วิเคราะห์คลื่นเอลเลียต – XAUUSD วันที่ 18 กรกฎาคม 2025
🔍 การวิเคราะห์โมเมนตัม
กรอบเวลา D1: โมเมนตัมแสดงสัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น แม้ต้องรอการปิดแท่งเทียน D1 วันนี้เพื่อยืนยัน แต่การขึ้นเมื่อวานมีแนวโน้มว่าเป็น คลื่น 1 ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นใหม่
กรอบเวลา H4: โมเมนตัมเริ่มมีสัญญาณกลับตัวลง → บ่งบอกถึงการย่อตัวเพื่อสร้าง คลื่น 2
กรอบเวลา H1: โมเมนตัมกำลังจะกลับตัวขึ้น → สนับสนุนความคาดหวังว่าจะเกิดการดีดตัวขึ้นระยะสั้นในรอบนี้
🌀 อัปเดตโครงสร้างคลื่นเอลเลียต
บนกราฟ H4 โครงสร้างการปรับฐานแบบสามเหลี่ยม abcde ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงชัดเจน
อย่างไรก็ตาม แท่งเทียน H4 ขาขึ้นที่แข็งแกร่งเมื่อวาน บ่งชี้พฤติกรรมตลาดที่ผิดปกติและควรจับตา
มี 2 แนวโน้มหลักที่เป็นไปได้:
คลื่น 1 (สีดำ) อาจจบลงแล้ว และตลาดกำลังเข้าสู่ คลื่น 2 (คลื่นปรับฐาน)
หรือ การเคลื่อนไหวปัจจุบันเป็น คลื่น 4 ภายในคลื่น 1 (สีดำ)
🔎 การสรุปจากโมเมนตัมและโครงสร้างคลื่น
โมเมนตัม D1 บ่งชี้แนวโน้มขาขึ้นในอีก 4–5 วันข้างหน้า → มีแนวโน้มว่า คลื่น e (สีน้ำเงิน) ได้สิ้นสุดแล้ว
ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดโครงสร้าง 5 คลื่นแบบขาขึ้น โดย:
ถ้า H1 กลับตัวขึ้นต่อได้ → ปัจจุบันคือ คลื่น 5 ของคลื่น 1 (สีดำ) เป้าหมายที่ 3358
หลังจากนั้น ราคาจะย่อลงมายังบริเวณ 3330–3323 เพื่อสร้าง คลื่น 2 (สีดำ)
หรือราคาอาจย่อลงทันที → หมายความว่าคลื่น 1 จบแล้ว และกำลังอยู่ในคลื่น 2
🎯 => ทั้งสองแนวโน้มมาบรรจบกันที่โซนราคา 3330–3323 ซึ่งเป็นจุด BUY ที่มีโอกาสสูง
🧭 แผนการเทรด
BUY ZONE: 3330 – 3327
จุดตัดขาดทุน (Stop Loss): 3320
เป้าหมายกำไร (Take Profit):
TP1: 3342
TP2: 3358
TP3: 3402
📌 หมายเหตุ: เนื่องจากช่วงราคาเข้าค่อนข้างกว้าง แนะนำให้รอการยืนยันจากพฤติกรรมราคา (Price Action) ก่อนเปิดออเดอร์
ภาพประกอบ
เข้าใจตลาดและตนเอง (Market & Self-Awareness)หนึ่งในกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการเทรด ไม่ใช่แค่การวิเคราะห์กราฟหรือการหาจุดเข้าออกที่แม่นยำเท่านั้น แต่คือการ “เข้าใจตลาด” ควบคู่ไปกับ “เข้าใจตนเอง” ซึ่งเป็นหลักการที่เทรดเดอร์มืออาชีพทุกคนยึดถือ
📌 `เข้าใจตลาด (Market Awareness)`
ตลาดไม่ได้เคลื่อนไหวแบบสุ่ม ทุกการเปลี่ยนแปลงล้วนมีสาเหตุ และเมื่อคุณเข้าใจพฤติกรรมของตลาด คุณจะเริ่มมองเห็นรูปแบบซ้ำ ๆ และจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าเทรด เช่น
- **รู้จักช่วงเวลา (Session) ที่มี Volume สูง** เช่น London / New York
- **จับตาข่าวเศรษฐกิจสำคัญ** ที่มีผลกระทบกับคู่เงินหรือสินทรัพย์ที่เทรด
- **แยกแยะสภาวะตลาด** ว่าเป็นเทรนด์ หรือไซด์เวย์
- **รู้ว่าตลาดมีอารมณ์** เช่น panic, greed, หรือ fear ซึ่งสร้างแรงกระเพื่อมได้อย่างรุนแรง
เมื่อคุณเข้าใจ “ธรรมชาติของตลาด” คุณจะหยุดพยายามควบคุมมัน และเริ่มเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับมัน
📌 `เข้าใจตนเอง (Self-Awareness)`
ไม่มีระบบไหนที่เหมาะกับทุกคน การเข้าใจตัวเองจึงเป็นสิ่งจำเป็นไม่แพ้การเข้าใจตลาด เพราะพฤติกรรมการเทรดที่ดี ต้องสอดคล้องกับจริตของคุณ เช่น
- **คุณทนรอได้ไหม?** ถ้าไม่ ช่วง Scalping อาจเหมาะกว่าการถือยาว
- **คุณรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน?** ต้องรู้จุดที่คุณยังนอนหลับได้เมื่อเจอ Drawdown
- **คุณควบคุมอารมณ์ได้ไหม?** ทุกการ Overtrade หรือ Revenge Trade มักเกิดจากการไม่รู้ทันตนเอง
การเทรดคือการต่อสู้กับ "ตัวเราเอง" มากกว่าตลาด หากคุณแพ้อารมณ์ คุณจะเสียเงินทั้งที่ระบบของคุณอาจถูกต้อง
💡 `กลยุทธ์เพื่อพัฒนาการรับรู้ทั้ง 2 ด้าน`
**บันทึกการเทรด** – เพื่อวิเคราะห์ว่าแพ้เพราะตลาดหรือเพราะตัวเอง
**ทบทวนผลทุกสัปดาห์** – แยกแยะสิ่งที่ควบคุมได้และไม่ได้
**ฝึกมีวินัยต่อแผน** – เพราะวินัยเป็นตัวเชื่อมระหว่างตลาดกับตัวเรา
**กำหนดขอบเขตการเทรดชัดเจน** – เช่น Stop Loss ที่ไม่เกิน X%, ไม่เทรดตอนอารมณ์เสีย
📌 `สรุป:`
เมื่อคุณเข้าใจตลาด คุณจะรู้ว่าควร “เล่นเกมยังไง”
แต่เมื่อคุณเข้าใจตนเอง คุณจะรู้ว่า “คุณควรเล่นเกมแบบไหน”
การเทรดที่ยั่งยืนจึงเริ่มจากความเข้าใจทั้งตลาดและตนเอง ไม่ใช่การคาดเดาหรือโชคช่วย
💬 `คุณเข้าใจตลาดและตัวเองมากแค่ไหนแล้ว?`
มาแชร์แนวทางที่คุณใช้ในการพัฒนาตัวเองกัน!
วิเคราะห์คลื่น Elliott – XAUUSD วันที่ 17 กรกฎาคม 2025
🔍 การวิเคราะห์โมเมนตัม
กรอบเวลา D1: โมเมนตัมยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง แต่เส้นของตัวชี้วัดเริ่มมีสัญญาณเข้าใกล้กัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรจับตามอง โดยปกติแล้วจะต้องใช้แท่งเทียน D1 ประมาณ 2 แท่งเพื่อเข้าสู่โซน Oversold และเกิดการกลับตัว แต่จากสัญญาณที่เริ่มบีบเข้าหากันนี้ อาจเกิดการกลับตัวเร็วกว่าปกติ ดังนั้นจึงควรรอดูแท่งเทียนของวันนี้เพื่อยืนยันสัญญาณ
กรอบเวลา H4: โมเมนตัมอยู่ในแนวโน้มขาลง ดังนั้นในระยะสั้นวันนี้แนวโน้มหลักยังคงเป็นการปรับฐานลงหรือตลาดแกว่งตัวออกข้าง (Sideway)
🌀 โครงสร้างคลื่น Elliott
จากกราฟ H4 ราคากำลังถูกบีบอัดอยู่ในช่วงท้ายของรูปแบบสามเหลี่ยมสมมาตร (Symmetrical Triangle) ตามทฤษฎีคลื่น Elliott ซึ่งโดยทั่วไป จุดสิ้นสุดของสามเหลี่ยมมักจะอยู่ตรงกับระดับสำคัญของกราฟ และในกรณีนี้คือบริเวณ POC (Point of Control) ซึ่งเป็นจุดที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด
คลื่น W (สีดำ) แสดงเป็นโครงสร้าง 3 คลื่น เมื่อวานนี้ราคาพุ่งขึ้นไปแตะจุดเริ่มต้นของคลื่น W แล้วกลับตัวลงอีกครั้ง ซึ่งเปิดโอกาสให้เกิด 2 กรณี:
กรณีที่ 1 – โครงสร้าง WXY ซึ่งขณะนี้ราคากำลังอยู่ในคลื่น Y ของคลื่น e (สีเขียว):
เป้าหมายที่ 1: 3327
เป้าหมายที่ 2: 3303
กรณีที่ 2 – คลื่น e (สีเขียว) พัฒนาเป็นสามเหลี่ยม:
ราคาจะเคลื่อนไหวแบบ Sideway เหนือโซน 3327
🔗 การสรุปร่วมระหว่างคลื่นและโมเมนตัม
แม้ว่าโมเมนตัมทั้งในกรอบ D1 และ H4 จะยังเป็นแนวโน้มขาลง แต่ตัวแท่งเทียนกลับมีลักษณะซ้อนทับกันและไม่ชัดเจน บ่งบอกถึงการสะสมตัวของราคาใกล้ปลายสามเหลี่ยม อีกทั้งยังอยู่ใกล้ POC ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้สูงที่ราคาจะเคลื่อนไหวแบบบีบตัวต่อไปก่อนจะเกิดการเบรกเอาท์ ช่วงนี้ควรรอให้เกิด แท่งเทียนขาขึ้นที่แข็งแรง บริเวณเป้าหมายก่อนที่จะเข้าสถานะซื้อ (BUY)
