Set ความหวัง ความโลภ ความน่ากลัวตลาดสวยงาม ipo ข่าวดี มาเพียบ หลังจากนี้ ของจริง ความร้ายเข้าคิวรอ maysell จะเหมือนเดิมไหม ลองดู set 1606//1616--1718//1752 ยืน1596ไม่ได้ ลง 1561-1473 1473-1418 1418-1375-1330 1330-1267 ไม่กลัว ไม่ดื้อ ไม่โลภลดลงโดย Roongee1
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย Filling the Gap บรรยากาศการซื้อขายหลักทรัพย์ประจำวันสุดท้ายของสัปดาห์เป็นไปอย่างไร้ทิศทาง หุ้นโรงพยาบาลเริ่มกลับมาโดดเด่น ดัชนีตลาดปิดที่ 1,566.34 จุด เพิ่มขึ้น 7.51 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.29 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นเพื่อปิดช่องว่างขาลง ก่อนที่จะปรับตัวลงต่อ ต่างชาติและสถาบันภายในประเทศกลับมาซื้อสุทธิในทางเดียวกัน ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันศุกร์ (9/4) ตลาดปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก ดัชนีดาวโจนส์และเอสแอนด์พีสร้างจุดสูงใหม่ตลอดกาล ดัชนีแนสแดคปิดบวกจากแรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และเฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,572 จุด เป็นการปรับขึ้นเพื่อปิดช่องว่างขาลง (Filling the gap) ที่ 1,579 – 1,566 จุด เป็นการปรับตัวขึ้นเพื่อลง ดัชนีตลาดพักตัวอยู่เหนือแนวรับของเส้น MMA2 ที่ 1,558 – 1,532 จุด สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดที่ปรับตัวขึ้นเป็นการปรับขึ้นปิดช่องว่าง ก่อนที่จะปรับตัวลงต่อเข้าหาแนวรับที่ 1,507 จุด (แนวรับ 23.6% Fibonacci Retracement) จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,588 จุด ทำให้คลื่น (iii) จบลงที่ 1,606 จุด กรณีที่คลื่น (iii) มีความยาวใกล้เคียงกับความยาวของคลื่น (i) หรือสั้นกว่า (ปกติจะไม่เกิด) คลื่น (v) จะเป็นคลื่นยืด (Extended wave) สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ดัชนีตลาดเริ่มเข้าเขตขายมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของเป้าหมายที่ 1,507 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,575 – 1,584 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,556 – 1,547 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv111
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ขาดปัจจัยบวก บรรยากาศการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นไปแบบไร้ทิศทาง ตลาดขาดหุ้นกลุ่มนำตลาด ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,558.83 จุด เพิ่มขึ้น 2.27 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.36 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับเป้าหมายที่ 1,507 จุด ต่างชาติและนักลงทุนทั่วไปเป็นฝ่ายซื้อสุทธิ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประจำวันพฤหัสบดี (8/4) ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย หลังเฟดส่งสัญญาณยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ขณะที่ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสูงกว่าที่คาด ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆขึ้นปิดช่องว่างขาลง (Filling the gap) ที่ 1,558 – 1,532 จุด ดัชนีตลาดยืนเหนือแนวรับของเส้น MMA2 ที่ทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,558 – 1,532 จุด สัญญาณ DMI ขาดทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดที่ปรับตัวขึ้นเป็นการปรับขึ้นปิดช่องว่าง ก่อนที่จะปรับตัวลงต่อเข้าหาแนวรับที่ 1,507 จุด (แนวรับ 23.6% Fibonacci Retracement) จากกราฟรายสัปดาห์ หากดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,588 จุด อาจการจบคลื่น (iii) ที่ 1,606 จุด กรณีที่คลื่น (iii) มีความยาวใกล้เคียงกับความยาวของคลื่น (i) หรือสั้นกว่า (ปกติจะไม่เกิด) คลื่น (v) จะเป็นคลื่นยืด (Extended wave) สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ดัชนีตลาดเริ่มเข้าเขตขายมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของเป้าหมายที่ 1,507 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,566 – 1,575 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,547 – 1,537 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv2
Set มาถึงแนวรับสำคัญ* อาจเห็นตลาดแดงช่วงเช้า และ Side Way ช่วงบ่าย *หากวันนี้หลุดแนวรับแรก ต้องลุ้นแนวรับถัดไปโดย ThePowrOfBull0
