SET:SET   ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์ไทย

ความเสี่ยงในระยะสั้น
การปรับพอร์ตของสถาบันในประเทศและต่างชาติหลังทำราคาปิดประจำไตรมาสแรก ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงปิดที่ 1,587.21 จุด ลดลง 2.32 จุด มูลค่าการซื้อขายลดลงเหลือ 7.2 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนีตลาดพักตัว สถาบันในประเทศและต่างชาติกลับมาขายสุทธิ
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประจำวันพุธ (31/3) ปิดตลาดมีทั้งบวกและลบ ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากแรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปรับลดลงจากแรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มธนาคาร

ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงหลังจากเผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้น ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น โดยมีเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางเป็นแนวรับ และมีเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นเป็นแนวรับถัดไป ดัชนีตลาดระยะสั้นจะพักตัวลงหากไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,576 จุด ภาวะซื้อมากเกินถือเป็นปัจจัยเสี่ยงในระยะสั้น ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาเป้าหมายที่ 1,629 จุด (เป้าหมายของ 100.0% Fibonacci Projection)

จากกราฟรายสัปดาห์ กรณีที่ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นแบบ Simple ไม่มีการพักตัวลงของคลื่นปรับคลื่น (ii) แบบ (a)-(b)-(c) ก่อนที่ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) และมีเป้าหมาย 100.0% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,629 จุด โดยที่ดัชนีตลาดระยะสั้นต้องไม่หลุดแนวรับที่ 1,564 จุด

สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,595 – 1,604 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,576 – 1,566 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์

#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบ

ข้อมูลและบทความไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อก่อให้เกิดกิจกรรมทางการเงิน, การลงทุน, การซื้อขาย, ข้อเสนอแนะ หรือคำแนะนำประเภทอื่น ๆ ที่ให้หรือรับรองโดย TradingView อ่านเพิ่มเติมที่ เงื่อนไขการใช้บริการ