USOIL การวิเคราะห์ประจำวัน 20/6/2022 by TraderTanTrading note:
BUY USOIL : 107.902
TP : 116.217
SL : 105.222
เหตุผลในการเข้าเทรด:
จากกราฟแท่งเทียน ราคาวิ่งลงมาทดสอบ แนวรับต่ำสุดของรอบเดือนที่แล้ว
โดยแท่งเทียนเริ่มส่งสัญญาณของการกลับตัวขึ้น และ RSI อยู่ในโซน oversold
แม้ว่าราคาจะยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่สามารถทำกำไรสั้นๆได้ จึงทำการเข้า BUY
ยังคงเน้นรูปแบบการเทรดระยะสั้น ตามกรอบแนวเส้นของกรอบ BB
RSI เป็นขาลง แต่เนื่องจากอยู่ในโซน oversold อาจมีการกลับตัวขึ้นเล็กน้อย
ยังพอลุ้นขึ้นได้อยู่ เน้นเก็บกำไรระยะสั้นแบบ Scalping รายวัน แม้รูปแบบสวิงเทรนจะยัง
ไม่ชัดเจน แต่สามารถทำกำไรได้ระดับหนึ่ง และกำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกล
มากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้
โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H
และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: การเทรดแบบเน้นรูปแบบ Scalping อาจจำเป็นต้องเข้าออเดอร์บ่อยทุกวัน
และถือออเดอร์ไม่นานโดยปิดจบรายวัน และเน้นเก็บกำไรแบบเป็นรอบสวิง เพื่อเป็นการเพิ่ม
กระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่เรามีได้เช่นกัน เมื่อกำไร
ในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรด ทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
ไอเดียชุมชน
วิเคราะห์ BTC ประจำวันที่ 18/06/2022 (รอบเย็น)เอายังงัยต่อ
ลองตี fibo ดู ถ้าราคาไม่เด้งกลับมา 20K แล้วออกข้าง ก็มีโอกาสสูงมากที่จะลงไปถึง fibo 1.0 หรือประมาณ 13K
ตอนนี้ ดูกราฟ week ยังไม่เห็น price action ในการกลับตัวนะครับ วางแผนเทรดกันอย่างระมัดระวังกันด้วยนะ
ร่วงเยอะขนาดนี้ อาจมีซึนามิตามมา อย่างกองทุนถ้าเติมมาร์จิ้นไม่ทัน อาจโดนบังคับขาย Force Sell
** สรุป **
ถ้ากลับมายืน เหนือ 20K ไม่ได้ มีโอกาสลงต่ออีกสูงมาก
เทรด "เจ๊ง" เพราะรีบเป็น "เทพ"…ลองดูก่อน เก็บเกี่ยวประสบการณ์ก่อน จะได้รู้ว่าขาดตกบกพร่องตรงไหน ต้องแก้ไขจุดไหนบ้าง ถ้าอยู่รอดได้จริง ค่อยเป็นเทพ
2 เทพ ที่อย่าพึ่งรีบเป็น
1.)เทพอุปกรณ์ …อุปกรณ์ไม่ต้องเทพ โต๊ะเก้าอี้ไม่ต้องดีเด่น สเปคคอมไม่ต้องเวอร์วังอลังการ …ขอแค่ปลอดภัยก็พอ
2.)เทพเงินทุน … ตัวอย่าง ถ้ามีเงิน 1 ล้านบาท ก็แบ่งเงินมาเทรดสัก 1 - 3 หมื่นบาท …แล้วค่อย ๆ ประเมินผลลัพธ์ไปแต่ละรอบการเทรด // ถ้าผลลัพธ์ออกมาดี ก็ค่อย ๆ เพิ่มเงินทุนเข้าไป ประสบการณ์มากขึ้น เข้าใจตลาดมากขึ้น การแก้ไขปัญหาและการวางแผนก็จะดีขึ้น // แต่ถ้ารู้สึกว่าไม่รอดแล้ว ถอยดีกว่า ไม่เอาแล้ว ใส่เงินเข้าไปรอบละ 1 หมื่นบาท ขาดทุนยับ 10 รอบ ตลอด 1 ปี ก็ยังมีเงินเหลืออีกเยอะเลยที่จะออกไปเริ่มต้นใหม่
...ลึก ๆ แล้วก็คือประมาทนั้นแหละ ความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ ยังเก็บเกี่ยวไม่มากพอ
แต่เงินทุนหมดแล้ว ไปต่อไม่ได้ …ก็เลยมองตลาดในแง่ร้าย และถ้าถึงขั้นชีวิตพัง ก็อาจจะฆ่าตัวตาย
มีความรู้ มีทักษะ มีประสบการณ์ อยู่ไหนก็เทรดได้ มีเงินเท่าไหร่ก็ทำกำไรได้
// ถ้าไร้ซึ่งสิ่งเหล่านี้แล้ว ต่อให้มีเงินมากแค่ไหน ก็ทำกำไรไม่ได้
วิธีที่จะล้มเหลวในฐานะเทรดเดอร์เฮ้ทุกคน! 👋
ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้พิจารณาวิธีที่ดีที่สุดสองสามวิธีในการปรับปรุงการซื้อขายของคุณ รวมถึง เรียนรู้การปรับตัวตามสภาวะตลาด , สร้างกรอบความคิดในการซื้อขายที่เหมาะสม และอื่นๆ วันนี้เราคิดว่าน่าจะสนุกที่จะทำตรงกันข้าม แทนที่จะพยายามช่วยชุมชนสร้างแนวทางการซื้อขายแบบมืออาชีพที่มั่นคง - มาลองออกแบบการซื้อขายที่ขาดทุนตั้งแต่เริ่มต้นกันเถอะ! คุณลักษณะ/การตัดสินใจใดที่เราจะต้องสนับสนุนเพื่อให้ได้ผลที่แพ้?
ในทางทฤษฎี ตลาดเป็นเพียงเกมของความน่าจะเป็น แล้วเราจะรับประกันได้อย่างไรว่าเทรดเดอร์ของเราจะแพ้? ผลปรากฏว่า มีพฤติกรรมง่ายๆ สองสามอย่างที่เรานำมารวมกันได้ เพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์ที่เสียไปนั้นเป็นข้อสรุปมาก่อน
วิธีที่ 1: พวกเขาไม่เคยกำหนดความเสี่ยง 🤷🏼♂️
ในการซื้อขาย ผู้คนมักจะพูดถึง "การจัดการความเสี่ยง", "การกำหนดความเสี่ยงของคุณ" หรือ "การกำหนดปัญหาของคุณ" แต่บางครั้งอาจเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินว่าคนทั่วไปพูดถึงอะไรในฐานะเทรดเดอร์รายใหม่ กำหนดความเสี่ยงของฉัน? มันเป็นยังไง? คุณกำลังพูดถึงอะไร? ทั้งหมดนี้มันความว่าอย่างไร?
พูดง่ายๆ ก็คือ การกำหนดความเสี่ยงของคุณคือกระบวนการในการหาว่า *ที่ไหน* ที่คุณทำผิดพลาดในการซื้อขาย/การลงทุน
สำหรับเทรดเดอร์ที่มีความเคลื่อนไหวอยู่บ้าง อาจทำได้ง่ายๆ แค่เลือกจุดต่ำสุดหรือสูงสุด และพูดว่า "หากมันมาถึงราคานี้ ฉันก็จะออกจากการซื้อขาย, การอ่านผลระยะสั้นของสินทรัพย์นี้ของฉัน ใช้ไม่ได้อีกต่อไป, ฉันทำไม่ได้, ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป” สำหรับคนที่เป็นเทรดเดอร์โพสิชั่นมากกว่า อาจพูดง่ายๆ ว่า "ฉันไม่ต้องการที่จะสูญเสียมากกว่า 10% (หรือบางส่วน) ของเงินทุนของฉัน ณ จุดที่ฉันอยู่ในโพสิชั่นนี้, ฉันคิดว่า ฉันเลือกจุดเข้าของฉันได้ดีพอ ซึ่งหากมันล่วงลงไป 10% (หรือ x%) หมายความว่า คงมีอะไรผิดพลาดไป"
จากมุมมองของการจัดการเงินสด / การจัดการพอร์ตโฟลิโอ การกำหนดความเสี่ยงของคุณมีมิติอื่น: คุณต้องการสูญเสียเงินทุนทั้งหมดเท่าไรในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด? การซื้อขายแต่ละครั้งควรเสี่ยง 50% ของเงินทุนของคุณหรือไม่? 20%? 5%? 1%? คุณจะต้องเสียเงินทั้งหมดเท่าไหร่ก่อนที่คุณจะหยุด?
