หลังจากชนแนวต้านก็จะทำทรงย่อลงมาตามกรอบแนวรับจากเส้นเทรนไลน์ราคาย่อลงมาจากการขึ้นไปชนแนวต้านตามเส้นเทรนไลน์ไม่สามารถทะลุได้ทำให้ย่อลงมาสลับกับขึ้นแบบside wayลดลงโดย Phukitisak2
DXY อาจปรับตัวลงจากบริเวณนี้ ก่อนหน้านี้ คิดว่าลงมา 5 wave แล้ว มีความเป็นไปได้ ว่าอาจจะปรับฐานแบบ flat 3-3-5 5 ขาสุดท้าย อาจจะจบแล้ว ถ้าเป็นการปรับตัวแบบ Flat จริง เชื่อว่า DXY น่าจะปรับตัวลงไปเวฟ 3 ในช่วงสัปดาห์หน้า ลดลงโดย UNRPP2
dxy ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ Myoutlook 31/05/67มุมมองส่วนตัวนะครับ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ณ ปัจจุบันราคายังเป็นเทรนขาขึ้นเเต่ยังไม่สามารถ เบรคจุดสำคัญ ของโซน Volume Imbalance ได้ อาจจะลงมารีเทสเเนวรับ เเล้วพักออกข้างเรื่อยๆ เเล้วขึ้นต่อได้เนื่องจาก ดอลล่ายังคงความ bullish order flow อยู่ในระยะยาว ไม่ได้เเนะนำให้ซื้อขายตามเเต่อย่างใดทุกกรณีนะครับเพิ่มขึ้นโดย StormSmash2
DXYหลังจากดัชนีดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเป็นเทรนด์ขาขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2022 ถึง ปลายปี 2023 ขณะนี้กลับลงมาสร้างกรอบสะสม ที่บริเวณราคา 105.88 USD - 100.78 USD สำหรับกลยุทธ์การเทรด จะเปิดสถานะ Short บริเวณกรอบบนที่ 105.88 USD และ จุดทำกำไรจะอยู่ที่ Median Line บริเวณ 103.33 USD และหากราคาไม่สามารถยืนเหนือ Median Line ที่ราคา 103.33 USD ดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มจะอ่อนค่า จะเป็นจุดพิจารณา เปิดสถานะ Short อีกครั้ง เพื่อไปทำกำไรที่กรอบล่าง บริเวณราคา 100.78 USD แต่หากราคาสามารถยืนเหนือ Median Line 103.33 USD ได้ จะเป็นการเปิดสถานะ Long เพื่อไปทำกำไรที่กรอบบน บริเวณราคา 105.88 USD ลดลงโดย Tfexhmuz10
Dxy Myoutlook ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ dxy ยังคงเคลือนที่ไปในรูปเเบบ Bullish Order Flow ราคายังไม่ได้หลุด รูปเเบบ Bullish Order Flow เเต่อย่างใดจึงมองว่าถ้าหากยังเคลื่อนที่ในรูปเเบบเดิมราคาจะกลับไปทดสอบ 105 usd ได้ เเต่ถ้าหากหลุดดอลล่าจะลงไปพักตัวอยู่ในโซน 104 usd เพิ่อสะสมกำลังเพื่อขึ้นต่อเพราะราคายังอยู่ในรูปเเบบขาขึ้น ไม่ได้เเนะนำให้ซื้อขายตามเเต่อย่างใดทุกกรณีนะครับเพิ่มขึ้นโดย StormSmash2
USD แข็งแกร่งอีกครั้ง DXY ทิศทางขึ้นหลังจากผันผวนสองสัปดาห์ ค่าเงินดอลลาร์กลับมาบวกจากคำแถลงของ Fed และรายงานประชุม FOMC ล่าสุด ดัชนี PMI ภาคบริการและการผลิตเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี ผู้กำหนดนโยบาย Fed ปฏิเสธการลดดอกเบี้ยเร็ว ๆ นี้ และเน้นความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ความน่าจะเป็นของการลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนอยู่ที่ 50% ขึ้นกับข้อมูลเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม มุมมองทางเทคนิค DXY หลังจากที่ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดของช่องขาขึ้น ตอนนี้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) กำลังพยายามทะลุระดับ 104.95 หากแรงซื้อสามารถดันดัชนีขึ้นเหนือระดับนี้ได้ จุดมุ่งหมายถัดไปคือ 107.04 ในขณะที่ด้านล่าง 103.48 ยังคงเป็นระดับแนวรับที่สำคัญเพิ่มขึ้นโดย ThaiTradeSignals1
DXY H4มันจะย้อนแย้งกับ EURUSD GBPUSD นิดหน่อยนะครับ เสมือนว่าถ้า SL EU ให้รอ DXY มาตาม AB=CD จะสวยอีกไม้นึงครับลดลงโดย sci_boom1
DXY📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲 📲💥อย่าลืมตั้งค่า SL ด้วยนะครับ ถ้าเกิดผิดทาง💥📲 .......................... 📌📌NOTE 📌📌 💥จากข้อมูลข้างต้น ไม่ได้เป็นการชักชวนหรือแนะนำให้ซื้อ-ขาย 💥ข้อมูลที่ลงเป็นเพียงการตั้งค่าวิเคราะห์จากตัวกร๊าฟ เป็นความคิดเห็นส่วนตัว 💥การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรพิจารณาโดย DEKHLUNGHONG1