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย สัญญาณทางเทคนิคัลกลับมาเป็นลบ แรงซื้อขายหลักทรัพย์กระจายแบบไร้ทิศทาง หุ้นกลุ่มนำตลาดเผชิญแรงของออกมาอย่างต่อเนื่อง ดัชนีตลาดปรับตัวลงปิดที่ 1,579.66 จุด ลดลง 16.61 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.1 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลกลับมาเป็นลบ ดัชนีตลาดหลุดแนวรับที่ 1,588 จุด ทำให้ดัชนีตลาดเริ่มเบนทิศทางปรับตัวลง นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประจำวันอังคาร (6/4) ตลาดปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น หลังดัชนีปรับตัวขึ้นทำจุดสูงตลอดกาล ขานรับสัญญาณฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ หลังดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,606 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ปรับตัวลงหลุดแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางที่ 1,588 จุด ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวโน้มเปลี่ยนทิศทางลง เข้าหาแนวรับของเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขึ้นที่ 1,558 – 1,531 จุด ภาวะซื้อมากเกินทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นจะเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ จากกราฟรายสัปดาห์ หากดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,588 จุด อาจการจบคลื่น (iii) ที่ 1,606 จุด กรณีที่คลื่น (iii) มีความยาวใกล้เคียงกับความยาวของคลื่น (i) หรือสั้นกว่า (ปกติจะไม่เกิด) คลื่น (v) จะเป็นคลื่นยืด (Extended wave) สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นกลับมาเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,507 จุด (แนวรับ 23.6% Fibonacci Retracement) ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,589 – 1,599 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,570 – 1,559 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv0
#Elliottwave #SET #SETindex #อีสานเทรดเดอร์ดัชนี SET มีโอกาสปรับตัวลดลง หลังจากทดสอบแนวต้านสำคัญ 1600 และรับข่าวผู้ติดเชื้อ โควิด ลดลงโดย KittiamponSomboonsod_CEWA333
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย 1,600 จุด ผ่านหรือไม่ผ่าน การซื้อขายหลักทรัพย์ปลายสัปดาห์ยังไร้ทิศทาง ตลาดขาดหุ้นกลุ่มนำตลาดที่แท้จริง แรงขายในช่วงปลายตลาด ฉุดดัชนีตลาดลดช่วงบวกลงมาปิดที่ 1,596.27 จุด เพิ่มขึ้น 1.15 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.6 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเข้าเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประจำวันศุกร์ (2/4) ปิดทำการเนื่องในวัน “Good Friday” ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,600 จุด ระหว่างการซื้อขายดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,606 จุด แรงขายในช่วงท้ายตลาดส่งผลให้ดัชนีตลาดลดช่วงบวกลงมาปิดที่ 1,596 จุด แท่งเทียนเกิดเป็นลำตัวเล็กสีดำ ดัชนีตลาดแกว่งตัวเหนือแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,585 จุด ดัชนีตลาดต้องปิดไม่ต่ำกว่าแนวรับนี้ เพราะจะเป็นสัญญาณที่แสดงถึงการปรับตัวลง โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,557 – 1,529 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,600 จุด และดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาเป้าหมายที่ 1,629 จุด (เป้าหมายของ 100.0% Fibonacci Projection) จากกราฟรายสัปดาห์ กรณีที่ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นแบบ Simple ไม่มีการพักตัวลงของคลื่นปรับคลื่น (ii) แบบ (a)-(b)-(c) ก่อนที่ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) และมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,629 จุด โดยที่ดัชนีตลาดระยะสั้นต้องไม่หลุดแนวรับที่ 1,585 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic กลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,604 – 1,614 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,587 – 1,577 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv1
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย แนวต้านทางจิตวิทยา 1,600 จุด บรรยากาศการซื้อขายหลักทรัพย์ยังขาดทิศทาง แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์หนุนดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวกที่ 1,595.12 จุด เพิ่มขึ้น 7.91 จุด มูลค่าการซื้อขายทรงตัวอยู่ที่ 7.68 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประจำวันพฤหีสบดี (1/4) ดัชนีหลักทั้งสามดัชนีปิดตลาดในแดนบวก ขานรับแผนกระตุ้นทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดี ที่ใช้เงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์สรอ.เพื่อสร้างโครงสร้างสาธารณะ บวกเม็ดเงินบางส่วนกลับเข้าซื้อหุ้นเทคโนโลยี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯเริ่มอ่อนตัว ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น โดยมีเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางทำหน้าที่เป็นแนวรับ ดัชนีตลาดระยะสั้นต้องไม่ปิดต่ำกว่า 1,584 จุด เพราะจะทำให้ดัชนีตลาดเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลงในระยะสั้น เส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นเป็นแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,584 – 1,527 จุด ดัชนีตลาดมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,600 จุด และดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาเป้าหมายที่ 1,629 จุด (เป้าหมายของ 100.0% Fibonacci Projection) จากกราฟรายสัปดาห์ กรณีที่ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นแบบ Simple ไม่มีการพักตัวลงของคลื่นปรับคลื่น (ii) แบบ (a)-(b)-(c) ก่อนที่ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) และมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,629 จุด โดยที่ดัชนีตลาดระยะสั้นต้องไม่หลุดแนวรับที่ 1,564 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,604 – 1,614 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,587 – 1,577 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity โดย prajobv0
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ความเสี่ยงในระยะสั้น การปรับพอร์ตของสถาบันในประเทศและต่างชาติหลังทำราคาปิดประจำไตรมาสแรก ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงปิดที่ 1,587.21 จุด ลดลง 2.32 จุด มูลค่าการซื้อขายลดลงเหลือ 7.2 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัว สถาบันในประเทศและต่างชาติกลับมาขายสุทธิ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประจำวันพุธ (31/3) ปิดตลาดมีทั้งบวกและลบ ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากแรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปรับลดลงจากแรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มธนาคาร ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงหลังจากเผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้น ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น โดยมีเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางเป็นแนวรับ และมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นเป็นแนวรับถัดไป ดัชนีตลาดระยะสั้นจะพักตัวลงหากไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,576 จุด ภาวะซื้อมากเกินถือเป็นปัจจัยเสี่ยงในระยะสั้น ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาเป้าหมายที่ 1,629 จุด (เป้าหมายของ 100.0% Fibonacci Projection) จากกราฟรายสัปดาห์ กรณีที่ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นแบบ Simple ไม่มีการพักตัวลงของคลื่นปรับคลื่น (ii) แบบ (a)-(b)-(c) ก่อนที่ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) และมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,629 จุด โดยที่ดัชนีตลาดระยะสั้นต้องไม่หลุดแนวรับที่ 1,564 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,595 – 1,604 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,576 – 1,566 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv0
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย แท่งเทียน Doji ในเขตซื้อมากเกิน การซื้อขายหลักทรัพย์ยังเป็นไปแบบไร้ทิศทาง การทำราคาปิดประจำไตรมาสแรกหนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,589.53 จุด เพิ่มขึ้น 8.64 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.07 แสนล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดระยะเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ต่างชาติและสถาบันในประเทศเป็นฝ่ายซื้อสุทธิ (อาจเป็นการซื้อเพื่อทำราคาปิด) ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประจำวันอังคาร (30/3) ดัชนีหลักทั้งสามดัชนีปรับตัวลดลง จากแรงขายที่มีออกมาในหุ้นเทคโนโลยี นักลงทุนยังกังวลถึงทิศทางการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวทะลุผ่านแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,584 จุด แบบมีช่องว่าง (Breakaway gap) เส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางทำหน้าที่เป็นแนวรับ และมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นเป็นแนวรับถัดไป ดัชนีมีทิศทางปรับตัวเข้าหาเป้าหมายที่ 1,629 จุด (เป้าหมายของ 100.0% Fibonacci Projection) แต่สัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงช่วงปลายตลาดขาขึ้น ระยะสั้นดัชนีตลาดต้องไม่หลุดแนวรับที่ 1,564 จุด จากกราฟรายสัปดาห์ กรณีที่ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นแบบ Simple ไม่มีการพักตัวลงของคลื่นปรับคลื่น (ii) แบบ (a)-(b)-(c) ก่อนที่ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) และมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,629 จุด โดยที่ดัชนีตลาดระยะสั้นต้องไม่หลุดแนวรับที่ 1,564 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,600 – 1,608 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,579 – 1,568 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv4