เพื่อให้แน่ใจว่าเรามีเทรดเดอร์ที่ขาดทุน สิ่งสำคัญคือพวกเขาไม่มีแผนสำหรับขนาดโพสิชั่น การตั้งสต็อปลอส หรือการตั้งค่าการหยุดการขาดทุนของบัญชี ด้วยวิธีนี้พวกเขาจะไม่มีความสม่ำเสมอและจะต้องสูญเสียครั้งใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ซึ่งจะทำให้แพ้เกมไปตลอดกาล
วิธีที่ 2: พวกเขาใช้เลเวอเรจมากจนเกินไป 🍋
เมื่อรวมกับอันดับ 1 การใช้เลเวอเรจจำนวนมากเป็นวิธีที่ดีในการเร่งกระบวนการสูญเสียเงิน เนื่องจากกลยุทธ์ที่ชนะ 50% ของเวลาจะต้องเผชิญกับการสูญเสียทางการซื้อขาย 7 ครั้งในการซื้อขาย 100 ครั้งถัดไป การเพิ่มขนาดและการใช้เลเวอเรจเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการรับรองว่าเมื่อแพทช์คร่าวๆ เกิดขึ้น คุณจะสูญเสียเงินทุนทั้งหมดของคุณ การปล่อยให้การซื้อขายผ่านไปกว่าที่คุณคาดว่าจะสูญเสียเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเร่งกระบวนการนี้ เพราะด้วยการเพิ่มเลเวอเรจ สิ่งต่าง ๆ จะต้องสวนทางกับคุณเพียง 50%, 20%, 10% และอื่น ๆ ก่อนที่คุณจะหมด คุณไม่สามารถเสี่ยงที่จะเป็นศูนย์
เมื่อพิจารณาว่ากองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ก้าวร้าวที่สุดในโลกมักไม่ใช้เลเวอเรจเกิน 5-8x แม้แต่ในการเทรด FX เราจะต้องให้เทรดเดอร์ที่ขาดทุนของเราใช้เลเวอเรจอย่างน้อย 10-20x เพื่อเร่งการตายของพวกเขา
วิธีที่ 3: พวกเขามักกระโดดจากกลยุทธ์หนึ่งไปอีกกลยุทธ์หนึ่ง 🐰
บรูซ ลี เคยกล่าวไว้ว่า “ฉันไม่กลัวคนที่ฝึกเตะ 10,000 ท่า ต่อครั้ง แต่ฉันกลัวคนที่ฝึกเตะท่าเดียว 10,000 ครั้ง”
ในตัวอย่างนี้ ผู้ที่ฝึกเตะท่าเดียวมาหลายครั้ง แม้ว่าจะไม่ได้ผลก็ตาม เทรดเดอร์ที่วางแผนกลยุทธ์คือผู้ที่พยายามแทบทุกอย่างแล้ว แต่ก็ไม่ได้เชี่ยวชาญเลย เพื่อให้แน่ใจว่าเทรดเดอร์ของเราเป็นเทรดเดอร์ที่ขาดทุน เราต้องแน่ใจว่าพวกเขาไม่เคยพัฒนาความเชี่ยวชาญใดๆ และเปลี่ยนจากกลยุทธ์เป็นกลยุทธ์ เราจำเป็นต้องห้อยกลยุทธ์, อินดิเคเตอร์ หรือรูปแบบการซื้อขายใหม่อย่างต่อเนื่องต่อหน้าผู้ซื้อขายของเรา ดังนั้น ไม่ว่าเทรดเดอร์จะเลือกกลยุทธ์ใด พวกเขาจะไม่มีเวลาที่จำเป็นในการมีสิ่งใดนอกจากการดำเนินการซื้อขายที่ไม่เหมาะสม ความรู้สึกตลาดโดยรวมที่ไม่ดี และการขาดความแตกต่างและความเข้าใจโดยทั่วไป
เมื่อรวมกับอันดับ 1 และอันดับ 2 แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เทรดเดอร์รายนี้จะทำกำไรได้
คุณรู้ทั้งหมดแล้ว; 3 วิธีเพื่อให้แน่ใจว่าเทรดเดอร์จะล้มเหลว พอจะคุ้นๆ บ้างไหม?
ความหวังของเราในการเขียนเรื่องนี้ไม่ใช่การกีดกันไม่ให้ใครก็ตามเข้ามามีส่วนร่วมในตลาด แต่เป็นการชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมที่ไม่ดีบางอย่างที่เราจะได้รับเมื่อเริ่มต้นอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงความผิดพลาดของมือใหม่และแนวปฏิบัติที่ไม่ดีที่สามารถขัดขวางอาชีพการเป็นเทรดเดอร์และสร้างนิสัยที่ไม่ดี ขอบคุณที่ติดตามแจ้งให้เราทราบหากคุณชอบ และเราจะพยายามสร้างโพสต์เหล่านี้เพิ่มเติมที่ผ่าน "แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด" ในการซื้อขาย
ขอให้เป็นสัปดาห์ที่ดี!
-ทีม TradingView ❤️
BTCUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 17/6/2022 by TraderTanข่าวต่างประเทศ 📊
เจ้ามือ Bitcoin ที่ถือเหรียญมากที่สุดเป็นอันดับสามซื้อ Bitcoin เพิ่มกว่า 680 ล้านบาทที่ราคา $22,000
ดูเหมือนว่าเจ้ามือ Bitcoin ที่ถือครองเหรียญมากที่สุดเป็นอันดับ 3 จะพยายามเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ด้วยการเข้าซื้อ Bitcoin ในราคาถูก โดยซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 927 Bitcoin หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 20 ล้านดอลลาร์ในเดือนนี้
ข้อมูลจากเว็บไซต์ติดตามธุรกรรม bitinfocharts เผยให้เห็นว่าเจ้ามือ Bitcoin รายนี้ได้ทำการซื้อ Bitcoin เพิ่มเข้ากระเป๋าหลายครั้งในเดือนนี้ โดยมียอดซื้อ Bitcoin จำนวน 300 BTC ในวันที่ 7 มิถุนายน ขาย 500 BTC ในวันที่ 9 มิถุนายน จากนั้นซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 425 BTC ในวันที่ 13 มิถุนายน, 488 BTC ในวันที่ 14 มิถุนายน และ 214 BTC ในวันที่ 15 มิถุนายน
🙏Cr. siamblockchain By Thongchai
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ ✅✅
23017.00 แนวต้าน
21911.05 แนวต้าน
20212.80 แนวรับ
20000.00 แนวรับ
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค 💬
💻RSI หักหัวขึ้น
ราคาเทขายอีกรอบ และผลักดันราคาลงทดสอบแนว 20212.80 หากราคามีแรงซื้อเข้ามาก็มีแนวโน้มที่ราคาจะขึ้นไปพักราคา 21425.40 หรืออาจะขึ้นไปทดสอบแนวกรอบพักราคา 23017.00
ทางเลือกในการลงทุน 💭💭
1.รอให้เกิดสัญญารในการกลับตัว ให้หาจังหวะในการเข้าขาย ซื้อ Buy 📈 บริเวณแนว 20212.80 เก็บสั้น โดยตัดขาดทุนประมาณแนว 19793.60 sl สั้น กำไรประมาณ 21425.40 หรือแนว 23017.00
2.รอให้ราคากลับขึ้นไปยืนเหนือแนว 20800.00 หาจังหวะในการเข้าขาย ซื้อ Buy 📈 20800.00
โดยตัดขาดทุนประมาณแนว 20212.80 กำไรประมาณ 21911.05 หรือแนว 23017.00
ออเดอร์นี้เป็นการสวนเทรน ฉนั้นควร Money management ใว้ด้วยนะครับ
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
🙏“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
🙏 “กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 16/162022 by TraderTanBINANCE:BTCUSDT ข้อมูลข่าวสาร:
Michael Saylor มั่นใจว่า Bitcoin จะเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่สุดในทุกช่วงเวลา
ไม่ว่าจะ 2 ปี 4 ปี 8 ปี ฯลฯ และเขาก็นึกไม่ออกเลยว่า ถ้าหาก MicroStrategy ไม่ลงทุนใน
Bitcoin จะมีอะไรที่ดีกว่า โดยเขาอ้างว่ากรอบ TF นี้เป็นกรอบเวลาที่ระยะเวลาน้อยที่สุด
สำหรับการซื้อ Bitcoin อีกทั้งเขายังกล่าวเสริมด้วยว่าที่ระดับราคา 21,685 ดอลลาร์นั้นเป็น
แนวรับสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ย SMA ราย 4 ปีและ BTC เพิ่งทดสอบระดับนี้เพียงไม่กี่ครั้งใน
ประวัติศาสตร์ และราคาก็เพิ่งทดสอบแนวรับดังกล่าวไปเมื่อไม่นานมานี้
ดังนั้น Saylor จึงเรียกระดับราคานี้ว่าเป็น “โอกาสในการซื้อที่ยอดเยี่ยม” และเป็น
“จุดเริ่มต้นในอุดมคติ” สำหรับ Bitcoin
แนวรับ 20373
แนวรับ 19558
แนวรับ 18913
แนวต้าน 22857
แนวต้าน 25554
แนวต้าน 29367
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI
-เป็นกลางในขาขึ้น
Trendline:
จากกราฟ ราคาร่วงหลุดลงไปทดสอบแนวรับหลัก ราย4ปีที่ ทำให้กรอบแนวรับบริเวณ
นี้ค่อนข้างหนาแน่น แต่เทรนหลักยังเป็นขาลงอยู่ อาจมีการเด้งขึ้นในระยะสั้นๆ ตามสัญญาณ
ของ RSI ที่กำลังหักหัวขึ้น และมีแนวกรอบไซด์เวย์ใหม่ เป็นแนวจุดพักตัว ให้เล่นในกรอบ
ตามแนวรับต้านระยะสั้นๆไปก่อน และรอสัญญาณที่ชัดเจน และเล่นตามกรอบแนวรับแนวต้านและกรอบเส้นเทรนไลน์
ทางเลือกในการลงทุน
เล่นตามแนวรับแนวต้านและกรอบไซด์เวย์
1.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 22000 เข้าซื้อ(buy ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 25554 หรือตามแนวรับต้าน
2.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 22857 เข้าขาย(sell ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 20000 หรือตามแนวรับต้าน
ส่วนตัว บาย เก็บระยะสั้นๆครับ
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
แผนการเทรดทองหลัง FED ประกาศดอกเบี้ยตัวเลขอัตราดอกเบี้ยของ FED วันที่ 16-06-22 ได้ประกาศออกมาแล้วอยู่ที่ 0.75
ซึ่งผมได้คาดว่าทองจะลงต่อ แต่..... ผมอาจมองข้ามไป
ตัวเลข 0.75 นี้อาจเป็นสัญญาณที่ดี ให้นักลงทุนกลับมาเชื่อใจการควบคุมเงินเฟ้อของ FED อีกครั้ง
ทำให้ตลาดหุ้น และคริปโต รวมไปถึงทองคำดีดตัวกลับขึ้นมาอีกครั้ง
ซึ่งเราจะมาวิเคราะห์กันว่าหลังจากนี้ทองจะไปในทิศทางไหนครับ
ทองในตอนนี้ได้ทำ LL ยกตัวขึ้นมาจาก
จุดต่ำสุดของเดือนที่แล้วซึ่งอยู่ที่ราคา = 1786
ราคาต่ำสุด ณ ตอนนี้คือ = 1806
หากเราลองตีเส้น Trend line ใน TF : H4 จะเห็นได้ว่า ทองคำยังคงเป็นขาขึ้น
ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีในการเข้า Order Buy
แนวโน้มที่มอง : ขาขึ้น
ปัจจัย :
1. ราคาชนกรอบ Trend line H4
2. ราคา 1806 คาดว่าจะเป็นจุดต่ำสุดของเดือนนี้แล้ว อ้างอิงจากการตีเส้น Trend line TF : H4
กรอบแนวรับ : 1806 - 1817
กรอบแนวต้าน : 1865 - 1870
ทางเลือกในการลงทุน :
ฺBUY : หากราคาลงมาที่แนวรับ 1806 - 1817 มองหาแท่งเทียนกลับตัวที่ TF : M30,H1
SELL : เมื่อราคาลงไปต่ำกว่า 1806 (แท่งเทียน H1 ต้องปิดเป็น Bearish แท่งหนา)
RSI Divergence หลอกให้เจ๊งโดยทั่วไปเรามักจะได้ยินว่าเมื่อเกิด RSI Divergence นั้นคือสัญญาณที่เตือนว่าแนวโน้มมีโอกาสจะกลับตัว ...แต่นักเทรดส่วนใหญ่มักจะเชื่อมั่นว่าแนวโน้มจะกลับตัวเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากมี RSI Divergence (นี่คือจุดแรกที่นักเทรดเริ่มทำพลาด คือ การเทรดด้วยความเชื่อ)
เรามักจะได้ยินเพื่อนนักเทรดส่วนใหญ่พูดคำว่า "ไม่ต้องกลัวนะ เพราะมี Divergence แล้วเดี๋ยวก็กลับตัว"
---------------------------------------
RSI Divergence สำหรับมุมมองของ OhMan Lan
Bearish Divergence หมายถึง ราคามีโอกาสปรับตัวลงชั่วคราว หรือ "ย่อลง" เท่านั้น
Bullish Divergence หมายถึง ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นชั่วคราว หรือ "เด้งขึ้น" เท่านั้น
การกลับตัวของแนวโน้มไม่ได้ขึ้นอยู่กับ RSI Divergence // แต่คือการพิจารณาหลังจากที่เกิด RSI Divergence และราคาได้ปรับตัวขึ้นหรือย่อลงแล้ว
พยายามไม่ดู RSI Divergence ซี้ซั้ว
1.ไม่สนใจ ถ้าหากส่วนใดส่วนหนึ่งของ RSI Divergence ไม่อยู่ในโซน overbought/oversold
2.ให้ความสำคัญน้อยลงเมื่อ RSI Divergence มี overbought/oversold กั้น
3.RSI Divergence จะยังไม่ใช่ RSI Divergence ถ้ายังไม่มีการยืนยันสัญญาณหรือการปิดแท่งเทียน (นี่คืออีกหนึ่งจุดสำคัญที่นักเทรดทำพลาด) หากไม่รอยืนยันสัญญาณก่อน แล้วราคาวิ่งต่อเนื่องอย่างรุนแรงอาจจะทำให้ RSI Divergence นั้นหายไป
หากให้ความสำคัญทุกจุด ก็จะสามารถเห็น RSI Divergence ได้แบบเรื่อยเปื่อย
XAUUSD วิเคราะห์ก่อนข่าว FED ประกาศดอกเบี้ย15/06/22 11:30
ทองคำในกราฟ D1 ในช่วง 2-3 วันก่อนหน้าวิ่งอยู่ในกรอบ side way ระหว่าง 1870 - 1834 ซึ่งไม่สามารถทะลุกรอบขึ้นไปได้
และในตอนนี้ราคากำลังวิ่งลงไปทดสอบที่กรอบราคา 1789 - 1768 ซึ่งเป็นแนวรับที่ค่อนข้างแข็งแรง
แนวโน้มที่มอง : มองเป็นขาลง
ปัจจัย :
1. เส้น EMA 12 24 ในกราฟ D1 ยังตัดกันซึ่งเป็นแนวโน้มของขาลง
2. การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 16/06/22 ช่วงเวลา 01:00 - 01:30
3. ในการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ครั้งนี้ตัวเลขที่เป็นไปได้คือ 0.5 ,0.7 ,1.0 ซึ่งตัวเลขที่ออกมานั้นอาจจะส่งผลดังนี้
- ถ้า FED ขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5 = นักลงทุนอาจมองว่า FED ไม่สนใจเรื่องของเงินเฟ้อ ทองอาจจะขึ้นต่อ
- ถ้า FED ขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.75 (ตัวเลขที่คาดว่าใกล้เคียงที่สุด) = นักลงทุนอาจมองว่า FED ตอบรับคำขอของนักลงทุนซึ่งอาจส่งผลให้ ทองคำปรับตัวลง
- ถ้า FED ขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 1.0 (เป็นไปได้ยาก แต่อาจเป็นได้) = ตลาดผันผวนหนัก ราคาทองคำจะร่วงลงอย่างแรง นักลงทุนจะเทเงินไปทาง USD
4. RSI D1 ต่ำกว่า 50 (ขาลง)
5. FIBO 77.6
กรอบแนวรับ : 1789 - 1768
กรอบแนวต้าน : 1870 - 1834
ทางเลือกในการลงทุน : Pending ORDER ในกรอบ 1789 - 1768
SELL : เมื่อราคาทะลุกรอบลงไป
BUY : เมื่อเมื่อเกิดแท่งเทียนกลับตัวใน TF (H1 ,H4)
วิเคราะห์ BTC ประจำวันที่ 15/06/2022พักฐาน รอสัญญาณ FED คืนนี้
ราคาร่วงลงมาต่อเนื่อง แล้ว side way ออกข้าง เพื่อรอการตัดสินใจ
แท่งเทียน คล้าย pattern สามเหลี่ยม โอกาสลงมากกว่าขึ้น เพราะขึ้นไปเจอแนวต้านเยอะ ดูจากความหนาของ CDC จะทะลุผ่านคงอยาก ได้อยากมากขึ้นไปทดสอบแล้วลงต่อ
MACD ยังคงอยู่ใต้ 0 ยังไม่ตัดกัน อาจเห็นปลายจ่อ ๆ หากัน เพราะพร้อมแยกทางกันได้ทุกเมื่อ ถ้ามีข่าวไม่ดีมากระตุ้น
RSI แรงขายยังไม่หมด ยังคงต่ำกว่า 30
STORSI ตัดขึ้น แต่สัญญาณอื่นส่วนทาง ราคาเลยขึ้น ๆ ลง ๆ ออกข้างไป
** สรุป **
- ระหว่างรอข่าว หรือรอเลือกทาง ราคายังคง side way ออกข้าง อาจมีจังหว่ะ swing อยู่ในกรอบ
- แนวรับสำคัญ ยังมองที่ 20K ไม่ควรหลุด ไม่งั้นคนตกใจ panic กันไปมากจะไหลไป 14K เอาได้
ช่วงนี้ราคาผันผวน ทั้งข่าว ทั้งเศรษฐกิจโลก ลงทุนอย่างระมัดระวังนะครับ
BTCUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 15/6/2022 by TraderTanข่าวต่างประเทศ 📊
ราคา Bitcoin ร่วงอย่างต่อเนื่องแบบหาก้นเหวไม่เจอ ล่าสุดเหลือ 22,300 ดอลลาร์แล้ว
ราคา Bitcoin กำลังทำให้หลาย ๆ คนต้องกุมขมับอยู่ในขณะนี้ เมื่อล่าสุดนั้นมันได้ร่วงลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบปี 2022 และดูเหมือนว่าจะยังหาก้นเหวไม่เจอ
กราฟ BTCUSD จาก TradingView ได้เผยให้เห็นว่าราคา Bitcoin นั้นได้มีการร่วงลงมาอย่างรุนแรงตั้งแต่จุดสูงสุดของเมื่อวานนี้ที่ 28,000 ดอลลาร์ ลงมาเหลืออยู่แค่ 22,326 ดอลลาร์ในขณะที่กำลังรายงานข่าวอยู่นี้ ซึ่งถือเป็นการร่วงติดต่อกัน 2 วันอย่างรุนแรงมากเลยก็ว่าได้
การร่วงของราคา Bitcoin และเหรียญอื่น ๆ ในตลาดนั้นส่งผลทำให้ตลาดคริปโตสูญเสียมูลค่าไปแล้วถึง 50% โดยในขณะนี้มูลค่าตลาดทั้งหมดมีตัวเลขอยู่ที่ 951,782,960,882 ดอลลาร์เท่านั้น
🙏Cr. siamblockchain By Jiraboon
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ ✅✅
23294.08 แนวต้าน
22881.58 แนวต้าน
21735.04 แนวรับ
20827.42 แนวรับ
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค 💬
💻RSI OverSold
หลังจากที่ราคามีการเทขายอย่างรุงแรง จนราคาทำต่ำสุด 20827.42 ก่อนที่ราคามีแรงซื้อกลับเข้ามา และมีโอกาสที่ราคาจะสร้างพักราคา sideway เพื่อรอข่าวปรับดอกเบี้ยวันนี้
ทางเลือกในการลงทุน 💭💭
+++ ให้หาจังหวะในการเข้าขาย ซื้อ Buy 📈 บริเวณแนว 21735.07 เก็บสั้น โดยตัดขาดทุนประมาณแนว 21257.36 sl สั้น กำไรประมาณ 22881.58
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
🙏“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
🙏 “กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
GBPCHF การวิเคราะห์ประจำวัน 15/6/2022 by TraderTan✅✅ข่าวต่างประเทศ 📊
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยอัตราว่างงานเดือนพ.ค., ญี่ปุ่นเปิดเผยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนเม.ย., ออสเตรเลียเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.จากเวสต์แพค, จีนเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค., ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค., การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนพ.ค. และอัตราว่างงานเดือนพ.ค., อียูเปิดเผยดุลการค้าเดือนเม.ย., สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนมิ.ย.จากเฟดนิวยอร์ก, ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนพ.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมิ.ย.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย
🙏Cr. ryt9
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ ✅✅
1.20808 แนวต้าน
1.20500 แนวต้าน
1.20103 แนวรับ
1.19724 แนวรับ
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค 💬
💻RSI เทรนขาขึ้น
ราคาลงทดสอบแนว 1.20103 ซึ่งเป็นแนวที่นัยยะสำคัญ หลังจากนั้นราคาก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาและมีสัญญาณในการกลับตัว
ทางเลือกในการลงทุน 💭💭
+++ ให้หาจังหวะในการเข้าขาย ซื้อ Buy 📈 บริเวณแนว 1.20103 เก็บสั้น โดยตัดขาดทุนประมาณแนว 1.19724 sl สั้น กำไรประมาณ 1.20503 และ 1.20800
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
🙏“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
🙏 “กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
#Elliottwave Motive และการ Overlap ElliotticianThaiกฎโครงสร้างพื้นฐานของ Motive wave
-สามารถแบ่งย่อยเป็น 5 คลื่นได้
-เคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกันกับแนวโน้มที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวเองหนึ่งระดับ
-คลื่น 2 ไม่ย้อนกลับเกินจุดเริ่มต้นของคลื่น 1
-คลื่น 4 ไม่ย้อนกลับเกินจุดเริ่มต้นของคลื่น 3
-คลื่น 3 ต้องมีจุดสิ้นสุดเกินจุดสิ้นสุดของคลื่น 1
-เทียบกันระหว่างคลื่น 1,3,5 คลื่น 3 ต้องไม่ใช่คลื่นที่สั้นที่สุด
กฎโครงสร้างของ Impulse wave ได้แก่
-สามารถแบ่งย่อยเป็น 5 คลื่นได้
-เคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกันกับแนวโน้มที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวเองหนึ่งระดับ
-คลื่น 2 ไม่ย้อนกลับเกินจุดเริ่มต้นของคลื่น 1
-คลื่น 3 ต้องมีจุดสิ้นสุดเหนือจุดสิ้นสุดของคลื่น 1
-เทียบกันระหว่างคลื่น 1,3,5 คลื่น 3 ต้องไม่ใช่คลื่นที่สั้นที่สุด
****-คลื่น 4 ไม่มีจุดสิ้นสุดในอาณาเขตของคลื่น 1
-คลื่น 3 ต้องเป็น Impulse เสมอ
การประกาศอัตราเงินเฟ้อสหรัฐติดตามการประกาศอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกา
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
ติดตามการประกาศอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลา 19:30 น. ซึ่งจะเป็นการประกาศอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานและอัตราเดือนพฤษภาคมแน่นอนว่าตลาดมีการจับตามองการประกาศอัตราการผลิตครั้งนี้อย่างมาก
การคาดหวังในครั้งนี้?
โดยในการประกาศอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาในครั้งนี้นักวิเคราะห์ได้มีการคาดการณ์ดังนี้
1. การประกาศอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเทียบเดือนต่อเดือนประจำเดือนพฤษภาคมนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะประกาศออกมา 0.5% ครั้งก่อน 0.6%
2. การประกาศอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเทียบปีต่อปีนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์เอาไว้ว่าจะประกาศออกมา 5.9% ครั้งก่อน 6.2%
3. การประกาศอัตราเงินเฟ้อเทียบเดือนต่อเดือนประจำเดือนพฤษภาคมคาดการณ์เอาไว้ว่าจะประกาศออกมา 0.7% ครั้งก่อน 0.3%
4. การประกาศอัตราเงินเฟ้อเทียบปีต่อปีนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์เอาไว้ว่าจะประกาศออกมา 8.3% เท่ากันกับครั้งก่อน
การวิเคราะห์ของราคา
จากปัจจัยนี้อาจจะทำให้สกุลเงินดอลล่าร์มีความผันผวนโดยเฉพาะคู่เงิน EURUSD ที่อาจส่งผลสร้างความผันผวนในระยะสั้นดังนั้นจับตาดูกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 1.06014 แนวรับที่สองก็คือ 1.05688 แนวรับสุดท้ายก็คือ 1.05440
แต่ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นกรอบแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 1.06256 แนวต้านที่สองก็คือ 1.06378 แนวต้านสุดท้ายก็คือ 1.06574
BTCUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 13/6/2021 by TraderTanข่าวต่างประเทศ 📊
ไปต่อไม่รอแล้ว ราคา Bitcoin ร่วงแตะ 26,400 ดอลลาร์ ทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบเดือน
ราคา Bitcoin นั้นดูเหมือนว่าจะร่วงลงเรื่อย ๆ ท่ามกลางการกลัวและการเทขายของนักลงทุนในตลาด สิ่งนี้ดูเหมือนว่าจะทำให้นักลงทุนไม่ค่อยปลื้มใจเท่าไรนัก
กราฟ BTCUSD จาก TradingView เผยให้เห็นว่าราคาของ Bitcoin นั้นได้มีการร่วงลงมาทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบเดือนมิถุนายนนี้ที่ 26,400 ดอลลาร์บนเว็บไซต์ Bitstamp ในขณะที่ Bitkub นั้นเหลืออยู่ที่ 920,188 บาท และ Bitazza อยู่ที่ 920,021 บาท ไม่ห่างกันมากเท่าไรนัก
ไม่มีใครรู้ถึงสาเหตุที่แน่ชัดของการร่วงลงของราคาในครั้งนี้ แต่เป็นที่คาดการณ์ว่าอาจเกิดจากความกลัวในการเทขายของนักเทรดที่มีขึ้นก่อนการประชุม FOMC ของ Fed ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14-15 ที่จะถึงนี้ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตลาดมีความผันผวนสูงขนาดนี้
🙏Cr. siamblockchain By Jiraboon
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ ✅✅
26848.21 แนวต้าน
26000.00 แนวต้าน
25345.31 แนวรับ
25000.00 แนวรับ
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค 💬
💻RSI OverSold 20.28
ราคามีการเทขาย ครั้งใหญ่อีกครั้ง และผลักดันราคาหลุดแนว 26848.21 และกำลังลงไปทดสอบแนว25345.31 ซึ่งเป็นแนวที่มีนัยยะสำคัญ
หากราคาลงไปทดสอบแนว หรือ ปิดเหนือแนวได้ก็มีแนวโน้มที่ราคาขึ้นไปพักราคา 25862.17 หรือแนว 26000.59 ก่อนที่จะลงต่อ
ทางเลือกในการลงทุน 💭💭
++++รอให้ราคาทดสอบแนว 25345.31 มีสัญญาณในกลับตัว ให้หาจังหวะในการเข้าขาย ซื้อ Buy 📈 เก็บสั้น
โดยตัดขาดทุนประมาณแนว 25000.00 sl สั้น กำไรประมาณ 25682.17 หรือแนว 26000.00
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
🙏“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
🙏 “กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 8/6/2022 by TraderTanBINANCE:BTCUSDT ข้อมูลข่าวสาร:
ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับ Terraform Labs ซึ่งเป็นบริการที่อยู่เบื้องหลังระบบนิเวศของ
Terra (Luna) ที่ล่มสลาย กำลังทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากที่ทางการเกาหลีใต้เริ่มการสอบสวน
พนักงานคนหนึ่งของบริษัทเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องยักยอก Bitcoin เป็นการส่วนตัวจากบริษัท
ในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ตามรายงานไม่มีการเชื่อมโยงระหว่างผู้ต้องสงสัยการยักยอกกับผู้ก่อตั้ง
Terra อย่าง Do Kwon และยังไม่ได้เปิดเผยจำนวน Bitcoin ที่เป็นปัญหา
และแม้ว่า Terraform Labs ได้เริ่มดำเนินการเปิดตัว LUNA 2.0 แต่ก็ยังมีข้อกังวลมากมายเกี่ยวกับ
บทบาทของ Kwon ในการล่มสลาย โดยสำนักงานอัยการกรุงโซลกำลังสืบสวนข้อกล่าวหาเรื่องการ
ฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับ CEO เกี่ยวกับการฟอกเงิน
แนวรับ 29367
แนวรับ 28643
แนวรับ 27720
แนวต้าน 30522
แนวต้าน 31507
แนวต้าน 32314
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI
-เป็นกลาง
Trendline:
จากกราฟ ราคายังวิ่งเป็นสวิงเทรนไซด์เวย์ ขึ้นๆลงๆในกรอบแคบๆ ช่วงนี้เล่นในกรอบ
ไซด์เวย์ไปก่อน โดยเน้นทำกำไรระยะสั้น จนกว่าจะได้แนวทางที่ชัดเจนอีกครั้ง
รอสัญญาณที่ชัดเจน และเล่นตามกรอบแนวรับแนวต้านและกรอบไซด์เวย์
ทางเลือกในการลงทุน
เล่นตามแนวรับแนวต้านและกรอบไซด์เวย์
1.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 29367 เข้าซื้อ(buy ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 31507 หรือตามแนวรับต้าน
2.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 31507 เข้าขาย(sell ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 29367 หรือตามแนวรับต้าน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
4 ข้อควรจำเกี่ยวกับตลาดหมีเฮ้ทุกคน! 👋
เฮ้อ นี่มันสัปดาห์อะไรกันเนี่ย สินทรัพย์ทั่วกระดานถูกรมควัน และ Nasdaq สิ้นสุดสัปดาห์อย่างเป็นทางการด้วยตลาดหมี สำหรับเทรดเดอร์คริปโต, Bitcoin, Ethereum และสินทรัพย์ คริปโตอื่น ๆ บางส่วนได้ลดมูลค่าลงครึ่งหนึ่งหรือมากกว่านั้น แม้ว่า S&P 500 จะลดลงเพียง 13-14% จากระดับสูงสุด แต่มีเพียง 25% ของหุ้นที่จดทะเบียนทั้งหมดอยู่เหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน พูดได้อย่างปลอดภัยว่าหลังจากการวิ่งขึ้นครั้งใหญ่ในเกือบทุกอย่างที่เราได้เห็นในช่วงสองปีที่ผ่านมา ตอนนี้เราอยู่ในตลาดหมีอย่างเป็นทางการแล้ว
เนื่องจากนี่อาจเป็นตลาดหมีครั้งแรกของใครหลายๆ คนในชุมชนของเรา เราจึงคิดว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์ที่จะแนะนำสิ่งสำคัญเล็กๆ น้อยๆ ที่ควรจำเกี่ยวกับตลาดหมี เพื่อช่วยให้ผู้คนสำรวจระบบตลาดใหม่นี้
มาลุยกันเลย!
1.) ความผันผวนทำให้โพสิชั่นของคุณดูใหญ่ขึ้นในแง่ของ P/L 💥
ตลาดหมีมักทำให้เกิดความผันผวนของราคาสินทรัพย์มากกว่าตลาดกระทิง ในช่วง 20 วันที่ผ่านมา เราได้เห็นการเคลื่อนไหวเฉลี่ยรายวันในดัชนีประมาณ 3% ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ย 20 วันในปี 2564 ที่ประมาณ 0.9% อย่างมาก ด้วยจำนวนเงินทุนที่เท่ากัน การเบิกสินค้าในช่วงเฉลี่ยนี้หมายความว่าในแง่ $$ การเคลื่อนไหวของ P/L ของคุณน่าจะมากกว่า "ปกติ" มาก ในเดือนมีนาคม 2020 ช่วงรายวันเฉลี่ยใน S&P 500 นั้นมากกว่า 5%!
