วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 30 มิถุนายน 2564ทองคำดิ่งหนักกว่า 20 ดอลลาร์ ทำราคาใกล้หลุด 1,750 หลังดอลลาร์และบอนด์แข็งค่ากดดันทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เมื่อวานนี้ปิดตลาดปรับลดลงหนักกว่า 26.90 ดอลลาร์ หรือ 1.50% ปิดที่ระดับ 1,753.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำปรับตัวร่วงลงจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ในส่วนของดอลลาร์เองก็มีการเข้าซื้อเก็บจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้า ที่เริ่มระบาดในเมืองที่มีการฉีดวัคซีนน้อย ทำให้นักลงทุนเริ่มเป็นกังวลในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง จึงเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกประเภทหนึ่ง เลยเป็นแรงกดดันเพิ่มเติมให้ทองคำปรับร่วงลงมา
ทั้งนี้มีนักวิเคราะห์ยังมองว่านักลงทุนยังไม่กล้าเสี่ยงเปิด Position long ใหม่เข้าตลาดแม้ราคาทองคำจะอยู่ในระดับราคาที่น่าเข้าซื้อก็ตาม เนื่องจากทองคำเองยังไม่สามารถผ่านแนวต้านระดับจิตวิทยาที่ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ในส่วนของแรงกดดันที่มาจากธนาคารกลางสหรัฐหรือว่าเฟดเองก็ยังคงต้องรอความชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ที่อาจเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เมื่อวานเวลา 21:00 น. มีรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB ออกมาดีเกินคาดที่ระดับ 127.3 จากคาดการณ์ที่ระดับ 119.0 ตัวเลขออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้และสูงกว่าตัวเลขเมื่อเดือน พ.ค.ที่ระดับ 120.0 จึงทำให้ดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย เรียกว่ารุมเร้าราคาทองคำจนปรับหลุดแนวรับ 1,767-1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่เป็นแนวรับมากว่าร่วมสองสัปดาห์ ทำให้ราคาทองคำลุ้นหลุด 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้หรือไม่ก็ต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ และก่อนหน้านี้ตัวเลขนอกภาคการเกษตรได้เพิ่มขึ้น 559,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 671,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.8% ในเดือนพ.ค. ตัวเลขออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงสู่ระดับ 5.9% หลังจากแตะที่ระดับ 6.1% ในเดือนเม.ย. ก็เป็นเรื่องที่เราจะต้องติดตามกันต่อไปในวันศุกร์ที่จะถึงนี้
ประเมินทางเทคนิควันนี้
ผมได้ทำการประเมินแนวรับแนวต้านใหม่จาก Fibo เพื่อให้สอดคล้องกับตำแหน่งการเคลื่อนไหวของราคาในปัจจุบัน โดยวันนี้ถ้าหากราคาทองคำยังไม่หลุดระดับ 1,750=1,761 ดอลลาร์ต่อออนซ์นั้น แนวโน้มที่ราคาทองคำอาจกลับขึ้นมาทดสอบแนวต้านระดับ 1,783-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็มีความเป็นไปได้ แต่ถ้าราคาไม่สามารถยืนได้ที่ระดับบริเวณแนวรับดังกล่าว เราอาจเห็นการอ่อนตัวจากการเทขายทำกำไรได้อีกครั้ง ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,734 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้แนะนำให้ลดการถือครองฝั่ง Long Position ลงเพื่อให้สมดุลราคาที่เหมาะสมกับพอร์ตการลงทุน ควรจะรอให้ราคาปรับขยับขึ้นเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จึงค่อยวางแผนการลงทุนฝั่ง Long Position อีกครั้ง และแนะนำว่าควรติดตามดัชนีดอลลาร์และบอนด์ยิลด์อายุ 10 ปี อย่างใกล้ชิดด้วย เพราะยังเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำโดยตรง
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,750-1,761 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถทรงตัวได้เหนือบริเวณดังกล่าวอาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยให้เน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวต้านบริเวณ 1,782-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : รอขายทองคำบริเวณแนวต้าน 1,782-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ให้เปิดคำสั่ง “ขาย” เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวรับ 1,761-1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
-----------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,750 / 1,734 / 1,720
---------------------------------------------------
Resistance : 1,782 / 1,800 / 1,823
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน (25/06/21) SPDR
- ถารถือครองทองคำ : ยังไม่เปลี่ยนแปลงการถือครอง
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,778.40
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,045.78 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 13 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : +2.57 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
Fibonacci
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 29 มิถุนายน 2564 (ภาคบ่าย)ทองคำตลาดนิวยอร์กวานนี้ยังอยู่ช่วงภาวะผันผวนปิดลบ 2.9 ดอลลาร์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เมื่อวานนี้เปิดตลาดที่ระดับราคา 1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำจุดสูงสุดระหว่างวันได้ที่ระดับ 1,786.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และจุดต่ำสุดระหว่างวัน 1,770.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดราคาที่ระดับ 1,780.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับลดลง 2.9 ดอลลาร์ หรือ -0.16%