Eaw_Neowave อัพเดท DXY ที่เคยดูเอาไว้ 9 มีนาคม 2564ดอลลาร์สหรัฐ ราคาเคลื่อนที่เป็นรูปแบบ Non-standard ประเภท double ตอนนี้อยู่ในชุดที่สองดูจากการเคลื่อนไหวของราคาน่าจะเป็น Zigzag ชุดแรก Correction เป็น flat หากรูปแบบราคาทั้งสองชุดแตกต่างกันจะเรียกว่า double combination เป้าหมายราคามองเหมือนเดิมที่ดูไว้เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ดอยเดิม 120 เหรียญ การขึ้นของดอลลร์สหรัฐอาจจะกดดันให้ทองคำเป็นขาลง โดย Eaw_Neowaveที่อัปเดต: 2270
DXY เผชิญกับแนวต้านดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าจากดัชนี PMI ที่ต่ำกว่าคาด ดอลลาร์สหรัฐมีการอ่อนค่าเมื่อวานนี้เนื่องจากผลการสำรวจดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของเดือนมีนาคมที่น่าผิดหวัง ดัชนี PMI ภาคการผลิตลดลงเป็น 49.9 จาก 51.9 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 52.0 ชี้ให้เห็นถึงการหดตัวในภาคส่วน ซึ่งเป็นการลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกันและเป็นระดับต่ำสุดในสี่เดือน ดัชนี PMI บริการยังคงอยู่เหนือจุดหดตัวเล็กน้อยที่ 50.9 ลดลงจาก 51.7 และต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 52.0 ซึ่งเป็นการลดลงเป็นเดือนที่สามติดต่อกันและเป็นระดับต่ำสุดในห้าเดือน ประเด็นที่น่ากังวลอย่างยิ่งคือการลดลงของการจ้างงานไปสู่ระดับที่ไม่เคยเห็นมาตั้งแต่ปี 2009 ยกเว้นในช่วงการระบาดของโรคระบาด ข้อมูลสินค้าคงทนที่จะเกิดขึ้น วันนี้ตลาดจะให้ความสนใจกับข้อมูลสินค้าคงทน ความคาดหวังคือสินค้าคงทนหลักจะยังคงอยู่ที่การเติบโตต่อเดือนที่ 0.3% ในขณะที่ตัวเลขหลักคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.5% จาก 1.3% ผลลัพธ์ที่ดีอาจทำให้ดอลลาร์สหรัฐมีเสถียรภาพ แต่หากไม่สามารถตอบสนองตามคาดการณ์ได้ อาจทำให้การขายดอลลาร์เพิ่มขึ้น พรุ่งนี้จะมีข้อมูลสำคัญเพิ่มเติม รวมถึง GDP ล่วงหน้าและการเรียกร้องสวัสดิการว่างงาน ซึ่งอาจนำไปสู่การผันผวนของค่าเงินดอลลาร์มากขึ้น การวิเคราะห์ทางเทคนิคของดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งวัดความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลักอื่นๆ ได้เห็นการเพิ่มขึ้นชั่วคราวเมื่อเร็วๆ นี้ ขณะนี้กำลังเผชิญกับแนวต้านใกล้ระดับ 107.04 หากดัชนีดอลลาร์ไม่สามารถรักษาระดับเหนือระดับ 104.95 ได้ ก็อาจลดลงต่อไปที่ประมาณ 103.48โดย ThaiTradeSignals1
weekly outlook Dxy 06/04/2024 Dxy กราฟภาพยังคงที่จะ เป็นเทรนขาขึ้นหลักเเต่ เนื่องจากขึ้นมานานจนไปชนเเนวต้านเก่าที่พึ่งมาทดสอบครั้งเเรกกราฟเลยเกิดการพักตัวราคาได้ทุบลงมาในรูปเเบบ DBD เเล้วมี Hidden base TF DAY เกิดขึ้น ลงมาจนทำ CHOCH ใน ทามเฟรม 4 H เเล้วได้ทดสอบไปเเล้วเกิดเป็นไส้ไม่สามารถผ่านได้จรึงมองว่าราคาจะทำเเพทเทิลการพักตัวลงมา อาจจะถึงโซนที่เขาเบรคขึ้นไปทำ HH เเล้วกลับตัวอย่างรุ่นเเรงไปทดสอบ 105-106 ก็เป็นไปได้สูง ดังนั้น week นี้ผมมอง dxy อาจจะ sideway down ลงมาหา โซนที่เคยเบรคขึ้นไปทั้งนี้อาจจะรอดูข่าวตัวเลข CPI ที่สำคัญประกอบด้วย เเต่ผมยังคงมองว่าจะ sideway down ลงมาก่อน ลดลงโดย StormSmash2
DXY 📲💥ฝากกดติดตามผมด้วยนะครับ💥📲 📲💥อย่าลืมตั้งค่า SL ด้วยนะครับ ถ้าเกิดผิดทาง💥📲 .......................... 📌📌NOTE 📌📌 💥จากข้อมูลข้างต้น ไม่ได้เป็นการชักชวนหรือแนะนำให้ซื้อ-ขาย 💥ข้อมูลที่ลงเป็นเพียงการตั้งค่าวิเคราะห์จากตัวกร๊าฟ เป็นความคิดเห็นส่วนตัว 💥การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรพิจารณาโดย DEKHLUNGHONG2
