เลือก Leverage แบบไหนดี
👺👺👺 มาครับวันนี้เอาใจมือใหม่หัดเทรดกันบ้าง กับการเลือกเลเวอเรจให้ถูกกับจริตของตัวเอง เพราะการจะเทรดให้ได้กำไรจำเป็นต้องมีปัจจัยเล็กๆและองค์ประกอบอื่นๆมาเป็นตัวผลักดัน หนทางสร้างกำไรจึงจำเป็นต้องมีแบบแผนตั้งแต่เริ่มแรก ดังนั้น ไอ่เจ้าเลเวอเรจนี่แหละครับที่จัดว่าสำคัญทีเดียวเชียว มาครับ ตามมาอ่านกันต่อได้เลย
เลือก leverage แบบไหนดี ?
Leverage คืออะไร ?
หากเราตัดสินใจที่จะเดินเข้าสู่วงการ การเทรดค่าเงินในตลาด Forex แล้วหล่ะก็ สิ่งหนึ่งที่ต้องเลือกเป็นอันดับแรกเลยก็คือ เลเวอร์เลจ
หากให้เปรียบเทียบคำว่า เลเวอร์เลจ คำนี้จะมีความคล้ายคลึงันกับเงินเดิมพัน และเงินยืม เลเวอร์เลจ ช่วยให้เรามีอำนาจในการซื้อขายในตลาดได้มากยิ่งขึ้นแบบทวีคูณ โดยยกตัวอย่างง่ายๆ
จากเดิมๆที่เราต้องมีเงินลงทุนประมาณ $100,000 ดอลลาร์ เราถึงจะสามารถเปิดออร์เดอร์ขนาด 1 lot ได้
แต่หากว่าเราเลือกเทรดแบบมี เลเวอร์เลจ ในการเทรด โดยเลือกเลเวอเรจที่ 1:100 เราจะใช้เงินลงทุนเพียง $1,000 ก็สามารถเปิดออร์เดอร์ 1 lot ได้แล้ว หรือจะเลือก เลเวอร์เลจ 1:1,000 เราจะใช้เงินลงทุนเพียง $100 ก็สามารถเปิดออร์เดอร์ 1 lot ได้
ตัวอย่างเลเวอเรจ
เลเวอร์เลจ 1:1 มีทุน $1,000 สามารถซื้อหุ้นได้ $1,000
เลเวอร์เลจ 1:100 มีทุน $1,000 สามารถซื้อหุ้นได้ $100,000
เลเวอร์เลจ 1:1,000 มีทุน $1,000 สามารถซื้อหุ้นได้ $1,000,000
จากตัวอย่าง เราจะเห็นได้ว่า เลเวอเรจ ยิ่งสูงเท่าไหร่ ยิ่งสามารถทำให้มีอำนาจในการซื้อมากยิ่งขึ้น เสมือนว่าเรายืมเงินจากเปอร์เซ็นต์ต้นทุนของเขาเอามาทำกำไรก่อนนั่นเอง แต่ต้องอย่าลืมนะครับว่า การลงทุนมักมาพร้อมกับความเสี่ยงเสมอ ยิ่งเราซื้อมากเท่าไหร่ความเสี่ยงยิ่งมากตาม แต่หากเรามีกำไร กำไรมันก็มากตามเช่นกัน
นั่นทำให้การใช้เลเวอเรจไม่ได้สวยหรูแค่ด้านเดียว ที่สำคัญสุดๆเลยนั่นก็คือการ Stop Out เรียกง่ายๆว่าล้างพอร์ตนั่นแหละครับ ยังไง??
เพราะยิ่งเราใช้เลเวอเรจมากที่สุดในการเทรด ไม่ว่าจะเป็น 1:1,000 , 1:2,000 , 1:5,000 หรือมากว่านี้ เราจะยิ่งเสี่ยงในการล้างพอร์ตง่ายเช่นกันจากการเทรดหนัก
เพราะการใส่ออเดอร์ได้มาก ยิ่งทำให้เราโลภมากยิ่งขึ้น ไอ่ความโลภนี่แหละที่ทำให้เราเทรด แบบ Over trade ใส่ลอตใหญ่มากเกินไป หากกราฟวิ่งผิดทางระยะวงสวิง ที่ติดลบก็พาล้มละลายได้เลยฮะ ฉะนั้นพึงระวัง และค่อยๆเทรดดีกว่านะครับ ไม่มากไปและไม่น้อยเกินไป ไม่งั้นเดี๋ยวจะเทรดไม่พอค่าไฟกันพอดี……เนาะ
แถมสูตรคำนวณ Lot Size ให้อีกนิดนะครับ ทุน / 10,000 เราจะได้ Lot ที่ใช้ในการเทรด
ตัวอย่างคำนวณ ทุน 100$ หาร 10,000 = 0.01 นี่คือ ลอตในการออกไม้นะครับ
👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ มือใหม่หัดเทรด สิ่งเล็กๆน้อยๆที่เราจำเป็นต้องรู้นะฮะก่อนที่จะเริ่มเทรด แอดว่ามันดีและเบสิคมากเลย การเตรียมการและใส่ใจแบบแผนการเทรดเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆเลยนะฮะ วางแผนดี มีชัยไปกว่าครึ่ง ว่างแล้วก็ลองกลับไปเช็ค Leverage ของเราดูกันนะฮะ จะได้คำนวณ Lot size ได้ถูก และเทรดแบบไม่ต้องลุ้นล้างพอร์ตอีกต่อไป ต้องลองนะฮะ
และที่สำคัญ ฝึกฝนการเทรดให้ได้ทุกวัน รับรองว่ากำไรไม่ไกลเกินฝันแน่นอนฮะ แอดเอาใจช่วย แล้วอย่าลืม MM กันด้วยนะ ชีวิตการเทรดของเราจะยืนยาวและมั่นคง แอดฟันธงให้เลย
ภาพประกอบ
การ Breakout และ Retest: คู่มือสำหรับนักลงทุนเชื่อได้ว่าหลายคนที่เทรด ไม่ว่าจะตลาดใหนก็น่ารู้จักรูปแบบการเทรด Breakout หรือการเทรดเมื่อราคาทะลุกรอบราคา แต่มีหลายครั้ง ที่เกิดการเบรคหลอก หรือ False Breakout และทำให้เราติดดอย วันนี้เราเลยแนะนำ สิ่งที่เพิ่มนัยยะการเบรคให้แม่นสูงขึ้น นั้นคือ Retest
เชื่อได้ว่าหลายคนที่เทรด ไม่ว่าจะตลาดใหนก็น่ารู้จักรูปแบบการเทรด Breakout หรือการเทรดเมื่อราคาทะลุกรอบราคา แต่มีหลายครั้ง ที่เกิดการเบรคหลอก หรือ False Breakout และทำให้เราติดดอย วันนี้เราเลยแนะนำ สิ่งที่เพิ่มนัยยะการเบรคให้แม่นสูงขึ้น นั้นคือ Retest
รูปแบบราคาที่เกิดหลังจากที่มีการ Breakout ราคาได้กลับขึ้นมาทดสอบแนวเดิมที่เบรค และไม่สามารถที่กลับทะลุแนวที่ Breakout หรือทดสอบไม่ผ่าน เป็นการบอกว่า แรงซื้อขายที่สวนขึ้นมาน้อยกว่า แรงส่งราคา Breakout เป็นนัยยะที่คัญที่ Breakout จะไปต่อ
เหตุใดการ Breakout และ Retest จึงสำคัญ?
