ภาพประกอบ
แผนภูมิ Bitcoin Fibonacci รายสัปดาห์กราฟ Bitcoin BTC Fibonacci รายสัปดาห์ ซึ่งประกอบด้วย Bitcoin ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ราคาสูงสุดและต่ำสุด ระดับแนวรับและแนวต้าน ระดับการฝ่าวงล้อมและระดับการฝ่าวงล้อม ระดับการฟื้นตัวและการย้อนกลับ ระดับตลาดกระทิง ราคาตลาดหมี เช่น ตราบเท่าที่คุณรู้วิธีใช้ รูปภาพนี้คือเครื่องพิมพ์เงินของคุณ ข่าวตลาด cryptocurrency กำลังบินไปทั่วท้องฟ้า เป็นการดีกว่าที่จะยืนหยัดด้วยบรรทัดไม่กี่บรรทัดและฟังผู้อื่นจำนวนมาก จะเป็นการดีกว่าสำหรับคุณ เข้าใจภาพนี้ของ Satoshi Nakamoto
Bitcoin BTC พัดลมลาดพัดลมลาดเอียงของ Bitcoin ซึ่งมีสีเขียว สีฟ้า และสีแดง รังสีมุมกว้างพิเศษรูปพัดสามตัว สามารถใช้เป็นแนวรับหรือแนวต้านได้ นอกจากนี้ยังใช้เป็นด้านบนและด้านล่างเมื่อราคาถูกต้อง Bitcoin Coins จะสัมผัส หนึ่งในเส้นตรง ดังนั้นคุณจึงสามารถซื้อขายได้อย่างแม่นยำด้วยแผนภูมินี้โดยไม่ต้องลากเส้น
XNGUSDการวิเคราะห์ประจำวัน 03/11/2022 by TraderTanข่าวต่างประเทศ 📊
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 500 จุดในวันพุธ (2 พ.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกต่อไป เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก
cr.ryt9
Trading note: ✅
📈Sell : 6.3000
✅ Tp: 6.0248
❗ SL: 5.9044
เหตุผลในการเข้าเทรด: 💬
เทรนหลักยังเป็นเทรนลง และ ราคายังอยู่ในกรอบพักราคา และสร้างสร้างกราคาสามเหลี่ยม ให้เล่น sideway โดยมีเป้าหมายราคากรอบล่างของกรอบสามเหลี่ยม
RSI: หักหัวลง ให้หาจังหวะเข้าขาย โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
💭 ประสบการณ์: การเทรดรูปแบบ sideway สามารรถเข้าได้ 2 ตำแหน่ง นั้นคือ การเข้าซื้อ ภายในกรอบพักราคา หรือ รอให้ราคา Breakout และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว หรือ สายสวนเทรน ตามเทรน สามารถที่จะประยุกต์ได้หลอกหลาย
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
🙏“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
🙏 “กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 2/11/2022 by TraderTanข่าวต่างประเทศ 📊
เจ้ามือรายใหญ่ที่ซื้อ Bitcoin เมื่อเดือนก่อน ยังคง ‘HODL’ แม้มีโอกาสขายทำกำไรหลังราคาพุ่งกว่า 8%
จากข้อมูล On-chain แสดงให้เห็นว่า เจ้ามือรายใหญ่ของ Bitcoin ที่ได้ทำการช้อนซื้อเมื่อประมาณเดือนที่แล้วยังคง HODL หรือถือเหรียญโดยไม่ขาย แม้ว่าราคาพุ่งสูงขึ้นประมาณนึงนั้นจะทำให้พวกเขามีโอกาสที่จะสามารถทำกำไรก็ตาม
Bitcoin 1 เดือนถึง 3 เดือนอุปทานเก่าเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่วันนี้
ตามที่นักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นในโพสต์ของ CryptoQuant การที่เจ้ามือรายใหญ่ได้ช้อนซื้อ Bitcoin ในช่วงระดับราคาที่ 19,000 ดอลลาร์เมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่แล้ว ดูเหมือนจะยังมองไม่เห็นกำไรที่เป็นน้ำเป็นเนื้อเท่าไรนัก
และในส่วนของตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องต่อไปนี้ ก็ได้เผยเห็นถึงช่วงอายุอุปทานของ Bitcoin ที่สามารถบอกเราได้ว่าแต่ละกลุ่มเก็บเหรียญไว้จำนวนเท่าใด
🙏Cr. siamblockchain By Pitchaporn Kitiyanuphap
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ ✅✅
21000.00 แนวต้าน
20775.77 แนวต้าน
20283.75 แนวรับ
20000.00 แนวรับ
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค 💬
💻RSI เป็นกลาง
ราคาอยู่ในช่วงพักตัว และ วิ่งอยู่ในกรอบ สามเหลี่ยม รอให้ราคาเลือก ทางหากราคาสามารถขึ้นไปเบรคกรอบสามเหลียมไปได้ก็มีแนวโน้มที่ราคาจะยกตัวขึ้นต่อตามเทรน
ทางเลือกในการลงทุน 💭💭
***รอให้ราคาเบรคแนว 20517.74 ให้หาจังหวะในการเข้าซื้อ Buy 📈 บริเวณแนว 20078.07 โดยเก็บกำไรระยะสั่น บริเวณแนว 20671.97และแนว 210006.97 ตั้ง sl บริเวณแนว 19747.49
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
🙏“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
🙏 “กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
USDCAD การวิเคราะห์ประจำวัน 2/11/2022 by TraderTanข่าวต่างประเทศ 📊
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค., ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุม, เยอรมนีเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล, อัตราว่างงานเดือนต.ค.,
ฝรั่งเศสเปิดเผย PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล, อียูเปิดเผย PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล, สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนต.ค.จาก ADP, สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย
cr.ryt9
Trading note: ✅
📈buy : 1.36124 ,1.3256
✅ Tp: 1.35500
❗ SL: 1.36592
เหตุผลในการเข้าเทรด: 💬
เทรนหลักยังเป็นเทรนลง และ ราคาได้สร้างรูปแบบ QM หลังจากนั้นราคาก็ขึ้นไปทดสอบแนว โซน level และมีสัญญาณในการลงต่อ และมีโอกาสที่ราคาจะลงไปทดสอบแนว 1.35462
RSI: กลาง ให้หาจังหวะเข้าขาย โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
💭 ประสบการณ์: การเทรดรูปแบบ QM เป็นรูปแบบที่มีนัยยะสำคัญที่มืออาชีพชอบเทรด และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว หรือ สายสวนเทรน ตามเทรน สามารถที่จะประยุกต์ได้หลอกหลาย
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
🙏“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
🙏 “กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
[แกะหุ้นเด้ง]ดู COSTCO หุ้น 100 เด้ง ผ่าน BizModel และกราฟ pt.2
- ธุรกิจ Costco เป็นห้างขายส่งคล้ายๆ Makro ของเรา แต่มีสินค้าไซส์ยัก และอาหารราคาถูก
- กำไรแบบ Recurring Income ของบริษัทผ่าน Membership Fees เป็น Keyman ในการที่ทำให้บริาัทเติบโตไปพร้อมกับยอดขาย
- การที่ราคาหุ้นขึ้นเกิดจากหลัก Twin Engine คือ PE ขยายตัวจากความคาดหวังดีจากตลาด และ กำไรสุทธิที่เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
- ราคาหุ้นจะมีค่าเป็นเท่าไรเกิดจากสมการ Price = PE * EPS
(Twin Engine คือหลักการที่ PE ขยายตัว และ EPS เติบโตนั่นเอง)
- ปัจจุบัน Costco มีรายได้จาก Membership ที่ราวๆ 4 billions เทียบเท่ากับหุ้นที่ราคา 9 เหรียญ หากเราถือหุ้นที่ราคา 9 เหรียญจากเมื่อ 30 ปีที่แล้วจนถึงวันนี้ได้ ก็นับว่าคุณได้สินทรัพย์ที่เติบโตไม่ต่ำกว่า 9% มาครองเลย
=================================
ถ้านึกถึงห้างขายส่งบ้านเราต้อง MAKRO แต่ถ้านึกถึงห้างขายส่งระดับโลก COSTCO คือบริษัทที่เป็นเบอร์ 1 ด้านนี้เลยครับ
COSTCO เป็นห้างค้าส่งสัญชาติสหรัฐอเมริกาที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1986 และจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นมานานกว่าครึ่งชีวิตของคนหนึ่งคนเลย
และมักถูกพูดถึงบ่อยๆ ในหนังสือการลงทุนหลายเล่ม เพราะนี่คือหนึ่งในหุ้นที่มีธุรกิจใช้ได้ ผลกำไรเติบโต ราคาหุ้นจึงสะท้อนมูลค่าที่ซ่อนอยู่นี้ด้วยราคาที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนอื่น ผมขออธิบายก่อนนะครับ ว่า Costco นอกจากธุรกิจจะเป็นธุรกิจห้างค้าหลีกแล้ว รายได้อีกส่วนที่เป็นตัวช่วย Costco มาหลายต่อหลายครั้งเพื่อให้บริษัทยังอยู่ยั่งยืนได้ นั่นคือรายได้จาก membership fee ครับ
โดยบัตร Member นี้เอง สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมากไม่ว่าจะเป็นส่วนลดสินค้าภายในห้าง ส่วนรถปั๊ม ประกัน ตั๋วเครื่องบิน เสื้อถ้า รถยนต์ อาหารและยา และอื่นๆๆ อีกมากที่อาจกล่าวไม่ถึง
ตรงส่วนนี้เราอาจพิจารณาได้ว่าบัตรเมมเบอร์ของ Costco นั้นมี Networking Effect ที่แข็งแกร่งมาก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะสเกลการถ้าปลีกของเครือ Costco อยู่แล้ว ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าระดับประเทศ (ที่มีขนาดใหญ่ลำดับต้นๆ ของโลก) จนสามารถเจรจาของส่วนลดเพื่อมาจุนเจือชาว Member ได้
โดยสัดส่วน Membership Fee นี้เปรียบได้กับกระแสเงินสดที่ทาง Costco ได้มาไม่ต่างจาก Subscription รายปีเลยครับ โดยแต่ละปี Costco เองมีรายได้จากตรงนี้เติบโตกว่า 9% CAGR ต่อเนื่องกันกว่า 30 ปี
=====================================================
เทียบตั้งแต่ปี 1993
CostCo มี Membership Revenue อยู่ที่ 309 ล้านเหรียญ
และปี 2022 ล่าสุดมีรายได้ส่วนนี้กว่า 4,224 ล้านเหรียญทีเดียว]
โดยปัจจุบัน ณ ราคา 502 เหรียญนี้ Cosco มี Market Cap ที่ 222 Billion
หากท่านใดมีหุ้น Costco ที่ Market Cap 4 billions หรือที่ราคา 9 เหรียญ ท่านอาจได้กระแสเงินสดฟรีๆ จากมูลค่า รายได้ส่วนของ Membership เปล่าๆ (เป็นอีกหนึ่งมุมมองของการถือยาวครับ)
=====================================================
สิ่งที่ช่วยผลักดันให้ราคาของ Costco ไปได้ไกล ส่วนหนึ่งมาจากรายได้จากร้านค้าปลีกที่เติบโตตลอดเวลาตาม GDP ของประเทศนั้นๆ
และ Business Model ของ Costco เองก็เป็นธุรกิจกิน Spread Margin แคบๆ จากการซื้อมาขายไป และเพิ่มลูกลเ่นให้กับสินค้าตัวเองผ่านการออกแบบ "ผลิตภัณฑ์ไซส์ยักษ์" ที่นอกจากประหยัดแล้วยังน่าตื่นตาตื่นใจด้วย