📈 แผนการเทรด
✅ กรณีที่ 1 – เปิด BUY เมื่อราคาลงมาอยู่ที่ 3327 – 3326
Stop Loss: 3317
Take Profit 1: 3342
Take Profit 2: 3358
Take Profit 3: 3402
✅ กรณีที่ 2 – เปิด BUY เมื่อราคาลงมาอยู่ที่ 3305 – 3302
Stop Loss: 3295
Take Profit 1: 3327
Take Profit 2: 3358
Take Profit 3: 3402
เนื้อหาเบื้องต้นของ SMCเพื่อการศึกษา ของ SMC ในหลักของเวลา
AMDX คือ
Q1: Accumulation (สะสม)
Q2: Manipulation (ชักจูง/หลอกล่อ)
Q3: Distribution (กระจาย)
Q4: Continuation or Reversal (ต่อเนื่องหรือกลับตัว)
📅 วัฏจักรรายวัน (Daily Cycle) — ปรับเป็นเวลาไทย (UTC+7):
Q1: 05:00 - 11:00 น. (ช่วงเช้า – เซสชันเอเชีย) – สะสม (Accumulation)
Q2: 11:00 - 17:00 น. (ช่วงกลางวัน – เซสชันลอนดอน) – การชักจูง (Manipulation)
Q3: 17:00 - 23:00 น. (ช่วงเย็น – เซสชันนิวยอร์ก AM) – การกระจาย (Distribution)
Q4: 23:00 - 05:00 น. (ช่วงดึก – เซสชันนิวยอร์ก PM) – ดำเนินต่อหรือกลับทิศทาง (Continuation or Reversal)
✅ วัฏจักรรายสัปดาห์ (Weekly Cycle)
ทฤษฎีนี้เสนอว่าแม้สัปดาห์การเทรดจะมี 5 วันอย่างเป็นทางการ แต่ควรตัดวันศุกร์และช่วงเล็กน้อยของวันอาทิตย์ออกไป
ดังนั้นวัฏจักรรายสัปดาห์จะเป็นดังนี้:
Q1: วันจันทร์ – สะสม
Q2: วันอังคาร (เปิดตลาดจริง ที่ราคาเปิดแท่งเทียนรายวันมีความสำคัญ) – การชักจูง
Q3: วันพุธ – การกระจาย
Q4: วันพฤหัสบดี – ดำเนินต่อหรือกลับทิศทาง
วิเคราะห์คลื่นเอลเลียต – XAUUSD วันที่ 16 กรกฎาคม 2025
🔄 การวิเคราะห์โมเมนตัม
กรอบเวลา D1: โมเมนตัมกำลังกลับตัวเป็นขาลง ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาอาจปรับฐานต่อเนื่องหรือเคลื่อนไหวในกรอบแคบ (Sideway)
กรอบเวลา H4: โมเมนตัมอยู่ในช่วงขาขึ้น แสดงให้เห็นว่าการฟื้นตัวของราคายังสามารถดำเนินต่อไปได้ โดยมีแนวต้านที่ควรจับตาอยู่ที่บริเวณ 3342 และ 3358
🌀 โครงสร้างคลื่นเอลเลียต
ในปัจจุบัน ราคายังคงเคลื่อนไหวอยู่ในโครงสร้าง รูปสามเหลี่ยมหดตัวแบบปรับฐาน (contracting triangle) โดยกรอบการเคลื่อนไหวเริ่มแคบลงเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นสัญญาณของการสะสมพลังของตลาด เราควรเฝ้าระวังช่วงเวลาที่ราคาจะเบรกออกจากรูปแบบนี้
จากการวิเคราะห์โครงสร้างคลื่นในปัจจุบัน คาดว่า คลื่น d (สีเขียว) ได้สิ้นสุดลงแล้ว และการปรับตัวลงในขณะนี้คือส่วนหนึ่งของ คลื่น e (สีเขียว)
กลยุทธ์การเทรดคือ รอให้ราคาลงมาใกล้ ขอบล่างของรูปสามเหลี่ยม ซึ่งลากจากจุดต่ำสุดของคลื่น a ไปยังจุดต่ำสุดของคลื่น c โดยมองหาบริเวณแนวรับที่สอดคล้องกันเพื่อพิจารณาเปิดคำสั่ง BUY
🎯 เป้าหมาย & แผนการเทรด
โซนซื้อ (BUY ZONE): 3303 – 3300
จุดตัดขาดทุน (SL): 3290
เป้าหมายกำไร (TP):
TP1: 3327
TP2: 3358
TP3: 3402
คู่มือเข้าใจ "Fibonacci Ratio" ฉบับละเอียด📘 คู่มือเข้าใจ "Fibonacci Ratio" ฉบับละเอียด
วิเคราะห์พฤติกรรมราคา – ถอดจิตวิทยามวลชน – นำไปใช้แบบมือโปร
________________________________________
🧠 บทนำ: Fibonacci Ratio คืออะไร?
Fibonacci Ratio ในทางเทคนิคไม่ใช่เวทมนตร์ แต่คือ เครื่องมือวัดจังหวะพักตัว / เป้าหมายของราคา
โดยอิงจากแนวคิดของ Leonardo Fibonacci และพัฒนาต่อโดยนักเทรดชื่อดัง เช่น Joe DiNapoli, Larry Pesavento, Scott Carney
มันสะท้อน พฤติกรรมมวลชน ผ่านระดับความลึกของ “การย่อตัว” และ “การขยายตัว” ของราคาในแต่ละแนวโน้ม
________________________________________
🔢 หมวดที่ 1: Fibonacci Retracement (วัดการย่อตัวของแนวโน้ม)
ใช้วัด “ระดับที่ราคาพักตัว” ก่อนไปต่อ หรือกลับตัว
🔢 ค่า Fib 🧪 ที่มา 🧠 พฤติกรรมมวลชน 🎯 การใช้งานจริง
9.0% Custom Momentum Level ราคาย่อเล็กน้อยมาก เทรนด์แข็งสุด ใช้ใน Breakaway Gap หรือ Momentum Buy
14.6% √0.236 เทรนด์แรง ยังไม่พักจริง จุดเข้าต้นคลื่น Wave 3 / หลัง Break
23.6% F(n)/F(n+3) ≈ 13/55 พักเบา ๆ จากแรงกระโดดแรก จุดวัดความแข็งแกร่งของเทรนด์ใหม่
38.2% F(n)/F(n+2) ≈ 21/55 ย่อแบบแข็งแรง (Strong Trend Pullback) จุด Buy on Dip แบบปลอดภัย
50.0% ค่าเฉลี่ยกลาง (ไม่ใช่ Fibonacci แท้) นักลงทุนทยอยขายครึ่งหนึ่ง Zone รอความชัดเจน หรือใช้ Confirm
61.8% Golden Ratio จุดวัดใจของเทรนด์ กลับตัวได้หรือไปต่อ Zone สำคัญของ Re-entry / Trend Continuation
78.6% √0.618 นักลงทุนเริ่มถอดใจ พลังขายเกือบหมด จุดกลับตัวลึก มีโอกาสรีบาวด์แรง
88.6% √0.786 Fear Zone จริงจัง คนส่วนใหญ่เทขาย ใช้ใน Harmonic Pattern เช่น Bat, Deep Crab
94.1% Custom Empirical Level Final Retest ก่อนหลุด Low เดิม ใช้กับ Volume Spike / Candlestick Reversal
________________________________________
📈 หมวดที่ 2: Fibonacci Extension (วัดการขยายตัวของแนวโน้ม)
ใช้คาดการณ์ “จุดที่ราคาจะไปถึง” ถ้าทะลุแนวต้านเดิม
📈 ค่า Fib 🧪 ที่มา 🔍 ความหมาย 🎯 การใช้งานจริง
127.2% 1 + 0.272 เป้าหมายแรกของการขยายตัว TP1 ของเทรนด์ที่ทะลุ High เดิม
161.8% Golden Extension เป้าหมายคลาสสิกในเทรนด์รุนแรง TP2, ระวัง Exhaustion Gap / Divergence
________________________________________
📊 สรุปแบบแบ่งโซน: พร้อมวิเคราะห์จิตวิทยามวลชน
🎨 โซน 📌 ช่วงตัวเลข 🧠 จิตวิทยาราคา 🎯 กลยุทธ์ที่เหมาะสม
Minor Zone 9.0% – 23.6% มั่นใจในเทรนด์ ไม่อยากรอ เข้าไว แนว Momentum / Scalp
Mid Zone 38.2% – 61.8% รอจังหวะ ย่อตัวธรรมชาติ Buy on Dip / Trend Continuation
Deep Zone 78.6% – 88.6% เริ่มกลัว Panic ปะทุ Contrarian Entry / Divergence
Custom Deep Zone 94.1% Final Test ก่อนเปลี่ยนเทรนด์ ใช้กับ Volume / Candle Pattern
Extension Zone 127.2% – 161.8% FOMO, Overdrive ของเทรนด์ TP หรือ Reversal Signal
________________________________________
🧠 แนวคิดของ Joe DiNapoli:
Joe เน้น 38.2%, 50.0%, 61.8% เป็น "Dynamic Entry Zones"
– ใช้ร่วมกับ Indicator เช่น DiNapoli MACD, Displaced Moving Averages
– หากราคาเด้งจาก 38.2% และ Break High เดิม → เข้าเทรนด์ Wave 3 ได้เร็วมาก
________________________________________
📌 สรุป Key Takeaways:
✅ Fibonacci ไม่ใช่แค่ “ลากกราฟสวย ๆ” แต่คือการอ่าน “แรงกดดันทางจิตวิทยา”
✅ แต่ละระดับมี “มวลชนกลุ่มต่างกัน” เช่น Early Buyer, Panic Seller, หรือ FOMO Buyer
✅ ใช้งานได้ดีเมื่อผสานกับ:
• RSI / MACD Divergence
