คือ : ทิศทางราคาน้ำมันมักจะมีความ 1000 ผวนไปตามอุปสงค์และอุปทานอย่างไรก็ดีในช่วงนี้ต้องติดตามการประกาศสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐอเมริกาของการประชุมที่จะมีการประชุมเพิ่มเติมอีกครั้งในวันที่ 1 กรกฎาคม 2021 ต้องติดตามว่าการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันนั้นจะมีขึ้นต่อเนื่องหรือไม่
WTI จะขึ้นไปถึง 80 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลหรือไม่GoldMam Sachs คาดว่าราคาน้ำมันขึ้นสูงต่อเนื่อง
นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs มีความมั่นใจเกี่ยวกับอุปสงค์ในตลาดน้ำมันโดยจากข้อมูลเหล่านี้ 75% ของการฟื้นตัวของอุปสงค์ซึ่งมาจากประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศจีน ทั้งความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างมากในการกระตุ้นให้มีการใช้น้ำมันอย่างมากขึ้น และยังคงเป็นปัจจัยที่เป็นปัจจัยบวกสำหรับราคาน้ำมันโดยเฉพาะการท่องเที่ยวและการเดินทางระหว่างประเทศ
โกลด์แมนแซคส์กล่าวว่าการฟื้นตัวของอุปสงค์ในตลาดที่พัฒนาแล้วจะชดเชยการบริโภคที่นำโดยโคโรนาไวรัสเมื่อเร็ว ๆ นี้และมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวช้าลงในเอเชียใต้และละตินอเมริกา ความต้องการทั่วโลกอาจเพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นปีโดยส่วนใหญ่น่าจะเพิ่มขึ้นในอีก 3 เดือนข้างหน้า"การเคลื่อนย้ายกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในสหรัฐอเมริกาและยุโรปเนื่องจากการฉีดวัคซีนเร่งและการหยุดชะงักถูกยกขึ้นพร้อมกับการขนส่งสินค้าและกิจกรรมทางอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นด้วย" บันทึกกล่าว
ซึ่งถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 66.06 ถ้าสามารถทะลุแนวต้านนี้ขึ้นไปได้แนวต้านที่สองก็คือ 66.79 และแนวต้านสุดท้ายก็คือ 67.76
แต่ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 65.28 แนวรับที่สองก็คือ 64.56 แนวรับสุดท้ายก็คือ 63.93
ปัจจัยเสี่ยงของทิศทางราคาน้ำมัน : WTI ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงถึงดัชนีดาวโจนส์ที่อาจจะยังติดตามความผันผวนของดัชนีดาวโจนส์จะมีความผันผวนจากปัจจัยอะไรโดยเฉพาะปัจจัยที่มี การลดการอัดฉีดเป็นเงินของธนาคารกลางสหรัฐที่อาจจะส่งผลทำให้ดัชนีดาวโจนส์มีการปรับตัวลงและจะทำให้ความต้องการของน้ำมันมีการปรับตัวลงในระยะสั้นจึงควรติดตามอย่างใกล้ชิด
ย้ำว่าปัจจัยที่จะส่งผลทำให้ทิศทางของราคาน้ำมันมีการขยับตัวขึ้นนั้นต้องติดตามดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์อย่างใกล้ชิดในสัปดาห์นี้
Crude Oil 4H/30m4H - ราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฉีกห่างจาก moving average มีอาการชะลอตัว เกิด divergence
30m - หาราคาปิดต่ำกว่า ma50 และแนวที่ลากไว้ได้ มองมีโอกาสลงต่อกลับหาเส้นค่าเฉลี่ยใน tf ใหญ่กว่า
รอดูว่าจะปิดต่ำกว่าแนวไหม??
WTI Crude Oil ยังมี Upside อยู่ 10-15%WTI Crude Oil ยังมี Upside อยู่ 10-15%
รอบการขึ้นของราคาน้ำมันยังคงมีต่อเนื่อง
แม้จะมีการพักอยู่บ้างในรอบสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทาง Elliott Wave หากเบรคกรอบ Corrective คลื่น (4)
น่าไปได้ถึงโซน 58-60 บาท จบคลื่น (5) ชอง 5 วงกลม
เทรดสั้น SL 49$ ครับ
.
ท่านที่เทรดหุ้นอิงราคาน่ำมันดูอันนี้ประกอบได้ครับ
Crude Oil 2HD1 : หลังจากราคาขึ้นต่อเนื่อง เริ่มมีอาการอ่อนแรง เกิด bearish engulfing
2H : ราคาเบรกแนวรับ และ ma 50
เป็นจังหวะ sell
อาจจะรอการขึ้นมา retest แนวก่อนก็ได้
WTI การวิเคราะห์ประจำวัน 22/9/2020 by TraderTan แนวรับแนวต้านที่สำคัญ
แนวรับ 1.65
แนวรับ 1.81
แนวต้าน 1.97
แนวต้าน 2.02
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI
- ราคายังคงเป็นกลางและสามารถไต่เข้าสู่โซน overbought ได้
Treandline
- ราคาวิ่งเข้าใกล้แนวต้าน 1.97 มากขึ้น แต่กราฟยังไม่สามารถขึ้นไปชนแนวต้านเก่าที่ 1.97 และยังอยู่กรอบไซด์เวย์กว้าง โซนไซด์เวย์
ทางเลือกในการลงทุน
เล่นในกรอบเทรนไลน์
1.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1.81 เข้าซื้อ(buy ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1.97
2. หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1.97 เข้าขาย(ssell ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1.81