SET ไอเดียในการเทรด
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
Doji Pattern
แรงซื้อขายที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบๆ ดัชนีตลาดปิดที่ 1,547.31 จุด 1.07 แสนล้านบาท นักลงทุนรายบุคคลเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวลง
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธ (13/1) แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหนุนดัชนีเอสแอนด์พี 500 และแนสแดคปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงเล็กน้อย นักลงทุนยังกังวลกับปัญหาการเมืองในประเทศที่ส่อเค้ารุนแรง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นแบบมีช่องว่าง (Gap) ขึ้นทำจุดสูงที่ 1,561 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Shooting Star ตามหลัง Star ในเขตซื้อมากเกิน และสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงความเสี่ยงช่วงปลายตลาดขาขึ้น ระยะสั้นจึงควรระวังดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ เพราะจะเป็นสัญญาณถึงการปรับตัวลง ระยะยาวดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น สอดคล้องกับการเรียงตัวของเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้น (Bull Market) และจะทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,462 – 1,418 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดแกว่งตัวผันผวนหลังปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,550 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse eave) คลื่น 1 และกำลังพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 2 ที่มีแนวรับเป้าหมายอยู่ที่ 1,388 จุด, 1,350 จุด และ 1,311 จุดตามลำดับ กรณีที่ดัชนีตลาดจบคลื่น 2 ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่น 3 ซึ่งมีเป้าหมาย 100% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,673 จุด
(แนวรับที่ได้เกิดจากนำจุดต่ำที่ 1,187 จุด กับจุดสูงที่ 1,512 จุด มาวิเคราะห์ด้วยหลักการ Fibonacci Retracement
หมายเหตุ 61.8% FR = 1,388 จุด, 100% FR = 1,350 จุด และ 161.8% FR = 1,311 จุด)
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัว โดยระยะยาวดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,556 – 1,565 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,538 – 1,528 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ถือพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 60 เปอร์เซ็นต์
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ระวังเปิดสูงปิดต่ำ
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆจากแรงซื้อแรงขายที่มีออกมา แรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด กดดัชนีตลาดปิดที่ 1,539.85 จุด เพิ่มขึ้น 3.36 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9 หมื่นล้านบาท สถาบันภายในประเทศเป็นกลุ่มนำขายสุทธิ ภาวะซื้อมากเกินและสัญญาณ Bearish Divergence เตือนให้ระวังถึงช่วงปลายตลาดขาขึ้น ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสพักตัวลง ระยะยาวดัชนีเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันอังคาร (12/1) ตลาดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ตลาดหวังว่าวัคซีนโควิดจะช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯจะฟื้นตัว ท่ามกลางปัญหาการเมืองภายในประเทศ
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,550 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Spinning Top และ Star ในเขตซื้อมากเกิน และสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงความเสี่ยงช่วงปลายตลาดขาขึ้น ระยะสั้นจึงควรระวังดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ เพราะจะเป็นสัญญาณถึงการปรับตัวลง ระยะยาวดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น สอดคล้องกับการเรียงตัวของเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้น (Bull Market) และจะทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,456 – 1,413 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดแกว่งตัวผันผวนหลังปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,550 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse eave) คลื่น 1 และกำลังพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 2 ที่มีแนวรับเป้าหมายอยู่ที่ 1,388 จุด, 1,350 จุด และ 1,311 จุดตามลำดับ กรณีที่ดัชนีตลาดจบคลื่น 2 ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่น 3 ซึ่งมีเป้าหมาย 100% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,673 จุด
(แนวรับที่ได้เกิดจากนำจุดต่ำที่ 1,187 จุด กับจุดสูงที่ 1,512 จุด มาวิเคราะห์ด้วยหลักการ Fibonacci Retracement
หมายเหตุ 61.8% FR = 1,388 จุด, 100% FR = 1,350 จุด และ 161.8% FR = 1,311 จุด)
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก โดยสัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัว โดยระยะยาวดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,550 – 1,560 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,528 – 1,514 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ถือพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 60 เปอร์เซ็นต์
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
นับ Elliott Wave SET จะไปอย่างไรต่อไปตั้งแต่ปี 1976 ที่เปิดตลาดมาที่ 100 จุด ทำจุดสูงสุดคลื่น 1 (วงกลม) ก่อนวิกฤติต้มยำกุ้ง ดัชนีไปที่ 1789 ทำคลื่น
ย่อลงมาเป็นคลื่น 2 (วงกลม) ที่ 204 จุด ก่อนจะขึ้นรอบใหม่เป็นคลื่น 3 (วงกลม)
ดีกรีย่อยเป็น (1)-(2) ย่อตอนวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์
(3) จบไปแล้วที่ 1852 ต้นปี 2018 และย่อ (4) เมื่อวิกฤติโควิด-19 ราวเดือนมีนาคม 2021
.