• Demand / Supply Zone
• Candlestick Pattern
• Volume / Market Profile
• Elliott Wave / Harmonic Pattern / TD SEQUENTIAL
วิเคราะห์คลื่น Elliott – XAUUSD | 14 กรกฎาคม 2025
🔍 การวิเคราะห์โมเมนตัม
กรอบเวลา D1: โมเมนตัมกำลังกลับตัวขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจจะยังคงดำเนินต่อไปในต้นสัปดาห์หน้า (วันจันทร์)
กรอบเวลา H4: โมเมนตัมเข้าสู่โซนซื้อมากเกินไป (Overbought) ทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดการปรับฐานระยะสั้นเพื่อลดโมเมนตัมลงสู่โซนขายมากเกินไป (Oversold)
🌀 โครงสร้างคลื่น Elliott
บนกราฟ H4 เราจะเห็นรูปแบบ สามเหลี่ยมหดตัว (abcde) ที่กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการก่อตัว
ในแผนการเทรดวันศุกร์ที่ผ่านมา เราคาดการณ์ว่าช่วงการปรับฐานได้สิ้นสุดลงแล้ว และราคากำลังเข้าสู่คลื่นขับเคลื่อนใหม่ อย่างไรก็ตาม มี 2 ความผิดปกติที่ควรสังเกต:
ปรากฏ แท่งเทียนมีไส้บนพร้อมปริมาณการซื้อขายสูง ที่บริเวณแนวต้านแถวๆ 3365 พร้อมกับที่โมเมนตัม H4 อยู่ในโซน Overbought สิ่งนี้บ่งชี้ว่าอาจมีการปรับฐานระยะสั้นเกิดขึ้น ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นหากราคากำลังอยู่ในคลื่น 3 อย่างแท้จริง ในทางกลับกัน ราคาควรพุ่งแรงไปที่ระดับ 3402 ตั้งแต่วันศุกร์เพื่อยืนยันว่ากำลังเข้าสู่คลื่นขับเคลื่อนจริง
บนกราฟ H1 แท่งเทียนขาขึ้นมีลักษณะสั้นและสลับกันไปมา แสดงถึงแรงซื้อที่อ่อนแอและขาดความชัดเจน
จาก 2 ข้อนี้ บ่งบอกว่าราคายัง อาจอยู่ในช่วงปรับฐาน และระดับ 3402 จะเป็นแนวต้านสำคัญเพื่อยืนยันว่าการปรับฐานได้สิ้นสุดลงแล้วจริงหรือไม่
💡 มุมมองการเทรด
โมเมนตัมในกรอบ D1 ยังคงสนับสนุนฝั่ง BUY สำหรับต้นสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก H4 อยู่ในโซน Overbought จึงมีโอกาสสูงที่จะเกิดการย่อตัวในระยะสั้น
เราจะรอให้ราคาปรับลงมาที่แนวรับด้านล่างเพื่อมองหาโอกาสในการ เข้าซื้อ (Buy on Dip) โดยตั้งเป้าหมายการขึ้นไปที่โซน 3393 – 3402 ซึ่งเป็นเป้าหมายเดิมจากแผนการเทรดเมื่อวันศุกร์ โดยมีโซนซื้อที่ 3332 – 3330
📊 แผนการเทรด
โซนซื้อ (BUY Zone): 3342 – 3340
จุดตัดขาดทุน (SL): 3330
เป้ากำไรที่ 1 (TP1): 3370
เป้ากำไรที่ 2 (TP2): 3393
วิเคราะห์คลื่นเอลเลียต – XAUUSD | 15 กรกฎาคม 2025
🟢 อัปเดตคำสั่งซื้อขาย
คำสั่ง BUY ในโซน 3342 – 3340 ถูกเปิดที่ราคา 3341 ขณะนี้ราคาขยับขึ้นมาแล้วประมาณ 140 pips และยังเคลื่อนไหวตามแผนการเทรดเดิมอย่างต่อเนื่อง
📊 วิเคราะห์โมเมนตัม
กรอบเวลา D1: โมเมนตัมอยู่ในเขต overbought (ซื้อมากเกินไป) และเส้นอินดิเคเตอร์เริ่มมีสัญญาณตัดกัน บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการกลับตัวในกราฟรายวัน
กรอบเวลา H4: หลังจากที่ราคาลดลง 6 แท่งจาก 3377 มาที่ 3342 โมเมนตัมเริ่มกลับทิศขึ้นอีกครั้ง ขณะนี้เกิดแท่งเทียนขาขึ้นแล้ว 2 แท่ง และคาดว่าจะมี อีก 3–5 แท่งขาขึ้น โดยมีเป้าหมายที่บริเวณ 3390
🌀 อัปเดตรูปแบบคลื่น Elliott
ขณะนี้ราคากำลังเคลื่อนไปสู่ช่วงปลายของ รูปแบบสามเหลี่ยมหดตัว abcde โดยมี 2 สถานการณ์ที่ต้องจับตามอง:
สถานการณ์ที่ 1 – การแก้ไขแบบสามเหลี่ยมยังคงดำเนินต่อ
หากราคากลับไปทดสอบบริเวณด้านล่างของสามเหลี่ยม มีแนวโน้มว่านั่นจะเป็น คลื่น e ซึ่งเป็นโอกาส BUY ที่น่าสนใจในช่วงสุดท้ายของรูปแบบนี้
สถานการณ์ที่ 2 – การขยายตัวของคลื่น 5 แบบแรง
โครงสร้างราคาปัจจุบันแสดงให้เห็นถึง รูปแบบคลื่น 5 คลื่นแบบเร่ง โดยที่คลื่น 4 ได้สิ้นสุดไปแล้วและคลื่น 5 กำลังเริ่มต้น
เป้าหมายของคลื่น 5 อยู่ใน โซนแนวต้าน 3398 – 3402
เมื่อคลื่น 5 สิ้นสุดลง อาจเข้าสู่ช่วงการปรับฐานอีกครั้ง ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดที่ว่า คลื่น d อาจจบในบริเวณนี้
🔔 หากราคาทะลุระดับ 3402 ขึ้นไป มีความเป็นไปได้สูงว่าการแก้ไขรูปแบบ abcde จะสิ้นสุดลง และตลาดจะเข้าสู่ คลื่นขาขึ้นแบบเร่งใหม่
🎯 แผนการเทรด
📍โซน SELL: 3396 – 3398
⛔️ จุดตัดขาดทุน (SL): 3406
🎯 เป้าหมายกำไร (TP1): 3376
🎯 TP2: 3327
📍โซน BUY: 3295 – 3293
⛔️ SL: 3285
🎯 TP1: 3327
🎯 TP2: 3365
🎯 TP3: 3402
✅ หมายเหตุ: ควรรอการยืนยันจากพฤติกรรมราคา (price action) และสัญญาณโมเมนตัมก่อนเข้าสู่ตลาดในแต่ละโซน
Buy Side & Sell Side Liquidity เทรดแบบเจ้าในตลาด Buy Side & Sell Side Liquidityเทรดแบบเจ้าในตลาด
👉👉ใครอยากเป็นเศรษฐี ก็ฉันนะสิ ก็ฉันนะสิ คิดแบบเจ้าในตลาดและเทรดแบบเจ้าในตลาด ใครอยากรู้ทันเกมส์การเทรดของเจ้า ต้องไม่พลาดบทความนี้ 👈👈
💰 Buy Side Liquidity คืออะไร?
หมายถึง โซนบนกราฟของราคาที่มีคำสั่งซื้อ BUY จำนวนมากของนักเทรดรายย่อย ซึ่งมักถูกวาง ณ จุดที่คาดว่าราคาจะไม่ลงไปต่ำกว่านี้ เช่น Demand Zone , Support หรือระดับ Fibonacci ที่ใช้เป็นแนวรับ
🔼 คือคำสั่งซื้อที่อยู่ “ด้านบน” ราคาปัจจุบัน
มักพบในรูปแบบ:
SL ของคนที่ Sell ไว้ → ตั้งไว้เหนือ High ก่อนหน้า
Buy Stop ที่ตั้งไว้หลัง Breakout
Equal High ที่คนคาดว่าจะทะลุ
เปรียบเทียบง่ายๆ:
เจ้ามือจะลาก “ราคาขึ้นไปกิน” Stop Loss เหล่านี้ ก่อนกลับตัวเพื่อเปิด Sell ในราคาที่ดีกว่า
🔻 Sell Side Liquidity คืออะไร?
หมายถึง โซนที่มีคำสั่งขาย SELL สะสมอยู่เป็นจำนวนมาก มักอยู่ในบริเวณ Supply Zone , Resistance หรือระดับ Fibonacci ที่เป็นแนวต้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นจุดที่นักเทรดคาดว่าราคาจะไม่ขึ้นไปสูงกว่านี้อีกแล้ว
🔽 คือคำสั่งขายที่อยู่ “ด้านล่าง” ราคาปัจจุบัน
มักพบในรูปแบบ:
SL ของคนที่ Buy ไว้ → ตั้งไว้ใต้ Low ก่อนหน้า
Sell Stop ที่วางไว้ใต้โซนแนวรับ
Equal Low ที่หลายคนจับตามอง
พฤติกรรมทั่วไป:
เจ้าตลาดจะกด “ราคาลง” มากิน SL เหล่านั้นก่อนแล้วค่อย “ดันกลับ” เพื่อเปิด Buy
📌📌📌 ส่วนใหญ่การเทรดนี้มักตีคู่มาพร้อมกับ แนวคิด Smart Money Concept หรือ SMC ด้วยการใช้กลยุทธ์กวาดสภาพคล่อง (Liquidity Sweep) โดยการผลักดันราคาให้ไปถึงบริเวณที่มีออเดอร์หนาแน่น ไม่ว่าจะเป็นฝั่ง Buy Side หรือ Sell Side เพื่อหลอกล่อ Trigger ให้ออเดอร์เหล่านั้นทำงาน ก่อนจะดึงราคากลับไปในทิศทางตรงข้ามเพื่อทำกำไร ร้ายนะเออ!.
การแยกแยะ โซน Buy Side Liquidity หรือ Sell Side Liquidity จึงจัดว่าเราเทพมากๆที่แยกแยะได้เพื่อการคาดเดาทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต และวางแผนจุดเข้าออกออเดอร์ให้เหมาะสมที่สุด
📌 Liquidity คืออะไร?
Liquidity คือคำสั่งรอดำเนินการในตลาด จากจุด Stop Loss (SL) และ จุดรอเข้าออเดอร์ Buy/Sell Stop หรือ Buy/Sell Limit
เพราะในสายตา “เจ้าตลาด” Liquidity ไม่ใช่แค่คำสั่งธรรมดา แต่คือ “แหล่งพลังงาน” ที่พวกเขาจะใช้เพื่อเปิดออเดอร์ขนาดใหญ่
🎯 วิธีใช้ Buy/Sell Side Liquidity ในการเทรด
✅ 1. หาจุดที่คาดว่ามี SL ของฝั่งตรงข้าม
ถ้าเทรนด์ลง → หาจุดที่น่าจะมี Buy SL ด้านล่าง
ถ้าเทรนด์ขึ้น → หาจุดที่มี Sell SL ด้านบน
✅ 2. รอให้ราคา “ไปกิน” Liquidity ก่อน
ให้ราคาทะลุ High/Low เดิม (Equal High/Low)
✅ 3. มองหา Confirmation
Candlestick แบบ Rejection (เช่น Pin Bar, Engulfing)
เกิดใน OB หรือ FVG ยิ่งแม่น
✅ 4. เข้าเทรดตรง “ด้านกลับ” หลังจาก Sweep เสร็จ
Buy หลัง Sweep ด้านล่าง (Sell Side Liquidity)
Sell หลัง Sweep ด้านบน (Buy Side Liquidity)
📌 สรุป: ทำไมต้องเข้าใจ Buy/Sell Side Liquidity?
1. ช่วยให้คุณ เข้าใจพฤติกรรมเจ้าตลาด
2. รู้ว่าราคา “อาจไปที่ไหนก่อน”
3. เพิ่มความแม่นในการเข้าเทรด
4. ลดโอกาสโดนลาก SL ก่อนราคากลับทิศ
✨ “อย่าเป็นคนที่โดนลาก จงเป็นคนที่รู้ว่า ‘เขาจะลากใคร’ แล้วรอเข้าเทรดหลังจากนั้นดีกว่า” ✨
🎓สรุปส่งท้าย
การฝึกฝนและทำความเข้าใจตลาดอาจไม่เพียงพอ เรายังต้องเข้าใจนิสัยของตลาดและนิสัยของเจ้าตลาดด้วยนะ จึงจะครอบคลุม ที่สำคัญอย่าลืมฝึกการจดบัทึกด้วยจะทำให้เราเห็นจุดแข็งจุดอ่อนของเราได้มากขึ้นนะฮะ แอดอยู่เป็นกำลังใจให้เสมอ
สูตรแห่งผลตอบแทนในตลาด Forex: Return = Cash + Beta + Alphaในโลกของการเทรด Forex ที่เต็มไปด้วยความผันผวนและไม่แน่นอน การเข้าใจว่าผลตอบแทนของเรามาจากอะไรคือหัวใจสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน สูตรนี้ไม่ใช่แค่เรื่องตัวเลข แต่มันคือแนวคิดที่ช่วยให้เราตระหนักถึงองค์ประกอบที่ขับเคลื่อนกำไรของเราในระยะยาว
💵 Cash
คือกระแสเงินสด หรือดอกเบี้ยพื้นฐานที่นักลงทุนสามารถได้รับ แม้ไม่ทำอะไรเลย เช่น การถือเงินสดในบัญชีเทรดที่มีดอกเบี้ย หรือการถือสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนคงที่ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ให้ความมั่นคงกับพอร์ตการลงทุน
📊 Beta
คือผลตอบแทนที่มาจากการเคลื่อนไหวตามตลาดหรือแนวโน้มใหญ่ของคู่เงิน หากตลาดเป็นขาขึ้นและคุณเปิด Buy ตามเทรนด์ นี่คือการเก็บผลตอบแทนจากกระแสหลัก ซึ่งไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์ซับซ้อน แต่ต้องอาศัยวินัยและความเข้าใจในเทรนด์ของตลาด
🚀 Alpha
คือผลตอบแทนส่วนเกินที่เกิดจากความสามารถเฉพาะตัวของเทรดเดอร์ เช่น การวิเคราะห์เชิงลึก, การเข้าออเดอร์ในจุดที่แม่นยำ, การบริหารความเสี่ยงแบบมืออาชีพ หรือกลยุทธ์เฉพาะที่สร้างความได้เปรียบเหนือคนอื่น Alpha เป็นสิ่งที่ยากที่สุดในการรักษา แต่มีคุณค่ามากที่สุด
🧘♂️ ความมั่นคงทางอารมณ์
จะเผยผลลัพธ์ออกมาในที่สุด การเทรดไม่ใช่แค่เรื่องกลยุทธ์ แต่คือเกมระยะยาวที่ต้องใช้จิตใจที่มั่นคง ความผันผวนในตลาดจะทดสอบอารมณ์ของคุณ และเฉพาะผู้ที่มีวินัยและความนิ่งเท่านั้นที่จะสามารถรักษา Alpha ได้ในระยะยาว
🧭 แนวทางการใช้งาน:
🟢 ผู้เริ่มต้นควรโฟกัสที่การบริหาร Cash และการตามเทรนด์ (Beta) ให้ดีเป็นลำดับแรก ก่อนจะพัฒนาเทคนิคเฉพาะเพื่อสร้าง Alpha
📝 ใช้การจดบันทึกผลการเทรด เพื่อแยกแยะว่าผลตอบแทนแต่ละส่วนมาจาก Cash, Beta หรือ Alpha
⚖️ พอร์ตควรถูกออกแบบให้มีสัดส่วนของแต่ละองค์ประกอบเหมาะสมตามสไตล์การเทรด เช่น เทรดเดอร์ระยะยาวอาจให้ความสำคัญกับ Beta มากกว่า Alpha
🤖 พิจารณาใช้ EA หรือระบบอัตโนมัติเพื่อเก็บผลตอบแทนจาก Beta อย่างมีวินัย และใช้เวลาศึกษาเพื่อเพิ่ม Alpha อย่างเป็นระบบ
📌 สรุป:
❗ อย่ามองแค่กำไร ให้มองที่คุณภาพของการเทรด
⚙️ พอร์ตที่ดีควรมีความสมดุลทั้ง Cash, Beta และ Alpha
🧠 การพัฒนาอารมณ์และ Mindset สำคัญเท่า ๆ กับกลยุทธ์ทางเทคนิค
การวิเคราะห์คลื่น Elliott – XAUUSD วันที่ 9 กรกฎาคม 2025
🔻 การวิเคราะห์โมเมนตัม
กรอบเวลา D1: โมเมนตัมกำลังเข้าใกล้เขต Oversold และอาจมีการกลับตัวขึ้นในวันนี้หรือพรุ่งนี้
กรอบเวลา H4: โมเมนตัมอยู่ในเขต Oversold แล้ว และเส้นทั้งสองเริ่มบีบเข้าหากัน แสดงให้เห็นว่าแรงขายกำลังอ่อนตัวลง ซึ่งเป็นสัญญาณของการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น
🌀 โครงสร้างคลื่น Elliott
ระดับราคา 3318 (โซนซื้อเดิม) ไม่สามารถรับแรงขายได้ แม้จะมีการดีดตัวขึ้นประมาณ 100 จุด ก่อนจะลดลงอีกครั้ง
ขณะนี้ราคากำลังเข้าใกล้ ขอบล่างของรูปสามเหลี่ยมแบบบีบตัว (contracting triangle) ซึ่งเป็นรูปแบบการปรับฐานแบบ abcde
ตามโครงสร้างคลื่น:
คลื่น d สีม่วงดูเหมือนว่าจะจบลงแล้ว
ตอนนี้ราคากำลังอยู่ในคลื่น e ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะจบที่บริเวณ 3279 ใกล้กับแนวรับล่างของสามเหลี่ยม
หากรูปแบบนี้ถูกต้อง คาดว่าเมื่อคลื่น e จบลงแล้ว ราคาจะทะลุขอบบนของสามเหลี่ยมและพุ่งขึ้นอย่างแรง
อย่างไรก็ตาม การเกิดรูปสามเหลี่ยมในช่วงปรับฐานแบบนี้อาจเป็นสัญญาณว่า แนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวใกล้จะสิ้นสุด
📌 แผนการเทรด
เนื่องจากรูปแบบสามเหลี่ยมมีลักษณะคลื่นซับซ้อนแบบ 3 คลื่น ความเสี่ยงจึงค่อนข้างสูง:
ควรลดขนาดล็อตในการเข้าเทรด หรือ
รอให้เกิดการ เบรกขึ้นจากสามเหลี่ยม อย่างชัดเจนก่อนค่อยเข้าเทรด
แผนการเทรดแนะนำ:
✅ โซนซื้อ (Buy Zone): 3280 – 3277
❌ จุดตัดขาดทุน (SL): 3270
🎯 จุดทำกำไร (TP):
TP1: 3309
TP2: 3342
TP3: 3390
การวิเคราะห์คลื่นเอลเลียต – XAUUSD – 8 มิถุนายน 2025🌀 โครงสร้างคลื่น Elliott กรอบเวลา: H4
ขณะนี้ราคามีลักษณะซ้อนทับกัน โดยเกิดรูปแบบคลื่นแก้ไขแบบ abc หลายชุด ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาณรบกวน ฉันจึงเปลี่ยนไปใช้การวิเคราะห์ในกรอบเวลา H4 เพื่อให้มองภาพรวมได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ตั้งแต่ระดับราคา 3500 ที่เริ่มต้นการปรับฐานจนถึงปัจจุบัน พบว่าราคาเคลื่อนไหวในรูปแบบคลื่น abc ที่ซ้อนทับกัน แทนที่จะเป็นคลื่นพุ่งแรงตามแนวโน้ม นี่แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ราคากำลังสร้าง รูปแบบสามเหลี่ยมแก้ไข abcde (สีเขียว) ตามที่แสดงในแผนภูมิ
ปัจจุบันราคาอาจอยู่ใน คลื่น d (สีเขียว) ซึ่งมีโครงสร้างภายในแบบ wxy (สีแดง)
การซื้อขายภายในรูปแบบสามเหลี่ยมนี้เป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากรูปแบบคลื่นแก้ไขมักจะสลับซับซ้อน และตอนนี้ราคาก็กำลังถูกบีบให้อยู่ใน โซนสภาพคล่องตาม Volume Profile ดังนั้น กลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือรอให้รูปแบบ abcde สมบูรณ์ก่อนจะตัดสินใจ
📉 โมเมนตัม
กรอบเวลา D1: ตัวชี้วัดโมเมนตัมเริ่มแสดงสัญญาณกลับตัวเป็นขาลง → มีแนวโน้มที่ราคาจะไซด์เวย์หรืออ่อนตัวลงในสัปดาห์นี้ (ปลายสามเหลี่ยมมักเกิดการบีบตัวของราคา จึงไม่มีแนวโน้มชัดเจน)
กรอบเวลา H4: โมเมนตัมก็แสดงสัญญาณกลับตัวเช่นกัน และมีแท่งเทียนแดงขนาดใหญ่ออกมา ดังนั้นจึงควร ให้ความสำคัญกับฝั่งขายในระยะสั้น จนกว่าโมเมนตัม H4 จะเข้าสู่เขต oversold
🎯 เป้าหมายราคา
ด้วยความที่เป็นโครงสร้างคลื่น abc ที่ซ้อนกัน การระบุเป้าหมายของคลื่นจึงทำได้ยาก ดังนั้นฉันใช้ Volume Profile เพื่อระบุระดับสำคัญแทน:
แนวต้าน 3342: เป็นขอบของโซนสภาพคล่องสูง-ต่ำ → เป็น โซนที่เหมาะสำหรับ Sell โดยมีโมเมนตัมจาก D1 และ H4 สนับสนุน
แนวรับ 3294: เป็นขอบล่างของโซนสภาพคล่องสูง → เป็น โซนที่เหมาะสำหรับ Buy และอาจเป็นจุดสิ้นสุดของคลื่น X (สีแดง)
🧭 แผนการเทรด
🔻 โซน Sell:
จุดเข้า: 3340 – 3342
SL: 3350
TP1: 3320
TP2: 3300
🔺 โซน Buy:
จุดเข้า: 3295 – 3293
SL: 3285
TP1: 3312
TP2: 3342
TP3: 3390
📌 ความคิดเห็นส่วนตัว:
ในช่วงนี้ ฉันจะเลือก รอดูจนกว่ารูปแบบสามเหลี่ยม abcde จะเสร็จสมบูรณ์ หรือมีสัญญาณยืนยันที่ชัดเจนขึ้น หากคุณจะทำการเทรด ควรเน้น การเทรดระยะสั้น และ ลดขนาดล็อตลง เพื่อบริหารความเสี่ยงในช่วงที่มีโครงสร้างซับซ้อนเช่นนี้
Naked Trading เทรดกราฟเปล่าไม่ใช้อินดี้ดีอย่างไร📘 Naked Trading เทรดกราฟเปล่าไม่ใช้อินดี้ดีอย่างไร
👉👉ถ้าคุณชื่นชอบการเทรดกราฟเปล่าเพราะอินดิเคเตอร์มันเยอะจนลายตา แวะมาอ่านบทความนี้ก่อน เพราะมันมีดีกว่าที่เห็นกราฟเปลือยๆเปล่าๆมาก อยากรู้แล้วสินะว่ามันดียังไง มาครับ ตามมาอ่านกันได้เลย👈👈
🔍 Naked Trading คืออะไร?
Naked Trading หรือการเทรดกราฟเปลือย หรือพูดง่ายๆก็คือการเทรดกราฟเปล่าๆที่มีแต่แท่งเทียนนั่นแหละฮะ เป็นการเทรดแบบไม่ใช้อินดิเคเตอร์ คือการวิเคราะห์กราฟด้วย “พฤติกรรมราคา” (Price Action) เป็นหลักโดยไม่ต้องพึ่งอินดิเคเตอร์หลายตัว เช่น RSI, MACD หรือ EMA
หลักการสำคัญของการเทรดกราฟเปลือยมีพื้นฐานมาจากหลักการดังต่อไปนี้:
- Price action analysis โดยการเน้นที่การเคลื่อนไหวของราคาแบบเรียลไทม์
- เน้นความเรียบง่ายและความชัดเจน ลดปัญหาการคิดเยอะ อินดี้ยิ่งเยออะยิ่งคิดไปไกล
- ใช้สัญชาตญาณช่วย อันนี้สำคัญ ต้องเทรดในตลาดมานานพอสมควรประสบการณ์ช่วยให้เราเข้าใจตลาดได้ดียิ่งขึ้น
- Price Movement การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคา รวมไปถึง Market Mood ในการอ่านอารมณ์ในตลาด การเทรดแบบนี้มักไม่มีสูตรตายตัวนะฮะ
✅ จุดเด่นคือ “ความเรียบง่าย” แต่ทรงพลัง
❌ ไม่มีเส้นมากมายมาบังกราฟ
✅ เข้าใจพฤติกรรมตลาดจากสิ่งที่ราคา “พูด” ด้วยตัวเอง
💡 ทำไมมือใหม่ควรเรียนรู้ Naked Trading?
1. เข้าใจโครงสร้างของราคาแบบแท้จริง
2. ไม่พึ่งอินดิเคเตอร์ lagging
3. เข้าออเดอร์และหาจังหวะทำกำไรได้ง่ายและเร็วขึ้นจากราคาจริง
4. ฝึกสมาธิ ความมีวินัย และการอ่านตลาดอย่างแท้จริง
5. ใช้ได้กับทุกตลาดและ Timeframe
🔑 หลักการพื้นฐานของ Naked Trading
1. โครงสร้างตลาด (Market Structure)
- ดูว่าเป็นขาขึ้น, ขาลง หรือ Sideway
- Higher High (HH), Higher Low (HL) → ขาขึ้น
- Lower High (LH), Lower Low (LL) → ขาลง
2. แนวรับแนวต้าน (Support / Resistance)
- จุดที่ราคากลับตัวบ่อย ๆ
- ใช้สำหรับดูว่า “ควรซื้อ/ขาย” บริเวณใด
3. พฤติกรรมแท่งเทียน (Candlestick Behavior)
- หาสัญญาณกลับตัว เช่น Pin Bar , Engulfing , Inside Bar
4. โซนสำคัญ (Key Zones)
ใช้บริเวณที่ราคาแสดงความลังเล (consolidation) หรือบริเวณที่เกิด Breakout แล้วกลับมาทดสอบ (retest)
🛠 วิธีสร้างระบบ Naked Trading สำหรับมือใหม่
✅ Step 1: TF แนะนำ H1 หรือ H4 สำหรับเริ่มต้น หรือ Daily สำหรับคนไม่ชอบเทรดบ่อย
✅ Step 2: สร้างแนวรับแนวต้าน ใช้จุด High/Low ที่ราคาแตะบ่อย ๆ วาดโซน ไม่จำเป็นต้องเป็นเส้นเดียว
✅ Step 3: รอแท่งเทียนส่งสัญญาณ เช่น Pin Bar ที่แนวรับ → Buy หรือ Engulfing บริเวณแนวต้าน → Sell
✅ Step 4: วางแผน Risk-Based Entry ตั้ง SL ใต้/เหนือโซน , ตั้ง TP ตาม RR 1:2 ขึ้นไป
❗️ข้อควรระวังสำหรับมือใหม่
1. การวาดและสร้างแนวรับแนวต้านมั่ว ให้เริ่มฝึกจาก Timeframe ใหญ่ก่อนเป็นหลักเช่น H4 / Daily
2. เมื่อเห็นสัญญาณแล้ว อย่าใจร้อนรีบเข้า ต้องรอให้ราคาปิดแท่งจบก่อนทุกครั้ง
3. การตั้ง SLควรต้องมีทุกครั้ง และคิดเป็น % ความเสี่ยงของพอร์ตเสมอ
4. ไม่เทรดบ่อยเกิน เน้นคุณภาพ ไม่ใช่ปริมาณการเข้าออเดอร์ถี่ๆ
🎓สรุปส่งท้าย
คือการ ฝึกเข้าใจตลาดจาก ราคาเพียงอย่างเดียว ไม่พึ่งสิ่งเสริม แต่เน้นการวิเคราะห์ที่ เรียบง่ายและมีเหตุผลเหมาะกับเทรดเดอร์สายวินัย สายเข้าใจ ไม่ใช่สายลุ้น หากคุณอยากเข้าใจตลาดจริง ๆ คุณต้องรื้ออินดิเคเตอร์ออก แล้วเริ่มมองราคาจริงด้วยแท่งเทียน
SMC Trap ในตลาด Forex: กับดักที่ Smart Money วางไว้ให้คุณติด`📌 `SMC Trap คืออะไร?`
**SMC Trap** (Smart Money Concept Trap) คือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อราคาทำ "เหมือนว่า" จะเบรกโซนสำคัญ เช่น **liquidity zone**, **order block**, หรือ **breaker structure** แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียง "กับดัก" เพื่อหลอกให้รายย่อยเข้าเทรดผิดทิศ แล้ว Smart Money จะกลับทิศสวนเพื่อกิน Stop Loss หรือเก็บ Liquidity
💡 `ทำไม SMC Trap ถึงเกิดขึ้นบ่อย?`
- **ตลาดส่วนใหญ่ถูกควบคุมโดยสถาบัน** ที่ต้องการ "สภาพคล่อง" (liquidity) เพื่อเข้าออเดอร์ใหญ่
- **เทรดเดอร์รายย่อย** มักเรียนรู้รูปแบบเหมือนกัน เช่น รอเบรก Order Block แล้วเข้าเทรด
- เมื่อมี Stop Loss จำนวนมากสะสมอยู่ที่จุดใดจุดหนึ่ง — Smart Money จะเข้าโจมตีจุดนั้น!