การเคลื่อนไหวราคาทองคำวานนี้เคลื่อนไหวท่ามกลางปัจจัยบวกและลบที่เข้ามาสร้างความผันผวนให้ตลาดต่อเนื่องทั้งวัน ภาพรวมแล้วทองคำยังได้รับอิทธิพลแรงกดดันจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์เป็นหลัก โดยดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น +0.08% ซึ่งเป็นผลจาการเปิดเผยตัวเลขดัชนีภาคการผลิตรัฐเท็กซัสที่ดีดตัวสูงสู่ระดับ 29.4 จุดในเดือน มิ.ย. จากระดับ 15.7 ในเพือนพ.ค. ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตในรัฐเท็กซัส นอกจากนี้เองดอลลาร์ยังได้รับการปรับแข็งค่าจากคำแถลงการณ์ของนายโธมัส บาร์กิ้ง ประธานเฟดริชมอนด์ ที่ออกมาให้คำแถลงว่า “เศรษฐกิจสหรัฐมีความคืบหน้าอย่างมาก ในการนำไปสู่เป้าหมายด้านเงินเฟ้อ ซึ่งก็เพียงพอที่เฟดจะเริ่มลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE และเขายังมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับตลาดแรงงาน จึงเป็นสาเหตุให้นักลงทุนวิตกว่าหากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่กำลังจะเปิดเผยในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ออกมาแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้นั้น อาจจะเป็นประเด็นสนับสนุนให้เฟดเร่งการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงิน สถานการณ์ที่ว่ามาจึงส่งผลให้นักลงทุนยังคงเทขายทองคำออกมาเป็นระยะ แต่เมื่อราคาทองคำเคลื่อนตัวไปในแนวรับด้านล่างก็ยังพอมีแรงซื้อเข้ามาช้อนซื้อทองคำไว้เช่นกัน และทองคำยังได้รับแรงหนุนบางส่วนจากความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าที่กำลังจะระบาดหนักในหลายประเทศทั่วโลก
ประเมินทางเทคนิควันนี้
ราคาทองคำเช้าวันนี้ยังเคลื่อนตัวปรับลงในแนวรับบริเวณ 1,774 – 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากมีแรงชื้อเข้ามาหนุนในช่วงบ่ายอาจพอมีแนวโน้มให้ราคาทองคำปรับขึ้นทดสอบแนวต้านเดิมที่บริเวณ 1,780-1,785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่คาดว่าอาจเป็นแรงซื้อที่ค่อนข้างจำกัด จึงไม่แนะนำให้ถือสัญญาซื้อขายในระยะยาวสำหรับการเทรดทองคำในเวลานี้ เนื่องจากความผันผวนของราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ จึงแนะนำนักลงทุนให้เฝ้ารอสถานะการณ์ที่ราคาปรับทิศทางก่อนจะดีกว่า หากจะเข้าทำการซื้อขายทองคำเวลานี้ก็ให้เข้าซื้อขายในระยะสั้นๆ เท่านั้น โดยเปิดการซื้อขายตามทิศทางการเคลื่อนไหวของราคา
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคากลับมาทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการเข้าทำกำไรระยะสั้น พิจารณาทำกำไรได้ที่บริเวณแนวต้าน 1,780-1,785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์) แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้นั้น ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านบริเวณถัดไปที่ 1,787-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Short Position : รอขายทองคำบริเวณแนวต้าน 1,780-1,785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ให้เปิดคำสั่ง “ขาย” เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,785 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
-----------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,767 / 1,741 / 1,709
---------------------------------------------------
Resistance : 1,787 / 1,803 / 1,814
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน (25/06/21) SPDR
- ถารถือครองทองคำ : ซื้อเพิ่ม 2.91 ตัน
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,778.40
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,045.78 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 13 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : +2.57 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 28 มิถุนายน 2564ทองคำตลาดนิวยอร์กวานนี้ปิดบวกขึ้น $1.1 หลังดอลลาร์ปรับฐานอ่อนค่าลง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1 ดอลลาร์ (+0.06%) ปิดที่ระดับ 1,777.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปัจจัยแรงหนุนทางคำมาจากการที่มีรายงานตัวเลขดัชนี Core PCE ที่เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้นเพียง 0.5% ถือว่าต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.6% สถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนผ่อนคลายความวิตกเกี่ยวกับธนาคารกลางสหรัฐหรือ เฟดจะถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วกว่าที่คาด จึงทำให้ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดของวัน แต่ที่สุดทองคำกับปรับอ่อนค่าลงมาอีกครั้งหลังปรับขึ้นได้ไม่นาน เมื่อตัวเลข Core PCE เทียบรายปีพุ่ง 3.4% ในเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต้นทศวรรษ 1990 หรือสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปี ทำให้นักลงทุนยังคงไม่แน่ใจต่อการตัดสินใจของเฟดเกี่ยวกับการเร่งถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสกัดเงินเฟ้อหรือไม่ ทำให้แรงซื้อกลับเข้าสู่ดอลลาร์และเทขายทองคำออกมาอีกรอบ
ประเมินทางเทคนิควันนี้
วันนี้ให้เก็งกำไรในกรอบระหว่าง 1,767-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำยังไม่หลุดต่ำกว่าระดับ 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,787-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ทั้งนี้ให้นักลงทุนเฝ้าจับตาบริเวณแนวรับ 1,767-1,774 และแนวต้าน 1,787-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากแนวดังกล่าวเป็นแนวที่ราคามีการทดสอบหลายครั้ง และเป็นจุดเฝ้าระวังเมื่อราคาทองคำเลือกทิศทาง จึงอาจเป็นโอกาสในการทำกำไรได้จาบริเวณดังกล่าว วันนี้ไม่มีข่าวสำคัญฝั่งสหรัฐฯ
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคากลับมาทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการเข้าทำกำไรระยะสั้น พิจารณาทำกำไรได้ที่บริเวณแนวต้าน 1,795-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์) แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้นั้น ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านบริเวณถัดไปที่ 1,825 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Short Position : รอขายทองคำบริเวณแนวต้าน 1,795-1,787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ให้เปิดคำสั่ง “ขาย” เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
-----------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,767 / 1,741 / 1,709
---------------------------------------------------
Resistance : 1,795 / 1,803 / 1,826
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน (25/06/21) SPDR
- ถารถือครองทองคำ : ขายออก -3.78 ตัน
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,775/-5
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,042.87 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 12 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : -0.34 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
BA - ปีกหัก หลังโดนกลับลำเรื่องเปิดประเทศ
วันที่มีข่าวจะเปิดประเทศใน 120 วัน ราคาได้พุ่งขึ้นไปถึง 11 บาท
แต่หลังจากนั้น ก้ร่วงลงมาอยู่ใต้เส้น 50% fib
หากเป็นแบบนี้ มุมมองที่ดีต่อนักลงทุนคือ เราจะมีเวลาสะสมหุ้นมากขึ้น และอาจได้หุ้นถูกลง
หากราคายังอยู่ใต้เส้น 50% fib มีโอกาสที่รูปทรงของราคาจะเป็น pattern Leading diagonal จบเวฟ 1 ของขาขึ้น
จนกว่าจะมีแผนการเปิดประเทศจริงๆ อาจจะมีการย่อตัวของราคาลงมา หรูๆหน่อย อาจจะกลับมา 5.5 ให้สะสมครับ
เป็นตัวที่อยู่ใน watchlist อีกตัว
BANPU - Break แนวต้าน 10 ปี รอทดสอบก่อนไปต่อ
ตอนนี้ราคาได้ทะลุแนวต้านตั้งแต่ยอด all time high ปี 2011 มาแล้ว
แต่ติดแนวต้าน 50% fibonacci ที่ 16.5-16.6
อาจจะมี hard retest ลงไปหา trend line อีกรอบ
หากลงแรง มีแนวรับบริเวณ 14.5-14.8
ราคาถ่านหินเป็นตัวสนับสนุนราคาหุ้น
ตอนนี้ราคาถ่านหินอยู่ที่ 130 USD
ใน Q1 2021 ราคาขายถ่านหินของบ้านปูปรับขึ้นมาเกือบ 70 usd เทียบกับ 40-50 usd ในปี 2020 ทำให้มี EBITDA เพิ่มขึ้น
ที่ผ่านมาบ้านปูได้ประโยชน์จากราคาถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้นน้อย เพราะได้ทำการกำหนดราคาไว้ คิดเป็นกว่า 70% ของปริมาณการขายทั้งหมด
แต่ในปี 2021 บ้านปูได้เปลี่ยนแผน มากำหนดราคาล่วงหน้าไว้แค่ 20-30% คาดว่างบของ Q2 2021 เป็นต้นไป จะได้ประโยชน์จากราคาถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก เพราะจะขายราคาอิง spot price มากขึ้น
ราคาถ่านหินเองน่าจะปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจาก demand ของจีนที่เพิ่มขึ้น และจีนยังมีปัญหาด้าน supply shortage จากปัญหากับออสเตรเลีย
ราคา Natural Gas
ใน Q2 ราคา NatGas อยู่บริเวณ 2.8-3 usd จากผลการดำเนินงาน Q1 2021 ก็เห็นแล้วว่ามีรายได้จากส่วนนี้เพิ่มเข้ามามาก และแนวโน้มของ NatGas ในปีนี้เป็นขาขึ้น
โดยในระยะเวลาไม่นาน อาจจะไปได้ถึง 4 usd
คาดว่ารายได้ของบ้านปูจะดีขึ้นต่อเนื่องในปี2021 นี้
เมื่อบ้านปูทะลุ 50% fib ที่ 16.5-16.6 ขึ้นไปได้ แนวต้านที่อาจจะทำให้ย่อลงมา คือบริเวณ 18.6 ที่เป็น high ปี 1996 และยังเป็นจุดที่เส้น VWAP 3 เส้นมาบรรจบกันพอดี
อย่างไรก้ตาม คิดว่าทุกการย่อ เป็นโอกาสในการซื้อสะสมครับ
ทางเทคนิค
ตอนนี้ คิดว่าตรง Covid-19 low น่าจะเป็นเวฟ 2 ที่ลงไป 0.618% ของเวฟ 1
และตอนนี้ อาจจะกำลังขึ้นเวฟ 3 หรือ ไม่ก็ COV19 low เป็นขา A และตอนนี้กำลังขึ้น B ของเวฟ 2 ก้ได้
คงต้องตามดูไปก่อน
หากเป็นเวฟ 3 จริงๆ แนวรับและแนวต้านคงจะต้องยึดตามนี้
โดยมีเป้าแรกของปีนี้ที่ 23 บาท 28 บาท และ 35 บาท
คงต้องดูทางเทคนิคประกอบกับพื้นฐานควบคู่กันไปด้วยครับ
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 25 มิถุนายน 2564 ทองคำตลาดนิวยอร์กวานนี้ปิดลบ $6.7 ท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนกับคำแถลงของกรรมการเฟดที่หลากหลายข้อมูล
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ปรับตัวลดลง 6.7 ดอลลาร์ (-0.38%) ปิดที่ระดับ 1,776.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำวานนี้ผันผวนต่างจากตลาดสกุลเงินอย่าง EU, GU แม้วานนี้บางช่วงของวันดอลลาร์จะปรับอ่อนค่าลงก็ตาม แต่ทองคำก็ยังปรับขึ้นได้ในระดับที่จำกัดเท่านั้น โดยยังไม่สามารถผ่านแนวต้านระดับ 1,787-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้
นักลงทุนยังรู้สึกกังวลต่อการตัดสินใจของเฟด เพราะตลอดเวลาระยะนี้กรรมการของเฟดต่างออกมาให้ข้อมูลที่แย้งกันไปมา ทำให้สร้างความสับสนต่อการตัดสินใจลงทุนของตลาด แม้ผ่านมานายเจอโรม พาวเวลล์จะออกมให้คำมั่นต่อนักลงทุนแล้วว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาอันใกล้นี้ แต่สิ่งที่นักลงทุนต้องเฝ้าติดตามสถานะการณ์กันอย่างใกล้ชิดก็มีเรื่องวงเงินการเข้าซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลที่ตอนนี้มีการตั้งวงเงินไว้ที่ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ต่อเดือน จากที่นายพาวเวลล์ และคณะกรรมการส่วนหนึ่งเคยออกมาพูดในทำนองเดียวกันว่าจะมีการหารือถึงความจำเป็นต่อมาตรการดังกล่าวว่าเฟดควรที่จะปรับลดการทำ QE ลงหรือไม่ ทำให้นักลงทุนตลาดทองคำเองต้องเฝ้าติดตามเรื่องดังกล่าวต่อไป
เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐอย่างดาวโจนส์ก็ปรับพุ่งรับข่าวแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านข้อตกลงกับสภาคองเกรสในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแลการจ้างงานในสหรัฐ และจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นนั้น ทำให้ดาวโจนส์พุ่งกว่า 300 จุด ทะลุ 34,000 จุด อยู่ที่ระดับ 34,217.72 จุด บวกเพิ่ม 343.48 จุด หรือ 1.01% ถืออยู่ห่างจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ไม่ถึง 3% เท่านั้น ในส่วนของ S&P500 และ Nasdaq ก็ต่างปรับพุ่งขึ้นเช่นกัน ปัจจัยดังกล่าวทำให้นักลงทุนเทขายทองคำเพื่อไปลงทุนที่ตลาดความเสี่ยงสูงที่ให้ผลตอบแทนที่มากกว่า ทำให้ทองคำถูกจำกัดการปรับตัวขึ้นตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้
ประเมินทางเทคนิควันนี้