ระบุจุดเข้าซื้อและขาย: การ Breakout และ Retest ช่วยให้นักลงทุนระบุจุดเข้าซื้อและขายที่เป็นไปได้
ยืนยันแนวโน้ม: การ Retest ที่สำเร็จ (ราคาไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านหรือแนวรับเดิมอีก) สามารถยืนยันแนวโน้มใหม่ได้
ลดความเสี่ยง: การเข้าซื้อหลังจากการ Retest สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเข้าซื้อที่จุดสูงสุดของการเคลื่อนไหวของราคา
วิธีการใช้การ Breakout และ Retest ในการลงทุน
ระบุแนวต้านและแนวรับ: ใช้เครื่องมือทางเทคนิค เช่น เส้นแนวโน้ม หรือตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อระบุแนวต้านและแนวรับที่สำคัญ
สังเกตการ Breakout: เมื่อราคา Breakout ผ่านแนวต้านหรือแนวรับ ให้เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิด
รอการ Retest: รอให้ราคา Retest กลับมาที่ระดับแนวต้านหรือแนวรับเดิม
ตัดสินใจเข้าซื้อหรือขาย: หากราคาไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านหรือแนวรับเดิมอีกครั้ง ให้พิจารณาเข้าซื้อหรือขายตามแนวโน้มใหม่
สิ่งที่ควรระวัง
สัญญาณปลอม: ไม่ใช่ทุกการ Breakout จะนำไปสู่การเคลื่อนไหวของราคาในระยะยาวเสมอไป
การวิเคราะห์เพิ่มเติม: ควรใช้เครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ ร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ
การบริหารความเสี่ยง: กำหนดจุด Stop-loss เพื่อจำกัดความเสียหายหากการคาดการณ์ผิดพลาด
MARKET STRUCTURE เทรดเดอร์ต้องรู้ก่อนเทรดจริงMARKET STRUCTURE
เทรดเดอร์ต้องรู้ก่อนเทรดจริง
👯👯👯กลับมาพบเจอกันอีกเช่นเคยกับบทความที่เกี่ยวข้องกับเทคนิคการเทรดโดยตรงเลยฮะ ยิ่งโดยเฉพาะสำหรับมือใหม่หัดเทรดนี่ จัดว่าสำคัญมากๆเลย เพราะมันคือสิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้ และทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ มาครับ มาทำความรู้จักกับ MARKET STRUCTURE กันดีกว่า ว่ามันสำคัญอย่างไร
Market Structure โครงสร้างตลาด
โครงสร้างตลาดในการเทรด คือการทำความเข้าใจในเรื่อง หลักการการเชื่อมโยงกราฟใน Timeframe แต่ละ Timeframe ว่ามีความสัมพันธ์ุกันอย่างไร ไอ่เจ้าตัวนี้แหละที่ทำให้เราสามารถอ่านกราฟออก และทำให้การเทรดนั้นดูง่ายขึ้นเยอะเเลย
อันดับแรกต้องเข้าใจก่อนว่า กราฟแท่งเทียนนั้นมีคลื่นเวฟ และมีเทรนด์ในตัวของมันเอง อ้างอิงตามทฤษฎีดาว ( Dow Theory ) ซึ่งเป็นทฤษฎีอมตะ ทฤษฎีต้นแบบในการอ่านคลื่นกราฟ โดยสามารถจำแนกแบ่ง เทรนด์ในการเทรดคร่าวๆดังนี้
1. Primary Trend คือแนวโน้มเทรนด์หลัก เทรนด์ใหญ่ ซึ่งทำให้เราแยกกราฟออกได้ว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง
2. Secondary Trend แนวโน้มรอง ส่วนใหญ่เทรนด์แนวโน้มรองมักจะเป็นเทรนด์ในกรอบระยะสั้น รวมไปถึงการพักตัวหรือสวิงเทรนด์ไซด์เวย์ และมีโอกาสที่ราคาจะไปต่อหรือกลับตัวได้เช่นกัน
3. Minor Trend แนวโน้มย่อย ส่วนใหญ่กรอบเทรนด์แนวโน้มย่อยมักจะอยู่ในกรอบ TF เล็กๆ วิ่งในระยะสั้นๆ และเป็นการย่อลงเพื่อไปต่อตามเทรนด์ในแนวโน้มใหญ่
แท่งเทียนของราคา ใน TF ต่างๆจึงมีความสัมพันธ์กันกับ Market structure
เปรียบเทียบการแบ่งแยก Timeframe เล็ก และใหญ่ ในกราฟคู่เงินเดียวกัน
การอ่านเทรนด์ออกจาก Timeframe (TF) หลายTimeframe จากใหญ่ ไป เล็ก จะทำให้เราอ่านกราฟออกและแบ่งแยกการเทรดได้ ว่าจะ Buy หรือ Sell และทำให้เราเห็นจุด โลว์ และ จุด ไฮ ( HH , HL, LL ) ที่ใกล้ที่สุด และโอกาสในการชนะก็ค่อนข้างได้เปรียบมากขึ้นอีกด้วย
👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ง่ายๆเบสิค และทำให้หลายๆคนมองเห็นจุดเข้าที่ได้เปรียบได้มากขึ้น จากสัญญาณที่แตกต่างกันในหลาย TF แบบนี้เราก็จะเทรดได้ง่ายแถมกำไรดีขึ้นด้วยนี่สิ ว่าแล้วก็อย่าลืมเอาคู่การเทรดและ การอ่านสัญญาณจากแท่งเทียนมาฝึกกันดูนะครับ แอดบอกเลยว่า กำไรเพิ่มขึ้นแน่นอน แล้วอย่าลืม หมั่นฝึกฝนการเทรดให้ได้ทุกวัน ยิ่งเราเทรดบ่อยๆเราจะเก่งขึ้นเองครับ และที่สำคัญอย่าลืม MM และสร้างแผนการเทรดที่ดีด้วยนะครับ จะช่วยทำให้เราแกร่งมากยิ่่งขึ้น และเจ็บน้อยลง แอดเอาใจช่วยนะครับ
BTCUSD Daily Analysis 10/8/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
วันนี้, Bitcoin (BTC) เผชิญกับความผันผวนอย่างมาก ตลาดคริปโตได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญโดยมูลค่าตลาดรวมลดลงมากกว่า 17% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่าน
มา การลดลงนี้เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ไม่ดีในสหรัฐอเมริกา ทำให้ราคาของ Bitcoin ตกลงมาต่ำกว่า 50,000 ดอลลาร์ แต่ก็กลับมาที่ระดับประมาณ 52,000 ดอลลาร์
cr.investing
Trading note: ✅
Buy : 59883
✅ Tp: 61303.46 62521.00
❗ SL: 58944.47
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ยังคงยึดเดิมในการขึ้นต่อ ตามโตรงสร้าง
ราคาทดสอบแล้วยกตัวขึ้นต่อ
fibo : เข้าย่อประมาณ 38
เก็บสั้นประมาณ 62521.00
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการเทรดอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk Reward Ratio) เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการบริหารจัดการความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการเทรด Forex โดยอัตราส่วนนี้จะเปรียบเทียบระหว่างจำนวนเงินที่คุณอาจจะเสียไป (ความเสี่ยง) กับจำนวนเงินที่คุณคาดหวังว่าจะได้รับ (ผลตอบแทน) จากการเทรดแต่ละครั้ง
ทำความเข้าใจอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk Reward Ratio) เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการบริหารจัดการความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการเทรด Forex โดยอัตราส่วนนี้จะเปรียบเทียบระหว่างจำนวนเงินที่คุณอาจจะเสียไป (ความเสี่ยง) กับจำนวนเงินที่คุณคาดหวังว่าจะได้รับ (ผลตอบแทน) จากการเทรดแต่ละครั้ง
ทำไมอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนถึงสำคัญ?