ต่อไปนี้หากเบรค 1852 ขึ้นไปได้จะยืนยันคลื่น (5) และคลื่น 3 (วงกลม) ต่อเนื่อง
.
อย่างไรก็ตามหากลองพิจารณาการนับแบบทางเลือก (Alternated Count)
มองว่าคลื่น (1)-(2)-(3) นี้เป็นแค่ a-b-c ของคลื่น B Expanded Flat
ยังเหลือท่อน C ที่ควรลงมาลึกกว่านี้ โดยจะมี 5 คลื่น ซึ่งทรงกราฟยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้
จุดที่จะยืนยันทางเลือกนี้ก็คือ หากดัชนีหลุดต่ำกว่า 924 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของคลื่น (1)
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
จับตาผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบๆ การซื้อขายหุ้นเป็นไปแบบไร้ทิศทาง ดัชนีตลาดปิดที่ 1,536.49 จุด ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.05 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9.38 หมื่นล้านบาท นักลงทุนรายบุคคลเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก แต่ภาวะซื้อมากเกินและสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงความเสี่ยงช่วงปลายตลาดขาขึ้น
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ (11/1) ตลาดปรับตัวลดลงหลังอัตราผลตอบพันธบัตรสหรัฐฯปรับขึ้น แนวโน้มดอกเบี้ยที่สูงขึ้น จะทำให้เม็ดเงินลงทุนไหลออกจากตลาดทุนและตลาดทองคำ ด้วยความหวังว่าวัคซีนโควิดจะหนุนให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตา
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,550 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Spinning Top ในเขตซื้อมากเกิน และสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงความเสี่ยงช่วงปลายตลาดขาขึ้น ระยะสั้นจึงควรระวังดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ เพราะจะเป็นสัญญาณถึงการปรับตัวลง ระยะยาวดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น สอดคล้องกับการเรียงตัวของเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้น (Bull Market) และจะทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,481 – 1,408 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดแกว่งตัวผันผวนหลังปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,550 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse eave) คลื่น 1 และกำลังพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 2 ที่มีแนวรับเป้าหมายอยู่ที่ 1,388 จุด, 1,350 จุด และ 1,311 จุดตามลำดับ กรณีที่ดัชนีตลาดจบคลื่น 2 ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่น 3 ซึ่งมีเป้าหมาย 100% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,673 จุด
(แนวรับที่ได้เกิดจากนำจุดต่ำที่ 1,187 จุด กับจุดสูงที่ 1,512 จุด มาวิเคราะห์ด้วยหลักการ Fibonacci Retracement
หมายเหตุ 61.8% FR = 1,388 จุด, 100% FR = 1,350 จุด และ 161.8% FR = 1,311 จุด)
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก โดยสัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัว โดยระยะยาวดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,548 – 1,560 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,521 – 1,512 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ถือพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 60 เปอร์เซ็นต์
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ซื้อมากเกิน
ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น หนุนเม็ดเงินลงทุนต่างชาติกลับเข้าลงทุนในดัชนีตลาดหุ้นไทย หนุนดัชนีดีดตัวขึ้นปิดที่ 1,536.44 จุด เพิ่มขึ้น 22.66 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.25 แสนล้านบาท ต่างชาติเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ระยะยาวดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันศุกร์ (8/1) ตลาดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด และตัวเลขการจ้างงานที่ซบเซา