ยังไม่นับว่า Costco เองมีเชนร้านอาหารราคาย่อมเยาว์ถึงขนาดที่ชักจูงให้คนมาทานอาหารในราคาไม่กี่เหรียญ และไม่ขึ้นราคามากว่าทศวรรษอีกด้วย
ทั้งนี้แล้วการที่สร้างประสบการณ์ที่ดีต่อผู้บริโภคลูกค้านั้นทำให้มีผู้สมัครสมาชิกกับ Costco เพิ่มขึ้นตลอดทุกๆ ที โดยอัตราส่วนของรายได้จาก Membership Fees ต่อด้วย Operating Income นั้นสูงกว่า 50% ทีเดียวครับ กล่าวคือลำพังแค่รายได้จากค่าสมาชิกก็ทำให้ประเมินกำไรคร่าวๆ ของ Costco ได้แล้ว....และนี่แหละที่ทำให้นายตลาดชอบใจอย่างมาก
โดยคุณสมบัติจากการประเมินกำไรขาดทุนได้ง่ายแล้ว การที่บริษัทมีการบริหารงานจนทำให้นะดับ Net Margin ดีได้ยิ่งขึ้นๆ พร้อมด้วยการบริหารโดยมี ROIC ในระดับ 1x% ยิ่งขึ้นไป จะทำให้นายตลาด "มอบตัวคูณ" ให้บริษัทนี้มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น
โดยราคาหุ้นเองถูกผลักดันด้วย 2 ปัจจัย นั่นคือ Price = PE * EPS
หากบริษัทบริหารจัดการได้ดี ธุรกิจดำเนินไดีดี ตัว EPS จะเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้น
ส่วนตัว PE หากบริษัทนั้นมีโมเดลที่แข็งแกร่ง มี Moat ที่สมบูรณ์ รายได้เติบโต (กอปรกับการมีค่า Bond Yield ที่ต่ำ) บริษัทนั้นก็จะเทรดที่ค่า PE ที่สูงยิ่งขึ้น
หลักการนี้คือหลักการ Twin Engine ที่ทำให้หุ้นนั้นสามารถกลายเป็นหุ้นเด้งได้นั่นเองครับ
ซึ่ง CostCo เองนับว่าเริ่มต้นที่ตัวเองก่อน โดยได้ลมส่งจากรายได้ที่โตขึ้นจากการขยายสาขาและ GDP ที่โต กับโมเดลธุรกิจที่ดึงดูดลูกค้าโดยเฉพาะ Membership ทำให้ Costco มีกำไรเติบโตตลอด
จากนั้นนายตลาดก็เริ่มเห็นแววในบริษัทนี้ เลยให้ PE หรือแม้กระทั่ง P/S ที่สูงมากยิ่งขึ้น ทำให้ตัวนี้เข้าหุ้นเด้งตามตำรา Twin Engine ในที่สุด
====================================================
หลักการหาจังหวะซื้อขาย หากใช้ Fundamental อาจใช้เส้น Asset Line ในการจับจังหวะเข้าซื้ได้ครับ แต่ต้องมั่นใจว่าหุ้นตัวนี้ตลาดชอบแน่ๆ พื้นฐานบริษัทไม่เปลี่ยน รายได้และกำไรมีโอกาสโตได้ อย่างน้อยก็เชิงอนุกรม
ต่อมาคือการซื้อโดยใช้ PE Forward ผ่านเส้น Value Line อันเป็นแนวรับแนวต้านทางพื้นฐาน หากราคามาลงสู่แนวรับนี้ และประกอบกับกราฟทำทรง VCP Cup with Handle พร้อมทั้งมี Risk to Reward ที่ท่ารับไหวก็อาจพิจารณาซื้อได้
ไม่สายเกินไป หากซื้อหุ้นนี้ที่ Market Cap 1xx,xxx Milliion เพราะว่าเขาอาจไปได้ไกลกว่านั้นได้
(พร้อมดูโมเมนตัมจากยอดขายและผลการดำเนินงาน รวมถึงดูกระแสจากผู้บริโภคด้วย ว่าบริษัทยังคงส่งมอบคุณค่าแก่ผู้ถือหุ้นดั่งเดิมไหม)
====================================================
สามารถอ่านไอเดียการลงทุนอื่นๆ ได้นะครับจากหน้า Profile ของผม
NZX จะสิ้นสุดปี 2022 ด้วยกระแสลมปะทะที่รุนแรงตลาดหลักทรัพย์ของนิวซีแลนด์ (NZX) อาจเผชิญกับกระแสลมแรงในช่วงปลายปี 2565 เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อในไตรมาส 3 บ่งชี้ว่าอัตราเงินสดอย่างเป็นทางการของธนาคารกลาง (OCR) จะเพิ่มขึ้น 75 จุดในเดือนพฤศจิกายน
สำหรับการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางเมื่อต้นเดือนตุลาคม ดัชนี S&P / NZX 50 ลดลง 106.3 จุดหรือ -1% สู่ 10,959.71 สถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันอาจเกิดขึ้นอีกครั้งเพื่อนำไปสู่การตัดสินอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤศจิกายน
แม้ว่าดัชนีจะฟื้นตัวหลังจากประกาศตัวเลขเงินเฟ้อไตรมาส 3 ของประเทศแล้วก็ตาม แต่สาเหตุหลักมาจากการขึ้นแรงในชั่วข้ามคืนของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้คลายความกังวลอย่างสิ้นเชิงว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปกำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาดที่ผันผวนอยู่แล้ว
ปฏิกิริยาของ NZX ต่อการตัดสินใจให้คะแนนและตัวเลขเงินเฟ้อ
หลังจากประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคสำหรับไตรมาสที่สามของนิวซีแลนด์ ดัชนี S&P / NZX 50 เพิ่มขึ้น 61.4 จุดหรือ +0.57% เป็น 10,847.34 การชุมนุมในชั่วข้ามคืนที่แข็งแกร่งในสหรัฐฯ ช่วยชดเชยการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ลดลงเล็กน้อยเป็น 7.2% จาก 7.3%
ดัชนีร่วงลง 55.8 จุด หรือ -0.51% มาอยู่ที่ 10,817.23 ก่อนการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ พิสูจน์ให้เห็นว่าหากไม่ใช่สำหรับการชุมนุมที่แข็งแกร่งในชั่วข้ามคืน ผลการปิดของดัชนีจะแตกต่างกันมากเมื่อยังอยู่ในระดับสูง ตัวเลขเงินเฟ้อคาดว่าจะกระทบต่อความเชื่อมั่นและกิจกรรมทางการตลาด
ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อทำให้เกิดความคาดหวังว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน 75 จุดในอัตราดอกเบี้ยเงินสดอย่างเป็นทางการ เมื่อธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (Reserve Bank of New Zealand) ตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงินในเดือนพฤศจิกายน การขึ้นเหนือ 50 จุดพื้นฐานนั้นรับประกันได้ทั้งหมด
Rob Haworth ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนของ U.S. Bank Wealth Management กล่าวว่า "หากอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น นักลงทุนในหุ้นจะลังเลที่จะเสนอราคาหุ้นมากขึ้น เพราะมูลค่าของรายได้ในอนาคตจะดูน่าดึงดูดน้อยกว่าเมื่อเทียบกับพันธบัตรที่จ่ายผลตอบแทนที่แข่งขันได้มากขึ้นในปัจจุบัน" .
“หากคาดการณ์อัตราที่สูงขึ้นในอนาคต มูลค่าปัจจุบันของกำไรในอนาคตสำหรับหุ้นจะลดลง หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ อาจทำให้กดดันราคาหุ้นมากขึ้น” เขากล่าวเสริม
ภาคส่วนส่วนใหญ่จะขาดทุนเมื่อมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ยกเว้นข้อยกเว้นบางประการ เช่น ภาคการเงิน ด้วยเหตุนี้ การเงินจึงเป็นภาคส่วนชั้นนำของ NZX ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้น +11.34% มีเพียงสามภาคส่วนอื่นที่อยู่ในแดนบวกสำหรับช่วงเวลานี้ สินค้าไม่คงทนของผู้บริโภค (+6.97%), การขนส่ง (+2.74%) และการสื่อสาร (+1.39%)
NZX กำลังรออะไรอยู่?
ขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเป็น 4.25% ซึ่งเกือบจะแน่นอน ณ จุดนี้ กรรมการธนาคารสำรองอย่างน้อย 2 คนได้แสดงความเห็นว่าพวกเขาเห็นชอบให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 จุด
นักวิเคราะห์ของธนาคาร ASB คาดการณ์ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วยการเพิ่มขึ้นอีก 50 จุดสองครั้งในช่วงต้นปี 2566 สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินสดอย่างเป็นทางการที่คาดการณ์ไว้ที่ 5.25%
นักเศรษฐศาสตร์จากกลุ่มธนาคารออสเตรเลียและนิวซีแลนด์กำลังเข้าร่วมฉันทามติสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤศจิกายนและเสริมว่าการตัดสินใจที่คล้ายกันนี้คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 "การปรับขึ้นทั้งสองนี้ขึ้นอยู่กับตลาดการเงินโลกที่รวมตัวกัน" นักเศรษฐศาสตร์ของ ANZ Finn Robinson กล่าว และหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ Sharon Zollner
เเผนเทรด ทองคำ💲 บทวิเคราะห์ ทองคำ
🗨 คู่เงิน XAU/USD
🗒 Swing Trade
🗒 สถานะ Buy Limit
✅ TF : H1
- IQM
- Demand Zone
✅ TF : H1 จุดเข้าซื้อ
➡️ Buy 1641
➡️ SL 1634
➡️ TP 1660
ผลตอบเเทนคุ้มเสี่ยง
➡️ RR
เสี่ยงเเต่ล่ะเทรด
➡️ 1%
เทคนิคที่ใช้เทรด คาดหวัง RR ตั้งเเต่
➡️ RR 1:2 - RR 1:10
เทคนิคคอลระบบเทรด
➡️ Multiple Factor
*ขอมูลที่นำเสนอข้างต้น เป็นเพียงการวิเคราะห์เชิง Technical ส่วนบุคคล เพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น
[แกะหุ้นเด้ง]ดู COSTCO หุ้น 100 เด้ง ผ่าน CANSLIM และ VCP pt.1แก่นแท้จากหุ้นเด้งตัวนี้
-การย่อระดับ 1x% เป็นเรื่องที่ธรรมชาติมากๆ นับเป็นเรื่องที่ปกติ
การย่อลงมาแบบหลักๆ อยู่ที่ราว 3x%
-จุดซื้อที่ทรงประสิทธิภาพจะมาจากจุดที่แข็งกว่าตลาด
หรือ Relative Strength มากกว่า 0
-การย่อลงต่อละครั้งหากไม่หลุดราคาเฉลี่ยนับว่าสามารถรันเทรนด์ต่อได้
-การที่ราคาหุ้นตกหนักๆ โดยหลัก มี 3 ปัจจัย (ซึ่งการตกนี้ไม่ต่ำกว่า 50%)
1. การลงจากเศรษฐกิจเอง เช่น COVID-19 , Subprime
2. การลงจากอุตสาหกรรม เช่น รอบสินค้าโภคภัณฑ์ , การออกกฎบัตรบางอย่างจากภาครัฐที่ทำให้ราคาไม่ไปไหน
3. การลงจากตัวบริษัทเอง เช่น ความสามารถในการแข่งขัน ปราการและคูคลองเริ่มเสื่อมสลาย (แบบนี้อันตรายที่สุด)
.