วันนี้ทองคำกลับมาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง หลังจากวานนี้ปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านระดับ 1,787-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามาราถฝ่าแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ ทำให้เกิดการเทขายทองคำออกมาจากแนวต้านดังกล่าว เกิดการอ่อนตัวของราคาลงสู่แนวรับด้านล่างบริเวณ 1,767-1,761 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง สำหรับวันนี้หากราคาทองคำยังสามารถปรับตัวยืนอยู่เหนือระดับแนวรับบริเวณดังกล่าวได้อีกนั้น ก็มีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,787-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้งเช่นกัน ทั้งนี้แนะนำนักลงทุนให้ปรับลดขนาดการลงทุนฝั่ง Long เนื่องจากหากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับตัวยืนเหนือระดับแนวต้านดังกล่าวได้นั้น ก็ยังคงจะเห็นความผันผวนการแกว่งตัวของราคาทองคำในกรอบเดิมตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ก็ต้องมาจับตาดูกันว่าวันนี้ทองคำจะปรับตัวขึ้นเหนือแนวต้านดังกล่าวได้หรือไม่ วันนี้ไม่มีประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคากลับมาทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการเข้าทำกำไรระยะสั้น พิจารณาทำกำไรได้ที่บริเวณแนวต้าน 1,795-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์) แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้นั้น ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านบริเวณถัดไปที่ 1,825 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Short Position : รอขายทองคำบริเวณแนวต้าน 1,787-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ให้เปิดคำสั่ง “ขาย” เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
-----------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,767 / 1,741 / 1,709
---------------------------------------------------
Resistance : 1,795 / 1,803 / 1,826
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR
- ถารถือครองทองคำ : ขายออก -3.78 ตัน
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,775.05 $
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,042.87 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 12 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : -0.34 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน 2564ทองคำตลาดนิวยอร์กวานนี้ปิดบวกขึ้น 6 ดอลลาร์ จากแดนล่าง 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังเฟดคลายสัญญาณไม่เร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6 ดอลลาร์ (+0.34%) ปิดที่ระดับ 1,783.4 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปัจจัยแรงหนุนทางคำมาจากการที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวร่วงลงจากคำมั่นของเฟดที่ออกมายืนยันว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาอันใกล้นี้ ทำให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับร่วงลงมา สร้างปัจจัยหนุนทองคำกลับฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง
นายพาวเวลได้กล่าวต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์โควิด-19 ประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐว่า “เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนตลาดแรงงานให้ฟื้นตัวเป็นวงกว้าง และเฟดจะไม่ใช้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องภาวะเงินเฟ้อมาเป็นแรงผลักดันให้ต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป”
นอกจากนี้ก็ยังมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาก่อนหน้ายังสะท้อนถีงความอ่อนแอของโครงสร้างระบบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งหมดจึงเป็นปัจจัยหนุนทองคำกลับมายืนเหนือระดับ 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ก็ต้องลุ้นกันต่อว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน
ในส่วนกรณีพิพาทระหว่างสหรัฐกับจีน เรื่องการส่งเรือรบเข้าประจำในพื้นของทะเลจีนใต้นั้น หลังจากที่ก่อนหน้าเกิดภาวะความตึงเครียดอีกครั้งหลังสหรัฐนำเรือรบเข้าแล่นผ่านช่องแคบใต้หวัน ซึ่งถือเป็นอาณาเขตของทะเลจีนใต้ แต่สหรัฐอ้างว่าเป็นการตรวจตราในบริเวณน่านน้ำสากลเท่านั้น จากความขัดแย้งดังกล่าวได้ถูกปรับลดความร้อนแรงลงหลังมีข่าวว่าจะมีการเจรจาทางการทูตระหว่างสหรัฐกับจีนถึงกรณีดังกล่าว ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลในเรื่องดังกล่าวลงไป อาจทำให้ความน่าสนใจของทองคำถูกลดทอนลงไปด้วยเช่นกัน
ประเมินทางเทคนิควันนี้
วันนี้ทองคำกลับมาอยู่เหนือระดับแนวรับ 1,774-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง หลังจากที่ปรับขึ้นทดสอบแนวต้านระยะสั้น 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถฝ่าผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ ทำให้ราคาทองคำช่วงเช้ามืดของวันนี้กลับมาแกว่งตัวเหนือบริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง ประเมินทางเทคนิคหากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือบริเวณแนวรับดังกล่าวได้อีกครั้ง มีแนวโน้มที่อาจเห็นการปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่บริเวณ 1,795 -1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง แต่หากราคาทองคำยังคงมีแรงกดดันอีกรอบ มีโอกาสที่แนวรับระดับบริเวณ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจต้องพังทลายในรอบใกล้ๆ นี้ ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,741 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ติดตามเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการทำ QE, ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้, อินเดียวโดนปรับลดความน่าเชื่อถือจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
คืนนี้ติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ของสหรัฐดังนี้
19:30 ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (MoM) พ.ค.