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สอง และปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,538 จุด ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นแบบมีช่องว่าง (Gap) ซึ่งสะท้อนถึงภาวะซื้อมากเกิน ดัชนีตลาดเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น สอดคล้องกับการเรียงตัวของเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้น (Bull Market) ภาวะซื้อมากเกินและสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงความเสี่ยงช่วงปลายตลาดขาขึ้น ระยะสั้นจึงควรระวังดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ เพราะจะเป็นสัญญาณยืนยันถึงการพักตัวลง
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดแกว่งตัวผันผวนหลังปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,538 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse eave) คลื่น 1 และกำลังพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 2 ที่มีแนวรับเป้าหมายอยู่ที่ 1,388 จุด, 1,350 จุด และ 1,311 จุดตามลำดับ กรณีที่ดัชนีตลาดจบคลื่น 2 ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่น 3 ซึ่งมีเป้าหมาย 100% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,673 จุด
(แนวรับที่ได้เกิดจากนำจุดต่ำที่ 1,187 จุด กับจุดสูงที่ 1,512 จุด มาวิเคราะห์ด้วยหลักการ Fibonacci Retracement
หมายเหตุ 61.8% FR = 1,388 จุด, 100% FR = 1,350 จุด และ 161.8% FR = 1,311 จุด)
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก โดยสัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัว โดยระยะยาวดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,548 – 1,560 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,521 – 1,512 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 60 เปอร์เซ็นต์ เนื่องดัชนีตลาดในรอบที่ผ่านมาปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,425 จุด แนวรับที่ให้ไว้ 1,428 – 1,400 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
อัพเดท SET น่าจะขึ้นต่อยาวๆอัพเดทที่ไม่อัพเดท เพราะเหมือน TFEX มุมมองเหมือนเดิมที่ดูไว้ตอน 26 ธันวาคม 2563
คือตอนนี้คือคลื่นย่อย(สีดำ) เป็นรูปแบบ zigzag ของขา c (สีฟ้า) จะขึ้นไปเท่าไรต้องดูความยาวของคลื่น c ว่าเป็น Zigzag รูปแบบอะไร
กรณีที่สั้น
Wave-c อาจมีความยาวเท่ากับ wave-a ถือว่าเป็นเรื่องปกติมาก (Figure 12-30, Diagram A). ถ้าว่าแบบ internal wave-c ไม่ควรยาวน้อยกว่า 61.8% ของ wave-a ถ้า wave-b เล็กมาก ZZ ทั้งหมดอาจเป็นบางส่วนของ Triangle
กรณีที่ยาว
Limit ความยาวของ wave-c จะสัมพันธ์กับประมาณ 161.8% ของ wave-a (Figure 1225, page 12-23) หากความยาวของ wave-c (elongated zigzag ) แต่ถ้าวัดทั้ง internal และ External แล้วเกิน maximum "เมื่อเทียบกับ wave-a" ขาทั้งหมดอาจเป็นส่วนหนึ่งของ Triangleหรือ เป็นส่วนที่ซับซ้อนของ Triangle
Wave-c (in a Zigzag ) The Internal length "limit" of wave-c, in relation to wave-a, is about 161.8% of wave-a (Figure 1225, page 12-23). If the length of wave-c falls outside of the maximum Internal and External limits (see External: c-wave , Zigzags) of its relation to wave-a, then the Zigzag is Elongated and should be considered part of a Triangle. It will either be an entire leg of a Triangle or part of a complex pattern which is an entire leg of a Triangle.The c-wave could also be equal in length to wave-a, which is very common (Figure 12-30, Diagram A). Wave-c should not be less than 61.8% of wave-a, Internally. If so, it is probably due to a very small b-wave Triangle. The Zigzag is probably the entire leg of a Triangle or partof a complex correction which is the leg of a Triangle, Figure 12-30, Diagram B.