DXY มุมมอง บินระยะนึงDXY บินตามทรง หลังจากทำนวไฮ กำลังพักตัวเวฟ2จบแล้ว เตรียมดีดเวฟ3 ด้วยแรงข่าว อย่างไรก็แล้วแต่ เทรกด้วยความระมัดระวัง ช่วงต้นเดือนคือการทำใส้ จากนั้นจะทำเนิ้อเทียนคือเวพ3 จบใส้ที่เวฟ5 ติดตามกันแท่งต่อแท่งไปครับ สนใจเรียนรู้ทักมาเพิ่มขึ้นโดย CoachNuengFX1
Dxy Idea case study จากมุมมอง Dxy อาจจะมีการปรับฐานเนื่องจากมีสัญญานรอการกลับตัวเยอะมากนี้อาจจะถทำให้สินทรัพย์เสี่ยงได้เล่นขึ้นบนกันสนุกเเน่ๆ มี Bearish divergence ของ rsi 4 H มี orderblock ที่ยังไม่เคยทดสอบ (กำลังจะวิ่งมาชนทดสอบครั้งเเรก) มีเเพทเทิล 3 drive + falling wedge ซ้อนกันอยู่ ลดลงโดย StormSmashที่อัปเดต: 2
สหรัฐฯ และยุโรปขยายเวลาการสงบศึกภาษีดิจิทัลถึงกลางปี 2024ในความเคลื่อนไหวที่มุ่งให้เวลามากขึ้นในการเจรจาภาษีระหว่างประเทศ สหรัฐฯ และ 5 ประเทศในยุโรปได้ตกลงที่จะขยายเวลาการสู้รบเกี่ยวกับภาษีบริการดิจิทัลจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน /2567 การตัดสินใจดังกล่าวซึ่งประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี เป็นการเลื่อนเส้นตายก่อนหน้านี้ซึ่งกำหนดให้สิ้นสุดในปลายปี 2566 ออกไป แถลงการณ์ร่วมดังกล่าวซึ่งออกโดยสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ พร้อมด้วยออสเตรีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน ยืนยันการขยายเวลาของข้อตกลงในเดือนตุลาคม 2021 ข้อตกลงดังกล่าวอนุญาตให้ห้าประเทศในยุโรปสามารถรักษาภาษีดิจิทัลของตนไว้ได้ในขณะที่ชะลอการดำเนินการจนกว่าข้อตกลงภาษีทั่วโลก "เสาหลัก 1" จะมีผลบังคับใช้ ภายใต้ระบอบการปกครองที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ประมาณ 100 แห่งอาจต้องเผชิญกับภาษีโดยพิจารณาจากสถานที่ตั้งของการดำเนินงานมากกว่าสำนักงานใหญ่ การอภิปรายเกี่ยวกับการดำเนินการตามข้อตกลง "Pillar 1" มีความซับซ้อนเกินกว่าที่คาดไว้ ซึ่งนำไปสู่การขยายกำหนดเวลาการดำเนินการจนถึงสิ้นปี 2566 ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ เคยพิจารณาที่จะเก็บภาษี 25% สำหรับการนำเข้ามากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากข้อตกลงเหล่านี้ รวมถึงสินค้าจำพวกเครื่องสำอางและกระเป๋าถือ นี่เป็นการตอบสนองต่อการค้นพบ "มาตรา 301" ที่สรุปว่าภาษีบริการดิจิทัลมุ่งเป้าไปที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของอเมริกาอย่าง Meta Platforms Inc. อย่างไม่ยุติธรรม (NASDAQ: META), อัลฟาเบท อิงค์ (NASDAQ: GOOGL) Amazon.com Inc. (NASDAQ: NASDAQ:AMZN) และบริษัท Apple Inc. (NASDAQ: NASDAQ:AAPL) การขยายเวลาล่าสุดสอดคล้องกับประกาศเดือนธันวาคมของกลุ่มประเทศ G20 และ OECD ซึ่งมีเป้าหมายที่จะจัดทำข้อความข้อตกลง Pillar 1 ให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนมีนาคม โดยมีกำหนดพิธีลงนามในวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ภาษาของแถลงการณ์ร่วมเดิมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ยกเว้นไทม์ไลน์ที่อัปเดตเพิ่มขึ้นโดย AstronautPioneerที่อัปเดต: 6