📌 `ตัวอย่างรูปแบบของ SMC Trap`
1. **Fake Break of Structure (Fake BOS):**
- ราคาทะลุ High หรือ Low ก่อนหน้าแบบหลอก ๆ แล้วกลับตัวทันที
2. **Mitigation Trap:**
- ราคาแตะ Order Block เก่าแล้วดีดตัวเล็กน้อย → หลอกให้เข้า Buy/Sell → จากนั้นกลับทิศทันที
3. **Liquidity Sweep:**
- ราคาวิ่งเก็บ Stop Loss ของเทรดเดอร์ก่อนจะวิ่งกลับเข้าทิศทางเดิมที่ Smart Money ต้องการ
- มองหา “Equal High/Low” หรือบริเวณที่มี Stop Loss สะสม → หลบหลีกแทนที่จะเข้าเทรด
📌 `สรุป:`
**SMC Trap** เป็นเครื่องมือของ Smart Money ในการ “หลอก” เทรดเดอร์ที่ไม่เข้าใจโครงสร้างตลาดจริง ๆ การเรียนรู้เรื่องกับดักเหล่านี้จึงเป็นส่วนสำคัญของการอยู่รอดในระยะยาว หากคุณเข้าใจว่า "สิ่งที่ดูชัดเจนใกราฟ" อาจจะเป็น "กับดัก" — คุณก็จะไม่ตกเป็นเหยื่ออีกต่อไป
วิเคราะห์ทางเทคนิค SET@DAY (ข้อมูลสิ้นสุดวันที่ 03/07/2025)วิเคราะห์ทางเทคนิค SET@DAY (ข้อมูลสิ้นสุดวันที่ 03/07/2025)
🧭 Overview
SET มีการกลับตัวขึ้นอย่างชัดเจนจากแนวรับบริเวณ 1067.8 จุด (GAP เปิดวันที่ 23/06/25) และเกิด คลื่น 5 ย่อยสมบูรณ์ ตามโครงสร้าง Elliott Wave โดยมีแนวโน้มว่าเกิด W-Pattern (Extended W) ซึ่งชี้ให้เห็นถึงโอกาสการกลับตัวขาขึ้นในระยะสั้นถึงกลาง
โครงสร้างคลื่นปัจจุบัน และการดีดกลับมาที่แนว 1127.21 จุด (Fib 0.382 ของคลื่นลงก่อนหน้า) เป็นสัญญาณแรกของการฟื้นตัวหลังเกิด "Selling Exhaustion" หรือภาวะขายจนหมดแรง
________________________________________
🔑 Key Levels (แนวรับ-แนวต้านสำคัญ)
ระดับ จุด ความหมาย
1067.8 GAP Support แนวรับสำคัญมาก หากหลุดอีกครั้ง เสี่ยงกลับตัวล้มเหลว
1100-1105 Fib 0.146-0.236 แนวต้านย่อยแรก (Break แล้ว Confirm ขาขึ้นระยะสั้น)
1121-1127 Fib 0.382 + ปิดวันล่าสุด แนวต้านจิตวิทยาและรีเทสต์ W pattern
1142-1163 Fib 0.5–0.618 โซน Pullback ปกติ หากเป็นเพียงรีบาวด์
1183-1210 Fib 0.786–0.886 โซนล้าง short ก่อน correction ใหญ่
1231 1.0 Fib Target เป้า Recovery หากเข้าสู่ขาขึ้นเต็มรูปแบบ
________________________________________
📈 Trade Scenarios (แนวโน้มและพฤติกรรมที่อาจเกิดขึ้น)
✅ Scenario 1: ฟื้นตัวต่อเนื่อง → เป้าหมาย 1142–1163 (Bias: 60%)
• ยืนเหนือ 1127 ได้ และเบรกแนวต้าน Fib 0.382
• ราคาจะวิ่งต่อสู่ Fib 0.5–0.618 (1142–1163)
• ปริมาณซื้อ (Volume) ต้องสนับสนุน พร้อม bullish candle หรือ gap break
กลยุทธ์: รอ pullback กลับมาแถว 1105–1110 เข้าซื้อเพิ่ม พร้อม SL ใต้ 1090
Risk-Reward: คุ้มค่า ~1:2–1:3 หากเข้าแถวแนวรับต่ำ
________________________________________
⚠️ Scenario 2: Sideways / Rejection ที่ 1127 → ย่อตัวกลับ 1095–1079 (Bias: 30%)
• SET ขึ้นทดสอบแนวต้านแล้วไม่ผ่าน, เกิด bearish rejection bar
• เข้าสู่ช่วง Sideways เพื่อสะสมแรง
• มีโอกาสย่อลงมารีเทสต์แนว 1095 / 1079 (Fib 0.146)
กลยุทธ์: Wait & See / เล่นย่อสั้น ๆ พร้อม SL ใต้ 1067
สัญญาณเข้าซื้อใหม่: หากเห็น bullish divergence ที่แนวรับล่าง
________________________________________
❌ Scenario 3: หลุด GAP 1067 → แนวโน้มกลับสู่ขาลงต่อ (Bias: 10%)
• กรณีที่ราคาหลุดต่ำกว่า 1067 แบบมี volume สูง
• จะยืนยันว่า rebound นี้เป็น bull trap
• เป้าหมายใหม่อยู่แถว 1053 หรือ low ใหม่ของปี
กลยุทธ์: รอดูพฤติกรรมแถวแนวรับ / ไม่ควรถือ Long
________________________________________
🔍 สรุปเชิงเทคนิค
• SET มีการ Break จากโครงสร้างคลื่น 5 ลงที่สมบูรณ์แล้ว
• Pattern "Extended W" เริ่มทำงาน โดยเป้าหมายแรกคือ 1142–1163
• ระยะสั้นสามารถย่อลงก่อนสะสมแรง
• 1127 จุด คือแนววัดใจสำคัญ หากผ่านได้ โอกาสเปิดไปโซนบนมีสูง
วิเคราะห์คลื่นเอลเลียต – XAUUSD วันที่ 7 มีนาคม 2025
🌀 โครงสร้างคลื่นเอลเลียต
จากกราฟ H1 เราจะเห็นว่า คลื่นที่ 3 ได้สิ้นสุดลงแล้ว และราคากำลังเข้าสู่ช่วงที่มีโครงสร้างไม่ปกติ
คลื่นที่ 3 เคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องและชัน แทบไม่มีการย่อตัวอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของคลื่นส่ง จากนั้นราคาได้มีการปรับฐานในรูปแบบ คลื่น abc สีดำ บ่งบอกถึงจุดสิ้นสุดของคลื่น 3
แม้ว่าข่าว ADP เมื่อวานนี้ออกมาดีมาก ซึ่งควรจะหนุนราคาทองให้พุ่งขึ้น แต่ราคาทองกลับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ทะลุจุดสูงสุดของคลื่น 3 ไปนิดหน่อยก่อนจะย่อตัวในช่วงเช้าวันนี้ นอกจากนี้คลื่นขาขึ้นล่าสุดมีโครงสร้างเป็น คลื่น 3 ย่อยแบบ abc สีเขียว และตอนนี้ราคากำลังเคลื่อนไหวซ้อนทับกัน ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน
🧩 สิ่งเหล่านี้บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้สูงว่า:
🔹 คลื่นที่ 5 กำลังพัฒนาในรูปแบบ Ending Diagonal – โครงสร้างคลื่น 5 ที่ประกอบด้วยคลื่นย่อยแบบ 3-3-3-3-3
🔹 รูปแบบนี้มักปรากฏในช่วงปลายของเทรนด์ขาขึ้น และตามมาด้วยการกลับตัวแรง
แม้ว่ายังเร็วเกินไปที่จะสรุปแน่ชัด แต่ ควรเฝ้าสังเกตพฤติกรรมราคาต่อไปอย่างใกล้ชิด เพราะหากรูปแบบนี้สมบูรณ์ จะเป็นโอกาสที่ดีในการเปิด Sell
🎯 เป้าหมายของคลื่น 5: บริเวณ 3395 โดยต้องมีคลื่นย่อยครบทั้ง 5 คลื่น
⚠️ หากราคาลงต่ำกว่า 3324 นั่นอาจหมายถึงโครงสร้าง 5 คลื่นสิ้นสุดแล้ว และราคากำลังก้าวเข้าสู่ คลื่นปรับฐาน abc ใหม่
🔍 การวิเคราะห์โมเมนตัม
กรอบ D1: โมเมนตัมใกล้จะกลับตัวลงจากเขต overbought → ขาขึ้นเริ่มอ่อนแรง
กรอบ H4: โมเมนตัมเตรียมกลับตัวขึ้น → อาจมีการแกว่งตัวหรือขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ ก่อนที่ H4 จะเข้าสู่เขต overbought
📌 แผนการเทรด
ในสถานการณ์ที่โครงสร้างคลื่นยังไม่ชัดเจน และมีสัญญาณผิดปกติหลายประการ กลยุทธ์หลักคือการรอคอยเพื่อหาสัญญาณยืนยันก่อนลงมือเทรด หากรูปแบบ Ending Diagonal ได้รับการยืนยัน จะเป็นจุดเข้า Sell ที่น่าสนใจ
โซน SELL: 3392 – 3395
Stop Loss: 3403
Take Profit:
• TP1: 3368
• TP2: 3340
• TP3: 3324
วิเคราะห์คลื่นเอลเลียต – XAUUSD | 7 กุมภาพันธ์ 2025
🌀 โครงสร้างคลื่นเอลเลียต (กรอบเวลา H1)
จากโครงสร้างราคาปัจจุบัน เราจะเห็นว่าราคากำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและชัน ซึ่งบ่งชี้ถึงการก่อตัวของ คลื่นแรงกระตุ้นแบบ 5 คลื่น
รายละเอียด:
คลื่น 1, 2 และ 3 (สีเขียว) ดูเหมือนว่าจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ปัจจุบัน คลื่น 4 กำลังอยู่ในระหว่างการก่อตัว โดยมีลักษณะเป็น คลื่นปรับฐาน 3 คลื่น (abc สีดำ)
เมื่อคลื่น 4 สิ้นสุด เราคาดว่าจะเกิดการปรับตัวขึ้นต่อไปเป็น คลื่น 5 ซึ่งจะเป็นการจบโครงสร้างคลื่น 5 คลื่น (สีเขียว) ทั้งหมด
🎯 เป้าหมายราคาที่เป็นไปได้ของคลื่น 4