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทรัมป์บั่นทอนสหรัฐฯ
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก ตามแรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์และกลุ่มพลังงาน ดัชนีตลาดปิดที่ 1,513.78 จุด เพิ่มขึ้น 21.42 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.21 แสนล้านบาท นักลงทุนรายบุคคลเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลกลับมาเป็นบวก แต่สัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงช่วงปลายตลาดขาขึ้น
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพฤหัสบดี (7/1) ตลาดปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก ขานรับข่าวสภาคองเกรสประกาศชัยชนะของไบเดน และพรรคเดโมแครตสามารถกำชัยชนะทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ทำให้สามารถออกกฎหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ตลาดยังมีความเสี่ยงจากการเคลื่อนไหวของม็อบที่สนับสนุนทรัมป์
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆ เหนือแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,487 จุด ซึ่งจากนี้ไปจะทำหน้าที่เป็นแนวรับ แท่งเทียนเกิดเป็นสตาร์ในเขตซื้อมากเกิน ร่วมกับการเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนถึงช่วงปลายตลาดขาขึ้น ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,467 จุด โดยระยะยาวดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดแกว่งตัวผันผวนหลังปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,514 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse eave) คลื่น 1 และกำลังพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 2 ที่มีแนวรับเป้าหมายอยู่ที่ 1,388 จุด, 1,350 จุด และ 1,311 จุดตามลำดับ กรณีที่ดัชนีตลาดจบคลื่น 2 ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่น 3 ซึ่งมีเป้าหมาย 100% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,673 จุด
(แนวรับที่ได้เกิดจากนำจุดต่ำที่ 1,187 จุด กับจุดสูงที่ 1,512 จุด มาวิเคราะห์ด้วยหลักการ Fibonacci Retracement
หมายเหตุ 61.8% FR = 1,388 จุด, 100% FR = 1,350 จุด และ 161.8% FR = 1,311 จุด)
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นกลับมาเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางแกว่งตัวขึ้น ท่ามกลางสัญญาณปลายตลาดขาขึ้น
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,524 – 1,538 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,503 – 1,492 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 60 เปอร์เซ็นต์ เนื่องดัชนีตลาดในรอบที่ผ่านมาปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,425 จุด แนวรับที่ให้ไว้ 1,428 – 1,400 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
Bearish Divergence
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,514 จุด แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาดเพื่อลดความเสี่ยง ฉุดดัชนีตลาดปรับตัวลงปิดที่ 1,492.36 จุด ลดลง 14.29 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.42 แสนล้านบาท ต่างชาติเป็นกลุ่มนำขายสุทธิ แต่ค่าเงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่า สัญญาณทางเทคนิคัลเตือนให้ระวังถึงความเสี่ยงในระยะสั้น ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,467 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธ (6/1) ตลาดปิดมีทั้งบวกและลบ ดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่แนสแดคปรับตัวลดลง นักลงทุนมองว่าชัยชนะในการเลือกตั้งส.ว.ของพรรคเดโมแครตในรัฐจอร์เจีย จะทำให้ไบเดนสามารถผลักดันกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจ
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,513 จุด และขึ้นมาทำจุดสูงที่ 1,514 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Harami ขาขึ้น ร่วมกับการเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนถึงช่วงปลายตลาดขาขึ้น ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,467 จุด โดยระยะยาวดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
จากกราฟรายสัปดาห์ สัปดาห์ ดัชนีตลาดแกว่งตัวผันผวนหลังปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,514 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse eave) คลื่น 1 และกำลังพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 2 ที่มีแนวรับเป้าหมายอยู่ที่ 1,388 จุด, 1,350 จุด และ 1,311 จุดตามลำดับ กรณีที่ดัชนีตลาดจบคลื่น 2 ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่น 3 ซึ่งมีเป้าหมาย 100% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,673 จุด
(แนวรับที่ได้เกิดจากนำจุดต่ำที่ 1,187 จุด กับจุดสูงที่ 1,512 จุด มาวิเคราะห์ด้วยหลักการ Fibonacci Retracement
หมายเหตุ 61.8% FR = 1,388 จุด, 100% FR = 1,350 จุด และ 161.8% FR = 1,311 จุด)
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ RSI และ MACD เป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,467 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,503 – 1,517 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,478 – 1,467 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 60 เปอร์เซ็นต์ เนื่องดัชนีตลาดในรอบที่ผ่านมาปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,425 จุด แนวรับที่ให้ไว้ 1,428 – 1,400 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ระยะสั้นเสี่ยง
แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,506.65 จุด เพิ่มขึ้น 38.41 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.15 แสนล้านบาท สถาบันภายในประเทศและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์เป็นกลุ่มที่ซื้อสุทธิ สัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงความเสี่ยงในช่วงปลายตลาดขาขึ้นในระยะสั้น
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันอังคาร (5/1) ตลาดปิดในแดนบวก นักลงทุนหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวด้วยวัคซีนโควิด-19 ความวุ่นวายทางการเมืองในสหรัฐฯอาจเป็นปัจจัยบั่นทอนการลงทุนในระยะสั้น
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ สัญญาณทางเทคนิคัลกลับมาเป็นบวก ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,513 จุด โดยดัชนีตลาดเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น สัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงช่วงปลายตลาดขาขึ้นในระยะสั้น
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดแกว่งตัวผันผวนหลังปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,513 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse eave) คลื่น 1 และกำลังพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 2 ที่มีแนวรับเป้าหมายอยู่ที่ 1,388 จุด, 1,350 จุด และ 1,311 จุดตามลำดับ กรณีที่ดัชนีตลาดจบคลื่น 2 ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่น 3 ซึ่งมีเป้าหมาย 100% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,673 จุด
(แนวรับที่ได้เกิดจากนำจุดต่ำที่ 1,187 จุด กับจุดสูงที่ 1,512 จุด มาวิเคราะห์ด้วยหลักการ Fibonacci Retracement
หมายเหตุ 61.8% FR = 1,388 จุด, 100% FR = 1,350 จุด และ 161.8% FR = 1,311 จุด)
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI กลับมาเป็นบวก ขณะที่สัญญาณ MACD เป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,513 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,527 – 1,548 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,487 – 1,468 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
เพิ่มการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,428 – 1,400 จุด (รอบนี้ดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,425 จุด) ดังนั้น พอร์ตการลงทุนไว้ที่ 60 เปอร์เซ็นต์
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
SET วันนี้ใกล้แนวต้านแนวต้านที่ 1520 แนวต้านทางจิตวิทยา วันนี้อาจจะต้องไว ไม่สำควรไล่ราคาหุ้นที่มันวิ่งไปแล้ว
แนวความคิดหากเปิด เบรคแนวต้าน1521 แล้วยืนได้ วันนี้ก็ยังน่าสนใจ แต่หากถ้าหลุด 1467.2 ก็จะหลุดไปเทส 1424 ก่อนที่จะลงยาวแนว 1300
ถึงจะประโคมข่าววัคซีน จากจีนที่อาจจะได้มาเดือนหน้า ดังนั้นให้ดูทรงกราฟรายตัวเป็นหลัก ไม่ไล่ราคา เมื่อทรงไม่ดี ชนต้านแนะนำแบ่งขายทำกำไรก่อน
ทรงกราฟ เทรนหลักยังเป็นขาลงยังไม่หลุดแนวกด แต่สำหรับชาวเม่า เห็นเลข 1500 หลายคนจะคิดเป็นขาขึ้น
การเล่นช่วงนี้ต้องไว เพราะทุกอย่างจะเร็วขึ้น แผนรัฐบาลในการจัดการ ความเสถียร นิ่งๆ ยังมีน้อย
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ระยะสั้นผันผวน
แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดบวก ระหว่างการซื้อขาย ดัชนีตลาดดิ่งลงทำจุดต่ำที่ 1,425 จุด ดัชนีท้ายตลาดกลับขึ้นมาปิดที่ 1,468.24 จุด เพิ่มขึ้น 18.89 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.87 หมื่นล้านบาท ต่างชาติและสถาบันภายในประเทศเป็นฝ่ายซื้อสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,420 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันจันทร์ (4/1) ตลาดปรับตัวลดลง นักลงทุนกังวลถึงแนวโน้มการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ กดดันบรรยากาศการลงทุน เม็ดเงินลงทุนเริ่มไหลกลับเข้าตลาดทองคำ
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดตลาดลงไปทำจุดต่ำที่ 1,425 จุด แรงซื้อที่มีเข้ามาหนุนดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,468.24 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Bullish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวรับ ระหว่างการซื้อขายดัชนีตลาดปรับตัวลงทดสอบแนวรับของเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นและทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,386 – 1,424 จุด ดัชนีตลาดระยะสั้นแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของช่องว่างขาลงที่ 1,429 – 1,482 จุด สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงพักตัวลงหรือปรับฐาน โดยดัชนีตลาดมีแนวรับ 38% Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,388 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดแกว่งตัวผันผวนหลังปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,512 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse eave) คลื่น 1 และกำลังพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 2 ที่มีแนวรับเป้าหมายอยู่ที่ 1,388 จุด, 1,350 จุด และ 1,311 จุดตามลำดับ
แนวรับที่ได้เกิดจากนำจุดต่ำที่ 1,187 จุด กับจุดสูงที่ 1,512 จุด มาวิเคราะห์ด้วยหลักการ Fibonacci Retracement
หมายเหตุ 61.8% FR = 1,388 จุด, 100% FR = 1,350 จุด และ 161.8% FR = 1,311 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงพักตัวหรือปรับฐาน
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,479 – 1,491 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,453 – 1,440 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ถือพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,428 – 1,400 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity