แนวโน้มน้ำมัน WTI สำหรับ วันที่ 22/01/2568สถานการณ์ตลาดน้ำมัน WTI:
ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลงหลังจากอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวสุนทรพจน์ในวันสาบานตนรับตำแหน่ง โดยประกาศ "ภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติ" เพื่อเพิ่มอุปทานพลังงานในสหรัฐฯ ผ่านการขุดเจาะน้ำมันใหม่ วางท่อน้ำมันเพิ่มเติม และสร้างโรงกลั่นใหม่เพื่อกดดันราคาพลังงานในประเทศให้อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งส่งผลให้อุปทานในตลาดเพิ่มสูงขึ้นและราคาน้ำมันปรับตัวลดลงมาถึง เเนวรับสำคัญมองว่าราคาอาจจะสร้างรูปเเบบสวิงตัวในกรอบกว้างเเล้วจึงค่อยเลือก
กลยุทธ์ฝั่ง Long
จุดเข้า: รอราคาย่อลงมาที่ 73.5
จุดตัดขาดทุน: หากราคาหลุด 72.6
เป้าหมายกำไร:
เป้าหมายแรก 77.0
เป้าหมายถัดไป 78.0
กลยุทธ์ฝั่ง Short (ถ้าราคาขึ้นไปที่แนวต้าน)
จุดเข้า: รอราคาขึ้นไปที่ 78-76.7
จุดตัดขาดทุน: หากราคาทะลุ 78.5
เป้าหมายกำไร:
เป้าหมายแรก 74.5 ดอลลาร์
เป้าหมายถัดไป 73.5ดอลลาร์
USOILSPOT ไอเดียในการเทรด
แนวโน้มรายวัน20-1-2025 Bias Buy โดยที่มองโซน 77$ - 78.250$ โดยจะราคาจะลงมาพักเพื่อสะสมแรงแล้วขึ้นไปต่อ
14/1/25 WTI COT 🛢 (net)
COT : Managed Money
Prev. : 253,879
Pres. : 236,242
= diff : -17,637con
**Diff Prev. Week
: +50,831con
COT : Producer
Prev. : 189,471
Pres. : 190,288
= diff : +817con
**Diff Prev. 817Week
: +426con
แนวโน้มน้ำมัน WTI สำหรับ วันที่ 14/01/2568ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรต่ออุตสาหกรรมน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันไปยังจีนและอินเดียกระทรวงการคลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของรัสเซียในวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการลงโทษต่อการที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารโจมตียูเครน
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาน้ำมันปรับตัวเข้าใกล้โซนแนวต้านสำคัญที่ระดับ 80.56 - 79.00 การขึ้นถึงเเนวต้านใหญ่ในรอบ 5เดือนที่ผ่านมาน่าจะมีการย่อพักตัวเเล้วจึงเลือกทาง
กลยุทธ์
เปิดสถานะ Short ราคา 80.56 - 79.00
จุดตัดขาดทุน 81.50
เป้าหมายการทำกำไร: 75.82- 74.46
แนวโน้มน้ำมัน WTI สำหรับ วันที่ 6/01/2568ราคาน้ำมันดิบ WTI ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง แสดงสัญญาณที่น่าสนใจของการเคลื่อนไหวในรูปแบบ ขึ้นเพื่อลงต่อ โดยมีโอกาสที่ราคาจะสร้างรูปแบบ Head and Shoulders ซึ่งสามารถใช้เป็นจังหวะสำหรับการเปิดสถานะ Short หากราคาลดลงมาทดสอบ Neckline ที่ระดับแนวรับสำคัญ 73.04 และเริ่มสร้างไหล่ขวา จะช่วยยืนยันโอกาสของการปรับตัวลงในอนาคต เมื่อราคาทะลุ Neckline ด้วยแรงขายที่ชัดเจน จะถือเป็นสัญญาณยืนยันการลงต่อในระยะยาว
รอให้ราคาสร้างรูปแบบ Head and Shoulders ที่ชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณแนวต้าน 75.35 - 76.10
เมื่อราคาทะลุ Neckline ที่ระดับ 74.04 ลงมา ควรเปิดสถานะ Short พร้อมวางจุดตัดขาดทุน
Stop Loss เหนือแนวต้านที่ 76.10
เป้าทำกำไร
แนวรับที่ 73.04
แนวรับสำคัญที่ 70.91 ซึ่งเป็นระดับที่ราคามีโอกาสชะลอการลง
แนวโน้มน้ำมัน WTI สำหรับ วันที่ 26/12/2567ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2024 โดยเฉพาะการบริโภคพลังงานที่เริ่มเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดเทศกาล นอกจากนี้ ตลาดยังจับตามองการเคลื่อนไหวของกลุ่มประเทศโอเปกและพันธมิตร (โอเปกพลัส) เกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมันที่จะส่งผลโดยตรงต่ออุปทานในตลาด
อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในบางภูมิภาค เช่น จีน เป็นปัจจัยที่อาจกดดันราคาน้ำมัน
ติดตามตัวเลขในสัปดาห์นี้
Crude Oil Inventories
แผนการเทรดในกรอบสวิง
จุดเข้าและออก
เปิดสถานะ Short ที่ระดับ 70.5
กำหนดที่ระดับ 70.9 เพื่อป้องกันความเสี่ยงหากราคาเคลื่อนไหวสวนทาง
จุดทำกำไร
TP1: ที่ระดับ 69.5
TP2: ที่ระดับ 68.6
แนวโน้มน้ำมัน WTI สำหรับ วันที่ 18/12/2567ราคาน้ำมันในวันนี้มีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบกว้าง โดยนักลงทุนควรจับตาดูปัจจัยพื้นฐาน เช่น การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และรายงานเศรษฐกิจ
สัญญาณ Indicator:
Stochastic อยู่ในโซน Overbought (95.44 - 89.32) ซึ่งบ่งชี้ว่าราคามีโอกาสย่อตัวลงในระยะสั้น
เส้นค่าเฉลี่ย MA 50 กลายเป็นแนวต้านในช่วงสั้น
การฟอร์มตัวของกราฟเป็นรูปแบบ Lower High และมีโอกาสทำ Lower Low อีกครั้ง
เน้นกลยุทธ์ Short โดยหาจังหวะเปิดสถานะเมื่อราคารีบาวด์ขึ้นมาที่บริเวณแนวต้าน 70.06 - 70.50 ดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่ 68.84 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนหากราคาปิดทะลุ 70.70 ดอลลาร์ ขึ้นไป
แนวโน้มราคา USOIL, TF 60 ระยะกลาง sidewayราคาน้ำมัน USOIL มีแนวโน้มปรับตัวลงในกรอบระยะสั้น โดยเน้นกลยุทธ์ Long ที่แนวรับ และ short ที่บริเวณแนวต้าน
โดยระยะกลางกรอบราคา sideway ระหว่าง 72.0-67.0 สามารถ trading ในกรอบแนวต้านและแนวรับได้
และระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวลง และจะมีจุดคัทหากเบรกกรอบแนวต้าน 72.0 ขึ้นไปได้
แนวโน้มน้ำมัน WTI สำหรับ วันที่ 22/11/2567ราคาน้ำมัน WTI มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อในกรอบระยะสั้น โดยเน้นกลยุทธ์ Long ที่แนวรับ 69.36 ดด้วยเป้าหมายกำไรที่ 71.45 - 72.16และกำหนดจุด Stop Loss ที่ 68.80
Risk-Reward Ratio (RR)
RR สำหรับเป้าหมายแรก 71.45
หากเปิดสถานะที่ 69.36 และตั้ง Stop Loss ที่ 68.80 ความเสี่ยงอยู่ที่ 0.56 ในขณะที่เป้าหมายกำไรคือ 2.09 ดอลลาร์RR = 2.09:0.56 หรือประมาณ 3.7:1
RR สำหรับเป้าหมายที่สอง 72.16
ความเสี่ยงยังคงเท่าเดิมที่ 0.56 ดอลลาร์ แต่เป้าหมายกำไรเพิ่มเป็น 2.80 ดอลลาร์
RR = 2.80:0.56 หรือประมาณ 5:1
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากอุปสงค์ในจีนราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความต้องการใช้น้ำมันในจีนที่ฟื้นตัวและความกังวลเกี่ยวกับปัญหาอุปทานจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน นักลงทุนกำลังรอดูข้อมูลคลังน้ำมันของ EIA ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาน้ำมัน
มุมมองทางเทคนิค: น้ำมันดิบเคลื่อนไหวในกรอบรูปสามเหลี่ยมหดตัว หากแนวรับ $67.45 ยังคงอยู่ มีโอกาสที่ราคาจะทะลุขึ้น โดยเป้าหมายต่อไปอยู่ที่ $72.61 และ $77.64
แนวโน้มน้ำมัน WTI สำหรับ วันที่ 15/11/2567แนวรับและแนวต้านสำคัญ:
แนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 66.985 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งสำหรับการป้องกันการปรับตัวลงของราคา
แนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 70.105 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นเป้าหมายทำกำไรจากการสวิงตัวของราคา
ระดับ Fibonacci Retracement:
ระดับ Fibonacci ช่วยชี้ให้เห็นถึงแนวรับและแนวต้านระยะสั้น โดยแนวต้านที่สำคัญในช่วงนี้คือระดับ 1.618 ใกล้ ๆ กับ 68.105- 67.79
จุดเข้าซื้อที่น่าสนใจ: 68.14 หากราคายืนเหนือระดับนี้ได้อย่างมั่นคง
เป้าหมายกำไร (แนวต้าน): 70.105
ตัดขาดทุน: 66.985
อัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (RR): ประมาณ 1:1.70
น้ำมันดิบร่วง กังวลความต้องการใช้ลดลงราคาน้ำมันดิบอ่อนตัว จากความกังวลเกี่ยวกับความต้องการใช้ที่ลดลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนในตะวันออกกลาง และข้อมูลเศรษฐกิจภาคการผลิตที่อ่อนแอ ในสหรัฐฯ ยุโรป และจีน พร้อมทั้งสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่สูงเกินคาด ส่งผลให้ราคาน้ำมันมีแนวโน้มอ่อนตัวลงต่อ
มุมมองทางเทคนิค ราคาน้ำมันหยุดลดลงที่ระดับ 67.45 แต่ยังไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 72.61 ได้ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะลดลงต่อ โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ 63.83
ราคาน้ำมันดิ่งลงจากข่าวอิสราเอล/อิหร่านราคาน้ำมันร่วงหนักจากข่าวอิสราเอลตกลงโจมตีอิหร่านเฉพาะเป้าหมายทางทหาร ซึ่งช่วยลดความกังวลเรื่องการขาดแคลนน้ำมันในขณะนี้ แต่สถานการณ์ยังไม่แน่นอน นอกจากนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอและค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งตัวก็กดดันให้ราคาน้ำมันลดลงมากกว่า 10%
มุมมองทางเทคนิค: ราคาน้ำมันดิบไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ 77.64 ได้ และปรับตัวลงอย่างแรง ขณะนี้ราคาหลุดแนวรับ 72.61 หากยังไม่สามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ มีโอกาสที่ราคาจะลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 67.45 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญของกรอบขาลง
Weekly Update Trend USOUSD(WTI OIL) by C.AugustAbout Trend
แนวโน้มราคาน้ำมันตอนนี้มีโครงสร้างเป็นขาลงชัดเจนทั้งในภาพหลักและรอง
กลยุทธ์ที่แนะนำ คือ รอราคาเด้งขึ้นมาที่ Observation zone (ที่ราคา 69.5 - 70.7) และหาจังหวะ Sell ลงมาตามแนวโน้ม
__________
About Momentum
-หรือรอให้ราคาในภาพ 4h ตรงนี้เกิดสัญญาน Overbought ใน Williams %R แล้วเกิดแท่งเทียนกลับตัวในภาพ 4h ค่อย Entry ก็ได้เช่นกันหากดูเรื่องของ Momentum ประกอบด้วย
__________
About Expected Price
โดยมีแนวราคาคาดหวังกรณีที่ราคาลงต่อไปตามแนวโน้มที่แนว Low เดิม 65.5 ของโครงสร้าง และแนวคาดหวังถัดไปที่ 60.75 แนว Fibonacci 161.8% เลย
จะหลุด DZ H4 มั้ยสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (13 ก.ย.) เนื่องจากการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ เริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้งหลังจากได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนฟรานซีน และการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 32 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 68.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 36 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 71.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
แต่ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบปิดปรับตัวขึ้นหลังจากพุ่งขึ้นอย่างมากเนื่องจากพายุในช่วงต้นสัปดาห์ โดยสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้นประมาณ 0.8% ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้นประมาณ 1.4%
แนวโน้มน้ำมัน WTI สำหรับ วันที่ 13/09/2567การเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ในช่วงฤดูหนาวของยุโรป การตัดกำลังการผลิตของ OPEC+ และความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดดอกเบี้ย ประกอบกับความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและการเพิ่มขึ้นของการผลิตน้ำมันจากนอก OPEC+ ราคาน้ำมันในช่วงนี้ (ตุลาคม-ธันวาคม 2024) มีแนวโน้มที่จะคงตัวหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับปัจจุบันที่ประมาณ $67-70 ต่อบาร์เรล
สำหรับ WTI
ราคาได้ลงไปเเนวรับที่ 65.5 เเล้วมีเเรงซื้อมาที่ 69 กลับให้หาจังหวะซื้อหากราคาลง
เเนวรับที่ 67
ตัดขาดทุนที่ 65
เป้าทำกำไรที่เเนวต้าน 71-73