ภาพประกอบ
Order Book คือ แผงตลาดขออธิบายแบบบ้าน ๆ ก่อน Order Book เปรียบเสมือนแผงตลาดที่เอาไว้วาง (สินค้า / สิ่งแลกเปลี่ยน) เพื่อให้ พ่อค้าแม่ค้า กับ ลูกค้า ได้เปลี่ยนเปลี่ยนกัน
แม่ค้าขายเนื้อหมู (สินค้า/สิ่งแลกเปลี่ยน คือ เนื้อหมู)
ลูกค้าซื้อเนื้อหมู (สินค้า/สิ่งแลกเปลี่ยน คือ เงิน)
Order Book ก็คือแผงตลาดเลย เป็นสถานที่พบเจอเพื่อแลกเปลี่ยนซื้อขายกัน ต่อรองราคากัน และเมื่อตกลงกันได้ก็จะทำการซื้อขายกัน
######## -------- ########
Order Book เป็นที่แสดง คำสั่งซื้อ และ คำสั่งขาย ของนักเทรด
ผู้ขาย (สินค้า/สิ่งแลกเปลี่ยน คือ Bitcoin)
ผู้ซื้อ (สินค้า/สิ่งแลกเปลี่ยน คือ USD)
หากนักเทรดส่งคำสั่งขาย คำสั่งนั้นก็จะไปปรากฏใน Order Book ของฝั่งผู้ขาย เพื่อรอรับคำสั่งซื้อ (รอให้คนมาซื้อ)
หากนักเทรดส่งคำสั่งซื้อ คำสั่งนั้นก็จะไปปรากฏใน Order Book ของฝั่งผู้ซื้อ เพื่อรอรับคำสั่งขาย (รอให้คนมาขาย)
// OhManLan // // OhManLan // // OhManLan //
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ OhManLan ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
คำสั่งตลาด (Market Order)คำสั่งตลาด (Market Order), คำสั่งนี้จะ Buy หรือ Sell ทุกราคาที่มีใน Order book ทันที
***หากใช้คำสั่งนี้บน Exchanges ที่มีสภามคล่องที่ต่ำ
จะมีความเสี่ยงที่สูงมาก เพราะคุณอาจจะได้ Buy หรือ Sell ในราคาที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าราคาปัจจุบัน
## --- ## --- ## --- ##
ตัวอย่างการ Buy ด้วย Market Order
#Buy(1)
หากส่งคำสั่งตลาด (Market Order) ด้วยจำนวนเงิน 10,000 USD
ระบบจะทำการ Buy ทุกราคาที่มีใน Order book ฝั่ง Sell ทันที
ตามภาพ ระบบจะทำการ Buy ให้คุณทันทีที่ราคา 38,480 USD
#Buy(2)
หากส่งคำสั่งตลาด (Market Order) ด้วยจำนวนเงิน 176,265 USD
ระบบจะทำการ Buy ทุกราคาที่มีใน Order book ฝั่ง Sell ทันที
ตามภาพ ระบบจะทำการ Buy ให้คุณทันทีทั้งหมด 7 ราคา ได้แก่
38,480 USD ด้วยจำนวนเงิน 164,538 USD
38,482 USD ด้วยจำนวนเงิน 394 USD
38,483 USD ด้วยจำนวนเงิน 41 USD
38,484 USD ด้วยจำนวนเงิน 430 USD
38,485 USD ด้วยจำนวนเงิน 426 USD
38,486 USD ด้วยจำนวนเงิน 6,007 USD
38,487 USD ด้วยจำนวนเงิน 4,829 USD
## ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ OhManLan ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ##
ตัวอย่างการ Sell ด้วย Market Order
#Sell(1)
หากส่งคำสั่งตลาด (Market Order) ด้วยจำนวนเงิน 10,000 USD
ระบบจะทำการ Sell ทุกราคาที่มีใน Order book ฝั่ง Buy ทันที
ตามภาพ ระบบจะทำการ Sell ให้คุณทันทีที่ราคา 38,479 USD
#Buy(2)