การควบคุมความเสี่ยง: ช่วยให้นักเทรดกำหนดวงเงินขาดทุนสูงสุดที่ยอมรับได้ และป้องกันไม่ให้ขาดทุนสะสมมากเกินไป
เพิ่มโอกาสในการทำกำไร: เมื่ออัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนอยู่ในระดับที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณทำกำไรได้มากกว่าขาดทุนในระยะยาว
สร้างวินัยในการเทรด: การตั้งเป้าหมายอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนจะช่วยให้นักเทรดมีวินัยในการปฏิบัติตามแผนการเทรด
วิธีคำนวณอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนคำนวณได้โดยการหารระยะทางจากจุดเข้าซื้อไปยังจุด Stop Loss ด้วยระยะทางจากจุดเข้าซื้อไปยังจุด Take Profit
ตัวอย่าง: สมมติว่าคุณซื้อสกุลเงินคู่ EUR/USD ที่ราคา 1.1000
Stop Loss: คุณตั้ง Stop Loss ไว้ที่ 1.0900 (ความเสี่ยง = 100 pips)
Take Profit: คุณตั้ง Take Profit ไว้ที่ 1.1100 (ผลตอบแทน = 100 pips)
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 100 pips / 100 pips = 1:1
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ดีคือเท่าไหร่?
โดยทั่วไปแล้ว อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่มากกว่า 1:1 ถือว่าดี เนื่องจากหมายความว่าคุณมีโอกาสที่จะทำกำไรได้มากกว่าที่คุณจะเสียไป อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนที่เหมาะสมจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลและขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การเทรดของแต่ละคน
ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการตั้งค่าอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน
ความผันผวนของตลาด: ในตลาดที่ผันผวนสูง อาจเหมาะที่จะตั้งอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่สูงขึ้น
จำนวนครั้งในการเทรด: หากคุณเทรดบ่อยครั้ง อาจเหมาะที่จะตั้งอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ต่ำลงเพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดทุนหลายครั้งติดต่อกัน
เป้าหมายในการเทรด: หากเป้าหมายของคุณคือการทำกำไรระยะยาว อาจเหมาะที่จะตั้งอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่สูงขึ้นเล็กน้อย
สรุป
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการบริหารจัดการความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการเทรด Forex การทำความเข้าใจและนำไปใช้กับการเทรดของคุณอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จได้มากยิ่งขึ้น
BTCUSD Daily Analysis 9/8/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
Bitcoin (BTC) ยังคงอยู่ที่ประมาณ $57,000 หลังจากที่ร่วงลงไปใกล้ $50,000 ในช่วงก่อนหน้า เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจ โดยมีการขายออกจากตลาดทุนที่สำคัญ และคำวิจารณ์จาก Jamie Dimon ซีอีโอของ JP Morgan ที่มีความกังวลเกี่ยวกับ
เศรษฐกิจสีเขียวและการใช้จ่ายขาดดุล ส่งผลให้บรรยากาศในตลาดเป็นลบ อย่างไรก็ตาม ราคาของ XRP ได้พุ่งสูงขึ้นเนื่องจาก Ripple ได้ชนะคดีในศาลกับ SEC และถูกปรับ $125 ล้าน
cr.investing
Trading note: ✅
Buy : 59883.00
✅ Tp: 61303.46 62521.00
❗ SL: 58908.00
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีแรงเข้ามาอย่างรุนแรง และแข้ง
เน้นย่อ และหาจังหวะในการเข้าซื้อ
fibo : เข้าย่อประมาณ 38
เก็บสั้นประมาณ 61303.46
RSI: Overbought
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
Cup and Handle Pattern ถ้วยกาแฟ คืออะไร?Cup and Handle Pattern
ถ้วยกาแฟ คืออะไร?
👯👯👯กลับมาพบเจอกันอีกเช่นเคยกับบทความที่เกรี่ยวกับเทคนิคการเทรดดีๆ แพทเทรินแจ่มๆที่มักมาให้เราได้พบได้เจอบ่อยๆ และ Cup and Handle Pattern หรือที่เรามักเรียกกันว่าถ้วยกาแฟก็ยังไม่จกเทนด์นะ เพราะมันออกมาห้เราได้เห็นกันอีกแล้ว
วันนี้เแอดพาทุกท่านไปรำลึกและหวนคืนการรื้อฟื้นรูปแบบถ้วยกาแฟมาให้ได้อ่านกัน สำหรับสายเทรดทอง ที่กำลังติดดอยกันอยู่ในตอนนี้ เพราะ เขามาอีกแล้วฮะ ไหน มาแล้วหรอ มาตอนไหน แล้วตอนนี้ถึงตรงไหนแล้ว บทความนี้มาช่วยวิเคราะห์ให้ได้อ่านกันครับ
Cup and Handle Pattern ถ้วยกาแฟ คืออะไร?
รูปแบบกราฟถ้วยกาแฟเป็นสัญญาณในตลาดกระทิง หรือแนวโน้มขาขึ้นระยะยาวฮะ
องค์ประกอบของรูปแบบนี้ก็มี2 อย่างเเท่านั้น คือ ถ้วย และหูถ้วย
1. ขนาดของถ้วยกาแฟ มักมีหลายขนาดและหลายรูปทรง และทีเรามักจะเห็นกันบ่อยๆ ก็มักจะเป็นรูปตัวยู U นั่นก็คือ
- ราคามีแรงซื้อเข้ามา แล้วเกิดแรงเทขายอย่างหนัก จนเกิดการพักตัวที่ฐานล่างเป็นเวลานาน จนเกิดเป็นสวิงเทรนไซด์เวย์
- หลังจากนั้น ราคาก็จะมีแรงซื้อเข้ามาอีกรอบ เป็นอันเสร็จ การทำถ้วยรูปตัว U
2. แต่มันจะไม่จบเพียงเท่านี้ หลังจากที่หลอกล่อเม่ามาได้ระดับนึงแล้ว กราฟจะยังหลอกเม่าต่อไปอีก ด้วยการทำหูถ้วยกาแฟ ซึ่งมีรูปแบบการวิ่งคล้ายถ้วยกาแฟเลย ต่างกันตรงที่ เล็กกว่า น้อยกว่า แคบกว่า
-ซึ่งมาถึงหูตรงนี้แล้ว รูปทรงของหูกาแฟ ก็สามารถเป็นได้ทั้งตัว U และตัว V
เราควรเริ่มเทรดที่ไหนดี
1. หากคุณเป็นสายเทรดเทรนด์ระยะยาว ถือว่าคุณโชคดีมาก ตรงที่เราจะได้จุดเข้าสวยๆ และเก็บกำไรได้เพิ่มอีก หากราคาลงมาใหม่ และขึ้นไปใหม่
2. แต่หากคุณเป็นนักเทรดระยะสั้น ๆ แนะนำให้มองหาหูกาแฟเป็นหลัก เพราะเป็นไปได้สูงมากที่ราคาจะเบรคเอ๊าท์ทะลุแนวต้านเก่าขึ้นไป ทำไฮใหม่ ซึ่งจัดว่าสูงและไกลมาก เผลอๆระยะการทำ take profit อาจจะมีระยะที่ยาวและสูงพอๆกะรูปทรงของถ้วยกาแฟเลย ( วัดระยะได้จากก้นถ้วยกาแฟจนถึงปากถ้วยกาแฟ)
จุดทำกำไรก็ง่ายๆเลยด้วยการวัดระยะของถ้วยกาแฟตั้งแต่ก้อถ้วย จนถึงปากถ้วยกาแฟว่ามีระยะวิ่งประมาณเท่าไหร่ สดส่วนตรงนี้แหละจะเป็นระยะทำกำไรในอนาคตของเรา ที่มีความน่าจะเป็นค่อนข้างสูง แต่อาจต้องใช้เวลานานนิดนึงนะฮะ
ต้องฝึกการรอหน่อย แต่ถ้าไม่ชอบรอ ก็ฝึกการทำกำไรระยะสั้น โดยยึดหลัก ย่อแล้วเข้า Buy เป็นหลัก เพื่อหวังผลกำไรในการไต่ขึ้นไปนั่นเอง
👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ง่ายๆเบสิค แต่หลายๆคนมักมองจะมาเห็นสัญญาณในช่วงท้ายๆหรือตรงหูไปแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะทำกำไรไม่ได้นี่นา หลักสำคัญที่เราต้องทำเลยก็คือการรอ และหาจังหวะสวยๆครับ ฝึกฝนบ่อยๆเราจะอ่านกราฟออกเอง และบางทีการฝึกใจเย็นก็ทำให้เราได้กำไรเพิ่มมากขึ้นด้วยนะ แอดคอนเฟริม
หมั่นฝึกฝนให้ได้ทุกวัน และเทรดบ่อยๆเราจะเก่งขึ้นเองครับ และที่สำคัญอย่าลืม MM และสร้างแผนการเทรดที่ดีด้วยนะครับ จะช่วยทำให้เราแกร่งมากยิ่่งขึ้น และเจ็บน้อยลง แอดเอาใจช่วยนะครับ
BTCUSD Daily Analysis 8/8/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
ราคาลดลง: ราคาของ Bitcoin ลดลงถึง 23.25% ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม โดยลงมาอยู่ที่ประมาณ $49,580 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในรอบหกเดือน ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นมาอยู่ที่ $56,275 การลดลงนี้เกิดจากหลายปัจจัยรวมถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่นที่ส่งผลให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น ทำให้เกิดการขายสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึง Bitcoin
cr.investing
Trading note: ✅
Buy : 55364.00
✅ Tp: 68031.55 56369.95
❗ SL: 54000.00
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคาได้มีแรงขาเข้ามมา กิน LQ และ ทำ choch
ยังสามารถลุ้นขึ้นไป ปรับฐาน 56369.95 และอาจขึ้นไปทดสอบโซน 58031.55
fibo : กำไรประมาณย่อ ขึ้นไป 56369.95
เก็บสั้นประมาณ 56369.95
RSI: เทรนขึ้น
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: การBreakout และการ Retest เพื่อป้องกันการเกิด False Breakout และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว หรือ สายสวนเทรน ตามเทรน สามารถที่จะประยุกต์ได้หลากหลาย
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD Daily Analysis 7/8/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
ราคาลดลง: ในเดือนสิงหาคม 2024 Bitcoin ราคาตกลงอย่างหนัก ประมาณ 40% ภายในหนึ่งสัปดาห์ เนื่องจากเหตุการณ์ในตลาดการเงินของญี่ปุ่น ความกังวลเกี่ยวกับกฎระเบียบ และเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์
cr.investing
Trading note: ✅
Buy : 55193.20
✅ Tp: 58072.51 61959.10
❗ SL: 53206.31
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ยังคงยึดแผน ลุ้นขึ้นต่อ
กำลัง retest ขึ้นต่อ
fibo : กำไรประมาณ 168
เก็บสั้นประมาณ 558072.51
RSI: เทรนขึ้น
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: การBreakout และการ Retest เพื่อป้องกันการเกิด False Breakout และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว หรือ สายสวนเทรน ตามเทรน สามารถที่จะประยุกต์ได้หลากหลาย
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD Daily Analysis 6/8/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
แหล่งข่าว: คุณต้องการทราบข่าวจากแหล่งข่าวใดเป็นพิเศษ เช่น Siam Blockchain, Investing.com, หรือสำนักข่าวอื่นๆ
ช่วงเวลา: คุณต้องการทราบข่าวในช่วงเวลาใด เช่น ข่าวล่าสุดในวันนี้ หรือข่าวสำคัญตลอดสัปดาห์
ประเด็นที่สนใจ: คุณสนใจข่าวเกี่ยวกับเรื่องใดเป็นพิเศษ เช่น ราคา Bitcoin, การเคลื่อนไหวของตลาด, กฎหมายเกี่ยวกับ Cryptocurrency, หรือข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
cr.investing
Trading note: ✅
Buy : 55193.20
✅ Tp: 58072.51 61959.10
❗ SL: 52909.02
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคาเริ่มที่จะมีแรงซื้อกลับขึ้นมา
สะสมแรง ลุ้นขึ้นต่อไป
fibo : โซน 2.6118
เก็บสั้นประมาณ 56181.34
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: การสวนเทรน ข้อดีคือทำให้เราได้ที่ที่เปรียบ และได้ราคาที่ปลายเทรน และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว สามารถที่จะประยุกต์ได้หลอกหลาย แต่ก็ต้องวาง Stoploss เพื่อความปลอดภัย
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD Daily Analysis 5/8/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