จากโครงสร้างคลื่น abc และแนวรับสำคัญ เราระบุโซนเป้าหมายที่มีศักยภาพได้ 2 จุด:
เป้าหมายที่ 1: 3324
เป้าหมายที่ 2: 3311
หากราคาทะลุจุดสูงสุดของคลื่น b (สีดำ) ได้ นั่นจะเป็นสัญญาณยืนยันที่ชัดเจนว่าคลื่น 4 ได้สิ้นสุดแล้ว และคลื่น 5 กำลังเริ่มต้น
📈 การวิเคราะห์โมเมนตัม
กรอบ D1: โมเมนตัมยังคงเป็นขาขึ้น และน่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2–3 วันในการเข้าสู่เขตซื้อมากเกินไป (Overbought) ซึ่งสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น
กรอบ H4: โมเมนตัมกำลังจะกลับตัวขึ้น ซึ่งอาจหมายความว่าคลื่น 4 ใกล้สิ้นสุดแล้ว
กรอบ H1: โมเมนตัมก็มีแนวโน้มจะกลับตัวขึ้นเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าราคาใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของช่วงปรับฐานคลื่น 4
💼 แผนการเทรด
โซนซื้อ (BUY ZONE): 3325 – 3322
จุดตัดขาดทุน (STOP LOSS): 3215
ทำกำไรที่ 1 (TP1): 3345
ทำกำไรที่ 2 (TP2): 3368
ทำกำไรที่ 3 (TP3): 3395
📌 รอให้โมเมนตัมของ H1 และ H4 เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันก่อนเข้าสถานะซื้อ (BUY) สำหรับคลื่น 5
วิเคราะห์คลื่น Elliott – XAUUSD ประจำวันที่ 30 มิถุนายน 2025
🌀 โครงสร้างคลื่น Elliott
บนกราฟ H1 เราสังเกตเห็นโครงสร้างการปรับฐานแบบ ซิกแซกคู่ WXY (สีแดง) และในขณะนี้ คลื่น Y ดูเหมือนกำลังพัฒนาเป็น โครงสร้าง abc สีเขียว
ภายในโครงสร้าง abc นี้:
- คลื่น a เริ่มต้นด้วยรูปแบบ สามเหลี่ยมเริ่มต้น (leading diagonal) แบบ 5 คลื่น
- คลื่น b เป็นโครงสร้างการปรับฐานแบบ abc ปกติ (สีดำ)
- คลื่น c แสดงให้เห็นโครงสร้าง ห้าคลื่นแบบเร่ง อย่างชัดเจน โดยราคามีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและลาดชัน
ประเด็นสำคัญตอนนี้คือ เราต้องพิจารณาว่า:
- ราคานั้น จบคลื่น 5 สีดำแล้วหรือไม่, หรือ
- เพียงแค่ จบคลื่น 3 สีดำ ในคลื่น c สีเขียวเท่านั้น
👉 ถ้าการเคลื่อนไหวปัจจุบันคือคลื่น 3 สีดำ เราจะคาดหวังว่าจะเกิด คลื่น 4 (ปรับฐาน) ตามด้วยการลดลงอีกหนึ่งช่วงเพื่อ จบคลื่น 5 ซึ่งในกรณีนี้ คลื่น 5 จะได้รับการยืนยันเมื่อราคาทะลุระดับ 3255 ลงมา โดยมี เป้าหมายที่เป็นไปได้ 2 โซน สำหรับคลื่น 5 ได้แก่:
- โซนที่ 1: 3247
- โซนที่ 2: 3224
👉 ถ้าคลื่น 5 จบลงแล้ว การดีดตัวขึ้นไปที่ 3283 อาจเป็น คลื่น 1 ของแนวโน้มขาขึ้นใหม่ ส่วนการย่อตัวลงต่อไปจะเป็น คลื่น 2 โดยมีโซนเป้าหมายที่คาดไว้ระหว่าง 3266 – 3261
⚡ วิเคราะห์โมเมนตัม
กรอบเวลา D1: โมเมนตัมอยู่ในโซน Oversold (ขายมากเกินไป) ซึ่งบ่งบอกถึง แนวโน้มขาขึ้นที่อาจเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า สนับสนุนแนวคิดว่าคลื่น c สีเขียวในคลื่น Y สีแดง กำลังเข้าสู่ช่วงท้าย
กรอบเวลา H4: โมเมนตัมกำลังแสดง สัญญาณกลับตัวขึ้น ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการดีดตัวรอบนี้อาจยังคงดำเนินต่อไป ทำให้ยังไม่ชัดเจนว่าจบคลื่น 3 หรือ 5 แล้ว
🧭 แผนการเทรด
📍 BUY ZONE 1
จุดเข้า: 3264 – 3261
จุดตัดขาดทุน (SL): 3254
เป้าหมายกำไร (TP):
TP1: 3283
TP2: 3297
TP3: 3315
📍 BUY ZONE 2
จุดเข้า: 3247 – 3244
จุดตัดขาดทุน (SL): 3237
เป้าหมายกำไร (TP):
TP1: 3283
TP2: 3297
TP3: 3315
⚠️ ข้อควรระวังสำคัญ
แผนการเทรดนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่า คลื่น 3 หรือคลื่น 5 ได้สิ้นสุดแล้ว ดังนั้น หากในช่วงตลาดเอเชีย ราคายังไม่แตะโซน 3264 – 3261 แต่กลับดีดขึ้นทะลุ 3283 โดยไม่สามารถปิดเหนือระดับ 3297 ได้ และจากนั้นร่วงลงต่ำกว่า 3283 เราควร หลีกเลี่ยงการเข้า BUY ที่โซน 3264 – 3261
ในกรณีนี้ ควรรอจังหวะเข้าซื้อที่โซน 3247 – 3244 แทน
Risk-Based Entry: กลยุทธ์เทรดที่เริ่มจากการป้องกันความเสี่ยงRisk-Based Entry: กลยุทธ์เทรดที่เริ่มจากการป้องกันความเสี่ยง
👉👉เคยไหมที่ยิ่งป้องกันความเสี่ยง ยิ่งตั้ง SL เงินยิ่งหดหาย เอ๊ะทำไมเงินมันเสียมากกว่าได้นะ มาครับ มาลองอ่านบทความนี้กันแล้วเราจะเอ๊ะน้อยลง👈👈
📌 Risk-Based Entry คืออะไร?
Risk-Based Entry คือ กลยุทธ์การเข้าเทรดโดยพิจารณาความเสี่ยง (Risk) เป็นจุดเริ่มต้นของทุกการตัดสินใจ พูดง่ายๆก็คือ
"เทรดจากจุดที่ถ้าแพ้ เรารับไหว และถ้าชนะ มันคุ้มค่ากับที่เราเสี่ยง"
กลยุทธ์การเข้าเทรดรูปแบบนี้ ไม่ใช่แค่ดูสัญญาณเข้าที่แม่นยำอย่างเดียวแต่ให้ความสำคัญกับ
1. การวาง Stop Loss (SL) ที่เหมาะสม
2. การคำนวณขนาดล็อต (Position Size)
3. การประเมิน Risk/Reward Ratio
4. การเลือกจุดเข้าที่ “คุ้มค่า” ที่สุดสำหรับเงินทุน
🎯 ทำไม Risk-Based Entry ถึงสำคัญ?
✅ ควบคุมการขาดทุน ช่วยให้ขาดทุนอยู่ในกรอบที่ยอมรับได้
✅ มีวินัย ทำให้เทรดเดอร์ไม่ไล่ราคา
✅ ลดความเครียด เพราะรู้ล่วงหน้าว่าเสียได้เท่าไหร่
✅ ปรับจุดเข้าให้เหมาะกับทุน ไม่ Overtrade หรือ Undertrade
วิธีใช้ Risk-Based Entry แบบ Step-by-Step
✅ 1. ระบุ “Risk Amount” ต่อการเทรด
กำหนดความเสี่ยงเป็น % ของพอร์ต เช่น:
ทุน 10,000 บาท
เสี่ยงครั้งละ 1% = 100 บาท
✅ 2. หาจุดเข้า (Entry) และ Stop Loss (SL)
เช่นในคู่ EUR/USD:
จุดเข้า Buy ที่ 1.0800
SL ที่ 1.0780 (ห่าง 20 pips)
✅ 3. คำนวณ Position Size
ใช้สูตร:
Position Size = เงินที่เสี่ยง ÷ จำนวน pips × pip value
ตัวอย่าง:
เงินที่เสี่ยง: 100 บาท
SL = 20 pips
1 lot = 10 USD/pip → 0.01 lot = 0.1 USD/pip ≈ 3.5 บาท/pip
→ เปิดขนาด 0.14 lot (ประมาณ)
สามารถใช้เครื่องคำนวณ Lot เช่น:
myfxbook Position Size Calculator
หรือแอป MT4/MT5 + สูตรคำนวณเอง
✅ 4. ตั้ง TP ตาม Risk/Reward ที่ต้องการ
เช่น RR = 1:2
SL = 20 pips → TP = 40 pips
หากเข้า 1.0800 → TP = 1.0840
✅ 5. ประเมิน “คุณภาพของจุดเข้า”
มีแนวรับแนวต้านไหม?
มี OB หรือ FVG รองรับไหม
ตลาดมี Volume หรือข่าวใหญ่ไหม?
หากไม่มี → รอจังหวะที่ Risk คุ้มค่ากว่า
💡 เคล็ดลับการใช้ Risk-Based Entry ให้ได้ผล
1. ใช้ร่วมกับ SMC หรือโครงสร้างราคา จะช่วยเลือกจุดเข้าได้แม่นยำขึ้น
2. ฝึกวาง SL อย่างมีเหตุผล ไม่ตั้งมั่ว ไม่ใช้ SL แคบเกินไป
3.เทรดเฉพาะจุดที่ได้ RR > 1:2 เพื่อให้ชนะน้อยครั้งแต่ยังมีกำไรระยะยาว
4.จดบันทึกเทรด (Trading Journal) เพื่อวัดว่า Risk-Based Entry ของคุณใช้ได้จริงไหม
สรุปส่งท้าย
Risk-Based Entry ไม่ได้ช่วยแค่เรื่อง “ความแม่น” แต่คือการ สร้างรากฐานที่มั่นคงในการอยู่รอดในตลาด และเราเองก็อาจจะไม่ได้รวยเร็ว แต่เงินในพอร์ตของเรามันจะไม่หมดง่ายๆนั่นเองฮะ อยากเก่งและรวยแบบมั่นคงอย่าลืมเอาเทคนิคนี้ไปช่วยในการเทรดนะฮะ แดชื่อเลยว่า เราจะเทรดแบบ ทั้งแม่นและมั่นคง แน่นอน
วิธีเทรดด้วยเทคนิค AMD ในการเทรด Forexเข้าใจพฤติกรรมของราคา เพื่อเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ
📌 เทคนิค AMD คืออะไร?