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย Window Dressing แรงขายที่มีออกมาในช่วงบ่าย ส่งผลให้ดัชนีตลาดลดช่วงบวก ระหว่างการซื้อขายดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,592 จุด ก่อนอ่อนตัวลงปิดที่ 1,583.89 จุด เพิ่มขึ้น 9.03 จุด มูลค่าการซื้อขายลดลงเหลือ 7.1 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นบวก ดัชนีตลาดกำลังทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,584 จุด ต่างชาติและสถาบันในประเทศกลับมาซื้อสุทธิ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประจำวันจันทร์ (29/3) ดัชนีหลักปิดตลาดแบบไร้ทิศทาง หลังราคาหุ้นกลุ่มธนาคารและพลังงานปรับตัวลดลง จับตากองทุนปรับพอร์ตประจำไตรมาสแรก ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,584 จุด แบบมีช่องว่าง (Breakaway gap) เส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางทำหน้าที่เป็นแนวรับ และมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นเป็นแนวรับถัดไป ดัชนีมีทิศทางปรับตัวเข้าหาเป้าหมายที่ 1,629 จุด (เป้าหมายของ 100.0% Fibonacci Projection) แต่สัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงช่วงปลายตลาดขาขึ้น ระยะสั้นดัชนีตลาดต้องไม่หลุดแนวรับที่ 1,564 จุด จากกราฟรายสัปดาห์ กรณีที่ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นแบบ Simple ไม่มีการพักตัวลงของคลื่นปรับคลื่น (ii) แบบ (a)-(b)-(c) ก่อนที่ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) และมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,629 จุด โดยที่ดัชนีตลาดระยะสั้นต้องไม่หลุดแนวรับที่ 1,564 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,584 จุด และหากดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือแนวต้านนี้ได้ จะเป็นสัญญาณปรับตัวขึ้นต่อ ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,592 – 1,600 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,574 – 1,566 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv1
SET Index - เตรียมขึ้นต่อในเดือนเมษา ตอนนี้ คาดว่า SET index อาจจะขึ้นไปเลย จนถึงแนว 1620-1630 หรือ ลงมาพักตัวอีกที บริเวณ 1535-1545 ก่อน ไม่น่าหลุด 1530 เมื่อชนแนวต้าน trend line อาจมีการย่อลงมา (Sell in May) เข้า sideway แล้วไปเตรียมขึ้นอีกทีตอนปลายปี แต่ถ้าหากสามารถขึ้นไปได้เลย อาจจะสามารถไปทดสอบแนว All time high เดิมได้ Maximum ใน1-2ปีนี้ คาดว่าไม่น่าเกิน 2200เพิ่มขึ้นโดย UNRPP17
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย สองทางเลือก บรรยากาศการซื้อขายหุ้นไทยยังเป็นไปอย่างไรทิศทาง แรงซื้อที่มีเข้ามาในช่วงบ่ายหนุนดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,570.83 จุด เพิ่มขึ้น 6.58 จุด ต่างชาติและนักลงทุนทั่วไปเป็นฝ่ายซื้อสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,550 จุด ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประจำวันพุธ (24/3) ดัชนีแนสแดคปรับตัวลดลง 2 เปอร์เซ็นต์ จากแรงขายที่มีออกมาอย่างต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวขึ้นปิดบวก หลังดัชนีตลาดแกว่งตัวลงเข้าหาแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้น โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นเป็นแนวรับร่วม ดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นดัชนีตลาดต้องไม่หลุดแนวรับที่ 1,550 จุด สัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงความเสี่ยงช่วงปลายตลาดขาขึ้น ดัชนีตลาดยังแกว่งตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น จากกราฟรายสัปดาห์ กรณีที่ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นแบบ Simple ไม่มีการพักตัวลงของคลื่นปรับคลื่น (ii) แบบ (a)-(b)-(c) ก่อนที่ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) และมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,629 จุด โดยที่ดัชนีตลาดระยะสั้นต้องไม่หลุดแนวรับที่ 1,550 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI กลับมาเป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ MACD เป็นลบ สัญญาณทางเทคนิคัลที่ขัดแย้งกันจะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นแกว่งตัวแบบไร้ทิศทาง ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,579 – 1,89 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,560 – 1,550 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv1