ราคา Bitcoin ผันผวน: อาจขึ้นหรือลงอย่างรวดเร็ว ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ข่าวเศรษฐกิจโลก การประกาศจากรัฐบาล หรือความเคลื่อนไหวของนักลงทุนรายใหญ่
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา: อัตราดอกเบี้ย, เงินเฟ้อ, กฎหมายเกี่ยวกับคริปโต, และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin
ความเสี่ยงในการลงทุน: การลงทุนใน Bitcoin มีความเสี่ยงสูง อาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด
cr.investing
Trading note: ✅
Buy : 53493.2
✅ Tp: 66181.34 55193.21
❗ SL: 51082.58
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคามีแรงขายเข้ามาอย่างรุนแรง
ลงมาทดสอบโซน สำคัญ ลุ้นในการยกตัวขึ้นต่อ
โดยเน้น กราฟกระตุก
fibo : โซน 2.6118
เก็บสั้นประมาณ 56181.34
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: การสวนเทรน ข้อดีคือทำให้เราได้ที่ที่เปรียบ และได้ราคาที่ปลายเทรน และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว สามารถที่จะประยุกต์ได้หลอกหลาย แต่ก็ต้องวาง Stoploss เพื่อความปลอดภัย
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD : ระบบ MACD ตัด 0 (ActionZone) มีสัญญาณ "ขาย" 5/8/2024อธิบาย : ระบบ Action Zone หรือ MACD ตัดศูนย์ คือระบบที่ใช้หลักการดูเส้น MACD ว่า เส้นนี้จะตัดกับเส้นศูนย์เมื่อไหร่ โดย ถ้าตัดขึ้นก็จะเป็นสัญญาณซื้อ ถ้าตัดลงก็จะเป็นสัญญาณขาย ถือเป็นระบบ Trend Following ที่ใช้ได้ดีกับตลาดที่มีเทรนจ๋าๆ เช่น BTC
แต่ระบบนี้ก็จะมีจุดอ่อนอยู่หลายจุดเช่นกัน คือ ในช่วงตลาด sideway ออกข้างเราอาจจะเจอ false sig ทำให้ต้องคืนกำไร คืนทุน กันบ่อยๆ ได้ หรือบางทีถ้าตลาดมีการทุบแรงๆ ก็อาจจะทำให้เจอการคืนกำไรหมดเช่นกัน เพราะระบบจะต้องรอ confirm ของเส้น MACD ก่อน ถึงจะยอมขาย ตอนขึ้น บางทีทำให้มันถือได้นาน ถือได้ทน รันเทรนได้นาน แต่ถ้าลงแรงก็จบกัน 555
สรุปรอบนี้ก็เป็น false sig กันอีกรอบ แต่ถ้าเราคุมความเสี่ยงดีๆ false sig รอบนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาใดๆ ครับ รอบนี้ก็ชน Stop Loss ออกกันไปเป็นที่เรียบร้อย แต่ถ้าใครมัวไปรอระบบแดง ก็โน่น ไปคัทกันที่ก้น เกินกว่า risk per trade ที่ได้ตั้งไว้อีก
จะเห็นว่า การทำตามระบบ มันจะต้องมีการคุมความเสี่ยงที่ชัดเจนอีกชั้นนึง ผ่าน stop loss ไม่ใช่หลับหูหลับตาเทรดตามเขียวแดงกันแบบไม่ได้สนอะไร เพราะบางทีกราฟลงแรง ไหลเกิน SL ไปแล้ว แต่เรายังมัวรอระบบแดงอยู่ เราก็จะต้องเสียเงินเพิ่มโดยไม่จำเป็นนั่นเองครับ
ส่วนตัว รอบนี้ ก็ออกไปหมดทุกไม้ ตั้งแต่กราฟเริ่มทรงไม่ดีแล้ว ก็เลยไม่ได้เจ็บตัวเท่าไหร่ครับ 5555
BTC ATR = เขียว ( 20/7/2024 )
------------------
Entry : 66600+-
SL : 60600 (-9%)
Position Size = 10% ของพอร์ต ( Risk1% )*
* ปัดเศษเพื่อความง่ายต่อการคำนวณ
BTC ATR = แดง ( 5/8/2024 )
------------------
Entry : 66600+-
ชน SL : 60600 (-9%)
Position Size = 10% ของพอร์ต ( Risk1% )*
Actual Loss = 10*9% = -0.9% ของพอร์ต
---------------------------
สรุปผลกำไร สะสม ของทุกระบบ ในปี 2024 ได้ดังนี้
(8Feb-17Mar) ATR = +6.61% ที่ความเสี่ยง 1% ( 6.61R )
(9Apr-14Apr) ATR = -1.06% ที่ความเสี่ยง 1% (-1.06R )
(10Feb-14Apr) BreakHigh = +4.94% ( 4.94R )
(2Feb-17Apr) ActionZone = +9.6% ( 9.6R )
(16May-15Jun) ATR = -0.023%
(19May-18Jun) ActionZone = -0.059%
(1Jan-25Jun) EMA120DCross = +5.95% ( 5.95R )
(16Jul-3Aug) ATR = -0.5%
(16Jul-3Aug) EMA120DCross = -0.5%
(20Jul-5Aug) ActionZone = -0.9%
Sum = 24.05% ที่ความเสี่ยง 1% ต่อระบบต่อครั้ง
BTCUSD Daily Analysis 4/8/2024 by TraderTanBINANCE:BTCUSDT ข้อมูลข่าวสาร:
ยืนหนึ่ง ! บริษัท MicroStrategy เผยเตรียมระดมทุนเพิ่มอีก 2 พันล้านดอลลาร์ เพื่อนำมาช้อน Bitcoin ภายใต้การนำของนาย Michael Saylor ผู้ที่ถูกยกย่องเป็น Bitcoin maximalist ตัวพ่อ ได้เผยแพร่รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่สอง
MicroStrategy (MSTR) รายงานผลขาดทุนสุทธิในไตรมาสที่สองอยู่ที่ 102.6 ล้านดอลลาร์ หรือ 5.74 ดอลลาร์ต่อหุ้น เทียบกับรายได้ 22.2 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.52 ดอลลาร์ต่อหุ้นในปีก่อนหน้า โดยการขาดทุนเกิดขึ้นเนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายด้อยค่าจากการถือครอง Bitcoin ที่ 180.1 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 24.1 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สองของปีที่แล้ว โดยในปัจจุบันทางบริษัทยังคงถือครอง Bitcoin เพิ่มขึ้นอยู่ที่จำนวน 226,500 BTC
BUY : 60881
TP : 62796
SL : 59740
เหตุผลในการเข้าเทรด:
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบ TF H1
ราคายังคงไต่ลงตามเส้นเทรนไลน์ในแนวโน้มขาลง แต่เริ่มมีสัญญาณกลับตัวเล็กน้อย ยังให้น้ำหนักในการสวิงเทรนไซด์เวย์ตามกรอบเส้นเทรนไลน์ โดยเริ่มมีการกลับตัวขึ้นเล็กน้อย จึงทำการเข้า BUY จากกรอบสวิงเทรนไซด์เวย์
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้กรอบเส้นเทรนไลน์ จากรอบขาขึ้นระยะสั้นๆ เป็นตัวกำหนดกรอบในการเข้าออเดอร์ จากโลว์แนวรับต่ำสุด ในกรอบ H1
RSI เป็นกลาง ยังคงเน้นเก็บกำไรระยะสั้นแบบ Scalping รายวัน กำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน และเน้นเก็บกำไรแบบเป็นรอบสวิงเทรนไซด์เวย์ เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
Log Return คืออะไร?Log Return เป็นการวัดการเปลี่ยนแปลงเปอร์เซ็นต์ของราคาสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง โดยใช้อัตราการเปลี่ยนแปลงแบบต่อเนื่อง (continuous rate of change) ซึ่งคำนวณโดยใช้ฟังก์ชันลอการิทึมธรรมชาติ (natural logarithm)
ทำไมต้องใช้ Log Return?
