บทวิเคราะห์ทองคำประจำวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564

สวัสดีภาคบ่าย Session EU ช่วงเช้าติดภารกิจส่วนตัวกับทางบ้าง เลยมีเวลาไม่พอที่จะมาเขียนบทวิเคราะห์ ภาคเช้าวันนี้ทองคำยังคงถูกกดดันลงมาตำ่กว่า 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง ก่อนช่วงบ่ายได้ขยับตัวขึ้นเล็กน้อย สำหรับทองคำก็ยังมีแรงกดดันมาจากพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยมองว่าถ้ายังไม่ลดตัวลงต่ำกว่า 1.394 และ 1.372 ยังมีโอกาสที่จะกลับขึ้นไปด้านบนอีกครั้ง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ทองคำก็จะถูกดันในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ไร้แรงดึงดูดจากการที่ไม่มีการตอบแทนในแบบอัตราดอกเบี้ย และยังคงมีข่าวเกี่ยวกับวัคซีนของ J&J ที่จะได้รับอนุมัติให้นำมาใช้กรณีฉุกเฉิน ทั้งการประเมินจากอิสลาเอลที่บอกว่าวัคซีนของไฟเซอร์มีแนวโน้มในทางที่ดีต่อการป้องกันไวรัสโควิด-19 ทำให้ยังเป็นแรงกดดันต่อเนื่อง คืนนี้ยังมีการประกาศ GDP ไตรมาส 4/2020 ครั้งที่ 2, รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และยอดสั่งสินค้าคงทน ที่จะออกมากดดันราคาทองคำได้อีกหรือไม่

มาดูในทางเทคนิค ทองคำถ้ายังไม่สามารถเคลื่อนไหวกลับไปเหนือบริเวณ Supply zone ได้นั้น ก็ยังเป็นโอกาสที่ทองคำจะถูกกดดันเทขายทำกำไรออกมาอีก เนื่องจากตลอดเวลาที่ทองคำปรับตัวสูงขึ้นก็ยังมีแรงขายสลับออกมาทำกำไรได้ที่บริเวณ Supply zone ดังกล่าวด้วย ดังนั้นถ้ายังไม่ยืนเหนือแนวบริเวณดังกล่าว ก็ยังมีโอกาสที่ทองคำจะอ่อนตัวลงมาได้อีก โดยมีแนวรับที่อยู่ในเขต Demand zone เป็นแนวรองรับราคาทองคำเอาไว้ หากแนวบริเวณ Demand zone ยังรับราคาได้และยังไม่หลุดต่ำลงไปก็ยังเป็นโอกาสที่ทองคำจะปรับตัวขึ้นได้อีกเช่นกัน

กลยุทธ์การเทรดทองคำวันนี้ (ระยะสั้น : Long-term)
หากราคาทองคำปรับย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับระยะสั้นที่ 1,794 ดอลลาร์ต่อออนซ์และทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว อาจเสี่ยงเปิดเข้าซื้อ (Long) โดยให้เน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น การพิจารณาทำกำไรให้ตั้งเป้าไว้ที่แนวต้าน 1,804 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากว่าราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านไปได้ ให้พิจารณาปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน แต่ถ้าราคาสามารถผ่านขึ้นไปได้ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไร โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1,816 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองทำหลุดต่ำกว่า 1,788 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับแนวต้านทองคำ
--------------------------------------
Resistance : 1,804 / 1,816 / 1826
--------------------------------------
Support : 1,794 / 1,781 / 1,773
--------------------------------------

แนวโน้มทองคำ (Trand)
--------------------------------------
H1 = Downtrend (Below EMA200)
H4 = Downtrend (Below EMA200)
DAY = Downtrend (Below EMA200)
WEEK = Uptrend (Above EMA200)
MONTH = Uptrend (Above EMA200)
---------------------------------------

*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการลงทุนที่ถูกต้อง 100% เสมอไป

ความคิดเห็น:

อัพเดททองคำภาคค่ำ

ทองคำตลอดบ่ายยังคงปรับตัวต่ำต่อเนื่องโดยทำจุดต่ำสุดของวันเมื่อเวลา 18:00 น.ที่ระดับ 1,781.39 หรือ -8.04 ดอลลาร์ (-0.45%) ทำให้เห็นว่าทองคำยังคงปรับตัวต่ำต่อเนื่องก่อนการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในค่ำคืนนี้ สาเหตุหลักกดดันทองคำคืนนี้ไม่หยุดหย่อนมาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield 10 Y.) ที่ยังคงปรับตัวสูงต่อเนื่อง ระดับ 1.466 แต่ในส่วนของดอลลาร์ยังคงปรับตัวต่ำลงสู่ระดับ 89.69 ซึ่งก็กระทบจากการแถลงการณ์ของเฟดที่ยังจะสะท้อนว่าจะคงอัตราตราดอกเบี้ยต่ำต่อไปอีกยาวนาน

ทองคำคืนนี้กลับสู่การปรับฐานราคาช่วงเวลา 19:00 น. โดยหากทองคำยังไม่หลุดต่ำไปกว่า 1,781 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็อาจทำให้ทองคำดีดตัวขึ้นสู่แนวต้านระดับ 1,804 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งก็ยังเป็นการปรับขึ้นในระดับจำกัด เพราะยังมีแรงขายสลับออกมาต่อเนื่อง หากผลตัวเลขคาการณ์ออกมาดีเช่น ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, รายงาน GDP รอบ 2 ไตรมาส 4/2020 ออกมาเป็นภาพรวมที่ดี ก็จะส่งผลต่อสกุลเงินดอลลาร์ได้อีกทาง หากเป็นเช่นนั้นก็จะกดดันทองคำได้พอสมควร โดยก็ต้องมาลุ้นกันว่ามันจะกดดันให้หลุดจากแนว Demand zone ได้หรือไม่ แต่หากตัวเลขออกมาแย่ ก็จะหนุนทองคำให้กลับไปยืนเหนือ 1,804 ได้อีกครั้ง

คำแนะนำการเทรดภาคค่ำวันนี้
รอราคาทองคำย่อลงสู่แนวรับบริเวณ 1,781 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือสามารถยืนได้ที่บริเวณดังกล่าว อาจเสี่ยงเปิดคำสั่งซื้อทำกำไรระยะสั้นที่แนวต้าน 1,804 ดอลลาร์ต่อออนซ์​ ทั้งนี้ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเปิดคำสั่ง Long ก่อนการประกาศตัวเลขไว้ก่อน หากนักลงทุนไม่มั่นใจ แต่หากนักลงทุนที่รับความเสี่ยงก็อาจเปิดคำสั่งดังกล่าวได้ และให้ติดตามการเคลื่อนไหวก่อนเวลาประกาศข่าวด้วย ไม่แนะนำให้ถือยาว (Long-term Position)
(ตัดขาดทุนสำหรับแผนดังกล่าว หากราคาหลุดต่ำกว่า 1,733 ดอลลาร์ต่อออนซ์)