19:30 ดัชนีจีดีพี (QoQ) (Q1)
19:30 จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (รายสัปดาห์)
ช่วงเวลาดังกล่าวอาจสร้างความผันผวนต่อตลาดทองคำได้ จึงแนะนำสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ควรระมัดระวังในการเทรดซื้อคำสั่งในเวลาดังกล่าวด้วย
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคากลับมาทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการเข้าทำกำไรระยะสั้น พิจารณาทำกำไรได้ที่บริเวณแนวต้าน 1,795-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์) แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้นั้น ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านบริเวณถัดไปที่ 1,825 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Short Position : รอขายทองคำบริเวณแนวต้าน 1,795-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ให้เปิดคำสั่ง “ขาย” เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
-----------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,767 / 1,741 / 1,709
---------------------------------------------------
Resistance : 1,795 / 1,803 / 1,826
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR
- ถารถือครองทองคำ : ขายออก -2.91 ตัน
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,778.15 $
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,046.56 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 11 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : +3.44 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
BTC ปรับฐานใหญ่หลังจากที่ลงมาเยอะ ปัจจุบันราคา btc อยู่ที่ดีมานโซนทามเฟรมรายสัปดาห์
หากราคายังไม่ทะลุโซนนี้ มีโอกาสสูงที่ btc จะกลับขึ้นทามเทรนหลักของทามเฟรมเดือน
ขาบายจังหวะนี้ถือว่า RRR ดีมาก เพราะมีโอกาสทำกำไร3-6เท่าของจุดตัดขาดทุน
*** demand supplyเป็นแค่การหาโซนที่ได้เปรียบในการเข้าออเดอร์ ส่วนการหาจังหวะเข้าออเดอร์ขึ้นอยู่กับระบบที่ใช้ของแต่ละคน***
*** การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญานในการลงทุน***
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 23 มิถุนายน 2564ทองคำตลาดนิวยอร์กวานนี้ปิดลบอีกหนึ่งวันอีก 5.5 ดอลลาร์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ปรับตัวลดลง -$5.5 หรือ -0.31% ปิดระดับ 1.777.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการปรับแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ตลอดทั้งวันที่มีความผันผวนก่อนที่จะมีการแถลงต่อสภาครองเกรสของนายเจอโรม พาวเวลล์ เมื่อช่วงตีหนึ่งวันนี้ ทั้งนี้ในช่วงกลางวันทองคำได้ปรับฟื้นคืนมาได้บ้างแต่ก็ยังเป็นไปได้อย่างจำกัด แม้ดอลลาร์จะอ่อนค่าลงในช่วงค่ำของเมื่อวานนี้ แต่ก็ยังไม่ทำให้ทองคำปรับฟื้นตัวขึ้นมาได้เช่นกลุ่มสกุลเงินอื่นๆ และเช้านี้ดอลลาร์ก็ปรับขึ้นมาอีกครั้งหลังอ่อนค่าของไปที่ระดับ 91.645 แต่หากวันนี้ดอลลาร์ไม่สามารถปรับขึ้นไปเหนือ 92 นั้นเราก็คงได้เห็นการปรับตัวต่ำของดอลลาร์หลังจากที่ดีดตัวพุ่งจากการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่กำหนด
เมื่อช่วงตีหนึ่งของวันนี้นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือว่า เฟด ได้แถลงต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์โควิด-19 ประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยเฟดกล่าวว่ามีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนตลาดแรงงานให้ฟื้นตัวเป็นวงกว้างและครอบคลุม และเฟดจะไม่ใช้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องอัตราเงินเฟ้อมาเป็นแรงผลักดันให้มีการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วเกินไป นายพาวเวลยังกล่าวอีกว่า การพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อเมื่อไม่นานมานี้ ไม่ได้สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ตึงตัวเป็นวงกว้างจนต้องทำให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลานี้ เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นมานั้น เป็นผลมาจากความต้องการสินค้าและการบริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และภาวะติดขัดอุปทานที่เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐเริ่มเปิดเศรษฐกิจใหม่อีกรอบ หลังจากต้องปิดเศรษฐกิจเป็นเวลานานเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยนายพาวเวลมีความเชื่อว่าเรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เกิดจากการพุ่งขึ้นของราคาผู้บริโภคนั้น จะชะลอตัวลงในท้ายที่สุด
หลังคำกล่าวถึงท่าทีของเฟดที่จะยังไม่คงขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนกำหนดที่วางไว้นั้น ทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นอีกครั้ง เป็นเหตุให้ดอลลาร์กลับอ่อนค่าลงไปสู่ระดับ 91.645 ก่อนปรับฟื้นขึ้นได้ในช่วงเช้ามือวันนี้อีกครั้ง แต่ก็ยังเป็นการฟื้นในช่วงความกดดันต่อดอลลาร์อีกครั้ง หลังเฟดส่งสัญญาณไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ โดยเฟดจะยังคงต้องจับตาดูข้อมูลสถิติของตลาดแรงงานเป็นวงกว้างว่ามีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งขึ้นมาเสียก่อน
สำหรับทองคำเมื่อวานนี้ก็ยังถือว่าเป็นการปรับตัวขึ้นได้เพียงจำกัด แต่ไม่สามารถปรับบวกขึ้นได้จากข่าวดีดังกล่าวของตลาดทองคำ ทำให้วันนี้ต้องมาลุ้นกันต่อว่าจะสามารถปรับขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,800 ได้หรือไม่
ประเมินทางเทคนิควันนี้
วันนี้ทองคำปรับฟื้นตัวขึ้นมาได้เล็กน้อยในช่วงเช้าโดยหากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือระดับแนวรับบริเวณ 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง อาจมีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับขื้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถ้าพิจารณาน้ำหนักการให้ระดับคาดการณ์วันนี้ทองคำน่าจะปรับตัวสูงขึ้นได้หลังตลาดฝั่งยุโรปเปิดทำการ จึงแนะนำว่าให้รอซึ้อทองคำเก็บเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาอีกครั้ง เพื่อรอทำกำไรจากการปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,800-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทองคำสามารถผ่านระดับ 1,787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้นก็จะยิ่งเพิ่มความชัดเจนต่อความหวังการกลับไปยืนเหนือ 1,800 ได้อีกครั้ง
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคากลับมาทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการเข้าทำกำไรระยะสั้น พิจารณาทำกำไรได้ที่บริเวณแนวต้าน 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์) แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้นั้น ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านบริเวณถัดไปที่ 1,800-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Short Position : รอขายทองคำบริเวณแนวต้าน 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ให้เปิดคำสั่ง “ขาย” เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวรับ 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในกรอบเวลาต่างๆ
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
-----------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,767 / 1,760 / 1,741
---------------------------------------------------
Resistance : 1,787 / 1,803 / 1,814
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR
- ถารถือครองทองคำ : ขายออก 3.50 ตัน
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,783.20 $
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,049.56 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 10 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : +6.35 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 21 มิถุนายน 2564ทองคำเมื่อเช้ามืดวันเสาร์ที่ผ่านมา ปิดตลาดลบ $5.8
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ปรับตัวลดลง -$5.8 ปิดระดับ 1.769 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ถือเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์ที่มากที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 มี.ค. 2563
ดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า “เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า” โดยนายบูลลาร์ดเป็นกรรมการเฟด 1 ใน 7 รายที่คาดว่า เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งนายบูลลาร์ดได้กล่าวว่า “ผมคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายปีหน้า เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่จะพุ่งแตะ 3% ในปีนี้ และจะอยู่ที่ 2.5% ไปจนถึงปี 2565 โดยสูงกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2% ของเฟด” ซึ่งเขาได้ระบุว่า การที่เฟดส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดในสัปดาห์นี้นั้น ถือเป็นการเตรียมรับมือตามปกติต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และโดยเฉพาะต่อเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ ขณะที่สหรัฐทำการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งหลังจากที่ได้มีการประกาศล็อกดาวน์ไปก่อนหน้านี้นั้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโควิด-19
ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในสัปดาห์ที่ผ่านมา กรรมการเฟดจำนวน 13 จาก 18 รายคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าคาดการเดิมที่เคยส่งสัญญาณในเดือน มี.ค. ว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตตราดอกเบี้ยไปจนกว่าจะถึงปี 2567 นอกจากนี้เฟดยังคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งในปี 2566 ทั้งหมดจึงทำให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่าได้อีกครั้ง รวมทั้งยังกดดันทองคำให้ร่วงต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิควันนี้
วันนี้ทองคำอาจเจอความผันผวนของการเคลื่อนไหวราคาอีกครั้ง ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด หากราคาทองเองสามารถทรงตัวเหนือระดับแนวรับบริเวณ 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น เราอาจเห็นแนวโน้มการปรับตัวขึ้นในระยะสั้นได้อีกครั้ง ประเมินแนวต้านบริเวณที่ระดับ 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านในบริเวณดังกล่าวได้ อาจเกิดการเทขายทำกำไรกันอีกรอบหนึ่ง แนวรับราคาประเมินไว้ที่บริเวณ 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถรองรับราคาไว้ได้นั้น แนวรับถัดไปจะเป็นที่บริเวณ 1,741 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ถ้าวันนี้ราคาทองคำสามารถขยับตัวต่อเนื่องขึ้นได้ด้านบน และกลับไปยืนเหนือ 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจมีการขึ้นทดสอบแนวต้านระดับจิตวิทยาที่ 1,800-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้เช่นกัน วันนี้ขอแนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังแนวต้านในบริเวณดังกล่าวไว้ด้วย หากราคายังไม่สามารถผ่านขึ้นได้ มีแนวโน้มที่จะถูกเทขายทำกำไรทำให้ทองคำปรับตัวอ่อนลงได้ จึงควรติดตามในบริเวณดังกล่าวไว้ด้วย วันนี้ฝั่งสหรัฐฯ ไม่มีข่าวเศรษฐกิจสำคัญอะไรนะครับ ส่วนยุโรปเวลา 21:15 จะมีแถงการของประธานธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB ตามเวลาประเทศไทยนะครับ ช่วงเวลาดังกล่าวอาจสร้างความผันผวนต่อตลาดทองคำได้ จึงควรติดตามสถานะการณในช่วงดังกล่าวด้วย
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคากลับมาทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการเข้าทำกำไรระยะสั้น พิจารณาทำกำไรได้ที่บริเวณแนวต้าน 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : รอขายทองคำบริเวณแนวต้าน 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ให้เปิดคำสั่ง “ขาย” เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวรับ 1,760-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,787-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในกรอบเวลาต่างๆ
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
-----------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,767 / 1,760 / 1,741
---------------------------------------------------
Resistance : 1,787 / 1,803 / 1,814
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR
- ถารถือครองทองคำ : ซื้อทองคำเพิ่ม +11.07 ตัน
- เข้าซื้อขายทองคำที่ระดับราคา : 1,764.10 $
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,053.06 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 9 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : +9.85 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
SETINDEX รายสัปดาห์ที่24 แท่งแดงสำคัญกลืนแท่งเขียวชัดเจน ในจุดบนบันทึกการเทรดน้า
เมื่อสัปดาห์ก่อน #Set #หุ้นไทย เปิด1641 สูงสุด 1642 ต่ำสุด1604 ปิด1612 -23.56จุด
แท่งแดงสำคัญกลืนแท่งเขียวชัดเจน ในจุดบนแนวต้าน สัปดาห์นี้รู้ผล
SETINDEX รายสัปดาห์ที่24
แนวทางเทรดSet อะไรก็เกิดขึ้นได้กับปู่ setบ้านเรา
แผนA. ราคาปิดยืน1670 สามารถวางแผนเก็งกำไร #buy กลุ่มSet50ตามได้ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 1711 และ1776
แผนB. ราคาขึ้นแต่ไม่สามารถยืนได้ 1600 สามารถดักตีหัวลงไป #Shortfutuer มีโอกาสลงไปทดสอบเป้า 1583 ,1566และ 1542
แผนC. ราคาลงหลุด 1525 นั่งดูตลาดแดง #Short ได้ มีโอกาสลงไปทดสอบเป้า 1500 ,1476 ลงมาถึงตรงนี้เท่ากับเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง
แผนD. ราคาลงแต่ไม่หลุด 1608 หรือหลุดแต่มีแรงซื้อยกกลับ สามารถวางแผนPullback ย่อ #buy :ซืื้อหุ้นกลับไปขาย มีโอกาสขึ้นไปทดสอบเป้า 1642 ,1670
setสัปดาห์นี้คงต้องดูตลาดต่างประเทศ จะไปทางไหน กลางๆสัปดาห์แนวทางเทรดน่าจะชัดกว่านี้
จุดประสงค์เพื่อเสนอแนวการวางแผนเทรดเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำหรือฟันธงตลาด
กรณีที่ผิดทาง StopLoss ไว้ด้วยนะ
เพียงคุณต้องรอให้เป็น ซื้อให้ถูกตัว ถูกเวลา
ไม่ว่าตลาดจะเลือกทางไหน
ขอให้ทำตามแผนที่วางไว้ และมีวินัย สามารถได้กำไรทุกคนครับ.
ไม่ดื้อ ไม่โลภ ไม่กลัว
เสี่ยงเท่าที่คุณจะสูญเสียมันได้
นิ่งให้พอ รอให้เป็น เย็นให้ได้
เล็กน้อยxสม่ำเสมอ = มหาศาล
XAUUSD ทองรายสัปดาห์ที่24 สวรรค์ชั้น7บันทึกการเทรดน้า
เมื่อสัปดาห์ก่อน #Gold #ทอง เปิด 1877 สูงสุด 1878 ต่ำสุด1861 ปิด1764 -113.5 จุด
แท่งแดง bigcandle
สัปดาห์ก่อนน้าให้เลขไว้ มาถึงดังใจต้องการ กำไรกันถ้วนหน้านะครับ
XAUUSD ทองรายสัปดาห์ที่24
แนวทางเทรด ในสัปดาห์นี้น้ามองว่า ยังคงเด้งsell หาจุดกลับตัวbuy ได้ทุนดีถือยาวได้นะ
แผนสัปดาห์นี้ รอสัญญาณแท่งเทียนกลับตัว สวยแถวแนวราคา 1770-1730
อาจจะมีการขยี้ให้ปวดร้าว แต่ยังมาว่ากราฟทองยังเป็นทรงกลับตัวนะครับ ต้องรอเวลาเนื่องจากมันลง
มาแรงจะให้เด้งสวนทันทีคงยาก
ทองกรอบการเล่น เปลี่ยนใหม่ 1797-1730
แผนA. ราคาปิดยืน1798 สามารถวางแผนเก็งกำไร #buy ตามได้ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 1819 ,1835,1851
แผนB. ราคาขึ้นแต่ไม่สามารถยืนได้ 1790 สามารถดัก #Sell มีโอกาสลงไปทดสอบเป้า 1782 ,1778 และ1770 แผนนี้ต้องอดทน เพราะมันสวิงขยี้บีบหัวใจ
แผนC. ราคาลงหลุด 1ึ767 #Short ได้ มีโอกาสลงไปทดสอบเป้า 1755,1748,1730
แผนD. ราคาลงแต่ไม่หลุด 1730 หรือหลุดแต่มีแรงซื้อยกกลับ สามารถวางแผน #buy กลับไปได้ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบเป้า ที่ลงมา ถือยาวๆได้เลยนะหากเชื่อน้า แต่หลุดแล้วต้องstoploss ด้วย
แผนD+. ราคาลงแต่ไม่หลุด 1770 หรือหลุดแต่มีแรงซื้อยกกลับ สามารถวางแผน #buy กลับไปได้ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบเป้า 1797,1819,1850
น้าเชื่อว่าเช้าวันจันทร์-อังคาร ตลาดน่าจะมีแรงสู้ ดันกลับไปบ้าง เพื่อเข้ากรอบสวิงไซค์เวย์ หาจังหวะดีเข้าbuy ได้เปรียบกว่านะ ตามแนวที่น้าให้ไว้ครับ
จุดประสงค์เพื่อเสนอแนวการวางแผนเทรดเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำหรือฟันธงตลาด
ไม่ว่าตลาดจะเลือกทางไหน
ขอให้ทำตามแผนที่วางไว้ และมีวินัย สามารถได้กำไรทุกคนครับ.
ไม่ดื้อ ไม่โลภ ไม่กลัว
เสี่ยงเท่าที่คุณจะสูญเสียมันได้
นิ่งให้พอ รอให้เป็น เย็นให้ได้
เล็กน้อยxสม่ำเสมอ = มหาศาล
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 18 มิถุนายน 2564ทองคำตลาดนิวยอร์กร่วงหนักกว่า $86.6 หลังดอลลาร์แข็งค่ารับสัญญาณเฟดปรับอัตราดอกเบี้ย
สัญญาตลาดทองคำ COMEX (Commondity Exchange) ปรับลดร่วงแรงกว่า $86.6 หรือ -4.65% ปิดที่ระดับ 1,774.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังดอลลาร์ปรับพุ่งขึ้น 0.79% ปิดที่ระดับ 91.896 ส่วนบอนด์หลังปรับขึ้นก็ปิดร่วงปรับฐานใหม่กันอีกรอบที่ 1.506 ดอลลาร์ปรับขึ้นแข็งค่าอีกครั้งเมื่อคืนวานนี้หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วกว่ากำหนดขึ้นในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าคาดการณ์ถึง 1 ปี ขณะเดียวกันเฟดได้เปิดเผยรายงาน dot-plot ที่ระบุว่ากรรมการเฟด 13 ใน 18 รายคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งในปี 2566 ในการประชุมครั้งนี้เฟดยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้สู่ระดับ 3.4% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือน มี.ค.ที่่ระดับ 2.4%
ทางฝั่งนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เฟดได้แถลงว่ากรรมการเฟดได้เริ่มหารือกันเกี่ยวกับเรื่องการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งปัจจุบันได้ตั้งวงเงินไว้ที่ระดับ 1.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน และกรรมการเฟดยังคงหารือกันในเรื่องต่อไป จนกว่าตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ จะขยายต้วเต็มศักยภาพ และเงินเฟ้อดีดตัวขึ้นเป็นไปตามเป้าหมายที่เฟดวางไว้ที่ระดับ 2%
ประเมินทางเทคนิการเทรดทองคำวันนี้
หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือ 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับฐานขึ้นในระยะสั้นเพื่อทดสอบแนวต้าน 1,787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้น้ั้น ประเมินแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากวันนี้ราคาทองคำยังไม่สามารถกลับไปยืนเหนือ 1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น จะมีการเทขายทำกำไรกันมาอีกรอบ โดยประเมินแนวรั่บที่ระดับ 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำการลงทุนวันนี้ควรให้ความสำคัญสำหรับการลงทุนฝั่ง Short และปรับลดการลงทุนฝั่ง Long เพื่อปรับสมดุลย์พอร์ตลงทุนให้เหมาะสมกับสถานะการณ์ดังกล่าวด้วย
แนวโน้มตลาดทองคำวันนี้
-----------------------------------------------
H1 = Down trend
H4 = Down trend
Day = Down trend
Week = Up trend
Mounth = Up trend
------------------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
------------------------------------------------
Support : 1,767 / 1,756 /1,741
Resistance : 1,787 / 1,803 / 1,814
------------------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายวัน
------------------------------------------------
Support : 1,763 /1,678 / 1,570
Resistance : 1,829 / 1,876 / 1,923
------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำของกองทุน SPDR
สถานะการถือครองปัจจุบัน = ปรับลด 3.79 ตัน
ซื้่อขายกันที่ระดับราคา = 1,773.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้น = 1,041.99 ตัน
ปรับลดการถือครองไปแล้วเดือนนี้ = 8 ครั้ง
รวมปรับไปแล้วทั้งสิ้น = -1.22 ในเดือนนี้
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการนำเอาค่าสถิติในอดีตมาคำนวณถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำกำไรได้ถูกต้อง 100%
AH , TF DAY (17/06/2021)พิจารณาจาก technical
- กราฟทำทรง ขึ้น พัก ทะลุ มาหลายชุดคลื่นอย่างต่อเนื่อง