สมบัติที่ดีในการวิเคราะห์อนุกรมเวลา: Log Return มีคุณสมบัติที่ดีในการวิเคราะห์อนุกรมเวลาทางการเงิน เนื่องจากมีการกระจายตัวแบบปกติ (normal distribution) มากกว่าผลตอบแทนแบบง่าย (simple return) ทำให้สามารถนำไปใช้ในการสร้างแบบจำลองทางสถิติได้ง่ายขึ้น
สะดวกในการคำนวณผลตอบแทนสะสม: เมื่อต้องการคำนวณผลตอบแทนสะสม (cumulative return) ของหลายช่วงเวลา การใช้ Log Return จะสะดวกกว่า เพราะสามารถบวกผลตอบแทนในแต่ละช่วงเวลาเข้าด้วยกันได้โดยตรง
เหมาะสมกับการวิเคราะห์ความผันผวน: Log Return สามารถใช้ในการวัดความผันผวนของราคาสินทรัพย์ได้อย่างแม่นยำ โดยใช้ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviation) ของ Log Return
การคำนวณ Log Return
สูตรในการคำนวณ Log Return คือ:
Log Return = ln(Pt / Pt-1)
โดยที่:
Pt = ราคาปิดของสินทรัพย์ในช่วงเวลา t
Pt-1 = ราคาปิดของสินทรัพย์ในช่วงเวลา t-1
ln = ธรรมชาติลอการิทึม (natural logarithm)
ตัวอย่างการคำนวณ
สมมติว่าราคาของคู่สกุลเงิน EUR/USD ในวันจันทร์ปิดที่ 1.10 และในวันอังคารปิดที่ 1.12 Log Return ในช่วงเวลานี้จะคำนวณได้ดังนี้:
Log Return = ln(1.12 / 1.10) ≈ 0.0182
ข้อดีของ Log Return เมื่อเทียบกับ Simple Return
ไม่ขึ้นกับจุดเริ่มต้น: Log Return ไม่ขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้นของราคา ทำให้สามารถเปรียบเทียบผลตอบแทนของสินทรัพย์ต่างๆ ได้อย่างเป็นธรรม
สามารถนำไปใช้กับอัตราดอกเบี้ย: Log Return สามารถนำไปใช้กับอัตราดอกเบี้ยได้โดยตรง
เหมาะสมสำหรับการสร้างพอร์ตโฟลิโอ: Log Return สามารถใช้ในการสร้างพอร์ตโฟลิโอและวัดผลตอบแทนของพอร์ตโฟลิโอได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป
Log Return เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการวัดผลตอบแทนในตลาด Forex โดยมีข้อดีหลายประการเมื่อเทียบกับ Simple Return การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Log Return จะช่วยให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์ผลการลงทุนของตนเองได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และสามารถตัดสินใจในการลงทุนได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น
Profit Gap ของ Mark Douglas กำไรจากช่องว่างราคาสไตล์ มารค์ ดักลาส
👋หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว สำหรับวิธีการเทรดในหลายรูปแบบ รวมถึง การทำกำไรจาก ช่องว่างของกำไร Profit Gap แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามันดีหรือไม่ดีอย่างไร
วันนี้แอดจะมาแนะนำให้รู้จักกับ Profit Gap การทำกำไรจากช่องว่างของราคา (Gap)ให้ได้รู้กัน ตามมาครับ
👋บุคคลที่เป็นต้นแบบ วิธีการเติมเต็ม Profit Gap จากช่องว่างของกำไร ก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลครับนั่นก็คือ มาร์ค ดักลาส (Mark Douglas) ผู้เขียนหนังสือขายดี Trading in the Zone นั่นเอง
👋ซึ่งในหนังสือเล่มนี้แหละ เขาได้บอกแนวทางและวิธีในการทำกำไรจากช่องว่างของราคาเอาไว้ด้วย ซึ่งบางคนหากได้อ่านแล้วจะต้องงุนงง และแปลกใจ เพราะ Profit Gap ของ มาร์ค ดักลาส (Mark Douglas) นั้นค่อนข้างแตกต่างออกไป ซึ่งไอ่เจ้านี่แหละ เป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ทุกคนที่อยากประสบความสำเร็จ ต้องเติมเต็มมันให้ได้ ช่องว่างของกำไร ความหมายก็คือ ผลต่างระหว่างกำไรที่ควรจะได้ในการเทรด กับผลกำไรที่เกิดขึ้นจริงในการเทรดนั้น
ยกตัวอย่างเช่น
👋👋เราเจอสัญญาณซื้อในหุ้น PTT ที่ราคา 45 บาท และจุดขายออกนั้นควรจะอยู่ที่ 50 บาท กำไรที่ควรจะได้ในการเทรดครั้งนี้จึงอยู่ที่ 5 บาท แต่เมื่อเราเทรดจริง เราได้ซื้อหุ้น PTT ที่ราคาหุ้นละ 45.50 บาท และรีบร้อนขายไปก่อนที่ราคา 46.50 บาท กำไรที่เกิดขึ้นจริงคือ 1 บาท ส่วนต่างระหว่าง 5 บาทและ 1 บาทนี้เองที่เป็น Profit Gap
แล้วมันสำคัญยังไง???