เทคนิค AMD ย่อมาจาก 3 ขั้นตอนหลักของพฤติกรรมราคาที่นักเทรดสายโครงสร้างหรือ Smart Money นิยมใช้ คือ:
A – Accumulation (สะสม)
M – Manipulation (หลอกลวง/ดึงราคา)
D – Distribution (กระจาย/แจกจ่าย)
แนวคิดของ AMD ช่วยให้เราเข้าใจว่า ตลาดไม่ได้เคลื่อนไหวแบบสุ่ม แต่มี "เจตนา" ของผู้เล่นรายใหญ่ (Big Player) อยู่เบื้องหลัง
🔄 รายละเอียดแต่ละขั้นตอน
1️⃣ A - Accumulation (การสะสม)
ช่วงนี้คือช่วงที่ Smart Money หรือรายใหญ่กำลังซื้อ/ขายเงียบ ๆ ก่อนราคาจะเคลื่อนตัวแรง
ลักษณะเด่น:
ราคาเคลื่อนในกรอบแคบ ๆ (sideway)
ปริมาณการเทรดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แบบไม่เด่นชัด
ไม่มีทิศทางชัดเจน
กลยุทธ์:
ไม่ควรเข้าเทรดทันที รอให้ราคามีสัญญาณ Breakout
2️⃣ M - Manipulation (การหลอกลวง/ลากราคา)
เป็นช่วงที่ รายใหญ่สร้างความสับสน ด้วยการ "หลอก" เทรดเดอร์ให้คิดผิด
ตัวอย่างเช่น:
เบรกเทรนด์ไลน์/แนวต้านปลอม (Fake Breakout)
ดึงราคาขึ้นไปชน SL ของคนขาย ก่อนเทกลับลง
กลยุทธ์:
อย่าหลงกับสัญญาณแรก ดูว่ามี “การกลับตัวหลังเบรก” หรือไม่
มองหาจุดเข้าออเดอร์บริเวณ Liquidity Zone หรือ Stop Hunt
3️⃣ D - Distribution (การกระจาย/แจกจ่าย)
หลังจากหลอกสำเร็จ รายใหญ่จะเริ่มปล่อยของ (Take Profit)
ราคาเริ่มวิ่งตามทิศทางจริงอย่างรวดเร็ว
มักเกิดแท่งใหญ่ ๆ มี Volume หนาแน่น
โอกาสในการเทรดมาถึง
กลยุทธ์:
เข้าเทรดตามเทรนด์ที่เกิดหลัง Manipulation
ตั้งเป้า Take Profit ตามแนวรับ-แนวต้านสำคัญ หรือใช้ Risk:Reward
🧠 วิธีวิเคราะห์และนำไปใช้จริง
ดูโครงสร้างราคา (Market Structure) ว่าอยู่ในช่วงใดของ AMD
ใช้ Timeframe ใหญ่ (เช่น H1, H4, D1) เพื่อดูพฤติกรรมรวม
หาโซนสะสม (Accumulation Zone) แล้วตีกรอบ
รอดูการ Break และ Manipulate พร้อมรอให้ราคายืนยัน
เข้าเทรดเมื่อมี Confirmation เช่น Break Structure หรือ Engulfing
ตั้ง SL และ TP ให้เหมาะสมเสมอ
🎯 ข้อดีของเทคนิค AMD
✅ ช่วยให้เข้าใจเจตนาของตลาด
✅ ไม่หลงกล Fake Signal ง่าย ๆ
✅ ปรับใช้ได้กับทุก Timeframe และคู่เงิน
⚠️ ข้อควรระวัง
อย่าคิดว่าทุกกราฟจะมี AMD ชัดเจน
ต้องฝึกการอ่านโครงสร้างราคาอย่างต่อเนื่อง
เทคนิคนี้ต้องอาศัย ความอดทน และ วินัยสูง
📚 สรุป
เทคนิค AMD คือแนวคิดที่ช่วยให้เราเทรด Forex อย่างมีเหตุผลและเข้าใจตลาดลึกขึ้น โดยพิจารณาจากพฤติกรรมของผู้เล่นรายใหญ่ ไม่ใช่แค่ตาม Indicator อย่างเดียว
27/06/25 กราฟ XAUUSD รายสัปดาห์ (Weekly) 27/06/25 กราฟ XAUUSD รายสัปดาห์ (Weekly) ที่ใช้การวิเคราะห์ด้วย Fibonacci Retracement และพิจารณาโซน 78.6% – 88.6%
ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการวิเคราะห์พฤติกรรมราคาในรอบใหญ่ อ่านได้ดังนี้
________________________________________
✅ วิเคราะห์ XAUUSD (WEEKLY) ด้วย Fibonacci
🟡 1. โครงสร้างหลักของกราฟ
• ช่วงราคาที่ลาก Fibonacci:
จากจุดต่ำสุดรอบใหญ่ (บริเวณ ~3,120) → ถึงจุดสูงสุดรอบล่าสุด (บริเวณ ~3,603)
• Fibonacci Retracement ที่เด่น:
o 78.6% - 88.6%: โซนสีเหลืองที่ราคาย้อนขึ้นมาทดสอบ
o 50%, 61.8%: เป็นระดับกลางที่เคยเป็นฐานพัก
o 38.2%, 23.6%: แนวรับที่กำลังเข้าใกล้
________________________________________
🔍 2. สถานการณ์ล่าสุด (ตามกราฟ)
• ราคาดีดขึ้นมาถึง โซน 78.6%–88.6% แล้วเกิดแรงขาย (แท่งเทียนแดงแรง)
• มีการทำ High ใหม่เล็กน้อยก่อนถูก “Reject” แรง
• ปัจจุบันกำลังลงมาทดสอบโซน 38.2%–23.6% (แนวรับระหว่าง ~3,210–3,266)
________________________________________
📌 3. ข้อสังเกตสำคัญ
โซน Fibonacci ความหมาย สถานะ
88.6% Zone หลอกสุดท้ายก่อนกลับตัว 🟥 ถูกปฏิเสธอย่างชัดเจน
78.6% Very High Probability Reversal Zone ⛔ พิสูจน์ว่าเป็น Sell Zone
50%–61.8% Mid-Zone พักตัว ✅ เคยเป็นฐานก่อนดีดขึ้น
38.2% Low Probability Zone 🔽 ราคาใกล้ลงถึง
23.6% Minor Zone สุดท้าย 🔽 มีโอกาสทดสอบ
________________________________________
📊 4. ความเป็นไปได้ถัดไป
📉 ถ้าไม่รับอยู่ที่ 3210–3266
• อาจหลุดลงลึกถึงโซน 14.6% – 9.0% (~3,176 – 3,154)
• ซึ่งตรงกับ Demand Zone เดิม (จากแท่งเทียนพ.ค.)
📈 ถ้ามีแรงดีดกลับจาก 3210
• อาจกลับขึ้นไปรีเทสต์ 50% / 61.8% (~3,310 – 3,355)
• แต่หากไม่สามารถเบรกผ่าน 3,400 ได้อีกครั้ง ก็ยังถือว่าแนวโน้มพักตัวอยู่
________________________________________
🔺 ข้อควรระวัง:
• แรงเทขายจาก 88.6% บ่งชี้ว่าเป็น “ภาวะจบคลื่นรีบาวด์” มากกว่าจะเป็นเทรนด์ขาขึ้นต่อ
• ต้องดูว่าแท่งเทียน Weekly ปิดเหนือ 3,210 ได้หรือไม่ในรอบนี้
________________________________________
🧠 สรุปกลยุทธ์:
สถานการณ์ กลยุทธ์ที่ควรใช้
ยืนเหนือ 3210 ได้ รอแท่งกลับตัว → ลองเก็บ swing ขึ้น
หลุด 3210 หาจังหวะ short หรือรอเข้าซื้อที่ 3,176–3,154
กลับขึ้นไปชน 3,400 อีกครั้ง Zone ขายซ้ำ (Distribution)
เวฟเอลเลียต – แผนการเทรด XAUUSD วันที่ 26 มิถุนายน 2025
🌀 โครงสร้างคลื่น
ในกราฟ H1 เดิมเราคาดว่าราคาจะเคลื่อนที่ใน คลื่นที่ 3 สีเขียว แต่ราคาปัจจุบันไม่ได้แสดงลักษณะของคลื่น 3 ที่แข็งแกร่งและชัดเจน ตรงกันข้ามกลับมีการ ซ้อนทับของคลื่นย่อยจำนวนมาก ทำให้เกิด 2 แนวโน้มหลักที่เป็นไปได้:
🔹 กรณีที่ 1 – คลื่นปรับฐาน abc สีดำ:
ขณะนี้ราคากำลังสร้าง คลื่น c สีดำ ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบ diagonal สิ้นสุด (ending diagonal)
➡️ สัญญาณยืนยัน: หากมีการ ร่วงแรงและรวดเร็ว ทะลุระดับ 3297 แสดงว่าคลื่น c ได้สิ้นสุดแล้ว
🎯 เป้าหมาย: 3352 – 3356
🔹 กรณีที่ 2 – คลื่น 1 รูปแบบ diagonal เริ่มต้น:
ราคาอาจกำลังสร้าง คลื่น 1 ในรูปแบบ diagonal (3-3-3-3-3) โดยขณะนี้อยู่ใน คลื่นที่ 3 หรือ 4
➡️ เมื่อคลื่น 1 เสร็จสิ้น คาดว่าจะมีการ ปรับฐานกลับมาที่ระดับ Fibonacci 0.618
🎯 เป้าหมายสิ้นสุดของคลื่น 1: 3352 – 3356
📉 โมเมนตัม
D1: โมเมนตัมกำลังกลับตัวขึ้นจากโซน oversold – บ่งชี้ว่าแรงขายอ่อนลง และอาจเข้าสู่ช่วงขาขึ้นต่อเนื่อง 5 วัน
H4: โมเมนตัมกำลังจะกลับตัวลงจากโซน overbought – ต้องจับตาพฤติกรรมราคาวันนี้ โดยเฉพาะช่วงข่าวค่ำ
➡️ หากราคาเคลื่อนในรูปแบบ wedge → แนวโน้มเป็น diagonal เริ่มต้น
➡️ หากราคาร่วงทะลุ wedge → แนวโน้มเป็น abc correction
🧭 แผนเทรด:
🔻 จุดขาย: 3352 – 3355
⛔ SL: 3362
🎯 TP1: 3333
🎯 TP2: 3323