นี่เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ เพราะ P/L สามารถมีผลกระทบอย่างมากต่อจิตวิทยาของเทรดเดอร์ ผู้จัดการเงินมืออาชีพและกองทุนป้องกันความเสี่ยงจำนวนมากควบคุมปัจจัยนี้ โดยลดความเสี่ยงจากการผันผวนของพอร์ตรายวันให้ใกล้เคียงกับเป้าหมาย กองทุนบางส่วนได้รับคำสั่งให้ทำสิ่งนี้ แม้ว่าคุณจะมีอิสระที่จะทำสิ่งที่คุณต้องการในการปฏิบัติตามแผนการซื้อขายของคุณ แต่นี่เป็นความคาดหวังหลักที่จะถือไว้! คาดว่าจะมีการเคลื่อนไหวที่ใหญ่กว่าปกติ
2.) ตลาดหมีเฉลี่ยอยู่ได้ประมาณ 2 ปี 📉
ตัวเลข 2 ปีส่วนใหญ่หมายถึงระยะเวลาเฉลี่ยของตลาดหมี *หุ้น* จนถึงตอนนี้ในส่วนของคริปโต ตลาดหมีโดยเฉลี่ยใช้เวลาประมาณ 9 เดือน สำหรับการเปรียบเทียบ ในหุ้น ตลาดกระทิงเฉลี่ยอยู่ได้นานกว่า 6 ปี ดังนั้น แม้ว่าตลาดหมีมักจะเร็วกว่าช่วงที่หุ้นเติบโต แต่ก็มีแนวโน้มที่จะน่าจดจำมากกว่า
เมื่อเร็วๆ นี้ ตลาดหมีเริ่มสั้นลงเรื่อยๆ โดยตลาดหมีล่าสุดในปี 2020 ดำเนินไปเพียงไม่กี่เดือน คุณลักษณะบางอย่างเป็นผลจากการที่เฟดก้าวเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่คนอื่นๆ มักอ้างว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารที่ดีกว่าที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันในศตวรรษที่ 21 นั้นช่วยให้ข้อมูลสามารถกำหนดราคาได้เร็วกว่ามาก แม้ว่าแนวโน้มจะมุ่งไปสู่ตลาดหมีที่สั้นลงและสั้นลงอย่างแน่นอน แต่บ่อยครั้งก็ยังสามารถยืนยาวได้นานกว่าที่คาดไว้ ปรับความคาดหวังตามนั้น!
3.) เงินสดคือโพสิชั่น💵
แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อ USD ในปัจจุบันจะสูง โดยอยู่ที่ประมาณ 7-10% (ขึ้นอยู่กับว่าคุณกำลังดูตัวเลขใดอยู่) กำลังซื้อของ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักในแต่ละวัน กำลังซื้อของ SPY หนึ่งหุ้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมากขึ้นทุกวัน และเมื่อเร็วๆ นี้ อำนาจซื้อก็สูญเสียเร็วขึ้นมาก สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องจำสำหรับตลาดหมีคือการมีชีวิตอยู่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ตราบใดที่คุณไม่ระเบิด คุณก็สามารถมีชีวิตเพื่อสู้ต่อไปได้อีกวัน การหนีสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพต่ำแล้วทำให้เป็นเป็นเงินสดเป็นทางเลือกหนึ่ง
สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ หากคุณดูประเภทสินทรัพย์หลัก ๆ ผู้คนดูเหมือนจะหนีไปหาเงินสด พันธบัตร, หุ้น, ทองคำ, คริปโต - ขายเป็นเงินสดทั้งหมด ในสภาพแวดล้อมที่ "ปิดความเสี่ยง" โดยทั่วไปแล้ว ผู้เล่นที่ระมัดระวังจะหมุนเวียนจากสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น เป็นสิ่งที่ "ปลอดภัยกว่า" เช่น พันธบัตรรัฐบาล ที่กล่าวว่าด้วยการปีนเขาและอัตราเงินเฟ้อที่สูงดูเหมือนว่าผู้คนจะข้ามผลตอบแทน 3% ที่พวกเขาจะได้รับในพันธบัตรเพื่อสนับสนุนความยืดหยุ่นทั้งหมดที่คุณได้รับด้วยเงินสด อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการป้องกันความเสี่ยงคือการขายสินทรัพย์สั้นที่คุณคิดว่าจะมีประสิทธิภาพต่ำกว่า หรือซื้อการลงทุนในพอร์ตของคุณ (ถ้ามี) คุณสามารถดูราคาการนอนหลับได้ดีในตลาดตัวเลือกโดยตรง
4.) การจะได้ราคาที่ด้านล่างนั้นยาก 🎣
แม้ว่าจะเป็นหน้าที่ของเราในฐานะเทรดเดอร์ในการค้นหาโอกาสที่มีมูลค่าที่คาดหวังในเชิงบวก การเลือกจุดต่ำสุดเป็นสิ่งที่ท้าทายมากในอดีต ในช่วงความผิดพลาดของปี 2020 กองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่โดดเด่นหลายแห่งไม่ได้รับการป้องกันความเสี่ยงจากความผิดพลาด และก็ยากเกินที่จะออกมาจากมัน ที่แน่ๆ คนที่ฉลาดที่สุดในโลกบางคนก็ยังทำการเลือกจุดที่ต่ำสุดที่น่าจะเป็นไปได้ได้ไม่ดีพอ
เว้นแต่ว่าคุณมีกลยุทธ์ระยะยาวที่ช่วยให้สามารถใช้เงินทุนได้อย่างสม่ำเสมอเมื่อเวลาผ่านไป (DCA) การพยายามเลือกจุดต่ำสุดในตลาดที่มีแนวโน้มลดลงอาจเป็นกลยุทธ์ % อัตรา bat rate ที่ต่ำมาก
เอาล่ะ ทั้งหมดนี้คือ 4 ข้อควรจำสำหรับมือใหม่ที่ต้องแบกรับตลาด ดังที่เราได้กล่าวไปแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำในตลาดที่ยากกว่าคือการเอาตัวรอด! 🐻
ขอให้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ดี! 😄
-ทีม TradingView
3 เคล็ดลับในการสร้าง Mindset ในการซื้อขายอย่างมืออาชีพ 🎯เฮ้ทุกคน! 👋
วันนี้ เราจะมาพูดถึงการสร้างกรอบความคิดในการซื้อขายอย่างมืออาชีพ แม้ว่าหัวข้อนี้จะเป็นหัวข้อของหนังสือและวรรณกรรมเกี่ยวกับการซื้อขายจำนวนนับไม่ถ้วน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราคิดว่าการแยกแยะประเด็นที่สำคัญที่สุดสองสามข้อสำหรับชุมชน TradingView นั้นเป็นเรื่องที่ดี กระโดดเข้าไปกันเลย!
1.) เริ่มคิดในความน่าจะเป็น 🔢
มาดูแนวคิดที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการซื้อขายและในชีวิตกัน: มูลค่าที่คาดหวัง
มูลค่าที่คาดหวังเป็นเพียงตัวเลขที่บ่งชี้ตามความน่าจะเป็น, มูลค่าของการดำเนินการบางอย่าง ซึ่งอาจเป็นบวกหรือลบก็ได้ การซื้อขายนี้จะสร้างรายได้หรือไม่? ฉันควรเปลี่ยนอาชีพหรือไม่? ฉันควรแต่งงานกับคู่ของฉันหรือไม่? ทั้งหมดลงมาที่มูลค่าที่คาดหวัง แล้วอะไรคือมูลค่าที่คาดหวังในตอนนี้ล่ะ? มี 2 สิ่งคือ: อัตรา BAT RATE % และ การแพ้ / ชนะ
อัตรา BAT RATE คือเปอร์เซ็นต์ของการชนะเทียบกับผลลัพธ์ทั้งหมด การชนะ / การแพ้ คือขนาดของผู้ชนะโดยเฉลี่ยหารด้วยขนาดของผู้แพ้โดยเฉลี่ย กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ โอกาสนี้ทำงานอย่างไร? ชัยชนะยิ่งใหญ่แค่ไหน? ขาดทุนขนาดไหน? เมื่อคุณรวมตัวเลขเหล่านี้เข้าด้วยกัน คุณจะเข้าใจได้ชัดเจนมากขึ้นว่าการดำเนินการบางอย่างมีความสมเหตุสมผลหรือไม่
ตัวอย่างเช่น แนวคิดทางการซื้อขายบางอย่างมีโอกาส 50% ที่จะได้ผล การชนะทำให้คุณได้ $2 ในขณะที่การแพ้ทำให้คุณเสีย $1 คุณควรทำการซื้อขายหรือไม่?
ลองหากัน ในตัวอย่างนี้ คุณทำการซื้อขาย 100 ครั้ง ซึ่งมี 50 ครั้ง ที่คุณชนะ $2 และ 50 ครั้ง ที่คุณเสีย $1 คุณจะได้กำไรรวม $50! ((50x2)-(50x1)). เห็นได้ชัดว่าการซื้อขายนี้มีมูลค่าที่คาดหวังในเชิงบวก! ดังนั้น แม้ว่าคุณจะทำการซื้อขายและจบลงด้วยการขาดทุน คุณยังคงตัดสินใจถูกต้อง จากมุมมองของ EV
ธุรกิจที่ยุ่งยากกับมูลค่าที่คาดหวังคือ Bat Rate และ ชนะ / แพ้ ไม่ใช่ตัวเลขที่ชัดเจน เป็นการประมาณการ ดังนั้น การสร้างความรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีบางสิ่งเกิดขึ้น และการสร้างความเข้าใจในขอบเขตของการชนะและการสูญเสียจึงเป็นทักษะหลักในการสร้างเพื่อการซื้อขายและชีวิต วิธีง่ายๆ ในการปรับเทียบเสาอากาศของคุณให้ดีขึ้นสำหรับสิ่งนี้ คือการจดบันทึกสิ่งที่คุณคาดว่าจะเกิดขึ้นในบันทึกการซื้อขายของคุณ การทำซ้ำหลายๆ ครั้ง ความสามารถในการคาดเดาผลลัพธ์ของคุณน่าจะดีขึ้น
2.) การตระหนักรู้ในตนเอง 😵💫
ในการซื้อขาย การกระทำของผู้เข้าร่วมตลาดทุกคนมักเกิดจากความกลัว 2 ประการคือ: ความกลัวที่จะพลาดโอกาส และ ความกลัวการสูญเสีย กล่าวอีกนัยหนึ่งคือความกลัวและความโลภ เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับเคมีในสมองและประสบการณ์ชีวิตของคุณ มีแนวโน้มว่าความกลัวเหล่านี้จะส่งผลกระทบกับคุณมากกว่าอีกความกลัวหนึ่ง
ลองนึกถึงสถานการณ์ต่อไปนี้: คุณทำการซื้อขาย และโพสิชั่นก็เริ่มเคลื่อนไปในทิศทางที่คุณคาดการณ์ไว้ จากนั้นสินทรัพย์นั้นก็เริ่มเกิด sideway ขึ้น ลองดูสองวิธีที่สามารถทำได้:
a - คุณปิดสถานะของคุณ จากนั้นสินทรัพย์ก็เริ่มฉีกไปในทิศทางของคุณอีกครั้งโดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นสามเท่า คุณพลาดการเคลื่อนไหวพิเศษนี้ไปซะแล้ว ตอนนี้คุณได้ออกจากตำแหน่งเพื่อผลกำไรอันน้อยนิด
b - คุณไม่ได้ปิดสถานะ และสินทรัพย์เดินทางกลับลงไปที่ Stop Loss ของคุณและคุณใช้ L (ซื้อ) ในการซื้อขาย
สถานการณ์ใดต่อไปนี้ที่เจ็บปวดสำหรับคุณมากกว่ากัน ไม่มีคำตอบที่ *ถูก* หรือ *ผิด* แต่สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าความกลัวใดมีอิทธิพลเหนือการตัดสินใจที่ซับซ้อนในสมองของคุณ หากคุณพบว่าคุณมีแนวโน้มที่จะใช้ FOMO มากกว่า ให้ลองคิดหากลยุทธ์ที่คุณสามารถบีบทุกหยดสุดท้ายของการซื้อขายที่จะชนะให้ได้ หากคุณมีแนวโน้มที่จะกลัวการสูญเสียมากกว่า ให้ลองคิดหากลยุทธ์ที่ลดโอกาสที่คุณจะประสบความสูญเสียครั้งใหญ่
3.) ความเหมาะสมของกลยุทธ์มีความสำคัญอย่างยิ่ง ✅
เคล็ดลับนี้เน้นย้ำถึงเคล็ดลับสุดท้ายเกี่ยวกับการตระหนักรู้ในตนเอง และเน้นย้ำถึงความสำคัญของความสม่ำเสมอในการโต้ตอบกับตลาด
เมื่อคุณโต้ตอบกับตลาด การเขียนแผนการซื้อขายที่เข้าใจเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ กองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดและยอดเยี่ยมที่สุดในโลกได้กำหนดอาณัติการลงทุน แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด และแผนธุรกิจไว้อย่างชัดเจน อะไรทำให้คุณคิดว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีแผนกันล่ะ?
" ที่กล่าวไว้ ไม่ใช่ว่าทุกแผนการซื้อขายจะถูกสร้างขึ้นมาเท่าเทียมกัน และแผนที่วาง
ไว้ดีที่สุด มักจะไม่เป็นไปตามนั้น...ฯลฯ "
เมื่อออกแบบแผนการซื้อขายเทรดเดอร์มือใหม่หรือระดับกลางจำนวนมากมุ่งเน้นที่ด้านการทำเงินเพียงอย่างเดียว เช่นเดียวกับใน 'กลยุทธ์ใดที่จะทำให้ฉันได้รับผลกำไรสูงสุดในช่วงเวลาที่กำหนด' ฉันจะได้เปรียบได้อย่างไร? โดยทั่วไป การทดสอบย้อนหลัง, การวิจัยพื้นฐาน, วิสัยทัศน์ และอื่นๆ มีส่วนในการช่วยกำหนดเกณฑ์สำหรับกลยุทธ์ที่ทำกำไรได้
อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ผู้เชี่ยวชาญรู้ว่ามีบางสิ่งที่สำคัญมากกว่าการกำหนดขอบของคุณ สร้างความเสมอต้นเสมอปลาย .
ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณมีกลยุทธ์การซื้อขายที่สมบูรณ์แบบซึ่งในทางทฤษฎี ในอนาคต มันจะช่วยให้คุณซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด แผนดังกล่าวกำหนดเกณฑ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการซื้อจุดต่ำสุดของตลาดและการขายในจุดสูงของตลาด สำหรับมือใหม่ นี่อาจเป็นดั่งจอกศักดิ์สิทธิ์ อย่างไรก็ตาม เพียงเพราะคุณ *เข้าใจ* กลยุทธ์ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามารถ *ดำเนินการ* กลยุทธ์ได้
คุณสามารถทดสอบกลยุทธ์ที่สมบูรณ์แบบนี้ได้ในชีวิตจริง และหากคุณไม่สามารถปฏิบัติตามกฎที่ตั้งไว้สำหรับตัวคุณเองในช่วงเวลาที่ร้อนระอุเนื่องจากองค์ประกอบทางจิตวิทยาของคุณ นั่นไม่่ใช่เพราะกลยุทธ แต่เป็นเพราะตัวคุณเอง
ดังนั้น การค้นหากลยุทธ์ที่คุณสามารถทำเองได้ด้วยความสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตลาด ถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
ในแง่ของมูลค่าที่คาดหวังและการรับรู้ในตนเอง การมีกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ 30% แต่คุณสามารถดำเนินการได้ด้วยความมั่นใจ 100% นั้นมีค่ามากกว่ากลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ 70% ซึ่งคุณสามารถดำเนินการได้อย่างแม่นยำเพียง 40% ของเวลาเท่านั้น
การไม่เครียดจากการสูญเสียถือเป็นผลลัพธ์ที่แท้จริง สิ่งนี้ออกแบบมาเพื่อป้องกันความผิดพลาด ไม่ใช่การสูญเสีย
อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับการอ่าน และขอให้มีวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ดี! แจ้งให้เราทราบด้วยการแสดงความคิดเห็นด้านล่างว่าคุณได้เรียนรู้สิ่งใด และเราจะพิจารณาทำชุดข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับจิตวิทยาที่ประยุกต์ใช้สำหรับการซื้อขาย
ไชโย!