หากส่งคำสั่งตลาด (Market Order) ด้วยจำนวนเงิน 2,150,140 USD
ระบบจะทำการ Sell ทุกราคาที่มีใน Order book ฝั่ง Buy ทันที
ตามภาพ ระบบจะทำการ Sell ให้คุณทันทีทั้งหมด 4 ราคา ได้แก่
38,479 USD ด้วยจำนวนเงิน 2,093,286 USD
38,478 USD ด้วยจำนวนเงิน 1,203 USD
38,477 USD ด้วยจำนวนเงิน 5,013 USD
38,476 USD ด้วยจำนวนเงิน 50,638 USD
// OhManLan // // OhManLan // // OhManLan //
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ OhManLan ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
คำสั่งจำกัด (Limit Order)คำสั่งจำกัด (Limit Order) คำสั่งนี้จะ Buy หรือ Sell ทุกราคาใน Order book ที่ไม่เกินราคาที่เรากำหนด
ตัวอย่างการตั้ง Buy ด้วย Limit Order
#Buy(1)
หากตั้ง Limit Order ที่ราคา 39,117 USD
ระบบจะทำการ Buy ทุกราคาที่มีใน Order book
แต่จะไม่ Buy สูงกว่าราคา 39,117 USD
ตามภาพ หากเราส่งคำสั่งซื้อด้วยจำนวนเงิน 2,258,733 USD
ระบบจะทำการ Buy ทันทีให้กับเรา 3 ราคาใน Order book ฝั่ง Sell ได้แก่
39,111 USD ด้วยจำนวนเงิน 2,258,730 USD
39,112 USD ด้วยจำนวนเงิน 1 USD
39,115 USD ด้วยจำนวนเงิน 2 USD
#Buy(2)
หากตั้ง Limit Order ที่ราคา 39,112 USD
ระบบจะทำการ Buy ทุกราคาที่มีใน Order book ฝั่ง
แต่จะไม่ Buy สูงกว่าราคา 39,112 USD
ตามภาพ หากเราส่งคำสั่งซื้อด้วยจำนวนเงิน 3,258,731 USD
ระบบจะทำการ Buy ทันทีให้กับเรา 2 ราคาใน Order book ฝั่ง Sell ได้แก่
39,111 USD ด้วยจำนวนเงิน 2,258,730 USD
39,112 USD ด้วยจำนวนเงิน 1 USD
สำหรับส่วนที่เหลืออีก 1,000,000 USD
จะถูกวางใน Order book ฝั่ง Buy
เพื่อรอรับ Order ฝั่ง Sell
#Buy(3)
หากตั้ง Limit Order ที่ราคา 39,106 USD
ระบบจะทำการ Buy ทุกราคาที่มีใน Order book ฝั่ง
แต่จะไม่ Buy สูงกว่าราคา 39,106 USD
*โดยราคาที่มีการทำธุรกรรมล่าสุด คือ 39,110.50 USD
ตามภาพ หากเราส่งคำสั่งซื้อด้วยจำนวนเงิน 10,218 USD
ระบบจะวางคำสั่งรอใน Order book ฝั่ง Buy
เพื่อรอรับ Order ฝั่ง Sell (ธุรกรรมจะยังไม่เกิดขึ้นในทันที)
// OhManLan // // OhManLan // // OhManLan //
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ OhManLan ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
ตัวอย่างการตั้ง Sell ด้วย Limit Order
#Sell(1)
หากตั้ง Limit Order ที่ราคา 39,108 USD
ระบบจะทำการ Sell ทุกราคาที่มีใน Order book
แต่จะไม่ Sell ต่ำกว่าราคา 39,108 USD
ตามภาพ หากเราส่งคำสั่งขายด้วยจำนวนเงิน 222,933 USD
ระบบจะทำการ Sell ทันทีให้กับเรา 3 ราคาใน Order book ฝั่ง Buy ได้แก่
39,110 USD ด้วยจำนวนเงิน 222,815 USD
39,109 USD ด้วยจำนวนเงิน 117 USD
39,108 USD ด้วยจำนวนเงิน 1 USD
#Sell(2)
หากตั้ง Limit Order ที่ราคา 39,108 USD
ระบบจะทำการ Sell ทุกราคาที่มีใน Order book
แต่จะไม่ Sell ต่ำกว่าราคา 39,108 USD
ตามภาพ หากเราส่งคำสั่งขายด้วยจำนวนเงิน 322,932 USD
ระบบจะทำการ Sell ทันทีให้กับเรา 2 ราคาใน Order book ฝั่ง Buy ได้แก่
39,110 USD ด้วยจำนวนเงิน 222,815 USD
39,109 USD ด้วยจำนวนเงิน 117 USD
สำหรับส่วนที่เหลืออีก 100,000 USD
จะถูกวางใน Order book ฝั่ง Sell
เพื่อรอรับ Order ฝั่ง Buy
#Sell(3)
หากตั้ง Limit Order ที่ราคา 39,111 USD
ระบบจะทำการ Sell ทุกราคาที่มีใน Order book
แต่จะไม่ Sell ต่ำกว่าราคา 39,111 USD
*โดยราคาที่มีการทำธุรกรรมล่าสุด คือ 39,110.50 USD
ตามภาพ หากเราส่งคำสั่งขายด้วยจำนวนเงิน 222,815 USD
ระบบจะวางคำสั่งรอใน Order book ฝั่ง Sell
เพื่อรอรับ Order ฝั่ง Buy (ธุรกรรมจะยังไม่เกิดขึ้นในทันที)
// OhManLan // // OhManLan // // OhManLan //
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ OhManLan ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
(BTC) 1 ปีให้หลังแกขึ้นสัญญาณทีไรชีวิตชาวบ้านเขาบรรลัยตลอดเลยนะพอเถอะ ...ไม่ต้องดีขนาดนั้นก็ได้ พอได้แล้ว ชีวิตฉันลำบากด้วยแล้วตอนนี้
อย่าไรก็ตามทรงเริ่มดีขึ้นเรื่อย มีโอกาสจะยืนยันการกลับเทรนสูง ตราบใดที่ไม่หลุด $33,300
ตอนนี้เหลือเงื่อนไขเดียวเท่านั้น ทำได้เมื่อไหร่ ก็เจอกันที่ดวงจันทร์
จัดการแผนเทรดให้เหมาะกับตัวเองนะจ๊ะ
การตัดสินใจในการเทรด ไม่ได้ขึ้นกับกราฟเพียงอย่างเดียว แต่มันรวมถึงองค์ประกอบอื่น ๆ ด้วย
TF 1h, 4h Look like H&S inverse+RSI เกิดสัญญาณ Divergence
+ควรรอราคาย่อตัวลงมาบริเวณ FIBO 50, 61.8 , 78.6
+สังเกตแท่งเทียนกลับตัว
!!!!
แนวต้านสำคัญอยู่ที่ 40000$ หากยังผ่านไม่ได้คิดว่าอาจ ทำ SIDEWAY สะสมพลัง หากรอควรรอราคาทะลุ 40000$ ไปให้ได้ก่อน
อย่าลืม Stoploss เพราะตลาดช่วงนี้มีความผันผวนมากเป็นพิเศษ จากสงครามที่ยูเครน
---NFA---
ซื้อหวย UNI ดีไหมนะ?เอาแต่พูดว่า "หยุดสงคราม" เนื่องจากความรุนแรงจากกำลังเพียงอย่างเดียวไม่ได้
ก็รู้ ๆ กันอยู่ว่า NATO เกิดขึ้นมาเพื่องัดกับโซเวียต
...ดังนั้น มันไม่มีใครอยู่เป็นสุขหรอกครับ ถ้ามีศัตรูยืนถือปืนอยู่ข้างบ้านตนเอง
ความรุนแรงหรือการรบไม่ใช่แค่การต่อสู้กันด้วยกำลังเพียงอย่างเดียว แต่มันรวมไปถึงการพูดด้วย
...สิ่งที่ USA ทำก็คือหนึ่งในกลยุทธ์การรบ ถ้ากล่าวตามตําราพิชัยสงครามสมัยอยุธยา คือ "ชูพิษแสลง"
...ในข่าวที่เห็นมีคนตายมันมันใช่เกิดจากการรบของรัสเซียเพียงฝ่ายเดียว ถ้ารัสเซียคือสาเหตุ ทางอเมริกาก็เป็นหนึ่งในสาเหตุเช่นกัน
ไอ้ที่เรียนในหนังสือมาที่บอกว่า ยุคล่าอาณานิคม
มันผ่านมาแล้วมันจบแล้ว ...ไม่หรอกครับ มันแค่เปลี่ยนวิธีการ
...คนเรากี่ยุคกี่สมัยก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ...โลภเหมือนเดิม
...ฉันมีอำนาจ ฉันก็อยากมีมากขึ้น ความพอเพียงยังไม่มีมากพอกับมนุษย์โลก
...ไม่ว่าจะผ่านมากี่ล้านปีการรบไม่เคยหยุด ...เท่าที่ได้เรียนรู้มาคาดว่า "ไดโนเสาร์" ก็สู้รบกันเช่นกัน
เราเป็นมนุษย์ แล้วรู้จักมนุษย์ดีแค่ไหน! ซื้อหวย UNI จะดีไหมนะ
ประเภทคำสั่งต่างๆ ทำงานอย่างไรเฮ้ทุกคน! 👋
วันนี้เราจะมาดูประเภทคำสั่งหลักที่มีอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน ที่มักพบเห็นในตลาด และอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับหน้าที่ของพวกมันเล็กน้อย ว่าพวกมันมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
ฟังดูเข้าท่านะ? ไปลุยกันเถอะ! 🚀
ก่อนที่เราจะพูดถึงประเภทคำสั่งต่างๆ ที่คุณอาจเห็นเมื่อคุณทำการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มของ TradingView สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าตลาดเกือบทั้งหมดทำงานอย่างไรในตอนแรก
เมื่อพูดถึงตลาดไม่ว่าที่ใด เวลาไหน ก็มี “BEST BID” และ “BEST ASK” เมื่อใดก็ได้ 🔢
BEST BID คือราคาสูงสุดที่ใครบางคนยินดีจ่ายสำหรับสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง และ BEST ASK คือราคาต่ำสุดที่ใครบางคนยินดีที่จะขายสำหรับสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง
ลองคิดดูว่าเมื่อพูดถึงหุ้น โบรกเกอร์ของคุณจะนำเสนอตลาดรวมของคำสั่งซื้อ (คำสั่งซื้อ) สำหรับหุ้นใดหุ้นหนึ่ง สมมติว่าคุณอยู่ในตลาดหุ้น Apple คุณจะเห็นได้ว่าหุ้นนั้น “ซื้อขายที่” 175.50 ดอลลาร์ นั่นหมายความว่าอย่างไร?
หมายความว่าราคาต่ำสุดที่ใครบางคนยินดีขายหุ้น Apple ของพวกเขาอาจอยู่ที่ประมาณ 175.52 ดอลลาร์ และราคาสูงสุดที่ใครบางคนยินดีจ่ายสำหรับหุ้น Apple อาจอยู่ที่ประมาณ 175.49 ดอลลาร์
ผู้เข้าร่วมตลาดเหล่านี้แสดงเจตจำนงของตนอย่างไร? โดยการวางลิมิตออร์เดอร์ ⌛
1.) ลิมิตออร์เดอร์ เป็นคำสั่งประเภทหนึ่งที่คุณส่งไปยังสถานที่ซื้อขายเมื่อคุณต้องการซื้อหรือขายบางอย่างในราคาที่แน่นอน
ในตัวอย่าง Apple ด้านบน สมมติว่าคุณต้องการซื้อ Apple แต่คุณไม่ต้องการจ่ายเงินมากกว่า $175.25 เมื่อคุณป้อนคำสั่งซื้อนี้และคลิก "ส่ง" คำสั่งซื้อของคุณจะไปถึงสถานที่ซื้อขายและเข้าร่วมคำสั่งซื้อในราคา 175.25 ดอลลาร์ และตอนนี้คุณจะอยู่ในสถานะ "Live" และอยู่ในตลาด โบรกเกอร์ของคุณจะหักเงินสดที่จำเป็นในการดำเนินการตามคำสั่งซื้อนั้นจากกำลังการซื้อของคุณในขณะที่คำสั่งซื้อของคุณเผยแพร่อยู่
คำถามต่อไป: หากทุกคนมีลิมิตออร์เดอร์ในรายการออร์เดอร์ แล้วราคาจะลดลงมาที่คุณไหม? 🔽
มีอยู่สองสามวิธี แต่วิธีหนึ่งที่พบบ่อยที่สุดคือ: มาร์เก็ตออเดอร์ ⌚
2.) มาร์เก็ตออเดอร์ คือคำสั่งที่ส่งไปยังตลาดและดำเนินการซื้อหรือขายสินทรัพย์ทันทีไม่ว่าราคาจะเป็นเท่าไร
ผู้คนจำนวนมากใช้มาร์เก็ตออเดอร์เพราะพวกเขารับประกันได้ว่าคุณจะได้โพสิชั่นที่คุณต้องการในทันที ข้อเสียคือเมื่อคุณส่งมาร์เก็ตออเดอร์ คุณจะไม่สามารถควบคุมราคาที่คุณได้รับ ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ในทันที และคุณอาจได้โพสิชั่นในราคาที่คุณไม่ต้องการ
กลับไปที่ตัวอย่างของเรา: หากคุณกำลังรอคำสั่งซื้อของคุณใน AAPL ซื้อหุ้นที่ 175.25 ดอลลาร์ ดังนั้นใครก็ตามที่จ่ายเงินให้กับคุณจะข้ามสเปรด ซึ่งนั่นอาจเป็นคำสั่งมาร์เก็ตออเดอร์ 💵
สมมติว่าคุณได้รับการซื้อหุ้นใน AAPL ที่ 175.25 ดอลลาร์ และคุณต้องการออกจากสถานะการซื้อของคุณหากหุ้นมีราคาต่ำกว่า 175 ดอลลาร์ ในกรณีนี้ คุณจะต้องใช้สต๊อปออเดอร์ 🛑
3.) สต๊อปออเดอร์ คือคำสั่งที่คุณส่งไปยังตลาดที่อยู่บนเซิร์ฟเวอร์ Nasdaq/NYSE ซึ่งพวกมันมีราคาทริกเกอร์ และเมื่อราคาถูกทริกเกอร์ พวกมันจะดำเนินการ ลิมิตออเดอร์ หรือ มาร์เก็ตออเดอร์ ตามข้อมูลที่คุณได้ป้อนไป สิ่งเหล่านี้คือ สต๊อปลิมิตออเดรอ์ และ สต๊อปมาร์เก็ตออเดอร์
อาจฟังดูซับซ้อน แต่ก็ง่ายกว่าที่คิด
อีกครั้ง; กลับไปที่ตัวอย่างของเรา สมมติว่าคุณได้รับการซื้อใน AAPL ที่ 175.25 แต่แล้วคำสั่งสต๊อปออเดอร์ของคุณจะทำงานที่ 174.99 (คุณต้องการออกจากสถานะการซื้อ หากราคาหุ้นต่ำกว่า 175)
หากใช้มาร์ตเก็ตออเดอร์ในการสต๊อปออเดอร์ คุณจะถูกปิดออกจากโพสิชั่นในทันที ไม่ว่าราคาจะอยู่ที่เท่าไร ก็ง่ายๆ เท่านั้นล่ะ! ✅
สัปดาห์หน้า เราจะพูดถึงเทคนิคการสั่งซื้อที่เทรดเดอร์มืออาชีพใช้เพื่อให้ได้ราคาที่ดีขึ้น 🦾
ขอให้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย!
-ทีม TradingView 👀
KUBTHBคือการที่กราฟ มีราคาทะลุแนวรับ หรือแนวต้านที่เราตั้งไว้ (ราคาวิ่งทะลุกรอบ หรือที่แปลตรงๆจากภาษาอังกฤษ คือ (การฝ่าวงล้อม)
ไม่ว่าจะเป็นการใช้ เทรนไลน์ การใช้ ฟิโบแนนชี่ (Fibonacci) การเกิด Break Out จะเกิดขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ
และหลังจากนั้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวทะลุกรอบจึงเรียกว่า Break Out สามารถเกิดขึ้นได้ในเครื่องมือหลายชนิด
KUBTHBข้อควรระวังในการใช้ Divergence ในการเข้าซื้อหรือขายก็คือ
1. มันเป็นสัญญาณที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง ต้องใจเย็น และค่อยๆพิจารณา
2. Divergence อาจไม่ได้เกิดแค่คลื่นแค่ 2 ลูกติดกัน อาจเป็น 3 คลื่นก็ได้ (Divergence 3 ลูก) ก่อนเปลี่ยนแนวโน้ม
3. เหมือนกับสัญญาณทางเทคนิค และหลักการลงทุนแบบอื่นๆ นั้นก็คือ ไม่ได้มีความแม่นยำแบบ 100%