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ปัจจัยเสี่ยงเพิ่ม บรรยาการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นไปอย่างไร้ทิศทาง ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆและปิดลงที่ 1,564.25 จุด ลดลง 2.11 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9.3 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,550 จุด ดัชนีตลาดไม่ควรหลุดแนวรับนี้ ต่างชาติขายสุทธิ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประจำวันอังคาร (23/3) ตลาดปรับตัวลดลง หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแสดงถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯอาจล่าช้า ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) เหนือแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,550 จุด โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นเป็นแนวรับร่วม กรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,550 จุด ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวลงเข้าแนวรับที่ 1,505 จุด สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาขึ้นที่ชะลอตัว และสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงความเสี่ยงช่วงปลายตลาดขาขึ้น ดัชนีตลาดยังแกว่งตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น จากกราฟรายสัปดาห์ กรณีที่ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นแบบ Simple ไม่มีการพักตัวลงของคลื่นปรับคลื่น (ii) แบบ (a)-(b)-(c) ก่อนที่ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) และมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,629 จุด โดยที่ดัชนีตลาดระยะสั้นต้องไม่หลุดแนวรับที่ 1,550 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,550 จุด ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,575 – 1,584 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,554 – 1,544 จุด กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv0
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย อย่าหลุด 1,550 จุด บรรยากาศการซื้อขายหุ้นเป็นไปอย่างไรทิศทาง ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆและปิดลงที่ 1,566.36 จุด เพิ่มขึ้น 2.40 จุด มูลค่าการซื้อขายลดลงเหลือ 7.6 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,550 จุด ต่างชาติและสถาบันในประเทศเป็นกลุ่มนำซื้อสุทธิ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประจำวันจันทร์ (22/3) ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นจากแรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอ่อนตัวลง ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) เหนือแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,550 จุด โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นเป็นแนวรับร่วม กรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,550 จุด ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวลงเข้าแนวรับที่ 1,505 จุด สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางขาขึ้นที่ชะลอตัว และสัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนให้ระวังถึงความเสี่ยงช่วงปลายตลาดขาขึ้น ดัชนีตลาดยังแกว่งตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น จากกราฟรายสัปดาห์ กรณีที่ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นแบบ Simple ไม่มีการพักตัวลงของคลื่นปรับคลื่น (ii) แบบ (a)-(b)-(c) ก่อนที่ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) และมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,629 จุด โดยที่ดัชนีตลาดระยะสั้นต้องไม่หลุดแนวรับที่ 1,550 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI เป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสพักตัวลง ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,575 – 1,584 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,554 – 1,544 จุด กลยุทธ์การลงทุน เพิ่มพอร์ตการลงทุนเป็น 70 เปอร์เซ็นต์ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv3
#Elliottwave #SETindex #SET #อีสานเทรดเดอร์รากหญ้าจะตายแต่ตลาดหุ้นไทยขึ้นเอาขึ้นเอา ใช้เวลาเพียงหนึ่งปีในการกลับมา มากกว่า 61.8% เพิ่มขึ้นโดย KittiamponSomboonsod_CEWA7
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ต้องไม่หลุด 1,547 จุด แรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ดัชนีตลาดหุ้นไทยเปิดสูงปิดต่ำ ดัชนีตลาดปิดที่ 1,568.06 จุด เพิ่มขึ้น 2.06 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.1 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นลบ ต่างชาติยังคงเดินหน้าขายสุทธิ ดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวขึ้น ดัชนีตลาดต้องไม่หลุดแนวรับที่ 1,547 จุด ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประจำวันพฤหัสบดี (18/3) ดัชนีหลักปรับตัวลดลง ดัชนีแนสแดคดิ่งลงกว่า 3 เปอร์เซ็นต์ จากแรงเทขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นักลงทุนให้ความสนใจในหุ้น Value Stocks ตลาดถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ หลังดัชนีตลาดแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,584 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick สัญญาณ Bearish Divergence ของ RSI เตือนถึงความเสี่ยงในช่วงปลายตลาดขาขึ้น ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,547 จุด โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นเป็นแนวรับร่วม กรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือแนวรับนี้ได้ ดัชนีตลาดเสี่ยงที่จะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวลง จากการทำ Fibonacci Projection ชี้ว่าดัชนีตลาดมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,584 จุด, 1,650 จุด และ 1,757 จุด ตามลำดับ จากกราฟรายสัปดาห์ เมื่อนำจุดเริ่มต้นของคลื่น (i) ที่ 1,388 จุด จุดจบของคลื่น (i) ที่ 1,561 จุด และจุดจบของคลื่น (ii) ที่ 1,476 จุด มาวิเคราะห์เป้าหมายของคลื่น (iii) ด้วยหลักการ Fibonacci Projection จะได้เป้าหมาย 61.8% = 1,584 จุด, 100.0% = 1,650 จุด และ 161.8% = 1,757 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขายในระยะสั้น ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,579 – 1,589 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,559 – 1,550 จุด กลยุทธ์การลงทุน เพิ่มพอร์ตการลงทุนเป็น 70 เปอร์เซ็นต์ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv1
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ยืนบวกได้ไปต่อ แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มตลาดรายตัว หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,566.76 จุด เพิ่มขึ้น 2.73 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9.2 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นกลับมาเป็นลบ ดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดปิดเหนือ 1,573 จุด ต่างชาติเป็นกลุ่มนำขายสุทธิ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประจำวันพุธ (17/3) ดัชนีหลักปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำ แม้เศรษฐกิจจะมีสัญญาณถูกคุกคามด้วยภาวะเงินเฟ้อ ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆขึ้นปิดในแดนบวก ดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลาง โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นเป็นแนวรับร่วม สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางการปรับตัวขึ้น ดัชนีตลาดสร้างจุดต่ำยกสูง เป็นสัญญาณว่าดัชนีตลาดเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น จากการทำ Fibonacci Projection ชี้ว่าดัชนีตลาดมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,584 จุด, 1,650 จุด และ 1,757 จุด ตามลำดับ จากกราฟรายสัปดาห์ เมื่อนำจุดเริ่มต้นของคลื่น (i) ที่ 1,388 จุด จุดจบของคลื่น (i) ที่ 1,561 จุด และจุดจบของคลื่น (ii) ที่ 1,476 จุด มาวิเคราะห์เป้าหมายของคลื่น (iii) ด้วยหลักการ Fibonacci Projection จะได้เป้าหมาย 61.8% = 1,584 จุด, 100.0% = 1,650 จุด และ 161.8% = 1,757 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic กลับมาเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสพักตัวลง ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อ เนื่องดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,575 – 1,584 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,555 – 1,544 จุด กลยุทธ์การลงทุน เพิ่มพอร์ตการลงทุนเป็น 70 เปอร์เซ็นต์ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv112
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย รอปัจจัยชี้นำ บรรยากาศการซื้อขายหุ้นไทยเป็นไปอย่างซบเซา แรงซื้อขายที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาดเป็นไปอย่างไร้ทิศทาง ดัชนีตลาดปิดที่ 1,564.03 จุด ลดลง 1.70 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.8 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเริ่มกลับมาเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดอยู่ในช่วงพักตัว ต่างชาติเป็นกลุ่มนำขายสุทธิ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประจำวันอังคาร (16/3) ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น นักลงทุนกังวลถึงภาวะเงินเฟ้อจะกดดันให้เฟดปรับขึ้นเร็วกว่าที่คาด ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆในทิศทางลง ดัชนีตลาดปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลงเข้าหาแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลาง โดยมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นเป็นแนวรับร่วม สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางการปรับตัวขึ้น ดัชนีตลาดสร้างจุดต่ำยกสูง เป็นสัญญาณว่าดัชนีตลาดเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น จากการทำ Fibonacci Projection ชี้ว่าดัชนีตลาดมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,584 จุด, 1,650 จุด และ 1,757 จุด ตามลำดับ จากกราฟรายสัปดาห์ เมื่อนำจุดเริ่มต้นของคลื่น (i) ที่ 1,388 จุด จุดจบของคลื่น (i) ที่ 1,561 จุด และจุดจบของคลื่น (ii) ที่ 1,476 จุด มาวิเคราะห์เป้าหมายของคลื่น (iii) ด้วยหลักการ Fibonacci Projection จะได้เป้าหมาย 61.8% = 1,584 จุด, 100.0% = 1,650 จุด และ 161.8% = 1,757 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic กลับมาเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสพักตัวลง ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อ เนื่องดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,575 – 1,584 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,553 – 1,543 จุด กลยุทธ์การลงทุน เพิ่มพอร์ตการลงทุนเป็น 70 เปอร์เซ็นต์ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv1
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย ขาดหุ้นตัวนำตลาด แรงขายที่ทยอยออกมากดดัชนีตลาดหุ้นไทยพักตัวลงปิดที่ 1,565.73 จุด ปรับลดลง 2.46 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.3 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเป็นลบ ทำให้ดัชนีระยะสั้นมีโอกาสพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,545 จุด นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มนำซื้อสุทธิ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประจำวันจันทร์ (15/3) ดัชนีหลักปรับตัวเพิ่มขึ้นจากมุมมองที่เป็นบวก วัคซีนโควิดจะทำให้การเปิดธุรกิจฟื้นตัว โดยมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สรอ.เป็นปัจจัยหนุน ปัจจัยทางเทคนิค จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆในทิศทางลง ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ดัชนีตลาดมีทิศทางพักตัวลงเข้าหาแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลาง และมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นเป็นแนวรับร่วม ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวลงหากดัชนีไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,525 จุด สัญญาณ DMI แสดงถึงทิศทางปรับตัวขึ้น ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงพักตัวก่อนที่จะเป็นการปรับตัวขึ้นต่อ เนื่องจากดัชนีเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น จากการทำ Fibonacci Projection ชี้ว่าดัชนีตลาดมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,584 จุด, 1,650 จุด และ 1,757 จุด ตามลำดับ จากกราฟรายสัปดาห์ เมื่อนำจุดเริ่มต้นของคลื่น (i) ที่ 1,388 จุด จุดจบของคลื่น (i) ที่ 1,561 จุด และจุดจบของคลื่น (ii) ที่ 1,476 จุด มาวิเคราะห์เป้าหมายของคลื่น (iii) ด้วยหลักการ Fibonacci Projection จะได้เป้าหมาย 61.8% = 1,584 จุด, 100.0% = 1,650 จุด และ 161.8% = 1,757 จุด สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic กลับมาเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสพักตัวลง ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อ เนื่องดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,575 – 1,584 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,554 – 1,545 จุด กลยุทธ์การลงทุน เพิ่มพอร์ตการลงทุนเป็น 70 เปอร์เซ็นต์ #ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodityโดย prajobv0
set เลือกทางหลังจากอาทิตย์ทืี่แล้วมีข่าวดีเยอะ มาเริ่มวันใหม่ พร้อมกับข่าวร้ายๆ ข่าวโควิด วัคซีนที่ทำให้เสี่ยงเป็นลิ่มเลือด ปกติคนไทยกินหวาน และมัน เยอะอยู่แล้ว ก็ยิ่งเสี่ยง ทำให้ข่าววัคซีนจาก เอกชนเงียบไป ข่าวกลุ่มกัญชา ก็ยังโหมกัน มีคนมาร่วมวงกันเยอะขึ้น ทำให้ดึงตลาดขึ้นได้นิดหน่อย และก็กลับมา ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จากการปลดล็อค ที่ไม่อยากจะล็อคกันแล้ว และการ์ดตก จึงเป็นข้อย้ำเตือนว่า วัคซีนเข็มแรก หรือเข็มสองก็ยังไม่ใช่ยารักษา หากไม่ระวังก็มีโอกาสติด เมื่อมองหุ้นเป็นรายตัว ตอนนี้จะเป็นกลุ่มหุ้นที่ไร้วอลุ่มลากขึ้นมา หุ้นต่ำกว่าบาทหลายคัวเริ่มทำทรง กลุ่มก่อสร้างเริ่มมา หากพรุ่งนี้ ไม่สามารถผ่านด่าน 1570 ได้ ก็ต้องโดนลงมาแรงๆ กลยุทธ์เน้นเก็บเงินสด ตั้งรับ กำไร แบ่งขายก่อน ลดลงโดย NutaponKo0