- ทีม TradingView
วิธีการใช้งานอินดิเคเตอร์ OhManLan Ribbon เบื้องต้นเราให้ความสำคัญกับการลดโอกาสขาดทุน และพยายามแก้ไขปัญหาหลักของ Ribbon คือความล่าช้าของสัญญาณ และสัญญาณหลอกที่มากขึ้นเมื่อปรับค่าให้เร็วขึ้น
OhManLan Ribbon มีอะไรบ้าง?
1.) สัญญาณ Up/Down ที่บอกให้ทราบถึงแนวโน้ม
2.) สัญญาณ Partial Take-Profit ที่สามารถใช้เป็นสัญญาณแบ่งปิดทำกำไร
3.) OML Cloud ที่สามารถใช้เป็นแนวรับ-ต้าน, ใช้เป็นจุด Stop loss หรือ Trailing stop, บอกความแข็งแรงของเเนวโน้มและยังสามารถช่วยลดสัญญาณหลอกจาก Up/Down Signal ได้ด้วย
OhManLan Ribbon คือ Indicator ที่จะช่วยให้คุณวิเคราะห์กราฟได้ง่ายขึ้นสำหรับตลาดคริปโต
### วิธีการใช้งานเบื้องต้น
Up/Down Signals
- Up หมายถึง เทรนขาขึ้น สามารถเล่น Buy ได้
- Down หมายถึง เทรนขาลง สามารถเล่น Sell ได้
- Ribbon (Options): OML V4 ใช้ได้ทั่วไป, SaiDao ใช้สำหรับ Altcoins
*เตือน
- Up ไม่ได้หมายถึง แท่งเทียนสีฟ้า
- Down ไม่ได้หมายถึง แท่งเทียนสีส้ม
Up/Down สามารถขึ้นที่แท่งเทียนสีไหนก็ได้
*ทริคเสริม
แท่งเทียนสีชมพู สามารถ Buy บางส่วนได้หากมี RSI Divergence
แท่งเทียนสีเหลือง สามารถ Sell บางส่วนได้หากมี RSI Divergence
---------------------------------------
Partial Take-Profit Signals (X Signals)
- x สีส้ม หมายถึง แบ่งปิดทำกำไรสำหรับ Up Signal
- X สีฟ้า หมายถึง แบ่งปิดทำกำไรสำหรับ Down Signal
---------------------------------------
OML Cloud
- สามารถใช้เป็นแนวรับ-ต้าน, จุด Stop loss หรือ Trailing stop
- สามารถช่วยลดสัญญาณหลอก Up/Down
สีของ OML Cloud
-ฟ้า/เขียว หมายถึง เทรนขาขึ้นที่แข็งแรง
-ฟ้า/เหลือง หมายถึง เทรนขาขึ้นเริ่มอ่อนแรง
-ชมพู/เหลือง หมายถึง เทรนขาลงที่แข็งแรง
-ชมพู/เขียว หมายถึง เทรนขาลงเริ่มอ่อนแรง
---------------------------------------
### อย่าหาทำ
X อย่าพึ่งพา OhManLan Ribbon เพียงตัวเดียว
X อย่าซื้อขายตาม Up/Down Signal แล้วพูดว่ายอมขาดทุนไปเถอะเวลาได้ก็กินคำใหญ่ แบบนี้ไม่เอา การเทรดไม่ใช่ของเล่นจะมาทำเล่น ๆ พูดมักง่าย ๆ ไม่ได้แบบนี้ไม่เอา
X ถ้าไม่มีทักษะอื่นมาร่วมวิเคราะห์ ก็พยายามหลีกเลี่ยง Altcoin ไว้ก่อน
X หลีกเลี่ยงการเทรดบน Time frame ระยะกลางและระยะสั้น ***TF ที่เหมาะสมที่สุดคือ 1 Day (ระยะสั้น ได้แก่ 5-15-30 นาที, ระยะกลาง ได้แก่ 60-120 นาที)
---------------------------------------
# OhMan Lan
ติดตามเราเพื่อรับบทวิเคราะห์, บทช่วยสอนและอินดิเคเตอร์
ขอให้โชคดีในการทำกำไร และเรายินดีที่จะรับคำแนะนำของคุณเพื่อปรับปรุง
XAUUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 4/5/2022 by TraderTanXAUUSD /GOLD ข้อมูลข่าวสาร:
ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันอังคาร (3 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจาก
การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ร่วง
ลงสู่ระดับต่ำกว่า 3% ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100%
ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่
ปี 2543 ที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยพร้อมกับปรับลดขนาดงบดุล
(QuantitativeTightening : QT) ในการประชุมครั้งนี้หรือไม่ หลังจากเงินเฟ้อของสหรัฐ
พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
แนวรับ 1861
แนวรับ 1851
แนวต้าน 1878
แนวต้าน 1893
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI
- เป็นกลาง
Trendline
จากกราฟราคายังคงอยู่ในกรอบเส้นเทรนไลน์เทรนหลักขาลงอยู่ โดยราคากำลังลง
ไปทดสอบแนวรับเดิมอีกครั้ง หากสามารถลงต่อได้อีก ขาลงจะยังได้เปรียบอยู่
แต่หากไม่ใช่หากราคากลับขึ้นไปยืนเหนือ 1878 ได้ ขาขึ้นจะกลับมามีลุ้นอีกครั้ง
ช่วงนี้เล่นในกรอบเส้นเทรนไลน์ ไปก่อน เน้น เก็บระยะสั้น จนกว่าจะได้ข้อสรุปจาก
ข่าวอัตราดอกเบี้ย ให้รอสัญญาณการเลือกทางที่ชัดเจน เพื่อเข้าออกตามแนวรับแนวต้าน
กลยุทธิ์วันนี้ เล่นตามแนวรับแนวต้านและกรอบเทรนไลน์
ทางเลือกในการลงทุน
1.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1851เข้าซื้อ(buy ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1861 หรือตามแนวรับต้าน
2.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1861 เข้าขาย(sell ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1851 หรือตามแนวรับต้าน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSDTความคล้ายกันของ harmonic และ รูปแบบชาร์ตทั่วไป คือ ในแต่ละอัน รูปร่างและโครงสร้างจะเป็นปัจจัยหลักในการรับรู้และยอมรับรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ดังนั้นการเคลื่อนไหวของราคาถัดไปสามารถถูกคาดหมายด้วยเป้าหมายที่จะเปลี่ยนจากรูปแบบมาเป็นกำไร อย่างไรก็ตามความแตกต่างที่สำคัญ คือ รูปแบบ harmonic ถูกกำหนดไว้อย่างละเอียดมากกว่า โดยมีโครงสร้างกลับตัวแบบ 5 จุด ซึ่งประกอบไปด้วยส่วนผสมของ Fibonacci retracements และ Fibonacci extensions ที่ต่อเนื่องกันด้วยรูปแบบอย่างดี ทำให้ไม่เกิดการแปลความหมายได้หลายอย่าง
รูปแบบ Harmonic จะเกิดซ้ำๆ กันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงตลาดที่ราคากำลังพักตัว โดยทั่วไปจะมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ โครงสร้าง retracement แบบ 5 จุด อย่างเช่น Gartley และ Bat และรูปแบบ extension แบบ 5 จุด อย่างเช่น Butterfly และ Crab การเทรดตามรูปแบบ Harmonic ต้องอาศัยความอดทน เนื่องจากความเฉพาะตัวของอัตราส่วน รูปแบบที่ปรากฎเป็น Harmonic อาจไม่ได้เป็นตามนั้น เนื่องจากมันต้องตรงตามสัดส่วนที่เหมาะสม
Chart Patterns หรือ Price PatternsChart Patterns หรือบางคนก็เรียกว่า Price Patterns คือ แท่งเทียนที่เรียงตัวกันเป็นรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
มันก็คือการลาก trend line ปกตินี่แหละ เพียงแต่ลากให้เป็นรูปร่างต่าง ๆ เพื่อให้เห็นรูปแบบกลุ่มแท่งเทียนได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งอาจจะสามารถบอกว่ามันคือการสร้างหลักจิตวิทยาจากจินตนาการของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่ถูกเผยแพร่ไปสู่คนจำนวนมาก …เพื่อให้เห็นพ้องต้องกัน
การใช้งานมีความยืดหยุ่นสูง อยู่ที่ว่าเราจะใช้เพื่อดูอะไร แต่ละคนก็อาจจะใช้ไม่เหมือนกัน