เจ้าหน้าที่ Fed เตือนอย่าลดอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ประธานเฟดระบุซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมไม่น่าจะเป็นไปได้สูง ส่งผลให้ตลาดการเงินต้องประเมินอีกครั้งเมื่อพวกเขาคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลง ดอลล่าร์. (ภาพ: AFP/TTXVN) เจ้าหน้าที่อาวุโสของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ว่า มันจะเป็น "ความผิดพลาด" หากเฟดเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป แม้ว่าล่าสุดจะมีความคืบหน้าในการควบคุมอัตราดอกเบี้ยแบบเงินเฟ้อก็ตาม เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วสู่ระดับสูงสุดในรอบ 23 ปี เพื่อลดอัตราเงินเฟ้อลงสู่เป้าหมายระยะยาวที่ 2% ผู้กำหนดนโยบายของ Fed ส่งสัญญาณในช่วงปลายปี 2023 ว่าพวกเขาได้เริ่มการเจรจาในเวลาที่เหมาะสมเพื่อเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มาตรฐานของ Fed ซึ่งจุดประกายให้ตลาดมองโลกในแง่ดีว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุดในเดือนมีนาคม 2024 อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ระบุซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม 2024 นั้นไม่น่าเป็นไปได้อย่างมาก ส่งผลให้ตลาดการเงินต้องประเมินอีกครั้งเมื่อพวกเขาคาดว่าจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยลง เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดคลีฟแลนด์ ซึ่งมีสิทธิลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับการกำหนดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ ร่วมกับประธานพาวเวลล์ "เทน้ำเย็น" ในตลาดเกี่ยวกับการเก็งกำไร อัตราดอกเบี้ยกำลังจะถูกตัดลง ลอเร็ตตา เมสเตอร์ กล่าวในการประชุมที่โอไฮโอว่า อาจเป็นความผิดพลาดที่จะลดอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปหรือเร็วเกินไปโดยไม่มีหลักฐานเพียงพอว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่บนเส้นทางที่ยั่งยืนและจะกลับสู่ระดับต่ำทันที 2% เธอกล่าวว่าเฟดเชื่อว่ายังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าหน่วยงานจะ "มีความมั่นใจมากขึ้น" ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเป็นไปตามแนวทางที่ยั่งยืนโดย AstronautPioneerที่อัปเดต: 6
ค่าเงินดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบแปดสัปดาห์เนื่องจากการคาดการณ์กเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบแปดสัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในวันจันทร์ เนื่องจากผู้เข้าร่วมตลาดได้ปรับการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางสหรัฐ การปรับเทียบการเดิมพันการปรับลดอัตราดอกเบี้ยใหม่เกิดขึ้นภายหลังรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ และความคิดเห็นจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม พาวเวลล์ ที่แนะนำว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมไม่น่าจะเป็นไปได้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งติดตามค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงิน สูงสุดที่ 104.18 ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม การเพิ่มขึ้นของค่าเงินดอลลาร์เกิดขึ้นหลังจากรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ สหรัฐฯ เอาชนะการคาดการณ์ของตลาดและเสริมความคิดเห็นล่าสุดโดย พาวเวลล์ว่าความเข้มแข็งของเศรษฐกิจอาจทำให้เฟดอดทนในการปรับอัตราดอกเบี้ยได้ การประเมินความน่าจะเป็นของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed อีกครั้งนั้นเห็นได้ชัดในการประเมินมูลค่าตลาด โดยปัจจุบันเครื่องมือ CME FedWatch แสดงโอกาสเพียง 20% ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม ซึ่งลดลงอย่างมากจากโอกาสเกือบ 50% ราคาชุดประกอบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว . ความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคมก็ลดลงเช่นกัน ในการให้สัมภาษณ์ในรายการ "60 Minutes" ของ CBS นายพาวเวลล์กล่าวว่าเฟดมีสิทธิ์ที่จะ "ระมัดระวัง" ในการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยโดยพิจารณาจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อ ฟิวเจอร์สกองทุนเฟดสะท้อนถึงความรู้สึกนี้ โดยคาดว่าจะมีมาตรการผ่อนคลายพื้นฐานประมาณ 137 จุดในปีนี้ ลดลงจาก 150 จุดพื้นฐานที่คาดการณ์ไว้เมื่อปลายปีที่แล้ว เงินเยนอ่อนค่าลงเป็น 0.15% อยู่ที่ 148.58/USD แตะระดับต่ำสุดที่ 148.82 ดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.33% สู่ระดับ 0.6490 ดอลลาร์ และดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.25% สู่ระดับ 0.6050 ดอลลาร์ เงินปอนด์อังกฤษก็แตะระดับต่ำสุดที่ไม่เคยมีมาก่อนนับตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม ที่ 1.2600 ดอลลาร์สหรัฐฯ อัตราผลตอบแทนกระทรวงการคลังสหรัฐสะท้อนถึงความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราผลตอบแทนสองปีเพิ่มขึ้นเกือบ 7 จุดเป็น 4.4386% และอัตราผลตอบแทนมาตรฐาน 10 ปีเพิ่มขึ้น 5 จุดพื้นฐานเพิ่มขึ้น 4.0829%เพิ่มขึ้นโดย AstronautPioneerที่อัปเดต: 3
USD ทรงตัว นักลงทุนรอข้อมูลเศรษฐกิจและสัญญาณของ Fedเงินดอลลาร์เริ่มต้นสัปดาห์ที่มั่นคงในขณะที่นักลงทุนวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก่อนการประชุมนโยบายธนาคารกลางสหรัฐในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลางก็จำกัดจิตวิทยาความเสี่ยง ดัชนี USD ซึ่งเป็นมาตรวัดสกุลเงินสหรัฐเทียบกับคู่แข่ง 6 ราย เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ 103.50 ในวันจันทร์ และยังคงอยู่ใกล้กับระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ที่ 103.82 ที่แตะระดับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2% ในเดือนมกราคม เนื่องจากเทรดเดอร์ลดความคาดหวังว่าสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่เนิ่นๆ และเชิงลึก ในเดือนธันวาคม เฟดสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยท่าทีแบบผ่อนคลายและคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานที่ 75 จุดในปี 2567 ส่งผลให้ผู้ค้าปรับราคาในลักษณะผ่อนคลายเชิงรุก โดยคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในต้นเดือนมีนาคม แต่ตั้งแต่นั้นมา ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและปฏิกิริยาจากธนาคารกลางทำให้เทรดเดอร์ปรับความคาดหวัง เครื่องมือ CME FedWatch แสดงให้เห็นว่าตลาดกำลังกำหนดราคาโดยมีโอกาส 48% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม เทียบกับโอกาส 86% ณ สิ้นเดือนธันวาคม “ตลาดตระหนักดีว่าวงจรที่เข้มงวดสิ้นสุดลงแล้ว” Marc Chandler หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดของ Bannockburn Forex กล่าว อย่างไรก็ตาม พวกเขามีการเคลื่อนไหวอย่างแข็งแกร่ง โดยกำหนดราคาแบบผ่อนคลายเชิงรุกโดยธนาคารกลาง G10 ส่วนใหญ่” แชนด์เลอร์กล่าวว่าในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้ามีแนวโน้มที่จะแก้ไขแนวโน้มที่เริ่มขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วต่อไป ข้อมูลเมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าราคาในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นปานกลางในเดือนธันวาคม ทำให้อัตราเงินเฟ้อต่อปีเติบโตต่ำกว่า 3% เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และตอกย้ำความคาดหวังว่าการลดอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ ความสนใจของนักลงทุนในสัปดาห์นี้จะมุ่งเน้นไปที่การประชุมนโยบายสองวันของธนาคารกลางสหรัฐซึ่งจะเริ่มในวันอังคาร โดยธนาคารกลางคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม โดยปล่อยให้ความสนใจมุ่งเน้นไปที่ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ และความคิดเห็นของเขา นอกจากเฟดแล้ว นักลงทุนยังจะได้ดูชุดข้อมูลเศรษฐกิจ รวมถึงข้อมูลการว่างงานของสหรัฐฯ และรายงานบัญชีเงินเดือนที่จะช่วยวัดความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน เงินยูโรอ่อนค่าลง 0.08% อยู่ที่ 1.0842 ดอลลาร์ และมีแนวโน้มว่าจะร่วงลง 2% ในเดือนนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วธนาคารกลางยุโรปคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4% และยืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์กำลังเดิมพันว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนเมษายน โดยมีจุดพื้นฐานเกือบ 140 จุดของการปรับราคาในปีนี้ เงินสเตอร์ลิงซื้อล่าสุดที่ 1.2704 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.01% ในวันก่อนการประชุมนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษในสุดสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้นโดย AstronautPioneerที่อัปเดต: 6
ประเด็นสำคัญประจำสัปดาห์นี้: การประชุมของเฟดและการจ้างงานนอกภาคเธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมในการประชุมวันที่ 30-31 มกราคม ซึ่งตลาดมองหาเบาะแสว่าธนาคารกลางชั้นนำของโลกจะเริ่มเมื่อใด เริ่มลดต้นทุนการกู้ยืมหลังจากหนึ่งในรอบที่ตึงเครียดที่สุดครั้งหนึ่ง ในทศวรรษ ความคาดหมายว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยทันทีในเดือนมีนาคม 2567 ทำให้เกิดการขึ้นอย่างรวดเร็วของหุ้นและพันธบัตรในช่วงปลายปี 2566 สำหรับตอนนี้ นักลงทุนยังคงเชื่อว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในปีนี้ แต่แข็งแกร่งกว่า- ข้อมูลเศรษฐกิจที่คาดหวังและการต่อต้านจากผู้กำหนดนโยบายต่อการผ่อนคลายในช่วงต้นได้บั่นทอนความเชื่อมั่นของตลาดว่าเฟดจะเดินหน้าการปรับอัตราดอกเบี้ยในไตรมาสแรกของปี 2567 สัญญาณที่แสดงว่าประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ เห็นด้วยที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงในปัจจุบันต่อไปอีกสักหน่อยอาจสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยต่ออัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐและเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ราคา นอกจากนี้ ตลาดจะติดตามดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะประกาศในวันศุกร์ (2 กุมภาพันธ์) ผลการสำรวจของรอยเตอร์แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ คาดว่าจะสร้างงานใหม่ได้ 162,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม เทียบกับ 216,000 ตำแหน่งในเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้นโดย AstronautPioneerที่อัปเดต: 6
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนแอหลังตลาดตอบรับข้อมูล PCE ของเดือนธันวาคม * ดัชนี DXY ลดลง ไม่สามารถยืนเหนือ 200-day SMA. * ตัวเลข PCE หลักของเดือนธันวาคมอ่อนแอ. * ตลาดยังคงมองการเริ่มต้นของวัฏจักรผ่อนคลายของ Fed ในเดือนพฤษภาคม. ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (USD) กำลังดิ้นรนกับการสูญเสีย โดยมีการซื้อขายที่ 103.35 บนดัชนี DXY ตามการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้จ่ายส่วนบุคคล (PCE) ที่อ่อนแอสำหรับเดือนธันวาคม ซึ่งทำให้นักลงทุนที่คาดหวังการลดอัตราดอกเบี้ยมีความหวังมากขึ้น ในทำนองนี้ ความคาดหมายของตลาดบ่งชี้ถึงการลดอัตราดอกเบี้ยโดย Fed ในเดือนมีนาคม อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจยังคงเติบโต การลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมดูเหมือนจะไม่น่าเป็นไปได้ นี่คือเหตุผลที่การเดิมพันยังคงเปลี่ยนไปสู่การเริ่มต้นวัฏจักรผ่อนคลายในเดือนพฤษภาคม หากสหรัฐยังคงแสดงความแข็งแกร่งและตลาดเลื่อนความคาดหวังของการลดลง ด้านล่างจะมีข้อจำกัดสำหรับระยะสั้น การวิเคราะห์ทางเทคนิค: ดัชนี DXY ความกดดันซื้อระยะสั้นลดลงขณะที่กระทิงพยายามป้องกัน 200-day SMA ตัวชี้วัดบนแผนภูมิรายวันสะท้อนถึงการดิ้นรนระหว่างแรงซื้อและแรงขาย ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) แสดงถึงความลาดเอียงเชิงลบ แต่ยังคงอยู่ในดินแดนบวก ชี้ไปที่การลดลงของแรงซื้อ ดังนั้นการเปลี่ยนไปสู่ผู้ขายอาจเกิดขึ้น ในทำนองเดียวกัน ตัวชี้วัดการรวมกันของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MACD) ยังบ่งชี้ถึงการลดลงของแรงกดดันทางขึ้น เนื่องจากแถบสีเขียวบนฮิสโตแกรมเริ่มลดลง เมื่อสังเกตตำแหน่งของดัชนีเทียบกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (SMAs) เราเห็นการผสมผสานของแรงซื้อและแรงขาย DXY ที่ยังคงอยู่เหนือ 20-day SMA แสดงให้เห็นถึงความพยายามของกระทิงในการควบคุมแนวโน้มตลาดระยะสั้น แม้จะมีแรงกดดันของหมีที่ยังคงอยู่ ความจริงที่ว่าดัชนียังคงอยู่ต่ำกว่า 100 และ 200-day SMAs อย่างไรก็ตาม ชี้ให้เห็นว่าหมีกำลังรักษาการควบคุมในบริบทที่กว้างขึ้น ผู้ขายดูเหมือนจะครองเรื่องราวในระยะยาว โดยที่กระทิงกำลังดิ้นรนเพื่อคว้าพื้นที่ ระดับการสนับสนุน: 103.30, 103.00, 102.80, 102.60 (20-day SMA). ระดับการต้านทาน: 103.50 (200-day SMA), 103.70, 103.90.ลดลงโดย Purich3
แนวโน้มขาลง, เข้าสู่ manipulation zone จะลงได้ก็ต่อเมื่อมี bearish bar ปิดใต้ flip zone, นอกเหนือจากนั้นน่าจะเป็นการสะสม liquidityลดลงโดย jokenakrub7ที่อัปเดต: 5
คาดว่า DXY จะเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันนี้เงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในวันพุธ แต่อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษที่ลดลงอย่างรวดเร็วเกินคาดในเดือนพฤศจิกายน ส่งผลให้นักลงทุนเดิมพันกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ BoE ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์ร่วงลงมากที่สุด ผู้ชนะเพียงรายเดียวคือเงินเยนญี่ปุ่น ไม่มีตัวเร่งที่ชัดเจนที่จะผลักดันค่าเงินดอลลาร์ให้สูงขึ้นเมื่อวานนี้ การฟื้นตัวนี้สามารถนำมาประกอบกับข้อมูล PCE หลักในวันศุกร์และการขายชอร์ตก่อนวันหยุดคริสต์มาส หลังจากการตัดสินใจของเฟดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงประมาณ 150 จุดในปีหน้า โดยมีโอกาส 90% ที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยเกิดขึ้นระหว่างไตรมาสแรกถึงเดือนมีนาคม อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ Fed บางส่วนถอนวันที่ดังกล่าว และช่วงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ตลาดคาดหวัง หัวข้อวันนี้สำหรับสหรัฐฯ คือ GDP ไตรมาสสามสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะยืนยันการคาดการณ์ครั้งที่สองที่ 5.2% แต่แบบจำลองของ Atlanta Fed และ New York Fed ได้แสดงการคาดการณ์สำหรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่สี่แล้ว และความเป็นจริงกำลังแสดงให้เห็นการชะลอตัว ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นไปได้ที่ตลาดจะสังเกตเห็น จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานใหม่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว และดัชนีการผลิตของฟิลาเดลเฟียเฟดคาดว่าจะติดลบเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน แม้ว่าจะดีขึ้นในเดือนธันวาคมก็ตาม ข้อมูลนี้ไม่น่าจะส่งผลต่อความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับการดำเนินการในอนาคตของ Fed โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากตลาดอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับดัชนี PCE หลัก ซึ่งแนะนำให้ใช้เป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อ Fed จะไปที่ไหนในเดือนพฤศจิกายน? การเติบโตคาดว่าจะชะลอตัวลงเป็น 3.4% จาก 3.5% ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งอาจโน้มน้าวผู้เข้าร่วมจำนวนมากว่าเฟดจะกดปุ่มลดอัตราดอกเบี้ยไม่นานหลังจากเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นโดย AstronautPioneerที่อัปเดต: 3
คาดว่า DXY จะยังคงลดลงเล็กน้อย จากนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังคงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งอาจปูทางให้ธนาคารกลางสหรัฐพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยในต้นเดือนมีนาคมปีหน้า ดัชนีราคารายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อ ลดลง 0.1% ในเดือนพฤศจิกายน หลังจากที่ทรงตัวในเดือนตุลาคม ตามรายงานล่าสุดที่เผยแพร่โดยกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันศุกร์ ส่งผลให้อัตราการเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายปีลดลงเหลือ 2.6% จาก 2.9% ในเดือนตุลาคม ซึ่งผ่อนคลายลงอย่างมากนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ซึ่งครั้งล่าสุดลดลงต่ำกว่า 3% /2021. หากไม่รวมส่วนประกอบอาหารและพลังงานที่มีความผันผวนมากขึ้น ดัชนีราคา PCE หลักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.1% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งสะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นในเดือนธันวาคม ดัชนีหลักในเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 3.2% เพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2021 หลังจากเพิ่มขึ้น 3.4% ในเดือนตุลาคม หลังจากข่าวนี้ ราคาหุ้นล่วงหน้าของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.11% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็น 3.88% ในขณะที่ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเปรียบเทียบดอลลาร์สหรัฐกับตะกร้าสกุลเงินอื่นๆ บันทึกการลดลงเล็กน้อยที่ 0.16% ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดให้ความเห็นเกี่ยวกับผลกระทบของข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุด Peter Cardillo หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์การตลาดของ Spartan Capital Securities ในนิวยอร์ก ชี้ไปที่แนวโน้มเชิงบวกของข้อมูลเงินเฟ้อ และแนะนำว่า Fed อาจลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดหากแนวโน้มยังคงอยู่ เขาตั้งข้อสังเกตว่าแม้ว่ารายได้ส่วนบุคคลจะแข็งแกร่ง แต่การใช้จ่ายของผู้บริโภคดูเหมือนจะอ่อนตัวลง โดยคำสั่งซื้อสินค้าคงทนใหม่เพิ่มขึ้น 5.4% ซึ่งบ่งชี้ถึงการชะลอตัว การชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นอาจนำไปสู่การลดอัตราดอกเบี้ยโดยเฟด Brian Jacobsen หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Annex Wealth Management ใน Menomonee Falls รัฐวิสคอนซิน ยังชั่งน้ำหนักเกี่ยวกับรายได้ที่สูงขึ้น การใช้จ่ายที่ลดลง และอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง เขาตั้งข้อสังเกตว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาสอดคล้องกับเป้าหมายของเฟด และแนะนำว่าการกลับตัวของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ เมื่อเร็ว ๆ นี้อาจดูเหมือนฉับพลันแต่รอบคอบเพิ่มขึ้นโดย AstronautPioneerที่อัปเดต: 4