-การลงจากตัวเศรษฐกิจ หากบริษัทแข็งแกร่งจากการมีปราการและคูคลองแข็งแกร่ง ตลาดย่อมรับรู้ อย่างน้อยก็จากผลประกอบการที่หากไม่ลดลง และรายงานจากฝ่ายบริหารแจ้งออกมาไม่มีรอยฟกช้ำจากเศรษฐกิจ นายตลาดก็ตอบรับอย่างสดใส
-การลงจากอุตสาหกรรม ราคาหุ้นอาจจะไม่ขึ้นมาในทันที อาจต้องให้เวลากับเขา ในการปรับทัพรวมพลสู้ศึก ในเชิงรูปธรรม อาจขยายตลาดไปที่อื่น, คุยกับ Supplier เพื่อปรับราคาให้มี Margin ที่ดีขึ้น และคงคุณภาพสินค้า
หรือในกรณีที่สดใสที่สุด คือรอเมฆหมอกแห่งความโชคร้ายให้ผ่านไปเลย
-การลงจากตัวบริษัทเอง ยากที่สุดในการพิจารณา ต้องติดตามกระบวนการบริหารบริษัทอย่างใกล้ชิด รวมถึงดูคุณภาพในสินค้าและบริการ
แก่นแท้คือดูว่า Core Value ที่เขมอบให้แก่ลูกค้าและสังคม
กับการทำกำไร ยังพอไปทางเดียวกันได้ไหม
-สิ่งที่ต้องการสื่อคือหุ้นหลายเด้งมักมีการลงแรงๆ เสมอ ไม่ว่าจากตัวเขาเอง ตัวอุตสาหกรรม หรือจากเศรษฐกิจ แก่นแท้คือการถือให้ยาวและมองให้ขาดว่าบริษัทจะผ่านไปได้ไหม เป็นสำคัญ
-การฟอร์มตัวแบบ Cup with Handle จากที่ดูมักใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 30 bars week หรือราว 200 วัน ก่อนพุ่งขึ้นไป
การรันเทรนด์เพื่อให้ได้กำไรเด้ง อาจต้องอาศัยเวลา
เราควรมีหลังบ้านที่แข็งแกร่ง มีรายได้หลายทางเพียงพอที่จะคลายกังวลกับการลงทุนในบริษัทนี้ได้
เราอาจใช้อรรถประโยชน์จาก Stock Option ช่วยได้ หากหุ้นนั้นมีบริการ Short Call หรือ Short Put เพื่อหากระแสเงินสดจากช่วง Sideway หากินกับ Volatile
(อาจจะซับซ้อน แต่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกได้นะครับ)
-จุดกลับตัวของกราฟ บางทีอาจใช้รูปแบบแท่งเทียนพิจารณาได้
เช่นรูปแบบ Hammer ที่ทำหางยาวมาก เสมือนการปฏิเสธการลงของราคา
-จุดกลับตัวอาจใช้ Relative Strength ช่วยได้
หากราคาหุ้นแข็งกว่าตลาด เราอาจเริ่มกลับมามองหุ้นนี้ได้ครับ
TFEX s50z2022 เทรดตามระบบ indicator ema + stop w alert ทดสอบ การเทรด tfex จริงมาแล้ว ร่วม 120 วัน ผลตอบแทนประมาณ 46% อาจจะไม่ได้ดีมาก สำหรับคนต้องการกำไรเยอะ
แต่ตัวนี้ออกแบบ มาเพื่อ ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ คนที่มีงานประจำ หรือ คนที่มีธรุกิจ่ส่วนตัว ไม่ค่อยมีเวลา
การเทรดด้วย indicator ตัวนี้ จึงไม่เหมาะกับคนต้องการกำไรเยอะๆ อย่างรวดเร็ว
แต่ ออกมาแบบมาเพื่อ ค่อยๆ เก็บสะสม กำไร จาก tfex ไปเรื่อยๆ
docs.google.com
ตอนนี้ indicator บอกว่า ตอนนี้เราต้องเล่นทาง ขาขึ้นเท่านั้น
ทำไมเราต้องตั้ง Stop Loss ทุกครั้งStop Loss คืออะไร
Stop Loss คือ คำสั่งขายสินทรัพย์ทางการเงินเมื่อถึงราคาหรือเงื่อนไขที่กำหนด วัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการขาดทุนอย่างหนักจากการเทรด โดยเฉพาะการเทรดบนตราสารอนุพันธ์อย่าง CFD (Contract for Differences) ที่เทรดเดอร์สามารถใช้ Leverage ที่สูง ๆ ได้
การตั้งค่าคำสั่ง Stop Loss จะเปรียบเสมือนคุณออกคำสั่งล่วงหน้าไว้กับโบรกเกอร์ที่คุณใช้บบริการ หลังจากนั้นโบรกเกอร์จะทำตามคำสั่ง Stop Loss ที่คุณวางไว้ แม้ว่าคุณจะไม่ได้เปิดคอมพิวเตอร์หรือเชื่อมต่อบัญชีเทรดของคุณอยู่ก็ตาม ซึ่งถ้าหากคุณไม่มีเวลาติดตามสถานะการซื้อขายของคุณตลอด การตั้งค่า Stop Loss เอาไว้จะปกป้องเงินทุนของคุณจากการกระชากอย่างรุนแรงของราคา โดยเฉพาะในตลาด Forex ได้
เหตุผลที่ต้องตั้ง Stop Loss .