👋สำคัญครับ มันสำคัญตรงที่ มันเป็นการวัดความแตกต่างระหว่าง "สิ่งที่ควรจะเป็น" กับ "สิ่งที่เป็นจริงๆ" ยิ่งเรามี Profit Gap ที่ห่างและบ่อยเท่าไหร่ นั่นแปลว่าเรามีการเทรดออกนอกแผนบ่อยครั้งมากขึ้น ใช้อารมณ์มากขึ้น และลดเหตุผลในการเทรดลง ก็คือใช้อารมณ์ ซึ่งผลร้ายของการที่มี Profit Gap มากๆ เข้าก็คือ เราจะกลายเป็นเทรดเดอร์ที่เทรดแบบไร้วินัย จนยากที่จะทำเงินจากตลาดได้ในระยะยาว เริ่มถึงบางอ้อกันแล้วใช่มั้ย
วิธีการเติมเต็ม Profit Gap
👋มาร์ค ดักลาส (Mark Douglas) แนะนำว่า สำหรับนักลงทุนที่ต้องการอยู่รอดในตลาดได้ยาวนาน ควรหาทางเติมเต็ม Profit Gap ของตนเองให้ได้มากที่สุด พูดอีกอย่างก็คือ ควรทำตามแผนหรือวิธีการลงทุนด้วยสติ ไม่ใช่ใช้อารมณ์ชักนำจนทำให้แผนเราเสีย
เมื่อทำตามแผนได้อย่างดีแล้ว เราจะสามารถนำผลลัพธ์จากการเทรดมาวิเคราะห์ได้ง่ายขึ้น หากเรามีผลการเทรดที่แย่ ก็เพียงแค่ปรับปรุงวิธีการใหม่ หากมีผลการเทรดที่ดี เราก็พัฒนามันให้ดีกว่าเดิมได้
👋👋👋 เห็นมั้ยครับว่าวิธีการคิดก่อนเริ่มจะเทรดนั้นสำคัญอย่างไร อย่าสักแต่ว่าอยากเทรดก็เทรดเลย ต้องดูแผนและรอเวลาก่อนในการทำ Profit Gap ก็เช่นกัน หมั่นฝึกฝนและเรียนรู้วิธีการเทรดให้มากๆ แต่อย่าพยายามทำกำไร แบบ Profit Gap กันมาก หากเราต้องเป็นนักเทรดเก็งกำไรระยะยาว สวัสดีครับ
Breakout ในการเทรด Forex: โอกาสหรือกับดัก?Breakout เป็นกลยุทธ์การเทรด Forex ยอดนิยมที่ใช้เพื่อคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มของราคา โดยอาศัยการวิเคราะห์กราฟ
แนวคิดหลัก ของ Breakout
คือ การที่ราคาสินทรัพย์ทะลุผ่านแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางของราคา
ตัวอย่าง: สมมติว่าราคา EUR/USD อยู่ในกรอบแนวรับแนวต้านที่ 1.1000 – 1.1200 มานานหลายสัปดาห์
กรณี Breakout ขาขึ้น: หากราคาปิดเหนือ 1.1200 อย่างชัดเจน อาจเป็นสัญญาณว่าราคาจะเคลื่อนที่ต่อไปในทิศทางขาขึ้น
กรณี Breakout ขาลง: หากราคาปิดต่ำกว่า 1.1000 อย่างชัดเจน อาจเป็นสัญญาณว่าราคาจะเคลื่อนที่ต่อไปในทิศทางขาลง
อย่างไรก็ตาม Breakout ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดที่สมบูรณ์แบบเสมอไป:
Breakout หลอก: บางครั้งราคาอาจทะลุแนวรับหรือแนวต้าน แต่แล้วก็กลับมาในกรอบอีกครั้ง เรียกว่า “Breakout หลอก”
การตีความ: การตีความ Breakout ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ เช่น อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค ข่าวสาร และสภาวะตลาดโดยรวม
กลยุทธ์ Breakout ทั่วไป:
การรอการยืนยัน: รอให้ราคาปิดเหนือหรือต่ำกว่าแนวรับแนวต้านอย่างชัดเจน 2-3 ครั้ง
การตั้งจุดตัดขาดทุน: กำหนดจุดตัดขาดทุนไว้ต่ำกว่าแนวรับ (สำหรับ Breakout ขาขึ้น) หรือสูงกว่าแนวต้าน (สำหรับ Breakout ขาลง)
การตั้งเป้าหมาย: กำหนดเป้าหมายการทำกำไรตามแนวต้านหรือแนวรับถัดไป
ข้อดีของ Breakout:
โอกาสในการทำกำไร: Breakout อาจนำไปสู่การเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็ว
การระบุจุดเข้า: Breakout ช่วยให้ระบุจุดเข้าซื้อหรือขายที่ชัดเจน
ข้อเสียของ Breakout:
ความเสี่ยง: Breakout อาจเป็น Breakout หลอก
การสูญเสีย: อาจสูญเสียเงินหากตั้งจุดตัดขาดทุนไม่เหมาะสม
สรุป:
Breakout เป็นกลยุทธ์การเทรด Forex ที่มีประสิทธิภาพ แต่ต้องใช้อย่างชาญฉลาด ควรศึกษา Breakout ควบคู่กับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ ฝึกฝนการเทรดบนบัญชีทดลอง และมีการจัดการความเสี่ยงที่ดี
Trend arrow IndicatorTrend arrow Indicator FREE!
👰👯อินดิเคเตอร์บอกเทรนในการเข้าออเดอร์
อินดิเคเตอร์ที่ช่วยให้มือใหม่ที่กำลังกระโจนเข้ามาในตลาดเกิดความอุ่นใจ เพราะแม้ว่าจะเทรดด้วยตัวคนเดียว Always Alone แต่ก็ยังอุ่นใจเพราะอินดิเคเตอร์ยังพอเป็นที่ปรึกษาและที่พึ่งทางใจได้
วิธีการใช้งาน
1. ดาว์นโหลดอินดิเคเตอร์ ตามลิงค์ที่ให้ไว้ด้านล่างก่อน
2.ดึงตัวอินดิเคเตอร์ใส่ลงไปใน MT4 ได้เลย
3. อินดี้ตัวนี้จะมีลูกศรบอกเทรน และสามารถเข้าได้เลยตามที่ลูกศรปรากฏขึ้นมา
เจ้าของอินดิเคเตอร์ตัวนี้ ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าเทรดแบบมาร์ติงเกล กำไรดี๊ดีแหละ ยิ่งเป็น การดีที่จะผสมผสานกับ Martingale EA เพื่อติดตาม Trend แหนะ มีแอบขาย EA นิดหน่อย แต่ EA ฟรีก็มีเยอะแยะ ของฟรีต้องจัดนะ ดี๊ดี จริมๆ ขอบอก
ดูจากรูปแล้ว แอดบอกเลย ว่ามันง่ายและง่ายมากๆ บอกเทรนพร้อม มีลูกศรชี้จุดเข้าอีก โอ๊ย ดีงามมากพ่อ
👰👯 เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สมัยนี้การเทรดแบบมีตัวช่วยไม่ใช่เรื่องน่าอาย ใครๆก็ทำกัน แถมช่วยให้การเทรดกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นอีกด้วย ไม่จัดได้ไงหละ ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรใส่เครื่องมือเพิ่มเข้าไปอีกนิดหน่อยนะครับ ถ้าไม่ค่อยลายตาก็จัดไปครับ แค่ที่อยากฝากไปอีกนิดคือ เครื่องมือเทรดจะดีแค่ไหนเราก็ต้องมีระบบระเบียบในการเทรดนะครับ ต้องมีวินัยในการเทรด แล้ว กำไรจะตามมาได้ไม่ยากเลยจริงๆ
เทคนิคการเทรด Forex แบบมือโปร: วิเคราะห์ Demand & Supply Zoneบทความนี้ จะพาทุกท่านไปรู้จักกับ "Demand & Supply Zone" เทคนิคการวิเคราะห์กราฟราคาที่ช่วยให้เข้าใจกลไกตลาด หาจุด "เข้าซื้อ-ขาย" ที่ดี และเพิ่มโอกาสในการ "ทำกำไร" ในตลาด Forex
Demand & Supply Zone (D&S Zone) หรือ โซนอุปสงค์อุปทาน เป็นเทคนิคการวิเคราะห์กราฟราคา Forex ที่ใช้หลักการง่ายๆ ของกลไกตลาด เมื่อราคาสินค้ามี “ผู้ซื้อ” มากกว่า “ผู้ขาย” ราคามีแนวโน้มที่จะ “ขึ้น”
ในทางกลับกัน เมื่อ “ผู้ขาย” มีมากกว่า “ผู้ซื้อ” ราคามีแนวโน้มที่จะ “ลง”
D&S Zone ใน Forex จึงหมายถึง ช่วงราคา ที่ในอดีตเคยเกิด “การซื้อขาย” อย่างหนาแน่น แสดงถึง “แรงซื้อ” หรือ “แรงขาย” ที่อาจส่งผลต่อทิศทางราคาในอนาคต
ประเภทของ D&S Zone
Demand Zone (โซนอุปสงค์): โซนที่ราคามีแนวโน้มที่จะ “ดีดตัวขึ้น” เมื่อราคาลงมาทดสอบ
Supply Zone (โซนอุปทาน): โซนที่ราคามีแนวโน้มที่จะ “ถูกกดลง” เมื่อราคาขึ้นไปทดสอบ
วิธีการหา D&S Zone
มีหลายวิธีในการหา D&S Zone แต่ที่นิยมใช้กันมาก ได้แก่
การวิเคราะห์จากปริมาณการซื้อขาย: ดูจากแท่งเทียนที่มีปริมาณการซื้อขายสูงๆ
การวิเคราะห์จากแนวรับแนวต้าน: แนวรับแนวต้านที่เกิดจากแรงซื้อแรงขายในอดีต
การวิเคราะห์จากรูปแบบกราฟ: รูปแบบกราฟที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนทิศทางของราคา เช่น หัวไหล่กลับ หัวไหล่คว่ำ
ตัวอย่างการใช้ D&S Zone ในการเทรด Forex
การเทรดแบบ Buy: เมื่อราคาลงมาทดสอบ Demand Zone รอให้เกิดสัญญาณการกลับตัว เช่น แท่งเทียนกลับตัว ซื้อเข้าเพื่อหวังว่าราคาจะ “ดีดตัวขึ้น”
การเทรดแบบ Sell: เมื่อราคาขึ้นไปทดสอบ Supply Zone รอให้เกิดสัญญาณการกลับตัว เช่น แท่งเทียนกลับตัว ขายออกเพื่อหวังว่าราคาจะ “ถูกกดลง”
ข้อดีของการใช้ D&S Zone
ช่วยให้เข้าใจ “กลไกตลาด”
หาจุด “เข้าซื้อ-ขาย” ที่ดี
เพิ่มโอกาสในการ “ทำกำไร”
ข้อเสียของการใช้ D&S Zone
“สัญญาณไม่ชัดเจน”: D&S Zone ไม่ได้บอกเราเสมอไปว่าราคาจะ “ดีดตัว” หรือ “ถูกกด”
“ตีกรอบผิด”: การตีกรอบ D&S Zone ผิด จะทำให้จุด “เข้าซื้อ-ขาย” ผิดพลาด
“ตลาดเปลี่ยนแปลง”: กลไกตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ D&S Zone ที่เคยใช้ได้ อาจจะใช้ไม่ได้ในอนาคต
BTCUSD Daily Analysis 16/7/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
นักวิเคราะห์มองบิตคอยน์เข้าทางแยกสำคัญ
นักวิเคราะห์บางคนชี้ว่า บิตคอยน์กำลังอยู่ในช่วงทางแยกสำคัญ
โดยราคาอาจจะพุ่งขึ้นไปแตะ $67,000 หรือร่วงลงไปถึง $48,000
เจ้ามือ Bitcoin ยุคดึกดำบรรพ์ฟื้นคืนชีพ
มีรายงานว่าเจ้ามือ Bitcoin ยุคดึกดำบรรพ์ที่หลับใหลมานานถึง 11 ปี
ได้กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้งด้วยการเทขาย Bitcoin
จำนวน 5,000 BTC ส่งผลให้ราคา Bitcoin ปรับตัวลงเล็กน้อย
cr.investing
Trading note:✅
Sell : 65000
✅Tp: 62357.59 60662.86
❗SL: 66000
เหตุผลในการเข้าเทรด:
หลังจากที่ราคามีแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
กำลังทดสอบโซน 65000 เน้นสวน โดยลุ้นให้ราคามีแรงขายเข้ามา
fibo : ตอนนี้ราคาไปทดสอบโซน 2.61
ลุ้นแนว 65000
RSI: Overbought
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: การเข้าที่บริเวณแนวรับแนวต้านที่สำคัญนั้น เป็นจุดหนึ่งที่รับความนิยม ไม่ว่าจะเทรดตามเทรนหรือสวนเทรน เป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว และ สามารถที่จะประยุกต์ได้หลอกหลาย
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
XAUUSD Daily Analysis 16/7/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
นักวิเคราะห์มองบิตคอยน์เข้าทางแยกสำคัญ
นักวิเคราะห์บางคนชี้ว่า บิตคอยน์กำลังอยู่ในช่วงทางแยกสำคัญ
โดยราคาอาจจะพุ่งขึ้นไปแตะ $67,000 หรือร่วงลงไปถึง $48,000
เจ้ามือ Bitcoin ยุคดึกดำบรรพ์ฟื้นคืนชีพ
มีรายงานว่าเจ้ามือ Bitcoin ยุคดึกดำบรรพ์ที่หลับใหลมานานถึง 11 ปี
ได้กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้งด้วยการเทขาย Bitcoin
จำนวน 5,000 BTC ส่งผลให้ราคา Bitcoin ปรับตัวลงเล็กน้อย
cr.investing
Trading note: ✅
Sell : 65000
✅ Tp: 62357.59 60662.86
❗ SL: 66000
เหตุผลในการเข้าเทรด:
หลังจากที่ราคามีแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
กำลังทดสอบโซน 65000 เน้นสวน โดยลุ้นให้ราคามีแรงขายเข้ามา
fibo : ตอนนี้ราคาไปทดสอบโซน 2.61
ลุ้นแนว 65000
RSI: Overbought
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: การเข้าที่บริเวณแนวรับแนวต้านที่สำคัญนั้น เป็นจุดหนึ่งที่รับความนิยม ไม่ว่าจะเทรดตามเทรนหรือสวนเทรน เป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว และ สามารถที่จะประยุกต์ได้หลอกหลาย
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
Order : 32 : Trading Journal of Gold (XAUUSD) :Trading Journal of Gold (XAUUSD)
Order : 32
Pair : XAUUSD
Date : 15.7.2567 16.10 pm.
Session : London
==============================
🔻1. Pre-Trading State
==============================
💡แนวโน้มหลักตามกรอบ Linear Regression Line ยืนราคาเหนือ 2400$ ในแนวโน้มแบบ Bullish ใน H1 โดยทำ Swing High อยู่ที่ 2424.55 และ Swing Low ที่ 2378.18
💡หลังจากที่ได้รับอิทธิพลของ CPI และอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง ตลาดจึงมีความหวังที่ Fed จะปรับลดดอกเบี้ยในอนาคต
💡ราคาทองคำเปิดเหนือ Mean Line (P)
💡Daily Pivot Bias : Buy โดยการเทรดจะต้องรอให้ราคาลงมาทดสอบ L3 และสามารถยืนเหนือ L3 ได้ เป้าหมายอยู่ที่ H1,H2,H3
-----------
✅COT (09 Jul 2024)
Long : 18,158 | Short : 9,612 | Total : 351,311 |
-----------
✅SPDR Gold Share (15 July 2024)
Long : +0.00 | Short : +0.00 | Total : 835.09|
-----------
✅Gold Futures Trade Price = | 2415.80|
==============================
🔻2. Risk Management Preparation
==============================
Volatility Based Model Risk Control (VBMR)
ATR Period : 14D = 4.19%
ATR TF : H1
Factor Scale : 2x
==============================
🔻3. Trading State
==============================
Trade Order : Buy
Price : 2403.87
Stop : 2396.58
==============================
🔻4. Post-Trading State
==============================
Before :
After :