- ปัจจุบันราคาอยู่ในโซนการพักตัว บริเวณ 61.8% ของฟิโบ
- แนวต้าน 26.6 / 31 บาท ตามลำดับ
- แนวรับ 22.5 / 19.7 บาท ตามลำดับ
พิจารณาจากปัจจัยพื้นฐาน
- บริษัทเคยทำกำไรได้เป็นปกติ ก่อนจะนำเงินไปลงทุนขยายสาขาและทำให้บริษัทขาดทุนใน Q4 2019
- Q1 2021 รายได้ออกมาดีโดยมี EPS ที่ 1.15 เท่า
- หากดู EPS ในอดีต บริษัททำกำไรได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยให้ค่ากลางไว้ที่ 0.6 ต่อไตรมาส
- PE ที่ตลาดเคยให้คุณค่าในอดีต ตลาดเคยให้ค่า (แบบกดราคา) ไว้ที่ประมาณ 8 เท่า
- PE กลุ่มยานยนต์ปัจจุบันตลาดให้มูลค่าประมาณ (แบบกดต่ำสุดๆ) 10 เท่า
ดังนั้น
- เมื่อพิจารณาจาก EPS ที่เป็นค่ากลาง 0.6 x 3 ไตรมาสที่เหลือ = 1.8 + ไตรมาส 1 ที่ทำได้ 1.15 = EPS 2.95
- 2.95 x 8 = 23.6 บาท
- 2.95 x 10 = 29.5 บาท (faie value แบบกดสุดๆ)
สรุป
- พยายามสะสม ตามกรอบจากการพิจารณาทั้งทางด้าน เทคนิคอล และ ปัจจัยพื้นฐาน
- Risk to reward Ratio 1:2 (หรือ Reward มากกว่าหากตลาดให้มูลค่าหรือมาจากคนที่ไล่ซื้อตอนเบรคไฮ)
- Downsize -15% Upsize 30% +
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน 2564ตลาดทองคำนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ปิดบวก $5 รับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซบเซาหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
วานนี้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังสหรัฐฯได้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่ซบเซา เช่น ตัวเลขเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 3.6% ในเดือน พ.ค. สู่ระดับ 1.572 ล้านยูนิต ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.630 ล้านยูนิต จากระดับ 1.517 ล้านยูนิตในเดือน เม.ย. โดยผลกระทบที่ตัวเลขต่ำกว่าคาดการณ์มาจากที่ราคาของไม้และวัสดุก่อสร้างอื่นๆ ในการสร้างบ้านมีราคาสูงขึ้น ในส่วนของการขออนุญาตก่อสร้างบ้านก็ลดลง 3.0% สู่ระดับ 1.681 ล้านยูนิตในเดือน พ.ค.
เมื่อคืนนี้มี FOMC มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 0.00-0.25 BPS และยังคงให้มีการเข้าซื้อพันธบัตรต่อไปอีกตามเดิมเดือนละ 1.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นมากอีกครั้ง และก็ยังมีสัญญาณจากการปรับเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อในปัจจุบันตอนนี้อาจทำให้เฟดอาจตัดสินใจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่กำหนดไว้ในปี 2567 เป็นปี 2566 จึงทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯ ขยับเป็นบวกขึ้นสู่ระดับ 91.394 อีกครั้ง ทำให้ทองคำปรับตัวร่วงหนักจนหลุดแนวรับจิตวิทยา 1,844 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงไปได้ในที่สุด สำหรับวันนี้ติดตามรายงานข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญดังนี้
1. รายงานจำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เวลา 19:30 น.
2. ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (มิ.ย.) เวลา 19:30 น.
3. คำแถลงการณ์ของเยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
หลังทองคำร่วงหนักวานนี้จนหลุดแนวรับจิตวิทยา 1,844 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังมีรายงานผลการประชุม FOMC ออกมา จนสร้างจุดต่ำสุดใหม่ที่ระดับ 1,802.69 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนปรับฟื้นคืนมาได้ในช่วงเช้าของวันนี้ ประเมินทางเทคนิคหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,844 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้น อาจมีการเทขายทำกำไรออกมากันอีกรอบ ซึ่งแนวรับที่จะรองรับราคาต่อไปคือ 1,808 ดอลลาร์ต่อออนซ์ วันนี้แนะนำให้นักลงทุนลดการลงทุนฝั่ง Long ไว้ก่อน จนกว่าจะเห็นการปรับตัวกลับไปยืนเหนือระดับ 1,844 ดอลลาร์ต่อออนซ์เสียก่อน
กลยุทธ์การเทรดทองคำวันนี้
Long Position : หากราคาทองคำย่อลงมาที่แนวรับระดับ 1,808 ดอลลาร์ต่อออนซ์และทรงตัวเหนือบริเวณดังกล่าวให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง "ซื้อ" ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,844 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ แต่หากผ่านไปได้ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,857-1,867 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับต่ำกว่า 1,808 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,844 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง "ขาย" ได้ที่บริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่บริเวณแนวรับ 1,808 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวรับดังกล่าวลงไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือแนวต้าน 1,844 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มตลาดทองคำวันนี้
--------------------------------
Time frame H1 = Down trend
Time frame H4 = Down trend
Time frame Day = Up trend
Time frame Week = Up trend
Time frame Month = Up trend
---------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำ
------------------
Time Frame Day
------------------
Support : 1,797 / 1,769 / 1,734
Resistance : 1,865 / 1,916 / 1,981
-------------------
Time Frame H1
-------------------
Support : 1,808 / 1,786 / 1,770
Resistance : 1,844 / 1,857 / 1,867
สถานะกองทุน SPDR
----------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ซื้อเพิ่มทองคำ 1.17ตัน
ราคาซื้อขายทองคำ = 1,812.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้น = 1,045.78 ตัน
----------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานจากข้อมูลสถิติในอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรที่ถูกต้อง 100%