- เพื่อหยุดการขาดทุนอย่างหนัก เพราะไม่มีใครรู้อนาคตของตลาด
- การเทรด CFD ไม่สามารถคิดแบบ "ไม่ขาย ไม่ขาดทุน" ได้ เพราะหากคุณใช้ Leverage ที่เกินขนาด การที่คุณไม่ขายจะทำให้มีโอกาสที่จะสูญเสียเงินทั้งหมดของพอร์ตได้
- การตั้งค่า Stop Loss ทำให้เทรดเดอร์ต้องวางแผนการเทรดมาก่อน ซึ่งเป็นผลดีอย่างมากในการเทรดระยะยาว เทรดเดอร์ต้องรู้ตั้งแต่ก่อนเข้าเทรดว่า ถ้าโดน Stop Loss จะเสียเงินเท่าไหร่ และต้องยอมรับการเสียเงินให้ได้ตั้งแต่ยังไม่เข้าเทรด
- Stop Loss จะทำให้คุณสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น การโดน Stop Loss คือสัญญาณให้คุณพักหรือหยุดเทรด
- Stop Loss ทำให้คุณโฟกัสแต่ละการเทรด ซึ่งทำให้คุณพัฒนาความแม่นยำในการเข้าเทรดได้ เช่น สมมติคุณเทรดด้วยกลยุทธิ์การเทรด Forex แบบ Breakout แล้วคุณโดน Stop Loss บ่อยมาก นั่นอาจหมายความว่า คุณตั้ง Stop Loss แคบเกินไป หรือคุณอาจจะเข้าเทรดในจุดที่ไม่เหมาะสม (ราคาไปไกลแล้ว) ในจุดนี้ Stop Loss จะเป็นตัวช่วยเตือนสติและระลึกถึงจุดที่คุณเข้าเทรด
หวังว่าคุณจะรู้จักตนเองในตลาด ไม่มีใครรู้อนาคตว่าตลาดจะเคลื่อนที่ไปทิศทางไหน เราไม่สามารถควบคุมตลาดได้ เเต่คุณสามาถรควบคุมความเสี่ยงได้
เเผน Day Trade Gold Trade 2💲 บทวิเคราะห์ ทองคำ Trade 2
🗨 คู่เงิน XAU/USD Sell
✅TF : M15
Zone
-Supply
-Key Fibo 61.8%
-POC
Set Up
- Rising Wedge Pattern
Confirm
- PA Engulfing
✅ TF : M15 จุดเข้าซื้อ
➡️ Sell 1650.2
➡️ SL 1656.5
➡️ TP 1637.5
ผลตอบเเทนคุ้มเสี่ยง
➡️ RR / 1/2
เสี่ยงเเต่ล่ะเทรด
➡️ 1%
เทคนิคที่ใช้เทรด คาดหวัง RR ตั้งเเต่
➡️ RR 1:2 - RR 1:10
เทคนิคคอลระบบเทรด
➡️ Price Action
➡️ RTM
*ขอมูลที่นำเสนอข้างต้น เป็นเพียงการวิเคราะห์เชิง Technical ส่วนบุคคล เพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น